Share

บทที่ 4

คำพูดเดียวของฉินอวิ๋นฟานทำให้ฝูงชนแตกตื่นทันที ทุกคนมองหน้ากัน เดาะลิ้นอยู่ในใจ เจ้านี่เป็นพวกหัวร้อนกระมัง?

เวลานี้ที่เขากำลังเผชิญหน้าอยู่คือไท่ซั่งหวง แล้วยังริอ่านล่วงเกินต่อหน้าอีก? ในเมื่อเจ้าเลือกที่จะรนหาที่ตาย ทุกคนย่อมชมอย่างยินดีปรีดา

ไท่ซั่งหวงเงยหน้าขึ้นน้อย ๆ มองไปตามเสียง เห็นเพียงชายหนุ่มรูปงามกำลังสบตาเขาอยู่ แววตาใสสะอาดแน่วแน่ แผ่กลิ่นอายทระนงออกมาจากทั้งตัว ทำให้เขาประหลาดใจเล็กน้อย

“เจ้าคือ?”

พินิจอยู่ค่อนวัน ไท่ซั่งหวงกลับไม่รู้ว่าชายหนุ่มผู้นี้คือใคร

ออกห่างจากราชสำนักเกือบยี่สิบกว่าปี ฮ่องเต้จะพาองค์ชายที่ค่อนข้างสำคัญไปเยี่ยมเขาในช่วงเทศกาลเท่านั้น มีความทรงจำกับองค์ชายอยู่ไม่กี่องค์ ทว่าจากท่วงท่าและการแต่งตัวของชายหนุ่มตรงหน้า น่าจะเป็นองค์ชายอย่างไม่ต้องสงสัย

“รัชทายาทแห่งต้าเฉียนฉินอวิ๋นฟานพ่ะย่ะค่ะ!”

ฉินอวิ๋นฟานตอบด้วยกิริยาเหมาะสม

“อ้อ?”

ไท่ซั่งหวงมองฉินอวิ๋นฟานแบบเหนือคาดเล็กน้อย จากนั้นจึงเอ่ยปากถาม “ดูท่าทาง เจ้าดูไม่โง่นี่?”

“เสด็จปู่ หลายปีที่ผ่านมาน้องเจ็ดไม่ได้เบาปัญญาสักหน่อย เขาเสแสร้ง เขาหลอกทุกคนพ่ะย่ะค่ะ”

องค์ชายรองเสริมอีกดอก พูดตีไข่ใส่นม “ทรงเห็นศพสามศพนี่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ? พวกเขาคือเสาหลักของต้าเฉียนทั้งนั้น แต่ถูกน้องเจ็ดสังหารหมด ไม่มีเหตุผลให้กล่าวถึง แค่พูดไม่ถูกหูก็ชักกระบี่สังหารคน กำเริบเสิบสานยิ่งนัก”

“นั่นสิพ่ะย่ะค่ะ ไท่ซั่งหวง พวกกระหม่อมเห็นกับตาตัวเอง รัชทายาทไม่แยกแยะดีชั่ว เห็นชีวิตคนดังผักปลา เข่นฆ่าตามอำเภอใจ น่ากลัวเหลือเกินพ่ะย่ะค่ะ”

“ไท่ซั่งหวงโปรดให้ความเป็นธรรมต่อหยางกุ้ยเฟย เจ้ากรมพิธีการหยางอี๋กับหัวหน้าหมอหลวงหัวจิ่งซานด้วย พวกเขาตายอย่างมีเงื่อนงำ ไม่ได้รับความเป็นธรรมนักพ่ะย่ะค่ะ!”

“อีกทั้งเขายังล่วงเกินไท่ซั่งหวง ไม่เห็นผู้ใหญ่อยู่ในสายตา ใช้อำนาจบาตรใหญ่ โทษให้อภัยไม่ได้ คนอหังการเช่นนี้จะละเว้นไม่ได้เด็ดขาดพ่ะย่ะค่ะ”

......

