บริษัท คานิก กรุ๊ป จำกัด
วันนี้เป็นวันที่สามของการทำงานที่นี่สำหรับฉัน ซึ่ง วันนี้ก็ไม่มีอะไรมาก ในช่วงเช้าแค่เตรียมตารางงานของวันนี้ให้พร้อมและตอนนี้ฉันก็กำลังจะเข้าไปรายงานตารางงานต่างๆ ให้คุณแอนโทนี่ทราบ
“ขออนุญาตค่ะ”
"เชิญครับ"
"วันนี้มีประชุมตอน 10 โมงนะคะ ส่วนตอนเที่ยงคุณคริสโทรมานัดทานข้าวและคุยเรื่องเฟอร์นิเจอร์ที่จะนำเข้าตกแต่งโรงแรมที่หัวหินค่ะ”
"อืม วันนี้มีแค่นี้ใช่ไหม?”
"ค่ะ วันนี้มีแค่นี้ ถ้าหากมีอะไรเพิ่มเติมเข้ามาเดี๋ยวฉันจะแจ้งให้คุณทราบอีกทีค่ะ"
“อืม งั้นแสดงว่าเย็นนี้ผมว่าง”
"ค่ะ"
“แล้วเย็นนี้คุณมีงานอะไรรึเปล่า”
"ไม่ค่ะ"
“งั้นเย็นนี้ไปทานข้าวกับผมนะ”
“คะ?"
"ผมบอกว่าเย็นนี้ไปทานข้าวกับผมนะ"
"เนื่องในโอกาสอะไรเหรอคะ"
“ผมอยากรู้จักคุณให้มากกว่านี้”
ไม่พูดเปล่าแต่ร่างสูงกลับเดินเข้ามาหาอย่างรวดเร็วแล้วใช้แขนแกร่งดันตัวคนตัวเล็กไปติดกับขอบโต๊ะ
"เอ่อ คุณแอนโทนี่คะ คุณจะทำอะไร"
"ผมไม่ได้ทําอะไรนิครับ"
“ถ้างั้นถอยออกไปก่อนนะคะฉันจะได้ไปทำงาน”
“ตกลงเย็นนี้ไปทานข้าวกับผมนะ”
ร่างสูงโน้มตัวลงมากระซิบที่ข้างหูเล่นเอามินตราขนลุกขนชันกันเลยทีเดียว
“กะ..ก็ได้ค่ะ ทีนี้ปล่อยได้แล้วนะคะฉันจะไปทำงาน”
“โอเคครับ”
ฟอดดด!!!!!
"คุณ!"
พอพ้นประตูมามินตราก็รีบเดินไปที่โต๊ะทันทีแล้วยกมือขึ้นแตะที่อก เพราะตอนนี้อวัยวะด้านในมันกำลังเต้นโครมครามเหมือนกับว่าจะหลุดออกมาให้ได้
'คนบ้า'
"พี่มินว่าอะไรนะคะ"
"มะ..ไม่มีอะไรทำงานต่อเถอะจ้ะ"
เสียงของฟ้าถามขึ้นเล่นเอาเธอตกใจเลยทีเดียวพอได้สติก็รีบหันไปปฏิเสธว่าไม่มีอะไร
"แต่พี่มินหน้าแดงมากเลยไม่สบายหรือเปล่าค่ะ"
"เปล่าจ้ะพี่สบายดี"
"งั้นเหรอคะ ถ้าไม่สบายบอกฟ้าได้นะคะ จะได้พาไปที่ห้องพยาบาล”
เมื่อใกล้จะถึงเวลาประชุมเธอจึงเดินเข้าไปตามแอนโทนี่อีกครั้ง เพราะเกรงว่าเขาจะลืมเวลานัด
"คุณแอนโทนีคะได้เวลาเข้าประชุมแล้วค่ะ”
"โอเคครับ"
