ตอนที่ 4
“มอร์นิ่งจ้ะ” เจ้าของเสียงนั่งเช็ดผมอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้งปลายเตียงจึงได้เห็นตอนที่รั้นซ์งัวเงียลุกขึ้นพอดี
“พี่บัวครับ รั้นซ์” เพราะเรื่องที่ทำลงไปเมื่อคืนทำให้รั้นซ์ไม่รู้จะพูดอะไรต่อไป
“บางทีความว้าเหว่มันก็ร้ายกว่าความเมา ตื่นแล้วก็ไปล้างหน้าเถอะจ้ะจะได้มาออเดอร์อาหาร” แม้ว่าเมื่อคืนรั้นซ์จะทำให้ประทับใจมากแค่ไหนแต่สาวใหญ่อย่างบัวก็รู้ดีว่ามันคือความว้าเหว่ชั่วคราวจึงไม่คิดจะเรียกร้องความรับผิดชอบหรือสานต่ออะไร เมื่อชายหนุ่มลุกไปเข้าห้องน้ำบัวก็หันมาจัดการกับตัวเองต่อไป
“เลือกไม่ถูกเลยครับ รายการอาหารเช้าเยอะมากพี่บัวช่วยเลือกให้รั้นซ์ได้มั้ยครับ” หนุ่มน้อยที่เคยกินแค่อาหารตามสั่งหรือกับข้าวไทยๆ ที่แม่ทำกินในบ้าน
“งั้น ABF ละกันนะคะของคอนโดเราชุดใหญ่รั้นซ์น่าจะอิ่ม”
“เอ่อ ครับ” เพราะไม่เข้าใจว่า ABF ที่พี่บัวสั่งมาให้นั้นคืออะไรจึงได้แต่รับคำอย่างเบาๆ จนกระทั่งอาหารมาส่งถึงได้รู้ว่ามันคือ ไข่ดาว ขนมปังปิ้ง ฮอทดอก แฮมต้ม แถมยังมีเบคอนทอดที่พี่บัวบอกว่านี่เป็นของที่โรงแรมหรือคอนโดฯ อื่นไม่ค่อยใส่มาใน ABF(American breakfast) หรือก็คือชุดอาหารเช้าแบบอเมริกันที่เป็นที่นิยมในโรงแรมหรูนั่นเอง
เมื่อรวมกับนมสดที่ชงผสมกับผงโปรตีนที่พี่บัวส่งมาให้รั้นซ์ก็อิ่มจนแทบเดินไม่ไหว
“ไปค่ะ ออกไปดูเสื้อผ้ากัน” เมื่ออิ่มดีแล้วบัวก็อยากจะรีบพารั้นซ์ออกไปซื้อเสื้อผ้าเพื่อใช้ในการทำงาน ด้วยระหว่างกินมื้อเช้ารั้นซ์เลือกที่จะเริ่มงานในคืนนี้เลย เสื้อผ้าที่รั้นซ์มีมาไม่เหมาะกับการใส่ทำงานที่ร้านของเธอ
“ร้านนี้ราคาแรงอยู่นะครับ” เมื่อเห็นป้ายหน้าร้านรั้นซ์ก็แทบจะถอยหลังกรูด
“ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ถึงครึ่งเดือนรั้นซ์ก็หามาคืนพี่ได้หมดแน่ๆเชื่อพี่” เพราะรั้นซ์ดื้อดึงที่จะให้การซื้อเสื้อผ้าครั้งนี้เป็นการสำรองจ่ายไปก่อน ไม่ใช่การซื้อให้แบบที่บัวอยากทำเธอจึงได้แต่ต้องตามใจ แม้ไม่รู้ว่านี่คือการวางเหยื่อให้เธอพอใจหรือว่าเด็กหนุ่มคิดแบบนั้นจริงๆ แต่บัวก็ไม่ได้สะทกสะท้านกับเงินหลักหมื่นเพราะเธอมีรายได้จากทุกกิจการรวมกันไม่ต่ำกว่าวันละครึ่งล้าน
