ภายในห้องบรรทมอันรโหฐานโอ่อ่ากว้างขวางมีเครื่องเรือนสูงค่ามากมายของเฉินลี่หลินหญิงสาวนั่งอ่านจดหมายที่ถูกส่งมาแบบลับๆ ของพี่ใหญ่ว่าด้วยเรื่องของหลี่ลี่เหมยที่ปลอดภัยดีหากแต่ความจำกลับลบเลือนไปจนสิ้นเฉินลี่หลินยิ้มบางเบาอย่างพึงพอใจกับข่าวที่ได้รับ ถึงแม้ว่าท่านหญิงผู้สูงศักดิ์จะมีสภาพไม่เหมือนเดิม แต่การเริ่มต้นใหม่ของหลี่ลี่เหมยที่เป็นเช่นนี้ย่อมนับว่าดีมากนักลืมเรื่องเก่าแสนเศร้าจำเรื่องใหม่แสนสุข...ในขณะที่หญิงสาวกำลังยกยิ้มพริ้มเพรายามเผากระดาษจดหมายกับเปลวเทียนร้อนแรงจนสิ้นแผ่นสีหมึกเหลือเพียงเศษเถ้าธุลี เสียงทุ้มนุ่มสุขุมพลันดัง “จะบอกความจริงกับข้าได้หรือไม่?”“...!?”ผู้กำลังเผากระดาษจดหมายอย่างอารมณ์ดีถึงกับสะดุ้งตกใจฉีเล่อพาวรกายงามสง่ามาลงนั่งเคียงข้างชายาหนึ่งเดียวของตนก่อนจับแก้มนวลบีบเบาๆ อย่างที่ชอบทำ“โอย...” เฉินลี่หลินถึงกับร้องครวญเจ้าของเรียวมือที่บีบแก้มนางจึงเปลี่ยนมาลูบแก้มนวลของนางอย่างรักใคร่พลางยกยิ้มตรงมุมปากสีแดงมากเสน่ห์ชวนหลงใหลพาใจของอิสตรีให้ถูกล่อลวง “บอกมาได้แล้ว”หญิงสาวย่นจมูกเล็กน้อยแล้วหลอกล่อเขาเพื่อหยั่งเชิงเรียกความเชื่อมั่นให้ศีรษะบนบ่า
ฉีเล่อเอ่ยอธิบาย "ทูลฝ่าบาท เรื่องการตายของลี่เหมยล้วนแล้วแต่เป็นแผนซ้อนแผนพ่ะย่ะค่ะ การที่องค์ชายสามใช้ท่านหญิงเป็นเครื่องมือแทนที่จะใช้แผนการอื่นกับพระองค์ ทั้งยังกระทำการอย่างโจ่งแจ้งที่เสี่ยงมาก ทุกอย่างล้วนแล้วแต่มาจากการโยงใยของพระสนมไป๋"ฉีหย่งเหอถึงกับเลิกคิ้วแล้วถอนหายใจอย่างนึกเสียดายไม่สร่างซา ไป๋ฮวาเป็นสตรีงดงามมาก เนื้อนวลของนางช่างเย้ายวน ลีลาของนางช่างเหลือร้าย นางเป็นสนมที่เขาโปรดปรานเป็นอย่างมากฉีเล่อหรี่ตามองพี่ชายของตนตรงหน้าอย่างรู้ใจรู้ไส้รู้พุงแล้วเอ่ยต่อ "สนมไป๋กับองค์ชายสามแอบรักกันแอบมีความสัมพันธ์อันลึกซึ้ง นางจึงร่วมมือกันวางแผนกับองค์ชายสาม เมื่อตำแหน่งฮองเฮาว่างลงสตรีที่เหมาะสมย่อมต้องเป็นคนจากตระกูลไป๋ และเมื่อพระสนมไป๋ได้เป็นฮองเฮา เมื่อนั้นฝ่าบาทย่อมถูกสั่นคลอน หากล้มฝ่าบาทลงได้ องค์ชายสามย่อมได้บัลลังก์มังกรเคียงคู่กับนาง แต่ในความเป็นจริงแล้ว องค์ชายสามยังมีสตรีอีกหนึ่งนางที่ทำสัญญาใจเคียงข้างยามเมื่อถึงฝั่งฝัน หาใช่พระสนมไป๋ไม่ และสตรีนางนั้นก็ตลบหลังพระสนมไป๋อีกทีหนึ่งพ่ะย่ะค่ะ" ฮ่องเต้พยักพระพักตร์เป็นอันเข้าใจประโยคยาวเหยียดของฉีเล่อที่หมายเต
