Share

บทที่ 8

Penulis: เมิ่งซานเชียน
“เฮ่อชินอ๋องฉินอ้าว? เสด็จอาของข้าหรือ?”

ฉินอวิ๋นฟานต้องมีความทรงจำเกี่ยวกับคนผู้นี้อยู่แล้ว เขาคืออนุชาลำดับที่สิบสามของอดีตฮ่องเต้ คือผู้ที่ทำตัวไม่โดดเด่นที่สุด แทบจะไม่ยุ่งงานราชกิจเลย ขณะอดีตฮ่องเต้ชิงบัลลังก์ เขาคือผู้พิทักษ์ที่ภักดีที่สุดของอดีตฮ่องเต้

หลังจากอดีตฮ่องเต้ขึ้นครองราชย์ เขาถอยไปอยู่เบื้องหลัง ใช้ชีวิตปลดเกษียณ

“ถ้าข้าจำไม่ผิด ยี่สิบปีก่อนถังเจิ้นไห่น่าจะเป็นรองแม่ทัพคนหนึ่งในกระโจมของเฮ่อชินอ๋อง ถ้าบอกว่าระหว่างพวกเขาไม่มีความเกี่ยวข้องกัน ข้าไม่เชื่อหรอก”

อู่จ้านกล่าวอย่างหนักแน่น

“อื่ม! เป็นข้า ข้าก็ไม่เชื่อเหมือนกัน!”

คงเพราะการจัดระเบียบขั้วอิทธิพลในเวลานี้ หัวของฉินอวิ๋นฟานจึงแทบจะระเบิด ทางแจ้งมีสองใหญ่ ทางลับยังมีผู้แข็งแกร่งน่ากลัวอีกคนหนึ่ง

ฉินอวิ๋นฟานถาม “แล้วพวกเราเล่า?”

“หือ...พวกเรา?”

อู่จ้านส่ายหน้าด้วยความจนใจ เอ่ย “พวกเราไม่มีอะไรเลย ไร้รากฐาน ไร้ความสามารถ ได้แต่พึ่งพาตัวเองแล้ว”

“แย่ แย่เช่นนี้เชียวหรือ?”

ฉินอวิ๋นฟานมุมปากกระตุก นี่มันจะทุเรศไปแล้วมั้ง? เป็นถึงรัชทายาทในรัชกาลปัจจุบัน แต่ไม่มีคนสนับสนุนเลยเนี่ยนะ?

“ท่านคิดว่าอย่างไรเล่า?”

อู่จ้านกล่าวอย่างจนปัญญา “ก่อนที่อดีตฮ่องเต้จะชิงบัลลังก์เคยทำการแลกเปลี่ยนกับต้าเหลียง ต้าเหลียงจะส่งทหารมาช่วยเสด็จพ่อของท่าน ถ้าได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้แล้วจะต้องแต่งตั้งมารดาของท่านเป็นฮองเฮา และแต่งตั้งท่านเป็นรัชทายาท มิเช่นนั้นด้วยสภาพการณ์ของท่านในตอนนี้จะถูกแต่งตั้งเป็นรัชทายาทได้ยังไง?”

ฉินอวิ๋นฟานทำหน้าจนใจ สถานการณ์ลำบากกว่าที่คิดมาก

“ฉิบหาย เปิดเกมมาก็เป็นโหมดนรกแล้วเหรอะ!”

ฉินอวิ๋นฟานสีหน้าปั้นยาก หน้าดำคร่ำเครียดถาม “ในราชสำนักมีคนที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดหรือไม่?”

“ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด...ก็มีอยู่คนหนึ่งเหมือนกัน ไท่เว่ย[footnoteRef:1]ระดับหนึ่งชั้นเอก หนึ่งในซันกง[footnoteRef:2] เขาไม่ยุ่งเกี่ยวเรื่องศึกระหว่างองค์ชายเลย อ้างป่วยอยู่บ้านครึ่งปีกว่าแล้ว” [1: เทียบกับผู้บัญชาการทหารสูงสุดหรือสมุหกลาโหมในปัจจุบัน] [2: ขุนนางตำแหน่งสูงสุดในราชสำนักซึ่งจะแตกต่างกันในแต่ละยุคสมัย]

อู่จ้านส่ายหน้าเอ่ย “ท่านคิดจะดึงเขามาเป็นพวกหรือ มันไม่มีความหวังหรอก เลิกคิดให้เร็วเถิด!”

