Share

บทที่ 7

“รัชทายาท ท่านจะทำอย่างนี้ไม่ได้นะเจ้าคะ ข้ากับคุณหนูยังไม่ได้เตรียมพร้อมเลย!”

เสี่ยวจวี๋ปกป้องนายโดยไม่สนใจเนื้อตัวเปียกปอนของตัวเอง ขวางอยู่หน้ามู่หรงจิ่นโดยตรง

เดิมถังอาบน้ำทำขึ้นสำหรับสองคน ยามนี้อยู่ในนั้นสามคนจึงดูคับแคบทันที เสี่ยวจวี๋ที่อยู่ตรงกลางแทบจะตัวติดกับฉินอวิ๋นฟานแล้ว

ครั้นเสี่ยวจวี๋แช่ตัวอยู่ในนั้น ชุดกระโปรงผ้าโปร่งแนบตัว กล้ามหน้าอกอวบอั๋นฟูขึ้นมาเรื่อย ๆ จนจะทิ่มหน้าฉินอวิ๋นฟานอยู่แล้ว เช่นนี้ใครจะไปอดใจไหว?

“เรื่องนี้ยังมีอะไรต้องเตรียมตัวอีก? ยิ่งคาดไม่ถึงยิ่งเร้าใจ”

ฉินอวิ๋นฟานคว้ากระโปรงของเสี่ยวจวี๋แล้วกระชากแรง ๆ เรือนร่างขาวสะอาดดังหยกปรากฏอยู่ตรงหน้าเขาในบัดดล เนื่องจากตื่นเต้นเกินไป หัวใจของสองนางจึงเต้นเร็วมากขึ้น หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงชัดเจนกว่าเดิม

เวลานี้อะดรีนาลีนที่ไตของฉินอวิ๋นฟานพุ่งปรี๊ด ท้องน้อยร้อนรุ่มหนัก ความต้องการปราบพยศอันแรงกล้ากำลังกระตุ้นสมองของเขา

“ไม่ อย่านะ!”

เสี่ยวจวี๋หวีดร้องและขัดขืนอย่างบ้าคลั่งอยู่ตรงหน้ามู่หรงจิ่น ยิ่งนางร้องมากเท่าไร ฉินอวิ๋นฟานก็ยิ่งคึก ภายใต้มืออันมีกำลังพละกำลังของเขา สองนางมิอาจขัดขืนได้เลย ต้องปล่อยให้อีกฝ่ายเหิมเกริมลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างอย่างจำยอม

“ปากว่าอย่า ๆ แต่ร่างกายซื่อตรงดีนี่!”

ฉินอวิ๋นฟานเห็นท่าทางอยากขัดขืนแต่ความจริงกลับยินดีต้อนรับของทั้งสอง มือทั้งคู่จึงเหิมกำเริบเสิบสานมากกว่าเดิม

ด้วยการลูบไล้อันหยาบกระด้างของมือฉินอวิ๋นฟานที่กำแหงมากขึ้น พวกนางเช่นกระดาษขาว ไหนเลยจะผ่านประสบการณ์เช่นนี้มาก่อน? จึงต้านทานการบุกของฉินอวิ๋นฟานไม่ไหว

อืม...

ช่วงเวลานี้ พวกนางส่งเสียงหายใจหนักออกมาระยะหนึ่ง จากนั้นร่างกายของทั้งสองก็อ่อนระทวยโดยสมบูรณ์ ล้มอยู่ในอ้อมกอดอันอบอุ่นของฉินอวิ๋นฟาน ไม่ดิ้นรนขัดขืนใด ๆ อีก

ฉินอวิ๋นฟานโต้รุ่ง กระทั่งฟ้าสางแล้วเพิ่งจะบรรเลงเพลงรักของคืนนี้จบอย่างลำบาก

สองดรุณีสิ้นเรี่ยวแรงอยู่บนเตียงนานแล้ว เนื่องจากอ่อนเพลียเกินไปจึงหลับปุ๋ยไปเลย

“คิดไม่ถึงว่ามู่หรงจิ่นยังเป็นสาวพรหมจรรย์อยู่ ดูท่านางยังรู้จักการวางตัวมีขอบเขต การจะมีใจให้อัจฉริยะถือว่าปกติ เพราะไม่ว่าใครก็ไม่สมัครใจแต่งกับคนโง่อยู่แล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงมู่หรงจิ่นที่เป็นคุณหนูตระกูลใหญ่อย่างนี้”

สีแดงสองวงบนเตียงเป็นเครื่องพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของพวกนาง ฉินอวิ๋นฟานย่อมไม่เอาความอีก เด็ดดวงขนาดนี้ เขาไม่เพียงแต่ได้ตัวของพวกนาง แต่อนาคตยังต้องได้ใจของพวกนางด้วย

ฉินอวิ๋นฟานทิ้งกระดาษไว้แผ่นหนึ่ง สวมเสื้อผ้าสะอาดและย่างเท้าออกจากห้องนอน

ในห้องหนังสือตำหนักรัชทายาท!

“เสี่ยวฟาน เจ้า เจ้าไม่ทึ่มแล้วจริง ๆ หรือ? กลับเป็นปกติแล้วจริงหรือ?”

