ตอนที่ 6 งานแต่งอันแสนเศร้า
คิมหันต์พาตัวกุลนารีกลับมายังกรุงเทพฯ ชายหนุ่มมุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์เกษมมนตรีทันที
“คุณจะทำอะไร คุณคิมหันต์” กุลนารีแหวใส่ชายหนุ่มทันที
“ผมจะทำให้คุณรู้ไง ว่าการต่อต้านผมผลลัพธ์จะเป็นยังไง” คิมหันต์ตอบกลับอย่างท้าทาย
“ฉันเกลียดคุณ” หญิงสาวรู้สึกเกลียดยิ่งนัก
“คนที่คุณเกลียด กำลังจะเป็นผัวคุณในเร็ว ๆ นี้แหละ คุณหนูแอ้” ชายหนุ่มยียวนใส่หญิงสาวอย่างสาแก่ใจ
เมื่อถึงบ้านหญิงสาว คุณอัศวินและคุณมาลารีบปรี่เข้ามาหาคนทั้งคู่
“นี่ เกิดอะไรขึ้นลูก ทำไมหนูถึงมาอยู่กับ...เอ่อ...” คุณมาลากล่าวอย่างตกใจ เธอไม่คิดฝันว่าคิมหันต์จะตามตัวลูกสาวเธอกลับมาเร็วขนาดนี้
“คุณพ่อ คุณแม่คงไม่ทราบเรื่องที่ แอ้...ไปพักผ่อนมา ใช่ไหมครับ” คิมหันต์เน้นคำถามอย่างไม่ต้องการคำตอบ
“เรื่องนี้พ่อแม่ฉันไม่เกี่ยว คุณอย่ายุ่งกับพวกท่านนะ” กุลนารีโวยวายใส่
“คุณคิมหันต์ ใจเย็น ๆ ก่อน เข้ามาในบ้านดื่มน้ำดื่มท่า ให้ใจเย็นดีกว่าไหม” คุณอัศวินพยายามแก้สถานการณ์
“ไม่เป็นไรครับ ผมแค่แวะมาบอกคุณพ่อคุณแม่ ว่าแอ้จะเข้าไปอยู่กับผม จนกว่าจะแต่งงาน ส่วนข้อตกลงอื่น ๆ ยังคงเหมือนเดิม หวังว่าคงไม่ติดอะไรใช่ไหมครับ” คิมหันต์กล่าวเรียบ ๆ แต่แข็งกร้าว
“ใครจะไปอยู่กับคุณ ฉันจะอยู่ที่นี่ ที่บ้านของฉัน” หญิงสาวแย้ง
“บ้านคุณ...คุณคงเข้าใจอะไรผิด เพราะตราบที่คุณยังไม่ได้แต่งงานกับผม บ้านหลังนี้เป็นของผม และถ้ายังมีปัญหามากนัก พ่อแม่คุณคงต้องหาที่อยู่ใหม่กันแล้วละ” คิมหันต์กล่าวอย่างเยือกเย็น
“คุณ...ฮึ” หญิงสาวสะกดกั้นอารมณ์โกรธ เธอรู้ดีว่าไม่อาจต่อกรชายหนุ่มได้ในเวลานี้
“ถ้างั้น ผมขอตัวก่อน” คิมหันต์ลา ก่อนจะบีบแขนหญิงสาวให้ตามเขากลับไป
คุณอัศวินและคุณมาลาได้แต่มองตามอย่างเป็นห่วงลูกสาว นี่มันเวรกรรมอะไรของพวกเขาหรือนี่
ที่คฤหาสน์ชายหนุ่ม บ้านหลังใหญ่ในบริเวณที่ดินกว้างขวาง รายล้อมไปด้วยสวนดอกไม้และต้นไม้ใหญ่ แต่หญิงสาวกลับไม่ได้แยแสเท่าไหร่นัก
“เตรียมห้องที่ติดกับฉันให้คุณกุลนารี ต่อไปเธอจะเข้ามาอยู่ที่นี่ในฐานะคุณผู้หญิงของบ้าน” คิมหันต์สั่งแม่บ้าน
แม่บ้านรับคำก่อนจะรีบไปจัดเตรียมตามคำสั่งนายใหญ่ของบ้าน
“คุณคิมหันต์ เรามาคุยกันดี ๆ ดีกว่าไหม คุณปล่อยฉันไปเถอะ ฉันไม่ได้รักคุณ ฉันมีคนรักอยู่แล้ว คุณก็รู้ดี คุณคงไม่อยากแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักคุณหรอก จริงไหม” กุลนารีพยายามเกลี้ยกล่อมชายหนุ่มตรงหน้า
