แชร์

บทที่ 33

ผู้เขียน: ไห่ตงชิง
ดวงตาของเฉินทงเป็นประกาย เขาเลียมุมปากด้วยความตื่นเต้นและพูดว่า “กระหม่อมเข้าใจแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

“ไปจัดการธุระซะ”

หลี่เฉินพูดอย่างเย็นชาว่า “ข้าไม่สนใจกระบวนการ แต่ดูที่ผลลัพธ์เท่านั้น ซานเป่าอายุมากแล้ว ไม่ต้องพูดถึงว่าเขาเป็นคนสนิทของเสด็จพ่อ ไม่ใช่คนสนิทของข้า เจ้าเข้าใจไหมว่า ข้าหมายถึงอะไร?”

ใบหน้าไร้อารมณ์ของเฉินทงทอประกายความยินดีขึ้นมา เขากล่าวเสียงทุ้มว่า “กระหม่อมเข้าใจ”

หลังเฉินทงเดินจากไป หลี่เฉินก็กลับไปที่พระที่นั่งสีเจิ้งด้วยสีหน้าจริงจัง

เขากำลังสงสัยว่าใครเป็นคนทำเรื่องนี้

การคุมส่งเงินนั้น ไม่ต้องพูดถึงจำนวนมหาศาล คนธรรมดาสามัญไม่สามารถเข้าถึงมันได้ และแม้ว่าจะทำได้ ก็ไม่มีอำนาจหรือพลังที่จะจัดการมันได้อย่างสมบูรณ์แบบในเวลาอันสั้น

ต้องรู้ว่า ในอำเภอทงมีเงินสดมากมาย แม้แต่สวีฉังชิงก็เพิ่งทราบหลังจากที่นับมันแล้ว ดังนั้น ผู้ที่ริเริ่มเรื่องนี้ ไม่มีทางทราบเรื่องนี้ได้เร็วกว่าสวีฉังชิงแน่ และเมื่อคนแรกทราบข่าว ก็เตรียมการในเวลาอันสั้น หากไม่มีอำนาจมากพอ ก็ไม่มีทางทำได้

ถ้าจะพูดถึงอำนาจ จ้าวเสวียนจีคือผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย

แต่หลี่เฉินกลับรู้สึกว่า
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1165

    เสียงมาก่อนตัวหลี่เฉินเงยหน้ามองตามเสียงไป เห็นชายวัยกลางคนผู้หนึ่งเดินออกมาจากร้านขายข้าว เขาสวมเสื้อผ้าผ้าริ้วเนื้อดีเต็มตัว ทั้งร่างห้อยระย้าด้วยเครื่องประดับทองหยกจนแทบไม่มีที่ว่าง มองดูราวกับราวตากผ้าที่แขวนเครื่องประดับเดินได้ชายผู้นั้นรูปร่างผอมเพรียว แต่กลับแต่งตัวฉูดฉาดเกินควร ยืนอยู่ที่หน้าร้านจ้องมองหลี่เฉินพลางหัวเราะเยาะ “ดูจากสำเนียงของเจ้าก็น่าจะเป็นคนเมืองหลวงเหมือนกันสินะ?”ดูเหมือนเขาไม่สนใจคำตอบของหลี่เฉินเลยแม้แต่น้อย พูดต่อทันทีว่า “ในเมื่อเป็นคนเมืองหลวง แล้วดูจากท่าทางก็น่าจะไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดา คนในบ้านก็คงมีตำแหน่งมีบรรดาศักดิ์ ข้าขอเตือนด้วยความหวังดีนะ เรื่องไม่ควรยุ่งก็อย่าไปยุ่ง คำไม่ควรพูดก็อย่าเอ่ย ไม่อย่างนั้นอาจหายนะเพราะปาก เกิดเรื่องโดยไม่จำเป็น สุดท้ายไม่ใช่แค่ซวยคนเดียว แต่อาจทำให้ทั้งบ้านเดือดร้อน เจ้าวัยหนุ่ม เจ้าคิดว่าใช่ไหมล่ะ?”คำพูดชุดนี้ทำเอาเฉินทงเกือบควบคุมตัวเองไม่ไหว อยากพุ่งเข้าไปตัดหัวมันเดี๋ยวนั้นแต่หลี่เฉินยังไม่สั่ง เขาก็ไม่กล้าลงมือก่อนหลี่เฉินมองชายผู้นั้นอย่างสนอกสนใจ แล้วตรัสว่า “เจ้าคือเถ้าแก่หรือ? ร้านข้าวร้านนี้เจ้ามี

