Masukอิงธารส่งเสียงแหบโหย ถึงพยายามขัดขืนแต่หล่อนไม่กล้าส่งเสียงดังมากไปกว่าพยายามกดมันเสียงลงต่ำเมื่อปากเป็นอิสระ ไม่เคยมีใครทำอย่างนี้กับหล่อนมาก่อน วิคเตอร์ทั้งหยาบร้ายและกักขฬะ มือของหล่อนไม่สามารถจิกข่วนเขาได้เพราะถูกตรึงไว้เหนือศีรษะด้วยมือของเขาเพียงข้างเดียว อิงธารได้ยินเสียงหายใจหอบหนักของเขา ลมหายใจร้อนผ่าวของเขาแทบจะหลอมละลายหล่อนได้ ร่างเล็กแอ่นขึ้นแต่ดันตัวเขาออกไปไม่สำเร็จ ตรงข้ามกลับยิ่งเหนื่อยอ่อนและทำให้หมดแรงเสียเปล่าปลี้ เมื่อไม่สามารถขยับหนีร่างอรชรจึงค่อยผ่อนลงในที่สุด หล่อนได้แต่ร้องไห้อยู่ใต้ร่างหนาใหญ่ที่คุกคาม วิคเตอร์ขบกรามแน่นและจ้องหน้าสวยหยดของหญิงสาวซึ่งตอนนี้ซีดเหมือนกระดาษ หยดน้ำตาไหลลงไปทางขมับขณะที่หล่อนหอบแฮ่ก ปากของอิงธารบวมเจ่อและมีรอยแตกจากการขบกัดของเขาเมื่อครู่ ชายหนุ่มเหยียดปากตึงเครียดออก
“ทีหลังอย่าท้าทายผมอีก จำไว้ด้วยเอ็มมี่...ว่าคุณไม่มีวันชนะผม นับแต่นี้ไปสิ่งที่คุณทำได้คือต้องเชื่อฟังและทำตาม อีกอย่าง ถ้าผมจับได้ว่าคุณโกหกเรื่องเอ็มม่า...มันจะไม่มีคำเตือนจากผมเป็นหนที่สอง!”
บทที่ 1
อิงธารรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในตอนเช้ามืดด้วยอาการงุนงงจากการที่หล่อนต้องหลับ ๆ ตื่น ๆ อยู่ตลอดคืน
“ทีหลังอย่าท้าทายผมอีก จำไว้ด้วยเอ็มมี่...ว่าคุณไม่มีวันชนะผม นับแต่นี้ไปสิ่งที่คุณทำได้คือต้องเชื่อฟังและทำตาม อีกอย่าง ถ้าผมจับได้ว่าคุณโกหกเรื่องเอ็มม่า...มันจะไม่มีคำเตือนจากผมเป็นหนที่สอง!”