ชายหนุ่มจับไหล่ทั้งสองข้างของหญิงสาวเข้าหาตัว
“ไม่มีทาง คุณต้องเป็นของผม คุณเลิกทำให้ผมอารมณ์เสียได้แล้ว” คิมหันต์ตัดบท
“แต่..” ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะแย้งอะไร ชายหนุ่มโน้มริมฝีปากบดเข้าหาริมฝีปากบางทันที
หญิงสาวที่ไม่ทันระวัง ลิ้นร้อนซุกไซ้เข้าโพรงปาก กวัดรัดลิ้นบางอย่างเร่งเร้า ทั้งเรียกร้อง ทั้งลงทัณฑ์
“อื้อ...อื้อ...” หญิงสาวพยายามผลักไส ประท้วงการกระทำอันน่ารังเกียจนี้
คิมหันต์กระชับร่างบางเข้าหาตัว ยิ่งหญิงสาวพยศมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้เขาอยากปราบพยศเธอมากเท่านั้น
หญิงสาวดิ้นรนจนไม่อาจต้าน ความซาบซ่านที่ได้รับทำให้หญิงสาวค่อยหยุดการขัดขืนใด ๆ ชายหนุ่มบดจูบ ดูดดื่มความหวานล้ำจากหญิงสาวจนพอใจ ลิ้นรื้นพันเกี่ยวลิ้นบาง ดึงดุนลิ้นบางเข้าหาปากหนาอย่างคนมีประสบการณ์
“อ่าาา....อ่าาา..” หญิงสาวรู้สึกรัญจวนจากสัมผัสที่ได้รับจนเผลอหลุดปากครางออกมา
ชายหนุ่มดูดดื่มความหวานจนพอใจ ก่อนจะผละปากหนาออกมา เขาจ้องตาเธอไม่กะพริบ สายตาที่ส่งไปบ่งบอกถึงความปรารถนาที่มากกว่านี้
“ปล่อยนะ” หญิงสาวที่ได้สติ รีบสะบัดตัว ถอยออกมาทันที ก่อนจะหันหลังหนีชายหนุ่มตรงหน้า
คิมหันต์ยกมือลูบริมฝีปากอย่างมีชัย ไม่นานหญิงสาวตรงหน้าตรงสยบแทบเท้าเขา ชายหนุ่มคิดอย่างมั่นใจ
ตลอดเวลาที่อยู่ในบ้านคิมหันต์ กุลนารีเอาแต่พยายามหมกตัวอยู่แต่ในห้องนอนใหญ่ที่จัดเตรียม และพยายามหลบหน้าชายหนุ่มอยู่ตลอดเวลา ยิ่งเวลาผ่านไปมากขึ้น ๆ หญิงสาวก็ยิ่งอับจนหนทางเข้าทุกที ในขณะที่คิมหันต์เอง ก็หาได้สนใจหญิงสาวไม่ ขอเพียงเธอยังอยู่ในบ้านเขา เขาเองไม่จำเป็นต้องรีบร้อนอะไรให้ไก่ตื่น
ผ่านไป 1 เดือน คิมหันต์เปิดประตูเข้ามาในห้องหญิงสาว
“คุณเข้ามาทำอะไร” หญิงสาวแหว พร้อมปาหมอนใส่ชายหนุ่มทันที อย่างระวังภัย
ชายหนุ่มปัดหมอนออกไปอย่างไม่แยแส
“อีกสามวันเตรียมตัวเข้าพิธีแต่งงานได้แล้ว ผมให้คนจัดเตรียมทุกอย่างที่จำเป็นสำหรับคุณทั้งหมด” ชายหนุ่มกล่าวเรียบ ๆ ก่อนจะเดินออกไป
หญิงสาวตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน ทำไมชายหนุ่มเร่งจัดงานเร็วขึ้นขนาดนี้ หญิงสาวได้แต่ฟุบหน้าลงบนหมอน ก่อนจะร้องไห้โฮออกมาอย่างสุดกลั้น
ในงานแต่งงานที่ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ภาพเจ้าบ่าวที่แต่งชุดสูทหรูสีขาว หน้าตาหล่อเหลา รูปร่างภูมิฐาน ในขณะที่เจ้าสาวเองที่อยู่ในชุดเจ้าสาวสีขาว ชุดยาวลากลงกับพื้น ทั้งคู่ดูเหมาะสมกันอย่างยิ่งในสายตาแขกเหรื่อที่มาร่วมแสดงความยินดี
