มือหนาเชยคางของหญิงสาวให้เงยขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกันกับเขา ไช่อิงเหวินบรรจงจูบ วาบหวานให้มิรินก่อนจะค่อยๆ เลื่อนมือต่ำลงมาปลดกระดุมเสื้อของเธอออกเผยให้เห็นผิวขาวเนียน และชุดชั้นในสีขาวลายลูกไม้ ชายหนุ่มบรรจงถอดมันออกอย่างเบามือเล่นเอามิรินใบหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย "อย่าเอาแต่จ้องสิ" ไช่อิงเหวินได้สติกลับมาอีกครั้ง แขนแกร่งดันให้หญิงสาวนอนราบไปกับโซฟานุ่ม ร่างสูงโน้มหน้ามาพรมจูบทั่วหน้าอกอันอวบอิ่ม ของหญิงสาวพร้อมกับค่อยๆ ลากลิ้นร้อนไปทั่วยอดเนินอกสีชมพูของเธอจนมันเปียกชุ่มไปด้วยน้ำลายสีใสของเขา ริมฝีปากนั้นทั้งขบเม้ม และดูดดึงมันจนเกิดเป็นรอยแดง ดูภายนอกอาจจะรู้สึกเจ็บแทนแต่ทว่ามิรินกลับครางออกมาเบาๆ ในลำคอ "อ๊าา..อืม" เสียงครางอันไพเราะที่เผลอออกมา ทำให้ชายหนุ่มยิ้มอย่างพึงพอใจ มือหนาเลื่อนลงมาถอดกระโปรงของมิรินออกซึ่งเธอก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการขยับตัวให้ถอดออกอย่างง่ายดาย ณ ตอนนี้ร่างกายของหญิงสาวก็เปลือยเปล่าไร้สิ่งใดปกปิดความงดงามที่ซ่อนไว้อีกต่อไป ไช่อิงเหวิน จึงไม่รีรอที่จะถอดเสื้อผ้าทั้งหมดของตัวเองออกเช่นกัน นัยน์ตาของหญิงสาวกวาดสายตามองตั้งแต่ใบหน้าหล่อ ลงมายังมัดกล้ามหน้าท้องที่เรียงตัวกันอย่างสวยงาม แต่เมื่อมองต่ำลงมาอีกเธอก็ต้องเบือนหน้าหนีออกไปอีกทางในทันทีด้วยความเขินอาย "เป็นอะไรไป" ไช่อิงเหวินแกล้งถามทั้งๆ ที่ในใจก็พอเดาออก ใบหน้าหล่อเลื่อนต่ำลงมาที่ระหว่างขาของหญิงสาวพร้อมใช้มือทั้งสองข้างแยกเรียวขาขาวออกจนเป็นรูปตัวเอ็ม ลิ้นร้อนลากผ่านจุดกระสันอยู่หลายครั้งจนมิรินครางออกมาอย่างลืมตัว ร่างสูงสอดใส่ลิ้นสากของตนเข้าไปในรูรักของหญิงสาวอย่างไม่รังเกียจ เขาพยายามขยายช่องรักของหญิงสาวให้สามารถรับแก่นกายของเขาเข้าไปได้อย่างไม่เจ็บมากนัก "ที่รัก..ชะ..ช้าลงหน่อย" "ที่รักเหรอ ชอบคำนี้จัง" เสียงหวานเอ่ยขอร้องเมื่อรับรู้ได้ถึงความรู้สึกแปลกใหม่ แต่ไช่อิงเหวิน กลับกระดกรัวลิ้นเร็วขึ้นจนร่างบางเกร็งกระตุกเสร็จสมไปในที่สุด ชายหนุ่มปล่อยให้เธอได้นอนพักเหนื่อยครู่หนึ่งในขณะที่ตัวเองก็ล้วงไปหยิบของบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกงของตนเอง