“เป็นอะไรคะ คอแห้งเหรอ หิวน้ำไหม?”
“หิว ... หิวนม เฮ้ย! ไม่ ไม่หิว พี่ไม่หิวอะไรทั้งนั้น”
ใจที่ยังคงหมกมุ่นบวกกับภาพจินตนาการที่ผุดอยู่ในหัวเต็มไปหมด ทำให้เกมส์หลุดพูดในสิ่งที่กำลังคิดออกมาอย่างเผลอไผล ก่อนที่เจ้าตัวจะสะดุ้งได้สติแล้วเลิ่กลั่กบอกปัดเสียงเข้ม
“ไม่หิวก็ไม่หิวสิ จะทำเสียงดังทำไมเนี้ย”
น้ำค้างถามกลับด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ ยืดตัวขึ้นพร้อมกับใช้ศีรษะโขกเข้าที่สันกรามของอีกฝ่ายเบา ๆ เป็นการหยอกเย้า ก่อนจะขยับตัวลงมานอนซบไหล่ของอีกฝ่ายอีกครั้ง
“แล้วมะรืนนี้พี่เกมส์จะไปเชียงใหม่ด้วยกันไหมคะ”
“ถ้าเจอก็แสดงว่าไป ถ้าไม่เจอก็แสดงว่าไม่ได้ไป”
“กวนตีน”
น้ำค้างโพล่งคำด่าออกมาอย่างสุดกลั้น ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเวลาถามอะไร เธอมักไม่เคยจะได้คำตอบดี ๆ จากเขาเลยสักครั้ง แถมปีหลัง ๆ ดูเหมือนเขาทำหมางเมินและพยายามตีตัวออกห่างจากเธอจนน่าแปลกใจ
“ฮึ!”
เกมส์หัวเราะในลำคอ แล้วยกมือขึ้นเขกที่หน้าผากนูนเบา ๆ ไม่ได้ถือสาหาความในความปีนเกลียวของเด็กสาว แต่เพราะอยากจะทำโทษที่เธอพูดจาไม่ดีก็เท่านั้น
น้ำค้างย่นจมูก ทำหน้ามุ่ยอย่างขัดใจที่ถูกทำร้ายร่างกายแต่ยังไม่ยอมคลายมือจากท่อนแขนแกร่ง ดวงตาชำเลืองมองหน้าปัดของนาฬิกาข้อมือแวบหนึ่งแล้วนึกคำนวณเวลาที่ต้องอยู่บนท้องถนนไปด้วย
อืมมม ดูจากปริมาณรถที่ติดแล้ว คงมีเวลานอนสักชั่วโมง
“ถึงแล้วปลุกหนูด้วยนะ”
น้ำค้างทิ้งข้อความไว้สั้น ๆ ขยับตัวให้อยู่ในท่วงท่าที่สบายขึ้น ก่อนจะผ่อนลมหายใจแล้วหลับตาลงอย่างสบายอกสบายใจ
กลิ่นน้ำหอมเย็นสดชื่นจากกายแกร่ง เปรียบเสมือนตัวช่วยชั้นดีที่ขับกล่อมให้เธอรู้สึกผ่อนคลาย จึงทำให้เธอผล็อยหลับไปภายในเวลาไม่กี่นาที ทิ้งให้เกมส์ทำหน้าที่พลขับต่อไปโดยมีเสียงเพลงที่เปิดคลอทิ้งไว้อยู่เป็นเพื่อน
เกมส์ส่ายหน้ายิ้ม ๆ ด้วยความเอ็นดูในความขี้อ้อน เขารอจนแน่ใจว่าเจ้าหล่อนน่าจะหลับสนิทไปแล้ว อาศัยจังหวะที่การจราจรติดขัดเสียจนไม่ขยับเขยื้อน ค่อย ๆ ดันร่างอ้อนแอ้นให้ขยับไปนอนพิงที่เบาะข้างคนขับดี ๆ
มือหนาปลดเสื้อคลุมที่มักพาดทิ้งไว้บนรถมาคลุมท่อนล่างให้อย่างเบามือ ไม่ใช่ว่าเป็นสุภาพบุรุษอะไรหรอก แต่เพราะความขาวของขาเรียว ๆ คู่นั้น มันคอยแต่จะก่อกวนและดึงดูดสายตาเขาอยู่ตลอดเวลาต่างหาก
.