ผิดกับหน้าเจ้าสาวที่เอาแต่ก้มหน้านิ่ง ใบหน้าเศร้าหมอง น้ำตาคลอเบ้าตลอดเวลา ไม่มีแม้แต่รอยยิ้มเฉกเช่นเจ้าสาวทั่วไป
“ทำหน้าให้มันดี ๆ หน่อย เดี๋ยวคนอื่นจะหาว่าผมรังแกเจ้าสาวตั้งแต่ยังไม่ทันเข้าหอหรอก” คิมหันต์กระซิบข้างหูหญิงสาวอย่างเสียอารมณ์
“ฉันจะเป็นอะไร จะทำอะไรก็เรื่องของฉัน อย่ามายุ่ง” หญิงสาวสะบัดเสียงใส่
“ก็ดี....แล้วจะได้เห็นดีกัน” คิมหันต์ขู่
ในระหว่างงานแต่ง เข็มทิศเดินเข้ามาในงานอย่างเศร้าสร้อย ภาพหญิงสาวคนรักกำลังจะแต่งงานกับชายอื่นยิ่งทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดหัวใจ ทำไมสวรรค์ต้องพรากหญิงสาวคนรักไปจากเขาด้วย ทำไมเขาไม่สามารถปกป้องหญิงสาวที่เขารักยิ่งได้ด้วยเล่า
ทันทีที่กุลนารีเห็นเข็มทิศ เธอรีบเดินเข้าไปหาเขาก่อนจะโผกอดชายหนุ่มทันที น้ำตาไหลรินออกมาอย่างไม่อาจกลั้น ภาพดังกล่าวทำให้แขกเหรื่อถึงกับงุนงง
คิมหันต์เห็นเข้ายิ่งบาดตาบาดใจ ชายหนุ่มปรับสีหน้าก่อนจะเดินเร่งฝีเท้าเข้าหาคนทั้งสอง แขกมากมายในงานต่างจับตามองภาพที่ไม่ค่อยพบเห็นบ่อยนัก ยิ่งทำให้เขาต้องสุขุมมากยิ่งขึ้น ไม่อย่างนั้นพรุ่งนี้คงขึ้นข่าวซุบซิบใหญ่โต
คิมหันต์เอื้อมมือไปจับไหล่บางทั้งสองก่อนจะดึงกลับเข้าหาตัวเขา
“สวัสดีครับ ดีใจที่คุณมาร่วมแสดงความยินดีกับเราทั้งคู่ จริงไหมที่รัก” คิมหันต์กดเสียงกระซิบหญิงสาวให้รักษาหน้าเขาไว้
เข็มทิศจ้องมองอย่างแค้นเคืองจนตาแทบจะถลนออกมาจากเบ้า กุลนารีส่งสายตาขอร้องแฟนหนุ่ม เธอไม่อยากให้มีเรื่องเกิดขึ้น
“ที่รัก แขกผู้ใหญ่รออยู่ด้านใน เราควรรีบเข้างานกันได้แล้ว เชิญตามสบายนะครับ” คิมหันต์ตัดบทคนทั้งคู่ ก่อนจะบีบต้นแขนหญิงสาวเบา ๆ ให้เดินตามเขาไปในงาน
“งามหน้าดีนะ ถึงขั้นชวนชายชู้เขามาในงานแต่งผม” คิมหันต์กระซิบข้างหูหญิงสาว ฟันกัดกันแน่นอย่างโกรธแค้นยิ่งนัก
กุลนารีได้แต่สะบัดหน้าหนีอย่างรู้สึกรังเกียจเจ้าบ่าวของตนเหลือเกิน
“คอยดูเถอะ กุลนารี สิ่งที่เธอทำ ผมจะเอาคืนให้คุณจำจนตาย” คิมหันต์คิดในใจ
ตอนที่ 36 ดีใจที่มีเธอหลังจากงานแต่งงานของแพรวพราวและเข็มทิศเสร็จสิ้น คิมหันต์และกุลนารีก็กลับมาถึงห้องพักของพวกเขา ห้องพักที่จัดไว้สวยงามและเรียบร้อย มีแสงไฟอ่อน ๆ ที่ทำให้บรรยากาศดูอบอุ่นและผ่อนคลาย ผ้าม่านสีครีมปิดลงครึ่งหนึ่ง ทิ้งให้แสงจันทร์ส่องเข้ามาอย่างนุ่มนวลคิมหันต์นั่งลงบนเตียงพร้อมดึงกุลนารีมานั่งข้าง ๆ เขา สายตาของเขาเต็มไปด้วยความรักและความห่วงใย "แอ้...