ตั้งแต่เข้าห้องประชุมมาตอนนี้ก็ผ่านมาเกือบชั่วโมงครึ่งแล้ว การประชุมในวันนี้ไม่มีอะไรวุ่นวายมาก เป็นการประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดตัวโรงแรมที่หัวหินที่สร้างเพิ่งแล้วเสร็จ เหลือลงเฟอร์นิเจอร์และตกแต่งอีกนิดหน่อย
"เอาละครับวันนี้พอแค่นี้ เชิญพวกคุณทุกคนไปพักได้ครับ”
"คุณมิน สรุปรายงานการประชุมให้ผมด้วยนะครับ"
“ได้ค่ะ”
"ตอนนี้กี่โมงแล้ว"
“11 โมงครึ่งค่ะ”
“โอเคงั้นเราไปกันเถอะ”
ทั้งสองคนออกจากห้องประชุมและลงลิฟต์ไปที่ชั้นจอดรถเพื่อที่จะไปร้านอาหารที่นัดกับคุณคริสเอาไว้
ณ ร้านอาหาร
“สวัสดีครับ คุณลูกค้ามากี่ท่านครับ”
"จองไว้แล้วค่ะ ชื่อคุณแอนโทนี่ค่ะ"
"อ่อ งั้นเชิญทางนี้เลยครับ"
"สั่งเลยแล้วกันจะได้ไม่เสียเวลา”
"ค่ะ งั้นเอา ต้มยำกุ้ง กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา ปลากะพงนึ่งมะนาว หมึกยัดไส้แล้วก็ข้าวเปล่าหนึ่งโถ คุณแอนโทนี่รับน้ำอะไรดีค่ะ”
"แล้วแต่คุณเลยครับ"
"เอ่อ งั้นขอเป็นน้ำเปล่าแล้วกันค่ะ”
"ครับ งั้นขอทวนเมนูอาหารนะครับมีต้มยำกุ้ง กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา ปลากะพงนึ่งมะนาว หมึกยัดไส้แล้วก็ข้าวเปล่าหนึ่งโถและก็มีน้ำเปล่านะครับ"
"ค่ะ"
"รอสักครู่นะครับ"
หลังจากนั้นไม่นานคริส หนุ่มหล่อร่างสูงก็มาถึง เขาเป็นเพื่อนสนิทของแอนโทนี่ และเป็นผู้ร่วมลงทุนในทุกธุรกิจอีกด้วย
"สวัสดี เลขาใหม่เหรอครับคุณโทนี่ไม่เคยเห็นหน้าเลย”
เขาเอ่ยแซวเพื่อนทันทีที่เจอหน้า ก็ร้อยวันพันปีเพื่อนของเขาไม่เคยพาเลขามาด้วยสักครั้ง แต่ครั้งนี้กลับแปลกออกไป
"สวัสดีค่ะคุณคริส ดิฉันมินตราค่ะ"
มินตรายกมื้อไหว้ เธอเอ่ยทักทายเสียงหวานพร้อมส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร คนที่นั่งมองอย่างแอนโทนี่เห็นเช่นนั้นก็รู้สึกไม่ชอบใจสักเท่าไหร่
"จะยิ้มทักทายกันอีกนานไหม""อะไรของแกทําเป็นหวงไปได้ แล้วไง สรุปทำไมมาช้าเป็นคนนัดแท้ๆ"
“โทษทีว่ะมีเหตุนิดหน่อย"
"มีเหตุหรือมีสาว?"