รถสปอร์ตคันหรูเลี้ยวเข้ามาจอดด้านหน้าทางเข้าของตัวบ้านที่มาบ่อยจนสามารถหลับตาเดินได้อย่างคุ้นเคย
เกมส์เอื้อมมือไปปลดเข็มขัดนิรภัยออกจากตัว ก่อนจะโน้มไปทอดมองดวงหน้าของคนขี้เซาที่ยังหลับใหลใกล้ ๆ ด้วยสายตาที่อ่อนลง
มือหนาหยิบปอยผมที่หล่นมาปรกใบหน้าขึ้นทัดหู เพียงแค่ปลายนิ้วสากสัมผัสเข้ากับความนุ่มนิ่ม ใจก็เกิดความปรารถนาขึ้นมาอีกแล้ว
เขาลากปลายนิ้วไล้ไปตามพวงแก้มเนียนใส ก่อนวนมาหยุดอยู่ที่ริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงระเรื่อที่มีเพียงลิปกลอสใส ๆ เคลือบอยู่
พลันใจแกร่งก็เต้นแรงขึ้นเล็กน้อยขณะที่ใช้ปลายนิ้วสัมผัสกลีบปากอวบอิ่มนั้น ในหัวนึกจินตนาการไปแล้วล่วงหน้าว่าหากเขาใช้ปากสัมผัส มันจะให้ความรู้สึกดีขนาดนั้นไหนกัน
“เฮ้ออ ยังไงดีวะ”
เกมส์พึมพำถามตัวเองแผ่วเบา แววตาสะท้อนความร้อนแรงออกมาอย่างลืมตัว เขาลอบกลืนน้ำลายลงคอเอื้อกใหญ่เมื่อความรู้สึกอยากกลืนกินคนตรงหน้าเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น
แต่เพียงแค่นึกคิด ร่างกายที่แสนซื่อสัตย์ก็เคลื่อนไหวไปอย่างที่ใจต้องการเสียแล้ว!
ปลายจมูกโด่งกดฝังเข้าที่พวงแก้มนุ่มพลางส่งเสียงครางเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ กลิ่นกายสาวกระตุ้นให้ท่อนลำที่สงบไปเมื่อชั่วโมงก่อน ตื่นตัวขึ้นมาอีกครั้งอย่างง่ายดาย
“อ๊าส์ ทำไมเธอต้องเป็นน้องไอ้นัทวะ”
เมื่อนึกถึงข้อเท็จจริงที่ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงได้ข้อนี้ เกมส์ก็กดความปรารถนาในใจลงแล้วดึงตัวกลับมานั่งหลังตรงตามเดิม แต่ไม่วายเหลือบตากลับไปมองริมฝีปากอวบอิ่มนั่นอีกครั้งตาปรอยด้วยความเสียดาย
หลังปรับอารมณ์ตัวเองอยู่พักใหญ่ ทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติ ยกเว้นก็แต่ท่อนล่างที่กล่อมยังไงก็ไม่ยอมลง เขาจึงต้องละไว้ก่อนแล้วหันไปเขย่าต้นแขนของเด็กสาวพร้อมกับร้องเรียกเบา ๆ
“น้ำค้าง”
“....”
“น้ำค้าง ถึงบ้านแล้วว”
“อื้ออ”
คนขี้เซาขานรับแผ่วเบา แต่กลับชักสีหน้าหงุดหงิดใส่แล้วผ่อนลมหายใจหลับต่ออย่างสบายอกสบายใจโดยไม่มีทีท่าว่าจะตื่น
ป็อก!