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1164

    เจิ้งเป่าหรงซึ่งเดิมทีก็วิตกกังวลอยู่แล้ว คราวนี้ถึงกับกลั้นไม่อยู่เขารีบกล่าวว่า “ไม่ถูกนี่นา ถ้าเจอสถานการณ์แบบนี้ เหตุใดพวกเจ้าไม่ไปรายงานทางการเล่า?”หญิงคนนั้นยังไม่ทันตอบ ก็มีชายวัยกลางคนคนหนึ่งที่สะพายจอบ ขากางเกงพับขึ้น เปื้อนโคลนทั่วเท้าเหมือนเพิ่งมาจากนา หัวเราะเยาะแล้วพูดขึ้นว่า “ไปรายงานทางการรึ? ไร้สาระที่สุด พวกมันล้วนแต่พวกพ้องกันทั้งนั้น ไม่รายงานยังดีเสียกว่า พอรายงานเข้าไป เบาสุดคือไม่ได้ซื้อเกลือ หนักสุดก็โดนซ้อม”“เมื่อไม่นานมานี้ น้องชายข้ากลับจากต่างเมือง เขาเป็นเจ้าหน้าที่ขนส่งน้ำในแคว้นเจียวโจว รายงานเรื่องนี้แล้วก็จริง แต่ไม่ได้โดนซ้อม ทว่าโดนลากตัวออกจากเมืองหลวงทันที ตอนนี้บ้านข้าซื้อเกลือไม่ได้เลย ต้องอาศัยเพื่อนบ้านช่วยกันแบ่งให้ถึงพอประทังชีวิต”หลี่เฉินขมวดคิ้วแน่น ถามว่า “ราคาข้าวที่สูงขึ้นเช่นนี้ ข้าวในร้านเหล่านี้ก็ต้องรับมาจากชาวบ้านหรือเจ้าของที่ดิน ราคาซื้อข้าวจากพวกเขามีเพิ่มขึ้นหรือไม่?”“ใช่ ใช่ ราคาซื้อก็น่าจะเพิ่มขึ้นมากใช่ไหม?” เจิ้งเป่าหรงถามเร่งเสริมขึ้นทันทีหลี่เฉินหันมามองเจิ้งเป่าหรงด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก “หากไม่พูดเจ้าจะตายหรือไ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1163