เสียงดังก้องในหูทำให้หล่อนสะดุ้งเมื่อเอี้ยวตัวเพียงเล็กน้อยกลับพบว่าตัวเองนอนอยู่แนบชิดร่างสูงใหญ่ซึ่งโดยปกติหญิงสาวไม่คุ้นเคยกับการที่มีคนมานอนข้าง ๆ แถมเป็นผู้ชายแปลกหน้าที่หล่อนพึ่งรู้จักเมื่อวาน
วิคเตอร์ คิงส์
ซาตานในคราบสุภาพบุรุษแสนหยาบร้าย แต่เขาเป็นเจ้าหนี้อิงอรพี่สาวของหล่อนที่หลอกเอาเงินของเขาแล้วหนีหายเข้ากลีบเมฆ อิงธารนอนนิ่ง ศีรษะของหล่อนหนุนอยู่บนท่อนแขนหนาแกร่งที่แบกรับเอาไว้ตลอดทั้งคืนเพราะหล่อนไม่อาจฝืนคำสั่งเด็ดขาดของคนใจหินอย่างวิคเตอร์ หลังจากทะเลาะและมีปากเสียง หล่อนเถียงเขาไม่สำเร็จแถมยังโดนบีบบังคับให้ต้องนอนบนฟูกที่หล่อนตั้งใจเตรียมไว้ให้เขานอนบนพื้น กลับกลายเป็นว่าอิงธารต้องนอนบนฟูกผืนเดียวกันกับเขาตลอดคืนและอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่มโดยที่หล่อนไม่เต็มใจแม้ว่าเขาจะยังไม่ทำอะไรให้หล่อนเสียหายก็ตาม
หญิงสาวเหลือบมองนาฬิกาบนผนังห้องก็เห็นว่าเป็นเวลาเกือบตีห้า แต่อะไรก็ไม่ทำให้อิงธารปวดหัวได้เท่ากับเรื่องราวที่เกิดขึ้นรวดเร็วปานฟ้าแลบทั้งหล่อนก็ยังมึนงงไม่หายกับโชคชะตาของตัวเองที่ต้องมาพบเจอผู้ชายอย่างวิคเตอร์ คิงส์...เขาหยาบร้าย กักขฬะ หยิ่งผยองและเอาแต่ใจ หล่อนไม่รู้ว่าจะสรรหาคำไหนมาอธิบายความเป็นตัวเขา
ขณะที่ร่างน้อยกำลังจะขยับตัวกลับต้องชะงักนิ่งเมื่อร่างหนายิ่งเบียดแนบชิด แขนใหญ่พาดบนอกนุ่มพร้อมกันนั้นท่อนขาแข็งแรงเกยก่ายอยู่บนลำตัวท่อนล่างของหล่อน อิงธารสะดุดลมหายใจตัวเอง หล่อนแค่จะเอียงหน้ามองเขาแต่ปลายจมูกเล็กดันไปชนโหนกแก้มสูง ปากนุ่มเบียดแก้มและสัมผัสขนเคราสากระคาย กลิ่นหอมอ่อนของอาฟเตอร์เชฟอวลไอและทำให้ร่างบอบบางสั่นสะท้าน หล่อนรู้สึกราวกับมีอะไรบางอย่างกระตุกเต้นใต้จิตสำนึก เหมือนน้ำนิ่งกระเพื่อมไหวจากแรงกระทบที่ไม่คิดว่าจะทำให้หล่อนเกิดความวาบหวามขึ้นมาอย่างรุนแรง
วาบหวามอย่างนั้นหรือ...อิงธารนึกละอายตัวเอง ทำไมหล่อนถึงได้เกิดความรู้สึกที่น่าอายเช่นนี้ขึ้นมาได้ สมองน้อย ๆ ของหล่อนไม่เคยมีเรื่องผู้ชายกล้ำกลายเข้ามาแม้แต่คนเดียว แต่ก็ไม่น่าเชื่อเลยว่าในช่วงจังหวะเวลานั้นหล่อนกลับไม่ยอมแม้แต่กระพริบตาราวกับกลัวว่าภาพสะท้อนใบหน้าคร้ามคมราวเทพบุตรหนุ่มรูปงามจะเลือนลางไปจากนัยน์ตาคู่สวย เขาหล่อมากจนหล่อนถึงกับสะท้านไปทั้งตัว
“อืม...”
เสียงครางลึกในลำคอของวิคเตอร์ขณะที่เปลือกตาของเขายังปิดสนิทเรียกสติของอิงธารกลับคืน
“วิคเตอร์...อะ...”