เสียงดีดหน้าผากดังลั่นรถ พร้อม ๆ กับความเจ็บปวดที่แล่นไปทั่วหน้าผาก ปลุกให้คนที่กำลังฝันหวานว่ากำลังออกเดตกับหนุ่มไอดอลสุดหล่อจากแดนกิมจิสะดุ้งเฮือกสุดตัว
“อื้อออ เจ็บนะ”
น้ำค้างร้องงอแง ยกมือขึ้นลูบคลำหน้าผากที่เริ่มแดงเป็นปืนป้อย ๆ พลางตวัดสายตาขุ่นเคืองไปมองค้อนเจ้าของการกระทำหยาบคาย
ปลุกดี ๆ ก็ได้ไหม ทำไมถึงชอบกลั่นแกล้ง ทำไมถึงชอบทำตัวไม่ดีกับเธอนักนะ
“ถึงบ้านแล้ว ไป ๆ ลงไปได้แล้ว”
ใจดวงน้อยเจ็บแปลบเมื่อถูกเจ้าของรถเอ่ยไล่อย่างไร้เยื่อใย เธอหยิบเสื้อคลุมที่วางอยู่บนหน้าตักขึ้นมาแล้วปามันใส่หน้าอีกฝ่ายด้วยความโกรธเคือง ก่อนจะผลุนผลันลงจากรถไป
รถยนต์ออกตัวไปอย่างรวดเร็วจนฝุ่นตลบ น้ำค้างได้แต่อ้าปากค้างที่อีกฝ่ายทำเมิน แล้วกระทืบเท้าเร่า ๆ อย่างขัดใจหลังเห็นอีกฝ่ายยื่นมือออกมาโบกไปมาพร้อมส่งเสียงหัวเราะร่าอย่างยียวนซ้ำเติม
แววตาลุกวาวด้วยความขุ่นเคืองที่ชายหนุ่มมักทำตัวสองมาตรฐานกับเธอเสมอ ๆ มันน่าน้อยใจนัก! พลันความคิดบางอย่างก็แวบเข้ามาในหัวอย่างกะทันหัน
น้ำค้างหยุดคิดเพียงนิด ก่อนที่มือเล็กจะรีบกดพิมพ์ข้อความหากลุ่มเพื่อนสนิทแล้วนัดแนะเสร็จสรรพ สายตาตื่นเต้นจ้องมองข้อความตอบกลับในกลุ่มแล้วรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็ผุดขึ้นบนใบหน้า
ฮึ! บ่ายเบี่ยงทำปากแข็งไปเถอะพี่เกมส์ อยากจะรู้นักว่าพี่จะหนีใจตัวเองไปได้อีกนานแค่ไหน
ทั้งสองใช้เวลาเดินเล่นในห้างสรรพสินค้ากันต่ออีกเกือบชั่วโมงก็กลับมายังรถ สายตาคมกริบชำเลืองมองใบหน้าหงิกงอของเด็กสาวที่สองมือเต็มไปด้วยข้าวของพะรุงพะรังแล้วยิ้มขำใจหนึ่งก็อยากจะช่วยถือ แต่อีกใจก็หมั่นไส้คนใช้เงินเก่งที่เอาแต่หยิบ ๆ จึงปล่อยให้เธอได้เรียนรู้และรับผิดชอบผลของการกระทำ ด้วยการแบกของทั้งหมดกลับมาด้วยตัวเอง"นี่ไม่คิดจะช่วยกันเลยดิ! พี่แม่งงงง โคตรแมนเลย! ""แมนไม่แมน มันวัดกันแค่นี้เหรอ""ก็เออน่ะสิ! ""แต่พี่มีวิธีวัดความแมนแบบอื่นนะ"น้ำค้างอ้าปากกำลังจะถามถึงวิธีที่ว่า แต่พบสบเข้ากับสายตากรุ้มกริ่มเป็นประกายของคนกวนประสาท เธอก็หุบปากลงทันควันหน็อยยยยย คิดแต่เรื่องสิบแปดบวกตลอด!"