LOGINบ้านตระกูลอภิพัฒน์วัฒนากุล (บ้านคีรติ)
เสียงเครื่องยนต์ดับลงหน้าบ้านหรูเมื่อ คีรติ พาน้องสาว ครีม กลับมาถึงบ้าน
ทันทีที่ อรสา แม่ของทั้งคู่ได้ยินเรื่องรถชน ใบหน้าของเธอก็ซีดลงทันที
“ครีม! ไม่เป็นไรใช่ไหมลูก เจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”
หญิงสาวรีบเดินเข้ามาดูบุตรสาวด้วยความร้อนใจ
“ไม่เจ็บเลยค่ะแม่ แต่พี่ที่หนูชน...เขาหัวแตกค่ะ”
ครีมตอบเสียงแผ่วแต่ยังยิ้มบาง ๆ
“ตายจริง! แล้วพี่เขาเอาเรื่องหรือเปล่าลูก?”
“ไม่ค่ะ แม่...พี่คนสวยเขาน่ารักมากเลย ยังลงมาดูหนูด้วยนะคะ”
คีรติยิ้มจาง ๆ เมื่อนึกถึงใบหน้าของหญิงสาวคนนั้น ภาพเธอยังวนอยู่ในหัว ดวงตาคมสวย แววตาแข็งแกร่งแต่เศร้าลึก ๆ
“งั้นครีมไปพักก่อนนะลูก เดี๋ยวค่อยลงมาทานมื้อเย็นกัน”
“ค่ะแม่ แล้วคุณพ่อกลับมาหรือยังคะ?”
“ยังเลยลูก วันนี้บริษัทคุณพ่อมีประชุม คงกลับมามืดหน่อย”
“งั้นหนูไปอาบน้ำก่อนนะคะ”
“ไปสิลูก รีบอาบน้ำแล้วลงมาทานข้าวนะ”
อรสามองตามลูกสาวขึ้นบันได ก่อนจะหันกลับมาทางลูกชายที่ยังยืนอยู่ตรงโถงบ้าน
“ตาคีย์...แม่มีเรื่องจะคุยด้วย มานั่งก่อนสิลูก”
คีรติพยักหน้าเบา ๆ
“ครับแม่”
น้ำเสียงราบเรียบ แต่ในใจกลับรู้ดีว่าเรื่องที่แม่จะพูดคืออะไร
“พรุ่งนี้วันหยุด แม่ได้นัดครอบครัวหนูณิชาไว้ เราต้องไปกับแม่นะ”
“แม่ครับ...”
เขาขมวดคิ้ว
“ถ้าผมมีแฟน มีคนที่ผมชอบอยู่แล้ว แม่ยังจะบังคับผมอีกไหมครับ?”
อรสาเลิกคิ้ว
“ไหนล่ะ แฟนของลูก? ถ้ามีจริงก็พามาให้แม่ดูสิ จะได้ไม่ต้องให้แม่หาคู่ให้แบบนี้”
คีรติถอนหายใจ
“โธ่แม่ครับ…”
“ไม่รู้ล่ะ พรุ่งนี้ไปกับแม่!”
น้ำเสียงของอรสาเด็ดขาด ก่อนจะอ่อนลง
“แม่ทำไปเพราะรักลูกนะคีย์ แม่อยากให้ลูกได้เจอสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิต แม่ไม่ได้บังคับ...แค่ขอให้ลองเปิดใจเท่านั้น”
คีรติสบตาแม่อย่างเหนื่อยใจ ก่อนพยักหน้าเบา ๆ “ครับแม่...”
วันดูตัว...
ห้องอาหารหรูใจกลางเมือง
เสียงเปียโนคลอเบา ๆ ท่ามกลางแสงไฟสีอุ่นสะท้อนบนผนังกระจก ณิชาก้าวออกจากโต๊ะอาหารด้วยท่าทีสงบ แต่ภายในใจกลับว้าวุ่น
เธอเพียงอยากออกมาสูดอากาศ สูดความเงียบเพื่อลดความกดดันก่อนทั้งสองครอบครัวจะได้พบหน้ากัน
เมื่อเดินเลี้ยวเข้าไปในโถงหน้าห้องน้ำ เธอกลับชะงัก — ชายคนหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้น
“คุณ...”
