ตลอดหนึ่งเดือนเวหามีโอกาสได้ใกล้ชิดกับเมญาวีเพิ่มมากขึ้นเพราะช่วงนี้มารดาของเขากำลังติดเพื่อน เวหาจึงมีเวลาไปรับไปส่งบ่อยขึ้นด้วยเหตุผลที่ว่ามันเป็นทางผ่าน
“คุณเวย์คะ เย็นนี้เมยคงไปทานข้าวกับคุณไม่ได้นะคะ” ผู้ช่วยสาวบอกกับเจ้านายหนุ่มเมื่อถึงเวลาเลิกงาน
“ทำไมล่ะครับผมนึกว่าเราไปจะทานด้วยกันทุกวันเสียอีก” เวหากลัวว่าเธอจะรำคาญที่เขาเอาแต่ตามติดเธอมาตลอด
“เมยนัดกับรินไว้ค่ะ คุณเวย์ไม่ต้องไปส่งนะคะ เดี๋ยวรินจะมารับที่นี่เองค่ะ” เธอรีบบอกเมื่อเห็นว่าเขาเองก็กำลังเก็บของบนโต๊ะทำงาน
“แย่จังนะครับ ผมไม่อยากทานข้าวคนเดียวเลย” เสียงนั้นฟังเหมือนเขากำลังผิดหวัง
“พูดแบบนี้เมยรู้สึกผิดเลยค่ะ”
“ขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจพูดให้คุณรู้สึกผิดนะครับ คุณไปกับเพื่อนเถอะ ผมเองก็คงจะไปหาเพื่อนเหมือนกัน” นานแล้วเหมือนกันที่เวหาไม่ได้ออกไปดื่มสังสรรค์กับเพื่อน
“เมยไปก่อนนะคะรินมาถึงแล้วค่ะ เจอกันวันจันทร์นะคะ”
“ครับ เจอกันครับ” เวหาไม่ได้บอกว่าจะเจอกันวันไหน แต่คงไม่ใช่วันจันทร์อย่างที่เธอบอกแน่
เมญาวีคว้ากระเป๋าสะพายแล้วเดินออกจากห้องไปอย่างรีบร้อน เธอไม่อยากเพื่อนรักรอนาน
หญิงสาวออกจากลิฟต์แล้วตรงไปยังลานจอดรถซึ่งตอนนี้มินิคูเปอร์สีแดงของรินรดาก็มาจอดรออยู่ก่อนแล้ว
“ริน รอนานไหม” เธอถามขณะเปิดประตูเข้าไปนั่งคู่กับคนขับ
“ไม่เลย วันนี้เราจะไปไหนกันดี”
“รินอยากกินอะไรวันนี้เมยเลี้ยง”
“มีเจ้ามืออย่างนี้รินต้องคิดหนักหน่อยแล้ว กินอาหารญี่ปุ่นไหมไม่ได้กินนานแล้วนะ”
“เอาสิ ร้านเดิมนะ กินเสร็จดูหนังต่อเลยไหม รินต้องไปรีบกลับบ้านหรือเปล่า”
“งั้นรินจ่ายค่าตั๋วหนังนะ”
“อือ”
ระหว่างทานอาหารเมญาวีก็เล่าเรื่องความสนิทสนมของตัวเองกับเวหาให้เพื่อนรักฟังอย่างไม่มีปิดบัง
“เมยชอบเขาไหม” รินรดาถามเพื่อนด้วยสีหน้าจริงจัง
“มันก็มีบ้างนะ แต่กลัวว่าจะแอบคิดไปเองคนเดียวน่ะสิ ตอนนี้เรากินข้าวด้วยกันทุกวันเลย มันแปลกอยู่บ้างเพราะปกติแล้วเจ้านายของเมยจะต้องกลับไปกินข้าวกับแม่ทุกเย็น แต่ตอนนี้เขามากินกับเมย พอเมยถามเข้าก็บอกว่าแม่ออกไปกับเพื่อน”
“เมยกลัวว่าที่เขามากินข้าวกับเมยเพราะแม่ไม่ว่างอย่างนั้นเหรอ”
“ใช่สิ” เมญาวีตอบไปตามตรง
“มันก็น่าคิดนะ ถ้าเพราะแม่ไม่ว่างเลยหาคนกินข้าวด้วย แต่ทำไมต้องเป็นเมยล่ะ เขาไม่มีเพื่อนคนอื่นหรือไง”
