เมื่อลากเธอกลับมาถึงบ้านไม้สักของเขาแล้ว เขาก็ผลักเธอไปที่โซฟาอย่างแรงทันที
"..." เธอรู้สึกเจ็บมาก แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาด้วยเพราะไม่อยากเสวนาให้เขาได้ต่อว่าเธออีก "ไปทำงานบ้าน" "พี่บัวทำหมดแล้วไม่ใช่หรอคะ" เธอถามเสียงเรียบ บ้านเขาตอนนี้สะอาดมาก เหมือนพึ่งทำความสะอาดไป "ต่อไปนี้ฉันจะไม่ให้พี่บัวมาทำที่นี่แล้ว และป้าแววก็จะไปทำแค่บ้านใหญ่ เพราะฉนั้นที่นี่เธอต้องทำ" "ฉันทำงานที่ไร่ฉันก็เหนื่อยมากแล้วนะคะ" เธอส่งสายตาตัดพ้อให้เขา เพราะทุกวันนี้เธอก็เหนื่อยจนสายตัวแทบขาดจริงๆ "เธอคงลืมว่ามาอยู่ในฐานะอะไร" "ฉันรู้ค่ะ แต่ฉันก็ต้องทำงานทั้งในไร่ และก็ในรีสอร์ททุกวัน ฉันก็เหนื่อยเป็น" "อันนั้นมันปัญหาของเธอ ไว้หาผัวรวยได้เมื่อไหร่ค่อยไปอยู่สุขสบาย เพราะถ้าคิดว่าได้นอนกับฉันแล้วจะสบาย เธอคิดผิด" "ฉันไม่เคยคิดอะไรแบบนั้น" เธอตอบเสียงแข็ง "ฉันเข้าใจผิดหรอกหรอ คิดว่าเธอชอบอะไรที่สบาย" "เอาเป็นว่าฉันจะทำงานบ้านให้คุณด้วย ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่เหนื่อยแล้ว" "แล้วทำไมเธอยอมง่ายๆ?" "ฉันเหนื่อยจะเถียงค่ะ ไว้ฉันมีคนเข้ามาแบบที่คุณว่า ฉันก็จะสบายเอง" "นี่เธอ!!!" "ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอตัวไปทำงานบ้านก่อนนะคะ มีงานต้องทำเยอะ" เพราะไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับเขาอีกแล้ว เธอจะยอมทำทุกอย่างที่เขาให้ทำเลยแล้วกัน จะได้ไม่ต้องมีปัญหากัน วันนี้เธอเหนื่อยมาก เหนื่อยกายจนอยากจะฟุบลงแล้วหลับไปเลย "อ่อใช่สิฉันลืมไป เธอยอมเอาตัวเข้าแลกกับที่แค่ไม่กี่ไร่ ฉันก็เชื่อแล้วแหละ" เขายังเหยียดหยามเธอไม่หยุด เธอหันหลังกำลังจะเดินออกไป แต่ทว่า "น่าแปลกจริงๆ ที่ดินขี้ปะติ๋วแค่นั้นที่อยากได้นักอยากได้หนา จะทำให้ครอบครัวเธอดีขึ้นมาได้ ถึงขั้นเอาลูกสาวมาแลก หน้ารังเกียจกันทั้งบ้าน" เธอหันหน้ามาทันทีไม่รอช้า ตบหน้าเขาไปเต็มแรงด้วยความเจ็บใจ "ฉันยอมได้นะ คุณจะด่าจะว่าฉันอะไรฉันทนหมด แต่อย่ามาด่ามาว่า หรือแตะต้องครอบครัวของฉัน ฉันไม่ยอม" เธอพูดขึ้นด้วยความอัดอั้น "..." เขาแค่ตั้งใจจะพูดยั่วเธอเฉยๆ ไม่คิดว่าเธอจะโกรธมากขนาดตบหน้าเขาได้ นี่เป็นครั้งแรกเลย ครั้งแรกจริงๆ "ดีแต่คุณสินะ คนอย่างฉันมันไม่มีอะไรดีหรอก ไม่เคยดี แต่ครอบครัวของฉันดี ฉันรักพวกเขามาก