ไม่รู้ว่าเป็นความโชคดีหรือเป็นความอาภัพ ที่องค์ไท่จื่อไม่เคยแสดงความโปรดปรานในตัวองค์หญิงหลี่น่า พระองค์ผลักไสนางพร้อมกับบริวารทุกชีวิตมาอาศัยที่ตำหนักโม่ลี่ฮวา ซึ่งอยู่ห่างไกลจากตำหนักหนิงเฉิงชนิดที่ว่ายืดคอยาวเป็นยีราฟก็ไม่สามารถมองเห็นกระเบื้องมุงหลังคา อีกทั้งตำหนักโม่ลี่ฮวายังอยู่ทางทิศใต้ด้านหลังสุดของแนวกำแพงล้อมรอบพระราชวังไป๋อวี้ ติดกับชายป่าที่เชื่อมต่อแนวหุบเขาเฉิงซาน สถานที่ล่าสัตว์ของเหล่าเชื้อพระวงศ์
ในบรรดาเมียน้อยเมียใหญ่ทั้งสิบหกคนขององค์รัชทายาท พระสนมลำดับที่สิบสองอาจจะดูน่าสมเพชเวทนามากที่สุด เพราะไม่ได้ถูกเลือกให้ถวายการรับใช้ แต่ความจริงแล้ว ตอนนี้...
“การได้นอนอยู่บนกองเงินกองทองนี่ช่างรู้สึกดีเหลือเกิน”
ลีน่ากลิ้งตัวไปมาบนผ้าห่มที่คลุมทับทรัพย์สินมรดกที่ตกทอดมาจากองค์หญิงหลี่น่า หากนำมันกลับไปพร้อมกับเธอที่โลกยุคปัจจุบันได้ ลีน่าจะต้องกลายเป็นดารานักแสดงที่ร่ำรวยมากที่สุดในโลกแน่นอน
ก๊อกๆ เสียงคนเคาะประตู ฉุดกระชากดาราสาวกลับมาสู่สภาพความเป็นจริง ร่างบางรีบเอาแขนกวาดเก็บแก้วแหวนเงินทองใส่หีบเก็บสมบัติอย่างกระวีกระวาดว่องไว
“พระสนมเพคะ” แม่นมหวงเอามือเคาะประตู และส่งเสียงเรียกอีกครั้งที่สอง
“เข้ามาได้”
หญิงสูงวัยเปิดประตูให้ซูปี้กับซูลี่หอบหิ้วข้าวของที่นายหญิงต้องการเดินตามหลังนางเข้ามา นอกจากนั้นพระสนมหลี่น่ายังทรงมีรับสั่งให้พวกนางใช้เงินซื้อตัวขันทีน้อยสองสามคนให้มาเป็นพรรคพวก คอยเป็นหูเป็นตาคอยรายงานข่าวคราวความเคลื่อนไหวภายในพระราชวัง ช่วยจัดซื้อจัดหาข้าวของเครื่องใช้จำเป็นแทนพวกนาง
“พวกเจ้าได้ของมาครบไหม”
“ได้มาครบทุกรายการเพคะ หม่อมฉันกับซูลี่ตรวจสอบดูแล้ว” ซูปี้เป็นคนตอบ
“พระสนมกว้านซื้อข้าวของมากมายเหล่านี้มาทำอะไรหรือเพคะ” แม่นมหวงถามด้วยความรู้สึกเคลือบแคลง เนื่องจากนางมองไม่เห็นความประโยชน์หรือแม้้แต่จำเป็นของมัน
ลีน่ายิ้มอ่อนโยนให้หญิงสูงวัยผู้ซื่อสัตย์ ดวงตากลมโตกวาดมองสิ่งของที่วางอยู่บนโต๊ะด้วยความพึงพอใจ ไข่มุก น้ำมันดอกกุหลาบ หยกนวดหน้า ไข่ไก่ โสม และชาสมุนไพรแปดชนิด ทั้งหมดนี่คือเคล็ดลับความงามของพระนางซูสีไทเฮาและพระนางบูเช็กเทียนอย่างไรล่ะ
