ถึงเขาจะเกิดมาด้วยความผิดพลาดและไม่ได้ถูกเลี้ยงดูด้วยความรักอย่างที่ควรจะเป็น ถึงแม้เขาจะขายร่างกายให้บริการ แต่ความรักของเขาต้องใช้หัวใจมาซื้อเท่านั้น เพราะความรักมันซื้อกันด้วยเงินไม่ได้
view moreตอนที่ 1
“แกมันรั้น รั้นเหมือนชื่อ อยากได้อะไรก็ออกไปหาเอาเองโน่น อยากได้อยากมีเหมือนน้อง แต่ทำตัวไม่น่ารักแบบนี้ชั้นจะไปอยากให้อะไรแก ไม่ต้องมามองหน้าชั้นไม่ได้รักน้องมากกว่าแก เพราะชั้นไม่ได้รักแก จำไว้”
“ไม่ต้องย้ำ รั้นซ์เข้าใจ แม่บอกรั้นซ์ไม่รู้กี่พันครั้งแล้ว ยังงัยก็ขอบคุณที่ไม่ได้ทำแท้งรั้นซ์ไปในตอนนั้น แต่ถ้าแม่ทำรั้นซ์จะดีใจมากกว่านี้” ชายหนุ่มวัย 25 ปีตอบกลับมารดาที่เป็นเพียงผู้ให้กำเนิด แต่กลับไม่เคยเลี้ยงดู ไม่เคยให้เวลาหรือแม้แต่สิ่งที่ไม่ต้องซื้อหาเช่นความรัก คงถึงเวลาแล้วที่เขาต้องออกจากขุมนรกหลังนี้ไปแสวงหาทุกสิ่งด้วยตนเอง แม้กระทั่ง ความรัก
“พี่ พี่จะไปจริงๆเหรอ แม่ก็แค่โกรธ รอแม่ใจเย็นอีกหน่อยค่อยคุยก็ได้” ริวน้องชายผู้มีศักดิ์เป็นน้า แต่ว่าตาแก่มากแล้วแม่จึงต้องรับน้องชายตัวเองมาเลี้ยง แทนที่จะสอนให้ลูกชายเรียกว่า น้า แต่กลับเข้ามาในฐานะน้องชาย ความรักที่ไม่เคยได้กลับถูกถ่ายเทไปยังใครอีกคนแม้รั้นซ์จะเข้าใจแต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่รู้สึกน้อยใจ
“นายไม่เคยรู้หรอกว่าแม่รู้สึกยังงัยกับพี่ เลิกพูดเถอะมันไม่ทำให้อะไรมันดีขึ้นมาหรอก ฝากนายดูแลแม่ด้วยละกัน พี่ไปล่ะ” รั้นซ์พูดทิ้งท้ายก่อนตบไหล่ รัก น้องชายที่ความจริงแล้วคือน้าชาย แค่ชื่อเล่นก็พอจะบอกอะไรได้หลายๆอย่าง
รักเกิดมาตอนรั้นซ์อายุได้ 10 ปี โตพอที่จะรู้ว่าสิ่งที่แม่ทำกับรักนั่นคือความรัก ความเอาใจใส่แบบที่เขาไม่เคยได้รับ แม้จะอ้างว่าตอนนั้นแม่ยังเด็กเกินไปและต้องกลับไปเรียนต่อจึงไม่มีเวลาดูแล แต่รั้นซ์ก็เคยได้เห็นเพื่อนร่วมรุ่นหลายคนที่ท้องในวัยเรียนเหมือนกับแม่ แต่พวกเธอกลับตั้งใจดูแลลูกเป็นอย่างดี ก็มีแหล่ะที่ดูแลไม่ดีหรือไม่ได้ดูแลด้วยตัวเองแต่ก็ยังแสดงออกทางความรักด้วยเงินหรือสิ่งของบ้าง
ส่วนรั้นซ์นอกจากพี่เลี้ยงก็มีเพียงพ่อที่แวะเวียนมาเยี่ยมที่บ้านพี่เลี้ยงเป็นบางครั้ง ซื้อขนมมาบ้าง ให้เงินไว้ซื้อขนมบ้างแม้จะไม่เคยเกิน 100 แต่แววตาที่พ่อมองเขาทำให้รั้นซ์เข้าใจถึงความแตกต่างได้ดี
พ่อที่ไม่มีโอกาสเลี้ยงดูเพ่อในตอนนั้นพ่อยังเด็กและหลงเดินทางผิด สารเสพติดเป็นที่พึ่งของเด็กบ้านแตกอย่างพ่อ ส่วนพ่อเป็นที่พึ่งของเด็กขาดความอบอุ่นอย่างแม่ สุดท้ายก็วนเวียนเป็นวัฏจักรเหมือนในเพลง “ถามยาย” แต่รั้นซ์ไม่มียายให้ถามเพราะยายจากไปเร็ว ตาทำงานหนักเพื่อเลี้ยงดูแม่ จนแม่ขาดความอบอุ่น พอตามีเมียใหม่แม่กลับคิดว่าตาไม่รัก ผลกรรมเลยออกมาเป็นตัวเป็นตน และมายืนมองรั้วบ้านเป็นครั้งสุดท้าย
“ลองปล่อยเค้าออกไปชีวิตดูบ้างเถอะคุณ บางทีโลกภายนอกอาจจะสอนรั้นซ์ได้ดีกว่าเรา” พ่อบุ๊คสามีคนปัจจุบันของแม่ที่พบกันหลังจากที่แม่คลอดรั้นซ์และกลับไปเรียนต่อเอ่ยปลอบใจแม่รินเบาๆ ก่อนจะพาเธอเดินออกมาจากริมหน้าต่างเพื่อจะได้ไม่ต้องเห็นภาพลูกเดินจากไปพวกเขาจึงไม่ได้เห็นน้ำตาของลูกชายก่อนที่รั้นซ์จะเดินก้มหน้าลากกระเป๋าเดินทางออกจากบ้าน
“ฮัลโหลใช่เบอร์พี่บัวรึเปล่าครับ”
“สวัสดีค่ะ น้องรั้นซ์เหรอคะ พี่รอสายจากน้องทุกวันเลยนะคะเนี่ย” บัวสาวใหญ่วัย 45 เจ้าของกิจการบาร์โฮสย่านพัทยารับสายที่เมมฯเบอร์มาแล้วหลายวันด้วยอาการดีใจจนออกนอกหน้า
“พี่ยังอยากให้รั้นซ์ไปทำงานด้วยอยู่มั้ยครับ” รั้นซ์เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่น ขนาดคนในบ้านยังไม่ต้องการแล้วพี่บัวพี่สาวต่างวัยที่เจอกันครั้งเดียวเมื่อเดือนก่อนจะยินดีต้อนรับเขาหรือ แม้ว่าพี่บัวจะชวนไปทำงานด้วยป่านนี้ก็คงไม่รับคนเพิ่มแล้วเพราะเวลามันผ่านมานานมากสำหรับการชวนใครสักคนไปร่วมงาน
“น้องรั้นซ์สะดวกเข้ามาคุยรายละเอียดกับพี่เมื่อไหร่ดีคะ” แม้จะแปลกใจในน้ำเสียงที่ไม่มั่นคงของต้นสายแต่ก็นะ งานบาร์โอสใครจะมาทำก็คิดหนักอยู่บ้างไม่ใช่เรื่องแปลก
“วันนี้พี่บัวเข้าร้านมั้ยครับ”
“ตอนนี้พี่อยู่ห้างฯแถวๆลาดพร้าว กำลังจะไปร้านค่ะ น้องรั้นซ์อยู่แถวไหนคะ ขับรถมามั้ย หรือถ้าอยู่ใกล้ๆ พี่ไปรับได้นะ”
“รั้นซ์อยู่ศาลพระพิฆเนศตรงแยกห้วยขวางครับ”