หญิงสาวกำลังจะส่งเสียงก้ต้องชะงักไปอีกเมื่อจู่ ๆ ปลายจมูกโด่งเป็นสันก็ดันมาชนพวงแก้มนุ่ม ไม่ใช่แค่จมูกของวิคเตอร์เท่านั้นแต่ยังเป็นริมฝีปากที่เคล้าคลอบนแก้มสวย ดูเหมือนว่าเขากำลังละเมอ ยิ่งละเมอหนักก็ยิ่งกอด ยิ่งจูบแก้มหล่อนหนักขึ้น
“วิค...วิคคะ...อื๊อ...”อิงธารพยายามส่งเสียง โชคร้ายที่หล่อนไม่กล้าแหวใส่เขาเสียงดังเพราะกลัวว่าแม่จะได้ยิน“วิค...อะ...อุ๊ย!”ร่างเล็กเกือบจะร้องออกมาเสียงดังดีว่ารีบเอามืออุดปากไว้ได้เสียก่อนเพราะจู่ ๆ คนตัวใหญ่ก็พลิกร่างขึ้นทาบทับอยู่เหนือหล่อน หญิงสาวพยายามจะดันตัวใหญ่โตของวิคเตอร์ที่หนักอึ้งให้พ้นแต่กลายเป็นว่าหล่อนต้องนอนหอบเหนื่อยอยู่ใต้ร่างหนาที่ไม่ยอมเปิดเปลือกตา แก้มของเขาแนบกับแก้มของอิงธารที่เปลี่ยนเป็นสีเข้มจัดด้วยความอับอายเพราะไม่เคยมีผู้ชายมานอนทับบนตัวหล่อนอย่างนี้มาก่อน“วิค...ฉันรู้นะว่าคุณตื่นแล้ว นี่คุณแกล้งฉันใช่ไหม”หล่อนเข่นเขี้ยวใส่แต่ดูเหมือนเขาไม่ยอมตอบโต้อะไรกลับมา และนั่นยิ่งทำให้หญิงสาวหมั่นไส้จนนึกอยากจะกรีดเล็บบนหน้าหล่อ ๆ ที่ตอนนี้มันแนบอยู่กับแก้มนิ่มถ้าไม่ติดว่าแขนถึงทับไว้ด้วยลำตัวทั้งใหญ่และหนัก ร่างน้อยรวบรวมกำลังใจส่งเสียงลอดไรฟันอีกหน“วิค...ฉันรู้นะว่าคุณแกล้ง คุณ...”เสียงหวานหายไปเสียเฉย ๆ เพราะจังหวะที่หล่อนกำลังเผยอปากออกก็ถูกคนแกล้งหลับ
อิงธารส่งเสียงแหบโหย ถึงพยายามขัดขืนแต่หล่อนไม่กล้าส่งเสียงดังมากไปกว่าพยายามกดมันเสียงลงต่ำเมื่อปากเป็นอิสระ ไม่เคยมีใครทำอย่างนี้กับหล่อนมาก่อน วิคเตอร์ทั้งหยาบร้ายและกักขฬะ มือของหล่อนไม่สามารถจิกข่วนเขาได้เพราะถูกตรึงไว้เหนือศีรษะด้วยมือของเขาเพียงข้างเดียว อิงธารได้ยินเสียงหายใจหอบหนักของเขา ลมหายใจร้อนผ่าวของเขาแทบจะหลอมละลายหล่อนได้ ร่างเล็กแอ่นขึ้นแต่ดันตัวเขาออกไปไม่สำเร็จ ตรงข้ามกลับยิ่งเหนื่อยอ่อนและทำให้หมดแรงเสียเปล่าปลี้ เมื่อไม่สามารถขยับหนีร่างอรชรจึงค่อยผ่อนลงในที่สุด หล่อนได้แต่ร้องไห้อยู่ใต้ร่างหนาใหญ่ที่คุกคาม วิคเตอร์ขบกรามแน่นและจ้องหน้าสวยหยดของหญิงสาวซึ่งตอนนี้ซีดเหมือนกระดาษ หยดน้ำตาไหลลงไปทางขมับขณะที่หล่อนหอบแฮ่ก ปากของอิงธารบวมเจ่อและมีรอยแตกจากการขบกัดของเขาเมื่อครู่ ชายหนุ่มเหยียดปากตึงเครียดออก“ทีหลังอย่าท้าทายผมอีก จำไว้ด้วยเอ็มมี่...ว่าคุณไม่มีวันชนะผม นับแต่นี้ไปสิ่งที่คุณทำได้คือต้องเชื่อฟังและทำตาม อีกอย่าง ถ้าผมจับได้ว่าคุณโกหกเรื่องเอ็มม่า...มันจะไม่มีคำเตือนจากผมเป็นหนที่สอง!”บทที่ 1