คุณอย่าได้แตะต้องครอบครัวฉันอีก!!!" "..." ขุนเขาพูดอะไรไม่ออกแล้วตอนนี้ "อย่าให้ฉันต้องรู้สึกแย่กับคุณไปมากกว่านี้เลย ฉันพยายามจะไม่เกลียดคุณ เพราะคิดเสมอว่าสิ่งที่ฉันทำก็ไม่ถูก ถึงฉันจะไม่มีค่า ไม่มีเกรียติ ไม่มีศักดิ์ศรี แต่ฉันก็มีพ่อมีแม่ พ่อแม่ของฉันมีศักดิ์ศรี คือที่สุดของชีวิต เพราะแบบนี้ไม่ว่าคุณหรือคนไหนๆ ก็อย่ามาแตะต้อง!!!" เธอพูดขึ้นเสียงดัง พร้อมน้ำตาที่ไหลออกมาเป็นสาย อย่างเจ็บปวดหัวใจจนแทบจะระเบิดออกมา ก่อนจะวิ่งออกไปจากบ้านเขา นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นพฤติกรรมเขา ที่ร้ายกาจขนาดนี้ ทั้งการกระทำและคำพูด ปกติจะด่าว่าเธอ แต่จะไม่มีอะไรลามปามถึงพ่อแม่เธอแบบนี้ เธอเสียใจมาก และรีบหอบสังขาร ที่ร้องไห้จนตัวโยนออกไปจากที่นี่โดยเร็วที่สุด "นิสา... เดี๋ยว นิสา!!! โถ่เว่ยยยยยยยย" เขาก็โมโหตัวเองเหมือนกัน ทำไมปากพล่อยไปแบบนั้นได้ "ฮึกๆ ฮึก" เธอหลบมาร้องไห้หน้าแดงจมูกแดง อยู่ข้างบ้านพักคนเดียว "พี่นิสา พี่นิสาเป็นอะไร" แตงกวาเมื่อเห็นแบบนั้นก็เดินมาถามทันที เพราะไม่รู้ว่าพี่สาวคนสนิทเป็นอะไรไป "แตงกวา ฮื้อ ฮึกๆ" ชนิสาจ้องไปที่แตงกวาแล้วก็ก้มลงร้องไห้ต่อ "ใครทำอะไรพี่นิสา" แตงกวาถามด้วยความเป็นห่วง "พี่...ฮึกๆๆๆ" เธอพูดไม่ออกได้แต่ร้องไห้ออกมา "คนสวยๆ จะร้องไห้ได้ไง คนสวยอย่างเราต้องเชิดเข้าไว้" แตงกวาที่พอจะเดาอะไรได้ ก็พูดปลอบใจชนิสาทันที จบคำพูดของแตงกวา ชนิสาเงยหน้าขึ้นมาทันทีด้วยสภาพที่ ตาแดงจมูกแดงผมยุ่งเยิง ทำให้แตงกวาแกล้งหัวเราะออกมา และแซวเธอ ไม่นานชนิสาก็หัวเราะตาม และทั้งสองคุยกันหัวเราะเหมือนกับว่าพยายามจะฝั่งกลบเรื่องร้ายๆ นี้ ออกจากสมองของเธอให้ได้เร็วที่สุด เมื่อเธอได้มานั่งคุยกับแตงกวา เธอก็รู้สึกดีขึ้นมากๆ เธอยังจำวันที่เข้ามาที่นี่วันแรกได้ดี มีแตงกวากับนที ที่คอยช่วยเหลือเธอทุกอย่าง ทำให้เธอสัมผัสได้ว่าทั้งคู่เป็นคนดีมาก มากกว่าเจ้านายของพวกเขา ที่เป็นคนร้ายกาจยิ่งกว่าอะไร จากเหตุการณ์วันนี้เธอโกรธเขามาก มากจนจะทนมองหน้าเขาไม่ได้แล้ว เธอไปทำอะไรให้ เขาต้องโกรธต้องเกลียดเธอขนาดนั้นกัน "อาหารเย็นค่ะ คุณขุนเขา" "พี่บัว เอ่อ...