เอสวามองใบหน้างดงามที่กำลังฉายชัดถึงความต้องการที่ท่วมท้นนั้นด้วยแววตาที่อ่อนโยนเช่นเคย เราต่างลุ่มหลงและมัวเมาไปกับความรู้สึกเร่าร้อนที่ก่อตัวขึ้นมาในร่างกาย ความเป็นชายของเขารู้สึกถึงความแข็งแกร่งราวกับโลหะที่หลอมขึ้นด้วยไฟร้อนมันเริ่มมาจากตรงไหนกันนะ ในวันที่เขารู้สึกได้ถึงความสุขสมและความต้องการที่เกิดขึ้นมาในร่างกาย วันนั้นคงเป็นวันที่เขาอายุ 20ปี ในวันที่เขาออกช่วยชาวบ้านมากมายที่ล้มป่วยเนื่องจากภาวะสงคราม“เพราะมีท่านบาทหลวงแท้ๆ เลยพวกเราจึงไม่เป็นอะไร ขอบคุณท่านบาทหลวงมากๆ นะครับที่เกิดมา..”คำชมเชยพวกนั้นถูกกล่าวออกมาในขณะที่เอสวาฟังแล้วรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่นักขอบคุณที่เขาเกิดมาอย่างนั้นหรือ? แล้วในช่วงเวลาที่เขาถูกท่านแม่ทรมานและทำร้ายร่างกาย ไม่เห็นมีใครเข้าไปช่วยเหลือหรือว่าฉุดรั้งเขาออกมาจากนรกนั่นเลยล่ะ“ขอบคุณท่านเอสวามากนะคะ หากไม่ได้ท่าน พวกเราจะต้องแย่มากแน่ๆ”นั่นคงเป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินคำขอบคุณแล้วรู้สึกอึดอัดมากพอสมควร มันอึดอัดจนเขารู้สึกหายใจไม่ออก อยากหลบหนีออกไปจากตรงนั้น..ในวันนั้นเอง เขานั่งลงในอ่างอาบน้ำเหมือนกับทุกวันแต่ทว่า..ส่วนนั้นของเขามันกลับตื่นตั
“โรแอนด์...”เขาเรียกชื่อของเธอในตลอดเวลาที่เราเริ่มทำเรื่องเช่นนั้น เอสวาแปลกไปและแตกต่างจากเอสวาแสนอ่อนโยนที่เธอรู้จัก เขาลุกขึ้นก่อนที่จับเธอให้ลุกขึ้นจากโซฟาที่เรานอนอยู่เอสวาจับให้โรแอนด์หันหลัง มือของเธอจับเข้าที่พนักพิงของโซฟา บั้นท้ายงอนงามแอ่นขึ้นเล็กน้อยเขาจุมพิตลงไปที่แนวกระดูกสันหลังของเธอ“โรแอนด์ ท่านี้คงทำให้เจ้าเจ็บน้อยลง..”ไหนว่าไม่เคยทำมาก่อนแล้วไปเรียนรู้ท่าทางมากมายพวกนี้มาจากไหนกันนะ เธอก่นด่าเขาในใจแต่ทว่าก็ยินยอมให้เขาได้โอบกอดและทำตามที่เขาต้องการได้มากเท่าที่เขาสามารถทำได้เอสวาใช้ส่วนหัวถูที่กลางรอยแยกจนชื้นแฉะ เขาจับใบหน้าของเธอให้หันหลังกลับมาเพื่อรับจุมพิตจากเขาอย่างเอาแต่ใจ ดวงตาถูกตรึงเอาไว้ด้วยกัน คลื่นอารมณ์ต่างๆ ที่แล่นริ้วพาดผ่านใบหน้าก็สามารถมองเห็นได้ทั้งหมด เสียงลามกคลอครางในลำคอเมื่อเขาขยับเอวเพื่อให้ส่วนนั้นถุูไถไปตามร่องเนื้อ“โรแอนด์..ชอบรึเปล่า”ยามที่กดแทรกแก่นกายเข้าไป ช่องทางก็เยิ้มลื่นเสียแล้วทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้มันเข้าไปยากเย็นมากด้วยซ้ำ“ชอบสิ..ชอบมากที่สุดเลย แล้ว..ท่านล่ะคะ ชอบมันรึ..เปล่า?”เท้าของเธอพลันเขย่งลอย ส้นเท้าไม่ติดพื้น
โรแอนด์มองเห็นความเจ็บปวดผ่านสายตาของเฟอน่า.เพราะแบบนั้นสินะ เพราะว่าในครั้งอดีต คนรักของเฟอน่าคือบาทหลวงเพราะแบบนั้นนางถึงได้..เตือนเธอให้ระแวดระวังบาทหลวงและโบสถ์เอาไว้ไม่ใช่ว่าโรแอนด์จะไม่สนใจคำกล่าวของเฟอน่าหรอกนะ แต่เพราะว่าเธอเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่าแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน และเอสวาไม่มีทางทำร้ายเธออย่างแน่นอน“ครั้งหนึ่งข้าเคยเป็นซักคิวบัสมือใหม่เหมือนกันกับเจ้า ข้าไร้ประสบการณ์และ..อ่อนต่อโลกมากทีเดียว..”เฟอน่าได้พบเจอกับเพื่อนที่เป็นซักคิวบัสด้วยกัน พวกเรามิได้มีสายเลือดเดียวกันเนื่องจากซักคิวบัสไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ แต่เพราะพื้นเพของพวกเรานั้นคือปีศาจเหมือนกันๆ เพราะแบบนั้นเราจึงนับถือกันเป็นครอบครัวลิเดียคือเพื่อนสนิทของเฟอน่า นางให้คำแนะนำมากมายให้แก่เธอ ทั้งเรื่องการกลืนกินความฝันและเรื่องการใช้ชีวิต“เจ้าลองใช้ชีวิตดูสิเฟอน่า ไหนนี่ก็เป็นครั้งแรกเพราะแบบนั้นเจ้าลองใช้หัวใจนำทางดูสิ..”ใช้หัวใจนำทางอย่างนั้นหรือ? คราแรกเธอก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่แต่เมื่อเธอพบเจอกับบาทหลวงผู้หนึ่ง..เขาทำให้เธอรู้สึกสะดุดสายตามากทีเดียว หัวใจของเธอสั่นไหวและเต้นแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน อา
ถึงจะตอบออกไปเช่นนั้นแต่ทว่าฉันอยากจะครอบครองเขาเอาไว้เพียงผู้เดียวเท่านั้น อยากกุมมือคู่นี้ไปในทุกวัน อยากจะ..โอบกอดเขาเอาไว้ในทุกครั้งที่หลับตาลง หากว่ามันเป็นไปไม่ได้ฉันก็อยากจะตายไปพร้อมกันกับเขา ให้ผืนดินฝังกลบใบหน้านี้โดยที่มือของเราทั้งคู่ยังคงกอบกุมกันเอาไว้อยู่แต่ทำแบบนั้นแล้วยังมีประโยชน์อะไรกัน เขาแหลกสลายส่วนฉันไร้ความสุข สู้ปล่อยให้ต่างคนต่างไป ปล่อยให้เขาได้อุทิศทุกอย่างให้แก่พระเจ้าตามเดิมนั้นดีแล้วเอสวาก้มลงหอมหน้าผากของเธออย่างแผ่วเบา ความอ่อนโยนในสัมผัสนั้นทำให้โรแอนด์รู้สึกอบอุ่นได้ถึงด้านในของหัวใจนี่แหละเอสวา ไม่ว่าเมื่อไหร่เขาก็ทำให้เธอลุ่มหลงได้ตลอดอยู่แล้ว“เจ้าเป็นปีศาจที่งดงามและใจดีมากที่สุดเท่าที่ข้ารู้จักเลย”โรแอนด์ส่งยิ้มให้แก่เอสวา คงเป็นเพราะว่าเธอพึ่งจะตายจากการเป็นมนุษย์ ในความรู้สึกหลายๆ อย่างของโรแอนด์ หัวใจและความเปราะบางของอารมณ์เธอยังคงเป็นมนุษย์อยู่“ไปกับข้านะ..ไปที่เมืองหลวงกับข้า”เธอเงยหน้าขึ้นมองหน้าเขาด้วยแววตาที่สั่นไหว“ไม่ค่ะ ข้าจะไม่ไปที่นั่น ข้าจะอยู่ที่นี่ที่บ้านหลังนี้ของท่าน”ชั่วขณะหนึ่งโรแอนด์คิดว่าเธอมองเห็นความเจ็บปวดในสายต