หญิงสาวอุทานพร้อมหมอนที่ยังสวมปลอกไม่ทันเสร็จหลุดจากมือเมื่อร่างสูงลุกพรวดขึ้นไปนั่งบนเตียง เขานึกจะทำอะไรก็ทำไม่ได้มีความเกรงอกเกรงใจสักนิด อิงธารขยับหนี“เราสัญญากันแล้วนะคะว่านี่มันแค่ละคร คุณไม่มีสิทธิ์ทำอะไรรุ่มร่ามกับฉันอย่างเด็ดขาด”“วันนี้ผมยังไม่ทำอะไรคุณแต่หลังจากเราจดทะเบียนสมรสกันแล้วน่ะไม่แน่”“คนตระบัติสัตย์! ฉันไม่ใช่เมียจริง ๆ ของคุณสักหน่อย”“เดี๋ยวก็ได้เป็นแล้วเอ็มมี่”“ว๊าย!”บทที่ 10 อิงธารร้องเสียงหลงเมื่อชายหนุ่มขยับเข้าหาและใช้ความเร็วรวบตัวหล่อนเข้าไปในอ้อมกอด“คุณนี่มัน...ฉันจะใช้คำพูดอะไรกับคุณดี คนบ้า คนหื่น”“คุณนี่ปากคอเราะร้ายจริง ๆ นะเอ็มมี่ ก็ลองด่าผมเสียงดัง ๆ ดูซี แม่คุณจะได้รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”“อย่าเอาแม่ฉันมาเป็นข้อต่อรองจะดีกว่า ถ้าคุณเป
เอื้อมรักษ์ส่ายหน้า “อรชอบทำตัวลึกลับ บอกแม่ว่าทำธุรกิจเกี่ยวกับการค้าที่ดิน บางทีก็ส่งเงินมาให้มากจนแม่ตกใจ แต่หลังจากติดต่อกันครั้งนั้นก็หายตัวไปโดยที่แม่ก็ไม่รู้เลยว่าพี่สาวของอิงอยู่ที่ไหน...ช่างเถอะนะ พ่อวิคไม่ต้องฟังแม่ให้มากก็ได้เดี๋ยวจะเครียดเสียเปล่าๆ”“ไม่เครียดครับ เรื่องทุกเรื่องที่บ้านของเอ็มมี่ก็เหมือนเรื่องของผม ในเมื่อเรากำลังจะเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว”“ขอบใจนะ ถ้าอย่างนั้นเชิญพ่อวิคตามสบายก่อน เดี๋ยวแม่จะไปเตรียมอาหารเย็นให้ อยากทานแบบไหนล่ะจ๊ะ แม่ทำอาหารได้หลากหลายเมนูเลยนะ”“แบบไทย ๆ ก็ได้ครับ ผมชอบอาหารไทย”เอื้อมรักษ์ยิ้มกว้างก่อนจะลุกขึ้นเดินหายเข้าไปในครัว อิงธารฉวยจังหวะนั้นรีบเดินตามมารดาเข้าไป“แม่คะ”หญิงสาวเรียก เมื่อมารดาหันกลับมาหล่อนจึงเข้าไปยกมือไหว้และจับมือเอื้อมรักษ์ไว้แน่น“แม่ขา...อิงขอโทษนะคะกับเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ คือว่า...”“ไม่ต้องขอโทษแม่หรอกนะอิง แม่เข้าใจ” นางบีบมือบุตรสาวตอบ “อิง...เรามีกันส
