LOGINอิงธารไม่ได้รู้สึกสบายขึ้นแม้แต่น้อย ตรงข้ามหล่อนยิ่งเครียดจัดเพราะไม่รู้ว่าจะตั้งรับกับปัญหาที่กำลังจะลุกลามใหญ่โตนี้อย่างไรดี หล่อนคิดไม่ตกเพราะที่จริงแล้วก็ไม่ได้พบอิงอรมานานหลายเดือน และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้เจอพี่สาว เพราะถ้าหากวิคเตอร์จะไปอยู่ที่บ้านหล่อนจริง ๆ คงเป็นเรื่องหนักอึ้งพอดู แต่ปัญหาใหญ่ตอนนี้คือจะบอกกับแม่ของหล่อนเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้ว่าอย่างไรดี
“ลินดัน...ออกรถ...กลับไปที่โรงเรียนของเธอ”
วิคเตอร์ออกคำสั่งโดยที่ไม่ยอมละสายตาคมวับไปจากใบหน้าหวานจัดของหญิงสาว รสละมุนเหมือนน้ำต้อยของดอกไม้ป่ายังฉ่ำอยู่บนปลายลิ้นของเขา ชายหนุ่มสลัดความนึกคิดนั้นพ้นจากหัวไม่ได้แต่หน้าตายังคงบึ้งตึงใส่อิงธารที่แววตาคู่นั้นฉายความหวั่นวิตกชัดเจน คนขับของวิคเตอร์พารถกลับไปยังโรงเรียนอีกครั้ง และเมื่อไปถึงอิงธารก็รีบเปิดประตูรถลงไป หล่อนคิดว่าจะจะได้หายคอหายใจแต่ที่ไหนได้วิคเตอร์กลับตามหล่อนลงไปและเดินตามจนถึงหน้าห้องพักครู หญิงสาวหันมาทำตาเขียวใส่และส่งเสียงลอดไรฟัน
“นี่คุณ...จะตามฉันมาทำไม กลับไปก่อนเถอะค่ะ ฉันไม่หนีไปไหนหรอกนะ”
“ผมจะรอจนกว่าคุณจะเสร็จหน้าที่ที่โรงเรียน”
“ไม่ได้นะคะ”
“ผัวจะมารอเมียที่ทำงานนี่มันผิดตรงไหนไม่ทราบ”
“ฉันยังไม่ได้เป็นอะไรกับคุณ”
“อ้าว!...อิง...กลับมาแล้วเหรอจ๊ะ วันนี้มีอะไรพิเศษถึงได้ออกไปทานอาหารข้างนอกล่ะ...อ้าว...อุ๊ย!”
เจ้าของเสียงที่ดังข้างหลังซึ่งเป็นหญิงสาวอายุรุ่นราวคราวเดียวกับอิงธารต้องชะงักเมื่อก้าวออกมาจากห้องพักแล้วเห็นเพื่อนของหล่อนยืนอยู่กับชายชาวต่างชาติตัวโต อิงธารหันกลับไปและทำหน้าแทบไม่ถูกก่อนจะกล่าวว่า
“จิ๊บ...อ้า...เอ้อ...นี่คุณวิคเตอร์นะ เขาเป็น...”