"สาวที่ไหนไม่มีเว้ย"
"ใช่เหรอ"
หลังจากนั้นอาหารก็มาเสิร์ฟ ทุกคนก็ลงมือรับประทานอาหารกันจนเสร็จเรียบร้อยและคุยงานกันต่อ
“ก็อย่างที่บอก แกน่าจะรู้ว่าจะต้องลงอะไรบ้างตามที่แกเห็นสมควรเลยฉันเชื่อในรสนิยมของแก”
"อืมเดียวฉันจะเข้าไปดูให้ภายในวันสองวันนี้แหละ”
"อืม ขอบใจมาก"
“งั้นฉันขอตัวก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวต้องเข้าโรงงานต่อ ผมไปก่อนนะครับคุณมิน เจอกันเพื่อน"
"อืม แล้วเจอกัน"
หลังจากที่คริสออกไปแล้วแอนโทนี่และมินตราก็ออกจากร้านอาหารเดินไปยังรถคันหรูที่จอดรออยู่เพื่อกลับเข้าบริษัท เพื่อไม่ให้ภายในรถดูเงียบเกินไป คนตัวเล็กจึงชวนผู้เป็นเจ้านายพูดคุยเพื่อเป็นการผ่อนคลาย
"คุณคริสเขาดูเป็นคนน่ารักดีนะคะ"
"ทําไมชอบมันเหรอ"
"เปล่าค่ะก็เขาดูเป็นคนคุยสนุกสนานดี”
“ไม่ชอบน่ะดีแล้ว ถึงคุณจะชอบมันผมก็ไม่ยอมอยู่ดี”
"ทำไมล่ะค่ะ ขอเหตุผลได้ไหมคะ"
"เพราะผมจะจีบคุณ"
จู่ๆ เขาก็หันมากระซิบข้างหูเลขาสาว ทำเอาเธอขนลุกซู่ เอาอีกแล้วเล่นอะไรของเขาอีกเนี่ยโอ๊ยหัวใจจะวาย
"ตอนเย็นเจอกันครับคุณเลขา เดี๋ยวผมมารับ"
“คุณจะไปไหนเหรอคะ"
"ผมมีธุระนิดหน่อยครับ”
หลังจากจอดรถส่งเธอที่หน้าบริษัทแล้วเขาก็ขับรถออกไปทันทีโดยไม่ได้พูดอะไรต่อ จนเวลาล่วงเลยผ่านไปถึงช่วงเวลาเลิกงาน แอนโทนี่ก็ขับรถกลับมาที่บริษัท เขาเดินขึ้นไปยังชั้นที่ทำงานอย่างอารมณ์ดี
“พร้อมรึยังครับ คุณเลขา”
“เราจะไปไหนกันคะ ฉันจะกลับแล้วนะคะนี่มันเวลาเลิกงานแล้วค่ะ”
“ผมจะพาคุณไปกินข้าวก่อน แล้วเดี๋ยวผมไปส่งที่คอนโด”
“แต่...”
“ไม่มีแต่ และไม่ต้องถามให้มากความ ผมบอกให้ไปก็ไปเถอะน่า”
เขาพูดดักไว้เพราะเกรงว่าคนตัวเล็กจะมีเหตุผลมาขัดไม่ยอมไปกับเขาอีก
“บอสกับพี่มินจะไปไหนกันเหรอคะ”
เสียงหวานเล็กเอ่ยถามขึ้นก่อนที่ทั้งคู่จะเดินออกไป เป็นเสียงของฟ้า ผู้ช่วยเลขาที่ทำงานกับแอนโทนี่มานานแล้ว เธอถามขึ้นด้วยความสงสัยใคร่รู้
“ผมกับคุณมินจะไปกินข้าว คุณทำงานเสร็จก็รีบกลับบ้านได้แล้ว”
“ค่ะบอส”
เธอเอ่ยตอบสั้นๆ ก่อนที่จะก้มหน้าก้มตาเก็บของใส่กระเป๋า สายตาคู่สวยแอบเหลือบมองคนทั้งคู่เดินออกไปด้วยกันจนเข้าลิฟต์ไป
