"เต้ย! ทะลึ่งไม่เลือกเวลาเลย เมื่อกี้มีนซึ้งจนแทบจะร้องตาม อะไรตัดมาหื่นเฉยเลย ไม่เอาแล้วมีนไปนอนดีกว่า" "เดี๋ยวสิ กำลังจะบอกเรื่องสำคัญเลย" "เรื่องอะไรอีก" "พรุ่งนี้กลับไปอยู่ที่บ้านนะ บ้านมีนหรือบ้านเต้ยก็ได้ เดี๋ยวตอนเช้าเต้ยไปส่ง" "ไม่เอาจะอยู่กับเต้ย" "โอ้โฮทูนหัว ชื่นใจมากที่ได้ยินแบบนี้ แต่เวลานี้ไม่เหมาะที่เราจะอยู่ด้วยกัน อย่างที่บอกเต้ยยุ่งและดูแลมีนไม่ได้ เต้ยไม่อยากทิ้งมีนกับลูกไว้ตามลำพัง เลยอยากให้กลับไปอยู่ที่บ้านก่อน ถ้าเต้ยเลิกงานเร็วเต้ยก็กลับไปบ้าน ปทุมฯ ใกล้แค่นี้เอง" "ขอเหตุผลจริง ๆ” มินรญาถาม ตากลมโตจ้องตาดุอย่างคนรู้ทัน "ก็ได้ ๆ คืองี้นะ ไอ้ตี๋มันหนีออกไปได้ และยังหาตัวไม่เจอ พวกเรากลัวมันจะมาที่นี่มาทำร้ายมีนกับลูก เต้ยเลยอยากให้มีนกลับไปอยู่บ้านก่อน เอาจริง ๆ นะธามมันกลัวว่าตอนนี้จะมีคนของไอ้ตี๋ปนอยู่ด้วย และคอยส่งข่าวให้ไอ้ตี๋รู้เต้ยกลัวมันย้อนรอยมาทำร้ายมีนกับลูก เลยอยากให้มีนไปอยู่ในที่ปลอดภัยก่อน ได้ยินแบบนี้สบายใจหรือยัง เต้ยพูดความจริงหมดแล้ว" "ทำไมมันดูซับซ้
"เต้ย” มินรญาเรียกชื่อคนตรงหน้า น้ำเสียงของภพธรมีความเจ็บปวดปนมาในนั้น แขนเรียวโอบรอบเอวหนา ก่อนจะซุกใบหน้าลงกับอกกว้างเพื่อซ่อนน้ำตา นาทีนี้เธอสงสารเขาเหลือเกิน ผู้ชายร้าย ๆ คนนั้นไปไหนกันนะ "ทำไมวะมีน การที่เต้ยให้เงินลูกน้องเยอะ ๆ มันคือการใช้เงินเลี้ยงคนเหรอ เพราะไว้ใจพวกมัน ปล่อยให้มันทำหน้าที่กันไป ไม่เคยเข้าไปแทรกแซงงานของพวกมัน ทำให้เต้ยกลายเป็นคนไม่ทำงานเหรอวะ" "เต้ย" "เต้ยรวยแล้วไง เงินที่สร้างบริษัททุกบาททุกสตางค์มันมาจากน้ำพักน้ำแรงเต้ยทั้งนั้น เต้ยทำงานตั้งแต่สมัยเรียน เต้ยใช้เงินเก็บที่มีมาสร้าง เต้ยใช้ฝีมือเปล่าวะ มันถึงได้มาไกลขนาดนี้ พวกมันไม่เคยคิดเลย มันว่าเต้ยด่าเต้ยสารพัด" "ไม่เอาเต้ย แค่คำพูดของคนคนเดียวอย่าเอามาตัดสินชีวิตตัวเองสิ ยังมีคนอีกตั้งเยอะที่รักเต้ย ไม่เอาอย่าคิดมากสิ” มินรญาปลอบ พยายามปรับน้ำเสียงให้ฟังดูเป็นปกติที่สุด ไม่อยากให้เขารู้ว่าเธอก็รู้สึกอ่อนไหวไปกับเขาด้วย "คนตั้งเยอะเหรอมีน ลับหลังมามันก็ด่าเต้ยทั้งนั้น เต้ยแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ" "ใครจะว่ายังไงก็ช่างมันนะ สำหรับมีนแล้ว
