เมื่อขุนเขาลงมาจากบ้าน ในเวลา 8 โมง ก็เห็นอาหารของโปรดตัวเอง ถูกจัดไว้ที่โต๊ะอย่างเป็นระเบียบ ทั้งยังร้อนๆ อยู่เลย แสดงว่าพึ่งมาจัดโต๊ะไว้ไม่นานนี้เอง
"พี่บัว พี่บัว" ขุนเขาเรียกเสียงดังไปทั่วบ้าน "เมื่อวานคุณบอกว่าไม่ให้พี่บัวไม่มาทำงานบ้านที่นี่แล้ว" เป็นเสียงชนิสาที่พูดมาแทน "..." แค่ได้ยินเสียงเธอใจเขาก็วูบไหวแล้ว "คุณอยากได้อะไร เรียกใช้ฉันได้ค่ะ" เธออยากจะโกรธเขาให้มากกว่านี้ แต่เธอก็ทำไม่ได้ เพราะเธอรู้ดีว่าเธอไม่มีสิทธิ์อะไร เลยทำได้แต่แบกสังขารมารับใช้เขา "ฉันลืมไปว่าตอนนี้เธอเป็นคนรับใช้ที่บ้านของฉัน" คำพูดเหยียดหยามเริ่มออกมาอีกครั้ง "ค่ะ แล้วแต่คุณจะให้เป็น" แล้วแต่เขาเลย เพราะเธอทำได้แค่อดทนจริงๆ อดทนเท่านั้น "อวดเก่ง" "คุณมีอะไรจะใช้ฉันอีกไหมคะ" "ไม่มี" เขาตอบเสียงเรียบ "ค่ะ ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัว" "วันเสาร์นี้..." "เอ่อ พอดีฉันมีเรื่องจะบอกคุณ เสาร์ - อาทิตย์นี้ ฉันลานะคะ ฉันจะกลับบ้าน" "ไปไหน!!!" เขาถามเสียงแข็ง "ไปธุระค่ะ" "แล้วธุระเธอคืออะไร" แล้วไม่คิดจะบอกเขาเลยหรือยังไง "เรื่องส่วนตัวค่ะ" "ไม่มีคำว่าส่วนตัวของเธอ เมื่ออยู่กับฉัน" "ฉันจะพาพ่อไปหาหมอค่ะ" "อืม ก็แค่นี้" ถ้าจะไม่ให้ไปเขาก็คงใจร้ายเกินไป "ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอตัวนะคะ ต้องไปดูน้องๆ นักศึกษา" เพราะวันนี้ที่ไร่มีนักศึกษาจากกรุงเทพฯ มาดูงาน "อืม" เขาตอบเสียงเรียบ พร้อมกับนั่งกินข้าวไม่สนใจอะไร เสียงบรรยายของอาจารย์ ของมหาวิทยาลัยชื่อดังในกรุงเทพฯ ได้แนะนำความรู้ต่างๆ ให้นักศึกษาปี 4 จำนวน 200 กว่าชีวิต ที่มาดูงาน และมาพักที่รีสอร์ทของไร่ 'สุขสมบูรณ์' เป็นเวลา 2 คืน 3 วัน ตามด้วยลุงเจิมวิทยากรจำเป็นของไร่ กำลังเอ่ยแนะนำในส่วนต่างๆ ของไร่ ก่อนที่จะพานักศึกษาไปยังจุดต่างๆ "ไร่สวยจังเลยนะคะ" นักศึกษาสาวสวยคนหนึ่งเอ่ยขึ้น "ครับ ก็ได้คนรุ่นใหม่มาบริหาร ก็เลยมีไอเดียดีๆ ทำให้ที่นี่สวย เอ่อ เจ้าของไร่สุขสมบูรณ์ ชื่อคุณขุนเขานะครับ" ลุงเจิมวิทยากรจำเป็นของไร่พูดขึ้น "พวกเราซักอยากจะเห็นเจ้าของไร่แล้วสิ จะได้เห็นไหมคะ" นักศึกษาสาวสวยคนหนึ่งก็ถามขึ้นในทันที "ได้เห็นครับ พรุ่งนี้คุณขุนเขาจะเป็นคนพาไปเก็บองุ่นเองครับ" พอลุงเจิมพูดจบ ก็ตามด้วยเสียงฮือฮาของนักศึกษาสาวๆ ดังขึ้นทันที "แต่ก่อนอื่นต้องรู้จักกับพี่นทีก่อนนะครับ" เสียงปรบมือต้อนรับก็ดังขึ้น "สวัสดีครับผมชื่อ 'นที' นะครับ เป็นพนักงานหรือคนดูแลไร่สุขสมบูรณ์ครับ วันนี้จะแนะนำความรู้ให้น้องๆ นักศึกษาทุกคนไม่มากก็น้อยนะคะ" นทีพูดจบเสียงปรบมือก็ดังขึ้น และนักศึกษาผู้หญิงหลายคนก็จ้องมองนทีตาเป็นมัน เขาหล่อมาก เขาดูดีมาก จนหลายคนคิดว่าเขาคือเจ้าของไร่ แต่ไม่ใช่เขาเป็นเพียงพนักงานในไร่เท่านั้น เมื่อแนะนำอะไรเสร็จแล้ว ก็พาน้องๆ นักศึกษาไปยังส่วนต่างๆ ของไร่ ไร่แห่งนี้กว้างถึง 1,000 กว่าไร่ ซึ่งเดินหอบแค่ไหนก็ไม่ทั่วไร่อยู่ดี จึงเริ่มไปจุดต่างๆ ตามที่ลิสไว้ก็พอ และความโด่งดังของไร่แห่งนี้ก็คือองุ่น และนมวัวแท้ ที่ขึ้นชื่อมาก ทั้งมีรีสอร์ทที่สวยและบรรยากาศดี จนทำให้ติดท็อปในหลายๆ เว็ปไซต์ และมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจำนวนมาก "อะ ขอโทษครับ" "..." นักศึกษาหนุ่มหล่อคนหนึ่งอยู่ๆ ก็เผลอเดินมาชนชนิสาเข้า จนแก้วกาแฟในมือชายหนุ่มหกจนหมด "เจ็บตรงไหนไหมครับ" เขาถามด้วยความเป็นห่วง "ไม่เป็นไรค่ะ แต่กาแฟหกหมดเลย" ชนิสาพูดพร้อมกับมองไปที่แก้วกาแฟของเขา "ผมซู่มซ่ามเองครับ" "อะ งั้นเอาแก้วนี้ไป แต่ลาเต้หวานมันนะคะ" เธอยื่นแก้วกาแฟของตัวเองที่ยังไม่ได้ดื่มให้กับชายตรงหน้า "ไม่เป็นไรครับ ผมทำหกเองเดี๋ยวไปซื้อใหม่" เขาปฎิเสธเธอด้วยความเกรงใจทันที "ไม่เป็นไร รับไปเถอะค่ะ" "ขอบคุณนะครับ คุณ? ..." เขารับแก้วกาแฟไปพร้อมกับถามชื่อเธอ "ชื่อชนิสาค่ะ เรียกพี่นิสาก็ได้" "อะ...คะ..ครับพี่นิสา ผมชื่อพีทนะครับ" "ค่ะ" "พี่เป็นเจ้าของไร่หรือเปล่าครับ" "ไม่ใช่ค่ะ พี่เป็นพนักงานเฉยๆ" "ไม่น่าเชื่อว่า พนักงานในไร่นี้จะสวย และผิวพรรณดีขนาดนี้" และเขาก็เผลอพูดออกมาตามที่ใจเขาคิด "ไม่ดีหรอกค่ะ พี่ตากแดดตากลมทุกวัน" "ขนาดตากแดดตากลมนะครับเนี่ย" "ขอบคุณค่ะ งั้นพี่ขอตัวไปทำงานก่อนนะ" "ได้ครับพี่นิสา ขอบคุณสำหรับลาเต้หวานมันแก้วนี้ด้วยนะครับ ไว้เจอกันใหม่" "ค่ะ ไม่เป็นไร" เมื่อเธอพูดจบเธอก็เดินเลี่ยงออกไปทำงานของเธอทันที หนุ่มน้อยคนนี้ก็เหลียวมองอย่างไม่วางตา 'ทำไมเธอถึงสวย และน่ารักได้ขนาดนี้กันนะ' พร้อมคลี่ยิ้มออกมา "ไอ้พีท มึงมาทำไรตรงนี้" "มาคุยโทรศัพท์ แต่บังเอิญไปเดินชนกับพี่คนสวยคนหนึ่ง จนกาแฟกูหกหมด พี่เขาเลยให้แก้วนี้มา" พีทพูดพร้อมกับโชว์แก้วกาแฟในมือให้เพื่อนดู "เอ่อ ตาเยิ้มไปเถอะมึง" "ก็กูเจอผู้หญิงสวย ทั้งใจดีอีกนะมึง" "ไร้สาระ กลับไปพักเหอะ" "เอ่อๆ" ก่อนจะเดินไป