โรแอนด์ไม่รู้เหมือนกันว่านี่คือคำชมหรือว่าคำด่ากันแน่ แต่ถึงอย่างนั้นในเมื่อมาลิคสัญญาเอาไว้ว่าเขาจะไม่ทำร้ายหรือว่าขับไล่ไสส่งเธอออกไป เช่นนั้นการอยู่ที่นี่ก็อาจจะดีมากกว่าก็ได้ เธอจะรอคอยจนกว่าเอสวาจะกลับมา..แค่สองเดือนเอง คงไม่ถึงตายหรอกมั้ง เพราะครั้งล่าสุดที่เราทำเรื่องเช่นนั้นกัน..มันเพิ่มพลังชีวิตให้เธออยู่ได้อีกร้อยปีเลยละมั้ง..เอสวาไม่ยินยอมผละร่างกายของเขาออกไปจากร่างกายของเธอเลยแม้แต่วินาทีเดียว ไม่ต้องเข้าไปในฝันให้ยุ่งยากอีกต่อไป..เมื่อเราสามารถทำเรื่องเช่นนั้นได้มาเท่าที่ใจต้องการ“แต่เจ้าก็ต้องรับปากด้วยว่าจะไม่ทำเรื่องต่ำช้ากับบาทหลวงคนอื่นๆ ที่นี่”โรแอนด์พยักหน้า“หากไม่ใช่ท่านเอสวา..ข้าก็ไม่ต้องการใครทั้งนั้นเหมือนกัน”คำกล่าวที่หนักแน่นของโรแอนด์เป็นดั่งคำสาบานที่เธอเอ่ยออกมาเพื่อปฏิญาณตน มาลิคพ่นลมหายใจออกมายาวเหยียด“เช่นนั้นก็ไปดูแลสวนที่ด้านหลังได้แล้ว นี่คือค่าจ้างของเจ้าในเดือนนี้ ท่านแคนนอนบอกให้ข้าเอามาให้เจ้าก่อน..”ค่าจ้างงั้นเหรอ? โรแอนด์ยื่นมือไปรับพร้อมกับรอยยิ้มที่ผลิบานเหมือนกับกลีบดอกไม้“ขอบคุณนะคะ”เธอมีเงินเป็นของตัวเองแล้ว ถึงแม้ว่าก่อนจากไปเอส
“เพราะแบบนั้นเจ้าก็เลยทำงานที่โบสถ์อย่างนั้นหรือ?”เฟอน่าเอ่ยถามออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเอง แต่โรแอนด์กลับพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม“เฟอน่าข้ายืนยันได้เลยว่าทั้งบาทหลวงและท่านคาดินันที่โบสถ์เป็นคนดี บางทีคนที่ทำร้ายเจ้า..อาจจะตายไปแล้วก็ได้..”เฟอน่าตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะ“เขาไม่ตายหรอก เมื่อได้ขึ้นเป็นคาดินันจะได้รับพร..หนึ่งในพรที่ได้รับคือการได้อายุขัยที่ยาวนานนับร้อยปี ข้าเตือนเจ้าไปแล้วมิใช่หรือโรแอนด์ ว่าให้เจ้าออกมาให้ห่างจากโบสถ์และพวกนักบวช แต่นี่เจ้ากลับเข้าไปอยู่ที่นั่นเพื่อทำงาน มันฟังขึ้นซะที่ไหนกัน..เจ้าจะตายอย่างแน่นอนหากไม่รีบออกมาจากที่นั่น..”น้ำเสียงของเฟอน่าตื่นตระหนกจนเกินเหตุ แต่นั่นไม่ได้ทำให้โรแอนด์รู้สึกหวาดกลัวเลย เธอสัญญาเอาไว้กับเอสวาแล้วว่าจะรอเขา เพราะแบบนั้นเธอจึงตั้งหน้าตั้งตารอเขาด้วยหัวใจที่ทั้งมั่นคงและมั่นใจ“เจ้าวางใจได้เลย เพราะว่าข้าจะไม่เป็นอันตรายอย่างแน่นอน ไม่ต้องเป็นห่วงไปเฟอน่า”รอยยิ้มที่ไร้เดียงสาและหัวใจที่เชื่อมั่นของโรแอนด์นั้นมันเหมือนกันกับเธอไม่มีผิดเลย..เธอเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าแต่ทว่าก็ได้รับการทรยศหักหลังกลับมา ใครเตือนก็ไม่ฟัง
“ให้เจ้าเห็นภาพที่ไม่น่าดูซะแล้ว กำหนดการที่จะแต่งตั้งนั้นเอาเป็นอีกสองสัปดาห์เลยดีหรือไม่ หลังจากนั้นเจ้าก็อยู่ที่นี่เพื่อรับใช้ข้าเป็นการส่วนตัว แน่นอนว่าเรื่องเงินนั้นไม่ต้องเป็นห่วง ข้าจะจ่ายให้ตามความเหมาะสม..เลยล่ะ”พระสันตะปาปากล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตา แต่ในสายตาของเอสวาแล้ว..เขาไม่สามารถมองชายผู้นี้ด้วยสายตาเทิดทูนบูชาได้เลย“ขออภัยด้วยครับท่านผู้นำศาสนา แต่ทว่าข้าไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้..