เธอไม่ได้อายที่ต้องพูดแบบนั้นออกไป ในเมื่อมันคือเรื่องจริงและไม่อยากให้ใครต้องมานึกสงสัยในตัวเธอ ส่วนเรื่องที่ว่าท้องกับใครนั้นคงให้มันเป็นความลับต่อไปเพราะเธอเองก็ไม่อยากพูดถึงผู้ชายคนนั้นอีกแล้ว ชาตินี้คงไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกันอีก
“งั้นเดี๋ยวพี่ลองถามเด็กที่บ้านดู มีน้องนุ่นกับน้องนิดที่จบมาอยู่บ้านยังไม่มีงานทำ"
” ได้ค่ะพี่คิ้ม ยังไงพี่สายช่วยสแกนให้เฌอด้วยนะคะ “
“กดดันพี่เลยนะ” คิ้มพูดกลั้วหัวเราะ สิ่งที่ได้รับมอบหมายมาถือเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าเธอไปหยิบใครมาแล้วทำเรื่องเดือดร้อนคงแย่แน่
“เดี๋ยวพี่สายก็มาเป็นพี่เลี้ยงน้องฌอนแล้วค่ะ หาคนเก่งๆ แบบพี่สายกับพี่คิ้มให้เฌอหน่อย”
เฌอยิ้มหวานให้พนักงานทั้งสองคนที่เหมือนเป็นครอบครัวเดียวกันไปแล้ว หลังจากคลอดเธอเองก็คุยกับสายว่าจะให้ช่วยเลี้ยงลูกของเธอไม่ต้องทำตรงนี้อีกแล้ว ส่วนงานขายพวกนี้เธอจะต้องแบ่งเวลามาดูแลบ้าง อยู่กับลูกบ้างไม่บ้างานบ้าเงินเกินไป
ฌอน ธีธัช ชื่อของลูกชายตัวน้อยที่จะออกมาดูโลกในอีกห้าสัปดาห์ข้างหน้านี้ เธอเป็นคนคิดชื่อนี้เองและยิ้มทุกครั้งที่ได้อ่านมัน ไม่คิดเลยว่าความรักจะเกิดขึ้นกับคนที่ตัวเองยังไม่เคยเห็นหน้า
อีกสามสิบกว่าวันเธอจะมีอีกหนึ่งชีวิตที่พร้อมจะเป็นครอบครัวเดียวกัน เป็นผู้ชายคนเดียวที่เธอจะรักและเขาคงรักเธอโดยไม่ต้องร้องขอ เฌอริตาไม่ต้องการสิ่งใดแล้ว ครอบครัวที่สมบูรณ์แบบเธอจะสร้างมันขึ้นมาเอง ถึงแม้จะมีสมาชิกเพียงสองคน เธอก็เชื่อว่ามันจะออกมาอย่างสมบูรณ์แบบได้
ศิวดลมณีมีทายาทสืบทอดธุรกิจสามคน คนแรกคือบีอายุสามสิบสองปีรับหน้าที่สานต่อธุรกิจการผลิตเหล็ก ส่งขายทั้งในแต่นอกประเทศ เธอแต่งงานมีครอบครัวและออกจากบ้านตั้งแต่อายุยี่สิบเจ็ด คนที่สองคือบอสอายุยี่สิบหกตอนนี้ยังคงเรียนและทำงานอยู่ต่างประเทศไม่คิดจะจับธุรกิจของบ้านส่วนคนสุดท้าย…
บูม อายุยี่สิบปีเรียนอยู่ชั้นปีสองอีกไม่กี่เดือนก็ปิดเทอม ความหวังของศิวดลมณีที่จะต้องมาสานต่อธุรกิจหลักของครอบครัวคือการค้าส่งวัสดุก่อสร้าง มีห้างร้านขนาดใหญ่เกือบสองร้อยสาขาเป็นลูกค้า