หน้าโต๊ะหนังสือ ชายอายุสี่สิบต้น ๆ น้ำตาคลอ ถามด้วยความตื่นเต้นที่สุด

“อาจ้าน ข้าหายดีแล้วจริง ๆ สิบกว่าปีมานี้ลำบากท่านแล้ว”

ฉินอวิ๋นฟานรีบเดินขึ้นหน้า โค้งต่ำคำนับให้ชายตรงหน้าที่ชื่อว่าอู่จ้านทีหนึ่ง จากนั้นก็คุกเข่าลงทันที โขกศีรษะหนหนึ่ง!

ในความทรงจำเดิมของฉินอวิ๋นฟาน อู่จ้านอยู่ข้างกายปกป้องเขาแต่เล็ก เห็นว่าอู่จ้านเป็นองครักษ์ที่มารดาพามาจากแคว้นต้าเหลียงและได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจากมารดาเขาที่สุด

เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยในชีวิตของเขา จึงต้องให้อีกฝ่ายลดตัวเป็นพ่อบ้านของตัวเอง จัดการงานในชีวิตประจำวัน ครั้นอยู่ก็ล่วงเลยมาสิบกว่าปี แม้มารดาจะจากโลกนี้ไปนานแล้ว แต่เขาก็ยังคอยปกป้องด้วยชีวิต ไม่เคยหวั่นไหว

เกิดอยู่ในตระกูลราชา หากไม่มีคนจงรักภักดีคอยช่วยเหลือ เขาที่เป็นรัชทายาทก็คงม่องเท่งไปนานแล้ว ดังนั้นอู่จ้านคู่ควรให้เขาคุกเข่าให้

“รัช รัชทายาท ไม่ได้นะขอรับ ข้ามีคุณงามความดีอะไรถึงให้รัชทายาทคุกเข่ากราบได้? ท่านกำลังทำให้ข้าอายุสั้นอยู่นะขอรับ”

อู่จ้านรีบเดินเข้าไปประคองฉินอวิ๋นฟานลุกขึ้น เมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงของฉินอวิ๋นฟานในวันนี้แล้ว เขาก็เกิดความรู้สึกตื้นตันอย่างที่พูดไม่ออก

“ถ้าไม่มีอาจ้าน ข้าคงถูกพวกคนใจโฉดเหล่านั้นทำให้ตายนานแล้ว”

ฉินอวิ๋นฟานส่ายหน้าพูดด้วยหัวใจขื่นขม “บัดนี้ข้าหายเป็นปกติแล้ว รั้งตำแหน่งรัชทายาทผู้ว่าราชการแผ่นดิน แต่ศึกแข่งบัลลังก์เข้าขั้นรุนแรง สถานการณ์ไม่เป็นผลดีต่อข้ามาก ดังนั้น อาจ้านโปรดไขข้อข้องใจ วิเคราะห์สถานการณ์ให้ข้าด้วยเถิด”

ฉินอวิ๋นฟานไม่เย่อหยิ่ง ไม่ร้อนรน ท่าทีอ่อนน้อมรับการชี้แนะอย่างถ่อมตน

เฉินม่อสบตากับอู่จ้านทีหนึ่ง ในดวงตาเต็มไปด้วยความทึ่ง เมื่อวานได้เห็นความแข็งกร้าวและฝีมือของรัชทายาทแล้ว เวลานี้ยังขอคำชี้แนะจากเขาด้วยท่าทีอ่อนน้อมเช่นนี้อีก

นี่คือเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลยนะ

อู่จ้านตอบด้วยสีหน้าจริงจัง “องค์ชายใหญ่ฉินอวิ๋นคังเป็นคนแข็งกร้าว ความสามารถน่าทึ่ง ถึงขั้นเรียกได้ว่าเป็นอันดับหนึ่งในคนหนุ่มแคว้นต้าเฉียนเลยทีเดียว”

“เบื้องหลังของเขามาจากตระกูลฮั่ว ตระกูลแม่ทัพชื่อดังในศตวรรษ ตระกูลฮั่วเป็นทหารทุกรุ่น มีตำแหน่งสูงส่ง มีคนตระกูลสายหลักอยู่ในกองทัพมากมาย ฮั่วเจิ้นหลงแม่ทัพฝ่ายซ้ายระดับหนึ่งชั้นเอกคือพ่อตาของเขา เรียกได้ว่ามีอำนาจมากในราชสำนัก”

“องค์ชายรองฉินอวิ๋นฮุยเชี่ยวชาญการใช้ลูกไม้ วางแผน พร้อมกันนั้นยังเป็นคนที่มากด้วยความรู้ หากกล่าวถึงสติปัญญาจัดเป็นอันดับหนึ่งของเหล่าองค์ชายจริงแท้ คนรุ่นเยาว์ของต้าเฉียนที่สามารถเทียบเคียงกับเขาได้มีอยู่แค่ไม่กี่คน”

