หลังจากที่แอนโทนี่เจ้านายของฉันบอกว่าจะจีบฉัน ก็ผ่านมา 1 สัปดาห์แล้ว ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา ฉันต้องเจอกับการจีบที่ไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน ในแต่ละวันช่างไม่เหมือนคนปกติเขาจีบกันเอาเสียเลย การจีบของแอนโทนี่ไม่ใช่เพียงแค่กินข้าว ดูหนัง หรือซื้อของเล็กๆ น้อยๆให้กัน แต่อีตานี่ชอบลวนลามฉันทุกครั้งที่มีโอกาส แถมยังมีดอกไม้ช่อโตวางบนโต๊ะทำงานทุกเช้าอีกด้วย
“พี่มิน สวัสดีค่ะ วันนี้เป็นดอกอะไรคะเนี่ย โห! ดอกลิลลี่สีขาว สวยจังเลยค่ะพี่มิน ท่านประธานนี่ก็ช่างเลือกนะคะ ดอกไม้ไม่เคยซ้ำกันเลยในแต่ละวัน”
“หึ! เกรงว่าจะเป็นแค่ตอนจีบน่ะสิน้องฟ้า บอสของเรายิ่งถนัดอยู่ด้วยไม่ใช่เหรอ เรื่องจีบผู้หญิง”
สองสาวคุยกันอย่างสนุกสนานพร้อมเสียงหัวเราะคิกคักในบทสนทนานั้นโดยไม่รู้เลยว่าคนที่ถูกพวกเธอเอ่ยถึงกำลังยืนฟังอยู่ด้านหลัง
“แหม พูดซะผมดูแย่เลยนะครับ”
“อุ๊ย!! ท่านประธาน”
เป็นเสียงฟ้าที่อุทานขึ้นเมื่อเห็นว่าคนที่พวกเธอพูดถึงเดินใกล้เข้ามา
“บอสมีอะไรรึเปล่าคะ”
“ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมก็แค่อยากเห็นหน้าคุณก่อนเริ่มทำงาน”
“บอสอายบ้างไหมคะเนี่ย พูดจาแต่ละคำ”
“อายทำไมผมเป็นเจ้าของบริษัทนี้นะใครจะกล้าว่าผมเหรอ”
มินตราได้แต่ส่ายหัวไปมาด้วยความเหนื่อยหน่ายกับท่าทีของเขา ถึงไม่อายใครก็ช่วยอายฟ้าที่ยังนั่งมองอยู่ตอนนี้บ้างเถอะ
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัวทำงานต่อก่อนนะคะ”
“เดี๋ยวสิ ผมจะมาบอกว่าวันนี้ผมนัดเพื่อนไว้ ตอนเย็นเดี๋ยวผมไปรับคุณที่คอนโด คุณแต่งตัวสวยๆ รอไว้ด้วยนะครับ”
เขาพูดอย่างไม่รอเอาคำตอบ จบประโยคเขาก็เดินกลับเข้าไปยังห้องทำงานทันที ทิ้งให้คนตัวเล็กอ้าปากค้างเพราะตอบโต้อะไรไม่ทัน
“ดะ...เดี๋ยวสิ นี่ฉันยังไม่ได้ตกลงจะไปด้วยเลยนะ อะไรของเขากัน”
“สงสัยท่านประธานจะจริงจังมากเลยนะคะ ถึงขั้นจะพาพี่มินไปเปิดตัวกับเพื่อนเลย ฟ้าชักจะอิจฉาพี่มินแล้วสิ”
คนที่นั่งดูทุกเหตุการณ์อยู่นานพูดขึ้น ถึงแม้น้ำเสียงของเธอจะดูปกติ แต่ความรู้สึกข้างในที่คนอื่นมองไม่เห็นกลับไม่ปกติเอาเสียเลย
“เปิดตัวอะไรกันฟ้า บอสคงอยากมีเลขาไปด้วยเฉยๆ มั้ง”
“ไม่หรอกค่ะ ท่านประธานไม่เคยพาคู่ควงหรือคู่นอนคนไหนไปเจอเพื่อนเลยนะคะ แต่พี่ฟ้าได้ไปเจอทั้งคุณคริส และไหนจะได้ไปเจอเพื่อนๆ ของท่านประธานอีก”
คนตัวเล็กได้แต่ยิ้มเขินไปกับคำพูดของฟ้า คนอย่างแอนโทนี่จะหยุดที่เธอได้จริงๆ น่ะเหรอ ถึงอย่างไรเสียเธอก็ต้องระวังตัวระวังใจไว้สักหน่อยดีกว่า
@ The Kingdom ผับชื่อดังใจกลางเมือง
ตอนนี้มินตราและแอนโทนี่เดินทางมาถึงผับชื่อดังแห่งหนึ่งซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจของคานิก กรุ๊ป
“The Kingdom หนึ่งในธุรกิจของคานิก กรุ๊ป สินะคะ”