เขาก็ยังคงมองหาผู้หญิงคนนั้นอยู่ เมื่อเห็นว่าเธอเดินไปเดินมา เพื่อทำงานอยู่แถวนั้นก็ยิ้มออกมาทันที เวลาก็ล่วงเลยมาถึงตอนค่ำ หลังจากทำงานที่ไร่เสร็จ เธอก็กลับมาทำงานบ้านให้เขาต่อ แม้จะเหนื่อยล้าขนาดไหน ก็ยังคงจำเป็นต้องทำต่อไป ขุนเขาเอาแต่ลอบมองชนิสาอยู่แบบนั้น แต่ไม่ได้พูดอะไรออกไป แต่แกล้งทำนั่นทำนี่เพื่อที่จะได้อยู่ใกล้ ๆ เธอ "หลบด้วยค่ะ ฉันจะถูพื้น" "ก็ถูไปสิ ใครไม่ให้เธอทำ" เขาตอบแบบกวนๆ "..." แล้วจะให้เธอทำได้ยังไง ในเมื่อเขาเอาแต่เดินไปเดินมาวนรอบตัวเธออยู่แบบนี้ ถ้าเธอถูพื้นไปมีหวังรอยสลิปเปอร์ ที่เขาใส่อยู่คงเต็มพื้นไปหมด "ที่นี่บ้านฉัน ฉันจะยืนตรงไหนก็ได้" เขาขยับตัวไปให้อกชิดกับแผ่นหลังเธอ และกระซิบที่หูของเธอเบาๆ "ค่ะ ถ้างั้นฉันจะได้ไปทำงานอื่น" และเธอก็เดินไปห้องครัว แต่คนหน้ามึนก็ยังคงตามไปด้วยเช่นเดิม "คุณมีอะไรหรือเปล่า" เธอถามด้วยน้ำเสียงที่ลำคาญเต็มทีเต็มทน "มี!" "อะไรคะ" "วันนี้ถ้าทำงานบ้านเสร็จแล้ว ก็ขึ้นไปหาฉันที่ห้องด้วย" "ฉันเหนื่อยค่ะ ฉันขอพักผ่อน" "ทำไม ทำอีกสักเรื่องมันจะตายให้ได้เลยหรอไง" เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิด "..." เธอเบื่อจะฟังสิ่งที่เขาพูดแล้ว เธอเหนื่อยกายมามากทั้งวัน ยังต้องเหนื่อยใจเพราะเขาอีก "สักสามทุ่มฉันขึ้นไปค่ะ" เธอตอบเสียงเรียบ "ทำไมต้องสามทุ่ม" เขาถามขึ้นเสียงดัง "ก็ฉันต้องทำงานบ้านให้เสร็จก่อน แล้วจะกลับไปอาบน้ำแต่งตัวค่ะ จะมาสัก 3 ทุ่ม" "อืม รีบหน่อยก็แล้วกัน ฉันห่างมาหลายวันแล้ว" "..." เธอได้แต่กระพริบตาถี่ๆ เมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูดออกมา "ฉันอยากเอาเธอ!" และเขาก็พูดออกมาแบบหน้าไม่อาย คนบ้าอย่างเขานี่มันบ้าจริงๆ เขาไม่คิดจะทำอย่างอื่นบ้างเลยหรือยังไง เรียกให้เธอไปบำเรอวันเว้นวัน หรือสองวันเว้นหนึ่งวัน และแต่ละวันก็ไม่เคยต่ำกว่า 3 รอบ จนเธอเกือบใจขาดตายซะให้ได้ เรื่องเมื่อวานเธอยังโกรธแค้นเขาในใจมาก จนไม่อยากทำอะไรให้เขาอีกแล้ว แต่ด้วยเพราะเป็นสิ่งที่เธอต้องทำหลีกเลี่ยงไม่ได้ ได้แต่เก็บความขมขื่นไว้ในใจ...