“เมยก็ไม่รู้เหมือนกันบางทีอาจเพราะเราทำงานด้วยกันมั้ง แล้วเมยก็รู้มาว่าเขาเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศอาจจะไม่มีเพื่อนที่ไหนก็ได้”
“แต่เขาโตแล้วนะเมย ไม่ต้องมีคนกินข้าวด้วยทุกมื้อหรอก เขาอาจรู้สึกดีกับเมยก็ได้”
“แล้วเมยต้องทำยังไง”
“รินอยากให้เมยลองเปิดใจให้ผู้ชายคนอื่นเข้ามาบ้าง เรื่องในอดีตลืมมันไปเถอะ ผู้ชายที่ทั้งหล่อทั้งนิสัยดีอย่างคุณเวหาถ้าปล่อยไปเสียดายแย่เลยนะ”
“พูดอย่างกับว่าเขาสนใจเมยจริง ๆ อย่างนั้นแหละ บางทีเมยก็คงคิดไปเองคนเดียว รินอย่าบอกเรื่องนี้กับใครนะ”
“จะบอกใครได้ล่ะ เราก็สนิทกันอยู่แค่สองคน”
สองสาวเพื่อนซี้ต่างพากันหัวเราะกับคำพูดนั้นซึ่งมันเป็นความจริงที่ว่าทั้งคู่นั้นไม่มีเพื่อนสนิทคนอื่นที่สามารถพูดคุยได้ทุกเรื่องนอกจากคนที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้น
“ขอบใจจะริน ขับรถดี ๆ นะถึงบ้านแล้วไลน์บอกเมยด้วยนะ” เมญาวีบอกเพื่อนรักที่ขับรถมาส่งเธอในเวลาเกือบสี่ทุ่ม
หญิงสาวกำลังจะเดินขึ้นไปยังห้องของตัวเองก็เห็นรถยนต์ที่คุ้นตาคันหนึ่งจอดอยู่
เธอไม่ค่อยแน่ใจว่าจะใช่รถของเจ้านายไหมเพราะตรงนั้นค่อนข้างมืด ขณะที่ลังเลว่าจะเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ ดีหรือเปล่า เจ้าของรถก็เปิดประตูลงมาพอดี
“คุณเวย์ มาทำอะไรตรงนี้คะ”
“ผมมารอคุณ”
“รอเมยเหรอคะ เราไม่ได้นัดกันนะคะ หรือว่ามีธุระด่วนเรื่องงาน”
“เปล่าครับ ผมรู้ว่าคุณไปกับเพื่อน เลยแวะมาดูว่ากลับมาถึงหรือยัง”
“อ๋อ แล้วคุณมารอนานหรือยังคะ”
“ไม่นานครับผมเองก็เพิ่งไปทานข้าวกับเพื่อนมาเหมือนกัน งั้นผมขอตัวกลับก่อนครับมันดึกแล้วไม่อยากรบกวน แค่เห็นว่าคุณกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยก็โอเคแล้วครับ”
“ขอบคุณนะคะที่แวะมา ขับรถดี ๆ นะคะ”
“ครับ ถ้าถึงบ้านแล้วผมขอโทรหาได้ไหม พรุ่งนี้ไม่ต้องทำงานคุณคงไม่รีบนอน”
“ได้ค่ะ เมยจะรอนะคะ” เมญาวีคิดว่าจะลองเปิดใจสักครั้งเลยตอบเขาไปแบบนั้น
หญิงสาวรีบกลับขึ้นห้องพักแล้วรีบอาบน้ำแต่งตัวอย่างรวดเร็วเพื่อรอโทรศัพท์ของคนที่เพิ่งขับรถออกไปเมื่อครู่
เธอดีดตัวลุกขึ้นจากที่นอนทันทีเมื่อได้ยินเสียงเรียกเข้า ใบหน้าหวานดูผิดหวังเล็กน้อยเมื่อคนที่โทรเข้ามาไม่ใช่คนที่เธอกำลังรอ
“ถึงบ้านแล้วเหรอริน”
“อือ ถึงแล้วก็รับโทรหาเมยเลย กลัวจะรอนาน”