ข้าอยากกลับไปใช้ชีวิตในโบสถ์เล็กๆ แห่งนั้นต่อไป ขอให้ท่านเข้าใจเจตนาของข้าด้วย”รอยยิ้มแห่งความเมตตาจางหายไปจากใบหน้าของมาคิวลัสในทันที เขาปล่อยเพชรเม็ดงามนี้ไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด เขาสัมผัสได้ถึงพลังอันบริสุทธิ์และผุดผ่องมากที่สุด มันงดงามและทรงอำนาจมากเสียจนหากเขาปล่อยเอสวาไปแล้วละก็ เขาจะต้องเสียใจอย่างแน่นอน หรือไม่ก็..ในวันข้างหน้า..บางทีเอสวาอาจจะมาโค่นล้มอำนาจของเขาก็ได้ เพราะแบบนั้นตราบใดที่เขายังได้เปรียบเขาจะต้องกดให้เอสวาตกต่ำลงมาให้เจ้าเด็กคนนั้นนอนหมอบกราบแทบเท้าเขาให้ได้“เอสวา..กับบางเรื่องมันไม่ได้ง่ายดายหรือว่าได้ดั่งใจไปซะหมด ชีวิตย่อมมีเรื่องที่เป็นไปไม
งานแรกที่เอสวาได้รับมอบหมายคือการเข้าไปช่วยเหลือและส่งมอบอาหาร ยารักษาโรคให้แก่ชาวเมืองที่พึ่งผ่านพ้นจากสงครามมาหมาดๆ ชื่อเสียงของเอสวานั้นโด่งดังอยู่แล้ว ยิ่งเขาได้มาปรากฏตัวต่อหน้าของชาวเมืองหลวงและทหารกล้า ทุกคนก็พร้อมใจกันบริจาคเงินและกล่าวคำสรรเสริญออกมาให้เอสวาไม่ขาดปากสิ่งของและอาหารที่นำไปแจกจ่ายให้แก่ชาวบ้านนั้นนำมาจากพระราชวังซะส่วนใหญ่ แต่พระสันตะปาปาสั่งให้เขานำของมาแจกจ่ายในนามของวิหารศักดิ์สิทธิ์..นี่มันเหมือนกับว่าตัวของวิหารเองไม่ได้เสียอะไรเลยแต่กลับได้ทั้งชื่อเสียงและเงินบริจาคมากมายกลับมาไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเอสวาถึงได้รู้สึกสะอิดสะเอียนมากเหลือเกิน เขารู้สึกขยะแขยงมากกว่าที่จะทนมองหน้าของท่านผู้นำศาสนาได้..อีกทั้งรู้สึกเจ็บปวดไม่น้อยเมื่อหวนคิดถึงเรื่องที่ท่านคาดินันแคนนอนจงใจส่งเขามาที่นี่เพื่อให้เขามารับใช้พระสันตะปาปาที่มีนิสัยเช่นนี้..ทุกอย่างสิ้นหวังไปหมดแต่ถึงอย่างนั้นในใจของเอสวากลับยังคงเปี่ยมไปด้วยความหวัง อย่างน้อยเขาก็ยังคงหวังว่าตัวเองจะได้กลับไปหาโรแอนด์ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาจะอยู่ที่นี่แค่สองเดือนตามที่ตั้งใจเอาไว้เท่านั้น“คิดได้แล้วอย่างนั้นสิน
เฟอน่าระบายยิ้มหวานเมื่อเธอมองเห็นโรแอนด์มีความสุขในการใช้ชีวิตคู่ของตัวเองได้เป็นอย่างดีราชินีผู้งดงามและที่คู่ควรกับราชาปีศาจที่น่าเกรงขาม พวกเขามีลูกๆ ที่น่ารักด้วยกัน ครองครัวที่แสนอบอุ่นและความรักที่มั่นคงบอกตามตรงว่าเธอชอบเด็กนะ ยิ่งเด็กเล็กๆ แล้วเฟอน่าชอบมากๆ ในบ้านจะรู้สึกอบอุ่นมากยิ่งขึ้นเมื่อมีเด็กตัวน้อยวิ่งวนไปมาในบ้าน และครอบครัวจะสมบูรณ์ในทันทีเมื่อมีพยานความรักถือกำเนิดขึ้นมาแต่เพราะครั้งหนึ่งเธอเคยเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสกับความรัก เรียกได้ว่าความรู้สึกตอนนั้นคงเหมือนกับตายแล้วเกิดใหม่เลยทีเดียว เธอเจียนตายถึงเพียงนั้นในยามนี้เฟอน่าจึงต้องการใช้เวลากับมาร์สองคนก่อนเธออยากเป็นสามีและภรรยากับเขา ใช้ชีวิตคู่ให้คุ้มค่าก่อนที่จะตกลงสร้างครอบครัวของเรา เพราะเมื่อมีลูกแล้วเราจะต้องเอาความสนใจที่มีทั้งหมดไปมอบให้ลูก..