เอาไปเก็บให้เลย! "น้ำค้างโวยวายกลบเกลื่อน ผลักถุงกระดาษทั้งหมดใส่ในอ้อมแขนของเกมส์ ก่อนจะกระโดดขึ้นไปนั่งรอบนรถเกมส์มองตามคนหมกมุ่นแล้วส่ายหน้ายิ้ม ๆ บรรจงวางของทั้งหมดให้อย่างเรียบร้อย ก่อนจะเดินเลยไปประจำที่คนขับพร้อมถุงเล็ก ๆ ในมือ"หื้ม? อะไรคะ หนูไม่กินแล้วนะ"น้ำค้างถามอย่างงง ๆ เมื่อเกมส์ยื่นไอศกรีมรสดาร์กช็อกโกแลตขนาดมินิ ควอทมาให้ตรงหน้า เมื่อกี้เพิ่งจะกินไปจานเบ้อเริ่ม ถ้าจะให้กินอ
เกมส์เหล่ตามองพฤติกรรมของคนข้าง ๆ แล้วจิ๊ปากขัดใจ เมื่อเด็กสาวเอาแต่ก้มหน้าก้มตาพิมพ์ข้อความแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับหน้าจอลูกเดียว“หิวไหม”“.....”“วันนี้จะกลับบ้านหรือกลับคอนโด”“....”ไร้เสียงตอบรับจากคนที่กำลังถามไถ่ หันไปมองก็พบเพียงสีหน้าเรียบเฉยของเด็กสาวที่ผินหน้าออกไปทางหน้าต่างรถ ทำราวกับไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้นเกมส์ถอนหายใจพรืดด้วยความเหนื่อยหน่ายใจ เมื่อเด็กสาวผู้แสนแง่งอนเลือกจะใช้วิธีเงียบเป็นการประท้วงเยี่ยงเด็กไม่รู้จักโต นี่อย่าบอกนะว่างอนที่เขาไม่ยอมให้ไปกับไอ้เด็กหนุ่มนั่นน่ะ“ยัยเด็กเอาแต่ใจ”เกมส์พึมพำบ่นแผ่วเบา ก่อนจะเปลี่ยนจุดหมายปลายทางไปยังอีกที่เพื่อจัดการกับคนข้าง ๆ ก่อนนำไปส่งบ้าน เพราะหากไม่ทำอะไรเลย ความงอนคงได้ทะลุปรอทไปอีกไกล@ห้างสรรพสินค้าน้ำค้างขมวดคิ้วทำหน้างงเมื่อจู่ ๆ รถยนต์ที่ควรจะมุ่งตรงไปตามเส้นทางเดิม เปลี่ยนเลนอย่างกะทันหัน ก่อนจะเลี้ยวเข้ามายังลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าชื่อดังซึ่งอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยมากนักในเวลาต่อมาพลั่วะ!ประตูฝั่งของน้ำค้างถูกเปิดออกกว้างด้วยฝีมือของเจ้าของรถ ก่อนที่เกมส์จะเอื้อมมือมาดึงมือเล็กไปเกาะกุมแล้วฉุดให้เธอเดิน
กระตุ้นบ่อย ๆ?น้ำค้างนิ่งเงียบพลางคิดตามที่เพื่อนเสนอแนะไปด้วย ถ้าต้องทำแบบนั้นอีก เธอก็คงต้องขอความช่วยเหลือจากต้นไม้อีกแล้วสินะเมื่อได้ฟังความเห็นจากเพื่อนแบบนี้แล้ว สีหน้าของน้ำค้างก็ดีขึ้นกว่าเมื่อครู่มาก นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับแผนการในขั้นถัดไปของตัวเองอย่างอารมณ์ดีเธอชำเลืองมองตัวเลขบนหน้าจอโทรศัพท์แล้วเอ่ยถามหาคนที่ควรจะเรียนเสร็จพร้อม ๆ เธอ“แล้วนี่แฟนแกไปไหนยะ ยังเรียนญี่ปุ่นไม่เสร็จอีกเหรอ?”