Share

บทที่ 4

Author: เมิ่งซานเชียน
คำพูดเดียวของฉินอวิ๋นฟานทำให้ฝูงชนแตกตื่นทันที ทุกคนมองหน้ากัน เดาะลิ้นอยู่ในใจ เจ้านี่เป็นพวกหัวร้อนกระมัง?

เวลานี้ที่เขากำลังเผชิญหน้าอยู่คือไท่ซั่งหวง แล้วยังริอ่านล่วงเกินต่อหน้าอีก? ในเมื่อเจ้าเลือกที่จะรนหาที่ตาย ทุกคนย่อมชมอย่างยินดีปรีดา

ไท่ซั่งหวงเงยหน้าขึ้นน้อย ๆ มองไปตามเสียง เห็นเพียงชายหนุ่มรูปงามกำลังสบตาเขาอยู่ แววตาใสสะอาดแน่วแน่ แผ่กลิ่นอายทระนงออกมาจากทั้งตัว ทำให้เขาประหลาดใจเล็กน้อย

“เจ้าคือ?”

พินิจอยู่ค่อนวัน ไท่ซั่งหวงกลับไม่รู้ว่าชายหนุ่มผู้นี้คือใคร

ออกห่างจากราชสำนักเกือบยี่สิบกว่าปี ฮ่องเต้จะพาองค์ชายที่ค่อนข้างสำคัญไปเยี่ยมเขาในช่วงเทศกาลเท่านั้น มีความทรงจำกับองค์ชายอยู่ไม่กี่องค์ ทว่าจากท่วงท่าและการแต่งตัวของชายหนุ่มตรงหน้า น่าจะเป็นองค์ชายอย่างไม่ต้องสงสัย

“รัชทายาทแห่งต้าเฉียนฉินอวิ๋นฟานพ่ะย่ะค่ะ!”

ฉินอวิ๋นฟานตอบด้วยกิริยาเหมาะสม

“อ้อ?”

ไท่ซั่งหวงมองฉินอวิ๋นฟานแบบเหนือคาดเล็กน้อย จากนั้นจึงเอ่ยปากถาม “ดูท่าทาง เจ้าดูไม่โง่นี่?”

“เสด็จปู่ หลายปีที่ผ่านมาน้องเจ็ดไม่ได้เบาปัญญาสักหน่อย เขาเสแสร้ง เขาหลอกทุกคนพ่ะย่ะค่ะ”

องค์ชายรองเสริมอีกดอก พูดตีไข่ใส่นม “ทรงเห็นศพสามศพนี่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ? พวกเขาคือเสาหลักของต้าเฉียนทั้งนั้น แต่ถูกน้องเจ็ดสังหารหมด ไม่มีเหตุผลให้กล่าวถึง แค่พูดไม่ถูกหูก็ชักกระบี่สังหารคน กำเริบเสิบสานยิ่งนัก”

“นั่นสิพ่ะย่ะค่ะ ไท่ซั่งหวง พวกกระหม่อมเห็นกับตาตัวเอง รัชทายาทไม่แยกแยะดีชั่ว เห็นชีวิตคนดังผักปลา เข่นฆ่าตามอำเภอใจ น่ากลัวเหลือเกินพ่ะย่ะค่ะ”

“ไท่ซั่งหวงโปรดให้ความเป็นธรรมต่อหยางกุ้ยเฟย เจ้ากรมพิธีการหยางอี๋กับหัวหน้าหมอหลวงหัวจิ่งซานด้วย พวกเขาตายอย่างมีเงื่อนงำ ไม่ได้รับความเป็นธรรมนักพ่ะย่ะค่ะ!”

“อีกทั้งเขายังล่วงเกินไท่ซั่งหวง ไม่เห็นผู้ใหญ่อยู่ในสายตา ใช้อำนาจบาตรใหญ่ โทษให้อภัยไม่ได้ คนอหังการเช่นนี้จะละเว้นไม่ได้เด็ดขาดพ่ะย่ะค่ะ”

......

