ตอนที่ 4 หนีตาม
หลังจากนั้นไม่กี่วันต่อมา คิมหันต์ได้ให้คนของตนส่งฤกษ์แต่งงานที่จะจัดขึ้นในอีก 3 เดือนข้างหน้ามายังคฤหาสน์เกษมมนตรี
กุลนารีมีท่าทีร้อนรนอย่างเห็นได้ชัด เธอเริ่มลังเลกับการตัดสินใจที่เผลอพลั้งปากออกไป หญิงสาวเดินวนไปวนมาอยู่กับความคิดที่ยังคงไม่มีทางออกที่ดีนักสำหรับตนเอง
ในขณะที่คุณอัศวินและคุณมาลาต่างก็กลุ้มอกกลุ้มใจไม่แพ้กัน หากต้องให้ลูกสาวไปแต่งงานกับผู้ชายที่เธอไม่รัก ชีวิตนี้เธอคงหาความสุขได้ยากยิ่ง หัวอกคนเป็นพ่อแม่จะทนเห็นลูกสาวต้องเดือดร้อนเพราะตนเองได้อย่างไรกัน
“ลูกแม่ มาทานข้าวก่อนเถอะ แล้วเราค่อยมาคิดหาทางออกกันอีกที” คุณมาลากล่าวเรียกหญิงสาวที่ยังคงเดินวนไปมาจนน่าเวียนหัว
ป้าพริกที่จัดเตรียมสำรับอาหารที่หญิงสาวถูกปากไว้อย่างมากมายหวังให้นายหญิงของตนเจริญอาหารได้บ้าง
“แม่คะ แอ้ควรทำอย่างไรดี แอ้ไม่อยากแต่งงาน แอ้รักเข็มทิศ แอ้ไม่อยากให้เข็มทิศต้องผิดหวัง” หญิงสาวระบายความอัดอั้นออกมา
“พ่อผิดเองลูก พ่อไม่น่าทำให้ครอบครัวเราต้องเดือดร้อนเลย ถ้าลูกไม่อยากแต่ง พ่อกับแม่จะไม่บังคับ เราลองไปเริ่มต้นใหม่กันอีกครั้งก็ได้” คุณอัศวินกล่าวเสียงเศร้า
กุลนารีได้ฟังยิ่งทอดถอนใจ หญิงสาวเดินเข้าไปโอบกอดคุณอัศวินอย่างปลอบโยน
“พ่ออย่าโทษตัวเองสิคะ แอ้ไม่มีทางให้พ่อแม่ต้องลำบากหรอก” กุลนารีกล่าวเพื่อให้ทั้งสองสบายใจ แต่สีหน้าและแววตากลับหม่นหมองอย่างยิ่ง
บ่ายวันดังกล่าว เข็มทิศได้มาหากุลนารีที่บ้าน ชายหนุ่มหายหน้าไปหลายวันรู้สึกเป็นห่วงหญิงสาวอย่างยิ่ง แต่ด้วยงานที่จำเป็นต้องเดินทางไปต่างจังหวัดด่วน อีกทั้งพื้นที่ที่ไปยังอับสัญญาณโทรศัพท์ทำให้เขาไม่ได้แม้แต่จะล่ำลาเธอ
“แอ้ ผมคิดถึงคุณมากนะ คุณเป็นอย่างไรบ้าง” ชายหนุ่มรีบกอบกุมมือหญิงสาวทันทีที่พบหน้า
“เอ่อ...แอ้ดีขึ้นแล้ว ทำไมเข็มทิศหายไปตั้งหลายวัน แอ้ใจคอไม่ดีเลย” กุลนารีกล่าวอย่างตัดพ้อออกมาก
“ผมมีงานด่วนจริง ๆ แอ้ อย่าโกรธผมเลยนะ” ชายหนุ่มรีบแก้ตัวทันที
“ช่างมันเถอะค่ะ แอ้มีเรื่องต้องบอกคุณ” กุลนารีเอ่ยปากอย่างลำบากใจ หญิงสาวชั่งใจอยู่นานก็จะเอ่ยออกมา
“แอ้จำเป็นต้องแต่งงานกับคุณคิมหันต์ เพื่อรักษาบ้านหลังนี้ และเพื่อพ่อแม่แอ้ เข็มทิศ....คุณ...” หญิงสาวหยุดเอ่ย
“ผมไม่ยอมนะ ทำไมคุณต้องแต่งงานกับเขา เรารักกันนะแอ้ ถึงแม้ผมจะไม่ได้ร่ำรวย แต่ผมจะดูแลคุณอย่างดี” ชายหนุ่มประท้วงทันที
“แล้วพ่อแม่แอ้ละคะ พวกท่านอายุมากแล้ว จะทนลำบากได้อย่างไร ไหนจะป้าพริกอีก จะให้แอ้และครอบครัวเป็นภาระคุณคนเดียว แอ้จะยอมได้อย่างไรกัน แอ้เอาเปรียบคุณขนาดนั้นไม่ได้หรอก” หญิงสาวแย้งออกมา
“เอ่อ...ผม...” เข็มทิศหมดคำพูด เขารู้ดีว่าฐานะอย่างเขาจะเลี้ยงดูทั้งครอบครัวคงเป็นการยากพอสมควร
“มันต้องมีทางสิแอ้ มันต้องมีทาง” ชายหนุ่มเพ้อออกมาทั้งที่หมดหนทาง