ทุกๆ คำพูดของคนทั้งสองที่โต๊ะนั้นคุยกัน แบมไพลินได้ยินทั้งหมด และเธอแสยะยิ้มออกมาทันที เพราะคิดอะไรได้เมื่อขุนเขากลับมาอาหารทั้งหมดก็มาวางอยู่บนโต๊ะแล้ว และเขาก็นั่งกินทันที แบบไม่สนใจหญิงสาวตรงหน้า"พี่ขุนเขากินปลากะพงทอดน้ำปลานี่สิค่ะ น่าอร่อยมากเลยนะ" หญิงสาวำพูดพร้อมกับตักใส่จานให้"ครับ" ขุนเขาพูดแต่ไม่สนใจจะกินที่แบมไพลินตักให้แม้แต่น้อย"พี่นิสาน่าจะชอบกิน พี่ปริ้นถึงสั่ง""..." ขุนเขาชงักไปเล็กน้อย พร้อมกับเปลี่บนมาตักปลาชิ้นนั้นเข้าปาก"อร่อยใช่ไหมคะ" แบมไพลินถามพร้อมกับแสยะยิ้มออกมา"อร่อยดีครับ" แล้วขุนเขาก็กินต่อ แบบไม่สนใจจะดูแลเทคแคร์อะไรคนตรงหน้าแม้แต่น้อยแบมไพลินก็แสดงสีหน้าไม่พอใจออกมา เพราะเธอรับรู้แล้วว่า ระหว่างขุนเขากับชนิสา ต้องมีอะไรแน่ๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ เธอจะเป็นคนขัดขวางทุกอย่างเองเมื่อกินข้าวอิ่มแล้ว ทั้งสองคนก็เดินออกมาจากร้านอาหาร และขุนเขาก็รีบเดินตามออกมาติดๆ พร้อมกับแบมไพลิน ที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งเพราะขุนเขาไม่สนใจจะรอเธอ"มึงจะไปไหน" ขุนเขารีบถามขึ้น"ไปนั่งฟังเพลง มึงมีอะไร" ปริ้นถามอย่างลำคาญ"กูไปด้วย" ขุนเขาพูดด้วยท่าทางกวนๆ แต่ตาก็เหลือบมองชนิ
เมื่อถึงเวลาเลิกงานของชนิสาปริ้นก็รีบวิ่งแจ้นมานั่งรอทันที วันนี้ตั้งใจไว้แล้วว่าจะพาเธอไปเที่ยว"พี่นิสาคุณปริ้นมารับพี่นิสาไปเที่ยวหรอ" แตงกวาถามด้วยความแปลกใจ"งานพี่ยังไม่เสร็จเลยแตงกวา" ชนิสาพูดแบบไม่สนใจ"แสดงว่าจริง""ก็คงงั้นมั้ง" ชนิสาก็ยังคงใจจดใจจ่อในงาน"นี่พี่นิสา หยุดเถอะเลิกงานแล้ว" แตงกวาพูดพร้อมกับจับมือชนิสาไว้"...""อย่าทุ่มเทอะไรให้คนที่เขาไม่เห็นค่าเลยนะ ลองเปิดใจให้คนที่เขาเห็นค่าเถอะ มันอาจจะดีก็ได้ เชื่อแตงกวานะ" แตงกวาพูดพร้อมกับมองหน้าชนิสา"พี่ทำแบบนั้นไม่ได้หรอกแตงกวา" ชนิสาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนใจ"เขาไม่เคยแคร์พี่นิสาเลย ตอนนี้ก็พาคนอื่น เข้ามาทำงานแทนเราจนวุ่นวายไปหมด ไม่เคยมาสนใจด้วยว่าพี่นิสาจะรู้สึกยังไง" แตงกวาพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่เหนื่อยใจ"พี่...""พี่นิสาลองเปิดใจไปเที่ยวกับคุณปริ้นดูนะ อย่างน้อยก็ในฐานะเพื่อน""...""ไปเถอะนะพี่นิสา พอแล้วไม่ต้องทำงานแล้ว ไปอาบน้ำแต่งตัวสวยๆ ออกไปเที่ยวในเมืองดีกว่า" แตงกวาพูดพร้อมกับปิดคอมแล้วดึงชนิสาลุกขึ้นทันทีและเมื่ออาบน้ำแต่งหน้าเสร็จแล้ว แตงกวาก็เป็นเลือกชุดให้ชนิสาใส่ เป็นชุดของเธอที่ซื้อแล้ว แทบจะไม่ได้