ด้วยการนำขององค์ชายรอง ทุกคนต่างส่งเสียงตำหนิฉินอวิ๋นฟานพร้อมให้ร้ายฉินอวิ๋นฟานอีกรอบ แน่จริงเจ้าก็เถียงต่อสิ แข็งต่อสิ ดูสิว่าวันนี้เจ้าจะตายหรือไม่

“ที่พวกเขาพูดเป็นความจริงหรือไม่ เจ้าเป็นคนฆ่าคนพวกนี้หรือ?”

ตอนนี้ไท่ซั่งหวงทึ่งมากกว่าเดิม มิน่าเมื่อกี้จึงเป็นบรรยากาศที่ชักกระบี่ง้างเกาทัณฑ์ ในความทรงจำของเขา ฉินอวิ๋นฟานคือรัชทายาทมิผิด แต่น่าเสียดายที่เป็นคนโง่เขลา ไร้สติปัญญาและการวางแผนที่ยิ่งใหญ่ ไร้ความสามารถในการปกครองบ้านเมือง ทว่ากมลสันดานมีจิตเมตตา

คิดไม่ถึงว่าจะทระนงตนเช่นนี้?

“มิผิด หม่อมฉันเป็นคนฆ่าเอง แต่นั่นเพราะพวกมันสมควรตาย ให้ร้ายหม่อมฉันก็คือท้าทายอำนาจแห่งราชวงศ์ ท้าทายอำนาจของหม่อมฉัน ไม่ฆ่าพวกมันยากจะระบายความแค้นในใจของหม่อมฉันได้พ่ะย่ะค่ะ!”

ฉินอวิ๋นฟานเอ่ยเสียงหนัก

ไท่ซั่งหวงไม่เพียงแต่เดือดดาลเพราะเหตุนี้ กลับเผยรอยยิ้มจาง ๆ ออกมา สำรวจตัวฉินอวิ๋นฟานบนล่าง เขาเป็นคนอย่างไรกันแน่ถึงได้เสแสร้งเป็นคนโง่งมได้สิบกว่าปีปานหนึ่งวัน?

เกิดในครอบครัวจักรพรรดิ คนที่มีนิสัยใจคออย่างนี้ได้ มีหรือจะเป็นคนธรรมดา?

ในบรรดาองค์ชายทั้งแปด พวกเขาเหล่านี้ล้วนยอดเยี่ยมมาก มีความสามารถที่จะเป็นผู้สืบทอด และปกครองบ้านเมือง จากสถานการณ์ในปัจจุบัน มีตัวเลือกที่เหมาะสมกว่าจริง ๆ

ดังนั้น เขาจึงนึกอยากโค่นรัชทายาทเบาปัญญาผู้นี้

“ว่ามา ทำไมเจ้าจึงไม่เห็นด้วย”

ไท่ซั่งหวงเอ่ยปาก

“หม่อมฉันคือรัชทายาทที่อดีตฮ่องเต้ต้าเฉียนแต่งตั้ง คือผู้สืบทอดบัลลังก์คนต่อไป นี่คือเรื่องที่มิต้องโต้แย้ง ตามธรรมเนียมพิธีการ วันพรุ่งนี้ก็คือวันที่หม่อมฉันขึ้นครองราชย์พ่ะย่ะค่ะ”

ฉินอวิ๋นฟานพูดอย่างมีพลังหนักแน่น “กลับคิดไม่ถึง กลับถูกคนวางยาในวังหลวงที่รัดกุม พาไปอยู่บนเตียงของหยางกุ้ยเฟย เหตุนี้หม่อมฉันที่เป็นรัชทายาทจึงถูกจับได้คาหนังคาเขา สอบสวนตัดสินความผิด นี่คือเรื่องที่เหลวไหลแค่ไหน เจตนาชั่วร้ายยิ่งนัก”

“หากปลดสิทธิ์การขึ้นครองราชย์ของหม่อมฉันเพราะเรื่องนี้ นี่จะไม่เป็นธรรม หม่อมฉันไม่ยอม ไม่ยอมอย่างยิ่งพ่ะย่ะค่ะ”

