ไม่นานก็มาถึง ณ พื้นที่กว้างใหญ่เต็มไปด้วยสีฟ้าครามและท้องฟ้าที่ค่อยๆ หมดแสงตะวันลง ริมชายหาดเงียบสงบ เสียงคลื่นซัดเบาๆ พร้อมกับลมที่พัดเข้ามากระทบใบหน้า พร้อมกับมีเสียงเบาๆ ข้างหู คล้ายกับเสียงเพลงที่กำลังขับกล่อม มันเป็นสถานที่ที่เหมือนกับอยู่ในโลกการ์ตูนเลยไทเธย์จอดรถบิ๊กไบค์ไว้ริมถนนที่แทบไม่มีรถใครผ่าน ยิ่งบรรยากาศยามเย็นแบบนี้ถนนสายนี้แทบจะเป็นทางเปลี่ยวให้ได้ชะเอมนั่งบนถังน้ำมันรถ ห้อยขาไว้ และด้วยความที่เธอตัวเล็กความสูงของเธอที่นั่งอยู่บนถังน้ำมันก็เกือบจะเท่ากับไทเธย์ที่ยืนอยู่เลย"ที่นี่สวยจังเลยนะคะ" ชะเอมพูดด้วยเสียงนุ่ม"ใช่ ฉันชอบมาที่นี่ มันทำให้เรารู้สึกสงบ" เขาพูดขึ้นอย่างหนักแน่น แต่ก็เป็นน้ำเสียงที่อบอุ่นด้วยในเวลาเดียวกัน"รุ่นพี่รู้จักที่นี่ได้ยังไงคะ""ฉันมาบ่อย""มากับใครคะ" เธอแกล้งหยอกถามเขา"มาคนเดียวสิ ฉันไม่ชอบความวุ่นวาย เธอก็น่าจะรู้ดี""แล้ววันนี้ ทำไมถึงพาเอมมาคะ""ก็เธออยู่คนเดียวไม่ใช่หรือไง""ก็ใช่ค่ะ แต่คิดว่าพี่จะไปอยู่เป็นเพื่อนที่บ้านซะอีก""ผู้ชายกับผู้หญิงอยู่ด้วยกันสองต่อสอง ต่อให้ไม่ได้ทำอะไรกัน แต่คนอื่นเขาไม่ได้คิดเหมือนเรา ฉันเป็นผู้ชาย
หลังเลิกคลาสเรียนชะเอมเดินออกมายืนอยู่ที่หน้ามหาวิทยาลัย มองเพื่อนๆ ที่กำลังแยกย้ายกันกลับ มองรถที่กำลังสัญจรผ่านหน้าไปมา เธอกำลังนึกว่าจะไปที่ไหนดี เวลานี้กลับบ้านไปก็เงียบเหงาเพราะพ่อแม่ไม่อยู่ แต่ก็ไม่รู้จะไปที่ไหนเพราะตัวเองก็ไม่ใช่คนที่ชอบเที่ยว"มายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้ ไม่กลับบ้านหรือไง" ไทเธย์เดินเข้ามาทัก เพราะเห็นเธอยืนอยู่นานแล้ว ไม่ยอมเดินออกไปสักที ถ้าเป็นปกติเธอคงเดินออกไปแล้ว"กลับค่ะ แต่ยังไม่อยากกลับตอนนี้""ทำไมเธอจะไปไหน?""ไม่รู้ค่ะ""มีอะไรหรือเปล่า?""ไม่มีอะไรค่ะ พ่อแม่ไม่อยู่ เอมก็เลยไม่รู้จะไปที่ไหน มันเงียบค่ะเหงาด้วย""พ่อแม่เธอไปไหน""ไปต่างจังหวัดค่ะ""นานเลยหรอ?""ค้างคืนคืนนึงค่ะ พรุ่งนี้ก็กลับแล้ว""อยากไปนั่งรถเล่นไหม?" เขาถอนหายใจแผ่วๆ ก่อนจะเอ่ยปากชวนเธอเสียงเบา"นั่งรถเล่น?" ชะเอมหันมามองด้วยความสงสัย"ใช่ ซ้อนท้ายฉันไง"ชะเอมมองไปที่รถบิ๊กไบค์ของเขาที่จอดอยู่คำว่า “บิ๊กไบค์” ทำให้สายตาชะเอมส่องประกายทันที เธออยากลองขึ้นขี่มันมาตั้งนานแล้ว แต่ก็ไม่กล้า และก็ไม่มีปัญญาซื้อมันมาครอบครองด้วย ขาของเธอยังหยั่งไม่ถึงเลยด้วยซ้ำ"ให้เอมขึ้นได้หรอคะ?""ได้สิม