“เช่นนั้นหรือ? ทำไมเล่า?”

“เขาแหนงหน่ายศึกในราชสำนักมานานแล้ว อีกอย่าง เขาปฏิเสธพวกองค์ชายใหญ่ องค์ชายรองอย่างชัดเจน แทบจะไม่มีท่าทีว่าจะหวนคืนสักนิด ท่านคิดว่าท่านมีคุณสมบัติ มีข้อได้เปรียบอะไรให้เขากลับราชสำนัก อยู่ฝ่ายของท่านได้เล่า?”

“แล้วเขาไม่มีจุดอ่อนอะไรเลยหรือ?”

“มี จุดอ่อนเพียงอย่างเดียวก็คือลูกสาวของเขา ลูกสาวแทบจะเป็นชีวิตของเขา”

“อ้อ? นี่ยังไม่ง่ายหรือ!”

ฉินอวิ๋นฟานกระหยิ่มใจยิ้มพูด

“เอ่อ รัชทายาท จะวางแผนกับลูกสาวไท่เว่ยไม่ได้นะขอรับ ไม่อย่างนั้นเขาอาจเอาชีวิตท่านได้”

อู่จ้านเห็นท่าทีจะเอาให้ได้ของฉินอวิ๋นฟาน บ่งบอกว่าเขามีแผนการชัดเจน แต่เขาไม่รู้ว่าไท่เว่ยรักและปกป้องบุตรสาวอย่างไร ใครกล้าแตะต้องนาง เขาจะสู้ตายกับคนผู้นั้นแน่นอน

“เฮ้ย! โหดอย่างนั้นเลยหรือ?”

ฉินอวิ๋นฟานกระตุกเล็กน้อย ตาแก่นี่กล้าหาญอย่างนี้เลย? เพื่อลูกสาวสละได้แม้แต่ชีวิต? นี่ชักจะยุ่งแล้วสิ...ดีไม่ดีจะเสียหลักได้

“ให้ตายเถอะ สงสัยพวกเราจะมาถึงขั้นจนตรอกแล้วสิ”

ฉินอวิ๋นฟานพูดด้วยใจร้อนรุ่ม

“แต่มันก็ยังไม่ถึงขั้นนั้นเสียทีเดียวขอรับ”

ราวกับอู่จ้านคิดอะไรขึ้นมาได้ “ข้าเคยเป็นหัวหน้าค่ายทานหลางมาก่อน พี่น้องที่นั่นไม่เลวทีเดียว ตั้งแต่ข้าถูกย้าย พี่น้องข้าก็ขึ้นเป็นหัวหน้าค่ายแทน เวลานี้ถูกองค์ชายใหญ่ทำจนไม่เป็นท่า ถ้าข้าไปเจรจาดี ๆ สักหน่อย พวกเขาอาจเข้าพวกกับรัชทายาทก็ได้”

“อ้อ?”

ฉินอวิ๋นฟานดวงตาเป็นประกาย “ไม่ต้องหรอก ข้าจะไปโน้มน้าวพวกเขาด้วยตัวเอง!”

“แต่ภารกิจสำคัญที่สุดในตอนนี้คือการรับมือกับการประลองในสามวันให้หลัง ข้าต้องชนะการประลองรอบนี้และแต่งงานกับฮ่องเต้หญิงแคว้นเหมียวจึงจะดี ไม่อย่างนั้นทุกอย่างที่ว่ามาก็คือเสียเปล่า!

ฉินอวิ๋นฟานเอ่ยถาม “ท่านรู้จักช่างตีเหล็กที่ดีที่สุดในต้าเฉียนว่าเป็นใครหรือไม่?”