เวลาผ่านไปไม่นาน ความยิ่งใหญ่แห่งพิธีเถลิงราชสมบัติของฉีหย่งเหอจึงผ่านพ้นไปอย่างราบรื่น คงเหลือเอาไว้เพียงพิธีพระราชทานพระราชอิสริยยศฮองเฮาที่ยังคงถูกทิ้งเอาไว้ให้ร้างหายเงียบงันภายในสุสานหลวงแห่งราชวงศ์ ปรากฏโลงไม้สลักลวดลายทองคำเลอค่า ที่ภายในโลงมีร่างไร้ลมหายใจของสตรีงดงามนางหนึ่ง ที่ดวงตาร้ายกาจของนางถูกปิดผนึกเอาไว้ด้วยเปลือกตาอย่างแนบแน่น ไร้วี่แววว่าจะลืมตาตื่นขึ้นมาอีกต่อไป นางมีริ้วรอยของการถูกทำร้ายเป็นแผลฉกรรจ์ตามร่างกายหลายแห่ง ใบหน้าสวยงามซีดขาว ริมฝีปากที่มักเป็นสีแดงตลอดเวลาบัดนี้กลับซีดเซียวไร้สีสัน ลำคอผ่องผาดมีรอยปาดลากยาวจากคมดาบและลำตัวระหงมีบาดแผลจากการถูกทำร้ายจนฟกช้ำ ความงามของนางถูกลบเลือนไปจนสิ้นนางยังคงอยู่ในอาภรณ์สีเขียวอ่อนปักลายดอกมู่ตานสีชมพูจัดจ้านปิดทับด้วยเสื้อคลุมสีแดงขลิบชายผ้าโดบรอบเป็นสีขาวพองฟู ม้วนผมปักปิ่นทองคำแท้สลักลายฉลุฝังมุกเม็ดงามนี่คือชุดที่นางสั่งตัดเอาไว้นานแล้วเพื่อสวมใส่ในวันครบรอบการตายของบิดามารดา มิคาดว่านางจะสิ้นชีพลงในวันเดียวกันนางนอนตายอย่างเดียวดายบนหุบเขาที่อยู่ไม่ไกลจากต้นดอกกุ้ยฮวาอันเป็นสถานที่ระลึกถึงบิดามารดาของนา
เมื่อศัตรูมีมากกว่าหนึ่ง กลุ่มแรกจึงเข้าจัดการกับองครักษ์ กลุ่มที่สองจึงเข้าจัดการกับพวกบ่าวไพร่ คงเหลือไว้เพียงยอดฝีมือหนึ่งคนที่เดินแบบย่างสามขุมเข้าหาหลี่ลี่เหมยคนผู้นี้เป็นหัวหน้ากลุ่มชายชุดดำอย่างไม่ต้องสงสัยหญิงสาวถึงกับสะดุ้งตาโตทันใด เมื่อมองเห็นบุคคลที่เดินใกล้เข้ามาอย่างชัดเจนหากนางจำไม่ผิด บุรุษชุดดำผู้นี้คือลู่กังพี่ชายของลู่ชิงที่เป็นอดีตสหายของนาง ถึงแม้ว่าเขาจะปิดหน้าครึ่งล่างเห็นเพียงดวงตา แต่สายตาของเขาที่เหมือนลู่ชิงอยู่หลายส่วนเนื่องจากเป็นพี่น้องในอุทรเดียวกันและรอยแผลเป็นรูปสามแฉกบนหน้าผาก นางย่อมจำได้พวกเขาบ้าไปแล้วหรือไร? ไยต้องทำอย่างนี้?ต่อให้นางตายไป ลู่ชิงไม่มีทางได้เป็นฮองเฮา ไม่ว่ากรณีใดๆ เพราะว่าฐานะของตระกูลลู่ไม่มีทางถูกเลือกอา...คงมีคนยืมดาบฆ่าคน คงมีใครแอบหว่านล้อมเป่าหูลู่ชิงเป็นแน่ หรือบางทีคนที่ถูกหลอกล่อคงไม่พ้นสมาชิกตระกูลลู่ให้ตายเถอะ!เจ้าพวกโง่งมสิ้นคิด!หลี่ลี่เหมยประเมินเหตุการณ์ตรงหน้าได้ในใจพลางสบถก่นด่าแบบไร้เสียง นางทำได้เพียงค่อยๆ ก้าวเท้าถอยหลังเมื่อบุรุษชุดดำค่อยๆ ก้าวเท้าเดินเข้ามา มันผู้นี้เดินเข้าหานางเยี่ยงมัจจุราชกระนั้น
แต่ทว่า...ตั้งแต่นางมาอยู่ในวังของเขาด้วยฐานะของว่าที่ชายาเอกที่เพียงรอพิธีเข้าหอหลังจากไว้ทุกข์ให้ครบสามปีภาพของเขาที่นางได้เห็นตั้งแต่ครั้งแรกที่นางเข้ามา คือเขามีสตรีรับใช้อุ่นเตียงอยู่แล้วหลายนาง ทั้งที่เป็นเพียงนางกำนัลข้างกายและอนุชายา ความรู้สึกเจ็บลึกระหว่างการเป็นชายาเอกแล้วสามีแต่งอนุชายาเข้ามาในภายหลัง กับการที่สามีมีอนุชายาอยู่แล้ว และแต่งนางเป็นชายาเอกเข้ามาทีหลัง มันไม่ต่างกันสักเสี้ยวมันเจ็บลึกเจ็บหน่วงพอกัน ภาพของเขาที่แนบชิดคลอเคลียกับสตรีงดงามหลากหลาย ภาพที่เขายืนยิ้มหัวร่อต่อกระซิกกับสตรีทุกนางอย่างเที่ยงธรรม เสียงครางครวญยามที่เขาทำรักกับสตรีแต่ละนางทุกค่ำคืนบุรุษหนึ่งเดียวผู้เป็นว่าที่สามีของนาง เขาช่างเป็นบุรุษเหนือบุรุษ เหมาะสมยิ่งนักกับการเป็นบุรุษมากภรรยา เจ้าเหนือหัวผู้ครองวังหน้าและวังหลัง เดิมทีนางทำใจยอมรับว่านางชอบเขา แต่ว่านานไปมันจึงกลายเป็นความรักที่เจ็บปวด ความรักเป็นสิ่งที่โง่งม มายาพวกนั้นช่างบังตานางไม่ควรรักเขา เพราะว่าเขาเองก็ไม่ควรรักนางและทุกอย่างคือหน้าที่ มันเป็นเพียงหน้าที่... เขาย่อมต้องรักสตรีทุกนาง หรือไม่ก็ไม่ควรรักใคร น
ตรงริมหน้าผาสูงชันบนยอดเขาของภูผางดงามบรรยากาศร่มรื่นมีต้นไม้เขียวขจีและมวลบุปผาบานสะพรั่งอันเป็นสถานที่สำคัญของหลี่ลี่เหมยหญิงสาวในอาภรณ์สีเขียวอ่อนปักลายดอกมู่ตานสีชมพูจัดจ้านปิดทับด้วยเสื้อคลุมสีแดงขลิบชายผ้าโดบรอบเป็นสีขาวพองฟูแลดูงดงามสูงส่งเนื่องด้วยนางสั่งตัดชุดนี้เป็นพิเศษจากเนื้อผ้าในแบบเฉพาะส่งตรงมาจากเมืองทางตอนใต้ของเป่ยฉีอันเป็นฝีมือของสาวใช้เก่าแก่ของมารดาที่ยังคงอาศัยอยู่ที่นั่นนางม้วนผมทรงสูงงดงามเป็นทรงเฉพาะที่มารดาชื่นชอบพร้อมปักปิ่นทองคำแท้สลักลายฉลุฝังมุกเม็ดงามที่ถูกจัดทำขึ้นอย่างวิจิตรบรรจงสมัยบิดามารดายังมีชีวิตอยู่นางยืนอย่างงามสง่านิ่งงันปล่อยชายกระโปรงพริ้วสะบัดไปตามสายลมแลดูน่าชมจนเกิดเป็นภาพดั่งนางสวรรค์จำแลงแปลงกายลงมาเยือนพื้นดิน หญิงสาวกำลังยืนทอดอารมณ์อยู่ใต้ต้นดอกกุ้ยฮวาอันเป็นต้นไม้ใหญ่ฉายาหอมหมื่นลี้บนหุบเขาสูงชันแห่งนี้ ต้นของดอกกุ้ยฮวาที่สูงตระหง่านต้นนี้ ยืนต้านลมโชยที่โบกสะบัดอย่างโดดเด่นเป็นสง่าไม่เคยสร่างซาหลี่ลี่เหมยมักจะมายังสถานที่แห่งนี้กับบิดามารดาเมื่อครั้งยังเยาว์วัยยามเมื่อเป็นเด็กตัวเล็กมากนัก เพราะว่าที่นี่เป็นสถานที่แห่งความ