“ข้าจะทำการปฏิวัติ” พระสนมตัวน้อยกล่าวตอบด้วยน้ำเสียงกังวานใส ใบหน้างดงามของนางดูเจิดจรัสเต็มเปี่ยมไปด้วยสง่าราศี ริมฝีปากอวบอิ่มแดงเรื่อแย้มยิ้มอย่างร่าเริง ยามนี้ นางสวยสะพรั่งน่าหลงใหลไม่ต่างจากดอกไม้แรกผลิกลีบต้อนรับแสงอรุณในยามเช้า
แม่นมหวง ซูปี้และซูลี่ยืนมองนายหญิงของพวกนางด้วยความเคลิบเคลิ้ม ประหนึ่งต้องมนตร์สะกด ‘พระสนมตัวน้อยของข้า... ช่างน่ารักเหลือเกิน’ หัวใจของพวกนางพองโตราวกับคนกำลังตกหลุมรัก
“ต่อไปนี้ให้พวกเจ้าบดไข่มุกเป็นผงแล้วผสมกับน้ำที่ข้าใช้อาบ และทุกเช้าจะต้องนวดผิวให้ข้าด้วยน้ำมันดอกกุหลาบกับหินหยก”
ผงไข่มุกอุดมไปด้วยแร่ธาตุและสารต้านอนุมูลอิสระชั้นยอด น้ำมันดอกกุหลาบและหยกจะช่วยกระตุ้นเลือดลมหล่อเลี้ยงผิวพรรณให้ดูเปล่งปลั่งกระจ่างใส ไข่ไก่กับโสมมีประโยชน์สารพัด นอกจากจะนำมาใช้ทำอาหารยังเป็นยาบำรุงสุขภาพและความงามอีกด้วย
หนทางสู่ความสวยอมตะอยู่อีกยาวไกล นี่เป็นเพียงรูทีนตอนเช้าและก่อนเข้านอนเท่านั้น... ยังมีอีกหลายเคล็ดลับความงามสำหรับการแปลงร่างผอมแห้งของพระสนมหลี่น่าผู้จืดชืด ให้กลายเป็นโฉมสะคราญผู้ทรงเสน่ห์
“พอได้แล้ว” ซ่งเหยียนหมิงฉุดหญิงสาวขึ้นมาเกยทับบนร่าง “ต่อให้เจ้าเป็นเพียงวิญญาณเร่ร่อน หรือเป็นสตรีไม่รู้ประสีประสาอะไรเลย ไม่ว่าอย่างไร ข้าก็รักเจ้า”เขาหยัดสะโพกให้ส่วนปลายองชาตเสียดเสยรองกลีบสวาทของนางอย่างอดใจไม่ไหว แต่หญิงสาวก็ไม่ยินยอมถูกครอบครองโดยง่าย“หม่อมฉันจะทำเองเพคะ” ดวงตากลมโตของนางเป็นประกาย พลางใช้นิ้วเรียวงามแหวกกลีบสวาทแล้วกดบั้นท้ายลงช้าๆยามนั้น... แสงจันทร์ขาวนวลที่สาดส่องผ่านเข้ามาทางหน้าต่างได้อาบย้อมร่างของเขาและนางที่หลอมรวมกันเป็นหนึ่ง“องค์รัชทายาทเสด็จ”เสียงของขันทีดังไปทั่วตำหนักเหม่ยฮวา หลี่รี่แทบจะพุ่งเข้าไปกอดร่างสูงใหญ่งามสง่าทันทีที่เห็นชายหนุ่มปรากฏตัว ทว่าซ่งหยวนซีกลับเดินเลี่ยงไปนั่งที่เก้าอี้ เหมือนกับว่าเขาจงใจท