“ช่างตีเหล็กหรือ? ตอนนี้เป็นช่วงสงคราม ช่างตีเหล็กจึงเป็นอาชีพที่มีอยู่น้อยมาก พวกที่ขึ้นชื่อหน่อยจะถูกขั้วอิทธิพลใหญ่ดึงเข้าพวกไปหมด ช่างตีเหล็กดี ๆ ไม่ตกมาถึงพวกเราหรอก”

อู่จ้านส่ายหน้าพูด “แต่ข้ากลับรู้จักคนหนึ่งที่ฝีมือดีมาก เชี่ยวชาญงานไม้กับการทำเครื่องสำริดจำนวนหนึ่ง แถมยังมีอาจารย์ดีอีก เป็นหนึ่งในสิบศิษย์เด่นล้ำของหลู่กง”

“แต่คนผู้นี้ยโสดื้อรั้น ขนาดพวกองค์ชายใหญ่ไปเชื้อเชิญให้เขาเข้าร่วมด้วยไมตรีเองยังถูกปฏิเสธหมด ไม่ยอมอยู่ใต้อาณัติใคร ถ้าท่านสนใจข้าจะพาท่านไปลองดูก็ได้”

“หลู่กง? ใช่คนที่ชื่อว่ากงซูปันหรือเรียกว่าหลู่ปัน[footnoteRef:3]ไหม?” [3: ช่างฝีมือสมัยจั้งกว๋อ]

ฉินอวิ๋นฟานถามด้วยความฉงนเล็กน้อย

ในความทรงจำของเขา คนที่สามารถทำของพวกนี้ มีชื่อเสียงมากและแซ่หลู่มีแค่หลู่ปันเท่านั้น เป็นตัวตนที่ระดับตำนานในสมัยโบราณเลยทีเดียว

“เอ่อ ถูกต้อง ท่าน ท่านรู้จักคนผู้นี้หรือ?”

อู่จ้านอึ้งเหมือนกัน หลู่กงมีชื่อเสียงโด่งดังทั่วแผ่นดิน แต่คนที่รู้จักชื่อจริงของเขามีไม่มาก อีกทั้งรัชทายาทอยู่ในวัง น่าจะไม่รู้เรื่องราวภายนอกจึงจะถูก

“เคยได้ยินมานิดหน่อยน่ะ!”

ฉินอวิ๋นฟานตกตะลึงสุดขีด คิดไม่ถึงว่าหลู่ปันในโลกคู่ขนานนี้จะเหมือนกับหลู่ปันในประวัติศาสตร์เกือบหมด ฝีมือประณีตเยี่ยมยอด ชวนให้คนถอดถอนใจเมื่อพบเห็น

“ได้เวลาแล้ว อาจ้าน พวกท่านไปเจอคนผู้นี้กับข้าหน่อยเถอะ”

ฉินอวิ๋นฟานมุ่งหน้าออกจากวังพร้อมอู่จ้านและเฉินม่อ!

หน้าประตูร้านแกะสลักเจี้ยงซิน ชายคนหนึ่งเล่นของเล่นอยู่ในมือผ่อนคลายสบายใจ ติดพันไม่อยากวาง อู่จ้านเดินเข้าไปคำนับและทักทายขึ้นว่า “ท่านหลู่หนี ไม่ทราบว่าพอมีเวลาหรือไม่?”

ชายผู้มีนามว่าหลู่หนีชายตามองมาเล็กน้อย ก่อนจะตอบอย่างไม่แยแส “มีอะไร? ไม่เห็นหรือว่าข้ากำลังยุ่ง?”

“เอ่อ...”

อู่จ้านรู้สึกพูดไม่ออกทันที มองฉินอวิ๋นฟานด้วยสีหน้าอีหลักอีเหลื่อ

ฉินอวิ๋นฟานโบกมือเป็นการบอกให้เขาออกไปก่อน เห็นเพียงเขาเดินขึ้นหน้าสองก้าว ยกมือแล้วตบผัวะเข้าให้!

ซี้ด...

เสียงดังชัดแจ๋วแว๋ว แถมยังออกแรงเต็มกำลัง ตบหลู่หนีหงายหลังนอนแอ้งแม้งอยู่กับพื้นไปเลย

หลู่หนีเดือดดาลเดี๋ยวนั้น เป่าหนวดถลึงตาตะคอก “เจ้ามารดามันเป็นใครถ้ากล้าตบคนไปเรื่อยอย่างนี้? อยากตายหรือ?”