“เสด็จปู่ จะฟังความข้างเดียวจากน้องเจ็ดไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ เรื่องนี้ยังไม่ได้สืบสาวเรื่องราวแน่ชัด อีกทั้งจู่ ๆ น้องเจ็ดกลับโหดเหี้ยมอำมหิต หากให้เขาขึ้นบัลลังก์ในวันพรุ่งนี้จะไม่เหมาะสมพ่ะย่ะค่ะ”

หนังตาองค์ชายใหญ่กระตุกหนัก ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องขัดขวางเอาไว้ให้ได้ ถ้าฉินอวิ๋นฟานได้ขึ้นครองราชย์ ไม่ช้าหรือเร็วเรื่องนี้ต้องถูกสอบสวน ถึงตอนนั้นเขาต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย

“เสด็จปู่ แต่ไหนมาต้าเฉียนเราก็แต่งตั้งจากผู้มีความสามารถมิใช่อายุ ผู้ได้รับเกียรติรั้งตำแหน่งต้องมีความสามารถและคิดแผนการใหญ่ เก่งกาจเหนือผู้คน”

องค์ชายรองเร่งผสมโรงตามมาติด ๆ รีบอธิบาย “น้องเจ็ดเบาปัญญาสิบกว่าปี มิเคยแสดงความสามารถเลย เดิมเสด็จพ่อก็ประสงค์จะเปลี่ยนรัชทายาทอยู่แล้วแต่สวรรคตก่อน จึงทำให้น้องเจ็ดฉวยช่องว่างนี้”

......

คนอื่น ๆ ยังอยากพูดต่อ กลับถูกไท่ซั่งหวงตัดบท “พวกเจ้าไม่ต้องพูดมาก ตามธรรมเนียมพิธีการ พรุ่งนี้คือวันที่รัชทายาทขึ้นครองราชย์จริง ๆ”

“แต่ที่เจ้าใหญ่กับเจ้ารองว่ามาก็ใช่จะไม่มีเหตุผล ถ้าให้รัชทายาทขึ้นครองราชย์ในวันพรุ่งนี้ตามปกติ ยากจะให้ผู้คนยอมรับ และผิดต่อเจตนารมณ์เดิมของต้าเฉียนด้วย”

ไท่ซั่งหวงขมวดคิ้วมุ่น ลังเลครู่หนึ่งจึงเอ่ย “แต่บ้านเมืองจะขาดผู้ปกครองไม่ได้แม้เพียงหนึ่งวัน เพื่อควบคุมสถานการณ์ให้สงบ และไม่ให้รัชทายาทเสียใจ ข้าตัดสินใจจะให้รัชทายาทว่าราชการแผ่นดิน”

“ให้รัชทายาทว่าราชการแผ่นดินหรือ?”

ทุกคนเริ่มกระซิบกระซาบ การตัดสินใจอย่างนี้เท่ากับยอมให้รัชทายาทก้าวแล้วก้าวหนึ่ง แต่แค่ทำให้รัชทายาทขึ้นครองราชย์ไม่ได้ ก็ถือว่าพวกเขาประสบความสำเร็จแล้ว

การตัดสินใจเช่นนี้ทำให้ฉินอวิ๋นฟานโล่งอก การที่ไท่ซั่งหวงทำเช่นนี้ถือว่าไม่ล่วงเกินทั้งสองฝ่าย เลือกกลยุทธ์สายกลาง

ด้วยสถานการณ์ของเขาในเวลานี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะขึ้นครองราชย์ในวันพรุ่ง ถ้าเขาดึงดันจะขึ้นให้ได้ ผลลัพธ์สุดท้ายจะต้องเป็นการนองเลือด ศพเกลื่อนวังหลวงแน่...

ในความโกลาหล องค์ชายองค์อื่นต้องทำร้ายเขาเป็นคนแรกแน่ สามารถทำให้เรื่องเป็นอย่างนี้ได้ก็ถือว่าฉินอวิ๋นฟานได้ขึ้นนำในศึกชิงบัลลังก์ระหว่างเก้าองค์ชายแล้ว

“อย่าเพิ่งรีบร้อน!”