ทว่า ตอนนี้เขายังเป็นนักศึกษาที่เที่ยวเล่นไปวันๆ บางวันเที่ยวจนดึก ถึงห้องตีสามตีสี่ไม่ทันตื่นไปเรียน หนึ่งเดือนกลับบ้านแค่ครั้งเดียวหรือบางทีสองสามเดือนก็มีทั้งที่ระยะทางจากบ้านไปถึงมหาวิทยาลัยไม่กี่กิโลเมตรเท่านั้น ขับรถไม่กี่นาทีก็ถึงหากแต่เขาไม่คิดจะกลับเพราะไม่อยากฟังสิ่งที่แม่กำลังตั้งความหวังในตัวเขาไว้มาก
ถ้าหลังจากเรียนจบเขาต้องทำในสิ่งที่พ่อแม่เตรียมไว้ให้ ไม่ได้ทำตามใจตัวเอง ตอนนี้เขาขอเที่ยว ทำในสิ่งที่อยากทำไปก่อน เบื่อเมื่อไหร่ค่อยกลับไปซบอกแม่แล้วกัน
“คนที่มึงเคยเล่า หายไปไหนแล้ววะ”
ไมเนอร์ เพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม แต่เรียนต่างคณะเอ่ยปากถามเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้กับเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่เขาแทบจะลืมไปแล้วถ้าไม่มีใครจำได้แล้วเอามันกลับมาพูดถึงอีก แถมยังกลายเป็นเรื่องตลกสำหรับเขาไปแล้วถ้าต้องกลับมาพูดถึงมัน
“ไม่รู้ว่ะ คลอดแล้วมั้ง”
เขาตอบอย่างไม่ใส่ใจแต่ติดตลกเพราะตั้งแต่วันนั้นที่ตามไปดูก็ไม่ได้สนใจเด็กรุ่นน้องอายุห่างกันหนึ่งปีคนนั้นอีกเลย ไม่รู้ว่าท้องจริงหรือเปล่าจำหน้าก็แทบไม่ได้ เขาเองก็ไม่ได้คุยเรื่องนี้กับไอ้ปืนอีกเลย ก็ไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกันแล้ว เจอกันตอนเรียนก็แทบไม่ได้คุยอะไร
“กูกลัวเจอคนแบบนี้ว่ะ” ไมเนอร์พูดแล้วหัวเราะออกมาอย่างขำขัน
“พวกมิจฉาชีพเยอะนะเว่ย มึงก็สมควรกลัว”
“กูไม่ได้กินเรี่ยราดแบบมึง กูกินแต่คนที่คุย”
“กูก็ไม่ได้บ่อยขนาดนั้น มึงพูดซะกูดูทุเรศเลย” เขาเถียง
ก็ยอมรับว่าเคยมั่ว แต่หลังจากรับสายจากผู้หญิงที่ชื่อเฌออะไรนั่นเขาทำตัวดีขึ้น ไม่นอนกับใครอีกเลยเพราะกลัวจะ...พลาด ถือว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นคนที่เตือนสติเขาได้ดีเลยทีเดียว
------------------------
พี่บูมคิดว่าน้องเป็นมิจ แงงง แกคิดได้ยังไงกันเนี่ย
มุมความคิดเขาคือไม่พลาดแน่นอน เฌอก็มีมุมความคิดของตัวเอง ภาวนาให้เข้าใจกันสักวัน ฮรึกกก
บทที่ 24เสียงนาฬิกาปลุกดังซ้ำอยู่หลายทีแล้ว แต่เจ้าของมันไม่แม้แต่จะขยับ คนที่ปลุกไม่ยอมตื่นส่วนคนที่ตื่นไม่ได้ตั้งปลุกมือน้อย ๆ ของเด็กชายธีธัชตบลงที่แขนแม่เฌอหลายที เมื่อแม่ไม่ตื่นเขาจึงคลานขยับไปอีกนิด ตบที่แขนของผู้เป็นพ่อ คราวนี้มีคนปิดเสียงรบกวนที่ฟังไม่รื่นหูเสียที“อือ~” คนร่างสูงขยับตัวเล็กน้อย แต่แขนกำยำยังกอดก่ายอยู่บนร่างกายของเมียเขา