แอ้เสียใจไหมที่คนข้าง ๆ แอ้เป็นพี่" เขาถามออกมาอย่างนึกหวั่นใจ น้ำเสียงที่อ่อนโยนปนด้วยความประหม่าที่ยังคงติดอยู่ในใจของเขากุลนารีหันมองหน้าคิมหันต์อย่างอ่อนโยนก่อนจะยิ้มและส่ายหน้าไปมา "แอ้ไม่เสียใจค่ะ" สายตาของหญิงสาวที่ดูจริงจังและหนักแน่น ทำเอาคิมหันต์ถึงกับยิ้มกว้างออกมากับคำตอบที่ได้รับ"งั้นแปลว่าดีใจใช่ไหม" คิมหันต์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ใบหน้าของกุลนารี ก่อนจะจ้องมองหน้าของหญิงสาวด้วยสายตากรุ้มกริ่มและความออดอ้อนกุลนารียิ้มอย่างนึกขำ "แน่นอน แอ้ต้องดีใจสิคะ" หญิงสาวพูดพร้อมยกมือบางลูบไล้ไปที่ใบหน้าของชายหนุ่มอย่างหลงใหล สายตาหญิงสาวจ้องมองชายหนุ่มด้วยแววตาที่หวานซึ้ง กุลนารีอยากให้คิมหันต์รับรู้ถึงความรู้สึกที่เธอ
ตอนที่ 35 รักลงตัวบรรยากาศในวันแต่งงานของแพรวพราวและเข็มทิศอบอวลไปด้วยรอยยิ้มและความสุข สวนสวยกลางแจ้งที่จัดงานเต็มไปด้วยดอกไม้หลากสีสันและไฟประดับระยิบระยับ แขกเหรื่อที่มาร่วมงานต่างยิ้มแย้มและแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาว แพรวพราวในชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ เดินเคียงข้างเข็มทิศผู้สวมชุดสูทสีเทาเข้ม ทั้งคู่ต่างมองหน้ากันไปมาด้วยความรักลึกซึ้ง มือใหญ่ของเข็มทิศกอบกุมมือบางไว้ไม่หยุดเมื่อเข็มทิศและแพรวพราวเดินเข้ามาในพิธีแต่งงาน เข็มทิศกล่าวขอบคุณแขกที่มาร่วมงานด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลและมั่นคง "ผมขอขอบคุณทุกคนที่มาร่วมแสดงความยินดีกับเราในวันนี้ ผมเคยทำผิดพลาดจนเกือบจะต้องเสียแพรวไปจากชีวิตของผม วันนี้ผมได้หัวใจของผมคืนมาแล้ว ผมสัญญาว่าจะรักและดูแลพราวอย่างดีที่สุด จะทำให้เธอมีความสุขในทุกๆ วันครับ"คำพูดของเข็มทิศทำให้แขกทั้งหลายต่างปรบมือและส่งเสียงแสดงความยินดี แพรวพราวยิ้มอย่างเขินอาย รอยยิ้มกว้างใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความสุขฉายออกมาอย่างชัดเจน หญิงสาวกอดแขนของเข็มทิศแน่น ดวงตาของเธอเปล่งประกายด้วยความรักและความซาบซึ้งคิมหันต์กับกุลนารีที่มาร่วมงานในชุดสูทสีดำที่ตัดเย็บอย่างประณีต ดูหล่อเหล