ไท่ซั่งหวงพูดต่อ “ตอนที่เสด็จพ่อของพวกเจ้ายังอยู่ เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับแคว้นเหมียวทางชายแดนตะวันตก ดังนั้นทั้งสองแคว้นจึงเคยมีสัญญาหมั้นหมายต่อกัน”

“น่าเสียดายฮ่องเต้แคว้นเหมียวมีพระธิดาแค่องค์เดียว เวลานี้นางสืบทอดบัลลังก์แคว้นเหมียวแล้ว ฮ่องเต้หญิงสืบทอดสัญญาจากพระบิดา รักษาคำมั่น เพื่อฝากฝังภาระยิ่งใหญ่ของบ้านเมือง อีกสามวันฮ่องเต้หญิงแคว้นเหมียวจะมาเลือกราชบุตรเขยที่ยอดเยี่ยมที่สุดจากบรรดาองค์ชายด้วยตัวเอง”

“อะไรนะ? ฮ่องเต้หญิงแคว้นเหมียว? ฝากฝังภาระยิ่งใหญ่ของบ้านเมืองหรือ?”

“เห็นว่าแคว้นเหมียวทางชายแดนตะวันตกเลื่องชื่อเรื่องสาวงาม องค์หญิงแคว้นเหมียวยิ่งงามล่มเมือง งามปานเซียนสวรรค์ ผู้ได้ยลโฉมนางเกินมาชาตินี้ไม่เสียใจ ฮ่องเต้หญิงองค์นี้มิใช่องค์หญิงแคว้นเหมียวที่ร่ำลือหรอกหรือ?”

“แคว้นเหมียวทรัพยากรสมบูรณ์ เศรษฐกิจรุ่งเรือง แม้จะไม่เคยติดอันดับเก้าแคว้นใหญ่มาก่อน แต่โดยรวมศักยภาพมิอาจดูแคลน ถ้าเชื่อมสัมพันธ์เกี่ยวดองกับแคว้นเรา นั่นจะไม่ทำให้ศักยภาพต้าเฉียนเราเพิ่งพูนหรือ?”

......

ข่าวที่ฮ่องเต้หญิงแคว้นเหมียวจะเลือกราชบุตรเขยจากบรรดาองค์ชายสะเทือนเลือนลั่นในฝูงชนราวกับสายอสนีบาตฟาดผ่า เหล่าองค์ชายตื่นเต้นจนมือไม้อยู่สุข นั่นคือเซียนสวรรค์ในคำร่ำลือเชียวนะ พวกเขามีโอกาสจะได้แต่งงานกับนางหรือ?

“พวกเจ้าพูดถูกต้องแล้ว บัดนี้ต้าเฉียนเรากำลังอ่อนด้อย ในกังวลนอกมีภัย ถ้าแคว้นเหมียวเข้าร่วมจริงจะคลี่คลายวิกฤตใหญ่ในเวลานี้ของต้าเฉียนได้”

ไท่ซั่งหวงเอ่ยเสียงหนัก “ดังนั้นในหมู่พวกเจ้า อีกสามวันหากใครสามารถแต่งงานกับฮ่องเต้หญิงแคว้นเหมียวได้ ก็หมายถึงว่าคนผู้นี้มีความสามารถโดดเด่นเหนือคน เช่นนั้นเขาก็จะได้เป็นฮ่องเต้องค์ต่อไปของต้าเฉียนเรา...”
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1062