ระหว่างนั้น คุณอัศวินและคุณมาลาที่ได้ยินทั้งสองพูดคุยกันต่างมองหน้าอย่างขมขื่น ภาพลูกสาวตัวน้อยที่ยอมกรีดข้อมือหนีปัญหาทั้งหลายยังคงติดตรึงอยู่ในหัวใจทั้งคู่
“ลูกทั้งสองหนีไปเถอะ พ่อกับแม่ดูแลตัวเองได้ไม่ต้องห่วงหรอก” คุณอัศวินตัดสินใจโพล่งขึ้นมา พวกเขาทั้งคู่แก่มากแล้ว จะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้ แต่กุลนารีนั้นยังเด็กนัก หากต้องเอาความสุขทั้งชีวิตมาทิ้งไว้เพื่อพวกเขา มันคงไม่ยุติธรรมสักเท่าไหร่
“คุณพ่อ”
“พ่อคะ” ทั้งคู่อุทานขึ้นมาพร้อม ๆ กัน
“พ่อพูดจากใจจริงนะลูก ถ้าลูกทั้งสองรักกัน รีบหนีไปเถอะ หนีไปให้ไกลจากคุณคิมหันต์ เขามีอิทธิพลมาก ถ้าหากเขารู้เรื่องเข้าคงไม่ยอมปล่อยลูกทั้งสองแน่ ๆ” คุณอัศวินเตือน ชายแก่รู้ดีว่านิสัยอย่างคิมหันต์ ไม่มีวันยอมเสียเหลี่ยมใครแน่ ๆ และเขาจะไม่หยุดหากไม่ได้สิ่งที่หวังไว้
คุณมาลาเดินเข้ามากอบกุมมือทั้งสองไว้แน่น น้ำตาเอ่อล้นออกมาจากดวงตา
“แม่ขอให้ลูกทั้งสองมีความสุขนะ เข็มทิศฝากดูแลยายหนูแทนพวกเราด้วย ไม่ต้องห่วงทางนี้ ยังไงเราสองคนจะรับหน้าคุณคิมหันต์เอง” คุณมาลาเอ่ยอวยพรเป็นครั้งสุดท้าย เธอทำใจไว้แล้วว่าคงยากที่จะได้พบเจอลูกสาวสุดที่รักของเธออีกครั้ง
ป้าพริกที่ได้ยินรีบวิ่งไปจัดแจงกระเป๋าเดินทางให้หญิงสาวทันที เธอจัดเตรียมเสื้อผ้าต่าง ๆ พร้อมทั้งข้าวของที่จำเป็นรวมถึงเครื่องประดับมีราคาที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ก่อนจะรีบลุกไปหยิบซองเงินเก็บที่เธอมี สอดไว้ในเสื้อผ้าหญิงสาว หวังให้เป็นทุนรอนสำหรับเธอ ป้าพริกเป็นคนเก่าคนแก่ที่นี่ เห็นหญิงสาวมาแต่อ้อนแต่ออก รักใคร่ดูแลเธอดุจดั้งลูกหลานก็ไม่ปาน
หลังจากเก็บข้าวของเสร็จ ป้าพริกรีบยกกระเป๋ามาให้กุลนารี
“ป้าเก็บข้าวของที่จำเป็นให้คุณหนูแล้ว ต่อไปคุณหนูต้องดูแลตัวเองดี ๆ นะคะ คุณหนูไม่ต้องห่วงคุณท่านทั้งสอง ป้าพริกจะดูแลพวกท่านให้เอง” ป้าพริกกล่าวน้ำตาคลอ
กุลนารีสวมกอดป้าพริกแน่น ก่อนจะหันไปสวมกอดพ่อแม่ของเธอ น้ำตาหญิงสาวไหลรินไม่หยุด
“แอ้...แอ้ขอโทษค่ะ แอ้เป็นลูกอกตัญญู” หญิงสาวต่อว่าตนเองอย่างหนัก
คุณอัศวินดึงตัวลูกสาว ก่อนจะค่อย ๆ เช็ดน้ำตาที่นองหน้า
“แอ้ พ่อกับแม่อยากให้หนูมีความสุขนะลูก ขอเพียงหนูมีชีวิตที่ดี แค่นี้พ่อกับแม่ก็ดีใจมากแล้ว อย่าโทษตัวเองเลยลูก” คุณอัศวินปลอบโยนลูกสาว
“ไปเถอะแอ้ รีบไปก่อนที่คุณคิมหันต์จะรู้เรื่อง ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป”
เข็มทิศประคองหญิงสาวไปยังรถของตน ก่อนจะขับพาเธอออกจากคฤหาสน์หลังงามออกไป
กุลนารีมองเหลียวหลังไปยังพ่อแม่และป้าพริกจนสุดสายตาแล น้ำตาไหลอาบแก้มทั้งสองข้าง อย่างเจ็บปวดหัวใจ สิ่งที่เธอกำลังตัดสินใจทำนั้นถูกแล้วหรือไม่...