ในตอนนี้เธอยังไม่พร้อมจะส่งมอบความสนใจของตัวเองไปที่ใครเลยนอกจาก..มาร์เขาเป็นเสือที่ค่อนข้างตรงไปตรงมา ชอบก็บอกว่าชอบ ไม่ชอบก็บอกว่าไม่ชอบ การแสดงออกมาของมาร์นั้นมันไม่มีการเสแสร้งหรือว่าแกล้งทำ“คิดอะไรอยู่”“คิดเรื่องของเราค่ะ..เราไม่ได้ไปท่องเที่ยวกันนานแล้ว
ริมฝีปากของมาลิคกระตุกยิ้มที่ผลิบานเหมือนกับกลีบดอกไม้ หลังจากวันที่องค์ราชาของปีศาจจัดงานแต่งที่โบสถ์ของเขานั้น พวกปีศาจตนอื่นๆ ก็หันมาจัดงานแต่งที่วิหารมากยิ่งขึ้น อีกทั้งปีศาจที่นี่ยังเกิดความศรัทธาขึ้นมาด้วย..เขาได้ทำให้ในพื้นที่ที่ไร้ซึ่งศรัทธากลับมามีความศรัทธาอีกครั้งหนึ่ง เมื่อปีก่อนเท่าที่เขาได้ยินข่าวมา เห็นว่าที่เมืองมนุษย์เกิดการก่อกบฏขึ้นมา เนื่องจากคำสั่งที่เต็มไปด้วยอารมณ์โกรธเคืองขององค์รัชทายาท นั่นจึงทำให้เกิดการเข่นฆ่ากันไม่เว้นแต่ละวัน อีกทั้งยังเกิดการใส่ร้ายกันจำนวนมากอีกด้วย บางคนมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับปีศาจแต่ถูกใส่ร้ายเพื่อการเมืองและทรัพย์สินเมืองมนุษย์สิ้นหวังถึงขีดสุดและเขาไม่คิดเอาตัวเองกลับไปสู่ขุมนรกนั้นอีก เมืองปีศาจที่คราแรกเขาหวาดกลัวแต่ในยามนี้มิได้เป็นเช่นนั้น ผู้คนที่นี่มีความเมตตามากกว่าที่เขาคิดเอาไว้ อีกทั้งองค์ราชายังนำพาเมืองปีศาจก้าวไปข้างหน้าด้วยความมั่นคงจนมักจะมีมนุษย์หลบหนีมาที่นี่บ่อยๆ“ท่านพ่อครับ..”สิ่งที่ดึงความสนใจจากมาลิคคือบุตรชายวัยสามขวบของเขาเอง“ว่าอย่างไรลูกรัก”เขาก้มลงอุ้มลูกชายขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนด้วยความรัก ในงานแต่งงานข
เอสวาขบเม้มริมฝีปากไปมาด้วยความรู้สึกประหม่า ในโบสถ์เล็กๆ แห่งนี้เขากำลังยืนรอโรแอนด์อยู่ เบื้องหน้าของเขาคือมาลิคที่รับหน้าที่ทำพิธีให้ในวันนี้ แน่นอนว่านี่คืองานแต่งงานที่แปลกประหลาดมากที่สุดในเมืองปีศาจ ที่ผ่านมาไม่เคยมีการจัดงานแต่งขึ้นมาในโบสถ์เลยเพราะว่าไม่มีโบสถ์หรือว่าบาทหลวงคนไหนอยู่ที่นี่แต่ก็นะ..ในยามนี้มีแล้ว มีมาลิคที่พร้อมจะทำพิธีแต่งงานให้แก่ปีศาจทุกตนเอสวามั่นใจว่าเขาเคยเห็นงานแต่งงานมามากมาย มากมายจริงๆ ในช่วงที่เขาคือบาทหลวงเอสวา เขาตบมือยินดีให้แก่คู่บ่าวสาวที่เขาทำพิธีให้ ยิ้มแย้มเพื่อแสดงความยินดีให้กับผู้คนเหล่านั้น แต่เมื่อถึงงานของตัวเองในวันนี้เขากลับ..ตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูก เมื่อคืนโรแอนด์ไม่ได้อยู่กับเขา ที่นี่มีพิธีที่สืบต่อกันมาและเขาไม่อยากจะขัดลุคคาสักเท่าไหร่ ในคืนก่อนวันแต่งงานจะต้องซ่อนตัวของเจ้าสาวจากเจ้าบ่าว เมื่อคืนนี้โรแอนด์จึงไปค้างที่คฤหาสน์ของเชอรีนนั่นยิ่งทำให้เขาคิดถึงเธอมากพอสมควร ในใจมันโหยหา ทรมาน..แทบขาดใจ“ทุกอย่างจะเรียบร้อยครับองค์ราชา..”มาร์กล่าวพร้อมกับส่งมอบกล่องแหวนให้เขา นี่คือแหวนแสนพิเศษที่เขาทำขึ้น เอสวาทำแหวนวงนี้ด้วยตัวเอ