“3 ชุดก็พอแล้วมั้งครับ” เจ้าตัวคนที่ต้องใช้เสื้อผ้ากลับกลายมาเป็นหุ่นลองเสื้อที่บัวเรียกพนักงานเอามาให้รั้นซ์ลองจนแทบจะใส่ได้แบบทั้งสัปดาห์ไม่ต้องซักเริ่มหน้าเสีย เพราะดูจากป้ายแล้วแต่ละชุดก็ปาเข้าไปเกือบสองพัน
“15 ชุดค่ะ เผื่อมีงานธีมที่ต้องแต่งตามสี” บัวบอกเบาๆ พร้อมยิ้มให้แล้วหันไปพยักหน้ากับพนักงาน
“28,900 ส่วนลดสมาชิก 20% ชำระ 23,120 ครับคุณบัว” พนักงานหนุ่มที่ดูแลทั้งสองคนบอกทั้งราคาเต็มและราคาที่ลดแล้ว เพราะบัวให้พนักงานของเธอมาเลือกซื้อชุดที่ร้านนี้เป็นประจำ
“ขอบคุณครับ ถ้าสิ้นเดือนคุณบัวว่างเชิญนะครับเสื้อผ้าสุขภาพสตรีชุดฤดูหนาวจะเริ่มวางขายพร้อมโปรโมชั่นเปิดตัวดีไซเนอร์คนใหม่ของแบรนด์เราครับ” ผู้จัดการร้านเอ่ยพร้อมส่งถุงเสื้อผ้าที่รวมๆ แล้วน่าจะเกิน 15 ถุงให้รั้นซ์ที่ยื่นมือไปรับ
“ไปค่ะไปดูรองเท้ากัน ชุดกีฬาด้วย” บัวบอกเบาก่อนเดินตัวปลิวนำหน้าโดยไม่รอคำตอบ
“พี่บัวครับ รองเท้าพอเข้าใจได้ แต่ทำไมต้องซื้อชุดกีฬาด้วยล่ะครับ” รั้นซ์ที่ซอยเท้าถี่ยิบเพื่อตามร่างระหงให้ทันพร้อมถุงที่พะรุงพะรังในมือ
“บางทีที่ร้านก็จัดธีมกีฬาน่ะค่ะ แต่ถึงเวลานั้นค่อยซื้อก็ทัน แต่ที่สำคัญคือเราทำงานกลางคืนมีการกินดื่มถ้าไม่ออกกำลังกายหุ่นพังเอาง่ายๆ นะคะ”
“แล้วรั้นซ์จะไปออกกำลังกายที่ไหนเหรอครับ วิ่งรอบคอนโดฯ พี่พงษ์แกจะว่ามั้ยครับ” รั้นซ์พาซื่อด้วยคิดว่าการออกกำลังกายที่ลงทุนน้อยที่สุดคือการวิ่ง
“จะไปวิ่งให้เสี่ยงรถชนทำไมคะ ที่ชั้น 2 คอนโดฯพี่มีฟิตเนต เทรนเนอร์ส่วนตัวพี่ก็มี ให้เค้าเทรนรั้นซ์เพิ่มอีกคนไม่ใช่เรื่องยากค่ะ” เสียงตอบเจื้อยแจ้วแต่มือกลับหยิบจับรองเท้าหนังผู้ชายตามชั้นวางสินค้าไม่หยุด
เมื่อได้คู่ที่คิดว่าเหมาะกับชุดที่ซื้อมาก็ส่งให้พนักงานที่เพิ่งวัดขนาดเท้าของรั้นซ์เสร็จไปหาคู่ที่ขนาดพอดีกับรั้นซ์มาให้เจ้าตัวลอง ส่วนรั้นซ์นั้นเหมือนต้องมนต์สะกดไม่ว่าพี่บัวจะบอกให้ทำอะไรก็ทำตามไปเสียหมด หลังจากได้รองเท้าห้าคู่และชุดออกกำลังกายห้าชุดบัวก็เริ่มหิว