“อะ...อะไร ใครแฟนฉัน""ต้นไม้ไง""ไอ้ไม้เป็นเพื่อน”น้ำค้างแบะปากทันควัน ปฏิเสธเสียงสูงไปถึงเพดานตึกแล้วแม่คุณ ก็อยากจะเชื่ออยู่หรอกนะถ้าเจ้าหล่อนไม่ทำตาล่อกแล่กดูมีพิรุธแบบนั้น ถึงจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่น้ำค้างก็อดกระแหนะกระแหนในความสัมพันธ์ของอีกคู่ไม่ได้“ค่ะ เพื่อนนนนนน เพื่อนไม่จริง! อุ้ย นั่นเพื่อนแกมาพอดีเลย ต้นม้ายยยยยย"น้ำค้างขยิบตาหยอกเย้า ก่อนจะผลุนผลันวิ่งเข้าไปหาร่างสูงของเพื่อนชายที่กำลังเดินลงมาจากตึกด้วยสีหน้าระรื่น โดยมีใบบัวเดินตามหลังมาด้วยสีหน้าเอือมระอาท่าทางออดอ้อนทำตัวน่ารักของน้ำค้างสร้างความประหลาดใจให้พอสมควร ต้นไม้ยิ้มขำ ก้มมองมือเล็กที่ดึงรั้งแขนเสื้อนั
@มหาวิทยาลัยน้ำค้างก้าวเท้าออกมาจากลิฟต์ด้วยสีหน้าเหนื่อยล้า การเรียนภาษาที่สามในวันนี้หนักหนาจนสูบเอาพลังชีวิตของเธอไปเกือบหมดเธอกวาดสายตามองหาเพื่อนก่อนจะเดินเตาะแตะตรงไปยังโต๊ะประจำ ซึ่งตอนนี้มีเพียงใบบัวนั่งอ่านหนังสืออยู่คนเดียวเสียงรองเท้าส้นสูงกระทบกับพื้นดึงให้ใบบัวเงยหน้าขึ้นมามองตามเสียง ริมฝีปากเบ้คว่ำด้วยความหมั่นไส้ทันทีเมื่อสังเกตเห็นความอิดโรยบนใบหน้าของเพื่อนสาว“เป็นยังไงบ้างยะ ได้นอนไหม”ใบบัวหัวเราะคิกคักพร้อมส่งสายตาล้อเลียนไปให้ ทว่าเพื่อนสาวกลับกลอกตามองบนแล้วทิ้งสะโพกลงนั่งบนเก้าอี้ข้าง ๆ อย่างหัวเสียแทน“ปังหรือพังเนี้ย"“ปัง!”“อ๊ายยยยย”“ปังพินาศ โดนด่ากระจายน่ะสิ”“เอ้า ไหงงั้นอ่ะ”“ฮึ้ย เท่านั้นไม่พอนะแก พี่เกมส์หาว่าฉันทำตัวเป็นดาวยั่ว แถมยัง...”น้ำค้างหน้างอ รีบฟ้องเพื่อนด้วยท่าทีน้อยอกน้อยใจ ทว่าพอนึกถึงเรื่องที่ชายหนุ่มกระทำก่อนจากไปเมื่อคืน พวงแก้มนวลก็เห่อร้อนและเสียงหลุบหายไปในลำคอเสียดื้อ ๆภาพเหตุการณ์เก่า ๆ ผุดขึ้นมาในหัวเป็นดอกเห็ด เธอกัดริมฝีปากล่างเบา ๆ อย่างขัดเขิน ใจดวงน้อยสั่นไหวรุนแรงและรู้สึกร้อนวูบวาบตามจุดต่าง ๆ ที่อีกฝ่ายสัมผัสขึ้นม