เสียงของเธอแผ่วลง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเรียบเย็น
“ทำไมฉันถึงต้องเจอคุณตลอดเลยนะ”
คีรติหันมามอง ดวงตาคมเข้มสะท้อนแสงไฟเหนือศีรษะ
“นั่นสิ ผมก็เจอคุณตลอดเหมือนกัน... ผมว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญแล้วล่ะ หรือว่าคุณ...ตามผมมา”
ณิชาหรี่ตา
“คุณอย่ามามั่ว! คุณต่างหากที่ตามฉันมา”
“ผมเนี่ยนะ?” เขาแค่นหัวเราะ
“พูดเหมือนผมมีเวลาว่างนักอย่างนั้นแหละ”
“ฉันไม่ได้ตามคุณมาแน่นอน อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลย อีกอย่าง...”
เธอเชิดหน้าขึ้น
“ฉันมีคู่หมั้นแล้ว”
คำว่าคู่หมั้นหล่นกลางอากาศเหมือนคมมีด คีรติชะงัก สีหน้าที่เคยมีรอยยิ้มกลับนิ่งงัน ดวงตาไหววูบก่อนจะกลบเกลื่อนด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน
“มีคู่หมั้น... แต่แปลกนะ ที่ยังต้อง ‘ซื้อบริการ’ ”
เสียงของเขากระแทกหัวใจหญิงสาวทันที ณิชากำมือแน่น ดวงตาวาววับ
“แล้วยังไงคะ? มันเงินของฉัน เรื่องของฉัน คุณไม่เกี่ยว!”
คีรติยิ้มเยือก
“แต่ครั้งแรกของผู้หญิง...ควรมอบให้คนที่รัก ไม่ใช่ใครก็ได้”
“หยุดพูดเดี๋ยวนี้!”
เสียงของเธอสั่นพร่า ทั้งโกรธ ทั้งอาย
“คุณก็แค่คนที่ฉัน ‘จ่ายเงินซื้อ’ จบแล้วก็จบไป! แล้วทำไมถึงยังมาตามตอแย ฉันควรจะโทรแจ้งต้นสังกัดของคุณเสียเลยดีไหม?”
รอยยิ้มของคีรติค่อย ๆ ผุดขึ้นที่มุมปาก เขามองเธอด้วยแววตาลึกลับ ไม่ใช่ความโกรธ แต่เป็นความพึงพอใจแปลกประหลาดที่ได้เห็นเธอแสดงอารมณ์แบบนั้น
“ฉันไม่อยากคุยกับคุณแล้ว ต่อไปอย่าให้เราเจอกันอีกเลย ถ้าเห็นฉันช่วยหลบหน้าไปไกล ๆ ฉันเลย”
ณิชาสูดลมหายใจลึก หมุนตัวกลับโดยไม่มองหน้าเขาอีก ร่างบางเดินหายเข้าไปในทางเดินหรูที่นำกลับไปยังห้องอาหาร VIP ทิ้งไว้เพียงกลิ่นหอมของน้ำหอมราคาแพงที่ลอยในอากาศ
“ผู้หญิงคนนี้…เขามาทำอะไรที่นี่?”
คีรติพึมพำเบา ๆ ใบหน้าคมเข้มขมวดขมุกขมัว ราวกับความคิดวุ่นวายกำลังขยายตัวในหัว
“ข้อมูลของเธออยู่ที่บริษัท…เสียดายที่ไม่ได้เอากลับมา”
ณิชาเดินเข้าห้องอาหาร ด้วยท่าทีเรียบเฉย แต่หัวใจเต้นแรงจนแทบจะทะลุอก เธอพยายามกลบความรู้สึกด้วยรอยยิ้มสุภาพ
“สวัสดีค่ะคุณลุง คุณป้า”
เสียงเรียบเย็นแต่สุภาพเอ่ยขึ้น
อรสาหัวเราะเบา ๆ พร้อมเอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้มอบอุ่น
“สวัสดีจ้าหนูณิชา ยังน่ารักเหมือนเดิมเลยนะ”
ณิชายกยิ้มบาง ๆ พลางนั่งลงที่เก้าอี้อย่างสง่างาม
“ขอบคุณค่ะ”
“ไปเข้าห้องน้ำเจอพี่คีย์ไหมลูก?”
อรสาถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง
ณิชายกยิ้มและส่ายหน้า
“คุณเด็กทั้งสองยังไม่เคยเจอกัน จะรู้จักกันได้ยังไง”
ดำรงเอ่ยขึ้นอย่างใจเย็น
“จริงค่ะคุณ ฉันลืมไป เดี๋ยวตาคีย์คงจะมารอก่อนนะ”
ภารดีรีบเข้ามาเสริม
“ไม่เป็นไรอรสา เราทานกันก่อนไว้ ถ้าตาคีย์มาแล้วอยากทานอะไร ค่อยสั่งเพิ่ม”
เธอจับแขนเพื่อนสนิทให้คลายความเกร็ง
ทันใดนั้น…ประตูห้องอาหารเปิดออก เสียงทุ้มลอยเข้ามา
“สวัสดีครับคุณลุง คุณป้า ขอโทษครับที่ทำให้ต้องรอ”
ณิชาแทบหยุดหายใจ ร่างแข็งทื่อ ใบหน้าเธอร้อนผ่าวทันที
“ทำไมเสียงคุ้นจัง…”
เธอพึมพำเบา ๆ ก่อนหันไป
สองสายตาประสานกัน…
ทั้งสองต่างชะงัก ราวกับโลกหยุดหมุนเพียงเสี้ยววินาที
“คุณ!” ทั้งคู่ร้องออกมาในเวลาเดียวกัน ความตกใจและแรงดึงดูดปะทุขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว
คีรติมองเธอด้วยดวงตาคมลึก รอยยิ้มบาง ๆ แต่เต็มไปด้วยความลึกลับและเย้ยหยัน
ณิชาพยายามรวบรวมสติ แต่หัวใจยังเต้นแรงจนแทบจะเอ่อล้น
บรรยากาศรอบตัวเต็มไปด้วยความตึงเครียด แสงไฟสะท้อนบนแก้วไวน์และคริสตัล กลายเป็นฉากหลังที่สวยหรู แต่แฝงแรงกระแทกทางอารมณ์ของสองคนอย่างชัดเจน
เมื่อคนที่ครอบครัวจัดให้... กลายเป็นคนที่เข้าใจผิดว่าเธอ “ขายบริการ” 😳 เอาแล้วไง! มองหน้ากันยังไงดีล่ะทีนี้... ยิ่งไปกว่านั้น — ทั้งคู่เคย “แอบกินกันมาแล้ว” อีกต่างหาก 🔥 งานนี้จะหันหน้าคุยกันยังไงดี รี้ดว่าควรทำไงต่อดีคะ? 😏💬 เมนต์มาคุยกันนะคะ!
บ้านณิชา..เสียงเครื่องยนต์รถสปอร์ตหรูดังแผ่วก่อนดับลงตรงหน้าบ้านของณิชา คีรติเปิดประตูลงจากรถในชุดสูทเรียบหรู สายตาคมกริบกวาดมองตัวบ้านด้วยท่าทีสงบ แต่แฝงไว้ด้วยความมั่นใจเฉพาะตัวภารดีที่กำลังจัดแจกันดอกไม้ตรงห้องรับแขกหันมาเห็นเข้าพอดี“อ้าว...ตาคีย์ มารับน้องเองเลยหรือลูก?”เสียงเธอแฝงรอยยิ้มปลื้มชัดเจนคีรติยกมือไหว้อย่างนอบน้อม“ครับคุณแม่ วันแรกของการทำงาน มารับเลขาส่วนตัวสะหน่อยครับ”ภารดียิ้มกว้าง“น่ารักจังลูกเขยของแม่”ทันใดนั้น เสียงเครื่องดนตรีเบา ๆ ดังจากในบ้าน ก่อนชายหนุ่มอีกคนจะเดินออกมาพร้อมกระเป๋าเป้สะพายข้าง“อ้อ นี่พอร์ช ลูกชายคนเล็กของแม่”ภารดีแนะนำพอร์ชยิ้มกว้าง“สวัสดีครับพี่เขย”เขาแกล้งเอ่ยคำเรียกอย่างซุกซน“เดี๋ยวผมขอตัวไปเรียนก่อนนะครับ”คีรติหัวเราะเบา ๆ“สวัสดีพอร์ช ขับรถดี ๆ นะ”ไม่นาน เสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังลงมาจากชั้นบน ก่อนจะตามด้วยเสียงใสที่คุ้นหู“แม่ค่ะ มีอะไรทานบ้างคะเช้านี้?”