    ในที่สุดเหมิงฉาก็รับไม่ไหว ร้องตะโกนคำที่แทบจะเป็นความอัปยศนั้นการแข่งขันทางบู๊นี้ก็ปิดฉากลงท่ามกลางความตกตะลึงพรึงเพริดของทุกคน...เรื่องหักเหจากการคาดหมายของทุกคนเหลียงจ้านอิงและเหลียงเทียนจื้อต่างคิดไม่ถึงว่าเหลียงเทียนอี้จะล้วงปืนสั้นออกมาพลิกสถานการณ์ในการแข่งขันด้านบู๊นี้กระทั่งว่าเหลียงเทียนจื้อไม่มีโอกาสจะได้ออกโรงเลย...เช่นละครอย่างไรอย่างนั้น เนื่องจากเหมิงฉากลัวสุดขีดจึงยกมือยอมแพ้ดังนั้นเหลียงเทียนอี้จึงคว้าชัยชนะการแข่งขันรอบนี้ได้อย่างง่ายดายโดยไม่เปลืองแรงภาพมหัศจรรย์เกิดให้แบบไม่มีการเปลี่ยนแปลงลุ้นระทึกและไม่มีเลือดร้อนพลุ่งพล่านที่ใครคาดหวัง!ถึงขั้นว่าลวงตามากแต่ผลลัพธ์เป็นของจริงแท้แน่นอน เหลียงเทียนอี้ชนะแล้ว......“ดูท่าครั้งนี้ฟานเอ๋อร์จะช่วยข้าได้มากอีกแล้ว”เหลียงเทียนอี้กลับมาถึงด้านในก็คืนปืนสั้นให้ฉินอวิ๋นฟานและพรูลมหนัก ๆ“เหอะ ๆ เสด็จน้าชมเกินไปแล้ว ทุกอย่างขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของท่านทั้งหมด ไม่เกี่ยวกับข้าสักหน่อย”ฉินอวิ๋นฟานยักไหล่ มิได้กล่าวอะไรอีกถ้าจะบอกว่าเขาทำอะไรเพื่อเหลียงเทียนอี้ นั่นก็แค่บอกเขาว่าความจริงการแข่งขันนี้สามาร

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1061

    การกระทำของเหลียงเทียนอี้ทำให้ทุกคนในนั้นตกตะลึงแม้แต่เหลียงจ้านอิงที่อยู่บนปะรำก็ยังหยุดการดื่มน้ำชาไม่ได้ มองไปด้วยสีหน้าประหลาดใจ“เขาคิดจะทำอะไรกันแน่?”เหลียงเทียนจื้อมองเหลียงเทียนอี้ที่ปราศจากเครื่องป้องกันใด ๆ ด้านข้าง ใบหน้าแปลกใจนี่คือการแข่งขันบู๊นะ คือสถานที่ตีรันฟันแทง ถ้าไม่ระวังอาจต้องคมศาสตราได้จริง ๆ ศีรษะย้ายที่อยู่ หากไม่ใช่เพราะมั่นใจกับฝีมือของตัวเองมาก กอปรกับวางแผนร่วมกับทางซยงหนูดีแล้วเขาคงต้องสวมชุดเกราะหนักมารับมือกับการแข่งขันด้านบู๊วันนี้เหมือนกันทว่าการกระทำเช่นนี้ของเหลียงเทียนอี้ต่างจากการรนหาที่ตายอย่างไร?ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกแปลก เหลียงเทียนจื้อหน้าบิดเบี้ยวเล็กน้อย...ทั้งที่เขาควรดีใจกับเวลานี้ ถ้าเหลียงเทียนอี้เกิดอุบัติเหตุในการแข่งขันรอบนี้ เช่นนั้นบัลลังก์ต้องเป็นของเขาแน่แล้วแต่ใจกับกระวนกระวาย อย่างไรก็ไม่เป็นสุข“หรือว่าเขาแอบวางแผนอะไร?”ทันใดนั้นเหมิงฉาเริ่มบุกโจมตีก่อนแล้วร่างสูงใหญ่นั้นหวดขวานใหญ่หนักร้อยชั่งพลางเข้าใกล้เหลียงเทียนอี้อย่างต่อเนื่องภายใต้แสงสุริยา คมมีดนั้นน่ากลัวเช่นนี้ ราวกับแค่ถากเถือเบา ๆ ก็เฉือนศีรษ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1060