ตอนที่ 36 ดีใจที่มีเธอหลังจากงานแต่งงานของแพรวพราวและเข็มทิศเสร็จสิ้น คิมหันต์และกุลนารีก็กลับมาถึงห้องพักของพวกเขา ห้องพักที่จัดไว้สวยงามและเรียบร้อย มีแสงไฟอ่อน ๆ ที่ทำให้บรรยากาศดูอบอุ่นและผ่อนคลาย ผ้าม่านสีครีมปิดลงครึ่งหนึ่ง ทิ้งให้แสงจันทร์ส่องเข้ามาอย่างนุ่มนวลคิมหันต์นั่งลงบนเตียงพร้อมดึงกุลนารีมานั่งข้าง ๆ เขา สายตาของเขาเต็มไปด้วยความรักและความห่วงใย "แอ้...แอ้เสียใจไหมที่คนข้าง ๆ แอ้เป็นพี่" เขาถามออกมาอย่างนึกหวั่นใจ น้ำเสียงที่อ่อนโยนปนด้วยความประหม่าที่ยังคงติดอยู่ในใจของเขากุลนารีหันมองหน้าคิมหันต์อย่างอ่อนโยนก่อนจะยิ้มและส่ายหน้าไปมา "แอ้ไม่เสียใจค่ะ" สายตาของหญิงสาวที่ดูจริงจังและหนักแน่น ทำเอาคิมหันต์ถึงกับยิ้มกว้างออกมากับคำตอบที่ได้รับ"งั้นแปลว่าดีใจใช่ไหม" คิมหันต์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ใบหน้าของกุลนารี ก่อนจะจ้องมองหน้าของหญิงสาวด้วยสายตากรุ้มกริ่มและความออดอ้อนกุลนารียิ้มอย่างนึกขำ "แน่นอน แอ้ต้องดีใจสิคะ" หญิงสาวพูดพร้อมยกมือบางลูบไล้ไปที่ใบหน้าของชายหนุ่มอย่างหลงใหล สายตาหญิงสาวจ้องมองชายหนุ่มด้วยแววตาที่หวานซึ้ง กุลนารีอยากให้คิมหันต์รับรู้ถึงความรู้สึกที่เธอ
ตอนที่ 35 รักลงตัวบรรยากาศในวันแต่งงานของแพรวพราวและเข็มทิศอบอวลไปด้วยรอยยิ้มและความสุข สวนสวยกลางแจ้งที่จัดงานเต็มไปด้วยดอกไม้หลากสีสันและไฟประดับระยิบระยับ แขกเหรื่อที่มาร่วมงานต่างยิ้มแย้มและแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาว แพรวพราวในชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ เดินเคียงข้างเข็มทิศผู้สวมชุดสูทสีเทาเข้ม ทั้งคู่ต่างมองหน้ากันไปมาด้วยความรักลึกซึ้ง มือใหญ่ของเข็มทิศกอบกุมมือบางไว้ไม่หยุดเมื่อเข็มทิศและแพรวพราวเดินเข้ามาในพิธีแต่งงาน เข็มทิศกล่าวขอบคุณแขกที่มาร่วมงานด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลและมั่นคง "ผมขอขอบคุณทุกคนที่มาร่วมแสดงความยินดีกับเราในวันนี้ ผมเคยทำผิดพลาดจนเกือบจะต้องเสียแพรวไปจากชีวิตของผม วันนี้ผมได้หัวใจของผมคืนมาแล้ว ผมสัญญาว่าจะรักและดูแลพราวอย่างดีที่สุด จะทำให้เธอมีความสุขในทุกๆ วันครับ"คำพูดของเข็มทิศทำให้แขกทั้งหลายต่างปรบมือและส่งเสียงแสดงความยินดี แพรวพราวยิ้มอย่างเขินอาย รอยยิ้มกว้างใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความสุขฉายออกมาอย่างชัดเจน หญิงสาวกอดแขนของเข็มทิศแน่น ดวงตาของเธอเปล่งประกายด้วยความรักและความซาบซึ้งคิมหันต์กับกุลนารีที่มาร่วมงานในชุดสูทสีดำที่ตัดเย็บอย่างประณีต ดูหล่อเหล