“ผมเป็นแฟนของคุณครูอิงธารครับ และเราสองคนกำลังจะจดทะเบียนสมรสกัน”
คำตอบของชายหนุ่มทำเอาจิตรา เพื่อนครูของอิงธารอ้าปากค้าง หล่อนเอามือปิดปากแทบไม่ทัน แต่แล้วความตกใจก็เปลี่ยนเป็นประหลาดใจระคนยินดี
©©©©©©©©
บทที่ 5
จิตราจับแขนอิงธารแล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า
“ฮ้า!...จริงเหรออิง...นี่นะเหรอแฟนอิง อะไรกัน มีแฟนฝรั่งหน้าตาหล่อถึงขนาดนี้ไม่ยอมบอกใครเลยนะ เก็บเป็นความลับเงียบเลย นี่ถ้าพวกครูในห้องรู้กันล่ะก็คงจะเซอร์ไพรซ์ ทั้งเซอร์ไพรซ์และดีใจเลยล่ะ”
“ถึงขนาดนั้นเลยเหรอครับ”
วิตเตอร์ถามด้วยความอยากรู้เพราะสีหน้าของจิตรานั้นตื่นเต้นราวกับว่านี่เป็นข่าวดีที่สุดในรอบปีเลยทีเดียว
“จริงซีคะคุณวิคเตอร์ ก็อิงน่ะเขาเรียบร้อย วัน ๆ ก็สอนแต่เด็กอยู่กับเอกสาร กลางวันไม่เค้ยไม่เคยออกไปทานข้างข้างนอก มาทำงานตรงเวลากลับบ้านตรงเวลา พวกเราไม่เคยว่าอิงจะชอบใครเลยนะคะเพราะเขาขี้อายมาก ฮั่นแน่...นี่คงไปแอบคบกับคุณวิคเตอร์เพราะกลัวว่าพวกเราจะรู้ล่ะซีว่าอิงมีแฟน”
“ปละ...เปล่านะจิ๊บ”
อิงธารรีบปฏิเสธแต่ก็ไม่ทันเสียแล้วเมื่อวิคเตอร์เสริมขึ้นว่า
“ครับ...ผมคุยกับเอ็มมี่ทางโทรศัพท์ คืองี้นะครับ ผมโทรมาผิดทำให้เรารู้จักกันตั้งแต่นั้น เราโทรคุยกันทุกวัน ผมมาเมืองไทยหลายครั้งแรกแล้วล่ะครับ และครั้งนี้ที่มาที่นี่ก็ตั้งใจจะมาจดทะเบียนสมรสกับเธอครับ”
โกหก! โกหกกันหน้าด้าน ๆ ว่าหล่อนเป็นครูไม่ควรโกหกเด็ก ๆ นี่อะไรกัน เขาเป็นนักธุรกิจพันล้านแต่กลับมาพูดจาสับปลับแบบนี้มันใช้ได้เสียที่ไหน แต่หล่อนก็ไม่ทันได้แก้ตัวเมื่อจิตราร้องขึ้นว่า
“ว้าว! โรแมนติกม๊ากค่า แล้ว...เมื่อกี๊คุณเรียกเพื่อนฉันว่าเอ็มมี่เหรอคะ โอ๊ว...อิงจ๋า ว่าที่สามีของเธอเรียกเธอได้น่ารักมาก”
“ไม่...คือฉัน...”
“เอ็มมี่อาจยังไม่ชินที่ผมเรียกเธออย่างนั้น แต่ผมก็เรียกเธอแบบนี้มาตลอดนะครับ เป็นการตั้งชื่อให้เรียกง่าย ๆ”
วิคเตอร์พูดมากเกินไปแล้ว! อิงธารนึกอย่างหมั่นไส้แต่หล่อนไม่สามารถแสดงอาการต่อต้านเขาออกมาได้ตอนนี้แต่ก็ไม่ได้แสดงสีหน้ายินดีกับคำพูดของเขานัก หล่อนอยากจะตัดบทด้วยการไล่เขากลับก็ถูกขัดด้วยคำถามของจิตราที่อยากรู้ไม่เลิก
“อ่า...ว่าแต่คุณวิคเตอร์เนี่ยทำงานอะไรเหรอคะ?”