คนตัวเล็กเอ่ยถาม
“ครับ พวกเพื่อนผมรออยู่โซน VIP ไปกันเถอะครับ”
เมื่อเดินถึงโซน VIP มินตราสังเกตเห็นกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งซึ่งเดาได้ไม่ยากว่าน่าจะเป็นกลุ่มเพื่อนของแอนโทนี่ เพราะเธอเห็นคริสนั่งอยู่ในกลุ่มนั้นด้วย
“ไง มาถึงนานรึยัง”
“เพิ่งมาถึงน่ะ” คริสตอบออกไป
“ราฟล่ะ” แอนโทนี่เอ่ยถามต่อ
“เห็นว่าติดธุระจะมาถึงช้าหน่อย”
“OK งั้นขอแนะนำเลยแล้วกัน นี่มินตราเลขาของฉันและว่าที่แฟนในอนาคต”
เสียงโห่ร้องปนเสียงแซวดังขึ้นเมื่อแอนโทนี่พูดจบ เพื่อนๆ ทุกคนต่างแปลกใจ สงสัยสาวสวยคนนี้ต้องมีอะไรดีเป็นแน่ ไม่งั้นเสืออย่างแอนโทนี่คงไม่จริงจังถึงขั้นพามาเจอพวกเขาหรอก
“เปิดตัวว่างั้น สวัสดีนะครับคุณมินตรา ผมไนท์ครับ”
“ผมแทนไทครับ”
“สวัสดีทุกคนนะคะ มินตราหรือเรียกว่ามินเฉยๆ ก็ได้ค่ะ”
“คุณมินเป็นเลขาโทนี่มานานรึยังครับ”
“เกือบ 3 สัปดาห์แล้วค่ะ มินมาเป็นเลขาชั่วคราวให้คุณแอนโทนี่ระหว่างที่เลขาคนเก่าลาคลอดค่ะ”
“อ๋อ เป็นอย่างนี้นี่เอง”
“คุณจะดื่มอะไรดีครับ” เป็นแอนโทนี่ถามขึ้น
“ฉันขอเป็นค็อกเทลก็แล้วกันค่ะ”
“ได้ครับ”
ทุกคนนั่งดื่มกินพูดคุยกันได้สักพักก็มีผู้ชายร่างสูง ใบหน้าหล่อคม เป็นที่หมายปองของสาวๆ เดินเข้ามาทักทาย
“ไง โทษทีว่ะมาช้าไปหน่อย”
“ไม่เป็นไร มินครับนี่ราฟาแอล ราฟนี่มินตรา”
มินตราลุกขึ้นก่อนที่จะกล่าวทักทายชายผู้มาใหม่อย่างความสนิทสนมพร้อมส่งยิ้มให้
“สวัสดีค่ะคุณราฟ ดีใจที่ได้เจออีกครั้งนะคะ คุณราฟสบายดีนะคะ”
“อ้าว รู้จักกันเหรอ” แอนโทนี่ถามขึ้นอย่างสงสัย
“รู้จักสิคะ อย่าลืมนะ บริษัทของคุณราฟเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการของเราตั้งหลายโครงการนะคะ”
คำพูดของมินตราทำเอาเพื่อนๆ ของแอนโทนี่ที่นั่งฟังอยู่นั้นสงสัยไม่น้อยเลยว่าเธอรู้ได้อย่างไรในเมื่อเพิ่งจะมาทำงานเป็นเลขาของเขาได้ไม่นานนี่เอง
“คุณมินรู้ได้ยังไงครับ เพิ่งจะมาเป็นเลขาให้โทนี่เองนิครับ”
“ที่จริงมินเป็นเลขาของคุณท่าน คุณพ่อของคุณแอนโทนี่น่ะค่ะ แต่คุณท่านส่งมาช่วยงานคุณแอนโทนี่ชั่วคราวเฉยๆ ค่ะ”
คำตอบนั้นทำเอา 3 หนุ่มที่นั่งฟังอยู่อย่าง คริส ไนท์ และแทนไทตกใจไม่น้อย ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้มีดีแค่ความสวยเหมือนอย่างที่คิด เพราะถ้าเป็นถึงเลขาของพ่อแอนโทนี่ได้ถือว่าไม่ธรรมดาจริงๆ
3 ชั่วโมงผ่านไป มินตรารู้สึกมึนหัวทั้งที่เธอดื่มแค่ค็อกเทลเพียงไม่กี่แก้ว เธอไม่ใช่คนคออ่อนพอที่จะดื่มแค่นี่แล้วจะเมาได้ง่ายๆ
“คุณแอนโทนี่คะ ฉันรู้สึกมึนหัว เข้าไปเข้าห้องน้ำสักครู่นะคะ”
เธอเอ่ยบอกแอนโทนี่ที่นั่งอยู่ข้างๆ ก่อนจะลุกออกไป แต่ยังไม่ทันได้เดินร่างบางก็เซล้มมาทางแอนโทนี่จนเขาต้องรับเอาไว้
“ดูท่ามินตราจะไม่ไหวแล้ว ฉันขอตัวกลับก่อนก็แล้วกัน”
“หึหึ!!”