หลังจากทำเรื่องฝากครรภ์แบบพิเศษเสร็จเรียบร้อย และได้รับคำแนะนำต่างๆ จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง แอนโทนี่ก็ได้พาคนตัวเล็กกลับมาที่คอนโดเพื่อเตรียมตัวเดินทางไปเยี่ยมผู้เป็นพ่อที่มหานครไมอามี่“ตื่นเต้นจังเลยค่ะ มินไม่ได้กลับไมอามี่นานแล้ว คิดถึงทุกคนที่นั่นจัง”“ตั้งแต่คุณพ่อรู้ว่าคุณท้องก็เตรียมของรับขวัญหลานไว้แบบอลังการแล้วครับ”“คุณพ่อนี่ชอบทำอะไรยิ่งใหญ่ตลอดแหล่ะค่ะ ตอนที่มินเป็นเลขาให้ท่านก็เป็นแบบนี้”“ผมพาคุณนั่งเจ็ตส่วนตัวไปนะครับ ไม่อยากให้เมียผมต้องไปเบียดกับคนเยอะแยะ”แอนโทนี่พูดพลางเดินเข้ามาโอบกอดภรรยาไว้แน่น ปกติเขาก็ดูทั้งห่วงทั้งหวงคนตัวเล็กอยู่แล้ว แล้วนี่ยิ่งเธอตั้งท้องเขายิ่งไม่ยอมห่างจากคนตัวเล็กเลย“คุณไม่ต้องพยุงมินตลอดก็ได้ มินเดินเองได้ค่ะ”“ไม่ได้สิผมเป็นห่วง”“อย่าเวอร์ได้ไหม มินแค่ท้องนะไม่ได้เจ็บป่วยหรือเป็นง่อย”ร่างสูงพยุงคนตัวเล็กอยู่ข้างๆ ไม่ยอมปล่อยจนเธอเริ่มจะหงุดหงิด เธอแค่ท้อง ไม่ได้เจ็บป่วยหรือเป็นง่อยสักหน่อย เขาก็ทำเป็นเรื่องใหญ่โตไปได้ ตั้งแต่ที่รู้ว่าเธอท้อง แอนโทนี่ก็เห่อมาก เขาตระเตรียมซื้อเสื้อผ้า และของเล่นไว้ให้ลูกทั้งที่ยังไม่รู้เพศเสียด้
งานแต่งของทายาทแห่งคานิก กรุ๊ปถูกจัดขึ้นที่โรงแรมหรูระดับ 5 ดาวใจกลางเมือง ภายในงานเต็มไปด้วยนักธุรกิจและผู้มีอิทธิพลมากมายที่มาร่วมแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาว โดยมีท่านประธานใหญ่แห่งคานิก กรุ๊ป นั่งอยู่ด้านหน้าเวทีเป็นประธานของงานในวันนี้“ยินดีกับมึงด้วยที่ลงเอยได้สักทีโทนี่”ราฟาแอลที่เดินเข้ามาพร้อมกับแอลลีน่าน้องสาวของเขาพูดขึ้น พวกเขาเป็นเพื่อนกันมานาน วันนี้เป็นอีกวันที่เขาดีใจกับเพื่อนคนนี้มากจริงๆ“ขอบใจมากมึง สำหรับทุกเรื่องที่คอยช่วยเหลือกูมาตลอด”“แอลยินดีด้วยนะคะ วันนี้พี่มินสวยมาก ฝากดูแลพี่โทนี่ด้วยนะคะ”“ขอบใจจ้ะ น้องแอล เดี๋ยวเจอกันในงานตอนถ่ายรูปนะจ๊ะ”ทั้งคู่ยืนต้อนรับแขกที่หน้างานอยู่เกือบ 2 ชั่วโมง เมื่อถึงเวลาเริ่มพิธี ทางพิธีกรจึงได้ประกาศเชิญคู่บ่าวสาวขึ้นบนเวที เพื่อกล่าวความในใจที่มีต่อกันและดำเนินพิธีการไปตามขั้นตอนที่ได้เตรียมไว้“ผม แอนโทนี่ คานิก ขอรับคุณมินตรา ชาร์ค เป็นภรรยาของผม ผมสัญญาว่าจะซื่อสัตย์ต่อคุณทั้งในยามสุขและยามทุกข์ยาก ในยามเจ็บไข้และสบายดี ผมจะรักคุณและให้เกียรติคุณตลอดชั่วชีวิตของผม”“ดิฉัน มินตรา ชาร์ค ขอรับคุณแอนโทนี่ เป็นสามีของดิฉัน ด