“ผมเป็นเจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ คิงส์แอซเซ็ทคอร์ป ทำธุรกิจเกี่ยวกับที่ดิน โรงแรมและการลงทุนในต่างประเทศครับ”
จิตราอ้าปากหวอ “จริงเหรอคะ...นี่แสดงว่าคุณคงต้องรวยมาก”
“ไม่หรอกครับ ผมไม่ใช่มหาเศรษฐีอะไร เป็นนักธุรกิจที่ต้องทำงานทุกวันเหมือนคนอื่นๆ”
“คุณน่ารักมากเลยนะคะ ช่างถ่อมตน ว่าทำไมถึงได้เอาชนะใจเพื่อนของฉันได้...อุ๊ย! ตายละ ถึงเวลาฉันต้องไปสอนแล้วล่ะค่ะ ถ้ายังไงเชิญเข้าไปในห้องพักก่อนก็ได้นะคะ ตอนนี้ครูคนอื่นออกไปสอนกันหมดแล้ว ฉันขอตัวก่อนนะคะคุรวิคเตอร์...อิงจ๋า จิ๊บไปสอนก่อนนะเดี๋ยวค่อยกลับมาเม้าท์กัน”
“วิค...วิคคะ...อื๊อ...”อิงธารพยายามส่งเสียง โชคร้ายที่หล่อนไม่กล้าแหวใส่เขาเสียงดังเพราะกลัวว่าแม่จะได้ยิน“วิค...อะ...อุ๊ย!”ร่างเล็กเกือบจะร้องออกมาเสียงดังดีว่ารีบเอามืออุดปากไว้ได้เสียก่อนเพราะจู่ ๆ คนตัวใหญ่ก็พลิกร่างขึ้นทาบทับอยู่เหนือหล่อน หญิงสาวพยายามจะดันตัวใหญ่โตของวิคเตอร์ที่หนักอึ้งให้พ้นแต่กลายเป็นว่าหล่อนต้องนอนหอบเหนื่อยอยู่ใต้ร่างหนาที่ไม่ยอมเปิดเปลือกตา แก้มของเขาแนบกับแก้มของอิงธารที่เปลี่ยนเป็นสีเข้มจัดด้วยความอับอายเพราะไม่เคยมีผู้ชายมานอนทับบนตัวหล่อนอย่างนี้มาก่อน“วิค...ฉันรู้นะว่าคุณตื่นแล้ว นี่คุณแกล้งฉันใช่ไหม”หล่อนเข่นเขี้ยวใส่แต่ดูเหมือนเขาไม่ยอมตอบโต้อะไรกลับมา และนั่นยิ่งทำให้หญิงสาวหมั่นไส้จนนึกอยากจะกรีดเล็บบนหน้าหล่อ ๆ ที่ตอนนี้มันแนบอยู่กับแก้มนิ่มถ้าไม่ติดว่าแขนถึงทับไว้ด้วยลำตัวทั้งใหญ่และหนัก ร่างน้อยรวบรวมกำลังใจส่งเสียงลอดไรฟันอีกหน“วิค...ฉันรู้นะว่าคุณแกล้ง คุณ...”เสียงหวานหายไปเสียเฉย ๆ เพราะจังหวะที่หล่อนกำลังเผยอปากออกก็ถูกคนแกล้งหลับ
อิงธารส่งเสียงแหบโหย ถึงพยายามขัดขืนแต่หล่อนไม่กล้าส่งเสียงดังมากไปกว่าพยายามกดมันเสียงลงต่ำเมื่อปากเป็นอิสระ ไม่เคยมีใครทำอย่างนี้กับหล่อนมาก่อน วิคเตอร์ทั้งหยาบร้ายและกักขฬะ มือของหล่อนไม่สามารถจิกข่วนเขาได้เพราะถูกตรึงไว้เหนือศีรษะด้วยมือของเขาเพียงข้างเดียว อิงธารได้ยินเสียงหายใจหอบหนักของเขา ลมหายใจร้อนผ่าวของเขาแทบจะหลอมละลายหล่อนได้ ร่างเล็กแอ่นขึ้นแต่ดันตัวเขาออกไปไม่สำเร็จ ตรงข้ามกลับยิ่งเหนื่อยอ่อนและทำให้หมดแรงเสียเปล่าปลี้ เมื่อไม่สามารถขยับหนีร่างอรชรจึงค่อยผ่อนลงในที่สุด หล่อนได้แต่ร้องไห้อยู่ใต้ร่างหนาใหญ่ที่คุกคาม วิคเตอร์ขบกรามแน่นและจ้องหน้าสวยหยดของหญิงสาวซึ่งตอนนี้ซีดเหมือนกระดาษ หยดน้ำตาไหลลงไปทางขมับขณะที่หล่อนหอบแฮ่ก ปากของอิงธารบวมเจ่อและมีรอยแตกจากการขบกัดของเขาเมื่อครู่ ชายหนุ่มเหยียดปากตึงเครียดออก“ทีหลังอย่าท้าทายผมอีก จำไว้ด้วยเอ็มมี่...