นิสา เขาไปไหนแล้ว" "นิสา กลับไปพักแล้วค่ะ บอกบัวว่าปวดหัวมาก ให้บัวมาทำงานแทนก่อน" "เป็นหนักเลยหรอ" "ก็เห็นว่าตาแดง จมูกแดงหมดเลยค่ะ ป้าแววก็เอายาให้กินแล้ว" "ถ้างั้นไม่มีอะไรแล้ว พี่บัวก็กลับไปพักเถอะ เดี๋ยวผมเก็บโต๊ะเอง" "ค่ะ งั้นขอตัวก่อนนะคะ" ณ หน้าบ้านพักพนักงาน "อะ แฮ่ม!!" นทีกระแอมให้คนที่ยืนด้อมๆ มองๆ อยู่นานหลายนาทีแล้ว "ไอ้นที มึงมาทำอะไรที่นี่" "แล้วคุณขุนเขามาทำอะไร" นทียอกย้อน "มึงหุบปากไป" "เหลือเวลาอีกแค่ 6 เดือนไม่ใช่ตั้ง 2 ปีแบบที่ผ่านมาแล้วนะ" นทีพูดเสียงเรียบ "มึงอย่ารู้ดี" "ไม่รู้ดีก็ได้ ถ้าร้องไห้เหมือนหมา เวลาเขาไปก็อย่าหาว่าผมไม่เตือนนะ" "จะไปไหนก็ไปมึงอะ ลำคาญ" เมื่อนทีไปแล้ว เขาก็แอบย่องเข้าห้องเธอทันที และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรก ที่เขาเข้ามาที่นี่เพราะฉนั้นทำไมจะเข้าไม่ได้ เพียงแต่พยายามไม่ให้เธอรู้แค่นั้น แกร๊ก เสียงเปิดประตูเบาๆ คนที่หลับสนิทเพราะฤทธิ์ยา ยังไม่รู้สึกอะไรว่ามีผู้บุกรุก ทั้งยังนอนได้น่ารักเหมือนแมวอีก "เธอนี่มัน ยัยแม่มด" เมื่อเห็นหน้าจิ้มลิ้มของเธอเขาก็อดเอ็นดูไม่ได้ และก็อยากโกรธตัวเอง ที่ขยันหาคำพูดมาพูดให้เธอรู้สึกไม่ดี แต่จะทำยังไงได้ละ ก็... "นี่กินยาเยอะขนาดนี้เลยหรอ" เพราะเขาเห็นยาที่หัวเตียงเธอ เธอคงเหนื่อยมากจนไม่สบายสินะ หรืออาจจะเป็นเพราะคำพูดของเขา ที่ทำให้เธอต้องเป็นแบบนี้ เขาเอานิ้วเกลี่ยเส้นผมที่บังหน้าของเธอออก จากนั้นก็นั่งจ้องหน้าเธอยู่นับสิบนาที ก่อนจะลุกขึ้นถอดเสื้อคลุมออก และมุดตัวเข้าไปในผ้าห่มฝืนเดียวกันกับเธอ และกอดเธอไว้แนบแน่น และตัวเธอเองก็ด้วยความเคยชิน ตลอดเวลาที่อยู่กับเขามาปีครึ่งนี้ เขาเรียกหาเธอบ่อยมากๆ จนแทบจะนอนด้วยกันทุกคืน เมื่อเขากอดแบบนี้เธอก็กอดตอบ แบบไม่ได้รู้สึกผิดแปลกอะไร เวลาล่วงเลยมาถึงเช้ามืด ด้วยการที่กลัวจะเสียฟอร์มขุนเขาก็รีบดีดตัวลุกขึ้น และออกจากห้องเธอไป ก่อนเธอจะตื่น และพนักงานที่นี่จะมาเห็น เพราะไม่อยากให้เธอรู้ว่าเขามันบ้าขนาดไหน ด่าว่าเธอสาระพัด แต่ก็แอบมาทำอะไรบ้าๆ แบบนี้ น่าอายชมัดวันเกิดน้องของขวัญวันนี้เป็นวันเกิดครบรอบ 3 ขวบของเด็กหญิงตัวน้อย ที่วันนี้ใส่ชุดเจ้าหญิงสีชมพูแสนสวยทรงฟูฟ่องพร้อมมงกุฏวิบวับที่ประดับบนหัว กำลังเดินไปเดินมา ส่องดูงานวันเกิดตัวเอง ที่คนในไร่กำลังเตรียมกันอยู่อย่างตื่นเต้น"แม่ขา เค้กเจ้าหญิงล่ะ""กำลังมาค่ะ นั่งนิ่งๆ ได้แล้วนะ คุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยาย กำลังจะมาถึงแล้วนะคะ""จริงหย่อ เย้" และลูกสาวตัวน้อยของชนิสาก็นั่งเรียบร้อยทันทีสักพักก็ลุกเดินขึ้นไปดูอีก เพราะปีนี้น้องของขวัญโตขึ้นจนเริ่มตื่นเต้นกับสิ่งใหม่ๆ ที่ได้เจอ"จวัญ""ไทก้าาาาาา" และน้องของขวัญก็รีบวิ่งเข้าไปกอด น้องชายสุดที่รักของเธอน้องไทก้าลูกชายของนทีและแตงกวาในวัย 2 ขวบเมื่อมาถึงก็เรียกพี่สาวอย่างน้องของขวัญ พร้อมกอดกันกลม จนผู้ใหญ่ต่างพากันยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู"ไงนิสา เป็นยังไงบ้างช่วงนี้""สวัสดีค่ะ ดีใจที่มานะคะพี่นที แตงกวา" ชนิสาก็ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ เพราะตอนนี้แตงกวาก็ท้องลูกคนที่สองได้สี่เดือนแล้ว"หื้อ ต้องมาสิค่ะ งานวันเกิดหลานสาวสุดที่รักของเราสองคนทั้งที แล้วก็แตงกวาคิดถึงพี่นิสา""พี่ก็คิดถึงเหมือนกัน" และทั้งสองคนก็กอดกัน ด้วยความคิดถึงนทีก็ยืนยิ้ม
เมื่อเห็นว่าขุนเขาไม่สนใจ เดือนนภาก็จะทำทุกอย่างให้เขาสนใจเอง เธอจะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด เมื่อนั่งอยู่สักพักก็ตั้งใจว่าจะตามขุนเขาไป แล้วก็เห็นเขาอยู่ภายในห้องทำงานกับผู้หญิงอีกคน"ขุนคะ" และเสียงของเดือนนภาก็ดังขึ้น"เดือน.." ขุนเขาเรียกด้วยความตกใจที่เธอยังตามเขามาถึงตรงนี้"คือเดือนไม่เข้าใจที่พนักงานแนะนำ Package ค่ะ เดือนอยากคุยกับเจ้าของรีสอร์ทโดยตรง" เธอแปลกใจไม่น้อยที่คนไม่ชอบเด็กอย่างขุนเขา หัวเราะกับเด็กได้แบบนั้น หรือนี่จะเป็นลูกของขุนพลพี่ชายของเขา แล้วผู้หญิงคนตรงหน้าเป็นใครทำไมสวยขนาดนี้ แต่ยังไงก็ภาวนาขอให้ไม่ใช่แฟนของขุนเขาก็พอ"..." และชนิสาก็หันมองขุนเขา เธอไม่เคยเห็นผู้หญิงสวยๆ คนนี้มาก่อน เธอคือใคร มันต้องมีอะไร"ได้ เชิญคุณออกไปรอที่ห้องรับรองที่เดิมก่อน เดี๋ยวตามออกไป""ค่ะ" เดือนนภาตอบอย่างว่าง่าย เธอรู้ว่าถึงยังไงเขาก็ยังจะรักเธออยู่"ขออนุญาติค่ะ" ชนิสาเดินมาหาเดือนนภาพร้อมกับเอา Package ทุกอย่างที่อยู่ในแฟ้มมาให้ดู"ฉันว่าฉันบอกชัดแล้วนะว่าฉันจะคุยแค่กับเจ้าของไร่" เมื่อยังเห็นพนักงานคนอื่นที่ไม่ใช่เจ้าของไร่อย่างขุนเขามาคุย เดือนนภาพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจทันที"ค่