หญิงสาวเงื้อฝ่ามือขึ้นอย่างเชื่องช้า แล้ววางลงบนโต๊ะเสียงดังปัง! ใบหน้างามปรากฏรอยยิ้มภาคภูมิใจ นัยน์ตากลมโตหวานฉ่ำราวกับเคลือบคลอด้วยหยาดน้ำผึ้ง“คำพูดคนเมาเชื่อได้รึ?” เขาหัวเราะอย่างเอ็นดูในยามมีสติหลงเหลือเพียงน้อยนิดหญิงสาวกลับยิ่งรู้สึกหยิ่งพยอง เธอไม่มีวันยอมให้ใครมากล่าวหาว่าเป็นคนพูดจาหลอกลวงเด็ดขาด“อยากพิสูจน์ความจริงหรือไม่เพคะ” เธอทำเสียงจิ๊กจั๊กในปากขัดใจ“ข้าอยาก... แต่สภาพเช่นนี้ เจ้าจะทำอะไรได้”คำพูดท้าทายของซ่งเหยียนหมิง กลายเป็นแรงยั่วยุซึ่งฉุดกระชากหญิงสาวลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ ท่าทางยอมตายไม่ยอมแพ้ของนาง ทำให้ดวงตาคู่คมของอี๋ชินอ๋องเป็นประกายวาววับร่างอรชรเยื้องย่างเข้าหาชายหนุ่มด้วยท่วงท่าเฉิดฉันท์งามสง่าราวกับนางพญามาร ซ่งเหยียนหมิงกะพริ
“หลี่น่า ข้ามีความสัมพันธ์กับหญิงอื่นเพราะหน้าที่ แต่สำหรับเจ้า... ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะความปรารถนาของตัวข้าเอง”กอดอบอุ่นและน้ำเสียงอ่อนโยนทำให้ทิฐิที่ลีน่าใช้เป็นเกราะป้องกันหัวใจพังทลายลง น้ำในดวงตาเอ่อล้นออกมาอย่างไม่อาจจะกลั้นเธอเผลอรักเขาไปแล้ว โดยไม่รู้ตัว... แต่ทำไมเธอถึงได้เจ็บปวดนัก ทั้งที่รู้แก่ใจดีว่าเธอก็เป็นเพียงแค่พระสนมลำดับสุดท้าย ในจำนวนพระสนมชายาทั้งสิบหกคนของค์รัชทายาทแห่งซ่งเยว่เริ่มแรกลีน่าเพียงต้องการมีชีวิตอยู่ต่อไป เธอจึงลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงร่างกายนี้เพื่อหาหนทางออกไปใช้ชีวิตนอกรั้ววังอย่างอิสระ หากทุกอย่างก็เลยเถิดกระทั่งเธอไม่สามารถถอนตัวถอนใจลีน่ากอดร่างที่เย็นเยือกของตัวเอง หญิงสาวเฝ้ามองรถม้าของวังไป๋อวี้เคลื่อนออกไปจนลับสายตา จึงหันกลับมาแล้วพบว่าซ่งเหยียนหมิงกำลังยืนจ้องเธออยู่เงียบๆ “อี๋ชินอ๋อง” เธอยิ้มให
ลีน่าตกใจจนแทบจะเป็นลม เมื่อจู่ๆ ม่านผ้าดิบถูกคนด้านนอกเปิดเข้ามาอย่างพรวดพราด ขณะที่อี๋ชินอ๋องกำลังอุ้มนางแหวกว่ายอยู่ในธารน้ำตกด้วยเรือนร่างที่ไร้อาภรณ์ สายตาหวงแหนที่มองมาทำให้หญิงสาวรู้สึกกระดาก จนต้องขืนกายออกจากวงแขนแข็งแรงที่โอบกอด“ท่านมาเร็วกว่าที่คิด”ซ่งเหยียนหมิงเอ่ยทักทายญาติผู้พี่อย่างไม่รู้สึกร้อนหนาว“ยังมีอีกหลายสิ่งที่ข้าทำได้เร็วกว่านี้” ซ่งหยวนซีถอดเสื้อผ้าออกจากร่างอย่างว่องไง ก่อนที่ร่างสูงใหญ่ล้อนจ้อนจะเดินลงไปในธารน้ำตก และว่ายน้ำไปแย่งเอาพระสนมตัวน้อยกลับคืนมา“เหยียนหมิงรังแกเจ้าไปกี่ครั้ง” เขาถามนาง น้ำเสียงหงุดหงิด“ครั้งเดียวเพคะ” เธอไม่กล้าสบตากับชายหนุ่มซ่งหยวนซีไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน แต่ก็ไม่พูดพร่ำสิ่งใดให้เป็นการเสียเวลาอีก เขาอุ้มร่างอรชรเดินไปท