“งั้นรอตรงMRT เดี๋ยวพี่ไปรับ” บัวนัดแนะสถานทีเสร็จก็หยุดกิจกรรมที่คิดไว้ว่าจะไปทำสปามือ-เท้าไว้ก่อนเพราะน้องรั้นซ์คนนี้เธอรอมานาน ด้วยหน้าตาหล่อเหลาและความขี้เล่นหากได้มาไว้เป็นเด็กใหม่ในร้านคงเรียกลูกค้าได้อีกไม่น้อย แม้ว่าจะมีความชอบส่วนตัวปนอยู่ด้วยก็เถอะ
“สวัสดีครับพี่บัว” ชายหนุ่มเอ่ยทักทายพร้อมยกมือไหว้ด้วยความมีมารยาท
“ขึ้นรถเถอะจอดนานไม่ได้ แล้วทำไมมีกระเป๋าด้วยล่ะ เอาขึ้นด้านในก่อนน่าจะยาว”
“ยาวจริงครับพี่.....เรียบร้อยละครับ” รั้นซ์ตอบสั้นๆก่อนยกกระเป๋าใส่ไว้ที่เบาะหลังรถเก๋งคันโตแล้วจึงขึ้นรถมารัดเข็มขัดนิรภัยแล้วรายงานเจ้าของรถคนงาม
“นั่งพักก่อนพี่เข้าไปสั่งงานที่ร้านสักพัก รั้นซ์จะได้ไปดูงานด้วย รายละเอียดค่อยไปคุยที่คอนโดพี่ ไม่ต้องทำหน้าอย่างงั้น พี่ไม่กินไก่วัด แต่ก็อย่างที่เธอว่าเรื่องยาวแบบนี้ไม่น่าจะคุยที่ร้านรู้เรื่อง เดี๋ยวร้านเปิดก็หาความสงบไม่ได้ละ ใครกันนะมันบอกจะช่วยบริหารให้ชั้นลงทุนอย่างเดียวกลับมาจากฮันนีมูนชั้นจะไปพักร้อนสักเดือน คอยดูเถอะนังเชอร์รี่” บอกกล่าวกับชายหนุ่มรุ่นน้อง ไม่สิรุ่นลูกเสร็จก็ไม่วายพาลไปบ่นให้เพื่อนรักที่ชวนเธอเข้าหุ้นเปิดบาร์โฮส บัวผู้รักความสงบกลับต้องมาบริหารงานดูแลลูกค้าให้วุ่นวายเพราะนังเพื่อนตัวดีเพิ่งแต่งงานใหม่รอบที่ 3 กับเศรษฐีตาตี่ที่ได้เจอเพียง 3 เดือน ช่างเชื่อในความรักเสียจนงมงาย
ทั้งสองสาวผ่านชีวิตสมรสมาแล้วทั้งคู่แต่ทัศนคติเกี่ยวกับความรักช่างแตกต่าง บัวผู้แยกทางกับสามีทั้งๆ ที่ยังรักกันดี เพียงแค่แนวคิดในการเลี้ยงลูกต่างกันบัวจึงขอแยกทางกับสามีและเลือกที่จะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวสายลุย เลี้ยงลูกชายด้วยตัวคนเดียวจนลูกชายดูแลตัวเองได้และไม่ต้องพึ่งพาบัวในการตัดสินใจใดๆ จะมีมาปรึกษาเรื่องใหญ่ๆ ในชีวิตบ้างเป็นบางครั้ง กลับกันบัวกลับเป็นฝ่ายที่พยายามหาเวลาอยู่กับลูกอยู่บ่อยๆ จนเชอร์รี่เพื่อรสมัยเรียนปริญญาตรีมาชวนเปิดบาร์โฮสโดยอ้างว่ากลัวเงินบูด แต่จริงๆ แล้วเชอร์รี่ที่ถูกอดีตสามีทอดทิ้งไปมีภรรยาใหม่วัยเด็กขบเผาะน่าจะอยากประชดอดีตสามีมากกว่า เปิดร้านมาได้ 2 ปี เชอร์รี่มีสามีใหม่แล้ว 2 คน โชคดีที่ยังไม่กินไก่วัดให้คนครหา แต่ก็นะคนที่ขาดก็มักจะวิ่งเข้าหา ต่างจากบัวที่หลังจากแยกทางกับสามีก็ยังคบหากับแบบเพื่อนได้อยู่จนกระทั่งเขาเสียชีวิตจากไป
