ร่างอ้อนแอ้นก้าวฉับ ๆ ออกมาจากใต้ตึกของมหาวิทยาลัยด้วยความมั่นใจ ริมฝีปากบางยกยิ้มน้อย ๆ เมื่อได้รับเสียงแซวหยอกเย้าและสายตาสนอกสนใจจากเหล่ารุ่นน้องเฉกเช่นทุกครั้ง
พลันรอยยิ้มหวานก็ฉีกกว้างขึ้น หลังมองเห็นร่างสูงของใครบางคนกำลังยืนพิงตัวรถสปอร์ตสีแดงเพลิงซึ่งจอดรออยู่ด้านหน้าของตึก
แสงแดดยามบ่ายแก่ ๆ ที่สาดผ่านรอยแยกของใบไม้ตกลงมากระทบเสี้ยวหน้าที่ดูเรียบเฉยไร้ความรู้สึก อีกทั้งเสื้อเชิ้ตยังถูกปลดกระดุมลงมากกว่าสองเม็ด เพราะอากาศที่ร้อนอบอ้าวจนเผยให้เห็นแผงอกขาว ๆ นั่น ส่งผลให้เขาดูหล่อเหลาคมคายและแสนเร้าใจไปพร้อม ๆ กัน
“อ่อยอีกละ!”
น้ำค้างเอ่ยค่อนขอดก่อนจะรีบเร่งฝีเท้าเข้าไปหาชายหนุ่มมากขึ้น เธอกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ตัวแล้วชักสีหน้าไม่พอใจ เมื่อสัมผัสได้ว่าเขากลายเป็นจุดเด่นและดึงดูดความสนใจจากสาว ๆ ที่นี่จนเกินจำเป็น
ฮึ! คนนี้ของฉันย่ะ
น้ำค้างคิดในใจ รีบปรับสีหน้าให้กลับมาร่าเริงแล้วร้องทักทายเสียงใส ก่อนจะกระโจนเข้ากอดร่างสูง โดยไม่สนใจเลยว่าตัวเองกำลังตกเป็นเป้าของสายตาอยากรู้อยากเห็นกี่สิบคู่
“คิดถึงจังงงงง”
การแสดงตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของอย่างเปิดเผยของเธอทำเอาใครหลาย ๆ คนที่กำลังเมียงมองคนทั้งคู่อยู่ ถึงกับรู้สึกเหมือนถูกหักอกกลาย ๆ ในทันที
เพราะน้ำค้าง ถือได้ว่าเป็น 1 ในสาวฮอตที่ติดอันดับของคณะก็ว่าได้ ส่วนชายหนุ่มผู้มาใหม่ก็มีหน้าตาหล่อเหลา แต่งกายดูดี มีรถสปอร์ต มองแค่แวบเดียวก็รู้ว่าโปรไฟล์ไม่ธรรมดา
“รอหนูนานไหม”
“นาน พี่บอกแล้วไงว่าวันนี้พี่ไม่ว่าง”
เกมส์บ่นอุบพลางปัดมือเล็กออกจากรอบคอ หากไม่โดนเจ้าหล่อนโทรตามทุกสิบนาที มีหรือที่เขาจะยอมมาปรากฏกายในสถานที่แบบนี้ ทั้งร้อนทั้งวุ่นวาย พอ ๆ กับนิสัยของเจ้าหล่อนเปี๊ยบ
“ก็ได้ ๆ รอบหน้าหนูอ้อนให้พี่อาร์มมารับแทนก็ได้ อยากเจออยู่พอดี”
“ฮึ!”
เกมส์เค้นหัวเราะในลำคอ มองเด็กสาวที่ยืนกอดอกทำหน้าแง่งอนตรงหน้าแล้วส่ายหัวไปมา จากนั้นจึงจับเธอยัดเข้าไปในรถยนต์คันหรูแล้วขับออกมาจากมหาวิทยาลัยก่อนที่จะมีใครบางคนงอแงไปมากกว่านี้
น้ำค้างย่นจมูกใส่คนฟอร์มจัดด้วยความหมั่นไส้ ปากบอกไม่ว่าง ไม่มา แต่สุดท้ายก็เห็นขับรถมารับเธอที่มหาลัยทุกรอบ ต่างจากบางคนที่เสนอตัวแทบจะทุกวันโดยที่เธอไม่จำเป็นต้องหลอกล่อให้เสียเวลา
มือเล็กดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดให้เรียบร้อยก่อนเอนตัวไปพิงไหล่พลขับอย่างออดอ้อน ริมฝีปากบางลอบยิ้มสมใจเมื่ออีกฝ่ายทำเพียงถอนหายใจเบา ๆ แต่ไม่ได้ผลักไสเธอออกอย่างครั้งก่อน ๆ
“ตกลงเรื่องพี่อาร์มนี่มันยังไงแน่คะ ทำไมวันก่อนถึงต่อยตีกับพี่นัทได้”
“ใครบอกเธอ?”