ตาดุมองไปที่หน้าท้องขาวนวลที่นูนป่องขึ้นมาจนกลม ลำพังแค่เขาคนเดียวคงรับมือกับไอ้พวกคนพาลได้ไม่ยาก แต่นี่เขามีห่วงเพิ่มขึ้นมาอีก และเป็นห่วงที่คนพวกนั้นรู้ว่าเป็นจุดอ่อนที่สุดของเขา นับว่าตี๋ฉลาดมากที่ยังไม่ย้อนกลับมาที่นี่แต่พวกมันคงไม่ปล่อยไว้แน่ ถือว่าวันนี้เขายังโชคดีที่ยังมีเวลารับมือกับคนพวกนั้น ไม่รู้ว่าเขาจะคิดเรื่องนี้มากไปหรือเปล่า แต่กันไว้ดีกว่าแก้ไม่ใช่หรือร่างสูงเดินมาสวมกอดเอวคนท้องไว้หลวม ๆ ก่อนจะพาเดินกลับเข้าไปด้านใน เป็นจังหวะเดียวกับที่อธิปกับปอมาถึงพอดีมินรญาตกใจเมื่อเห็นหน้าเพื่อนร่วมรุ่นอีกคน อธิปโล่งอกเมื่อมองเห็นคนหน้าหวานในอ้อมกอดเพื่อน ก่อนจะค่อย ๆ ปรับสีหน้าให้เป็นปกติเมื่อหันไปล้อเล่นกับมดยิ้มเพื่อกลบเกลื่อน มองสบตาดุที่มีแววขอร้องปนมาในนั้น อธิปยักคิ้วตอบเมื่อเข้าใจสิ่งที่เพื่อนสนิทส่งมา ก่อนจะถอยไปหากลุ่มเพื่อนที่นั่งสงบในห้องรับแขก เมื่อภพธรต้อนคุณแม่และลูกเข้าห้องนอนด้านใน ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน หลังจากที่ส่งกลุ่มเพื่อน ๆ กลับร่างสูงก็ยังนั่งเหม่อลอยอยู่อย่างนั้น คนที่กำลังก้าวมาหาชะงักเท้านิดหนึ่งยืนมองคนที่นั่งทอดอ
ตาคมดุกวาดมองไปเรื่อย ๆ เมื่อวิ่งไปเปิดประตูห้องนอน ไอ้สามคนที่ตามมาก็ช่วยกันวิ่งหาจนทั่ว ห้องครัว ห้องรับแขกทุกอย่างเงียบสนิท ตาดุเงยหน้าขึ้นมองชั้นบนที่เป็นห้องนอนเล็กและห้องทำงานของเขา แต่มินรญาไม่เคยเข้าไปเพราะเธอชอบคิดว่าเขากันตรงนั้นไว้เป็นพื้นที่ส่วนตัว เท้าหนาซอยขึ้นบันไดชั้นบนพลันสายตาก็เหลือบไปเห็นประตูระเบียงที่แยกออกไปยังสระว่ายน้ำเปิดออก ให้ตายเถอะทำไมเขามองไม่เห็นแต่แรกนะ เท้าหนาถอยกลับลงมาก็เป็นเวลาเดียวกับที่ไอ้สามคนนั่นวิ่งพรวดออกไปที่ระเบียงพร้อมกันพอดี "พี่เต้ย!” คนทั้งสามคนประสานเสียงตะโกนเรียกชื่อเขาพร้อมกัน ภพธรยังไม่ทันตอบอะไร พวกมันก็เรียกชื่อเขาซ้ำอีกรอบ หัวใจชายหนุ่มปวดหนึบเมื่อได้ยินน้ำเสียงที่ตื่นตกใจของคนเรียก "พี่เต้ย!” ร่างสูงโผล่หน้าออกไปที่สระว่ายน้ำ ก่อนจะตั้งสติแล้ววิ่งไปบริเวณขอบสระเร็ว ๆ "มีน!” ภาพที่เห็นทำให้ภพธรเข่าทรุด มินรญาในชุดบิกินีสีส้มอิฐที่เขาซื้อให้ที่ทะเลวันนั้น กำลังประคองห่วงยางเป็ดเหลืองอันใหญ่อยู่กลางสระ ในห่วงยางมีร่างเล็กที่ใส่ชุดสีเดียวกันของมดยิ้มอยู่ในนั้น คนที่อยู่ในสระหัน