3 ปีผ่านไปทุกอย่างยังคงดำเนินต่อไป ขุนเขาดีกับชนิสาทุกอย่าง เป็นดั่งคำสัญญาที่เคยให้ไว้ ขุนเขาไม่เคยขาดตกบกพร่องอะไรเลย ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่ของสามีหรือหน้าที่ของพ่อรวมไปถึงดีกับครอบครัวชนิสาทุกอย่าง ขุนเขาก็ขอร้องให้พวกท่านมาอยู่ด้วยที่ไร่ แต่พวกท่านก็ไม่ยอมมา และสุดท้ายขุนเขาก็ดื้อไปสร้างบ้านหลังใหญ่ให้ตรงที่ดิน 6ไร่ ที่เขาเคยใช้เป็นข้อต่อรองให้ได้ชนิสามาอยู่ด้วยในตอนนั้น ทั้งยังกว้านซื้อที่ดินบริเวณรอบๆ นั้นจาก 6 ไร่ในตอนแรก กลายเป็น 50 ไร่ในตอนนี้ไปแล้วทีแรกพ่อแม่นิสาก็ไม่อยากรับ แต่ขุนเขาก็อ้างว่า เผื่อเขากับนิสามีลูกกันอีกหลายๆ คน แล้วลูกอยากไปเที่ยวบ้านตากับยายจะได้มีบ้านหลังใหญ่ให้ได้อยู่สบาย กับมีพื้นที่กว้างๆ ให้วิ่งเล่น ชนิสาก็ได้แต่ยิ้มปลื้มใจที่สามีเธอเป็นคนที่น่ารักอบอุ่น และรักเธอและครอบครัวของเธอได้มากขนาดนี้ทุกอย่างที่เป็นสมบัติส่วนของเขาในตอนนี้เขาให้ชนิสาเป็นคนจัดการดูแลทั้งหมด เรื่องเงินหรืออะไรก็แล้วแต่ทุกบัญชีเป็นชนิสาเก็บทั้งหมด เขายกทุกสิ่งทุกอย่างให้เธอโดยไม่มีข้อแม้แต่อย่างใดบุษบาก็เห็นดีเห็นงามด้วย กับการเปลี่ยนไปของขุนเขา เพราะเธอก็รักลูกสะใภ้คนเล็กคนนี้
เมื่อเสร็จงานเลี้ยงวันเกิดชนิสา กับวันที่เขาตั้งใจจะจัดขึ้นเพื่อง้อเธอ ทุกคนก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน และเขาก็พยายามให้ชนิสามานอนกับเขาที่บ้านให้ได้เมื่อเข้ามาภายในบ้านเขาแล้ว ขุนเขาก็กอดหอมชนิสาทันที ด้วยความคิดถึงสุดหัวใจ และดีใจที่สุดในชีวิต"พี่ขอโทษนิสานะ ขอโทษสำหรับทุกอย่าง" เขาพูดพร้อมกับน้ำตาซึม"คุณ...""นิสาเรียกพี่ว่าพี่ได้ไหม พี่ไม่อยากห่างเหินกับนิสาอีกแล้ว""คะ...ค่ะ พี่ขุนเขา" นิสาเรียกพร้อมกับยิ้มบางให้ และกอดเขาแน่นเช่นกัน"พี่รักนิสานะ พี่รักนิสากับลูกมากๆ" เขาพูดพร้อมกับพรมจูบไปที่หน้าผากเธอ"นิสาก็รักพี่ขุนเขาค่ะ""..." คำว่ารักจากปากเธอ... แล้วขุนเขาก็ร้องไห้ออกมา อย่างรู้สึกผิด"ร้องไห้ทำไมคะ" นิสาเช็ดน้ำตาให้ขุนเขาอย่างเอ็นดู เขาเป็นคนเจ้าน้ำตาแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่"พี่ทำผิดกับนิสาไว้มากๆ เพราะความโง่เง่าของพี่""ช่างเถอะค่ะ อะไรที่มันผ่านไปแล้ว เราลืมมันกันเถอะนะคะ ไม่ต้องคิดอะไรแล้ว""แต่สิ่งที่พี่ทำลงไป...มันร้ายแรงมาก""พี่ขุนเขา...""ทั้งพี่ยังหึงนทีกับชนิสา ด้วยเรื่องไร้สาระ" ขุนเขาพูดเสียงแผ่ว"หึงนิสากับพี่นทีเนี่ยนะ" ชนิสาก็ถามด้วยความแปลกใจหงึกๆ ขุนเขาก