“หิวหรือยังคะ เที่ยงครึ่งแล้ว”
“นิดหน่อยครับ”
“ขอโทษนะคะพอได้ชอปปิ้งมันลืมตัวลืมเวลาไปหมดเลย”
“ปกติไม่ค่อยได้ออกมาชอปปิ้งเหรอครับ”
“นานๆจะออกมาเองสักทีน่ะค่ะ ปกติทางร้านจะส่งคอลเลคชั่นใหม่ไปให้ลองที่คอนโดฯ แต่วันนี้ได้ออกมาเดินอัพเดตบ้างก็สนุกดีค่ะ มื้อกลางวันทานสเต็กกันนะคะ ร้านนี้ตัวเลือกเยอะดี” เมื่อเดินผ่านร้านสเต๊กชื่อดังบัวก็เลี้ยวเข้าร้านทันทีเพราะร้านนี้มีอาหารหลากหลายคิดว่าคงมีสักเมนูที่ถูกใจรั้นซ์
“มีเมนูที่ถูกใจมั้ยคะ”
“พี่บัวทานเนื้อมั้ยครับ” ด้วยความที่อยากกินสเต๊กเนื้อวัวมานานแต่เนื้อดีๆมักราคาสูงเกินเอื้อม แม้ว่ารั้นจะเคยกินแต่ก็ไม่บ่อยครั้นจะสั่งเนื้อวัวมากินร่วมโต๊ะกับคนที่ไม่กินเนื้อวัวก็ดูจะไม่มีมารยาทไปสักหน่อย แถมดูท่ามื้อนี้พี่บัวคงเป็นเจ้าภาพอีกตามเคย
“ทานสิคะของอร่อย เมื่อก่อนก็เคยหยุดทานไปพักใหญ่นะคะ แต่พอมาคิดได้ว่ากินเนื้อหรือกินเจก็ไม่ใช่ว่าจะได้บุญมากขึ้น ทุกอย่างล้วนอยู่ที่เราปฏิบัติตัวต่างหากวัว 1 ชีวิตเลี้ยงคนได้ตั้งหลายคน หมู 2 ตัวยังหนักไม่เท่าวัว 1 ตัวเลย แล้วไก่กี่ตัวถึงจะหนักเท่าวัว 1 ตัวคะ ถ้ารั้นซ์ชอบก็สั่งมาเลยค่ะ สั่งเผื่อพี่ด้วยชุดนึงนะคะ อย่าลืมสั่งสลัดกับซุปมาเคียงนะคะ พี่ขอไปเข้าห้องน้ำแป๊บเดี๋ยวกลับมาค่ะ” คำตอบยังคงเจื้อยแจ้วเหมือนเดิมทำเอารั้นซ์ฟังจนเพลินกว่าจะรู้ตัวคนพูดก็เดินพ้นประตูร้านไปลิ่วแล้ว
“กลับมาแล้วค่ะ สงสัยพี่ไปนานอาหารออกครบหมดละ”
“แค่สิบนาทีเองครับ น่าจะเพราะวันนี้วันธรรมดาลูกค้าไม่เยอะ อาหารเลยออกเร็ว”
“งั้นเราทานกันเลยเถอะค่ะ ดูสิไม่ยอมทานก่อนหิ้วท้องรอพี่ใช่มั้ยคะ”
“โธ่ รั้นซ์จะทานก่อนพี่บัวได้งัยล่ะครับ น่าเกลียดแย่เลย”
“ขอบคุณนะคะ พอดีเจอคนรู้จักน่ะค่ะเลยหยุดทักทายกันเลยนานไปหน่อย ทานเถอะค่ะ เผื่อกลับไปนอนได้อีกสักงีบ”
“โอเคครับ”
หลังจบมื้ออาหารทั้งสองคนตรงกลับคอนโดฯหรู เพื่อนอนกลางวันชดเชยที่ต้องออกไปเดินชอปปิ้งตั้งแต่สิบนาฬิกา เมื่อนาฬิกาปลุกในเวลาหนึ่งทุ่มตรงบัวก็ชวนรั้นซ์เปลี่ยนเป็นชุดออกกำลังกายแล้วลงไปที่ห้องฟิตเนต
“วิทคะฝากเด็กเพิ่มอีกคนนะคะ เอาคอร์สเดียวกับพี่เดือนหน้าค่อยดูอึกทีว่าน้องจะไหวแค่ไหน” บัวเอ่ยกับเทรนเนอร์ส่วนตัวก่อนจะแนะนำให้รั้นซ์รู้จักกับวิทแล้วแยกไปเดินบนลู่วิ่งเพื่อวอร์มร่างกาย
“เคยเข้าฟิตเนตมั้ยครับ เวทเทรนนิ่ง คาร์ดิโอหรือว่าปกติออกกำลังกายแบบไหนลองเล่าให้ฟังหน่อยครับ” วิทเทรนเนอร์หนุ่มนักศึกษาวิทยาศาสตร์การกีฬาที่มาทำงานเป็นเทรนเนอร์ส่วนตัวตั้งแต่ฝึกงานจนได้งานประจำเป็นผจก.ฟิตเนตแห่งนี้ก็เพราะบัวให้โอกาส จึงใส่ใจคนที่บัวแนะนำเป็นพิเศษเพราะชายหนุ่มตรงหน้าถึงแม้จะสูงโปร่งแต่แทบไม่มีกล้ามเนื้อทำให้พอจะรู้ได้ว่าไม่เคยผ่านการเข้าฟิตเนตหรือการออกกำลังแบบหนักๆมาก่อน ยิ่งคุณบัวบอกว่าให้เริ่มคอร์สเดียวกับเธอซึ่งเป็นคอร์สที่เน้นความแข็งแรงของร่างกายไม่ใช่เน้นการสร้างกล้ามเนื้อด้วยล่ะก็น่าจะพอเดาได้
“ปกติไม่เคยออกกำลังกายเลยครับ เคยเตะบอลกับเพื่อนบ้างแต่ก็ไม่บ่อยครับ” รั้นซ์ตอบไปตามความจริง เมื่อพี่บัวอธิบายความสำคัญของการออกกำลังกายและการสร้างกล้ามเนื้อเขาก็ไม่คิดจะปฏิเสธอีกต่อไป แม้ว่าค่าเทรนเนอร์จะไม่ใช่ถูกๆ แต่เขาก็จะพยายามหาเงินมาคืนพี่บัวให้ได้
ตอนที่ 4“มอร์นิ่งจ้ะ” เจ้าของเสียงนั่งเช็ดผมอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้งปลายเตียงจึงได้เห็นตอนที่รั้นซ์งัวเงียลุกขึ้นพอดี“พี่บัวครับ รั้นซ์” เพราะเรื่องที่ทำลงไปเมื่อคืนทำให้รั้นซ์ไม่รู้จะพูดอะไรต่อไป“บางทีความว้าเหว่มันก็ร้ายกว่าความเมา ตื่นแล้วก็ไปล้างหน้าเถอะจ้ะจะได้มาออเดอร์อาหาร” แม้ว่าเมื่อคืนรั้นซ์จะทำให้ประทับใจมากแค่ไหนแต่สาวใหญ่อย่างบัวก็รู้ดีว่ามันคือความว้าเหว่ชั่วคราวจึงไม่คิดจะเรียกร้องความรับผิดชอบหรือสานต่ออะไร เมื่อชายหนุ่มลุกไปเข้าห้องน้ำบัวก็หันมาจัดการกับตัวเองต่อไป“เลือกไม่ถูกเลยครับ รายการอาหารเช้าเยอะมากพี่บัวช่วยเลือกให้รั้นซ์ได้มั้ยครับ” หนุ่มน้อยที่เคยกินแค่อาหารตามสั่งหรือกับข้าวไทยๆ ที่แม่ทำกินในบ้าน“งั้น ABF ละกันนะคะของคอนโดเราชุดใหญ่รั้นซ์น่าจะอิ่ม”“เอ่อ ครับ” เพราะไม่เข้าใจว่า ABF ที่พี่บัวสั่งมาให้นั้นคืออะไรจึงได้แต่รับคำอย่างเบาๆ จนกระทั่งอาหารมาส่งถึงได้รู้ว่ามันคือ ไข่ดาว ขนมปังปิ้ง ฮอทดอก แฮมต้ม แถมยังมีเบคอนทอดที่พี่บัวบอกว่านี่เป็นของที่โรงแรมหรือคอนโดฯ อื่นไม่ค่อยใส่มาใน ABF(American breakfast) หรือก็คือชุดอาหารเช้าแบบอเมริกันที่เป็นที่นิยมในโร
“สวัสดีครับคุณบัว วันนี้กลับเร็วนะครับ แล้วนี่เอ่อ...” นายพงษ์หัวหน้ารปภ.ปรี่เข้ามายืนข้างรถเมื่อเห็นรถของบัวแล่นเข้ามาจอดในซอง พร้อมเอ่ยทักทายแต่กลับต้องชะงักไปเมื่อคนที่ลงมาจากตำแหน่งคนขับเป็นหนุ่มน้อยคราวลูก “อ้อ ยังไม่กลับบ้านเหรอคะพี่พงษ์ นี่รั้นซ์ค่ะ บัวว่าจะให้มาพักที่ห้องสักพัก เดี๋ยวค่อยขยับขยาย พรุ่งนี้พี่พงษ์ช่วยให้นิติทำคีย์การ์ดให้ด้วยนะคะ” ระหว่างที่บัวแนะนำรั้นซ์ก็ยกมือไหว้ทักทายชายหนุ่มรุ่นใหญ่ตรงหน้าแล้วจึงเดินไปหยิบของท้ายรถเพราะไม่มีเรื่องให้สนทนา “ทำคีย์การ์ดห้องไหนเหรอครับคุณบัว” นายพงษ์ทำหน้างง เพราะห้องในคอนโดมิเนี่ยมสุดหรูที่บัวเป็นเจ้าของตึกนี้มีผู้เข้าพักเต็มหมดทุกห้องแล้ว “ทำของห้องบัวสิคะ บัวจำได้นะคะว่าตอนนี้ห้องเช่าเต็มหมดทุกห้องแล้ว เร็วสุดก็น่าจะอีก 6 เดือนถึงจะว่าง” “ครับคุณบัว งั้นผมลาเลยนะครับพรุ่งนี้จะได้เข้ามาจัดการให้คุณบัวแต่เช้า” นายพงษ์ขอตัวลาก่อนที่จะมองตามสาวใหญ่และหนุ่มน้อยที่เดินตามกันไปเงียบๆ จนทั้งสองคนเข้าลิฟท์ไป “พี่บัวครับ ทำคีย์การ์ดให้รั้นซ์จะดีเหรอครับ” “รั้นซ์ไม่สะดวกเหรอคะ
“เป็นงัย บรรยากาศร้าน ถ้าหิวก็สั่งอะไรกินได้เลยนะลงบัญชีพี่ ไม่ต้องกังวล” บัวแวะมาดูคนที่ตนรับมาหรือจะเรียกว่า