“รัชทายาทต้าเฉียนผู้ว่าราชการแผ่นดินฉินอวิ๋นฟาน!”

ฉินอวิ๋นฟานเผยชื่อเสียงเรียงนามของตัวเองออกมาโดยตรง

“รัชทายาทโง่งมของต้าเฉียนนั่นน่ะนะ?”

หลู่หนีทำหน้าทึ่ง จากนั้นก็พูดด้วยความฉุนเฉียว “เป็นรัชทายาทแล้วยังไง? เป็นรัชทายาทก็ตบคนตามอำเภอใจต่อหน้าสาธารณชนได้หรือ? ยังมีกฎหมายอยู่ไหม?”

อู่จ้านอยู่ข้าง ๆ อึ้งไปเลย หลู่หนีคือศิษย์ของคนมีชื่อเสียงนะ แถมยังโด่งดังระดับหนึ่งในต้าเฉียนด้วย นี่รัชทายาทมอบฝ่ามือให้เขาเลยหรือ?

นี่จะมาไม้ไหนเนี่ย?

“ที่ข้าตบเจ้าก็เพราะเจ้าสมควรโดนแล้ว ท่านกงซูปันมีลูกศิษย์อย่างเจ้าได้ ข้าล่ะเสียใจแทนเขาจริง ๆ!”

ครั้นฉินอวิ๋นฟานกล่าวออกมาก็ทำเอาหลู่หนีงงงวยไปเลย นี่เขาทำอะไรผิดหรือ ทำไมต้องยกอาจารย์ของเขาออกมาอ้างด้วย? เขาไม่เข้าใจเลยว่ารัชทายาทตรงหน้าจะมาไม้ไหนกันแน่

“ข้า ข้า ข้าทำไม?”

หลู่หนีชักหวั่น ๆ อย่างไม่มีเหตุผล ถามด้วยหน้าฉงน

“อาจารย์ของเจ้าตรากตรำตั้งใจศึกษา พัฒนางานฝีมือและทักษะการหลอมเครื่องสำริดไม่หยุดหย่อน สร้างความอัศจรรย์ให้กับคนรุ่นหลัง เป็นผู้ที่เป็นดั่งเทพนิยายในใจคน”

ฉินอวิ๋นฟานตวาด “แล้วเจ้าล่ะ? วัน ๆ เอาแต่อ้างชื่อของท่านกงซูหากินรอวันตาย ย่ำอยู่กับที่ ไม่คิดก้าวหน้า แล้วยังทำเป็นเก่งทั้งวัน เจ้าคิดว่าเจ้าสมควรโดนตบหรือไม่?”

“ข้า ข้าเป็นเช่นนั้นหรือ?”

หลังจากตวาดตำหนิไปคำรบหนึ่ง หลู่หนีมึนอย่างสมบูรณ์ หากเทียบกับผลงานของอาจารย์ เขารู้สึกว่าตัวเองสู้ไม่ได้จริง ฝีมือทั้งหมดล้วนเป็นมาจากพื้นฐานของอาจารย์

ย่ำอยู่กับที่...หากินรอวันตาย...ข้าเป็นเช่นนั้นหรือ?
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1062