เขาแกะซองมันออก และบรรจงสวมสิ่งนั้นใส่แท่งเอ็นร้อนที่ตั้งผงาดได้ที่ของตนเอง ก่อนจะกลับมา ขึ้นคร่อมมิรินอีกครั้ง มือหนายกขาเรียวข้างหนึ่งมาพาดบ่าตนเองเอาไว้พร้อมกับจ่อแก่นกายของตนเตรียมเข้าถ้ำรักของหญิงสาว เอวสอบค่อยๆ ดันเข้าไปอย่างช้าๆ แต่เมื่อเข้าไปได้เพียงครึ่งลำเสียงหวานก็ร้องห้ามออกมาด้วยความเจ็บปวด ไช่อิงเหวินทำได้เพียงกอดจูบเพื่อปลอบโยนให้เธอคลายความเจ็บลง ท่อนล่างถูกแช่คาเอาไว้เพื่อรอให้เธอปรับตัวกับมันได้ ร่างสูงเปลี่ยนมาบีบนวดหน้าอกเต่งตึงเพื่อให้คนใต้ร่างหายเกร็งแทน "เจ็บหน่อยนะที่รัก" "อะ..อะ..อืม" เธอพยักตอบอย่างเขินอาย ใบหน้าหล่อโน้มลงมาจูบซับน้ำตาที่ไหลอาบแก้มของหญิงสาวอย่างอ่อนโยนพร้อมกับค่อยๆ ดันเอวสอบเข้ามาอย่างช้าๆ จนตอนนี้แก่นกายของเขาได้เข้ามาอยู่ในร่างกายของเธอเป็นที่เรียบร้อย ไช่อิงเหวินเริ่มขยับเข้าจังหวะอีกครั้ง ทุกการกระทำของเขาอ่อนโยนเสมอเพราะเขารู้ดีว่านี้เป็นครั้งแรกของมิริน และเขาเองก็อยากจะทำให้ครั้งแรกของเธอเป็นที่น่าจดจำไม่ใช่ความทรงจำที่น่ากลัว ร่างแกร่งสัมผัสได้ถึงความคับแคบของโซฟาตัวนี้ เขาไม่สามารถทำกิจกรรมรักนี้ได้อย่างถนัดสักเท่าไหร่ แขนแกร่งจึงอุ้มร่างบาง มาอุ้มแนบอกกว้างในท่าลิงอุ้มแตง เขาพาเธอเดินขึ้นมายังชั้นสองของบ้าน แต่ระหว่างทางก็ทำหญิงสาวเสร็จไปถึงสองรอบ ด้วยความที่ว่าระหว่างการเดินเอวสอบของชายหนุ่มก็ไม่ได้หยุดขยับไปด้วย เสียงครางหวานร้องออกมาด้วยความเสียวซ่านดังอยู่ข้างหูของชายหนุ่ม ยิ่งทำให้เขาอยากแกล้งเธอเข้าไปอีก กว่าทั้งสองจะมาถึงห้องนอนมิริน แทบจะหมดแรง แขนแกร่งค่อยๆ วางเธอลงบนเตียงนุ่มก่อนจะเริ่มเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นกว่าเดิมหลังจากที่เขาออมแรงเอาไว้นาน มือเรียวสวยของหญิงสาวจิกกำผ้าปูที่นอนจนยับยู่ยี่อย่างไม่รู้ตัว ส่วนชายหนุ่มนั้นก็โน้มหน้าลงมาดูดเลียหน้าอกของเธออย่างหยอกล้อเมื่อได้ยินเสียงครางกระเส่าดังขึ้น ดีที่ว่าบ้านหลังนี้มีเพียงตนเท่านั้น ที่อาศัยอยู่เพียงลำพัง ใช้เวลาไม่นานเฉิงก็เสร็จสมเป็นที่เรียบร้อย น้ำรักสีขาวขุ่นถูกปลดปล่อยออกมาจนเต็มถุงยาง เขาดึงมันออก และปล่อยให้ร่างบางได้นอนพักอย่างเต็มที่ แต่กลับต้องแปลกใจเมื่อครั้งนี้เธอเป็นฝ่ายลุกเขาเสียเอง