    “ข้าเอง!”ทันใดนั้นเหลียงเทียนอี้ก็ก้าวออกมาช้า ๆโง่อย่างที่คิด...เหลียงเทียนจื้อยืนยิ้มเยาะอยู่ในใจข้างหลังเขารู้นิสัยของพี่ชายดี และรู้ว่าเหลียงเทียนอี้เป็นคนดื้อรั้นมากเมื่อเจอกับสถานการณ์เช่นนี้ก็มักจะดาหน้าออกไปทันทีแม้เผชิญหน้ากับพันขุนศึกหมื่นอาชาก็ยังปราศจากความกลัวเกรง พลีตนจนตัวตาย...แต่พฤติกรรมวู่วามเช่นนี้ กลัวแต่ต้องจบอย่างอนาถในท้ายที่สุด“ฮ่า ๆ ๆ รัชทายาทกล้าหาญดังคาด!” เหมิงฉาหัวเราะเสียงดัง “ปกติยังนึกว่าท่านเป็นแต่สะบัดพู่กันขีดเขียน วันนี้ข้าอยากลองดูสิว่าฝีมือดาบกระบี่ของท่านจะล้ำลึกหรือไม่?”เพิ่งกล่าวจบ เหมิงฉาก็กวัดแกว่งขวานใหญ่พลางเดินประชิดไปทางเหลียงเทียนอี้ทีละก้าวรูปร่างใหญ่นั้น ร่างกายแข็งแรงนั้น แค่ยืนอยู่ก็สร้างแรงกดดันที่มองไม่เห็นแล้วทำให้หลาย ๆ คนเห็นแล้วอดเกิดใจกลัวอย่างหนึ่งขึ้นมาไม่ได้“อุ๊ย ท่านพี่จะเอาชนะสัตว์ประหลาดตัวนี้ยังไง?”เหลียงจื่อฝูที่อยู่บนปะรำหน้าทุกข์ร้อน สองมือบีบผ้าเช็ดหน้าแน่น สีหน้าซีดไปเล็กน้อยนางจ้องเหลียงเทียนอี้กลางลานฝึกซ้อม“ท่านพี่ไม่มีความสามารถด้านนี้เท่าไร ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเหมิงฉา!”ผู้เป็นน้องสาว

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1059

    เหลียงเทียนอี้ขมวดคิ้วแน่น ใบหน้าราบเรียบ มองอารมณ์ไม่ออกแต่ในใจเขารู้ดี การต่อสู้ครั้งนี้ได้เปิดฉากอย่างเป็นทางการตั้งแต่เหมิงฉาเริ่มพูดแล้วนี่คือการหยามหน้า คือการหยามเหยียดอย่างชัดเจนไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลย“เป็นยังไง? องค์ชายสาม?”เหมิงฉาเมินเหลียงเทียนอี้ที่อยู่อีกทางหนึ่ง แล้วใช้สายตาท้าทายมองไปทางเหลียงเทียนจื้อ ก่อนจะเอ่ยเสียงเย็น “ได้ยินว่าฝีมือการใช้ดาบกระบี่ขององค์ชายสามค่อนข้างร้ายกาจ วันนี้ข้าขอท้าทายสักหน่อยเถิด”“มิเป็นไร” เหลียงเทียนจื้อฉีกยิ้ม ใบหน้าเปื้อนไปด้วยความกระหยิ่มใจจากนั้นก็ชักกระบี่ล้ำค่าคู่กายออกมาจากตรงเอวช้า ๆการต่อสู้ครั้งนี้ คือของเขาเท่านั้น!และเป็นเขาได้เท่านั้น!เขาต้องการให้ทุกคนรู้ว่าเขาเหลียงเทียนจื้อต่างหากที่เป็นผู้ชนะในท้ายที่สุดคนนั้น คือคนที่สามารถเอาชนะซยงหนูได้อย่างแท้จริง!......“ดูท่าทุกอย่างจะดำเนินไปตามแผนนะ”เหลียงจ้านอิงดื่มน้ำชาสบายใจเฉิบอยู่บนปะรำมองผลสะท้อนกลับอย่างอบอุ่นของเหล่าผู้ชม จิตใจยิ่งฮึกเหิมตื่นเต้นไม่พูดไม่ได้เลย ถ้อยคำนั้นของเหมิงฉาทำให้เกิดผลดีเยี่ยม สามารถชักจูงอารมณ์ของทุกคนได้ในพริบตาเขาเช