ชนิสา Talkเมื่ออยู่กันตามลำพัง แบมไพลินก็ไม่สนใจงานอะไรเลย เอาแต่เล่นโทรศัพท์ จนเวลาล่วงเลยมาเป็นชั่วโมง"คุณแบม ถนัดงานด้านไหนบ้างคะ" ชนิสาเอ่ยถามหญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงหน้า"งานอะไรก็ได้ที่ไม่ต้องเหนื่อยไม่ต้องร้อน" หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิด"แต่งานในไร่ต้องเหนื่อยต้องร้อนนะคะ และชุดก็ต้องเป็นชุดที่พร้อมทำงานด้วย อย่างชุดที่คุณแบมใส่มา มันไม่เหมาะกับหน้างานค่ะ" เธอใส่ชุดเดรสสีขาวสะอาด กับรองเท้าส้นสูงราคาแพงสีขาว ซึ่งดูยังไงก็สวยมาก แต่แค่ไม่เหมาะกับงานที่เธอต้องมาทำ"ทำไมเธออิจฉาที่ฉันแต่งตัวสวยแล้วเธอไม่ได้แต่งงั้นหรอ" แบมไพลินเงยหน้าขึ้นมาจากโทรศัพท์แล้วแพร่ดเสียงใส่ชนิสาด้วยความหงุดหงิด"ไม่ใช่แบบที่คุณแบมคิดเลยค่ะ แต่ด้วยงาน..." ชนิสากำลังพูดขึ้นมาแบมไพลินก็ขัดซะก่อน"อะไรที่มันหนักมันเหนื่อย เธอก็ทำไปสิ เธอทำของเธออยู่แล้วหนิ จะให้ฉันต้องมาทำทำไม ฉันไม่ทำให้เสียเวลาหรอกนะ แต่งตัวสวยๆ เดินไปเดินมา ให้พี่ขุนเขาสดชื่น กับให้ลูกค้าชื่นชมดีกว่าไหม เธอควรรู้นะว่าอะไรเป็นอะไร" หญิงสาวพูดออกมาอย่าหงุดหงิด"พี่ไม่ได้จะอยู่ทำตลอดไปหรอกนะคะ คุณผู้หญิงถึงได้บอกให้สอนงานคุณ พี่เลยอย
ชนิสา Talkเมื่อนั่งทำงานที่ออฟฟิตได้สักพัก ก็มีคนเดินเข้ามาทักทาย ซึ่งเธอก็แปลกใจอยู่ไม่น้อย"สวัสดีครับนิสา" เป็นเสียงอันหล่อเหลาไม่แพ้หน้าตา"อ้าว คุณปริ้นสวัสดีค่ะ" ชนิสาก็ทักทายกลับไปทันที แต่ก็ยังคงแสดงสีหน้าสงสัย"อ่อ พอดีผมว่างๆ เลยแวะมาเที่ยวครับ นี่ครับของฝากจากกรุงเทพฯ" และปริ้นก็ยื่นกล่องบางอย่างให้เธอ"ขอบคุณมากนะคะ สวยมากเลย" เป็นโบว์สีขาว คล้ายๆ กับแบบที่เธอชอบใส่"พอดีไปเดินเล่น แล้วเห็นว่าเหมาะกับนิสาเลยซื้อมาฝากครับ เห็นว่านิสาทำผมทรงนั้นพร้อมกับใส่โบว์แล้วสวยดี" ปริ้นพูดพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์ให้"ขอบคุณอีกครั้งนะคะ" ชนิสาพูดพร้อมกับก้มหน้าให้เล็กน้อย"ไม่เป็นไรเลยครับ เต็มใจมากๆ""เชิญนั่งก่อนค่ะ ตามสบายนะคะ" และหญิงสาวก็ลุกขึ้นไปเอาน้ำ มาให้ชายหนุ่มตรงหน้า เพราะเธอว่างจากงานบ้างแล้ว"ขอบคุณครับ งานยุ่งมากเลยหรอครับ" เมื่อเห็นว่าหญิงสาว ยังใจจดใจจ่อตั้งใจทำงานเขาเลยถามขึ้น"ตอนเช้าก็จะยุ่งแบบนี้ทุกวันค่ะ ต้นเดือนด้วย" เธอชงักไปกับคำว่าต้นเดือน เพราะสิ้นเดือนหน้าเธอก็หมดสัญญาแล้ว..."นิสานี่ตั้งใจทำงานจังเลยนะครับ""..." หญิงสาวยังคงคิดอะไรอยู่"ไอ้ขุนนี่โชคดีจริงๆ เล