    “ดี เช่นนั้นก็ไปเรียกเถ้าแก่ของพวกเจ้ามา ข้าจะคุยกับเขาเอง”พนักงานร้านเห็นทีไม่คาดคิดว่าจะเจอคนเอาจริงเข้าให้คนทั่วไปเจอแค่คำพูดทำนองนี้ก็มักจะจบเรื่องไปแล้ว แต่คำสั่งให้เรียกเถ้าแก่มาของหลี่เฉินกลับทำให้เขาคิดว่าคุณชายผู้สูงศักดิ์ตรงหน้านี้น่าจะตั้งใจมาหาเรื่องคิดได้ดังนั้น สีหน้าของพนักงานก็เริ่มถมึงทึง คำพูดก็ก้าวร้าวยิ่งขึ้น“ข้าถามหน่อยว่าเจ้าโผล่มาจากไหน เถ้าแก่ของพวกข้าว่าใช่ใครจะอยากเจอก็เจอได้หรือ? คิดว่าตัวเองสำคัญนักรึไง?”“ไปให้พ้นเถอะ อย่ามาขวางเราทำมาหา…”คำพูดยังไม่ทันจบ ชายร่างใหญ่คนหนึ่งก็เดินตรงเข้ามา ยกเสื้อพนักงานขึ้นด้วยมือเดียวจนเท้าเขาลอยขึ้นจากพื้นเฉินทงยกตัวพนักงานขึ้นกลางอากาศ สายตาเย็นเยียบเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดจ้องเขม็งไปยังอีกฝ่าย เสียงต่ำชวนขนลุกว่า “คุณชายของข้าบอกให้ใครออกมาก็ต้องออกมา ยังไม่เคยมีใครกล้าไม่ออก เจ้าไม่ไปเรียก ข้าก็จะสับเจ้าทิ้งเสียเดี๋ยวนี้!”อย่ามองว่าเฉินทงในสายตาหลี่เฉินเป็นแค่ลูกนกเชื่องๆ ที่ถูกด่าทุกวัน ความจริงแล้วเขาฆ่าคนมาไม่น้อย ในยุทธภพมีฉายาว่ามือเปื้อนเลือดเพชฌฆาตเพียงแค่เฉินทงถลึงตาใส่ แม่ทัพองครักษ์เสื้อแพรระด

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1162

    “ถ้าเช่นนั้นสาวชาวบ้านก็ขอตอบเรื่องกิจการของตระกูลหลิวก่อนเพคะ”หลิวซือฉุนตอบอย่างไม่ยโสหรือถ่อมตน ความคิดเป็นระบบชัดเจน “โดยรวมถือว่าใช้ได้ ทุกอย่างยังอยู่ในแผนที่วางไว้ แม้จะมีเหตุเล็กน้อยแทรกเข้ามา แต่ตระกูลหลิวก็สามารถจัดการได้ โดยเฉพาะกิจการร้านเงิน ซึ่งช่วงนี้เห็นชัดว่ามีการเติบโตขึ้น ประชาชนเริ่มเชื่อมั่นในร้านเงินมากขึ้นเรื่อยๆ ทยอยนำเงินมาฝากไว้ในร้านกันมากขึ้น”“นอกจากนี้ กิจการสบู่ก็เริ่มขยายออกไปภายนอก ยอดขายถือว่าดีมากเพคะ”“ที่น่าแปลกใจก็คือ บางพื้นที่ห่างไกลซึ่งเดิมไม่ยอมให้ร้านเงินเข้าไป แต่เมื่อได้รับการรับรองว่าจะมีสบู่ส่งไปให้จำนวนมาก พ่อค้าในพื้นที่ก็ใจอ่อนลง เห็นได้ชัดว่าเงินทองช่างสะกดใจคน เป็นสัจธรรมที่ไม่เคยเปลี่ยน”หลี่เฉินพยักหน้า สีพระพักตร์ดีขึ้นหลายส่วน พลางตรัสว่า “เรื่องพวกนี้ กรมครัวเรือนก็เคยกราบทูลมาบ้าง แต่ก็ไม่ละเอียดเท่าที่เจ้าเล่า ดีมาก เราไม่ได้เชื่อเจ้าผิดคน”หลิวซือฉุนยิ้มบางเบา “ล้วนเป็นเพราะพระเมตตาของฝ่าบาทเพคะ”หลี่เฉินมองหลิวซือฉุนแวบหนึ่ง แก้มของนางดูเปล่งปลั่งมีเลือดฝาด โดยเฉพาะพลังจากภายในที่เปล่งออกมาทำให้ชวนจดจำและน่าประทับใจ“แ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1161