มาร์พ่นลมหายใจออกมาเบาๆ เขามองร่างกายของสตรีผู้หนึ่งซึ่งกำลังหลับใหลอยู่อันที่จริงเธอควรจะต้องฟื้นขึ้นมาได้แล้วเพราะว่าเขาป้อนยาลับของตระกูลเสือให้เธอทานไปเมื่อสองวันก่อน แต่ทว่ากลับไม่มีวี่แววที่เธอจะฟื้นขึ้นมาเลย“ตั้งใจจะตายอย่างนั้นหรือ? ..ให้ตายสิ หากจะตายก็เอาไว้โอกาสหน้าได้ไหม ข้าอุตส่าห์เสียสละยาที่แสนล้ำค่าของตระกูลเพื่อให้เจ้าตื่นขึ้นมาเลยนะ..เจ้าจะเอาแต่นอนแบบขี้เกียจเช่นนี้ไปอีกนานแค่ไหนกัน”เขานั่งลงข้างๆ เตียงพร้อมกับลอบมองใบหน้าของเธอ แน่นอนว่าซักคิวบัสนั้นงดงาม ปีศาจชนิดนี้จะต้องมีความงามเพื่อที่พวกนางจะเอาไว้หลอกล่อหรือแม้กระทั่งเอาไว้ล่อลวงมนุษย์ให้มาติดกับดักที่พวกนางสร้างขึ้นมาเท่าที่เห็นท่านราชินีนั้นก็เคยเป็นซักคิวบัสมาก่อนถึงแม้ว่าในยามนี้พระนางจะไม่ใช่ซักคิวบัสแล้วก็ตามที แต่สตรีที่กำลังนอนอยู่ผู้นี้พบเจอเรื่องเลวร้ายมามากแค่ไหนกันนะ นางถึงตัดใจเรื่องการมีชีวิตของตัวเองไปแล้ว..“เจ็บปวดมากเลยอย่างนั้นหรือ? ให้ตายสิช่วยลืมตาขึ้นมาหน่อยได้ไหม หากเจ้าพบเจอความเจ็บปวดที่อยากจะระบายให้ใครสักคนได้รับฟัง เช่นนั้นก็รีบๆ ตื่นขึ้นมาสิ ข้าจะรับฟังเจ้าเอง..”เมื่อมาร์กล่
โรแอนด์มองไปรอบๆห้อง นี่คงเป็นเช้าที่เธอไม่คุ้นเคยมากที่สุดเพราะว่าที่ข้างกายของเธอ บนเตียงนอนที่เธอล้มตัวนอนลงนั้นไม่มีเอสวาอยู่ บนผ้าปูเย็นเฉียบราวกับว่าไม่เคยมีเขาอยู่ที่นี่ตั้งแต่แรก เธอรีบลุกขึ้นจากเตียงนอนในทันที“เอสวา..ไปไหนกันลุคคา”ลุคคาเดินเข้ามาด้านใน มือของเขาถือถาดอาหารเช้ามาให้นายหญิงของเขา“นายท่านออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้าแล้วครับ แต่ไม่มีเรื่องอะไรให้นายหญิงต้องเป็นกังวลเพราะนายท่านน่าจะออกไปพูดคุยเรื่องงาน..”โรแอนด์พยักหน้า เธอนั่งลงและเริ่มทานมื้อเช้าโดยที่ดวงตาเบนออกไปมองด้านนอกหน้าต่าง มันเป็นความเคยชินที่น่ากลัวมากพอสมควร เธอชอบมองออกไปด้านนอกหน้าต่างในยามที่เธออาศัยอยู่ที่พระราชวังกับลีออน การมองออกไปด้านนอกหน้าต่างมันทำให้เธอมองเห็นการใช้ชีวิตของผู้คนมากมายที่กำลังวนเวียนอยู่ด้านนอก มีต้นไม้ สายลม หรือแม้กระทั่งนกที่กำลังโบยบินอยู่บนท้องฟ้า ชีวิตที่อิสระเสรีพวกนั้นมันคือสิ่งที่เธอใฝ่ฝันมาโดยตลอด..แต่ในยามนี้เธอไม่จำเป็นที่จะต้องคอยนั่งมองและนึกอิจฉานกที่กำลังโผบินเพราะว่าเธอเองก็สามารถเดินทางออกไปจากห้องนอนห้องนี้ได้ตามใจชอบเอสวาให้อิสระพวกนั้นแก่เธอ ให้ตายสิ.