“ริน เมยมีเรื่องจะเล่าให้ฟัง”
“เล่ามาสิ รอฟังอยู่”
“เอาไว้พรุ่งนี้เมยจะเล่าให้ฟังนะ วันนี้ดึกแล้วรินจะได้พัก”
“เมย รินอยากรู้แล้ว เล่ามาเลยได้ไหม มันค้างคารินคงนอนไม่หลับแน่”
“เมยก็อยากเล่าใจแทบขาดแต่ตอนนี้เมยกำลังรอสายคุณเวย์อยู่” เธอบอกเพื่อนรักไปตามตรงเพราะถ้าอย่างนั้นรินรดาไม่มีทางจะวางสายแน่ ๆ
“ตายละรีบว่างเลยนะ ถ้าคุยเสร็จแล้วโทรมาเล่าให้รินฟังด้วยว่าคุยอะไรกัน อ้อ แล้วไม่ต้องอ้างว่าดึกนะเพราะดึกแค่ไหนรินก็จะรอตกลงไหม”
“งั้นก็ได้ ขอโทษนะรินที่เมยต้องรีบวางก่อน”
“ไม่ต้องมาขอโทษ รินเข้าใจแค่นี้ก่อนนะ รินจะรีบไปอาบน้ำแล้วมารอฟังเมยเล่าเรื่องผู้ชาย” รินรดาหัวเราะร่วนก่อนจะวางสาย
วางสายจากรินรดาไม่นานคนที่รอก็โทรเขามาอย่างที่บอกไว้
ชายหนุ่มโทรมาบอกว่าตอนนี้เขาถึงบ้านแล้ว นอกจากนั้นก็เล่าอีกว่าเมื่อตอนเย็นไปไหนกับใครมาบ้าง เขาบอกเล่าเรื่องทั่ว ๆ ไปแต่คนฟังรู้สึกดี เวหาทำให้เธอได้รู้จักกับชีวิตส่วนตัวมากขึ้น พอฟังเขาเล่าเรื่องของตัวเองให้ฟังแล้ว เมญาวีก็เลยเล่าเรื่องของเธอให้กับชายหนุ่มฟังบ้าง เหมือนเป็นการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน
ทั้งสองคุยกันอยู่นาน ก่อนจะวางสายเวหาก็ชวนเธอไปดูหนังในวันพรุ่งนี้เพราะตั้งแต่กลับมาเขายังไม่เคยเข้าโรงหนังเลยสักครั้ง
เมญาวีตอบตกลงเพราะเธอเองก็อยากได้รู้จักเขาให้มากขึ้นในฐานะผู้ชายคนหนึ่งไม่ใช่แค่เจ้านายกับลูกน้องอย่างที่เป็นอยู่
พอวางสายจากเวหาแล้วเมญาวีก็ส่งไลน์ไปถามว่ารินรดานอนหรือยัง เนื่องจากตอนนี้มันดึกกว่าที่คิดไว้มาก แต่ผ่านไปเพียงเสี้ยววินาทีรินรดาก็โทรกลับมาทันที
“เล่ามาเลยนะเมย คุยอะไรกันตั้งนาน”
“นึกว่าจะหลับไปแล้วเสียอีก”
เมญาวีเล่าทุกอย่างให้เพื่อนฟังอย่างไม่ปิดบัง ตอนนี้เพื่อนรักของเธอนั้นเชียร์เวหาจนออกนอกหน้า
“เมย ถ้าวางสายแล้วรีบมากส์หน้าเลยนะ แล้วพรุ่งนี้ก็ห้ามตื่นเช้าเดี๋ยวหน้าจะโทรม นัดไว้กี่โมงนะ”
“บ่ายสอง”
“ให้รินไปช่วยแต่งหน้าแต่งตัวไหม”
“ไม่ต้องหรอกริน เมยคิดว่าจะแต่งตัวตามปกตินั่นแหละ ไม่อยากต้องแต่งตัวเพื่อเอาใจใคร”
“ก็ดีนะ ถ้าคนเขาจะชอบแต่งตัวยังไงเขาก็ชอบ”
วางสายจากเพื่อนแล้วเมญาวีก็รีบมากส์หน้าตามที่รินรดาบอก ส่วนเรื่องแต่งตัวนั้นเธอไม่ได้กังวลเพราะคิดแล้วว่าพรุ่งนี้จะเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด ถ้าเขารับไม่ได้หรือไม่ชอบเธอจะได้ไม่ต้องเสียเวลา