ตอนที่ 34 ข่าวดี ในช่วงบ่ายวันหนึ่ง แพรวพราวและเข็มทิศขับรถมุ่งหน้าไปยังบ้านของคิมหันต์ เมื่อมาถึงบ้านของชายหนุ่ม ทั้งสองคนก้าวลงจากรถและเดินเข้าไปในบ้าน บรรยากาศยามบ่ายที่บ้านของคิมหันต์และกุลนารีเต็มไปด้วยความเงียบสงบ เมื่อมาถึงคิมหันต์และกุลนารีนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น คิมหันต์เงยหน้าขึ้นมองทั้งสองคนที่เข้ามาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย “ทำไมวันนี้ถึงมาที่นี่ได้เล่า” คิมหันต์ทักทายแพรวพราว พร้อมปรายตามองเข็มทิศที่ยืนอยู่ด้านข้างอย่างไม่สบอารมณ์แพรวพราวทำเป็นไม่สนใจสีหน้าของคิมหันต์ หญิงสาวจูงมือเข็มทิศมานั่งด้านข้างคนทั้งสอง ก่อนจะยิ้มกว้างให้กับคิมหันต์และกุลนารี “พี่คิม คุณแอ้ พราวมีเรื่องสำคัญจะบอกค่ะ” คิมหันต์เลิกคิ้วมองน้องสาวด้วยความสงสัย “พราวมีเรื่องอะไรเหรอ” แพรวพราวสูดหายใจลึกๆ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงมั่นคง “พี่คิมคะ พราวกับเข็มทิศตัดสินใจจะแต่งงานกันเร็ว ๆ นี้ค่ะ” คำพูดนี้ทำให้ทุกคนในห้องเงียบลงไปชั่วขณะ กุลนารีมีสีหน้ายิ้มแย้ม เธอรู้สึกตื่นเต้นและดีใจกับข่าวที่ได้รับ หญิงสาวรีบแสดงความยินดีกับทั้งสอง
ตอนที่ 33 เรื่องของเราคิมหันต์และกุลนารีกลับออกมาจากห้องของแพรวพราว ความเงียบสงบในคอนโดตัดกับความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในใจของคิมหันต์ เมื่อถึงพวกเขาถึงที่รถ คิมหันต์เองที่ยังคงรู้สึกหงุดหงิดใจอยู่ไม่หาย เขายืนอยู่ข้างรถ เอามือเท้าสะเอว พลางมองไปรอบๆ ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจกุลนารีมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง “พี่คิม คิดอะไรอยู่คะ”คิมหันต์หันมามองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหงุดหงิด “พี่ไม่ชอบหน้าไอ้เข็มทิศเอาเสียเลย เชอะ...จะให้พี่ยอมรับงั้นเหรอ เข็มทิศทำให้พราวเกือบต้องตาย แล้วจะให้พี่วางใจง่ายๆ ได้ยังไง”กุลนารีมองค้อนคิมหันต์ ก่อนจะพูดประชดออกมา “พี่คิม อันที่จริงจะโทษเข็มทิศฝ่ายเดียวก็ไม่ถูกนะ เพราะจริง ๆ แล้วเรื่องทั้งหมดก็เริ่มมาจากพี่คิมไม่ใช่เหรอ”คิมหันต์ได้ยินถึงกับสะอึกไปทันที ชายหนุ่มมองหญิงสาวตาละห้อย ก่อนจะรีบโอบร่างบางเข้าหา “แอ้กำลังโทษพี่เหรอ” เสียงออดอ้อนทำเอากุลนารีถึงกับอ่อนใจ หญิงสาวได้แต่เบนหน้าหนี “แล้วแอ้พูดผิดตรงไหนกัน” เสียงหญิงสาวยังคงกล่าวออกมาด้วยความงอน ชายหนุ่มถึงกับไปไม่เป็น รีบแก้ตัว “เพราะพี่รักแอ้หรอกนะ ถ้าพี่ไม่ทำอย่างนั้น วันน