ว่าที่พนักงานใหม่ก็ไม่ผิดเพราะหายไปคุยงานในสำนักงานนานไปนิดและลืมไปว่าเขาคงจะหิวและเกรงใจตนอยู่ไม่น้อยจึงต้องออกมากำชับอีกครั้งก่อนจะเรียกบริกรเข้ามาแล้วนั่งคุมจนกว่าเด็กหนุ่มจะสั่งอาหารและเครื่องดื่มเสร็จจึงเข้าครัวไปดูงานยิบย่อยอีกครั้งเพราะร้านนี้ไม่ได้ขายแค่ดริ๊งแต่ยังเน้นรสชาติอาหารอีกด้วยจึงมีแขกที่มาเพราะรสชาติอาหารอยู่ไม่น้อย “เจ้ ผัวใหม่เหรอ หน้างี้จ๋องเชียว” ปาล์มผู้จัดการสาวรุ่นน้องคณะผู้ที่มีทักษะการบริหารเป็นเลิศที่ถูกดึงมาช่วยงานหลังโควิดผ่านไม่นาน ตอนแรกก็ดูแลร้านอาหารอีสานไฮคลาสขึ้นห้างที่บัวเปิดไว้ให้ลูกสะใภ้บริหารจนเมื่อเชอร์รี่ชวนมาเปิดบาร์โฮสแล้วหล่อนรู้เข้าก็ขอย้ายมาประจำที่บาร์โฮสทันที ก็นะได้อยู่ใกล้หนุ่มหล่อมากหน้าหลายตาสาวเทื้ออย่างเธอจะไม่รีบคว้าโอกาสได้อย่างไร “ว่าที่” “จริงเจ้ ไปคั่วมาตอนไหน มาแรงแซงหนูไปได้งัย” ยัยปาล์มทำหน้าตาตื่นเพราะบัวไม่เคยข้องแวะกับชายใดในเชิงชู้สาว ให้เธอเห็นน่ะนะ “ว่าที่พนั
ตอนที่ 1 “แกมันรั้น รั้นเหมือนชื่อ อยากได้อะไรก็ออกไปหาเอาเองโน่น อยากได้อยากมีเหมือนน้อง แต่ทำตัวไม่น่ารักแบบนี้ชั้นจะไปอยากให้อะไรแก ไม่ต้องมามองหน้าชั้นไม่ได้รักน้องมากกว่าแก เพราะชั้นไม่ได้รักแก จำไว้” “ไม่ต้องย้ำ รั้นซ์เข้าใจ แม่บอกรั้นซ์ไม่รู้กี่พันครั้งแล้ว ยังงัยก็ขอบคุณที่ไม่ได้ทำแท้งรั้นซ์ไปในตอนนั้น แต่ถ้าแม่ทำรั้นซ์จะดีใจมากกว่านี้” ชายหนุ่มวัย 25 ปีตอบกลับมารดาที่เป็นเพียงผู้ให้กำเนิด แต่กลับไม่เคยเลี้ยงดู ไม่เคยให้เวลาหรือแม้แต่สิ่งที่ไม่ต้องซื้อหาเช่นความรัก คงถึงเวลาแล้วที่เขาต้องออกจากขุมนรกหลังนี้ไปแสวงหาทุกสิ่งด้วยตนเอง แม้กระทั่ง ความรัก “พี่ พี่จะไปจริงๆเหรอ แม่ก็แค่โกรธ รอแม่ใจเย็นอีกหน่อยค่อยคุยก็ได้” ริวน้องชายผู้มีศักดิ์เป็นน้า แต่ว่าตาแก่มากแล้วแม่จึงต้องรับน้องชายตัวเองมาเลี้ยง แทนที่จะสอนให้ลูกชายเรียกว่า น้า แต่กลับเข้ามาในฐานะน้องชาย ความรักที่ไม่เคยได้กลับถูกถ่ายเทไปยังใครอีกคนแม้รั้นซ์จะเข้าใจแต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่รู้สึกน้อยใจ “นายไม่เคยรู้หรอกว่าแม่รู้สึกยังงัยกับพี่ เลิกพูดเถอะมันไม่ทำให้อะไรมันดีขึ้นมาหรอก ฝากน