เสียงดนตรีเพลงคลาสสิกที่กำลังบรรเลงอยู่สร้างความโรแมนติกให้กับคู่รักหลายคู่ในบาร์รูฟท็อปบนโรงแรมหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา เวหากับเมญาวีก็เป็นหนึ่งในคู่รักนั้น วันนี้เป็นวันครบ 3 ปี สำหรับการแต่งงานของทั้งสอง เป็นโอกาสพิเศษที่ทั้งสองคนจะได้อยู่ตามลำพัง เพราะที่ผ่านมาชีวิตของเขาและเธอวุ่นวายอยู่กับการทำงานและเลี้ยงดูลูกน้อยวัยสองขวบ หลังจากแต่งงานได้เพียงสามเดือนเมญาวีก็ตั้งท้องลูกสาวที่แสนน่ารัก เด็กหญิงตัวน้อยมีชื่อว่าน้องข้าวหอมเพราะอยากเลี้ยงลูกเองแต่ก็ต้องทำงานไปด้วย เวหาเลยแบ่งห้องที่ทำงานเป็นห้องสำหรับเด็กหนึ่งห้อง จ้างพี่เลี้ยงมาช่วยดูแลลูกสาวในขณะที่เมญาวีทำงาน พอถึงเวลาเลิกงานทั้งครอบครัวก็กลับไปที่บ้านหลักเล็กซึ่งปลูกอยู่ในรั้วเดียวกับบ้านเดิมของเวหา แต่เพราะวันนี้เป็นวันครบรอบแต่งงานของทั้งสอง เพชรลดาอยากให้ลูกสาวและลูกเขยได้ใช้เวลาช่วงนี้ด้วยกันตามลำพัง เธอจึงมารับหลานสาวและพี่เลี้ยงไปอยู่ที่โคราชชั่วคราว“ร้านนี้บรรยากาศดีเหมือนกันนะคะพี่เวย์ จองยากไหมคะ”“ไม่ยากหรอกครับ พี่แดนจัดการให้” โรงแรมหรูแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งโรงแรมที่เดนิสเพื่อนรุ่นพี่ของ
ภายในห้องนอนยังมืดสนิทแม้จะเป็นเวลาเกือบจะเที่ยงเพราะมีผ้าม่านกันแสงอย่างดี เมญาวียังซุกตัวอยู่กับแผงอกแกร่งของคนรัก เธอเพิ่งได้นอนพักในเวลาเกือบจะหกโมงเข้า แต่เพราะวันนี้เป็นวันเสาร์ทั้งเขาและเธอก็เลยไม่ต้องรีบไปทำอะไรที่ไหน เมื่อคืนเมญาวีตามใจเขามากกว่าทุกครั้งเพราะเห็นว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาชายหนุ่มทำงานอย่างหนักเพื่อบริษัทมาตลอด เมญาวีไม่คิดจะไปเรียนต่อแล้วเพราะไม่อยากห่างจากคนรักแต่เธอก็ยังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเวหา หญิงสาวใช้เวลาช่วงที่ไม่ตามคนรักไปบริษัทเรียนรู้งานกับคุณสิงหลที่บ้านหลังใหญ่ของเขา เพราะอยากช่วยงานของเวหาให้ได้มากกว่านี้ พอได้ไปบ้านของเวหาบ่อยขึ้นเมญาวีก็สนิทสนทกับคุณวราพรมารดาของชายหนุ่มมากขึ้นด้วย หญิงสาวจึงรู้ว่าที่ผ่านมาเวหาต้องทำงานอย่างหนักเพื่อพิสูจน์ตัวเองให้คนในบริษัทและบิดายอมรับในตัวเขา เมญาวีรู้สึกเห็นใจคนรักมากขึ้น บริษัทที่เขาทุ่มเททำงานอย่างหนักให้นั้นอีกส่วนหนึ่งก็เป็นของเธอด้วย การจะไปเรียนและให้เขาทำงานที่นี่ไม่ใช่เรื่องที่คนรักควรทำสักเท่าไหร่ ที่ผ่านมาเธอคิดถึงแต่ตัวเองมาตลอด แม้ตอนแรกเวหา