ตอนที่ 34 ข่าวดี ในช่วงบ่ายวันหนึ่ง แพรวพราวและเข็มทิศขับรถมุ่งหน้าไปยังบ้านของคิมหันต์ เมื่อมาถึงบ้านของชายหนุ่ม ทั้งสองคนก้าวลงจากรถและเดินเข้าไปในบ้าน บรรยากาศยามบ่ายที่บ้านของคิมหันต์และกุลนารีเต็มไปด้วยความเงียบสงบ เมื่อมาถึงคิมหันต์และกุลนารีนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น คิมหันต์เงยหน้าขึ้นมองทั้งสองคนที่เข้ามาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย “ทำไมวันนี้ถึงมาที่นี่ได้เล่า” คิมหันต์ทักทายแพรวพราว พร้อมปรายตามองเข็มทิศที่ยืนอยู่ด้านข้างอย่างไม่สบอารมณ์แพรวพราวทำเป็นไม่สนใจสีหน้าของคิมหันต์ หญิงสาวจูงมือเข็มทิศมานั่งด้านข้างคนทั้งสอง ก่อนจะยิ้มกว้างให้กับคิมหันต์และกุลนารี “พี่คิม คุณแอ้ พราวมีเรื่องสำคัญจะบอกค่ะ” คิมหันต์เลิกคิ้วมองน้องสาวด้วยความสงสัย “พราวมีเรื่องอะไรเหรอ” แพรวพราวสูดหายใจลึกๆ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงมั่นคง “พี่คิมคะ พราวกับเข็มทิศตัดสินใจจะแต่งงานกันเร็ว ๆ นี้ค่ะ” คำพูดนี้ทำให้ทุกคนในห้องเงียบลงไปชั่วขณะ กุลนารีมีสีหน้ายิ้มแย้ม เธอรู้สึกตื่นเต้นและดีใจกับข่าวที่ได้รับ หญิงสาวรีบแสดงความยินดีกับทั้งสอง
ตอนที่ 33 เรื่องของเราคิมหันต์และกุลนารีกลับออกมาจากห้องของแพรวพราว ความเงียบสงบในคอนโดตัดกับความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในใจของคิมหันต์ เมื่อถึงพวกเขาถึงที่รถ คิมหันต์เองที่ยังคงรู้สึกหงุดหงิดใจอยู่ไม่หาย เขายืนอยู่ข้างรถ เอามือเท้าสะเอว พลางมองไปรอบๆ ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจกุลนารีมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง “พี่คิม คิดอะไรอยู่คะ”คิมหันต์หันมามองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหงุดหงิด “พี่ไม่ชอบหน้าไอ้เข็มทิศเอาเสียเลย เชอะ...จะให้พี่ยอมรับงั้นเหรอ เข็มทิศทำให้พราวเกือบต้องตาย แล้วจะให้พี่วางใจง่ายๆ ได้ยังไง”กุลนารีมองค้อนคิมหันต์ ก่อนจะพูดประชดออกมา “พี่คิม อันที่จริงจะโทษเข็มทิศฝ่ายเดียวก็ไม่ถูกนะ เพราะจริง ๆ แล้วเรื่องทั้งหมดก็เริ่มมาจากพี่คิมไม่ใช่เหรอ”คิมหันต์ได้ยินถึงกับสะอึกไปทันที ชายหนุ่มมองหญิงสาวตาละห้อย ก่อนจะรีบโอบร่างบางเข้าหา “แอ้กำลังโทษพี่เหรอ” เสียงออดอ้อนทำเอากุลนารีถึงกับอ่อนใจ หญิงสาวได้แต่เบนหน้าหนี “แล้วแอ้พูดผิดตรงไหนกัน” เสียงหญิงสาวยังคงกล่าวออกมาด้วยความงอน ชายหนุ่มถึงกับไปไม่เป็น รีบแก้ตัว “เพราะพี่รักแอ้หรอกนะ ถ้าพี่ไม่ทำอย่างนั้น วันน