    ในที่สุดเหมิงฉาก็รับไม่ไหว ร้องตะโกนคำที่แทบจะเป็นความอัปยศนั้นการแข่งขันทางบู๊นี้ก็ปิดฉากลงท่ามกลางความตกตะลึงพรึงเพริดของทุกคน...เรื่องหักเหจากการคาดหมายของทุกคนเหลียงจ้านอิงและเหลียงเทียนจื้อต่างคิดไม่ถึงว่าเหลียงเทียนอี้จะล้วงปืนสั้นออกมาพลิกสถานการณ์ในการแข่งขันด้านบู๊นี้กระทั่งว่าเหลียงเทียนจื้อไม่มีโอกาสจะได้ออกโรงเลย...เช่นละครอย่างไรอย่างนั้น เนื่องจากเหมิงฉากลัวสุดขีดจึงยกมือยอมแพ้ดังนั้นเหลียงเทียนอี้จึงคว้าชัยชนะการแข่งขันรอบนี้ได้อย่างง่ายดายโดยไม่เปลืองแรงภาพมหัศจรรย์เกิดให้แบบไม่มีการเปลี่ยนแปลงลุ้นระทึกและไม่มีเลือดร้อนพลุ่งพล่านที่ใครคาดหวัง!ถึงขั้นว่าลวงตามากแต่ผลลัพธ์เป็นของจริงแท้แน่นอน เหลียงเทียนอี้ชนะแล้ว......“ดูท่าครั้งนี้ฟานเอ๋อร์จะช่วยข้าได้มากอีกแล้ว”เหลียงเทียนอี้กลับมาถึงด้านในก็คืนปืนสั้นให้ฉินอวิ๋นฟานและพรูลมหนัก ๆ“เหอะ ๆ เสด็จน้าชมเกินไปแล้ว ทุกอย่างขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของท่านทั้งหมด ไม่เกี่ยวกับข้าสักหน่อย”ฉินอวิ๋นฟานยักไหล่ มิได้กล่าวอะไรอีกถ้าจะบอกว่าเขาทำอะไรเพื่อเหลียงเทียนอี้ นั่นก็แค่บอกเขาว่าความจริงการแข่งขันนี้สามาร

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1061

    การกระทำของเหลียงเทียนอี้ทำให้ทุกคนในนั้นตกตะลึงแม้แต่เหลียงจ้านอิงที่อยู่บนปะรำก็ยังหยุดการดื่มน้ำชาไม่ได้ มองไปด้วยสีหน้าประหลาดใจ“เขาคิดจะทำอะไรกันแน่?”เหลียงเทียนจื้อมองเหลียงเทียนอี้ที่ปราศจากเครื่องป้องกันใด ๆ ด้านข้าง ใบหน้าแปลกใจนี่คือการแข่งขันบู๊นะ คือสถานที่ตีรันฟันแทง ถ้าไม่ระวังอาจต้องคมศาสตราได้จริง ๆ ศีรษะย้ายที่อยู่ หากไม่ใช่เพราะมั่นใจกับฝีมือของตัวเองมาก กอปรกับวางแผนร่วมกับทางซยงหนูดีแล้วเขาคงต้องสวมชุดเกราะหนักมารับมือกับการแข่งขันด้านบู๊วันนี้เหมือนกันทว่าการกระทำเช่นนี้ของเหลียงเทียนอี้ต่างจากการรนหาที่ตายอย่างไร?ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกแปลก เหลียงเทียนจื้อหน้าบิดเบี้ยวเล็กน้อย...ทั้งที่เขาควรดีใจกับเวลานี้ ถ้าเหลียงเทียนอี้เกิดอุบัติเหตุในการแข่งขันรอบนี้ เช่นนั้นบัลลังก์ต้องเป็นของเขาแน่แล้วแต่ใจกับกระวนกระวาย อย่างไรก็ไม่เป็นสุข“หรือว่าเขาแอบวางแผนอะไร?”ทันใดนั้นเหมิงฉาเริ่มบุกโจมตีก่อนแล้วร่างสูงใหญ่นั้นหวดขวานใหญ่หนักร้อยชั่งพลางเข้าใกล้เหลียงเทียนอี้อย่างต่อเนื่องภายใต้แสงสุริยา คมมีดนั้นน่ากลัวเช่นนี้ ราวกับแค่ถากเถือเบา ๆ ก็เฉือนศีรษ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1060