4 หนุ่มเพื่อนรักของแอนโทนี่หันมองหน้าและส่ง
ยิ้มให้กันอย่างรู้ใจ ใครบ้างจะดูไม่ออกว่าคนตัวเล็กเป็นแบบนี้เพราะอะไร
“พวกมึงคิดเหมือนกูใช่ไหม” คริสเอ่ยขึ้น
“เออ!” ทั้งราฟ แทนไท และไนท์ เอ่ยตอบขึ้นพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย
รถคันหรูวิ่งมาจอดที่บริเวณพื้นที่จอดรถของคอนโดสุดหรูราคาแสนแพง หนึ่งในโครงการของคานิก กรุ๊ป แอนโทนี่พาคนตัวเล็กกลับมาที่คอนโดของเขาเองแทนที่จะพาเธอไปส่งที่คอนโดของเธอ
“อื้อ ร้อน! ร้อน ทำไมร้อนแบบนี้”
คนตัวเล็กร้องขึ้นไม่หยุด เหงื่อกาฬไหลจนตัวเธอเปียกชุ่ม มือเล็กพยายามปัดป่ายดึงเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ออก
“ร้อนเหรอครับ ให้ผมช่วยนะ”
“อื้อ โทนี่ขา มินร้อน อื้อ”
ให้ตายเถอะ! แม่เจ้า! นี่มันนางแมวยั่วสวาทชัดๆ เลย คนตัวเล็กที่นั่งอยู่บนเตียงตอนนี้หน้าแดง สายตาหยาดเยิ้มส่งมายั่วยวนเขาไม่หยุด มือเล็กกำลังปลดกระดุมเสื้อออกทีละเม็ดเผยให้เห็นเนินอกสีขาวอมชมพูไล่ลงมาจนถึงหน้าท้องแบนราบ
มินตราสะบัดเสื้อผ้าที่เธอสวมใส่อยู่ออกจนเหลือเพียงบราเซียลูกไม้สีขาว ทำเอาคนที่ยืนมองอยู่นั้นทนไม่ไหว เขารีบพุ่งตัวเข้าหาคนตัวเล็กทันที
ริมฝีปากหนาหยักลึกได้รูปประกบจูบเข้ากับริมฝีปากบางอย่างเร่าร้อน
“อื้อออ....”
ตอนนี้ทั้งเขาและเธอจูบตอบกันอย่างดูดดื่ม สองร่างเปลือยเปล่าไม่หลงเหลือเสื้อผ้าบังกายแม้แต่ชิ้นเดียว อารมณ์ที่ถูกกระตุ้นของคนตัวเล็กทำให้เธอทนไม่ไหวที่จะร้องขอออกไป
“โทนี่ขา..มะ...มิน..ไม่..ไหว..แล้ว..ชะ...ช่วย..ที”
“ช่วยยังไงครับ”
ร่างสูงเอ่ยถามหลังจากผละจูบออกมา ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าคนตัวเล็กต้องการให้เขาช่วยอะไร เขาเพียงแต่ถามหยั่งเชิงดูเท่านั้น
ลิ้นร้อนไล่เลียไปตามซอกคอขาวไล่มาจนถึงเนินอกสีชมพู เขารีบครอบครองดูดดุนเม็ดทับทิมสีชมพูที่ชูชันอยู่ตรงหน้าทันที ปากหนาขบเม้มเบาๆ และค่อยๆ ลากลิ้นร้อนนั้นไล่ลงมาจนถึงหน้าท้องแบนราบทำเอาคนตัวเล็กเสียววูบวาบไม่น้อยที่ถูกอีกคนปรนเปรอ
“เอา...เอามิน...อ้ะ..อื้อ...”