“พี่บัวเหนื่อยมั้ยครับ ข้างหน้ามีปั๊มเปลี่ยนให้รั้นซ์ช่วยขับได้นะครับ” เสียงถามเบาๆ จากคนนั่งข้างๆที่เฝ้าสังเกตอาการโชเฟอร์มาได้พักใหญ่
“ขอโทษทีพี่คิดอะไรเพลินไปหน่อย อีกหน่อยเดียวก็ถึงร้านแล้วล่ะพี่ขับไหว”
“ถ้ามีอะไรไม่สบายใจก็เล่าให้รั้นซ์ฟังได้นะครับ อย่างน้อยก็ได้ระบายมันออกมา” แม้ว่าจะไม่รู้ว่าพี่สาวคนนี้จะคิดเรื่องอะไรอยู่แต่รั้นซ์มั่นใจได้ว่าไม่น่าใช่เรื่องอภิรมณ์แน่นอน คนที่จมอยู่แต่กับความทุกข์อย่างเขาเข้าใจดี แววตาของคนที่ต้องพยายามทำตัวเข้มแข็งรั้นซ์คุ้นเคยจากการมองตัวเองในกระจกมามากกว่า 20 ปี
“ลงมาก่อนเถอะพี่สั่งงานแป๊บเดียว”
“สวัสดีครับคุณบัว วันนี้กลับเร็วนะครับ แล้วนี่เอ่อ...” นายพงษ์หัวหน้ารปภ.ปรี่เข้ามายืนข้างรถเมื่อเห็นรถของบัวแล่นเข้ามาจอดในซอง พร้อมเอ่ยทักทายแต่กลับต้องชะงักไปเมื่อคนที่ลงมาจากตำแหน่งคนขับเป็นหนุ่มน้อยคราวลูก “อ้อ ยังไม่กลับบ้านเหรอคะพี่พงษ์ นี่รั้นซ์ค่ะ บัวว่าจะให้มาพักที่ห้องสักพัก เดี๋ยวค่อยขยับขยาย พรุ่งนี้พี่พงษ์ช่วยให้นิติทำคีย์การ์ดให้ด้วยนะคะ” ระหว่างที่บัวแนะนำรั้นซ์ก็ยกมือไหว้ทักทายชายหนุ่มรุ่นใหญ่ตรงหน้าแล้วจึงเดินไปหยิบของท้ายรถเพราะไม่มีเรื่องให้สนทนา “ทำคีย์การ์ดห้องไหนเหรอครับคุณบัว” นายพงษ์ทำหน้างง เพราะห้องในคอนโดมิเนี่ยมสุดหรูที่บัวเป็นเจ้าของตึกนี้มีผู้เข้าพักเต็มหมดทุกห้องแล้ว “ทำของห้องบัวสิคะ บัวจำได้นะคะว่าตอนนี้ห้องเช่าเต็มหมดทุกห้องแล้ว เร็วสุดก็น่าจะอีก 6 เดือนถึงจะว่าง” “ครับคุณบัว งั้นผมลาเลยนะครับพรุ่งนี้จะได้เข้ามาจัดการให้คุณบัวแต่เช้า” นายพงษ์ขอตัวลาก่อนที่จะมองตามสาวใหญ่และหนุ่มน้อยที่เดินตามกันไปเงียบๆ จนทั้งสองคนเข้าลิฟท์ไป “พี่บัวครับ ทำคีย์การ์ดให้รั้นซ์จะดีเหรอครับ” “รั้นซ์ไม่