มินตราเดินเข้ามาในห้องพักพร้อมกับแอนโทนี่หลังจากที่ทุกคนกินข้าวเสร็จและแยกย้ายกันไปพักผ่อน ประตูห้องถูกปิดลง ร่างสูงไม่รอช้า เขาคว้าคนตัวเล็กเข้ามากอดไว้แน่นก่อนที่จะบดเบียดริมฝีปากหนาเข้าหาริมฝีปากบาง“อื้อออ...”ลิ้นร้อนลุกล้ำเข้าไปกวาดชิมความหอมหวานจากโพรงปากบางจนพอใจจึงค่อยๆผละออกก่อนจะเอ่ยปากร้องขอบางอย่างจากคนตัวเล็ก“ขอมัดจำไว้ก่อนจนกว่าจะถึงวันแต่งงานได้ไหมครับที่รัก”เป็นคำร้องขอที่ไม่รอการอนุญาต ปากหนาค่อยๆไล่ขบไปที่ติ่งหู ซึ่งเป็นจุดกระสันอีกจุดที่สร้างความอ่อนระทวยให้คนตัวเล็กได้เป็นอย่างดีเขาลากไล่ลิ้นร้อนลงมาถึงเนินอกที่ขาวเนียน ที่ถูกมือซุกซนปลดเสื้อผ้าที่ปกปิดมันเอาไว้ออกหมดแล้ว ปากหนาครอบครองดูดดุนมันราวกับขนมหวานแสนอร่อย“อ๊ะ...อื้อ....เสียว...อื้อ....”เสียงครางนั้นเร้าอารมณ์ของเขาได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว แอนโทนี่ค่อยๆ ไล่เลียลิ้นร้อนลงมาจนถึงช่องทางสีกุหลาบสีแดงระเรื่อ มันช่างเชิญชวนให้เขาเชยชิมความหอมหวานจากกลีบกุหลาบนั้นเสียจริง---แผล่บ---“อร๊ายยย!!!...ตะ...ตรง...นั้น”“หวาน...หวานไปทั้งตัว...อื้มมม”“อ๊ะ...อ๊ะ”มือเล็กกำกลุ่มผมที่ดกดำไว้แน่นด้วยความเสียวซ่านท
“ไอ้คริส กูอยากให้มึงช่วยจัดเตรียมเรื่องอะไรบ้างอย่างหน่อย”“วางมาได้เลย มีอะไร”“กูอยากขอมินตราแต่งงานที่โรงแรมของมึงวันที่พวกเราจะไปเชียงใหม่ ฝากด้วย”“เห้ย!!! เอาจริงดิ สรุปกับคนนี้แน่นอนแล้วใช่ไหม”“เออ! กูไม่อยากปล่อยเวลาให้มันนานไปมากกว่านี้ ฝากด้วย แล้วเดี๋ยวรอเจอกันที่เชียงใหม่เลย”หลังจากวางสายแอนโทนี่ก็เดินเข้าไปส่องดูคนตัวเล็กที่อยู่ในห้องนอน แต่เธอกลับยังไม่ตื่น เขารู้สึกสงสัยมาสักพักแล้ว ช่วงนี้มินตราดูแปลกไป อารมณ์แปรปรวนไม่คงที่ ดูอ่อนเพลียและนอนทั้งวัน“มิน มินครับ ตื่นได้แล้ว”“อื้อ...”