อยากจะดุด่าและทำโทษเจ้าหล่อนเสียให้เข็ด แต่พอเห็นหยาดน้ำใส ๆ ที่เอ่อคลอเต็มสองเบ้านั่น ใจแกร่งก็อ่อนยวบแล้วยอมคลายมือออก"แม่งงงง"เกมส์ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน สบถคำหยาบคายออกมาอีกหลายคำ ก่อนจะดึงตัวกลับไปนั่งประจำตำแหน่งในท่าปกติ"นั่งดี ๆ!"เกมส์โยนเสื้อคลุมลงบนหน้าตักของเด็กสาวอย่างหยาบคาย ก่อนจะพยายามดึงสมาธิให้กลับมาจดจ่ออยู่ที่การขับรถต่อบรรยากาศภายในรถหวนกลับมาเงียบชวนให้อึดอัดอีกครั้ง แม้จะมีเสียงพ่นลมหายใจหนักหน่วงของเกมส์ที่ดังเป็นระยะ ๆ บ้าง แต่น้ำค้างก็เลือกที่จะนั่งเงียบเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วจมอยู่กับความคิดของตัวเอง ไม่นานนักรถยนต์ก็เลี้ยวเข้ามาจอดที่หน้าประตูรั้วของจุดหมายปลายทางพลั่วะ!เสียงเปิดประตูฝั่งคนขับดึงให้น้ำค้างสะดุ้งเฮือก หลุดออกจากห้วงภวังค์ของความคิดเธอมองตามร่างสูงที่ก้าวฉับ ๆ ลงจากรถด้วยความงุนงง ก่อนจะลนลานก้มลงหยิบโทรศัพท์มือถือแล้วเปิดประตู ก้าวลงไปยืนข้าง ๆ เมื่ออีกฝ่ายตวัดสายตามามอง"ขะ...ขอบคุณ"เมื่อถูกจ้องมาก ๆ เข้าน้ำค้างก็เริ่มทำตัวไม่ถูก เธอขมวดคิ้วงุนงงพลางก้มมองตามสายตาของชายหนุ่ม พลันพวงแก้มก็เห่อร้อนแล้วรีบดึงชายกระโปรงที่มันร่นสูงขึ้น
พนักงานกุลีกุจอวิ่งมาเปิดประตูรถให้ด้วยท่าทีนอบน้อม ก่อนที่เกมส์จะโยนร่างอ้อนแอ้นเข้าไปในรถอย่างไร้ความปรานี โดยไม่สนใจเลยว่าเธอจะลงไปนั่งท่าไหน เพราะความตั้งใจเดียวที่มีอยู่ตอนนี้คือพาตัวเธอไปส่งบ้านให้เร็วที่สุดเกมส์ยัดแบงค์สีม่วงใส่ในมือพนักงานรับรถเป็นค่าตอบแทน ก่อนจะเดินอ้อมไปขึ้นประจำที่คนขับแล้วขับรถออกจากคลับไปอย่างรวดเร็วรถยนต์คันหรูแล่นไปตามท้องถนนที่เปิดโล่งด้วยความเร็วสูงตามอารมณ์ที่พลุ่งพล่านของพลขับ บรรยากาศบนรถเงียบกริบ ไร้เสียงพูดคุยและเต็มไปด้วยความอึดอัดกระอักกระอ่วนใจน้ำค้างลอบกลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผาก นั่งตัวลีบเกร็งแล้วเอนพิงกับประตูรถจนร่างกายแทบจะหลอมรวมเป็นเนื้อเดียว ใจดวงน้อยเต้นแรงไม่เป็นส่ำด้วยความหวาดหวั่นขณะแอบชำเลืองมองเสี้ยวหน้าถมึงทึงครืดครืดดดด ครืดครืดดดด'ต้นไม้'เสียงเตือนของสายเรียกเข้าดังลั่นทำลายความเงียบ ดึงให้สายตาสองคู่หลุบมามองหน้าจอโทรศัพท์ที่สว่างวาบอยู่บนหน้าตักของน้ำค้างพร้อม ๆ กันน้ำค้างถอนหายใจโล่งอก รีบกดรับสายทันทีหลังมองเห็นรายชื่อ ก่อนจะกรอกเสียงใส ๆ ลงไปในเวลาต่อมา นึกขอบคุณเพื่อนชายอยู่ในใจที่โทรมาได้จังหวะพอดีแต่เด็กสาวคงไม่