“ใครตีกับพี่นัท ก็คนนั้นแหละค่ะ”
“ฮึ! ยอกย้อนเก่งนะ”
“ก็วันก่อนพ่อเล่าให้ฟังว่าพี่อาร์มไปที่บ้าน หน้าตาฟกช้ำดำเขียวเยอะเชียว หนูก็เลยโทรคุยกันนิดหน่อย แล้วตกลงนี่พี่อาร์มคืนดีกับพี่นัทแล้วใช่ไหมคะ”
“ก็คงงั้น”
เกมส์ตอบอย่างไม่ใส่ใจนักพลางขยับตัวด้วยความอึดอัด ในใจได้แต่นึกภาวนาให้ถนนโล่งเพื่อจะได้ถึงจุดหมายปลายทางเร็ว ๆ
เพราะขืนอยู่ด้วยกันนานเกินไป เขาเกรงว่าเธอจะสังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่างที่ดันผงาดขึ้นมาไม่รู้จักเวล่ำเวลา
“ขยับออกมาไปหน่อยก็ได้มั้ง”
“ไม่”
ยิ่งเขาพยายามผลักไส น้ำค้างก็ยิ่งหมั่นไส้แล้วทำในสิ่งที่ตรงกันข้าม
มือเล็กสอดเข้ามากอดท่อนแขนแกร่งแล้วขยับตัวเข้าไปใกล้มากขึ้น ก่อนจะเปล่งเสียงหัวเราะคิกคักออกมาอย่างชอบใจเมื่ออีกฝ่ายหันมาตวัดสายตาดุดันใส่
เกมส์ตั้งใจจะหันไปดุในพฤติกรรมก๋ากั่น ทว่าถ้อยคำต่าง ๆ ก็หลุบหายไปในลำคอพร้อมกับน้ำลายเหนียวหนืดในทันทีที่สายตาปะทะเข้ากับเนินเนื้อขาวอวบของเด็กสาว ซึ่งโผล่พ้นรอยแยกของสาบเสื้อนักศึกษาออกมา
“ฮื้มมม อืมมม”
เกมส์ขบกรามแน่น กระแอมไอเบา ๆ แล้วเบือนหน้าหนีสิ่งล่อตาล่อใจ พยายามตั้งสติและเพ่งสายตาไปยังถนนเบื้องหน้า แต่ดูเหมือนใจที่แสนอกุศลจะไม่ยอมเชื่อฟัง เพราะมันดันหยุดคิดฟุ้งซ่านไม่ได้สักที
สัมผัสอ่อนนุ่มและกลิ่นกายธรรมชาติผสมกลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ คล้ายแป้งเด็กที่โชยออกมาจากร่างอ้อนแอ้นของเด็กสาว ทำเอาท่อนลำยิ่งพองขยายใหญ่ขึ้นจนคับแน่นเต็มกางเกง
น้ำค้างขมวดคิ้วเข้าหากันแล้วเงยขึ้นมองเสี้ยวหน้าของพลขับด้วยสายตาแปลกใจ ที่เดี๋ยวก็ถอนหายใจ เดี๋ยวก็กระแอมไอถี่ยิบจนผิดสังเกต
“เป็นอะไรคะ คอแห้งเหรอ หิวน้ำไหม?”