หลังแกร่งถูกดันให้นั่งพิงกับหัวเตียง มิรินนอนราบระหว่างขาของเขา มือบางชักรูดแท่งเอ็นของชายหนุ่มเพื่อปลุกให้มันตั้งขึ้นอีกครั้ง ลิ้นร้อนของหญิงสาวค่อยๆ ไล้เลียจากส่วนหัวลงมาจนถึงสองลูกกลมๆ เธอดูดเลียราวกับไอติมก่อนจะค่อยๆ ใช้ปากเล็ก อมแท่งไอติมนั้นอย่างช้าๆ จนสุดลำ ศีรษะของหญิงสาวค่อยๆ รูดขึ้นลงอย่างต่อเนื่อง ด้วยที่ว่าเป็นครั้งแรกจึงเก้ๆ กังๆ แต่ก็สร้างความเสียวให้ชายหนุ่มได้ไม่น้อย เมื่อไช่อิงเหวิน รู้สึกได้ว่าตัวเองใกล้จะเสร็จสม แล้วจึงเผลอใช้มือแกร่งของตนบังคับศีรษะของมิรินอย่างลืมตัว ไม่นานนักน้ำรักสีขาวขุ่นก็ถูกปลดปล่อยออกมาจนเต็มปากของเธอ มิรินกลืนของเหลวอุ่นนั้นเข้าไปจนหมด แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ไหลออกมาอยู่ที่ลำคอของเธอ มือหนาจึงยกขึ้นมาเช็ดให้อย่างอ่อนโยน ก่อนเอนกายตั้งศีรษะลงนอนบนแขนแกร่ง อย่างหมดเรี่ยวแรง ยังดีที่เธอเคยอ่านการ์ตูนสิบแปดบวกมาบ้าง เลยพอรู้ว่าการแสดงบทรักบนเตียงมันเป็นเช่นไร ผ้าห่มปิดคลุมร่างเปลืองเปล่าของคนทั้งคู่ ไช่อิงเหวินโอบกอดเธอไว้อย่างนุ่มนวล มันช่างอบอุ่นทั้งกายและใจเหลือเกิน "ผมรักคุณ" "......." "มิรินคุณยังไม่ได้ตอบ...อ่าว" ไช่อิงเหวิน มองคนรักที่หลับไปด้วยความอ่อนเพลีย ชายหนุ่มยิ้มกริ่มออกมา เอ็นดูคนในอ้อมแขน ที่หลับปุ๋ยราวกับเด็กน้อย เขาจะรับผิดชอบเธอคนนี้ไปตลอดชีวิต เพราะเธอคือลมหายใจของเขา
นับจากวันนั้น เฉิงไม่เคยปรากฏตัวในคาบเรียนอีกเลย แม้ว่า ไช่อิงเหวิน เจียอี และมิริน จะวีแชทหาเขาก็ไร้ซึ่งการตอบกลับมา ทุกอย่างมืดแปดด้าน เพราะพวกเขากังวลว่า เฉิงจะคิดทำร้ายตนเอง ตลอดชีวิตของเฉิง หากตนได้หมายปองหญิงสาวแล้ว ไม่เคยผิดหวังเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่ครั้งนี้เขาจริงจังกับมิรินถึงขั้นวาดฝันเรื่องแต่งงานไว้ล่วงหน้า แม้จะดูเหมือนเป็นคนเจ้าชู้ แต่ไช่อิงเหวินรู้ดีว่าเพื่อนตนไร้เดียงสากว่าภาพลักษณ์ ถึงจะคบหาหญิงสาวมากมายแต่ก็ไม่เคยล่วงเกินพวกเธอเลย ไช่อิงเหวิน และมิริน ยืนอยู่หน้าห้องหมายเลข 609 ที่เต็มไปด้วยกล่องพัสดุมากมายวางไว้ บ่งบอกว่าห้องนี้ไร้ผู้อาศัยมานานแล้ว 'ก๊อก ก๊อก ก๊อก'"เฉิง เฉิง นายอยู่หรือเปล่า ฉันไช่อิงเหวิน เปิดประตูหน่อย""ดูจากของพวกนี้แล้ว