รุ่งเช้าของวันนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เมื่อในปราสาทที่เก่าคร่ำครึของเชอรีนมีบุรุษอยู่ที่นี่เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน เธอตื่นตั้งแต่เช้า สวมชุดเดรสที่พึ่งซื้อมาเมื่อวาน และสวมรองเท้าส้นสูงสีแดงสด เชอรีนรวบผมขึ้นไปเพื่ออวดโชว์ลำคอที่ยาวระหง เธอไม่ลืมสวมแหวนแห่งความรักวงนั้นไว้ที่นิ้วนางข้างขวาเชอรีนกำลังสะกดจิตตัวเองเบาๆ“วันนี้มันจะดี ข้าจะได้พบเจอมาลิคในมุมที่คนอื่นไม่เคยเห็นมาก่อน..”เมื่อกล่าวจบเชอรีนก็เดินลงมาที่ด้านล่าง เธอยกยิ้มให้กับสาวใช้พร้อมกับสายตาที่เต็มไปด้วยคำถามเมื่อมองเห็นสวนดอกไม้ที่ด้านหน้าปราสาทกำลังมีบุรุษผู้หนึ่งขุดดินอยู่..อย่างไม่ต้องเอ่ยถามเลยว่านั่นคือใคร มาลิคอยู่ในสวนแห่งนั้นและเขากำลังขุดดอกไม้สีน้ำตาลของเธอทิ้งไป“ข้าพยายามห้ามแล้วค่ะท่านเชอรีน แต่ทว่าบุรุษผู้นั้นต้องการตอบแทนเรื่องที่ท่านให้ที่อยู่อาศัย ข้าไม่รู้ว่าเขาเอาเมล็ดผักมากมายพวกนั้นมาจากไหน แต่เขากำลังพยายามทำให้สวนที่เต็มไปด้วยดอกไม้ราคาแพงของท่าน..เป็นสวนผัก”หากเป็นในยามปกติเธออาจจะเป็นลมล้มพับไปเมื่อได้ยินเช่นนี้ แต่ทว่า..นี่คือบุรุษที่โชคชะตาส่งมาให้เธอ เพราะแบบนั้นเงินทองมันเป็นของนอกกาย อีกทั
โรแอนด์เงยหน้าขึ้นไปมองหน้าของเอสวา เธอหรี่ตามองหน้าเขาอย่างจับผิด“ไม่รู้ทำไมเหมือนกันแต่ข้าคิดว่าสามีของข้ากำลังจับคู่ให้ผู้อื่นอยู่”เอสวากระชับฝ่ามือที่เขากำลังจับมือของโรแอนด์เอาไว้ให้แนบแน่นมากกว่าเดิม“ให้ตายสิไม่ว่าข้าจะพยายามทำเช่นไรก็ไม่อาจเล็ดลอดสายตาของภรรยาไปได้เลย..”เขาหยุดฝีเท้าที่กำลังก้าวเดินแล้วอุ้มโรแอนด์ขึ้นมาในอ้อมแขน“เฟอน่า..เจ็บปวดกับคำว่ารัก นางรู้จักความรักเป็นอย่างดีทีเดียวแต่มาร์ไม่ใช่แบบนั้น เจ้าทึ่มคนนั้นไม่รู้จักความรักหรือว่าไม่สนใจเรื่องความรักอะไรเลยด้วยซ้ำ การส่งเฟอน่าไปให้เขาดูแล..หัวใจที่ด้านชาของเขาจะอ่อนโยนขึ้นมา..”โรแอนด์พยักหน้าอย่างเข้าใจคำกล่าวของเอสวา เฟอน่าเจ็บปวดกับความรักครั้งแรกมากทีเดียว มากจนแทบขาดใจ หากเป็นเธอที่พบเจอเรื่องราวแบบเดียวกันกับเฟอน่า โรแอนด์เองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอจะทนไหวเหมือนกับที่เฟอน่าทนอยู่รึเปล่าเธอไม่ได้รู้จัก มาร์เป็นการส่วนตัว แต่เท่าที่ดูเขาไม่ใช่คนเลวร้ายและเชอรีนก็เล่าเรื่องเพื่อนทั้งสามคนของเธอให้ฟังมากทีเดียว สรุปก็คือมาร์เป็นพวกแข็งนอกอ่อนใน และเป็นคนที่อ่อนโยนมาเกินกว่าจะคาดเดาได้ ส่วนเฟอร่าเป็นสาวมั่
