หลังจากงานจบจัสมินก็ตรงมาส่งฉันที่บ้านพักต่างอากาศของจัส ตอนนี้ฉันแน่ใจแล้วว่าพี่ฟอร์นคงไม่ทำอะไรฉันในช่วงที่อยู่ในคราบแฟนของจัสแน่ คงเป็นเพราะหน้าตาทางสังคมอะไรนั้นซึ่งจะให้ฉันเข้าใจฉันก็คงไม่เข้าใจ แต่ที่ฉันไม่เข้าใจยิ่งกว่าคือทำไมฉันต้องเข้างานหมั้นกับจัสมินด้วยน่ะสิ แค่เพียงจัสพาฉันไปแนะนำตัวให้พ่อเขารู้จัก เพียงเท่านั้นพ่อเขาก็ประกาศทันทีว่าจะจัดงานหมั้นของเราในเดือนหน้า เล่นทำฉันตกใจตาค้างไปเลย“เอิ่ม…. ขอโทษเรื่องงานหมั้นด้วยนะ”“แล้วจะทำไงดีละ นี่ไม่ใช่ที่เราตกลงไว้นะฉันเองก็ยังไม่พร้อม”“ฉันไม่คิดว่าพ่อจะทำแบบนี้ ที่บ้านฉันถ้ามีลูกสองคนลูกชายจะต้องหมั้นก่อนลูกสาว”“ไร้สาระมาก! ทำไมคนรวยๆ ต้องทำอย่างนี้นะ ทั้งที่นายกับฉันก็แค่เด็กมหาลัยหรือเปล่า ทำไมต้องมงต้องหมั้น”“ส่วนมากในสังคมของฉัน มหาวิทยาลัยคือหมั้นหลังจากเรียนจบก็แต่งงานไงละ”“แต่ฉันไม่ใช่ ฉันไม่เห็นเกี่ยวเลยบอกพ่อนายยกเลิกเถอะ”“ใจเย็นๆ เอางี้ แค่หมั้นแล้วจบๆ ไปได้ไหมในเมื่อพ่อฉันประกาศออกไปแล้วมันจะทำให้ครอบครัวฉันเสียหน้า ในเมื่อยังไงพ่อก็แค่ทำเพื่ออยากให้คู่ของพี่โรสได้หมั้นกัน หลังจากนั้นเราก็ถอนหมั้นแบบนั้นเธอโอ
ึสองวันแล้วที่อยู่ๆ ข้าวก็หายไปเล่นทำเอาผมอยู่ไม่สุขและผมก็ยังไม่กล้าตามหาเธอเพราะกลัวว่าจะทำให้เธอเกลียดผมไปมากกว่าเดิม ผมน่ะรู้ดีว่าทุกอย่างที่ผมทำไปโคตรเห็นเแก่ตัว แต่ถ้าเธอกลับมาแล้วเรื่องโรสผ่านไปผมจะทำให้เธอรู้สึกดั่งเจ้าหญิง“หน้าเครียดเชียวนะ”“อืม…”ผมตอบปอร์เช่เพื่อนรักไปส่งๆ เพราะไม่มีอารมณ์จะคุยอะไรทั้งนั้น เพราะใจผมยังคงกังวลคิดถึงคนที่หายไป“ยังหาไม่เจอเหรอวะ”“ไม่ได้หา…”“หะ? เป็นไปได้ไงวะ”ปอร์เช่ดูตกใจมากกับคำตอบผม แน่นอนละเพราะปกติถ้าผมไม่เบื่อผมไม่มีทางปล่อยให้ออกนอกสายตาไปแบบนี้ แต่ครั้งนี้ผมผิดจริงตั้งแต่รู้จักกับข้าวมามันไม่มีสิ่งไหนที่ผมทำถูก ยิ่งครั้งล่าสุดได้ที่ผมเกือบจะขืนใจข้าวนั้นผมยิ่งละอายใจ ทั้งๆ ที่รู้แก่ใจว่าเธอคือเด็กของมหาวิทยาลัยตัวเอง“ที่ผ่านมาทำแต่สิ่งไม่ดีวะ อยากให้เวลาเขา….กลับมาค่อยเริ่มต้นใหม่”“โหหห คุณผอ....กลับมาแล้วเว้ยหลังจากปล่อยผีบ้ารักเข้าสิง”“เหอะ!”“แล้วถ้าเขาไม่กลับมาละทำไง”“ค่อยตามขอโทษ ขอโทษจนให้อภัยแหละ”“ให้อภัยไม่ใช่ว่าเขาจะรักนะ แล้วเรื่องแฟนแกตอนนี้จะทำยังไง”“ทำไงได้ละก็พยายามต่อไป ส่วนเรื่องโรสคุณอาขอแค่เดือนเดียวท่านคงไ