ถ้อยคำที่คนใต้ร่างร้องขอทำเอาเขาแทบคลั่ง แอนโทนี่ไม่รอช้า เขาจับแก่นกายใหญ่ยักษ์ชักครูดไปมาสองสามทีก่อนที่จะสอดใส่เข้าไปในช่องทางรักสีกุหลาบ
---สวบ!!---
“กรี๊ดดดดด!!!!!!”
การสอดใส่ที่ไม่ได้รับการเบิกทางแต่อย่างใดนั้นทำเอาคนตัวเล็กเจ็บจนน้ำตาไหล เธอดิ้นบิดเร่าไปมา แต่จะให้เขาเอามันออกตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้ว
“เดี๋ยวก็ไม่เจ็บแล้วครับ”
ร่างสูงเอ่ยเบาๆ ก่อนที่จะขยับเข้าออกอย่างเชื่องช้า พลางก้มลงไปจูบที่เปลือกตาและหน้าผากมนเพื่อเป็นการปลอบโยนให้คนตัวเล็กได้ผ่อนคลายก่อนกิจกรรมรักที่แสนหนักหน่วงจะเริ่มขึ้น
หลังจากทำเรื่องฝากครรภ์แบบพิเศษเสร็จเรียบร้อย และได้รับคำแนะนำต่างๆ จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง แอนโทนี่ก็ได้พาคนตัวเล็กกลับมาที่คอนโดเพื่อเตรียมตัวเดินทางไปเยี่ยมผู้เป็นพ่อที่มหานครไมอามี่“ตื่นเต้นจังเลยค่ะ มินไม่ได้กลับไมอามี่นานแล้ว คิดถึงทุกคนที่นั่นจัง”“ตั้งแต่คุณพ่อรู้ว่าคุณท้องก็เตรียมของรับขวัญหลานไว้แบบอลังการแล้วครับ”“คุณพ่อนี่ชอบทำอะไรยิ่งใหญ่ตลอดแหล่ะค่ะ ตอนที่มินเป็นเลขาให้ท่านก็เป็นแบบนี้”“ผมพาคุณนั่งเจ็ตส่วนตัวไปนะครับ ไม่อยากให้เมียผมต้องไปเบียดกับคนเยอะแยะ”แอนโทนี่พูดพลางเดินเข้ามาโอบกอดภรรยาไว้แน่น ปกติเขาก็ดูทั้งห่วงทั้งหวงคนตัวเล็กอยู่แล้ว แล้วนี่ยิ่งเธอตั้งท้องเขายิ่งไม่ยอมห่างจากคนตัวเล็กเลย“คุณไม่ต้องพยุงมินตลอดก็ได้ มินเดินเองได้ค่ะ”“ไม่ได้สิผมเป็นห่วง”“อย่าเวอร์ได้ไหม มินแค่ท้องนะไม่ได้เจ็บป่วยหรือเป็นง่อย”ร่างสูงพยุงคนตัวเล็กอยู่ข้างๆ ไม่ยอมปล่อยจนเธอเริ่มจะหงุดหงิด เธอแค่ท้อง ไม่ได้เจ็บป่วยหรือเป็นง่อยสักหน่อย เขาก็ทำเป็นเรื่องใหญ่โตไปได้ ตั้งแต่ที่รู้ว่าเธอท้อง แอนโทนี่ก็เห่อมาก เขาตระเตรียมซื้อเสื้อผ้า และของเล่นไว้ให้ลูกทั้งที่ยังไม่รู้เพศเสียด้
งานแต่งของทายาทแห่งคานิก กรุ๊ปถูกจัดขึ้นที่โรงแรมหรูระดับ 5 ดาวใจกลางเมือง ภายในงานเต็มไปด้วยนักธุรกิจและผู้มีอิทธิพลมากมายที่มาร่วมแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาว โดยมีท่านประธานใหญ่แห่งคานิก กรุ๊ป นั่งอยู่ด้านหน้าเวทีเป็นประธานของงานในวันนี้“ยินดีกับมึงด้วยที่ลงเอยได้สักทีโทนี่”ราฟาแอลที่เดินเข้ามาพร้อมกับแอลลีน่าน้องสาวของเขาพูดขึ้น พวกเขาเป็นเพื่อนกันมานาน วันนี้เป็นอีกวันที่เขาดีใจกับเพื่อนคนนี้มากจริงๆ“ขอบใจมากมึง