ปรือตามองเพียบเล็กน้อยก็เห็นว่าลูกชายนั่งมองเขากับเธออยู่บนเตียงตากลมแป๋ว“พ่อบูม”ลูกชายชินแล้วที่เห็นหน้าชายหนุ่มตอนตื่นนอนแต่ที่ไม่ชินคงเป็นเพราะเขาเลื่อนขั้นมาอยู่บนเตียงแถมยังได้กอดเมียทั้งคืน บูมยิ้มให้ลูกชายก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นนั่ง อ้าแขนให้ลูกเข้ามาหา“ตื่นเช้าจัง มาหาพ่อเร็ว”น้องฌอนคลานข้ามตัวแม่ไปหาพ่อ คว้าเอามือถือไปด้วยให้เขาช่วยปิด บูมเลิกคิ้วแต่เมื่อพลิกจอดูแล้วถึงรู้ว่านาฬิกาปลุกของคนที่ยังหลับปุ๋ยนั้นดังอยู่หลายครั้งแล้วเมื่อคืนเขาจัดหนักจัดเต็ม แตกยกแรกแล้วต่อยกสองที่ครัว จัดต่อในห้องน้ำ จนเธอหลับไหลคา…อกเขาอยากเห็นแบบนี้ทุกวัน อยากตื่นนอนแล้วได้เห็นหน้าลูก เห็นหน้าเมีย กอดหอม ดอมดมทั้งลูกทั้งเมียเท่านี้ก็มีความสุขมากแล้
บทที่ 23ยกจนหมดอีกกระป๋องเฌอก็เริ่มกรึ่มได้ที่ กลิ่นหอมที่ลอยตลบผ่านลมโชยเข้าจมูกชวนให้ใจดวงน้อยรู้สึกกระสับกระส่ายคล้ายลมพายุกำลังใกล้เข้ามาเตรียมจะพัดพาร่างของเธอให้ลอยหวือลอยหวือ!ร่างบอบบางถูกรวบกอดแล้วยกจนตัวลอยให้ไปนั่งอยู่บนตักในท่าเดิม เขารวดเร็วจนเธอตกใจ อาบน้ำห้านาทีไม่มีขาดเกิน“ห้านาทีไม่เกินจริง สะอาดไหมเนี่ย”“สะอาดทุกซอกมุม”คำว่า ‘ซอกมุม ‘ทำเอาคนตัวเล็กตัวสั่นขึ้นมาทีหนึ่ง ขนลุกไปทั้งตัว อุตส่าห์คิดว่าเบียร์สองกระป๋องจะทำให้เธอใจกล้าหน้าด้านแต่เรียกความกล้าหน้าด้านนั้นมาแล้วมันก็ไม่ยอมออกมาเสียที“ขออีกป๋อง”“พอแล้วเดี๋ยวเมาหลับ”ก็ต้องหลับไม่ใช่หรือ“ง่วงแล้วเหมือนกัน” เธอแกล้งว่าทั้งที่ตื่นทั้งตาทั้งอวัยวะส่วนอื่น“เธอครับ พี่รีบอาบน้ำยิ่งกว่าอยู่ค่ายทหาร”เฌอหัวเราะกับคำเปรียบเปรยของเขามอบจุมพิตหวานหอมให้คนเร่งรีบอาบน้ำเป็นรางวัล ถ้าแกล้งอีกสงสัยมีงอนให้เธอได้ง้อแน่“รีบทำไมเฌออยากรู้”“รีบมากิน…เบียร์กับเธอ”“แต่ไม่เห็นแตะเบียร์”“เบียร์ในปากเธออร่อยกว่า”เขาดื่มเบียร์ไปเพียงหนึ่งกระป๋อง อีกสองเธอดื่ม เหลือไว้หนึ่งกระป๋องที่สงสัยจะถูกเมินแล้ว บูมเหมือนเมาได้ที่ ม
เธอไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี อารมณ์ตกใจ ประหลาดใจปะปนกันไปหมด หัวใจเต้นโครมครามกับเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างน่าเป็นห่วง จนนึกไม่ออกว่าควรทำอย่างไรต่อเมื่อกี้ฉันทำอะไรค้างไว้นะเขาเองก็ไม่เคยพูดเรื่องของแม่ให้เธอฟัง ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะรู้เรื่องของเธอกับเขาแล้วหรือยัง แต่ดูจสกภาพที่เห็น สรรพนามที่เธอได้รับเดาว่าคงรู้แล้ว“แม่จะเข้ามาหาหลานหลายทีแล้ว แต่เจ้าบูมบอกว่าเพิ่งมา กลัวแม่เฌอตกใจ” เพ็ญศรีหัวเราะขบขัน “ไม่ต้องตกใจนะ แม่แค่เหงาอยากมาเล่นกับหลานน่ะ”“ค่ะ” เธอตอบสั้น ๆเฌอริตาขยับขาที่แข็งเป็นหินนั้นไปข้างหน้า หวังจะเดินไปเก็บของเล่นลูกชายที่เรี่ยราดอยู่บนพื้นแต่แทบสะดุดขาตัวเองล้มเมื่อเพ็ญศรีพูดประโยคถัดมาหน้าระรื่น“แม่จะมาคุยเรื่องหมั้นหมายด้วยน่ะ”เธอหันขวับไปที่คุณนายเพ็ญศรี นึกว่าหูตัวเองฟังผิดเพี้ยนไป อ้าปากพะงาบ ๆ แต่ไม่มีเสียงพูดเพราะคิดคำไม่ออกสถานการณ์ชักน่าเป็นห่วง แต่เฌอรู้ว่าไม่มีใครมาช่วยคิดอะไรได้เลยจึงเปลี่ยนเป็นไปนั่งพับเพียบอยู่บนพื้นข้างเพ็ญศรีกับลูกชายแทน“คือว่า…” เธอไม่เคยคิดเรื่องนี้“เจ้าบูมมันไม่บอกหรือ” เพ็ญศรีมองด้วยสีหน้าสงสัยปนตกใจเฌอริตาสั่นหน้า เพ็ญศรีจึงตบขาต
บทที่ 22เรื่องราวของทั้งคู่กลายมาเป็นประเด็นร้อนให้คนพูดถึงแทนเรื่องตำแหน่งดาวเดือน หลายคนให้กำลังใจแต่ก็มีอีกส่วนน้อยที่ยังด่าว่าคนประเภทนั้นจะเรียกว่าไม่อยู่ในความสนใจก็ไม่ใช่ เขาสนใจที่จะเก็บหลักฐานไปฟ้องเล่น ๆ แต่ไม่สนใจจะเอาคำพูดพวกมันมาใส่ใจ คนพวกนี้ไม่ต่างกับหมาที่นั่งเห่าอยู่หน้าจอไปวัน ๆ“เงินเหลือเหรอมึง”“เออ มีสปอนเซอร์ดี” คุณนายเพ็ญศรีตัวแม่เขาตอบเพื่อนที่นั่งหัวเราะมองเขาเก็บภาพที่มีคนด่าว่าบันทึกไว้เป็นหลักฐาน เพื่อเอาให้ทนายส่วนตัวของแม่จัดการให้เข็ดหลาบส่วนพลอยก็หายไปจากชีวิตของเขาเลยจนไม่ต้องทำอะไร นอกจากอวดลูกกับเมียไปวัน ๆกระเช้ากูก็ไม่เอาและไม่ต้องมายกมือไหว้กู!“ว่ากูไม่เท่าไร ด่าลูกเมียกูกูไม่ยอม”“กล้าเรียกเขาว่าเมียเขายอมให้มึงเป็นผัวหรือยัง”คำแซวของไมเนอร์ทำเอาคนฟังสะอึก นอกจากจูบแล้วก็ไม่มีอย่างอื่นเผื่อแผ่มาให้เขาได้ลิ้มลอง เฌอไม่เปิดโอกาสให้เขาสักทีนี่ก็ผ่านไปเดือนหนึ่งแล้วนะที่เธอยอมรับเข้า แต่เขารอได้ อีกไม่นานเกินรอ ก็เขาอ่อยเธออยู่ทุกเช้าเย็น ทั้งถอดเสื้อเดินผ่าน โชว์กล้ามหน้าท้องปึ๋งปั๋ง กอดรัดฟัดเหวี่ยงเธอให้เธอรู้ว่าอ้อมกอดเขามันอบอุ่น แล้วมั