    เฉินทงราวกับตื่นจากฝัน รีบลุกขึ้นแล้วตามวั่นเจียวเจียวไปทันทีหน้าตำหนักบูรพา หลี่เฉินกับวั่นเจียวเจียวเดินนำหน้า เฉินทงตามหลังมาพร้อมกับองครักษ์เสื้อแพรทั้งลับและแจ้งกลุ่มหนึ่งคอยคุ้มกันหลี่เฉินหันไปมองเฉินทงด้านหลังแวบหนึ่ง แล้วกล่าวกับวั่นเจียวเจียวว่า “เจ้าเฉินทงผู้นี้ บางครั้งก็ปัญญาทึบเกินไป”วั่นเจียวเจียวยิ้มบางเบา กล่าวว่า “ฝ่าบาท ไม่ใช่ว่าใครๆ ก็จะเฉลียวฉลาดได้เท่าฝ่าบาทหรอกเพคะ”หลี่เฉินยกมือเคาะศีรษะนางหนึ่งที พลางกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “รู้ว่าเจ้าเห็นแก่บิดาบุญธรรมของเจ้า เลยรู้สึกสนิทกับเฉินทง ตัวเราเองก็ไม่ถือสาเจ้า ถือว่าเข้าใจได้”“ไป บอกเฉินทง ให้ส่งคนไปตามสวีจวินโหลว เจิ้งเป่าหรง กับหลิวซือฉุนมา เสมือนหมูจริงๆ ทุกเรื่องต้องให้เราคอยเตือนถึงจะรู้ว่าต้องทำอะไร”วั่นเจียวเจียวเอามือกุมหน้าผาก แลบลิ้นใส่หลี่เฉิน ก่อนจะวิ่งปรู๊ดไปด้านหลังเพื่อไปส่งข่าวหลี่เฉินส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจเขายิ่งคิดถึงซานเป่ามากขึ้นหลี่เฉินเดินเท้าออกจากตำหนักบูรพา ส่วนพวกมือดีที่เฉินทงส่งไปก็แทบจะลากแขนของสวีจวินโหลวกับเจิ้งเป่าหรงวิ่งมาตามกันทั้งสองคนกำลังผลัดเปลี่ยนงานกันอยู่

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1160

    พระที่นั่งข้างของพระที่นั่งสีเจิ้งในตำหนักบูรพา หลี่เฉินยกถ้วยชาขึ้นจิบหนึ่งคำ แล้วกล่าวกับเฉินทงที่ยืนโค้งกายอยู่เบื้องหน้าว่า “ข่าวลือต่างๆ ในเมืองหลวง เจ้าอย่าได้ใส่ใจ เรื่องใหญ่เพียงนี้ ต่อให้ปิดก็ปิดไม่มิด ขอเพียงควบคุมไว้ไม่ให้ประชาชนตื่นตระหนกก็พอแล้ว”เฉินทงกล่าวอย่างเคารพว่า “กระหม่อมเข้าใจแล้วพ่ะย่ะค่ะ”หลี่เฉินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง พลันนึกถึงแนวคิดการโฆษณาก่อนสงครามในชาติก่อน จึงกล่าวว่า “ให้คนของหน่วยบูรพาไปหานักเล่านิทานตามชาวบ้าน ให้พวกเขาแต่งเรื่องเล่าให้มากเกี่ยวกับการรุกรานของแคว้นเหลียว การรังแกอารยธรรมจงหยวนของเรา จะดัดแปลงจากประวัติศาสตร์จริงก็ได้ หรือจะกุขึ้นล้วนๆ ก็ไม่เป็นไร สรุปคือ ต้องปลุกความเคียดแค้นของราษฎรทั้งแผ่นดินต่อแคว้นเหลียวให้ลุกโชนขึ้นมา”เฉินทงเองก็เป็นคนหัวไว เมื่อหลี่เฉินพูดเช่นนี้ เขาก็เข้าใจทันทีดวงตาสว่างวาบ เฉินทงกล่าวออกมาอย่างจริงใจว่า “ฝ่าบาทหลักแหลมยิ่งนักพ่ะย่ะค่ะ”“จำต้องทำเช่นนี้”หลี่เฉินถอนหายใจพลางกล่าว “กรมครัวเรือนส่งฎีกาขึ้นมาแล้ว เกินครึ่งล้วนแต่เป็นการคร่ำครวญ การจะจัดหาเสบียงจำนวนมากในระยะเวลาอันสั้น ย่อมเป็นการลำบากแก่พ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status