เขาไม่อยู่ที่นี่นานแล้วค่ะ" มิรินกุมมือเขาไว้เพื่อปลอบโยน ทำให้ไช่อิงเหวิน คลายความกังวลเล็กน้อย "ยังมีอีกที่หนึ่ง ผมว่าเฉิงน่าจะอยู่ที่นั่น!" แววตาดูจริงจังของไช่อิงเหวิน ทำให้มิรินพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย แม้ภายในใจจะแอบคิดว่าตนเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เฉิงเป็นแบบนี้ เมื่อนึกย้อนไปก่อนหน้านั้น เฉิงยิ้มร่าพร้อมดอกไม้ช่อใหญ่
กริ๊ง กริ๊ง เสียงออดหน้าห้องดังขึ้น ผู้เป็นแม่รีบวางมือจากโต๊ะอาหาร มุ่งตรงไปเปิดประตูด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ชุดสวย ลายดอกไม้สีชมพู ที่แม่เคยซื้อเก็บไว้ แถมยังพกติดตัวไปทุกที่ ราวกับเป็นของสำคัญที่ขาดไม่ได้ ในที่สุดก็ได้สวมใส่ดั่งใจหวัง"สวัสดีค่ะ ฉันเฟยหรง แม่ไช่อิงเหวิน ขอโทษที่ให้รอนานนะคะ" น้ำเสียงนุ่มนวลกล่าวทักทายสตรีเบื้องหน้าตน ที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน "ไม่เลยค่ะ คุณสวยจังเลย" แม่ฉันยิ่งปลื้มใจในความสวยเป็นธรรมชาติของเธอ "คุณก็สวยมากค่ะ" เธอตอบแก้เขิน ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ราวกับเป็นเด็กสาว"เชิญคะๆ เราเตรียมอาหารดีๆ ไว้ต้อนรับคุณโดยเฉพาะ""เอ๊ะ! ขอบคุณมาก ฉันเองก็เตรียมราเม็งรสเด็ดของร้านมาให้ลองทานด้วยเหมือนกัน " เธอยิ้มสวยวางกล่องราเม็งร้อนๆ ที่ห่อหุ้มด้วยผ้าสีสันสดใสลงบนโต๊ะอาหารอย่างประณีต ไช่อิงเหวินดึงเก้าอี้ออกเพื่อให้แม่นั่งใกล้ตน เฟยหรงเหลือบมองลูกชายด้วยความรู้สึกปลื้มใจ บทสนทนาเริ่มขึ้น ทุกอย่างดำเนินไปอย่างเรียบง่าย ค่ำคืนนี้มีเพียงเสียงหัวเราะของพวกเขาดังก้องไปทั่ว ไช่อิงเหวินจ้องมองมิรินยิ้มแก้มปริ อย่างสุขสมใจปรารถนา แต่แววตาเขาดูกังวลขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพราะก
ความเงียบนั้นหนาวสะท้านไปทั้งตัว คนทั้งคู่นั่งคุกเข่าอย่างสงบนิ่ง ต่อหน้าก้องภพ และหลิน ที่จ้องดูคนทั้งคู่ด้วยความรู้สึกมากมายที่อยากจะพรรณนาออกมาเป็นคำพูดได้ โดยเฉพาะก้องภพที่รู้สึกผิดหวังกับลูกสาว แม้ว่าการคบหาดูใจกันนั้นเป็นเรื่องธรรมดาของหนุ่มสาวสมัยนี้ แต่สำหรับตนผู้ที่กังวลใจว่าผู้ชายแปลกหน้าคนนี้ ไม่รู้หัวนอนปลายเท้าของเขาเป็นอย่างไร ถึงเข้ามาในชีวิตลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของตนเองได้ หรือว่ามีจุดประสงค์อื่นแอบแฝง หากเป็นเช่นนั้น ผู้นำครอบครัวเช่นเขา ไม่มีทางให้เกิดเหตุร้ายขึ้นกับลูกๆ เป็นแน่ "นาย..." เสียงทุ้มใหญ่ทำให้ชายหนุ่มขยับตัวเล็กอย่างนอบน้อมถ่อมตน"ชื่อไช่อิงเหวิน ครับ" ความสงบนิ่งอย่างใจเย็นของชายหนุ่ม ทำให้ผู้เป็นพ่อลังเลเล็กน้อย "ตามฉันมา""พ่อค่ะ!""เงียบ..คุยกับแม่ไป เรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่างลูกผู้ชาย" สีหน้าและท่าทางที่จริงจังของพ่อ มิรินส่งแววตาเว้าวอนให้พ่อเมตตาไช่อิงเหวิน สักนิด"แม่ไม่ติดขัดอะไรหรอกนะ! แค่ความหล่อเหลาของเขาก็ชนะใจแม่แล้ว อิอิ""แม่!!" มิรินโอบกอดแม่อย่างสุขใจ คลายความกังวลลงไปอีกขั้นหนึ่ง หลินเองก็เบื่อการปั้นหน้าเมื่ออยู่ต่อหน้าสามี เธอยิ้
ไช่อิงเหวินมีแผนว่าจะพาฉันนั่งกระเช้าคริสทัลชมวิวไร่ชาที่เมาคง เราทั้งคู่เดินทางด้วยรถไฟใช้เวลานานมากจนพลบค่ำ กว่าจะถึงที่หมาย จึงต้องหาที่พักเพื่อค้างคืนกันเสียก่อน เพื่อภารกิจในวันใหม่อีกครั้ง ทุกอย่างเหมือนฝัน ฉันแทบจะเป็นเจ้าหญิงของเขา ทุกเรื่องราวของฉันอยู่ในสายตาเขาตลอดเวลา ช่างมีความสุขเหลือเกิน กริ๊ง...กริ๊ง...กริ๊งเสียงนาฬิกาปลุกมือถือดังขึ้น ตอนเจ็ดโมงเช้า พบว่าไช่อิงเหวินนั่งอ่านหนังสือตรงระเบียงห้องพักสีหน้าที่ดูจริงจัง มาพร้อมความหล่อเหลาสงบสุขุมราวกับสายน้ำ ดูมีเสน่ห์มากมายจนฉันแอบสงสัยไม่ได้ว่า เขาคนนี้คือ ผู้ชายของฉันจริงๆ "มองแบบนี้.. ผมขึ้นเตียงอีกครั้งดีไหม" แม้น้ำเสียงจะดูเรียบเฉย แต่นัยน์ตาที่เปล่งประกายฉายความต้องการ ทำเอาฉันเก็บทรงไม่อยู่จนได้ "เอ๊ะ! สายแล้ว"ฉันรีบลุกจากที่นอน อาบน้ำ และจัดธุระส่วนตัวเหมือนที่เคยทำ จะว่าไปตั้งแต่ครั้งนั้นเขาก็ไม่เคยล่วงเกินฉันอีกเลย คงเป็นเพราะเหนื่อยล้าจากการทำงานวิจัย อย่างน้อยไช่อิงเหวินก็ค่อยสนับสนุนฉันในเรื่องที่ฉันต้องการ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยเรามุ่งตรงไปตามเส้นทางที่มีผู้คนพลุกพล่าน เพราะเป็นตลาดนัดในไทเป รวบร