ด้วยการนำขององค์ชายรอง ทุกคนต่างส่งเสียงตำหนิฉินอวิ๋นฟานพร้อมให้ร้ายฉินอวิ๋นฟานอีกรอบ แน่จริงเจ้าก็เถียงต่อสิ แข็งต่อสิ ดูสิว่าวันนี้เจ้าจะตายหรือไม่

“ที่พวกเขาพูดเป็นความจริงหรือไม่ เจ้าเป็นคนฆ่าคนพวกนี้หรือ?”

ตอนนี้ไท่ซั่งหวงทึ่งมากกว่าเดิม มิน่าเมื่อกี้จึงเป็นบรรยากาศที่ชักกระบี่ง้างเกาทัณฑ์ ในความทรงจำของเขา ฉินอวิ๋นฟานคือรัชทายาทมิผิด แต่น่าเสียดายที่เป็นคนโง่เขลา ไร้สติปัญญาและการวางแผนที่ยิ่งใหญ่ ไร้ความสามารถในการปกครองบ้านเมือง ทว่ากมลสันดานมีจิตเมตตา

คิดไม่ถึงว่าจะทระนงตนเช่นนี้?

“มิผิด หม่อมฉันเป็นคนฆ่าเอง แต่นั่นเพราะพวกมันสมควรตาย ให้ร้ายหม่อมฉันก็คือท้าทายอำนาจแห่งราชวงศ์ ท้าทายอำนาจของหม่อมฉัน ไม่ฆ่าพวกมันยากจะระบายความแค้นในใจของหม่อมฉันได้พ่ะย่ะค่ะ!”

ฉินอวิ๋นฟานเอ่ยเสียงหนัก

ไท่ซั่งหวงไม่เพียงแต่เดือดดาลเพราะเหตุนี้ กลับเผยรอยยิ้มจาง ๆ ออกมา สำรวจตัวฉินอวิ๋นฟานบนล่าง เขาเป็นคนอย่างไรกันแน่ถึงได้เสแสร้งเป็นคนโง่งมได้สิบกว่าปีปานหนึ่งวัน?

เกิดในครอบครัวจักรพรรดิ คนที่มีนิสัยใจคออย่างนี้ได้ มีหรือจะเป็นคนธรรมดา?

ในบรรดาองค์ชายทั้งแปด พวกเขาเหล่านี้ล้วนยอดเยี่ยมมาก มีความสามารถที่จะเป็นผู้สืบทอด และปกครองบ้านเมือง จากสถานการณ์ในปัจจุบัน มีตัวเลือกที่เหมาะสมกว่าจริง ๆ

ดังนั้น เขาจึงนึกอยากโค่นรัชทายาทเบาปัญญาผู้นี้

“ว่ามา ทำไมเจ้าจึงไม่เห็นด้วย”

ไท่ซั่งหวงเอ่ยปาก

“หม่อมฉันคือรัชทายาทที่อดีตฮ่องเต้ต้าเฉียนแต่งตั้ง คือผู้สืบทอดบัลลังก์คนต่อไป นี่คือเรื่องที่มิต้องโต้แย้ง ตามธรรมเนียมพิธีการ วันพรุ่งนี้ก็คือวันที่หม่อมฉันขึ้นครองราชย์พ่ะย่ะค่ะ”

ฉินอวิ๋นฟานพูดอย่างมีพลังหนักแน่น “กลับคิดไม่ถึง กลับถูกคนวางยาในวังหลวงที่รัดกุม พาไปอยู่บนเตียงของหยางกุ้ยเฟย เหตุนี้หม่อมฉันที่เป็นรัชทายาทจึงถูกจับได้คาหนังคาเขา สอบสวนตัดสินความผิด นี่คือเรื่องที่เหลวไหลแค่ไหน เจตนาชั่วร้ายยิ่งนัก”