อิงธารเองก็รู้สึกตกใจเมื่อเห็นมารดาของหล่อนมีสีหน้าเหมือนไม่อยากเชื่อหูตัวเองที่ได้ยินคำพูดเมื่อครู่จากปากของชายแปลกหน้า แต่แล้วเอื้อมรักษ์กลับยกมือปรามบุตรสาวที่กำลังจะก้าวเข้าไปหา“ดะ...เดี๋ยวนะอิง...ผู้ชายคนนี้...เอ้อ...วิคเตอร์ เป็นแฟนกับลูกจริง ๆ เหรอจ๊ะ แล้วเขาบอกแม่ว่าเขากำลังจะจดทะเบียนสมรสกับลูก...อย่างนั้นเหรอจ๊ะ”“แม่คะ...อิงขอโทษค่ะแม่”“โอ...อิงจ๋า...นี่ลูกกำลังจะมีครอบครัวแล้วจริง ๆ เหรอนี่ แม่ดีใจกับลูกด้วย”การณ์กลับกลายเป็นว่าสิ่งที่วิคเตอร์บอกกล่าวเป็นข่าวดีสำหรับเอื้อมรักษ์ที่ดึงอิงธารมากอดไว้แน่น หญิงสูงวัยหันกลับไปยังร่างสูงใหญ่และมองเขาด้วยแววตาปลื้มปริ่มยินดี“โอ...นี่เป็นข่าวดีมากที่สุดเลยสำหรับฉันนะพ่อหนุ่ม แม่ต้องเรียกวิคซีนะถึงจะถูก ถ้าอย่างนั้นเข้าบ้านกันก่อนเถอะนะ”เอื้อมรักษ์ดึงมือลูกสาวเข้าบ้านโดยวิคเตอร์เดินตามเข้าไปและเห็นว่าด้านในซึ่งเป็นห้องรับแขกตกแต่งด้วยของประดับแบบไทยดั้งเดิมดูแปลกตาอย่างยิ่งสำหรับเขา เพราะเดี๋ยวนี้เขาเห็นว่าบ้านเรือนของคนไทยเปลี่ยนไป มีคว
“พะ...พอแล้วค่ะ!”หญิงสาวป้องปากเขาไว้ด้วยมือเรียวบาง หล่อนกำลังตกอยู่ในอารมณ์ก้ำกึ่งระหว่างตระหนกและตื่นเต้น วิคเตอร์จูบฝ่ามือของหล่อนที่แนบบนปากเขา อิงธารดึงกลับแทบไม่ทัน หล่อนนิ่วหน้า“คุณนี่มันฉวยโอกาส พวกคนรวยไม่รู้จักคำว่ามารยาทหรือยังไงกันคะ”“ผมแค่ซักซ้อมทำความเข้าใจกับคุณเท่านั้น ทำให้ชินว่าเราสองคนน่ะ...”“แม่ฉันอยู่ข้างในค่ะ”อิงธารเปลี่ยนเรื่องแต่พวงแก้มสีระเรื่อของหล่อนที่แดงก่ำมากขึ้นไม่อาจปกปิดความรู้สึกของหล่อนในตอนนี้ได้เลย เพราะมันมีทั้งความอับอายและเขินอาย ก็หล่อนไม่เคยถูกผู้ชายจูบ หนำซ้ำวิคเตอร์ยังเป็นคนแปลกหน้าเสียด้วย ใบหน้าของชายหนุ่มเปลี่ยนเป็นเครียดขรึมอีกครั้ง เขาทำเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างที่อิงธารไม่อาจหยั่งเห็น และในเวลานั้นหล่อนก็เริ่มกลัวขึ้นมาอีก ร่างสูงคลายวงแขนให้ร่างน้อยเป็นอิสระแต่เมื่อเขากำลังจะเปิดประตูรถอิงธารกลับรั้งแขนเขาไว้“วิคเตอร์...เมื่อกี๊คุณยังไม่ได้บอกฉันเลยนะคะ”“หืมม์...บอกอะไร”“คุณยังไม่ได้รับ