ลมหายใจของคนตัวเล็กหอบหนัก ในหัวอื้ออึง สติกระจัดกระจายไปหลายที่ ร่างกายอ่อนเปรี้ย ดวงตาหยาดเยิ้มฉ่ำปรือ“หวานจัง”ขยับพูดขณะที่ริมฝากยังแนบชิด ขบกลีบปากของเธออย่างหยอกเย้า คนตัวเล็กอกสั่นขวัญผวาเมื่อเขาขยับริมฝีปากออกจากลีบปากเธอ กดแนบลงที่แก้ม ขยับไปที่ขมับ“พี่บูม” อยากตีปากตัวเองสักสิบที ตั้งใจจะห้ามเขาแต่เสียงเธอกลับสั่นพร่าราวกับเชื้อเชิญ“ครับ” เขาตอบทั้งที่ยังง่วนอยู่กับการก่อกวนเธอ กำปั้นเล็กที่ทุบอยู่ตรงอกไม่มีผลให้คนตัวใหญ่สะทกสะท้าน กล้ามเนื้อไม่มีสะเทือนเลยสักนิด“ไปดูลูกก่อนค่ะ”ชายหนุ่มหัวเราะหึคล้ายชอบใจ เธอเลือกใช้คำได้ดีทีเดียว อยากจะให้เขาปล่อยแล้วหนีแต่ให้ความหวังคล้ายจะกลับมาต่อกันอีก“ข้างนอกหนาวจัง นอนข้างในด้วยได้ไหม”“เฌอมีผ้าห่มให้”“พี่นอนกับพื้น ไม่ขึ้นเตียงให้เธอต้องลำบากแน่นอน”เฌอริตาไม่ยอมตอบเธอขยับตัวเพื่อให้เขาปล่อย อยู่อย่างนี้ต่อรองไปเธอก็แพ้ เขากอดรัดเธอไว้ทั้งร่างจะเอาแรงที่ไหนไปสู้“ได้คืบจะเอาศอก”“ไม่ได้จะเอาศอก” จะเอาเธอต่างหากเขาคิดเล่น ๆ แล้วยิ้มตามหลังคนตัวเล็กที่เหมือนจะยอมให้เข้าไปนอนในห้องด้วยกัน แต่เขากลับรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ เพราะเ
บทที่ 21นานทีเดียวกว่าเธอจะยอมปริปากพูดกับเขา แต่ใบหน้าสะสวยนั้นยังซุกซบอยู่กับลาดไหล่แกร่ง เธอหยุดร้องไห้แล้วแต่ไม่ขยับตัวไปไหนที่เป็นอย่างนั้นเพราะมันทั้งรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย“เฌอแค่เหนื่อยจนอยากร้องไห้”เสียงของเธออู้อี้อยู่บนตัวเขา“แค่เหนื่อยหรือมีมากกว่านั้น พูดมันออกมาให้หมด ไม่ต้องเก็บมันไว้สักเรื่อง”เธอเงียบอยู่เป็นนาทีถึงขยับใบหน้าออกมา ไม่ทันจะยกฝ่ามือขึ้นปาดน้ำตามือของเขาก็ทำหน้าที่แทนเสียแล้ว เข้าใช้ฝ่ามืออบอุ่นนั้นประคองใบหน้า ใช้นิ้วโป้งปาดเอาหยดน้ำตาที่เกาะพราวกับของตานั้นออก สัมผัสที่ใส่ใจและนุ่นนวลนั้นทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นเป็นกองโดนเขาตกอีกแล้ว เหมือนกับตอนนั้นเมื่อสองปีก่อน“พี่บูมรู้ไหม เฌอไม่มีใครเลยน้องจากลูก เพราะเฌอถูกไล่ออกจากบ้านตอนที่ทุกคนรู้ว่าท้อง”เขารู้ถึงไม่เคยถามให้เธอรู้สึกไม่ดี รู้ตั้งแต่ตอนที่ตามไปดูเธอถึงบ้านเมื่อสองปีก่อน“รู้ครับ”“รู้ได้ยังไง” เธอถามด้วยดวงตาที่แดงก่ำถึงแม้จะหยุดร้องแต่น้ำตามันก็พร้อมจะทะลักออกมาทุกเมื่อ“ที่เล่าให้ฟังไปไง เมื่อสองปีที่แล้วพี่ตามไปดูเราเห็นเราถูกไล่ออกจากบ้าน”เฌอพยักหน้าอย่างเข้าใจจสกนั้นเธอก็พูดต่อ“แม่เฌ