ตอนที่ 32 เผชิญหน้าในเช้าวันต่อมา แสงแดดยามเช้าส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาในห้องของแพรวพราว บรรยากาศอบอุ่นและสงบ เข็มทิศลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกเบิกบาน ชายหนุ่มหันมองหน้าหญิงสาวในอ้อมกอด เขาเผลอยิ้มขึ้นมาในทันใด มือหน้าลูบไล้เส้นผมที่ปรกลงบนใบหน้าอย่างรู้สึกเอ็นดู เขาเหม่อมองใบหน้านวลเนิ่นนานอย่างรู้สึกโล่งใจ บัดนี้เขารับรู้ความรู้สึกที่ตนมีต่อหญิงสาวถึงความเสน่หาอย่างแท้จริงทันใดนั้นเสียงกริ่งประตูดังขึ้นทำให้เข็มทิศชะงักมือลง แพรวพราวยังคงงัวเงียด้วยความอ่อนเพลียอยู่อย่างนั้น ชายหนุ่มได้แต่นึกเอ็นดู เขาค่อย ๆ ขยับตัวลงจากเตียงอย่างเงียบ ๆ เพื่อไม่ให้รบกวนหญิงสาวตรงหน้า เข็มทิศที่ยังสวมเสื้อผ้าไม่เรียบร้อยเดินมาเปิดประตู ทันทีที่เห็นแขกมาเยือนเขาก็ได้แต่ชะงักงันลงไปคิมหันต์ที่ถือข้าวของมาอย่างพะรุงพะรังนิ่งอึ้งไป เขาเกือบโยนข้าวของดังกล่าวแล้วกระโจนเข้าใส่ชายหนุ่มตรงหน้า คิมหันต์มองเข็มทิศด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธ “นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”เข็มทิศมองคิมหันต์อย่างไม่เกรงกลัว “ผมค้างที่นี่” คำตอบของเขาทำเอาคิมหันต์ถึงกับบันดาลโทสะ ชายหนุ่มโยนของลงกับพื้นพร้อมปรี่เข้าหาเข็มทิศ “
ตอนที่ 31 ตามง้อเข็มทิศยังคงมาหาแพรวพราวที่โรงพยาบาลทุกวัน ชายหนุ่มรู้สึกถึงความเจ็บปวดในใจทุกครั้งที่เห็นแพรวพราวที่นอนอยู่บนเตียง ใบหน้าของเธอดูสดใสขึ้นแม้จะยังซีดเซียวอยู่ แต่แพรวพราวก็ยังคงปากแข็งไม่ยอมคืนดีด้วย ทุกครั้งที่เข็มทิศเอ่ยปากขอโทษและพยายามอธิบายความรู้สึกของตัวเอง แพรวพราวก็เพียงแค่เบือนหน้าหนีและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา“เข็มทิศ คุณกลับไปเถอะ ฉันไม่ต้องการเห็นหน้าคุณอีกแล้ว” แพรวพราวพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและแววตาแสดงถึงความงอนง้อคิมหันต์ยืนอยู่ข้างๆ เตียงผู้ป่วย เอาแต่มองเข็มทิศด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหมั่นไส้ “คุณควรจะเลิกมาที่นี่ได้แล้ว แพรวพราวต้องการคนที่ดีกว่าคุณ”เข็มทิศถอนหายใจหนัก ความรู้สึกท้อแท้เข้ามาท่วมท้นในใจเขา แต่เขาก็ยังไม่ยอมแพ้ “ผมรู้ว่าผมทำผิดพลาดมาก แต่ผมอยากให้พราวให้โอกาสผมอีกครั้ง”คิมหันต์ส่ายหน้าอย่างไม่พอใจ “โอกาส คุณเคยมีโอกาสแล้วแต่คุณก็ทำมันพัง คุณคิดว่าคุณสมควรได้รับโอกาสอีกครั้งหรือ”ในขณะที่สถานการณ์ดูเหมือนจะไม่ดีขึ้นเลย กุลนารีมองค้อนคิมหันต์อย่างไม่พอใจ หญิงสาวกระทุ้งแขนเข้าที่เอวชายหนุ่มอย่างแรง คิมหันต์ได้แต่มองกุลนารีตาละห้อย พร