คนตัวเล็กค่อยๆ ลืมตาขึ้นเมื่อโดนอีกคนปลุก ไม่รู้ว่าเธอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ตอนไหน แต่เธอรู้สึกเพลียและง่วงเหลือเกิน ตอนนี้ก็เช่นกัน ทั้งที่เพิ่งจะตื่นแต่ก็ยังรู้สึกง่วงไม่หาย“คุณแปลกๆ ไปนะช่วงนี้ ดูอ่อนเพลีย ไปหาหมอหน่อยไหมครับ ผมพาไป”“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ มินคงเหนื่อยสะสมมาหลายวัน พักอีกหน่อยคงจะดีขึ้น เดี๋ยวมินไปอาบน้ำให้สดชื่นดีกว่าค่ะ”“ครับ อาบน้ำเสร็จมากินข้าวนะครับ ผมเตรียมไว้รอ”“ค่ะที่รัก”เธอเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างอ้อยอิ่ง ร่างบางเปิดน้ำอุ่นใส่อ่างแล้วลงไปนอนแช่อยู่ครู่ใหญ่ อุ
“นายครับ ผมพาคนนั้นมารอที่ห้องทำงานของนายแล้วนะครับ”ปลายเสียงพูดขึ้นทันทีเมื่อแอนโทนี่กดรับสาย เขาไม่รอช้าที่จะถามกลับว่าคนผู้นั้นเป็นใคร คนที่กล้าทำเรื่องรุนแรงขนาดนี้“ใคร?”“นายมาดูเองดีกว่าครับ”“ได้ รอแป๊บฉันกำลังไป”หลังจากวางสาย เขารีบปลุกคนตัวเล็กให้ตื่น เพราะตัวเขาเองรอไม่ไหวแล้ว เขาอยากจะเห็นหน้าของคนที่ก่อเรื่องวุ่นวายนี้เต็มทน“ที่รักครับ ตื่น ไปบริษัทกันครับ”“มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมไปแต่เช้าจัง”“ผมจะพาคุณไปดูหน้าตัวการที่ก่อเรื่องวุ่นวายทั้งหมด รีบไปอาบน้ำเถอะครับ”คนตัวเล็กดีดผึงขึ้นจากเตียง เธอเองก็อยากรู้เต็มประดาว่าคนที่ก่อเรื่องราวทั้งหมดนี้เป็นใคร และมีเหตุผลอะไรที่มาทำร้ายเธอแบบนี้ที่คานิก กรุ๊ป ห้องทำงานของแอนโทนี่ เมื่อเขาและมินตราเดินเข้ามาถึงภายในห้อง กลับเจอเพียงแค่ลูกน้องของแอนโทนี่สองคนและฟ้าที่นั่งก้มหน้าอยู่บนโซฟา“อ้าว ไหนล่ะคนที่ว่า แล้วทำไมฟ้าถึงมานั่งอยู่ในนี้”มินตราถามออกไปด้วยความสงสัย“ผู้หญิงคนนี้แหล่ะครับที่เป็นคนทำเรื่องทั้งหมด ทั้งเรื่องปล่อยข่าว เพจแอนตี้ โทรศัพท์ข่มขู่ และกล่องพัสดุนั่นล้วนแต่เป็นฝีมือของเธอ”มินตราตกใจกับสิ่งที่ได้ย
วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่มินตรารู้สึกเหนื่อยล้ามากกว่าปกติ เหตุการณ์ที่เธอได้เจอเมื่อตอนกลางวันนั้น นึกไม่ออกเลยว่าถ้าไม่มีแอนโทนี่เธอจะจัดการกับมันได้อย่างไร“กลับกันเถอะครับวันนี้คุณเหนื่อยมามากแล้ว”ร่างสูงเอ่ยขึ้นเมื่อเดินออกมาจากห้องทำงาน เขาเห็นคนตัวเล็กกำลังจะปิดคอมพิวเตอร์และวุ่นวายอยู่กับการเก็บของบนโต๊ะทำงาน“คุณฟ้า คุณเองก็กลับไปแล้วครับ เลยเวลามามากแล้ว”“ค่ะท่านประธาน งั้นฟ้าขอตัวกลับนะคะ ฟ้ากลับก่อนนะพี่มิน เจอกันพรุ่งนี้ค่ะ”“โอเคจ้ะ เจอกันพรุ่งนี้ ขับรถดีๆ นะจ๊ะ”วันนี้ทั้งคู่ตกลงจะไปนอนค้างที่คอนโดของมินตรา ซึ่งก่อนกลับทั้งคู่ได้พากันแวะกินมื้อเย็นที่ร้านอาหารใกล้บริษัทเรียบร้อยแล้ว เมื่อกลับถึงคอนโด แอนโทนี่จึงได้เข้าไปอาบน้ำก่อนเพราะคนตัวเล็กนั่นต้องเช็ดเครื่องสำอางค์และทำอะไรต่างๆนานาตามประสาผู้หญิงสายเรียกเข้าดังขึ้นจากโทรศัพท์มือถือของมินตรา เป็นเบอร์แปลกที่ไม่คุ้นมาก่อน เธอรีบกดรับสายทันที“สวัสดีค่ะ โทรจากไหนคะ”“เลิกยุ่งกับแอนโทนี่ซะ”ปลายสายที่ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่ดูน่ากลัวเป็นเสียงแหลมเล็กของผู้หญิงปริศนาคนหนึ่ง“เธอเป็นใคร”“ไม่สำคัญว่าฉันเป็นใคร แต่ฉันข
“อ้าวแอลลีน่าเองเหรอ รู้จักกันไว้สินี่พี่มินตรา มินตรานี่แอลลีน่าน้องสาวไอ้ราฟ”“อ้าว นี่น้องสาวคุณราฟหรอกเหรอคะ สวัสดีค่ะน้องแอลลีน่า ยินดีที่ได้พบนะคะ”“สวัสดีค่ะพี่มิน เรียกแอลเฉยๆก็ได้ค่ะ ยินดีที่ได้พบเช่นกันนะคะ”หญิงสาวผู้มาใหม่ส่งยิ้มให้เธออย่างเป็นมิตร เธอดูเป็นคนน่ารัก พูดเก่งและอัธยาสัยดีเอาเสียมากๆ“แล้วนี่มาหาพี่ทำไม มาเฉยๆหรือมาเรื่องงาน”“พี่ราฟให้มาถามเรื่องงาน โครงการที่จะเปิดใหม่ที่ภาคเหนือแล้วก็อยากมาเจอว่าที่พี่สะใภ้ด้วย เห็นพี่ราฟเล่าให้ฟังว่าคนนี้รักนักรักหนา”แอลลีน่าเอ่ยแซว“เด็กรู้มาก” แอนโทนี่ตอบกลับ“พี่มินขา เที่ยงแล้ว น้องแอลขอไปกินข้าวด้วยได้ไหมคะ”“ได้เลย ยินดีมากๆจ้ะ ไปกินหลายคนสนุกออก”“อ้าว ลุกสิพี่โทนี่ คือที่บอกว่าจะไปกินข้าวด้วยเนี่ยหมายถึงว่าให้พี่ไปเลี้ยงนะเร็วสิ”แอลลีน่าสำหรับเขาแล้วเขารักและห่วงราวกับน้องสาวแท้ๆ เพราะเห็นเธอมาตั้งแต่เด็ก จึงไม่แปลกที่เขากับแอลลีน่าจะดูสนิทกันแอนโทนี่พาทั้งคู่ไปกินข้าวที่ร้านอาหารของแทนไท ซึ่งเป็นร้านที่อยู่นอกเมืองไม่ไกลนัก แต่บรรยากาศภายในร้านตกแต่งอย่างสวยงามสร้างความตื่นตาตื่นใจกับมินตราเป็นอย่างมากหลังจาก
“ว่าไงไอ้คริส”“โกดังเก็บไม้ของกู ห่างจากโรงแรมไปทางทิศเหนือ 10 กิโลเมตร มาตอนนี้”“โอเค 10 นาทีถึง”แอนโทนี่รีบเหยียบแบบมิดเข็มไมล์เพื่อให้ไปถึงจุดนัดพบโดยเร็วที่สุด เขาอยากรีบจัดการปัญหาที่ยังค้างคาให้จบโดยเร็ว ซึ่งก่อนออกไปเขาก็ไม่ลืมที่จะส่งข้อความไปบอกคนตัวเล็กที่ยังนอนอยู่เอาไว้ เผื่อว่าเธอตื่นขึ้นมาไม่เจอเขาเธอจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง//ผมมีธุระด่วนที่ต้องไปจัดการ จะรีบกลับมาหานะครับ//ณ โกดังเก็บไม้รถหรูวิ่งมาจอดหน้าโกดังเก็บไม้ เขาเจอคริส แทนไท ไนท์ และราฟาแอลรออยู่ก่อนแล้ว“มันอยู่ไหน” แอนโทนี่เอ่ยถามขึ้นทันทีที่ก้าวลงจากรถ“อยู่ข้างใน ตามกูมา” คริสตอบ“โทนี่!! ช่วยฝ้ายด้วยค่ะ”หญิงสาวร้องตะโกนเรียกเขาเสียงดังเมื่อเห็นเขาเดินเข้ามา เธอหวังว่าคนที่เพิ่งมาใหม่จะมาช่วยให้เธอหลุดพ้นไปจากสถานที่น่ากลัวแห่งนี้“เจ็บไหมครับ? นั่งอยู่แบบนี้ทั้งคืนคุณคงเมื่อยแย่เลย”“เจ็บค่ะ ฝ้ายเจ็บ ปล่อยฝ้ายไปเถอะนะคะ”“วันนั้นที่คอนโดผมบอกคุณว่ายังไงนะครับ”แอนโทนี่ยังเอ่ยถามต่อด้วยสีหน้าเรียบเฉยราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาเอื้อมมือหนาไปบีบที่คางของหญิงสาวเบาๆ ก่อนที่จะตะคอกเธอด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน
ในครั้งนี้อารมณ์และความต้องการของแอนโทนี่มีมากและรุนแรงกว่าครั้งไหนๆ นั่นก็เพราะการถูกกระตุ้นจากฤทธิ์ยาที่เขากินเข้าไปบวกกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เขาดื่มนั้นยิ่งทำให้ตัวยาออกฤทธิ์มากขึ้นเป็น 2-3 เท่าตัว“อ๊ะ!…อ๊าส์!”---สวบ!!---ร่างสูงสอดใส่ทั้งที่ยังไม่มีการเล้าโลมอะไรเสียด้วยซ้ำ ตอนนี้ในหัวของเขามีแต่ความต้องการเต็มไปหมด อารมณ์ที่เดือดพล่านมันบ่งบอกว่าเท่าไหร่ก็ยังไม่พอแอนโทนี่สอบสะโพกหนาเข้าออกไม่ยั้ง เขาซอยถี่ยิกจนคนตัวเล็กหัวสั่นครอนไปตามแรงกระแทกนั้น“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ”เธอร้องครางรัวจนไม่เป็นภาษา วันนี้เขาช่างรุนแรงกับเธอเหลือเกิน“อ๊าส์....บะ...เบา...เบา...หน่อย...ค่ะ”“อ๊าส์...ซี๊ด”“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ กรี๊ดดดดดดด”ปึ่ก-ปึ่ก-ปึ่ก-ปึ่ก-ปึ่กทุกการกระแทกแบบเข้าสุดออกสุดนั้นสร้างความเสียวกระสันให้แกคนตัวเล็กเป็นอย่างมาก เธอส่งเสียงครางปนเสียงกรีดร้องออกมาไม่ขาดสาย“อ๊าส์...ไม่ไหวแล้วครับ..อ๊าส์...อ๊ากกก!!”“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ..อร๊ายยยยย”หลังจากกระตุกไล่น้ำเชื้อสองสามครั้ง ร่างสูงก็ถอดถอนแก่นกายใหญ่ยักษ์ออกจากร่องสวาท มือหนายกตัวเธอให้ลอยขึ้นอีกครั้ง เขาจัดท่าให้เธอยืมก้มโค้ง สองมือเ