    “ข้าเอง!”ทันใดนั้นเหลียงเทียนอี้ก็ก้าวออกมาช้า ๆโง่อย่างที่คิด...เหลียงเทียนจื้อยืนยิ้มเยาะอยู่ในใจข้างหลังเขารู้นิสัยของพี่ชายดี และรู้ว่าเหลียงเทียนอี้เป็นคนดื้อรั้นมากเมื่อเจอกับสถานการณ์เช่นนี้ก็มักจะดาหน้าออกไปทันทีแม้เผชิญหน้ากับพันขุนศึกหมื่นอาชาก็ยังปราศจากความกลัวเกรง พลีตนจนตัวตาย...แต่พฤติกรรมวู่วามเช่นนี้ กลัวแต่ต้องจบอย่างอนาถในท้ายที่สุด“ฮ่า ๆ ๆ รัชทายาทกล้าหาญดังคาด!” เหมิงฉาหัวเราะเสียงดัง “ปกติยังนึกว่าท่านเป็นแต่สะบัดพู่กันขีดเขียน วันนี้ข้าอยากลองดูสิว่าฝีมือดาบกระบี่ของท่านจะล้ำลึกหรือไม่?”เพิ่งกล่าวจบ เหมิงฉาก็กวัดแกว่งขวานใหญ่พลางเดินประชิดไปทางเหลียงเทียนอี้ทีละก้าวรูปร่างใหญ่นั้น ร่างกายแข็งแรงนั้น แค่ยืนอยู่ก็สร้างแรงกดดันที่มองไม่เห็นแล้วทำให้หลาย ๆ คนเห็นแล้วอดเกิดใจกลัวอย่างหนึ่งขึ้นมาไม่ได้“อุ๊ย ท่านพี่จะเอาชนะสัตว์ประหลาดตัวนี้ยังไง?”เหลียงจื่อฝูที่อยู่บนปะรำหน้าทุกข์ร้อน สองมือบีบผ้าเช็ดหน้าแน่น สีหน้าซีดไปเล็กน้อยนางจ้องเหลียงเทียนอี้กลางลานฝึกซ้อม“ท่านพี่ไม่มีความสามารถด้านนี้เท่าไร ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเหมิงฉา!”ผู้เป็นน้องสาว

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1059

    เหลียงเทียนอี้ขมวดคิ้วแน่น ใบหน้าราบเรียบ มองอารมณ์ไม่ออกแต่ในใจเขารู้ดี การต่อสู้ครั้งนี้ได้เปิดฉากอย่างเป็นทางการตั้งแต่เหมิงฉาเริ่มพูดแล้วนี่คือการหยามหน้า คือการหยามเหยียดอย่างชัดเจนไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลย“เป็นยังไง? องค์ชายสาม?”เหมิงฉาเมินเหลียงเทียนอี้ที่อยู่อีกทางหนึ่ง แล้วใช้สายตาท้าทายมองไปทางเหลียงเทียนจื้อ ก่อนจะเอ่ยเสียงเย็น “ได้ยินว่าฝีมือการใช้ดาบกระบี่ขององค์ชายสามค่อนข้างร้ายกาจ วันนี้ข้าขอท้าทายสักหน่อยเถิด”“มิเป็นไร” เหลียงเทียนจื้อฉีกยิ้ม ใบหน้าเปื้อนไปด้วยความกระหยิ่มใจจากนั้นก็ชักกระบี่ล้ำค่าคู่กายออกมาจากตรงเอวช้า ๆการต่อสู้ครั้งนี้ คือของเขาเท่านั้น!และเป็นเขาได้เท่านั้น!เขาต้องการให้ทุกคนรู้ว่าเขาเหลียงเทียนจื้อต่างหากที่เป็นผู้ชนะในท้ายที่สุดคนนั้น คือคนที่สามารถเอาชนะซยงหนูได้อย่างแท้จริง!......“ดูท่าทุกอย่างจะดำเนินไปตามแผนนะ”เหลียงจ้านอิงดื่มน้ำชาสบายใจเฉิบอยู่บนปะรำมองผลสะท้อนกลับอย่างอบอุ่นของเหล่าผู้ชม จิตใจยิ่งฮึกเหิมตื่นเต้นไม่พูดไม่ได้เลย ถ้อยคำนั้นของเหมิงฉาทำให้เกิดผลดีเยี่ยม สามารถชักจูงอารมณ์ของทุกคนได้ในพริบตาเขาเช