ว่าคุณไม่มีวันชนะผม นับแต่นี้ไปสิ่งที่คุณทำได้คือต้องเชื่อฟังและทำตาม อีกอย่าง ถ้าผมจับได้ว่าคุณโกหกเรื่องเอ็มม่า...มันจะไม่มีคำเตือนจากผมเป็นหนที่สอง!”บทที่ 1
หญิงสาวอุทานพร้อมหมอนที่ยังสวมปลอกไม่ทันเสร็จหลุดจากมือเมื่อร่างสูงลุกพรวดขึ้นไปนั่งบนเตียง เขานึกจะทำอะไรก็ทำไม่ได้มีความเกรงอกเกรงใจสักนิด อิงธารขยับหนี“เราสัญญากันแล้วนะคะว่านี่มันแค่ละคร คุณไม่มีสิทธิ์ทำอะไรรุ่มร่ามกับฉันอย่างเด็ดขาด”“วันนี้ผมยังไม่ทำอะไรคุณแต่หลังจากเราจดทะเบียนสมรสกันแล้วน่ะไม่แน่”“คนตระบัติสัตย์! ฉันไม่ใช่เมียจริง ๆ ของคุณสักหน่อย”“เดี๋ยวก็ได้เป็นแล้วเอ็มมี่”“ว๊าย!”บทที่ 10 อิงธารร้องเสียงหลงเมื่อชายหนุ่มขยับเข้าหาและใช้ความเร็วรวบตัวหล่อนเข้าไปในอ้อมกอด“คุณนี่มัน...ฉันจะใช้คำพูดอะไรกับคุณดี คนบ้า คนหื่น”“คุณนี่ปากคอเราะร้ายจริง ๆ นะเอ็มมี่ ก็ลองด่าผมเสียงดัง ๆ ดูซี แม่คุณจะได้รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”“อย่าเอาแม่ฉันมาเป็นข้อต่อรองจะดีกว่า ถ้าคุณเป
เอื้อมรักษ์ส่ายหน้า “อรชอบทำตัวลึกลับ บอกแม่ว่าทำธุรกิจเกี่ยวกับการค้าที่ดิน บางทีก็ส่งเงินมาให้มากจนแม่ตกใจ แต่หลังจากติดต่อกันครั้งนั้นก็หายตัวไปโดยที่แม่ก็ไม่รู้เลยว่าพี่สาวของอิงอยู่ที่ไหน...ช่างเถอะนะ พ่อวิคไม่ต้องฟังแม่ให้มากก็ได้เดี๋ยวจะเครียดเสียเปล่าๆ”“ไม่เครียดครับ เรื่องทุกเรื่องที่บ้านของเอ็มมี่ก็เหมือนเรื่องของผม ในเมื่อเรากำลังจะเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว”“ขอบใจนะ ถ้าอย่างนั้นเชิญพ่อวิคตามสบายก่อน เดี๋ยวแม่จะไปเตรียมอาหารเย็นให้ อยากทานแบบไหนล่ะจ๊ะ แม่ทำอาหารได้หลากหลายเมนูเลยนะ”“แบบไทย ๆ ก็ได้ครับ ผมชอบอาหารไทย”เอื้อมรักษ์ยิ้มกว้างก่อนจะลุกขึ้นเดินหายเข้าไปในครัว อิงธารฉวยจังหวะนั้นรีบเดินตามมารดาเข้าไป“แม่คะ”หญิงสาวเรียก เมื่อมารดาหันกลับมาหล่อนจึงเข้าไปยกมือไหว้และจับมือเอื้อมรักษ์ไว้แน่น“แม่ขา...อิงขอโทษนะคะกับเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ คือว่า...”“ไม่ต้องขอโทษแม่หรอกนะอิง แม่เข้าใจ” นางบีบมือบุตรสาวตอบ “อิง...เรามีกันส