ณิชาในชุดสูทกระโปรงสีครีมอ่อนก้าวลงมาจากบันได ผมยาวสลวยถูกรวบเรียบ เธอดูเรียบร้อยแต่น่ามองอย่างเหลือเชื่อ...จนคีรติอดยิ้มไม่ได้“อรุณสวัสดิ์ครับ...น้องณิชา”เขาเอ่ยเสียงทุ้มต
“คุณ!”เสียงทั้งสองซ้อนทับกันกลางห้องอาหารรอยยิ้มของอรสาและภารดีแข็งค้างไปชั่วขณะ ก่อนต่างฝ่ายต่างหันมามองหน้ากันด้วยแววตาฉงน“อ้าว...รู้จักกันอยู่แล้วเหรอลูก?”ภารดีถามด้วยน้ำเสียงแฝงความยินดีณิชารีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ ยกยิ้มบาง“เอ่อ...บังเอิญเคยเจอกันค่ะ”“อย่างนี้ก็ดีเลย จะได้ไม่ต้องเริ่มทำความรู้จักใหม่ให้เสียเวลา”อรสากล่าวอย่างมีความหวัง มือประคองถ้วยชาเบา ๆ พลางมองเด็กทั้งสองด้วยแววตาอ่อนโยนคีรติทรุดตัวนั่งลงข้างๆ กับณิชา ท่าทีสงบนิ่งแต่ดวงตากลับไม่ยอมละไปจากใบหน้าของเธอหญิงสาวพยายามหลบสายตานั้น แต่ยิ่งหนี...เขากลับยิ่งมองบรรยากาศบนโต๊ะเริ่มเปลี่ยนจากความอบอุ่น เป็นแรงกดดันที่มองไม่เห็น“หนูณิชาชอบอาหารญี่ปุ่นไหมลูก ร้านนี้ขึ้นชื่อเรื่องปลาดิบเลยนะ”ดำรงเอ่ยขึ้น ทำลายความเงียบที่เริ่มหนาแน่น“ชอบค่ะคุณลุง”ณิชาตอบอย่างเรียบสุภาพ แต่ปลายนิ้วยังคงสั่นเล็กน้อยใต้โต๊ะคีรติปรายตามองอย่างพิจารณา รอยยิ้มบางแฝงอยู่บนริมฝีปาก รอยยิ้มที่มีทั้งเย็นชาและความหมายบางอย่างที่เธออ่านไม่ออก“โลกกลมมากเลยนะครับผมพึ่งเจอเธอไม่นาน ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นคู่หมายที่ผู้ใหญ่จัดหาไว้ให้...”เขาพู
บ้านตระกูลอภิพัฒน์วัฒนากุล (บ้านคีรติ)เสียงเครื่องยนต์ดับลงหน้าบ้านหรูเมื่อ คีรติ พาน้องสาว ครีม กลับมาถึงบ้านทันทีที่ อรสา แม่ของทั้งคู่ได้ยินเรื่องรถชน ใบหน้าของเธอก็ซีดลงทันที“ครีม! ไม่เป็นไรใช่ไหมลูก เจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”หญิงสาวรีบเดินเข้ามาดูบุตรสาวด้วยความร้อนใจ“ไม่เจ็บเลยค่ะแม่ แต่พี่ที่หนูชน...