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1058

    ตกลงไว้แต่แรกว่าเป็นการแข่งขันรูปแบบปิด และไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร นอกจากราชวงศ์จะมิมีผู้ใดล่วงรู้ทว่าตอนนี้กลับแข่งขันในลานกว้างต่อหน้าธารกำนัล?หากท่านพี่แพ้มิต้องเป็นที่หัวเราะไปทั่วหรือ?“นี่ก็คือผลลัพธ์ที่ทางเหลียงชินอ๋องต้องการกระมัง?”ฉินอวิ๋นฟานนั่งลงด้านข้าง ยิ้มพูดอย่างเฉยชา “ในฐานะที่เป็นละครฉายซ้ำของวันนี้ พวกเขาแค่ต้องการให้ทุกคนได้เห็นความประดักประเดิดของเสด็จน้าเท่านั้น”แต่แพ้จากการต่อสู้เช่นนั้นผลลัพธ์ต้องเทข้างแน่โอรสสวรรค์ของต้าเหลียงที่กล่าวขานกลับแพ้ให้กับคนป่าเถื่อน ทั้งความสามารถยังมิสู้องค์ชายสามเหลียงเทียนจื้อขอเพียงมีการพูดประเภทนี้ต่อไป ไม่นานอัตราการสนับสนุนเหลียงเทียนจื้อก็จะพุ่งสูงลูกไม้พรรค์นี้ช่างโหดเหี้ยมนัก“น่ารังเกียจจริง ๆ...” คิ้วงามเหลียงจื่อฝูย่นยู่เล็กน้อย อดกระตุกมุมปากไม่ได้ “ไม่เคยคิดเลยว่าพวกเขาจะใช้วิธีการต่ำช้าเช่นนี้”“เมื่อวานท่านพี่ชนะการแข่งขันด้านบุ๋นกับซยงหนูในท้องพระโรง พวกเขาไม่เห็นจะพูดกันเลย เลวทรามจริง ๆ!”ฉินอวิ๋นฟานหัวเราะอย่างไม่ออกความเห็นเขากลับไม่ใส่ใจว่าเมื่อวานจะชนะหรือแพ้ วันนี้ต่างหากที่เป็นส่วนสำค

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1057

    สำหรับเหลียงเทียนอี้ การแข่งขันในวันนี้ค่อนข้างน่าตกใจแต่ยังดีที่สุดท้ายเขาสามารถคลี่คลายได้อย่างน่าอัศจรรย์ ทำให้พวกซยงหนูหน้าบึ้งตึง โจมตีจนพวกเขารับมือไม่ทันดูท่าปกติว่างเว้นจากการงานอ่านหนังสือให้มากจะมีประโยชน์...หลังประชุมเช้า เหลียงเทียนอี้ก็อดรนทนไม่ไหวบอกข่าวดีกับฉินอวิ๋นฟาน อยากแบ่งปันความสุขและความเปรมปรีดิ์ของตนแต่พอได้ยินฉินอวิ๋นฟานตอบกลับ เขาจึงตระหนักว่าเรื่องราวไม่ได้เรียบง่ายธรรมดาอย่างที่เขาคิดอย่างนั้น“การแข่งขันทางบู๊ในวันพรุ่งนี้จึงจะเป็นส่วนสำคัญอย่างแท้จริง”คำพูดราบเรียบประโยคหนึ่งของฉินอวิ๋นฟานทำให้ความยินดีปรีดาของเหลียงเทียนอี้ในแต่เดิมสูญสิ้น สีหน้าอึมครึมมากขึ้นเรื่อย ๆ“ข้าย่อมรู้ดี...แต่ปกติ คนที่จะชนะในการแข่งขันทางบู๊คงจะเป็นน้องสาม”เกี่ยวกับจุดนี้แทบไม่มีอะไรให้ลุ้นเพราะเหลียงเทียนจื้อร่ำเรียนกับเหลียงจ้านอิงแต่เล็ก อีกทั้งยังเคยเข้าสนามรบฟาดฟันกับศัตรู ด้านประสบการณ์การรบ จึงมีความคล่องมากกว่าเป็นธรรมดาเช่นนี้ หากคิดจะชิงคะแนนหนึ่งมาจากมือของเหลียงเทียนจื้อ คาดว่าต้องยากเป็นพิเศษเมื่อเห็นเหลียงเทียนอี้มีท่าทางปราศจากใจฮึดสู้ ฉินอวิ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status