“เป็นงัย บรรยากาศร้าน ถ้าหิวก็สั่งอะไรกินได้เลยนะลงบัญชีพี่ ไม่ต้องกังวล” บัวแวะมาดูคนที่ตนรับมาหรือจะเรียกว่า ว่าที่พนักงานใหม่ก็ไม่ผิดเพราะหายไปคุยงานในสำนักงานนานไปนิดและลืมไปว่าเขาคงจะหิวและเกรงใจตนอยู่ไม่น้อยจึงต้องออกมากำชับอีกครั้งก่อนจะเรียกบริกรเข้ามาแล้วนั่งคุมจนกว่าเด็กหนุ่มจะสั่งอาหารและเครื่องดื่มเสร็จจึงเข้าครัวไปดูงานยิบย่อยอีกครั้งเพราะร้านนี้ไม่ได้ขายแค่ดริ๊งแต่ยังเน้นรสชาติอาหารอีกด้วยจึงมีแขกที่มาเพราะรสชาติอาหารอยู่ไม่น้อย “เจ้ ผัวใหม่เหรอ หน้างี้จ๋องเชียว” ปาล์มผู้จัดการสาวรุ่นน้องคณะผู้ที่มีทักษะการบริหารเป็นเลิศที่ถูกดึงมาช่วยงานหลังโควิดผ่านไม่นาน ตอนแรกก็ดูแลร้านอาหารอีสานไฮคลาสขึ้นห้างที่บัวเปิดไว้ให้ลูกสะใภ้บริหารจนเมื่อเชอร์รี่ชวนมาเปิดบาร์โฮสแล้วหล่อนรู้เข้าก็ขอย้ายมาประจำที่บาร์โฮสทันที ก็นะได้อยู่ใกล้หนุ่มหล่อมากหน้าหลายตาสาวเทื้ออย่างเธอจะไม่รีบคว้าโอกาสได้อย่างไร “ว่าที่” “จริงเจ้ ไปคั่วมาตอนไหน มาแรงแซงหนูไปได้งัย” ยัยปาล์มทำหน้าตาตื่นเพราะบัวไม่เคยข้องแวะกับชายใดในเชิงชู้สาว ให้เธอเห็นน่ะนะ “ว่าที่พนั
ตอนที่ 1 “แกมันรั้น รั้นเหมือนชื่อ อยากได้อะไรก็ออกไปหาเอาเองโน่น อยากได้อยากมีเหมือนน้อง แต่ทำตัวไม่น่ารักแบบนี้ชั้นจะไปอยากให้อะไรแก ไม่ต้องมามองหน้าชั้นไม่ได้รักน้องมากกว่าแก เพราะชั้นไม่ได้รักแก จำไว้” “ไม่ต้องย้ำ รั้นซ์เข้าใจ แม่บอกรั้นซ์ไม่รู้กี่พันครั้งแล้ว ยังงัยก็ขอบคุณที่ไม่ได้ทำแท้งรั้นซ์ไปในตอนนั้น แต่ถ้าแม่ทำรั้นซ์จะดีใจมากกว่านี้” ชายหนุ่มวัย 25 ปีตอบกลับมารดาที่เป็นเพียงผู้ให้กำเนิด แต่กลับไม่เคยเลี้ยงดู ไม่เคยให้เวลาหรือแม้แต่สิ่งที่ไม่ต้องซื้อหาเช่นความรัก คงถึงเวลาแล้วที่เขาต้องออกจากขุมนรกหลังนี้ไปแสวงหาทุกสิ่งด้วยตนเอง แม้กระทั่ง ความรัก “พี่ พี่จะไปจริงๆเหรอ แม่ก็แค่โกรธ รอแม่ใจเย็นอีกหน่อยค่อยคุยก็ได้” ริวน้องชายผู้มีศักดิ์เป็นน้า แต่ว่าตาแก่มากแล้วแม่จึงต้องรับน้องชายตัวเองมาเลี้ยง แทนที่จะสอนให้ลูกชายเรียกว่า น้า แต่กลับเข้ามาในฐานะน้องชาย ความรักที่ไม่เคยได้กลับถูกถ่ายเทไปยังใครอีกคนแม้รั้นซ์จะเข้าใจแต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่รู้สึกน้อยใจ “นายไม่เคยรู้หรอกว่าแม่รู้สึกยังงัยกับพี่ เลิกพูดเถอะมันไม่ทำให้อะไรมันดีขึ้นมาหรอก ฝากน
Mga Comments