สำหรับทุกเรื่องที่คอยช่วยเหลือกูมาตลอด”“แอลยินดีด้วยนะคะ วันนี้พี่มินสวยมาก ฝากดูแลพี่โทนี่ด้วยนะคะ”“ขอบใจจ้ะ น้องแอล เดี๋ยวเจอกันในงานตอนถ่ายรูปนะจ๊ะ”ทั้งคู่ยืนต้อนรับแขกที่หน้างานอยู่เกือบ 2 ชั่วโมง เมื่อถึงเวลาเริ่มพิธี ทางพิธีกรจึงได้ประกาศเชิญคู่บ่าวสาวขึ้นบนเวที เพื่อกล่าวความในใจที่มีต่อกันและดำเนินพิธีการไปตามขั้นตอนที่ได้เตรียมไว้“ผม แอนโทนี่ คานิก ขอรับคุณมินตรา ชาร์ค เป็นภรรยาของผม ผมสัญญาว่าจะซื่อสัตย์ต่อคุณทั้งในยามสุขและยามทุกข์ยาก ในยามเจ็บไข้และสบายดี ผมจะรักคุณและให้เกียรติคุณตลอดชั่วชีวิตของผม”“ดิฉัน มินตรา ชาร์ค ขอรับคุณแอนโทนี่ เป็นสามีของดิฉัน ด
มินตราเดินเข้ามาในห้องพักพร้อมกับแอนโทนี่หลังจากที่ทุกคนกินข้าวเสร็จและแยกย้ายกันไปพักผ่อน ประตูห้องถูกปิดลง ร่างสูงไม่รอช้า เขาคว้าคนตัวเล็กเข้ามากอดไว้แน่นก่อนที่จะบดเบียดริมฝีปากหนาเข้าหาริมฝีปากบาง“อื้อออ...”ลิ้นร้อนลุกล้ำเข้าไปกวาดชิมความหอมหวานจากโพรงปากบางจนพอใจจึงค่อยๆผละออกก่อนจะเอ่ยปากร้องขอบางอย่างจากคนตัวเล็ก“ขอมัดจำไว้ก่อนจนกว่าจะถึงวันแต่งงานได้ไหมครับที่รัก”เป็นคำร้องขอที่ไม่รอการอนุญาต ปากหนาค่อยๆไล่ขบไปที่ติ่งหู ซึ่งเป็นจุดกระสันอีกจุดที่สร้างความอ่อนระทวยให้คนตัวเล็กได้เป็นอย่างดีเขาลากไล่ลิ้นร้อนลงมาถึงเนินอกที่ขาวเนียน ที่ถูกมือซุกซนปลดเสื้อผ้าที่ปกปิดมันเอาไว้ออกหมดแล้ว ปากหนาครอบครองดูดดุนมันราวกับขนมหวานแสนอร่อย“อ๊ะ...อื้อ....เสียว...อื้อ....”เสียงครางนั้นเร้าอารมณ์ของเขาได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว แอนโทนี่ค่อยๆ ไล่เลียลิ้นร้อนลงมาจนถึงช่องทางสีกุหลาบสีแดงระเรื่อ มันช่างเชิญชวนให้เขาเชยชิมความหอมหวานจากกลีบกุหลาบนั้นเสียจริง---แผล่บ---“อร๊ายยย!!!...ตะ...ตรง...นั้น”“หวาน...หวานไปทั้งตัว...อื้มมม”“อ๊ะ...อ๊ะ”มือเล็กกำกลุ่มผมที่ดกดำไว้แน่นด้วยความเสียวซ่านท
“ไอ้คริส กูอยากให้มึงช่วยจัดเตรียมเรื่องอะไรบ้างอย่างหน่อย”“วางมาได้เลย มีอะไร”“กูอยากขอมินตราแต่งงานที่โรงแรมของมึงวันที่พวกเราจะไปเชียงใหม่ ฝากด้วย”“เห้ย!!! เอาจริงดิ สรุปกับคนนี้แน่นอนแล้วใช่ไหม”“เออ! กูไม่อยากปล่อยเวลาให้มันนานไปมากกว่านี้ ฝากด้วย แล้วเดี๋ยวรอเจอกันที่เชียงใหม่เลย”หลังจากวางสายแอนโทนี่ก็เดินเข้าไปส่องดูคนตัวเล็กที่อยู่ในห้องนอน แต่เธอกลับยังไม่ตื่น เขารู้สึกสงสัยมาสักพักแล้ว ช่วงนี้มินตราดูแปลกไป อารมณ์แปรปรวนไม่คงที่ ดูอ่อนเพลียและนอนทั้งวัน“มิน มินครับ ตื่นได้แล้ว”“อื้อ...”