“หากปลดสิทธิ์การขึ้นครองราชย์ของหม่อมฉันเพราะเรื่องนี้ นี่จะไม่เป็นธรรม หม่อมฉันไม่ยอม ไม่ยอมอย่างยิ่งพ่ะย่ะค่ะ”

“เสด็จปู่ จะฟังความข้างเดียวจากน้องเจ็ดไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ เรื่องนี้ยังไม่ได้สืบสาวเรื่องราวแน่ชัด อีกทั้งจู่ ๆ น้องเจ็ดกลับโหดเหี้ยมอำมหิต หากให้เขาขึ้นบัลลังก์ในวันพรุ่งนี้จะไม่เหมาะสมพ่ะย่ะค่ะ”

หนังตาองค์ชายใหญ่กระตุกหนัก ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องขัดขวางเอาไว้ให้ได้ ถ้าฉินอวิ๋นฟานได้ขึ้นครองราชย์ ไม่ช้าหรือเร็วเรื่องนี้ต้องถูกสอบสวน ถึงตอนนั้นเขาต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย

“เสด็จปู่ แต่ไหนมาต้าเฉียนเราก็แต่งตั้งจากผู้มีความสามารถมิใช่อายุ ผู้ได้รับเกียรติรั้งตำแหน่งต้องมีความสามารถและคิดแผนการใหญ่ เก่งกาจเหนือผู้คน”

องค์ชายรองเร่งผสมโรงตามมาติด ๆ รีบอธิบาย “น้องเจ็ดเบาปัญญาสิบกว่าปี มิเคยแสดงความสามารถเลย เดิมเสด็จพ่อก็ประสงค์จะเปลี่ยนรัชทายาทอยู่แล้วแต่สวรรคตก่อน จึงทำให้น้องเจ็ดฉวยช่องว่างนี้”

......

คนอื่น ๆ ยังอยากพูดต่อ กลับถูกไท่ซั่งหวงตัดบท “พวกเจ้าไม่ต้องพูดมาก ตามธรรมเนียมพิธีการ พรุ่งนี้คือวันที่รัชทายาทขึ้นครองราชย์จริง ๆ”

“แต่ที่เจ้าใหญ่กับเจ้ารองว่ามาก็ใช่จะไม่มีเหตุผล ถ้าให้รัชทายาทขึ้นครองราชย์ในวันพรุ่งนี้ตามปกติ ยากจะให้ผู้คนยอมรับ และผิดต่อเจตนารมณ์เดิมของต้าเฉียนด้วย”

ไท่ซั่งหวงขมวดคิ้วมุ่น ลังเลครู่หนึ่งจึงเอ่ย “แต่บ้านเมืองจะขาดผู้ปกครองไม่ได้แม้เพียงหนึ่งวัน เพื่อควบคุมสถานการณ์ให้สงบ และไม่ให้รัชทายาทเสียใจ ข้าตัดสินใจจะให้รัชทายาทว่าราชการแผ่นดิน”

“ให้รัชทายาทว่าราชการแผ่นดินหรือ?”

ทุกคนเริ่มกระซิบกระซาบ การตัดสินใจอย่างนี้เท่ากับยอมให้รัชทายาทก้าวแล้วก้าวหนึ่ง แต่แค่ทำให้รัชทายาทขึ้นครองราชย์ไม่ได้ ก็ถือว่าพวกเขาประสบความสำเร็จแล้ว

การตัดสินใจเช่นนี้ทำให้ฉินอวิ๋นฟานโล่งอก การที่ไท่ซั่งหวงทำเช่นนี้ถือว่าไม่ล่วงเกินทั้งสองฝ่าย เลือกกลยุทธ์สายกลาง

ด้วยสถานการณ์ของเขาในเวลานี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะขึ้นครองราชย์ในวันพรุ่ง ถ้าเขาดึงดันจะขึ้นให้ได้ ผลลัพธ์สุดท้ายจะต้องเป็นการนองเลือด ศพเกลื่อนวังหลวงแน่...