สองคนนั่งนิ่งเงียบมาจนถึงทางเข้าไนต์คลับ คืนนี้ฟอร์นยืนยันว่าจะอยู่กับข้าวเหนียวที่นี่และที่มันน่าเจ็บใจคือเขาไม่คิดถึงความรู้สึกของแฟนตัวเอง หรือเธอด้วยซ้ำในสมองของข้าวเหนียวตอนนี้ได้แต่คิดว่าเธอคงไม่แอบรู้สึกดีไปกับคนคนนี้หรอกใช่ไหม หรือถ้ามันเกิดขึ้นแล้วเธอควรจัดการยังไงกับเรื่องนี้“คิดอะไรอยู่…”“……”“จะเงียบอีกนานไหม…”“……”“พรุ่งนี้เรียนกี่โมง”ข้าวไม่ตอบ เธอล้มตัวลงนอนและข่มตาหลับทันทีตอนนี้เธอไม่แม้แต่อยากจะได้ยินเสียงคนเห็นแก่ตัวคนนี้ด้วยซ้ำถึงอย่างนั้นตัวฟอร์นที่คิดว่าข้าวเหนียวคงรู้สึกแย่กับทุกสิ่งที่เขาทำไปก็ไม่คิดจะพูดหรือถามอะไร เขาคิดเพียงแต่ว่าเมื่อจบแผนคบกันหลอกๆ ระหว่างเขากับโรส ถ้าถึงตอนนั้น เขาจะขอข้าวเหนียวเป็นแฟนอย่างจริงจังฟอร์น:ตอนนี้ผมก็ไม่แน่ใจว่าตัวเองควรจะบอกเรื่องนี้กับข้าวไหม ถ้าบอกไปอย่างน้อยเธอจะได้ไม่รู้สึกว่ากำลังอยู่กับคนมีเจ้าของ แต่ถ้าบอกไปแล้วเธอคิดว่าผมโกหกเพื่อจับปลาสองมือก็คงแย่อีกถึงตอนนี้ผมจะดูเป็นคนแบบนั้นก็ตาม ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมจะไม่มานั่งแคร์ความคิดของคนอื่นแบบนี้นักหรอกแต่ตอนนี้ผมแคร์เธอจนสับสนว่าควรทำยังไงต่อไปดี“ข้าว…นอนหรือยัง”ม
“อะไรของพี่เนี่ยพี่ฟอร์น ทำจัสทำไม”“มันจะขโมยของฉัน”“บ้าน่า จัสค่อยๆ ลุก”ฉันพยุงจัสให้ยืนขึ้นก่อนที่พี่ฟอร์นจะดึงแขนฉันอย่างแรงให้หันไปเผชิญหน้ากับเขา สายตาคมๆ นั้นทำให้ฉันรู้สึกกลัวจนต้องก้มหน้า“ออกมาทำไมดึกดื่น”“ก็พี่บอกให้จัสมารับเองนี่”“ฉันไม่ได้บอก….”“ผมตั้งใจมาเอง ก็เห็นพี่มีความสุขอยู่กับพี่โรสแต่ข้าวกับต้องถูกขังอยู่ในห้องแบบนั้น มันไม่แฟร์”จัสพูดพร้อมดึงฉันกลับไป“ฉันไม่ได้มีความสุขอะไรที่นั่น”“งั้นเหรอ ก็เห็นเดินประกาศกันทั่วงานว่าคบกัน”“มันเป็นเพราะพี่แกต่างหาก”“แต่พี่ก็ยอม? ต่อจากนี้ผมดูแลเพื่อนผมเองดีกว่า”“หยุด!! หยุดก่อน ฉันงงไปหมดแล้ว” ฉันตะโกนหลังจากที่เห็นชายสองคนเอาแต่ต่อปากต่อคำกันสะนานฉันหันหน้าไปพูดกับพี่ฟอร์นด้วยสีหน้าจริงจัง“พี่ฟอร์น ข้าวรู้ว่าพี่ฟอร์นอยากแกล้งข้าวเลยทำอะไรไม่ดีกับข้าว ที่ผ่านมาข้าวยกโทษให้แต่ตอนนี้พี่มีแฟนแล้ว แล้วแฟนพี่ก็คือพี่สาวของเพื่อนข้าว ข้าวว่าพี่เลิกยุ่งกับข้าวดีกว่าข้าวเองก็จะกลับไปอยู่บ้านแล้ว”“อยู่คนเดียวมันอันตราย” พี่ฟอร์นไม่แก้ตัวเรื่องมีแฟนแต่กลับพูดแบบนั้นออกมา ทั้งๆ ที่ตัวเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้าวเหนียวทำให้