“หิว ... หิวนม เฮ้ย! ไม่ ไม่หิว พี่ไม่หิวอะไรทั้งนั้น”
ทั้งสองใช้เวลาเดินเล่นในห้างสรรพสินค้ากันต่ออีกเกือบชั่วโมงก็กลับมายังรถ สายตาคมกริบชำเลืองมองใบหน้าหงิกงอของเด็กสาวที่สองมือเต็มไปด้วยข้าวของพะรุงพะรังแล้วยิ้มขำใจหนึ่งก็อยากจะช่วยถือ แต่อีกใจก็หมั่นไส้คนใช้เงินเก่งที่เอาแต่หยิบ ๆ จึงปล่อยให้เธอได้เรียนรู้และรับผิดชอบผลของการกระทำ ด้วยการแบกของทั้งหมดกลับมาด้วยตัวเอง"นี่ไม่คิดจะช่วยกันเลยดิ! พี่แม่งงงง โคตรแมนเลย! ""แมนไม่แมน มันวัดกันแค่นี้เหรอ""ก็เออน่ะสิ! ""แต่พี่มีวิธีวัดความแมนแบบอื่นนะ"น้ำค้างอ้าปากกำลังจะถามถึงวิธีที่ว่า แต่พบสบเข้ากับสายตากรุ้มกริ่มเป็นประกายของคนกวนประสาท เธอก็หุบปากลงทันควันหน็อยยยยย คิดแต่เรื่องสิบแปดบวกตลอด!"เอาไปเก็บให้เลย! "น้ำค้างโวยวายกลบเกลื่อน ผลักถุงกระดาษทั้งหมดใส่ในอ้อมแขนของเกมส์ ก่อนจะกระโดดขึ้นไปนั่งรอบนรถเกมส์มองตามคนหมกมุ่นแล้วส่ายหน้ายิ้ม ๆ บรรจงวางของทั้งหมดให้อย่างเรียบร้อย ก่อนจะเดินเลยไปประจำที่คนขับพร้อมถุงเล็ก ๆ ในมือ"หื้ม? อะไรคะ หนูไม่กินแล้วนะ"น้ำค้างถามอย่างงง ๆ เมื่อเกมส์ยื่นไอศกรีมรสดาร์กช็อกโกแลตขนาดมินิ ควอทมาให้ตรงหน้า เมื่อกี้เพิ่งจะกินไปจานเบ้อเริ่ม ถ้าจะให้กินอ
เกมส์เหล่ตามองพฤติกรรมของคนข้าง ๆ แล้วจิ๊ปากขัดใจ เมื่อเด็กสาวเอาแต่ก้มหน้าก้มตาพิมพ์ข้อความแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับหน้าจอลูกเดียว“หิวไหม”“.....”“วันนี้จะกลับบ้านหรือกลับคอนโด”“....”ไร้เสียงตอบรับจากคนที่กำลังถามไถ่ หันไปมองก็พบเพียงสีหน้าเรียบเฉยของเด็กสาวที่ผินหน้าออกไปทางหน้าต่างรถ ทำราวกับไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้นเกมส์ถอนหายใจพรืดด้วยความเหนื่อยหน่ายใจ เมื่อเด็กสาวผู้แสนแง่งอนเลือกจะใช้วิธีเงียบเป็นการประท้วงเยี่ยงเด็กไม่รู้จักโต นี่อย่าบอกนะว่างอนที่เขาไม่ยอมให้ไปกับไอ้เด็กหนุ่มนั่นน่ะ“ยัยเด็กเอาแต่ใจ”เกมส์พึมพำบ่นแผ่วเบา ก่อนจะเปลี่ยนจุดหมายปลายทางไปยังอีกที่เพื่อจัดการกับคนข้าง ๆ ก่อนนำไปส่งบ้าน เพราะหากไม่ทำอะไรเลย ความงอนคงได้ทะลุปรอทไปอีกไกล@ห้างสรรพสินค้าน้ำค้างขมวดคิ้วทำหน้างงเมื่อจู่ ๆ รถยนต์ที่ควรจะมุ่งตรงไปตามเส้นทางเดิม เปลี่ยนเลนอย่างกะทันหัน ก่อนจะเลี้ยวเข้ามายังลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าชื่อดังซึ่งอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยมากนักในเวลาต่อมาพลั่วะ!ประตูฝั่งของน้ำค้างถูกเปิดออกกว้างด้วยฝีมือของเจ้าของรถ ก่อนที่เกมส์จะเอื้อมมือมาดึงมือเล็กไปเกาะกุมแล้วฉุดให้เธอเดิน