เขาหัวแตกค่ะ”ครีมตอบเสียงแผ่วแต่ยังยิ้มบาง ๆ“ตายจริง! แล้วพี่เขาเอาเรื่องหรือเปล่าลูก?”“ไม่ค่ะ แม่...พี่คนสวยเขาน่ารักมากเลย ยังลงมาดูหนูด้วยนะคะ”คีรติยิ้มจาง ๆ เมื่อนึกถึงใบหน้าของหญิงสาวคนนั้น ภาพเธอยังวนอยู่ในหัว ดวงตาคมสวย แววตาแข็งแกร่งแต่เศร้าลึก ๆ “งั้นครีมไปพักก่อนนะลูก เดี๋ยวค่อยลงมาทานมื้อเย็นกัน”“ค่ะแม่ แล้วคุณพ่อกลับมาหรือยังคะ?”“ยังเลยลูก วันนี้บริษัทคุณพ่อมีประชุม คงกลับมามืดหน่อย”“งั้นหนูไปอาบน้ำก่อนนะคะ”“ไปสิลูก รีบอาบน้ำแล้วลงมาทานข้าวนะ”อรสามองตามลูกสาวขึ้นบันได ก่อนจะหันกลับมาทางลูกชายที่ยังยืนอยู่ตรงโถงบ้าน“ตาคีย์...แม่มีเรื่องจะคุยด้วย มานั่งก่อนสิลูก”คีรติพยักหน้าเบา ๆ“ครับแม่”น้ำเสียงราบเรียบ แต่ในใจกลับรู้ดีว่าเรื่องที่แม่จะพูดคืออะไร“พรุ่งนี้ว
บ้านตระกูลวัฒนวานิชเจริญ (บ้านณิชา)เสียงส้นรองเท้าดังแผ่วเบาไปตามพื้นหินอ่อน เมื่อ ณิชา เดินเข้ามาในบ้านด้วยท่าทีอิดโรย ดวงตาคู่สวยดูพร่ามัวราวกับคนไม่ได้หลับทั้งคืน“ณิชา เป็นยังไงบ้างลูก…ทำไมมีเลือด!”เสียงของ ภารดี แม่ของเธอเอ่ยขึ้นทันทีด้วยความตกใจ“รถชนนิดหน่อยค่ะคุณแม่ หนูให้เลขาของคุณพ่อจัดการแล้วค่ะ”หญิงสาวตอบเบาๆ พยายามกลบความอ่อนแรงในน้ำเสียง“ตายแล้ว! มาทำแผลก่อนเถอะลูก”ภารดีรีบพาเธอไปนั่งที่โซฟา มือสั่นเล็กน้อยด้วยความเป็นห่วง“ขอบคุณค่ะ...”ณิชาตอบเสียงเรียบ พลางขยับผ้าพันคอให้แน่นขึ้นอีกนิด เพื่อปกปิดรอยช้ำที่ซ่อนอยู่ใต้เนื้อผ้า รอยที่ไม่ควรมีใครเห็น โดยเฉพาะแม่ภารดีนั่งลงข้างๆ พลางหยิบกล่องยามาจัดการแผลให้ลูกสาวด้วยความอาทร“พรุ่งนี้แม่มีนัดกับป้าอรสา ลูกไปกับแม่นะลูก”“แม่ค่ะ…จะให้หนูไปดูตัวอีกแล้วใช่ไหม?”น้ำเสียงของณิชาปนความเหนื่อยใจ“แม่เชื่อว่าลูกกับตาคีย์เหมาะสมกันมาก”ภารดีพูดเสียงหนักแน่นราวกับตัดสินใจแทนลูกสาวไปแล้ว“แต่แม่ค่ะ…”“เพื่อครอบครัวนะณิชา”หญิงสาวชะงัก เธอเม้มปากแน่น ก่อนถามออกมาด้วยความคับข้อง“ครอบครัวเราลำบากขนาดนั้นเลยหรือคะ ทำไมบัตรของหนูเ