ขุนเขายังคงทำทุกอย่างอยู่เหมือนเดิม วันนี้ก็เช่นกัน เขามาแอบดูเธอแต่ก็ต้องตกใจ ที่เธอไปไหนมาไหนกับผู้ชาย ที่ดูดีมากคนหนึ่ง แถมผู้ชายคนนั้น ยังเข้านอกออกในบ้านเธอได้ด้วย"ไอ้หน้าหล่อนั่นใครวะ" ขุนเขาบ่นขึ้นด้วยท่าทีที่หัวเสียเมื่อนิสาออกจากบ้านไปกับผู้ชายคนนั้นแล้ว ขุนเขาก็กำลังจะตามไป แต่มีคนมาเคาะกระจกรถซะก่อน"พ่อหนุ่มๆ""คะ...ครับ" ขุนเขาเลื่อนกระจกลงมาก่อนจะตอบรับ"ป้าเองนะ ร้านขายโจ๊ก""อ่อ สวัสดีครับ""กินเยอะๆ นะพ่อหนุ่ม" ลุงเจ้าของร้านก็ทำเมนูเดิมมาให้เขากิน แต่แปลกที่ครั้งนี้เขารู้สึกว่าใช้ได้ มันก็อร่อยไปอีกแบบ"ป้าอยากขอบคุณเอ็ง คนที่นี่ก็ด้วย"และชาวบ้านหลายคนก็ต่างมารุมล้อมขอบคุณเขา เพราะเสี่ยไพบูลย์เขาปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ ทั้งลดต้นลดดอก แล้วป่าวประกาศกับชาวบ้านว่า จะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ และไม่หน้าเลือด จะทำเพื่อลูกชายลูกสะใภ้ และหลานที่จะเกิดมาทั้งนี้ชาวบ้านหลายคน ยังพากันกู่ไปที่บ้านของนิดากับทวี จากที่เคยว่าเคยนินทา ตอนนี้เป็นรักใคร่ครอบครัวนี้ยิ่งกว่าอะไร จนนิดาและทวีก็ยิ้มออกมาอย่างปลื้มปริ่มณ ไร่สุขสมบูรณ์"ไปไหนมา""..." เขายังไม่อยากบอกแม่เขา เรื่องที่เขาไปตามเฝ้
ขุนเขาจอดรถไว้ในตลาดชุมชนแห่งหนึ่งพร้อมลงจากรถด้วยความรีบเร่ง"ใช่ที่นี่จริงๆ หรอ" เขาพูดพร้อมกับดูกระดาษที่นทีจดชื่อร้านก๋วยจั๊บเจ้น้อยไว้ให้"เอาอะไรพ่อหนุ่ม" และลุงผู้ชายก็ถามขึ้น"อะ...เอาเมนูแนะนำก็ได้ครับ" เขาพูดแบบไม่คิดอะไรไม่นานป้าอีกคนก็ถือถ้วยใบโตมาเสริ์ฟ"..." เชี่ยอะไรวะเนี่ยโจ้กใส่มาม่าหรอ เขามองเมนูที่เขาเข้าไม่ถึง และไม่คิดว่าจะมีเมนูนี้เป็นเมนูแนะนำของร้านเขาชั่งใจอยู่นาน พร้อมกับกินเข้าไป ด้วยความรู้สึกที่ฝืนๆ จนกินไปได้แค่ครึ่งก็พอแล้ว และป้าคนที่มาเสริ์ฟก็นั่งแกะไข่ต้มอยู่ข้างๆ"เอ่อ ป้าครับ แถวนี้คนเยอะแบบนี้ทุกวันเลยหรอ""ไม่หรอกพ่อหนุ่มวันนี้มีตลาดนัดชุมชน คนเลยเยอะ ที่นี่มันสงบจะตาย ถ้าไม่มีตลาดคนก็ไม่พลุ่งพล่านแบบนี้หรอก""ดีจังเลยนะครับ คนที่นี่ดูเป็นกันเองมาก""ก็กันเองสิ ส่วนมากก็รู้จักกันทั้งนั้นแหละพ่อหนุ่ม""จริงหรอครับ" และขุนเขาก็ยิ้มออกมาอย่างมีความหวัง"แล้วเอ็งมาจากไหนล่ะ" ลุงผู้ชายก็ถามขึ้น"อ่อ มาจากอีกอำเภอครับ พอดีมาหาใครบางคนครับ แต่ไม่รู้ว่าบ้านอยู่ตรงไหน""แล้วชื่ออะไรละ เผื่อป้ารู้จัก""เอ่อ...ชื่อนิสาครับ" ขุนเขาพูดขึ้นด้วยความหวัง"นิสาห