ลีน่าถูกเขาเคี่ยวกรำอย่างหนัก เธอสุดจะกลั้นเสียงร้องครวญคราง ร่างอรชรบิดเร่าแอ่นระแน้ด้วยความสยิวทรมาน สาสมใจคนเจ้าเล่ห์“อาา... ข้างในของเจ้าเหมือนสวรรค์ ช่าง... ดี... ดีเหลือเกิน” ซ่งเหยียนหมิงใช้ฝ่ามือใหญ่โอบอุ้มสะโพกผายกลมกลึงเอาไว้ เขาโก่งบั้นท้ายและยกร่างบางขึ้น ก่อนจะกดนางลงพร้อมกับกระแทกกระทั้นแก่นกายแกร่งชูชันใส่ความสาว“อ่ะ! หม่อมฉัน... มะ ไม่ไหวแล้ว อ๊าา...”นางเว้าวอนอย่างน่าสงสาร น้ำเสียงครวญครางกระเส่าสะอื้น ใบหน้างามแดงเรื่อราวกับมีพิษไข้ หากไม่อาจจะหยุดยั้งเรือนกายแกร่งที่เคลื่อนไหวราวกับบ้าคลั่งซ่งเหยียนหมิงประคองสะโพกผายกลมกลึงวางเกยบนขอบบ่อน้ำแร่ร้อน แล้วดันท่อนขาเพรียวสะล้างของนางพับขึ้น ระดับความสูงพอเหมาะช่วยหนุนเนินโหนกอวบอูมลอยเด่นจนเห็นชัดถนัดใจ แววตาของชายหนุ่มเป็นประกายวาวโรจน์ราวกับจะล
ร่างสูงใหญ่ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอคือเรือนกายเปลือยเปล่าของซ่งเหยียนหมิง และไม่ใช่เรื่องง่ายที่ลีน่าจะทำใจให้เคยชินกับความบ้าระห่ำเหนือการคาดเดาของเขา“เจ้าอายจนหน้าแดงไปหมดแล้ว” น้ำเสียงกระเซ้าเย้าแหย่ เขาจับข้อเท้าของนางแยกออกจากกัน แล้วพิศมองเนื้อในความสาวความร้อนทำให้ผิวบอบบางบริเวณนั้นแดงก่ำและดูยิ่งโป๊เปลือยชวนให้ขัดเขิน เมื่อตกอยู่สภาพที่ถูกมองเห็นแบบชัดเจนถึงรูขุมขนขนาดนี้แล้ว ทำให้หัวใจเต้นแรงจนแทบกระเด็นออกมานอกทรวงอก“พอแล้วเพคะ อย่าจ้องหม่อมฉันแบบนั้น” ลีน่าเอาฝ่ามือปิดบังของสงวนแววตาของซ่งเหยียนหมิงเกือบลุกเป็นไฟ เขาอยากเอาตัวตนที่เหยียดขยายจนแข็งชูชันชำแรกเข้าไปในความสาวสดรัดรึงของนางแทบใจจะขาด แต่ทั้งคู่เพิ่งขึ้นมาจากบ่อน้ำแร่ร้อน หากลงไม้ลงมืออย่างบุ่มบ่ามเขาจะทำให้หลี่น่าเจ็บ“ข้าอยากดื่มน้ำหวานในตัวเจ้า” ซ่งเหยียนหมิงดึงมือเรียวเล็กออกจากเนินเนื้ออวบอูม แล้วก้ม