บริษัท อภิพัฒน์วัฒนากุล กรุ๊ป ห้องทำงานประธานแสงแดดยามสายลอดผ่านกระจกสูงสะท้อนลงบนโต๊ะทำงานหรูที่เต็มไปด้วยเอกสารสำคัญคีรติพิงเก้าอี้ พลางจิบกาแฟอย่างใจเย็น ก่อนจะละสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์เสียงเคาะประตูดังขึ้นเบา ๆ“ก๊อก… ก๊อก…”“เข้ามาได้”เลขาคนสนิทของเขา ทรงพล เดินเข้ามาพร้อมแฟ้มสีเทาในมือ“ข้อมูลของผู้หญิงที่คุณคีรติให้สืบมาครับ ทั้งคนที่อยู่กับคุณคืนนั้น… และข้อมูลของคุณณิชาวดีด้วยครับ”คีรติขมวดคิ้วเล็กน้อย พลิกแฟ้มในมืออย่างใช้ความคิด แต่ก่อนที่ทรงพลจะเริ่มรายงานครืด… ครืด… ครืด…เสียงโทรศัพท์ดังแทรกขึ้นหน้าจอขึ้นชื่อว่า “ครีม”คีรติรีบรับสายทันที“ครีม ว่ายังไงพี่ทำงานอยู่”เสียงปลายสายสั่นเครือ“พี่คีย์… ครีมขับรถชนค่ะ พี่มาหาครีมหน่อยได้ไหม”คีรติลุกพรวดจากเก้าอี้ทันที สีหน้าเปลี่ยนจากเรียบนิ่งเป็นเคร่งเครียดในพริบตา“ครีมบาดเจ็บไหม? อยู่ตรงไหนส่งโลเคชั่นมาพี่จะรีบไปหาเดี๋ยวนี้” เขาถามไถ่น้องสาวด้วยความห่วงใย“ไม่ค่ะ ครีมไม่เป็นไรเลย”คีรติหายใจโล่งเมื่อรู้ว่าน้องสาวไม่ได้รับบาดเจ็บ“รอตรงนั้น ห้ามขยับรถ พี่จะรีบไปเดี๋ยวนี้”“ค่ะพี่คีย์…”สายถูกตัดไป คีรติหันไปสั่งเล
โรงพยาบาลเอกชน เงียบสงบเสียงพยาบาลดังเรียก“เชิญคุณณิชาวดีที่ห้องตรวจค่ะ”ณิชาเดินเข้าไปพบแพทย์ทันที“สวัสดีค่ะคุณหมอ”“สวัสดีค่ะคุณณิชา ปวดท้องน้อยบริเวณไหนคะ”“ปวดท้องน้อยตรงนี่ค่ะ หน่วง ๆ”ณิชากุมท้องน้อย กดๆ ให้คุณหมอดู “ไม่ทราบรอบเดือนมาวันที่เท่าไหร่ค่ะ?”“เพิ่งมาสัปดาห์ที่แล้วค่ะ ประมาณวันที่ 4”“เอ่อค่ะ… แล้วไม่ทราบว่ามีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ค่ะ”ณิชากลืนน้ำลาย ก่อนตอบเสียงเบา“เมื่อคืนค่ะ”หมอพยักหน้าเบา ๆเดี๋ยวหมอขอตรวจหน่อยนะคะ”ณิชาขึ้นนอนบนเตียงตรวจ หมอเริ่มตรวจอย่างละเอียด“อ่อมีฉีกขาดบ้าง เป็นครั้งแรกหรือเปล่าค่ะ ”“อืม..ค่ะคุณหมอ”ณิชาตอบเสียงเบา สีหน้าเธอแดงก่ำหมอยิ้มอ่อนโยนแต่เอ่ยเสียงจริงจัง“อืม..การใช้งานรุนแรงทำให้เกิดการอักเสบได้ ต่อจากนี้ขอให้งดกิจกรรม 7 วันนะคะหมอจะให้ยาไปทาน เดี๋ยวก็จะดีขึ้นค่ะ”ณิชาพยักหน้าอย่างเขินอาย“ขอบคุณค่ะคุณหมอ… เอ่อ ขอ ‘ยาคุมฉุกเฉิน’ ด้วยได้ไหมคะ คือเมื่อคืน…”หมอยิ้มเบา ๆ อย่างเข้าใจ“ได้ค่ะ เดี๋ยวจัดยาให้เลย”“หมอสั่งยาเรียบร้อยแล้วค่ะ...รอรับยาแล้วกลับบ้านได้ค่ะ”“ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ”ณิชาเดินออกจากห้องตรวจด้วยหัวใจที่