“เบื้องหลังหลักของเขามาจากตระกูลเหอ ตระกูลเหอคือตระกูลใหญ่โบราณที่มีฐานมั่นคงอยู่ในต้าเฉียนสามศตวรรษ ศักยภาพรากฐานล้ำลึกยากจะคาดเดา มีศิษย์และผู้ใต้บังคับบัญชาอยู่ทั่วราชสำนัก หูหมิงชิงแห่งกรมอาญาก็คือศิษย์ของผู้เฒ่าเหอนั่นแหละ”

“บุตรสาวหัวแก้วหัวแหวนของตระกูลเหอรุ่นก่อนออกเรือนกับอดีตฮ่องเต้ ได้ยศเป็นเหอกุ้ยเฟย รั้งตำแหน่งผู้นำในบรรดากุ้ยเฟย ตอนนี้บุตรสาวแก้วตาของตระกูลเหอรุ่นใหม่ออกเรือนกับองค์ชายรอง เรียกได้ว่าตระกูลเหอมีความสัมพันธ์เกี่ยวดองกับราชวงศ์แน่นแฟ้น”

“พวกเขาสองคนต่างมีความสามารถเหนือคน มีเบื้องหลังลึกอย่างที่มิอาจคาดเดา ในศึกชิงบัลลังก์ พวกเขามีโอกาสมากที่สุด แต่...”

“แต่อะไรหรือ?”

ครั้นเห็นอาจ้านขมวดคิ้ว ฉินอวิ๋นฟานก็อดอยากรู้ไม่ได้ พวกเขาต่างมีเบื้องหลังน่ากลัวเช่นนี้ หรือว่ายังมีอะไรที่น่ากลัวยิ่งกว่าหรือ?

“องค์ชายองค์อื่นแทบไม่มีโอกาสชิงเลย แต่มีอยู่คนหนึ่งที่ข้ามักรู้สึกว่าต่างออกไป!”

อู่จ้านกล่าวอย่างกังวลเล็กน้อย

“ใครหรือ?”

“องค์ชายหกฉินอวิ๋นกว่าง!”

ขณะได้ยินชื่อนี้ ฉินอวิ๋นฟานไม่มีความทรงจำเลย ในความทรงจำของเขา ชื่อนี้แทบไม่เคยปรากฏ คนที่ไม่มีอะไรโดดเด่นเช่นนี้กลับทำให้อาจ้านหวั่นใจได้เพียงนี้เชียวหรือ?

“ไหนท่านลองว่ามาดูเถิด!”

ฉินอวิ๋นฟานใคร่รู้

“องค์ชายหกฉินอวิ๋นกว่างเก็บตัวมาก ไม่ร่วมการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นใดในราชสำนัก แต่พ่อตาของเขาถังเจิ้นไห่คือแม่ทัพฝ่ายขวาระดับหนึ่งชั้นเอก แม้มีอิทธิพลไม่เท่าฮั่วเจิ้นหลงที่เป็นแม่ทัพฝ่ายซ้าย แต่ก็เป็นแม่ทัพอันดับหนึ่งชั้นเอกขนานแท้ มีชื่อเสียงและอำนาจสูงมาก”

“ท่านต้องรู้นะ องค์ชายเก่ง ๆ มากมายอย่างนั้น แต่ทำไมถังเจิ้นไห่ถึงต้องให้ลูกสาวตัวเองออกเรือนกับคนที่ไม่เด่นดังด้วย?”

“ตามหลัก ด้วยฐานะและหน้าที่การงานของเขา องค์ชายที่อยากเกี่ยวดองเป็นญาติกับเขามากมีคณานับ เขาไม่มีเหตุผลที่จะเลือกองค์ชายหกที่เก็บตัว”

อยู่ในตระกูลจ้าวสิบกว่าปี มีแต่รู้เขารู้เราจึงจะอยู่ในช่องแคบเล็ก ๆ ได้ ถึงอู่จ้านจะเป็นทหารนามหนึ่ง กลับมีความคิดละเอียดรอบคอบ ปฏิภาณเหนือคน เชี่ยวชาญการสังเกตและการวิเคราะห์

และนี่ก็คือสิ่งสำคัญที่ทำให้เขาคุ้มครองความปลอดภัยรัชทายาทฉินอวิ๋นฟานได้ตลอดสิบกว่าปี

“ท่านสันนิษฐานมีเหตุผล!”

ฉินอวิ๋นฟานพยักหน้าแสดงออกว่าเห็นด้วย

ที่ภายนอกดูอันตรายไม่น่ากลัว เพราะเดากลยุทธ์รับมือได้ ทว่าศรคมที่ซ่อนตัวอยู่ในที่ลับต่างหากที่น่ากลัวที่สุด ไม่ลงมือก็แล้วไป แต่หากลงมือเมื่อไรคือตายในการโจมตีเดียว

อู่จ้านขมวดคิ้วมุ่น “ยังมีอีกเหตุผลหนึ่งที่สำคัญมากที่ข้ารู้สึกว่าองค์ชายหกไม่ธรรมดา นั่นคือเป็นไปได้มากว่าเบื้องหลังที่แท้จริงของเขาจะเป็นเฮ่อชินอ๋องฉินอ้าวในรัชกาลปัจจุบัน!!!”

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status