เย็นวันนี้ผมสั่งให้ข้าวอ่านหนังสืออยู่ที่ห้องห้ามออกไปไหน เพราะผมมีธุระจะต้องไปงานปาร์ตี้ที่พี่โรสเชิญมาซึ่งเธอก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ออกจะดีใจที่ผมไปสะพ้นๆ ด้วยซ้ำ ผมก็ได้แต่ปล่อยเธอไปก่อนเพราะวันนี้คุณอาเน้นมาว่าห้ามเบี้ยวนัดเด็ดขาด ผมเองก็ไม่รู้ว่าทำไมแต่คงจะสำคัญอยู่ไม่น้อย ผมมาถึงหน้าบ้านหลังใหญ่ก็พบว่ามีแต่บรรดานักธุรกิจรายใหญ่ของทั้งในประเทศและต่างประเทศมางานนี้กันเต็มไปหมด ทุกคนล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณอาเป็นหลัก“มาได้สักทีนะ อารอสะนานเลย” อาเดินเข้ามาพร้อมพ่อของโรส“สวัสดีครับคุณอา” ผมยกมือไหว้อาเทียนพ่อของโรส“ขอบคุณมากๆ นะ ที่ยอมรับลูกของอาทั้งที่อาได้ยินมาว่าเราไม่เคยสนใจผู้หญิงที่ไหน”“คะ ครับ? อะไรนะครับ” ผมทำหน้างงตอบคนตรงหน้า ผมไม่เคยรู้สึกชอบโรสเลยด้วยซ้ำแล้วทำไมอยู่ๆ อาเทียนพูดเหมือนผมกับโรสพอใจกัน ...หรือว่ายัยนั้นไปเป่าหูพ่อตัวเอง?“เอ่อ...เดี๋ยวเราของคุยกับหลานสักพักนะ”“อ่อ โอเคๆ คงเขินละสิ” อาเทียนแซวก่อนที่จะเดินออกไป ทิ้งผมให้ยืนงงมองหน้าอาชัยอยู่อย่างนั้น“ฉันเป็นคนบอกว่าแกสนใจหนูโรสเอง”“ห๊า!! อาทำอะไรเนี่ยผมไม่ตลกเลยนะ”“จะมาตลกเรื่องอะไรละ ฉันรู้เ
ฉันรีบใส่เสื้อผ้าแล้ววิ่งหนีออกมาจากห้องนั้นอย่างรวดเร็วทั้งที่ยังใส่ได้ไม่เรียบร้อยดีนักพี่ฟอร์นร้ายกาจมากเขาแทบทำฉันหยุดหายใจทำไมฉันต้องหนีเสือปะจระเข้ด้วยคงต้องไปทำบุญหน่อยแล้วช่วงนี้ชีวิตฉันเจอแต่คนบ้าๆทั้งนั้น“ข้าว…”“...ซัน”ซันที่ไม่รู้โผล่มาจากไหนเข้ามาถือวิสาสะดึงมือฉันไปจับหน้าตาเฉย เออ! จะมีอะไรซวยกว่านี้ไหมเนี่ย“เราขอโทษสำหรับทุกอย่างอย่าเกลียดเรา...อย่าหนีเราเลยนะเรารู้ตอนนั้นเราผิดเราแค่ทำเพื่อให้เขารู้ว่าเราไม่ได้ชอบเขาเท่านั้นเราอึดอัดเลยพูดอะไรบ้าๆ ออกไป”“ซัน...ฉันไม่สามารถให้อภัยนายได้เลยสักเรื่อง ฉันต้องเสียเพื่อนที่ดีที่สุดไปเพราะคำโกหกของนาย นายบอกว่านายอึดอัดที่เพื่อนฉันหลงรักนาย...มันก็เหมือนความรู้สึกอึดอัดที่ฉันมีต่อนายนั่นแหละ”ฟืบ!ซันดึงฉันเข้าไปกอดโดยไม่สนสายตานับร้อยที่กำลังมองมาที่เราฉันพยายามผลักเขาเต็มแรงแต่มันก็ไม่สามารถทำให้ซันปล่อยฉันเป็นอิสระได้เลย“ทำบ้าอะไรน่ะ! ปล่อยฉันนะซัน! ”ฉันตีแผงอกกว้างด้วยความโกรธจัด ที่เขาทำอะไรไม่ให้เกียรติฉันสักนิดเดียว“ไหนบอกไม่มีอะไรไง! ”น้ำเสียงขุ่นดังขึ้นเรียกความสนใจจากฉันและซันพี่ฟอร์นยืนกอดอกแน่นมองซัน อย่า