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1058

    ตกลงไว้แต่แรกว่าเป็นการแข่งขันรูปแบบปิด และไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร นอกจากราชวงศ์จะมิมีผู้ใดล่วงรู้ทว่าตอนนี้กลับแข่งขันในลานกว้างต่อหน้าธารกำนัล?หากท่านพี่แพ้มิต้องเป็นที่หัวเราะไปทั่วหรือ?“นี่ก็คือผลลัพธ์ที่ทางเหลียงชินอ๋องต้องการกระมัง?”ฉินอวิ๋นฟานนั่งลงด้านข้าง ยิ้มพูดอย่างเฉยชา “ในฐานะที่เป็นละครฉายซ้ำของวันนี้ พวกเขาแค่ต้องการให้ทุกคนได้เห็นความประดักประเดิดของเสด็จน้าเท่านั้น”แต่แพ้จากการต่อสู้เช่นนั้นผลลัพธ์ต้องเทข้างแน่โอรสสวรรค์ของต้าเหลียงที่กล่าวขานกลับแพ้ให้กับคนป่าเถื่อน ทั้งความสามารถยังมิสู้องค์ชายสามเหลียงเทียนจื้อขอเพียงมีการพูดประเภทนี้ต่อไป ไม่นานอัตราการสนับสนุนเหลียงเทียนจื้อก็จะพุ่งสูงลูกไม้พรรค์นี้ช่างโหดเหี้ยมนัก“น่ารังเกียจจริง ๆ...” คิ้วงามเหลียงจื่อฝูย่นยู่เล็กน้อย อดกระตุกมุมปากไม่ได้ “ไม่เคยคิดเลยว่าพวกเขาจะใช้วิธีการต่ำช้าเช่นนี้”“เมื่อวานท่านพี่ชนะการแข่งขันด้านบุ๋นกับซยงหนูในท้องพระโรง พวกเขาไม่เห็นจะพูดกันเลย เลวทรามจริง ๆ!”ฉินอวิ๋นฟานหัวเราะอย่างไม่ออกความเห็นเขากลับไม่ใส่ใจว่าเมื่อวานจะชนะหรือแพ้ วันนี้ต่างหากที่เป็นส่วนสำค

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1057

    สำหรับเหลียงเทียนอี้ การแข่งขันในวันนี้ค่อนข้างน่าตกใจแต่ยังดีที่สุดท้ายเขาสามารถคลี่คลายได้อย่างน่าอัศจรรย์ ทำให้พวกซยงหนูหน้าบึ้งตึง โจมตีจนพวกเขารับมือไม่ทันดูท่าปกติว่างเว้นจากการงานอ่านหนังสือให้มากจะมีประโยชน์...หลังประชุมเช้า เหลียงเทียนอี้ก็อดรนทนไม่ไหวบอกข่าวดีกับฉินอวิ๋นฟาน อยากแบ่งปันความสุขและความเปรมปรีดิ์ของตนแต่พอได้ยินฉินอวิ๋นฟานตอบกลับ เขาจึงตระหนักว่าเรื่องราวไม่ได้เรียบง่ายธรรมดาอย่างที่เขาคิดอย่างนั้น“การแข่งขันทางบู๊ในวันพรุ่งนี้จึงจะเป็นส่วนสำคัญอย่างแท้จริง”คำพูดราบเรียบประโยคหนึ่งของฉินอวิ๋นฟานทำให้ความยินดีปรีดาของเหลียงเทียนอี้ในแต่เดิมสูญสิ้น สีหน้าอึมครึมมากขึ้นเรื่อย ๆ“ข้าย่อมรู้ดี...แต่ปกติ คนที่จะชนะในการแข่งขันทางบู๊คงจะเป็นน้องสาม”เกี่ยวกับจุดนี้แทบไม่มีอะไรให้ลุ้นเพราะเหลียงเทียนจื้อร่ำเรียนกับเหลียงจ้านอิงแต่เล็ก อีกทั้งยังเคยเข้าสนามรบฟาดฟันกับศัตรู ด้านประสบการณ์การรบ จึงมีความคล่องมากกว่าเป็นธรรมดาเช่นนี้ หากคิดจะชิงคะแนนหนึ่งมาจากมือของเหลียงเทียนจื้อ คาดว่าต้องยากเป็นพิเศษเมื่อเห็นเหลียงเทียนอี้มีท่าทางปราศจากใจฮึดสู้ ฉินอวิ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status