มือหนาเชยคางของหญิงสาวให้เงยขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกันกับเขา ไช่อิงเหวินบรรจงจูบ วาบหวานให้มิรินก่อนจะค่อยๆ เลื่อนมือต่ำลงมาปลดกระดุมเสื้อของเธอออกเผยให้เห็นผิวขาวเนียน และชุดชั้นในสีขาวลายลูกไม้ ชายหนุ่มบรรจงถอดมันออกอย่างเบามือเล่นเอามิรินใบหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย"อย่าเอาแต่จ้องสิ"ไช่อิงเหวินได้สติกลับมาอีกครั้ง แขนแกร่งดันให้หญิงสาวนอนราบไปกับโซฟานุ่ม ร่างสูงโน้มหน้ามาพรมจูบทั่วหน้าอกอันอวบอิ่ม ของหญิงสาวพร้อมกับค่อยๆ ลากลิ้นร้อนไปทั่วยอดเนินอกสีชมพูของเธอจนมันเปียกชุ่มไปด้วยน้ำลายสีใสของเขา ริมฝีปากนั้นทั้งขบเม้ม และดูดดึงมันจนเกิดเป็นรอยแดง ดูภายนอกอาจจะรู้สึกเจ็บแทนแต่ทว่ามิรินกลับครางออกมาเบาๆ ในลำคอ"อ๊าา..อืม" เสียงครางอันไพเราะที่เผลอออกมา ทำให้ชายหนุ่มยิ้มอย่างพึงพอใจมือหนาเลื่อนลงมาถอดกระโปรงของมิรินออกซึ่งเธอก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการขยับตัวให้ถอดออกอย่างง่ายดาย ณ ตอนนี้ร่างกายของหญิงสาวก็เปลือยเปล่าไร้สิ่งใดปกปิดความงดงามที่ซ่อนไว้อีกต่อไป ไช่อิงเหวิน จึงไม่รีรอที่จะถอดเสื้อผ้าทั้งหมดของตัวเองออกเช่นกัน นัยน์ตาของหญิงสาวกวาดสายตามองตั้งแต่ใบหน้าหล่อ
วันเวลาผ่านไปครั้งแล้วครั้งเล่า ทุกอย่างเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ไม่มีอะไรยั่งยืน แม้กระทั้งดอกเหมยฮวาที่ร่วงโรยจนหมดต้น มีพียงกิ่งก้านให้ดูต่างหน้า ยืนอย่างมั่นคง เพื่อรอใบและดอกเบ่งบานงดงามอีกครั้ง เหมือนเขาที่ยังหาข้ออ้างไปรับไปส่งมิรินเหมือนทุกครั้ง มีบ้างครั้งที่มีของติดไม้ติดมือมาให้เธอ มีเพียงหญิงสาวที่เข้าใจว่าทุกอย่างที่เขาทำให้เธอ เป็นหน้าที่ของเพื่อนที่ดีต่อกันเท่านั้น เกิดขึ้นได้อย่างไรนะเหรอ คงเป็นครั้งนั้นเมื่อไช่อิงเหวินไม่รู้ที่อยู่ห้องพักของเธอ เพียงเพราะไม่ยอมปลุกให้ตื่น ตรงกันข้ามกับวนรถจักรยายคู่ใจจนรุ่งสาง เพียงเพื่อให้เธอได้นอนหลับสบาย แม้ตนจะเหนื่อยล้าเพียงใดก็ตาม "เย้! สุดท้ายก็เสร็จเรียบร้อย" เจียอีเอนกายพิงเก้าอี้อย่างผ่อนคลาย"ต้องฉลองสักหน่อย" เฉินยิ้มกว้างอย่างสุขใจ ดวงตามองมิรินอย่างอ่อนโยน แม้ตนจะรู้ว่าไช่อิงเหวินคิดอย่างไรกับมิริน แต่เขาก็อยากลงสนามนั้นดูสักตั้ง เพราะมิรินยังไม่ได้เป็นอะไรกับไช่อิงเหวิน เขายังคงมีสิทธิ์ ก่อนจะปิดภาคเรียนลง "ไช่อิงเหวิน เราไปสูดอากาศกันหน่อยไหม!" "อืม.." แม้รู้ว่าเฉิงต้องการอะไรจากเขา ชายหนุ่มมองหน้าหญิงสาวเพียงหวังให้เธอ