กระตุ้นบ่อย ๆ?น้ำค้างนิ่งเงียบพลางคิดตามที่เพื่อนเสนอแนะไปด้วย ถ้าต้องทำแบบนั้นอีก เธอก็คงต้องขอความช่วยเหลือจากต้นไม้อีกแล้วสินะเมื่อได้ฟังความเห็นจากเพื่อนแบบนี้แล้ว สีหน้าของน้ำค้างก็ดีขึ้นกว่าเมื่อครู่มาก นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับแผนการในขั้นถัดไปของตัวเองอย่างอารมณ์ดีเธอชำเลืองมองตัวเลขบนหน้าจอโทรศัพท์แล้วเอ่ยถามหาคนที่ควรจะเรียนเสร็จพร้อม ๆ เธอ“แล้วนี่แฟนแกไปไหนยะ ยังเรียนญี่ปุ่นไม่เสร็จอีกเหรอ?”“อะ...อะไร ใครแฟนฉัน""ต้นไม้ไง""ไอ้ไม้เป็นเพื่อน”น้ำค้างแบะปากทันควัน ปฏิเสธเสียงสูงไปถึงเพดานตึกแล้วแม่คุณ ก็อยากจะเชื่ออยู่หรอกนะถ้าเจ้าหล่อนไม่ทำตาล่อกแล่กดูมีพิรุธแบบนั้น ถึงจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่น้ำค้างก็อดกระแหนะกระแหนในความสัมพันธ์ของอีกคู่ไม่ได้“ค่ะ เพื่อนนนนนน เพื่อนไม่จริง! อุ้ย นั่นเพื่อนแกมาพอดีเลย ต้นม้ายยยยยย"น้ำค้างขยิบตาหยอกเย้า ก่อนจะผลุนผลันวิ่งเข้าไปหาร่างสูงของเพื่อนชายที่กำลังเดินลงมาจากตึกด้วยสีหน้าระรื่น โดยมีใบบัวเดินตามหลังมาด้วยสีหน้าเอือมระอาท่าทางออดอ้อนทำตัวน่ารักของน้ำค้างสร้างความประหลาดใจให้พอสมควร ต้นไม้ยิ้มขำ ก้มมองมือเล็กที่ดึงรั้งแขนเสื้อนั
@มหาวิทยาลัยน้ำค้างก้าวเท้าออกมาจากลิฟต์ด้วยสีหน้าเหนื่อยล้า การเรียนภาษาที่สามในวันนี้หนักหนาจนสูบเอาพลังชีวิตของเธอไปเกือบหมดเธอกวาดสายตามองหาเพื่อนก่อนจะเดินเตาะแตะตรงไปยังโต๊ะประจำ ซึ่งตอนนี้มีเพียงใบบัวนั่งอ่านหนังสืออยู่คนเดียวเสียงรองเท้าส้นสูงกระทบกับพื้นดึงให้ใบบัวเงยหน้าขึ้นมามองตามเสียง ริมฝีปากเบ้คว่ำด้วยความหมั่นไส้ทันทีเมื่อสังเกตเห็นความอิดโรยบนใบหน้าของเพื่อนสาว“เป็นยังไงบ้างยะ ได้นอนไหม”ใบบัวหัวเราะคิกคักพร้อมส่งสายตาล้อเลียนไปให้ ทว่าเพื่อนสาวกลับกลอกตามองบนแล้วทิ้งสะโพกลงนั่งบนเก้าอี้ข้าง ๆ อย่างหัวเสียแทน“ปังหรือพังเนี้ย"“ปัง!”“อ๊ายยยยย”“ปังพินาศ โดนด่ากระจายน่ะสิ”“เอ้า ไหงงั้นอ่ะ”“ฮึ้ย เท่านั้นไม่พอนะแก พี่เกมส์หาว่าฉันทำตัวเป็นดาวยั่ว แถมยัง...”น้ำค้างหน้างอ รีบฟ้องเพื่อนด้วยท่าทีน้อยอกน้อยใจ ทว่าพอนึกถึงเรื่องที่ชายหนุ่มกระทำก่อนจากไปเมื่อคืน พวงแก้มนวลก็เห่อร้อนและเสียงหลุบหายไปในลำคอเสียดื้อ ๆภาพเหตุการณ์เก่า ๆ ผุดขึ้นมาในหัวเป็นดอกเห็ด เธอกัดริมฝีปากล่างเบา ๆ อย่างขัดเขิน ใจดวงน้อยสั่นไหวรุนแรงและรู้สึกร้อนวูบวาบตามจุดต่าง ๆ ที่อีกฝ่ายสัมผัสขึ้นม