ในความโกลาหล องค์ชายองค์อื่นต้องทำร้ายเขาเป็นคนแรกแน่ สามารถทำให้เรื่องเป็นอย่างนี้ได้ก็ถือว่าฉินอวิ๋นฟานได้ขึ้นนำในศึกชิงบัลลังก์ระหว่างเก้าองค์ชายแล้ว

“อย่าเพิ่งรีบร้อน!”

ไท่ซั่งหวงพูดต่อ “ตอนที่เสด็จพ่อของพวกเจ้ายังอยู่ เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับแคว้นเหมียวทางชายแดนตะวันตก ดังนั้นทั้งสองแคว้นจึงเคยมีสัญญาหมั้นหมายต่อกัน”

“น่าเสียดายฮ่องเต้แคว้นเหมียวมีพระธิดาแค่องค์เดียว เวลานี้นางสืบทอดบัลลังก์แคว้นเหมียวแล้ว ฮ่องเต้หญิงสืบทอดสัญญาจากพระบิดา รักษาคำมั่น เพื่อฝากฝังภาระยิ่งใหญ่ของบ้านเมือง อีกสามวันฮ่องเต้หญิงแคว้นเหมียวจะมาเลือกราชบุตรเขยที่ยอดเยี่ยมที่สุดจากบรรดาองค์ชายด้วยตัวเอง”

“อะไรนะ? ฮ่องเต้หญิงแคว้นเหมียว? ฝากฝังภาระยิ่งใหญ่ของบ้านเมืองหรือ?”

“เห็นว่าแคว้นเหมียวทางชายแดนตะวันตกเลื่องชื่อเรื่องสาวงาม องค์หญิงแคว้นเหมียวยิ่งงามล่มเมือง งามปานเซียนสวรรค์ ผู้ได้ยลโฉมนางเกินมาชาตินี้ไม่เสียใจ ฮ่องเต้หญิงองค์นี้มิใช่องค์หญิงแคว้นเหมียวที่ร่ำลือหรอกหรือ?”

“แคว้นเหมียวทรัพยากรสมบูรณ์ เศรษฐกิจรุ่งเรือง แม้จะไม่เคยติดอันดับเก้าแคว้นใหญ่มาก่อน แต่โดยรวมศักยภาพมิอาจดูแคลน ถ้าเชื่อมสัมพันธ์เกี่ยวดองกับแคว้นเรา นั่นจะไม่ทำให้ศักยภาพต้าเฉียนเราเพิ่งพูนหรือ?”

......

ข่าวที่ฮ่องเต้หญิงแคว้นเหมียวจะเลือกราชบุตรเขยจากบรรดาองค์ชายสะเทือนเลือนลั่นในฝูงชนราวกับสายอสนีบาตฟาดผ่า เหล่าองค์ชายตื่นเต้นจนมือไม้อยู่สุข นั่นคือเซียนสวรรค์ในคำร่ำลือเชียวนะ พวกเขามีโอกาสจะได้แต่งงานกับนางหรือ?

“พวกเจ้าพูดถูกต้องแล้ว บัดนี้ต้าเฉียนเรากำลังอ่อนด้อย ในกังวลนอกมีภัย ถ้าแคว้นเหมียวเข้าร่วมจริงจะคลี่คลายวิกฤตใหญ่ในเวลานี้ของต้าเฉียนได้”

ไท่ซั่งหวงเอ่ยเสียงหนัก “ดังนั้นในหมู่พวกเจ้า อีกสามวันหากใครสามารถแต่งงานกับฮ่องเต้หญิงแคว้นเหมียวได้ ก็หมายถึงว่าคนผู้นี้มีความสามารถโดดเด่นเหนือคน เช่นนั้นเขาก็จะได้เป็นฮ่องเต้องค์ต่อไปของต้าเฉียนเรา...”

Bab terkait

Bab terbaru

DMCA.com Protection Status