ระหว่างที่ยังรอวีซ่าซึ่งไม่รู้จะได้เมื่อไหร่ เมญาวีก็ย้ายมาอยู่กับเวหาที่คอนโด แม้ว่ามารดาของเขาจะชวนให้ไปอยู่ที่บ้านด้วยกัน แต่เพราะเวหาอยากมีเวลาส่วนตัวกับคนรักให้มากที่สุด เขาจึงพาเมญาวีไปทานข้าวกับท่านที่บ้านเป็นบางวันเท่านั้น เมญาวีตามเวหาไปที่บริษัทเป็นบางวันเท่านั้น เธอไม่ได้ไปทำงานในตำแหน่งเลขา เพียงแต่ตามไปเพราะเวหาอยากให้หญิงสาวเรียนรู้งานในบริษัท พนักงานส่วนใหญ่ไม่มีใครรู้ว่าตอนนี้เมญวีมีหุ้นอยู่ในบริษัท ทุกคนรู้แค่เพียงว่าเธอเป็นคนรักของเวหาเพียงเท่านั้น ช่วงนี้งานของเวหาค่อนข้างหนักเอาการ แต่งานหนักแค่ไหนเขาก็ไม่เคยบ่น เพราะทันทีที่กลับมาถึงคอนโดมาเจอกับคนรักเขาก็หายเหนื่อยทันที “พี่เวย์ ช่วงนี้งานเยอะเหรอคะ” “ก็เยอะเป็นปกติครับ” “หาเลขาสักคนดีไหม” “ไม่เป็นไรครับพี่ธรก็ยังอยู่ เขาช่วยพี่ได้เยอะ” “ถ้ากลัวว่าเลขาคนใหม่จะทำให้เมยหึงพี่เวย์ก็หาเลขาผู้ชายสิคะ” “เอาไว้ถ้าพี่ธรบ่นว่าเหนื่อยพี่จะให้เขาหาคนมาช่วยนะครับ” “ถ้ารอให้พี่ธรบ่นสงสัยไม่ต้องหาเลขากันแล้วล่ะคะ”เมญา
กลับจากหัวหิน เวหาพาเมญวีมาที่บ้านของตัวเอง เป็นครั้งแรกที่เธอมายังบ้านหลังใหญ่“สวัสดีค่ะแม่” เธอยกมือไหว้และเรียกคุณวราพรว่าแม่อย่างที่เคยเรียก เนื่องจากตอนนี้เธอกับเวหาตกลงจะกลับมาคบกันอย่างเดิมแล้ว“หนูเมย แม่คิดว่าจะไม่ได้เจอหนูแล้ว แม่ขอโทษเรื่องพ่อของหนูด้วย ถ้าแม่ไม่เห็นแก่ตัวหนูคงมีครอบครัวที่อบอุ่น”“อย่าพูดถึงมันเลยค่ะ ที่ผ่านมาเมยก็มีครอบครัวที่อบอุ่น มีแม่กับลุงวัตถ์ เมยไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองขาดอะไร”“หนูไม่โกรธแม่ใช่ไหม”“ไม่ค่ะ เมยคิดว่าเมยกับแม่ก็ต้องขอโทษที่ทำให้เรื่องมันเป็นแบบนี้”“แม่อยากเจอกับแม่ของหนู อยากขอโทษเขาด้วยตัวเองเอง”“ได้สิคะ เอาไว้เมยจะหาเวลาพาแม่มาเยี่ยมนะคะ”“แม่อยากไปหาที่ไร่ เวย์บอกแม่ว่าที่นั่นร่มรื่นมาก แม่อยากไปเที่ยว”“เมยขอถามแม่กับลุงวัตถ์ก่อนนะคะว่าสะดวกวันไหน เพราะบางทีสองคนนั้นก็เข้าไปในไร่ตั้งแต่เช้า ถ้าไม่นัดก่อนก็อาจจะไม่เจอค่ะ”“เอาอย่างนั้นก็ได้ สะดวกตอนไหนหนูก็บอกเวย์นะลูก”“ค่ะแม่”“วันนี้จะค้างที่นี่ไหม แม่จะได้ให้ป้ายุพาจัดห้อง”“ไม่ดีกว่าค่ะ”“เมยรังเกียจครอบครัวของแม่หรือเปล่า”“ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ คุณแม่เข้าใจผิดแล้ว วันนี้เมยต