อยากจะดุด่าและทำโทษเจ้าหล่อนเสียให้เข็ด แต่พอเห็นหยาดน้ำใส ๆ ที่เอ่อคลอเต็มสองเบ้านั่น ใจแกร่งก็อ่อนยวบแล้วยอมคลายมือออก"แม่งงงง"เกมส์ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน สบถคำหยาบคายออกมาอีกหลายคำ ก่อนจะดึงตัวกลับไปนั่งประจำตำแหน่งในท่าปกติ"นั่งดี ๆ!"เกมส์โยนเสื้อคลุมลงบนหน้าตักของเด็กสาวอย่างหยาบคาย ก่อนจะพยายามดึงสมาธิให้กลับมาจดจ่ออยู่ที่การขับรถต่อบรรยากาศภายในรถหวนกลับมาเงียบชวนให้อึดอัดอีกครั้ง แม้จะมีเสียงพ่นลมหายใจหนักหน่วงของเกมส์ที่ดังเป็นระยะ ๆ บ้าง แต่น้ำค้างก็เลือกที่จะนั่งเงียบเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วจมอยู่กับความคิดของตัวเอง ไม่นานนักรถยนต์ก็เลี้ยวเข้ามาจอดที่หน้าประตูรั้วของจุดหมายปลายทางพลั่วะ!เสียงเปิดประตูฝั่งคนขับดึงให้น้ำค้างสะดุ้งเฮือก หลุดออกจากห้วงภวังค์ของความคิดเธอมองตามร่างสูงที่ก้าวฉับ ๆ ลงจากรถด้วยความงุนงง ก่อนจะลนลานก้มลงหยิบโทรศัพท์มือถือแล้วเปิดประตู ก้าวลงไปยืนข้าง ๆ เมื่ออีกฝ่ายตวัดสายตามามอง"ขะ...ขอบคุณ"เมื่อถูกจ้องมาก ๆ เข้าน้ำค้างก็เริ่มทำตัวไม่ถูก เธอขมวดคิ้วงุนงงพลางก้มมองตามสายตาของชายหนุ่ม พลันพวงแก้มก็เห่อร้อนแล้วรีบดึงชายกระโปรงที่มันร่นสูงขึ้น
พนักงานกุลีกุจอวิ่งมาเปิดประตูรถให้ด้วยท่าทีนอบน้อม ก่อนที่เกมส์จะโยนร่างอ้อนแอ้นเข้าไปในรถอย่างไร้ความปรานี โดยไม่สนใจเลยว่าเธอจะลงไปนั่งท่าไหน เพราะความตั้งใจเดียวที่มีอยู่ตอนนี้คือพาตัวเธอไปส่งบ้านให้เร็วที่สุดเกมส์ยัดแบงค์สีม่วงใส่ในมือพนักงานรับรถเป็นค่าตอบแทน ก่อนจะเดินอ้อมไปขึ้นประจำที่คนขับแล้วขับรถออกจากคลับไปอย่างรวดเร็วรถยนต์คันหรูแล่นไปตามท้องถนนที่เปิดโล่งด้วยความเร็วสูงตามอารมณ์ที่พลุ่งพล่านของพลขับ บรรยากาศบนรถเงียบกริบ ไร้เสียงพูดคุยและเต็มไปด้วยความอึดอัดกระอักกระอ่วนใจน้ำค้างลอบกลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผาก นั่งตัวลีบเกร็งแล้วเอนพิงกับประตูรถจนร่างกายแทบจะหลอมรวมเป็นเนื้อเดียว ใจดวงน้อยเต้นแรงไม่เป็นส่ำด้วยความหวาดหวั่นขณะแอบชำเลืองมองเสี้ยวหน้าถมึงทึงครืดครืดดดด ครืดครืดดดด'ต้นไม้'เสียงเตือนของสายเรียกเข้าดังลั่นทำลายความเงียบ ดึงให้สายตาสองคู่หลุบมามองหน้าจอโทรศัพท์ที่สว่างวาบอยู่บนหน้าตักของน้ำค้างพร้อม ๆ กันน้ำค้างถอนหายใจโล่งอก รีบกดรับสายทันทีหลังมองเห็นรายชื่อ ก่อนจะกรอกเสียงใส ๆ ลงไปในเวลาต่อมา นึกขอบคุณเพื่อนชายอยู่ในใจที่โทรมาได้จังหวะพอดีแต่เด็กสาวคงไม่