อิงธารเองก็รู้สึกตกใจเมื่อเห็นมารดาของหล่อนมีสีหน้าเหมือนไม่อยากเชื่อหูตัวเองที่ได้ยินคำพูดเมื่อครู่จากปากของชายแปลกหน้า แต่แล้วเอื้อมรักษ์กลับยกมือปรามบุตรสาวที่กำลังจะก้าวเข้าไปหา“ดะ...เดี๋ยวนะอิง...ผู้ชายคนนี้...เอ้อ...วิคเตอร์ เป็นแฟนกับลูกจริง ๆ เหรอจ๊ะ แล้วเขาบอกแม่ว่าเขากำลังจะจดทะเบียนสมรสกับลูก...อย่างนั้นเหรอจ๊ะ”“แม่คะ...อิงขอโทษค่ะแม่”“โอ...อิงจ๋า...นี่ลูกกำลังจะมีครอบครัวแล้วจริง ๆ เหรอนี่ แม่ดีใจกับลูกด้วย”การณ์กลับกลายเป็นว่าสิ่งที่วิคเตอร์บอกกล่าวเป็นข่าวดีสำหรับเอื้อมรักษ์ที่ดึงอิงธารมากอดไว้แน่น หญิงสูงวัยหันกลับไปยังร่างสูงใหญ่และมองเขาด้วยแววตาปลื้มปริ่มยินดี“โอ...นี่เป็นข่าวดีมากที่สุดเลยสำหรับฉันนะพ่อหนุ่ม แม่ต้องเรียกวิคซีนะถึงจะถูก ถ้าอย่างนั้นเข้าบ้านกันก่อนเถอะนะ”เอื้อมรักษ์ดึงมือลูกสาวเข้าบ้านโดยวิคเตอร์เดินตามเข้าไปและเห็นว่าด้านในซึ่งเป็นห้องรับแขกตกแต่งด้วยของประดับแบบไทยดั้งเดิมดูแปลกตาอย่างยิ่งสำหรับเขา เพราะเดี๋ยวนี้เขาเห็นว่าบ้านเรือนของคนไทยเปลี่ยนไป มีคว
“พะ...พอแล้วค่ะ!”หญิงสาวป้องปากเขาไว้ด้วยมือเรียวบาง หล่อนกำลังตกอยู่ในอารมณ์ก้ำกึ่งระหว่างตระหนกและตื่นเต้น วิคเตอร์จูบฝ่ามือของหล่อนที่แนบบนปากเขา อิงธารดึงกลับแทบไม่ทัน หล่อนนิ่วหน้า“คุณนี่มันฉวยโอกาส พวกคนรวยไม่รู้จักคำว่ามารยาทหรือยังไงกันคะ”“ผมแค่ซักซ้อมทำความเข้าใจกับคุณเท่านั้น ทำให้ชินว่าเราสองคนน่ะ...”“แม่ฉันอยู่ข้างในค่ะ”อิงธารเปลี่ยนเรื่องแต่พวงแก้มสีระเรื่อของหล่อนที่แดงก่ำมากขึ้นไม่อาจปกปิดความรู้สึกของหล่อนในตอนนี้ได้เลย เพราะมันมีทั้งความอับอายและเขินอาย ก็หล่อนไม่เคยถูกผู้ชายจูบ หนำซ้ำวิคเตอร์ยังเป็นคนแปลกหน้าเสียด้วย ใบหน้าของชายหนุ่มเปลี่ยนเป็นเครียดขรึมอีกครั้ง เขาทำเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างที่อิงธารไม่อาจหยั่งเห็น และในเวลานั้นหล่อนก็เริ่มกลัวขึ้นมาอีก ร่างสูงคลายวงแขนให้ร่างน้อยเป็นอิสระแต่เมื่อเขากำลังจะเปิดประตูรถอิงธารกลับรั้งแขนเขาไว้“วิคเตอร์...เมื่อกี๊คุณยังไม่ได้บอกฉันเลยนะคะ”“หืมม์...บอกอะไร”“คุณยังไม่ได้รับ