พายุตัณหาสงบลงในเวลาเกือบตีหนึ่ง เวหาเช็ดตัวให้กับเมญาวีเพราะอยากให้เธอนอนสบายตัว จากนั้นก็นอนกอดหญิงสาวคนรักจนถึงสายของอีกวัน “เราจะกลับตอนไหนคะ” เมญวีถามในขณะที่กำลังเริ่มทานอาหารมื้อสายด้วยกัน “คงอีกสักสองวันครับ เมยอยากกลับแล้วเหรอ” “พี่เวย์ขา เมยขอโทรหาแม่ได้ไหมคะ ไม่อยากให้แม่เป็นห่วงนะคะ” พอเธออ้อนเวหาก็ยอมใจอ่อน เขาไปเอากระเป๋าในรถมาให้เธอจากนั้นก็นอนดูทีวีอยู่ที่ห้องรับแขก ส่วนเมญาวีนั้นเดินไปคุยโทรศัพท์ในห้องนอน หญิงสาวกลับออกมาอีกครั้ง เธอนั่งลงข้างเขา พิงศีรษะกับไหล่หนา “แม่ว่ายังไงบ้างครับ” “ไม่ว่าอะไรค่ะ แม่แค่ฝากบอกพี่เวย์ว่าอย่าลืมสัญญา พี่สัญญาอะไรกับแม่คะ” “สัญญาว่าจะดูแลเมยอย่างดีครับ” “แค่นั้นเหรอคะ” “ครับแค่นั้น” เมญาวีคิดว่าต้องมีอะไรมากกว่านั้นแต่เขาไม่ยอมพูด แต่คงไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่ เพราะถ้าอย่างนั้นมารดาของเธอคงบอกไปแล้ว “เราจะอยู่แต่ในห้องเหรอคะ ไหนว่าพาเมยมาเที่ยวทะเล” “เมยอยากออกไปไหน ถ้าจะไปเล่นน้ำรอตอนเย็นก่อนดีกว่าไ
เมญาวีตื่นขึ้นมาท่ามกลางความมืด เธอไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ไหน จำได้แค่ว่ากำลังคุยกับเวหาอยู่ในรถ และเขากำลังจะพาเธอกลับบ้าน เธอกวาดสายตามองไปรอบๆ ห้อง แล้วก็ต้องตกใจเพราะที่นี่ไม่ใช่ห้องนอนของ หญิงสาวรีบลุกจากเตียงแล้วเปิดประตูห้องนอนออกไปทันที “เวย์ พาเมยมาที่ไหน เมยอยากกลับบ้าน” “ตื่นแล้วเหรอครับ หิวหรือยัง มานั่งตรงนี้สิพี่สั่งสเต็กปลาของโปรดให้เมยแล้ว” “พี่เวย์คะ เมยบอกกว่าอยากกลับบ้าน” เธอเดินไปยังประตูด้านหน้าแต่พยายามเปิดเท่าไหร่ประตูก็ไม่ขยับ “เปิดประตูให้เมยด้วย เมยจะกลับ” “เดี๋ยวสิเมยคุยกันก่อน” เวหารีบมาดึงตัวคนรักไว้ เขากอดเธอจากด้านหลัง จมูกกดลงไปยังผมสีดำขลับ สูดดมกลิ่นที่คุ้นเคยเข้าเต็มปอด “เราต้องคุยกับให้รู้เรื่องนะครับ” “เมยว่าเราคุยกับรู้เรื่องแล้วนะคะ” เวหาอุ้มคนตัวเล็กมายังโต๊ะทานข้าว กดให้หญิงสาวนั่งลงบนเก้าอี้ขณะที่ตัวเองกักเธอไว้ด้วยสองแขนแกร่ง “พี่ไม่ให้เมยไปเรียน” “เมยจะไป เมยเตรียมตัวเรียนภาษามาตั้งสองเดือน” “เมยจะทิ้งพี่ไปจริ