เสียงเปิดและปิดประตูดัง ๆ เรียกสายตาของคนที่กำลังนั่งทอดอารมณ์ให้หันไปมอง "มีเรื่องอะไรอีก” อธิปถามเมื่อเห็นมุ้ยวิ่งหน้าตื่นเข้ามา มุ้ยหลบตาก้มมองมือตัวเอง "แย่แล้วพี่ธาม ไอ้ตี๋มันหนีไปแล้ว!” มุ้ยละล่ำละลักตอบคำถาม "สัตว์! กูสั่งให้เฝ้ามันให้ดีไง” อธิปตบโต๊ะดังปัง เมื่อลุกขึ้นมาประจันหน้ากับมุ้ย "ผมบอกพี่แล้วว่าให้ส่งมันให้ตำรวจ” มุ้ยเถียง "มันหายไปตั้งแต่ตอนไหน” ภพธรถาม เมื่อรู้สึกใจเต้นแปลก ๆ "ไม่รู้พี่เต้ยผมกับไอ้คิงขังมันไว้บนห้องชั้นสอง ปิดล็อกประตูอย่างดี แต่มันปีนหน้าต่างหนีไป" "แม่งเอ้ย! ใช้พวกมึงเหมือนใช้ควาย” อธิปสบถลั่น มุ้ยหน้าเสีย "ไอ้คิงล่ะ” ภพธรถาม "ไปกับแอม" "ห่าเอ้ย! แต่ละคน” อธิปหัวเสียไปกันใหญ่ "กูจะโทรหามีน ไม่รู้แอมไปถึงหรือยัง” ภพธรบอกเมื่อรู้สึกห่วงมินรญากับลูกขึ้นมา "มึงรีบกลับเลยเต้ย ถ้าแอมไปถึงมึงให้มีนออกมากับแอมเลย” อธิปเสนอเมื่อรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง "มึงหมายความว่า” ภพธรจ้องหน้าเพื่อน ก่อ
"คุณออกไปได้แล้วผมรีบ เสื้อผ้าก็ร่วงอยู่ตามพื้นนั่นแหละ หาเอา อ้อ...อย่าเล่นตุกติกกับผม จำไว้ผมมีหลักฐาน คงจำห้องพักได้นะ ผมไม่ส่ง เชิญ” ธนากรมองไปที่ร่างบางอีกครั้ง ตาคมเข้มสำรวจไปทั่ว ถึงจะสงสารแต่นี่เป็นวิธีเดียวที่จะทำให้เขาไม่ต้องเสียเวลา ร่างบางสั่นจากแรงสะอื้น ก่อนจะค่อย ๆ พยุงตัวเองลงจากเตียง มือบางไล่เก็บชุดที่ร่วงเกลื่อนพื้น ธนากรตัดใจเดินหลบไปอีกมุม เมื่อมองเห็นน้ำตาที่ไหลทะลักลงมาบนแก้มสวย ถึงแม้จะสะใจที่ได้แกล้งคนอวดดี แต่น้ำตาที่อาบแก้มนวลกลับทำให้หัวใจชายหนุ่มอ่อนยวบ อารดากลั้นใจก่อนจะใส่เสื้อผ้าอย่างรีบร้อน จำได้ว่าเธอไม่มีอะไรติดตัวมานอกจากกระเป๋าถือที่ใส่ของใช้และเงินจำนวนหนึ่งทุกอย่างยังอยู่ครบ ตากลมโตมองแบงก์สีเทาที่วางซ้อนทับกันอยู่บนหัวเตียงก่อนจะหยิบขึ้นพลิกไปมา รู้สึกเจ็บร้าวที่กลางอก "ค่าตัว" มือบางกำเข้าหากันแน่น ธนบัตรในมือยับผิดรูปก่อนจะโยนกลับไปที่เก่า ไม่รอให้เสียเวลาเธอใช้จังหวะนี้หนีไปให้พ้นจากที่นี่ ถึงแม้จะยังเสียใจและเจ็บปวดกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่โวยวายไปก็เท่านั้นทุกอย่างมันชัดเจนตามที่ผู้ชายคนนั้นบ