คนตัวเล็กค่อยๆ ลืมตาขึ้นเมื่อโดนอีกคนปลุก ไม่รู้ว่าเธอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ตอนไหน แต่เธอรู้สึกเพลียและง่วงเหลือเกิน ตอนนี้ก็เช่นกัน ทั้งที่เพิ่งจะตื่นแต่ก็ยังรู้สึกง่วงไม่หาย“คุณแปลกๆ ไปนะช่วงนี้ ดูอ่อนเพลีย ไปหาหมอหน่อยไหมครับ ผมพาไป”“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ มินคงเหนื่อยสะสมมาหลายวัน พักอีกหน่อยคงจะดีขึ้น เดี๋ยวมินไปอาบน้ำให้สดชื่นดีกว่าค่ะ”“ครับ อาบน้ำเสร็จมากินข้าวนะครับ ผมเตรียมไว้รอ”“ค่ะที่รัก”เธอเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างอ้อยอิ่ง ร่างบางเปิดน้ำอุ่นใส่อ่างแล้วลงไปนอนแช่อยู่ครู่ใหญ่ อุ
“นายครับ ผมพาคนนั้นมารอที่ห้องทำงานของนายแล้วนะครับ”ปลายเสียงพูดขึ้นทันทีเมื่อแอนโทนี่กดรับสาย เขาไม่รอช้าที่จะถามกลับว่าคนผู้นั้นเป็นใคร คนที่กล้าทำเรื่องรุนแรงขนาดนี้“ใคร?”“นายมาดูเองดีกว่าครับ”“ได้ รอแป๊บฉันกำลังไป”หลังจากวางสาย เขารีบปลุกคนตัวเล็กให้ตื่น เพราะตัวเขาเองรอไม่ไหวแล้ว เขาอยากจะเห็นหน้าของคนที่ก่อเรื่องวุ่นวายนี้เต็มทน“ที่รักครับ ตื่น ไปบริษัทกันครับ”“มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมไปแต่เช้าจัง”“ผมจะพาคุณไปดูหน้าตัวการที่ก่อเรื่องวุ่นวายทั้งหมด รีบไปอาบน้ำเถอะครับ”คนตัวเล็กดีดผึงขึ้นจากเตียง เธอเองก็อยากรู้เต็มประดาว่าคนที่ก่อเรื่องราวทั้งหมดนี้เป็นใคร และมีเหตุผลอะไรที่มาทำร้ายเธอแบบนี้ที่คานิก กรุ๊ป ห้องทำงานของแอนโทนี่ เมื่อเขาและมินตราเดินเข้ามาถึงภายในห้อง กลับเจอเพียงแค่ลูกน้องของแอนโทนี่สองคนและฟ้าที่นั่งก้มหน้าอยู่บนโซฟา“อ้าว ไหนล่ะคนที่ว่า แล้วทำไมฟ้าถึงมานั่งอยู่ในนี้”มินตราถามออกไปด้วยความสงสัย“ผู้หญิงคนนี้แหล่ะครับที่เป็นคนทำเรื่องทั้งหมด ทั้งเรื่องปล่อยข่าว เพจแอนตี้ โทรศัพท์ข่มขู่ และกล่องพัสดุนั่นล้วนแต่เป็นฝีมือของเธอ”มินตราตกใจกับสิ่งที่ได้ย
วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่มินตรารู้สึกเหนื่อยล้ามากกว่าปกติ เหตุการณ์ที่เธอได้เจอเมื่อตอนกลางวันนั้น นึกไม่ออกเลยว่าถ้าไม่มีแอนโทนี่เธอจะจัดการกับมันได้อย่างไร“กลับกันเถอะครับวันนี้คุณเหนื่อยมามากแล้ว”ร่างสูงเอ่ยขึ้นเมื่อเดินออกมาจากห้องทำงาน เขาเห็นคนตัวเล็กกำลังจะปิดคอมพิวเตอร์และวุ่นวายอยู่กับการเก็บของบนโต๊ะทำงาน“คุณฟ้า คุณเองก็กลับไปแล้วครับ เลยเวลามามากแล้ว”“ค่ะท่านประธาน งั้นฟ้าขอตัวกลับนะคะ ฟ้ากลับก่อนนะพี่มิน เจอกันพรุ่งนี้ค่ะ”“โอเคจ้ะ เจอกันพรุ่งนี้ ขับรถดีๆ นะจ๊ะ”วันนี้ทั้งคู่ตกลงจะไปนอนค้างที่คอนโดของมินตรา ซึ่งก่อนกลับทั้งคู่ได้พากันแวะกินมื้อเย็นที่ร้านอาหารใกล้บริษัทเรียบร้อยแล้ว เมื่อกลับถึงคอนโด แอนโทนี่จึงได้เข้าไปอาบน้ำก่อนเพราะคนตัวเล็กนั่นต้องเช็ดเครื่องสำอางค์และทำอะไรต่างๆนานาตามประสาผู้หญิงสายเรียกเข้าดังขึ้นจากโทรศัพท์มือถือของมินตรา เป็นเบอร์แปลกที่ไม่คุ้นมาก่อน เธอรีบกดรับสายทันที“สวัสดีค่ะ โทรจากไหนคะ”“เลิกยุ่งกับแอนโทนี่ซะ”ปลายสายที่ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่ดูน่ากลัวเป็นเสียงแหลมเล็กของผู้หญิงปริศนาคนหนึ่ง“เธอเป็นใคร”“ไม่สำคัญว่าฉันเป็นใคร แต่ฉันข
“อ้าวแอลลีน่าเองเหรอ รู้จักกันไว้สินี่พี่มินตรา มินตรานี่แอลลีน่าน้องสาวไอ้ราฟ”“อ้าว นี่น้องสาวคุณราฟหรอกเหรอคะ สวัสดีค่ะน้องแอลลีน่า ยินดีที่ได้พบนะคะ”“สวัสดีค่ะพี่มิน เรียกแอลเฉยๆก็ได้ค่ะ ยินดีที่ได้พบเช่นกันนะคะ”หญิงสาวผู้มาใหม่ส่งยิ้มให้เธออย่างเป็นมิตร เธอดูเป็นคนน่ารัก พูดเก่งและอัธยาสัยดีเอาเสียมากๆ“แล้วนี่มาหาพี่ทำไม มาเฉยๆหรือมาเรื่องงาน”“พี่ราฟให้มาถามเรื่องงาน โครงการที่จะเปิดใหม่ที่ภาคเหนือแล้วก็อยากมาเจอว่าที่พี่สะใภ้ด้วย เห็นพี่ราฟเล่าให้ฟังว่าคนนี้รักนักรักหนา”แอลลีน่าเอ่ยแซว“เด็กรู้มาก” แอนโทนี่ตอบกลับ“พี่มินขา เที่ยงแล้ว น้องแอลขอไปกินข้าวด้วยได้ไหมคะ”“ได้เลย ยินดีมากๆจ้ะ ไปกินหลายคนสนุกออก”“อ้าว ลุกสิพี่โทนี่ คือที่บอกว่าจะไปกินข้าวด้วยเนี่ยหมายถึงว่าให้พี่ไปเลี้ยงนะเร็วสิ”แอลลีน่าสำหรับเขาแล้วเขารักและห่วงราวกับน้องสาวแท้ๆ เพราะเห็นเธอมาตั้งแต่เด็ก จึงไม่แปลกที่เขากับแอลลีน่าจะดูสนิทกันแอนโทนี่พาทั้งคู่ไปกินข้าวที่ร้านอาหารของแทนไท ซึ่งเป็นร้านที่อยู่นอกเมืองไม่ไกลนัก แต่บรรยากาศภายในร้านตกแต่งอย่างสวยงามสร้างความตื่นตาตื่นใจกับมินตราเป็นอย่างมากหลังจาก