มีเรื่องราวมากมายที่มาลิคอยากจะเอ่ยเล่าให้โรแอนด์ฟัง เขาดีใจมากๆ ที่พบเจอเธอที่นี่ บอกตามตรงว่าชีวิตของเขามันพลิกผันไปหมด เขาถูกตราหน้าว่าเป็นคนสารเลวเพียงเพราะว่าเขาไม่รักษาให้เอียน แอนเซลบาทหลวงที่โบสถ์พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเขาคือต้นเหตุที่ทำให้คาดินันหายตัวไป เพราะว่าเขาต้องการขึ้นเป็นคาดินันเพื่อปกครองโบสถ์แห่งนั้นแทนเขาสูญสิ้นความหวังในการมีชีวิตอยู่เพราะแบบนั้นมาลิคจึงเดินทางมาที่นี่เพื่อลองมาใช้ชีวิตในโลกที่ตรงกันข้ามกับเขาดู เมืองปีศาจที่เต็มไปด้วยปีศาจมากมายอาจจะไม่ได้น่ากลัวเท่ากับเมืองมนุษย์ก็ได้ เขาหลบหนีเข้ามาเนื่องจากองค์รัชทายาทประกาศให้ปิดประตูเมืองที่เชื่อมต่อกัน พร้อมกับมีรับสั่งให้กวาดล้างปีศาจทั้งหมด“ใจเย็นๆ ค่ะท่านมาลิค เรามีเวลามากพอที่จะพูดคุยเรื่องของท่านกันทั้งวันเลย”ครั้งหนึ่งเธอเคยได้รับความช่วยเหลือจากเขา ครั้งหนึ่งมาลิคได้ส่งเธอหนีออกมาจากโบสถ์ หนีจากเอียนและในยามนี้เธอต้องตอบแทนบุญคุณเขาบ้างแล้ว“ขออภัยที่ขัดจังหวะนะคะ ข้ารู้จักร้านน้ำชาที่อยู่ไม่ไกลเท่าไหร่นัก เราสามารถไปนั่งคุยกันที่นั่นได้”เชอรีนกล่าวพร้อมกับส่งยิ้มให้กับองค์ราชินีและ..เพื่อนของพ
เชอรีนเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเธอได้รับคำสั่งจากองค์ราชาให้ทำตัวตามสบาย ในยามนี้เธออยู่ที่ปราสาทขององค์ราชา และเบื้องหน้าของเธอนั้นคือองค์ราชาที่แสนหล่อเหลาสะดุดสายตา แน่นอนว่าเธอไม่เคยพบเจอบุรุษผู้ใดงดงามเท่านี้มาก่อนในชีวิต อาจจะเพราะว่าชีวิตของเธอนั้นเจอบุรุษแค่สามคนเท่านั้น นั่นก็คือเพื่อนทั้งสามของเธอแน่นอนว่ารูปลักษณ์ขององค์ราชานั้นดูราวกับว่าเขาคือเทพเจ้าจากสรวงสวรรค์มากกว่าที่จะเป็นองค์ราชาปีศาจ แต่ทว่าสิ่งที่ทำให้เชอรีนอ้าปากค้างแบบไม่สามารถหุบริมฝีปากของเธอลงมาได้นั่นคือการได้มองเห็นความสวยงามไร้ผู้เทียบเคียงขององค์ราชินีเธอรู้ว่าเหล่าปีศาจนั้นจะต้องมีรูปลักษณ์ที่งดงามนั่นคือเรื่องปกติเลยล่ะ แต่ทว่าองค์ราชินีนั้นมีความงดงามในแบบที่ไม่เหมือนกับปีศาจทั่วไป ความงามที่เย้ายวนแต่ทว่าก็น่ารักน่าเอ็นดู รอยยิ้มที่อ่อนโยนนั้นทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นหัวใจอย่างบอกไม่ถูกเมื่อเชอรีนมองไปรอบๆ ก็เห็นเพื่อนทั้งสามคนที่อยู่ในสภาพไม่แตกต่างกันเท่าไหร่นัก“อะ..แอ่ม หากมองภรรยาของข้าจนพอใจแล้ว เช่นนั้นก็เข้ามาเพื่อทำความเคารพและแนะนำตัวสิ”เอสวากระแอมออกมาเบาๆ เพื่อเป็นการเรียกสติของผู้นำทั้งสี่