ตอนที่ 32 เผชิญหน้าในเช้าวันต่อมา แสงแดดยามเช้าส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาในห้องของแพรวพราว บรรยากาศอบอุ่นและสงบ เข็มทิศลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกเบิกบาน ชายหนุ่มหันมองหน้าหญิงสาวในอ้อมกอด เขาเผลอยิ้มขึ้นมาในทันใด มือหน้าลูบไล้เส้นผมที่ปรกลงบนใบหน้าอย่างรู้สึกเอ็นดู เขาเหม่อมองใบหน้านวลเนิ่นนานอย่างรู้สึกโล่งใจ บัดนี้เขารับรู้ความรู้สึกที่ตนมีต่อหญิงสาวถึงความเสน่หาอย่างแท้จริงทันใดนั้นเสียงกริ่งประตูดังขึ้นทำให้เข็มทิศชะงักมือลง แพรวพราวยังคงงัวเงียด้วยความอ่อนเพลียอยู่อย่างนั้น ชายหนุ่มได้แต่นึกเอ็นดู เขาค่อย ๆ ขยับตัวลงจากเตียงอย่างเงียบ ๆ เพื่อไม่ให้รบกวนหญิงสาวตรงหน้า เข็มทิศที่ยังสวมเสื้อผ้าไม่เรียบร้อยเดินมาเปิดประตู ทันทีที่เห็นแขกมาเยือนเขาก็ได้แต่ชะงักงันลงไปคิมหันต์ที่ถือข้าวของมาอย่างพะรุงพะรังนิ่งอึ้งไป เขาเกือบโยนข้าวของดังกล่าวแล้วกระโจนเข้าใส่ชายหนุ่มตรงหน้า คิมหันต์มองเข็มทิศด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธ “นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”เข็มทิศมองคิมหันต์อย่างไม่เกรงกลัว “ผมค้างที่นี่” คำตอบของเขาทำเอาคิมหันต์ถึงกับบันดาลโทสะ ชายหนุ่มโยนของลงกับพื้นพร้อมปรี่เข้าหาเข็มทิศ “
ตอนที่ 31 ตามง้อเข็มทิศยังคงมาหาแพรวพราวที่โรงพยาบาลทุกวัน ชายหนุ่มรู้สึกถึงความเจ็บปวดในใจทุกครั้งที่เห็นแพรวพราวที่นอนอยู่บนเตียง ใบหน้าของเธอดูสดใสขึ้นแม้จะยังซีดเซียวอยู่ แต่แพรวพราวก็ยังคงปากแข็งไม่ยอมคืนดีด้วย ทุกครั้งที่เข็มทิศเอ่ยปากขอโทษและพยายามอธิบายความรู้สึกของตัวเอง แพรวพราวก็เพียงแค่เบือนหน้าหนีและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา“เข็มทิศ คุณกลับไปเถอะ ฉันไม่ต้องการเห็นหน้าคุณอีกแล้ว” แพรวพราวพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและแววตาแสดงถึงความงอนง้อคิมหันต์ยืนอยู่ข้างๆ เตียงผู้ป่วย เอาแต่มองเข็มทิศด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหมั่นไส้ “คุณควรจะเลิกมาที่นี่ได้แล้ว แพรวพราวต้องการคนที่ดีกว่าคุณ”เข็มทิศถอนหายใจหนัก ความรู้สึกท้อแท้เข้ามาท่วมท้นในใจเขา แต่เขาก็ยังไม่ยอมแพ้ “ผมรู้ว่าผมทำผิดพลาดมาก แต่ผมอยากให้พราวให้โอกาสผมอีกครั้ง”คิมหันต์ส่ายหน้าอย่างไม่พอใจ “โอกาส คุณเคยมีโอกาสแล้วแต่คุณก็ทำมันพัง คุณคิดว่าคุณสมควรได้รับโอกาสอีกครั้งหรือ”ในขณะที่สถานการณ์ดูเหมือนจะไม่ดีขึ้นเลย กุลนารีมองค้อนคิมหันต์อย่างไม่พอใจ หญิงสาวกระทุ้งแขนเข้าที่เอวชายหนุ่มอย่างแรง คิมหันต์ได้แต่มองกุลนารีตาละห้อย พร