เมื่อตื่นเช้าขึ้นมาชนิสาก็อาบน้ำแต่งตัว ไปทำงานปกติ แต่ก็เจอกับแบมไพลินที่ยืน คุยอยู่กับนทีแบบไม่สบอารมณ์ ทั้งนทีที่แสดงสีหน้าเบื่อหน่ายออกมาอย่างชัดเจน"มีอะไรกันหรือเปล่าคะคุณแบมพี่นที" ชนิสารีบเข้าไปถามทันที เมื่อรู้สึกว่าบรรยากาศเริ่มมาคุ"ฉันจะไปหาพี่ขุนเขา แต่นายนทีมาว่าฉัน""ผมไม่ได้ว่าครับ ผมแค่ให้คุณแบมเข้าไปดูงานในออฟฟิตก่อน มันเป็นงานที่ต้องทำก่อน ไม่ใช่ว่าไปหาคุณขุนเขาตอนนี้ มันไม่ใช่เรื่อง" นทีตอบกลับแบบไม่ค่อยพอใจ"นี่ไง! นายกำลังว่าฉัน""ผม!""คนงานอย่างนายมาเกี่ยวอะไรด้วย อนาคตฉันจะเป็นนายหญิงของที่นี่ ฉันจะทำอะไรก็ได้" แบมไพลินแพร่ดเสียงดัง"ผมเปล่าว่า ผม..." นทีกำลังอธิบาย"เอ่อ คืออย่างนี้ค่ะคุณแบม ตอนเช้ามาเราต้องเข้าออฟฟิตเข้าระบบทุกอย่างก่อน เพื่อดูพนักงานว่าคนไหนขาดลา มาสาย ต้องอยู่ตรงนั้นแตั้งแต่ 8 โมงถึง 9 โมงค่ะ มันเป็นสิ่งที่ต้องทำ" ชนิสาอธิบายอย่างใจเย็น"เธอก็ไปทำสิ ปกติก็หน้าที่ของเธอไม่ใช่หรือไง""ก็ใช่ค่ะ แต่คุณผู้หญิงบอกมาเองเลยว่าให้สอนงานคุณแบมเหมือนที่ฉันทำทุกอย่าง คุณแบมจะได้รู้ทุกหน้าที่""ฉันจะเป็นนายหญิงนะ ฉันจะทำหรือไม่ทำก็ได้ คนงานเยอะแยะ พนัก
เมื่อพ่นน้ำไปไม่รู้ตัว ขุนเขาก็รีบดึงทิชชู่มาเช็ดให้ในทันที"โทษๆ วะมึง""มึงเป็นเหี้ยไร ห่าโดนกูเลยเนี่ย" ปริ้นพูดพร้อมกับเช็ดไปด้วย"เอ้อๆ กูเช็ดให้นี่ไง""ไม่ต้องเลย กูเช็ดของกูเอง เสื้อแพงนะเว้ย" ปริ้นยังบ่นไม่หยุด"แล้วมึงบอกว่าอยู่หลายวันนี่ยังไง" ขุนเขาถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ"ก็กูเบื่อๆ อะ ไอ้ห่าพวกนั้นก็ไม่ว่างกัน ไอ้คชาก็ติดลูกติดเมีย กูเลยมาหามึง""แล้วมึงก็มาตั้งไกลเนี่ยนะ" ถามด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิด"ไกลเหี้ยไร แค่นี้กูขับรถ 3 ชั่วโมงเองสบาย" ปริ้นพูดอย่างสบายใจ"ห่าไรละ แต่ก่อนกูให้มาหาบอกไกลบอกไม่สะดวกมา"เมื่อก่อนขนาดมีงานอะไรที่ไร่เขา ไอ้พวกนี้ยังปฎิเสธจ้าละหวั่นกัน ถ้าไม่ใช่งานแต่งหรืองานศพ ไอ้พวกห่านี่อย่าหวังว่าจะได้เห็นหน้าพวกมัน"ก็วันนี้ไม่เหมือนกัน กูมาเพราะมีเป้าหมาย""อะไรของมึง" ขุนเขาหรี่ตาถาม"กูมาจีบนิสา" ปริ้นพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง"..." ขุนเขาถึงกับพูดอะไรไม่ออก"กูบอกที่บ้านกูแล้ว ป๊าม้าโอเค อาม่ารอรับหลานสะใภ้ ทั้งเฮียและเจ่เจ้ถามใหญ่เลยว่าจะพาไปสวัสดีวันไหน" ปริ้นพูดพร้อมกับยิ้มออกมา"ที่บ้านมึงไม่ว่าหรอถ้าคนนั้นคือผู้หญิงธรรมดา" ก็ถามไปแบบนั้นแหละ