“ว่าไงไอ้คริส”“โกดังเก็บไม้ของกู ห่างจากโรงแรมไปทางทิศเหนือ 10 กิโลเมตร มาตอนนี้”“โอเค 10 นาทีถึง”แอนโทนี่รีบเหยียบแบบมิดเข็มไมล์เพื่อให้ไปถึงจุดนัดพบโดยเร็วที่สุด เขาอยากรีบจัดการปัญหาที่ยังค้างคาให้จบโดยเร็ว ซึ่งก่อนออกไปเขาก็ไม่ลืมที่จะส่งข้อความไปบอกคนตัวเล็กที่ยังนอนอยู่เอาไว้ เผื่อว่าเธอตื่นขึ้นมาไม่เจอเขาเธอจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง//ผมมีธุระด่วนที่ต้องไปจัดการ จะรีบกลับมาหานะครับ//ณ โกดังเก็บไม้รถหรูวิ่งมาจอดหน้าโกดังเก็บไม้ เขาเจอคริส แทนไท ไนท์ และราฟาแอลรออยู่ก่อนแล้ว“มันอยู่ไหน” แอนโทนี่เอ่ยถามขึ้นทันทีที่ก้าวลงจากรถ“อยู่ข้างใน ตามกูมา” คริสตอบ“โทนี่!! ช่วยฝ้ายด้วยค่ะ”หญิงสาวร้องตะโกนเรียกเขาเสียงดังเมื่อเห็นเขาเดินเข้ามา เธอหวังว่าคนที่เพิ่งมาใหม่จะมาช่วยให้เธอหลุดพ้นไปจากสถานที่น่ากลัวแห่งนี้“เจ็บไหมครับ? นั่งอยู่แบบนี้ทั้งคืนคุณคงเมื่อยแย่เลย”“เจ็บค่ะ ฝ้ายเจ็บ ปล่อยฝ้ายไปเถอะนะคะ”“วันนั้นที่คอนโดผมบอกคุณว่ายังไงนะครับ”แอนโทนี่ยังเอ่ยถามต่อด้วยสีหน้าเรียบเฉยราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาเอื้อมมือหนาไปบีบที่คางของหญิงสาวเบาๆ ก่อนที่จะตะคอกเธอด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน
ในครั้งนี้อารมณ์และความต้องการของแอนโทนี่มีมากและรุนแรงกว่าครั้งไหนๆ นั่นก็เพราะการถูกกระตุ้นจากฤทธิ์ยาที่เขากินเข้าไปบวกกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เขาดื่มนั้นยิ่งทำให้ตัวยาออกฤทธิ์มากขึ้นเป็น 2-3 เท่าตัว“อ๊ะ!…อ๊าส์!”---สวบ!!---ร่างสูงสอดใส่ทั้งที่ยังไม่มีการเล้าโลมอะไรเสียด้วยซ้ำ ตอนนี้ในหัวของเขามีแต่ความต้องการเต็มไปหมด อารมณ์ที่เดือดพล่านมันบ่งบอกว่าเท่าไหร่ก็ยังไม่พอแอนโทนี่สอบสะโพกหนาเข้าออกไม่ยั้ง เขาซอยถี่ยิกจนคนตัวเล็กหัวสั่นครอนไปตามแรงกระแทกนั้น“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ”เธอร้องครางรัวจนไม่เป็นภาษา วันนี้เขาช่างรุนแรงกับเธอเหลือเกิน“อ๊าส์....บะ...เบา...เบา...หน่อย...ค่ะ”“อ๊าส์...ซี๊ด”“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ กรี๊ดดดดดดด”ปึ่ก-ปึ่ก-ปึ่ก-ปึ่ก-ปึ่กทุกการกระแทกแบบเข้าสุดออกสุดนั้นสร้างความเสียวกระสันให้แกคนตัวเล็กเป็นอย่างมาก เธอส่งเสียงครางปนเสียงกรีดร้องออกมาไม่ขาดสาย“อ๊าส์...ไม่ไหวแล้วครับ..อ๊าส์...อ๊ากกก!!”“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ..อร๊ายยยยย”หลังจากกระตุกไล่น้ำเชื้อสองสามครั้ง ร่างสูงก็ถอดถอนแก่นกายใหญ่ยักษ์ออกจากร่องสวาท มือหนายกตัวเธอให้ลอยขึ้นอีกครั้ง เขาจัดท่าให้เธอยืมก้มโค้ง สองมือเ