ตกค่ำที่บ้านของชะเอมเธอนั่งอยู่บนเก้าอี้มองดูกล่องขนมที่เอาออกมาจากถุงเรียงรายไว้อยู่บนโต๊ะเขียนงานของตัวเอง มันเป็นสีพาสเทล ขนมมาการองหลากสี และข้างในก็มีครีมขาวแน่นๆ นี่คือสิ่งที่เธอชอบมากๆ ถึงมันจะราคาแพงแต่เธอก็ยอมรับเลยว่ามันอร่อยมาก"น่ากินมาก" เธอพูดพึมพำออกมา ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปเก็บเอาไว้ นี่มันเป็นภาพหายากเลยนะ เพราะดูๆ แล้วไทเธย์น่าจะเป็นคนที่ไม่ใช่คนใจดีขนาดนั้นแชะ!"เอาลงไอจีดีกว่า"หลังจากนั้นเธอก็อัพรูปลงIG แต่ก็ไม่ได้มีแคปชั่นอะไรมากมาย นอกจากสติ๊กเกอร์รูปหัวใจและรูปขนม ไม่ได้แท็กใคร และก็ไม่ได้จะสื่อถึงใครด้วย เธอก็แค่อยากจะถ่ายรูปขนมที่เธอชอบลง IG ก็เท่านั้นเองแต่ทุกคนรู้ ทั้งเพื่อนๆ ที่เห็นเมื่อตอนเย็น ทั้งรุ่นพี่ที่อยู่ใกล้ๆ กัน รวมถึงคนที่กำลังไม่พอใจอย่างชัดเจนที่สุดอย่าง รุ่นพี่เมษาแต่ชะเอมก็ไม่ได้สนใจอะไรขนาดนั้นหรอก ไม่อยากจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวแล้วด้วยซ้ำ แค่ปล่อยข่าวแบบนั้นออกไปเธอก็รู้สึกว่า มันมากเกินไปแล้วติ๊ง ~LINE group A : อะไรยังไงจ๊ะเพื่อนสาว B : แบบนี้แหละดีแล้วลงแบบนี้แหละ ใครบางคนจะได้ขาดใจตาย A : เมื่อตอนเย็นตอนที่รุ่นพี่เอา
ช่วงเย็นวันหนึ่ง ณ หน้าตึกคณะวิศวะกรรม นักศึกษาทยอยกันเดินกลับหลังจากเลิกเรียนเสร็จแล้ว เช่นเดียวกับชะเอมที่กำลังเร่งรีบในการเดินกลับ เพราะเธอจะต้องกลับถึงบ้านก่อนฟ้ามืด ทางผ่านบ้านของเธอมันค่อนข้างอันตรายด้วย"ชะเอม.."เสียงทุ้มที่คุ้นเคยดังขึ้นจากทางด้านหลัง เธอหันกลับไปมอง แล้วก็เห็นไทเธย์เดินถือถุงกระดาษใบใหญ่มาทางตัวเอง"รุ่นพี่ไท?""ว่างมั้ย?" เขาถามแต่สีหน้าก็ยังนิ่งๆ และด้วยความหน้านิ่งเธอเองก็แทบจะไม่รู้เลยว่าเขามีความสุขหรือคิดอะไรอยู่"ก็…ว่างค่ะ"เขายื่นถุงกระดาษที่ตัวเองถือมาไปตรงหน้าของเธอ เหมือนเป็นเชิงบอกว่า ของสิ่งนี้คือของเธอ"มันคืออะไรหรอคะ" เธอถามพร้อมกับมองถุงกระดาษในมือของเขา เพราะไม่รู้ว่ามันคืออะไรก็เลยยังไม่รับมา"เปิดดูเองสิ" เขาพูดนิ่งๆ แขนกระตุกถุงเล็กน้อยเหมือนกำลังบอกให้เธอรับไปได้แล้วชะเอมรับถุงนั้นมาก่อนจะเปิดถุงให้อ้าออกแล้วชะโงกหน้าเข้าไปมองด้านในแล้วก็เจอกล่องขนมมาการองหลากสี จัดเรียงเป็นระเบียบ แถมยังมีกล่องซ้อนอีกหลายกล่องเลย มันเยอะอย่างกับไปเหมาร้านขนมมาเลย"ขนมมาการอง!?" เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาตาโต "ซื้อให้เอมหรอคะ?""อื้ม" เขายิ้มมุมปากเมื่อเห
หลังจากกลับจากค่าย ชีวิตกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ต่างคนต่างแยกย้ายกันเข้าเรียน ทิ้งไว้เพียงเรื่องเล่าปากต่อปากของคนที่ได้ไปร่วมกิจกรรม ที่พูดให้คนที่ไม่ได้ไปฟังที่ตึกคณะวิศวกรรม เสียงคุย เสียงหัวเราะยังดังเหมือนเดิม ผู้คนยังเดินขวักไขว่ตามตึกเรียน แต่ในความวุ่นวายทั้งหมดนั้น ไทเธย์รู้สึกว่าอะไรบางอย่างมันหายไป บางอย่างที่ว่ามันคือความคุ้นเคยเสียงหนึ่งที่คอยทักทายเขาทุกเช้า บางครั้งก็มีขนมติดไม้ติดมือมาฝาก ดวงตากลมใสที่มองมาทุกครั้งที่เขาเดินผ่าน ชะเอมเปลี่ยนไปเธอไม่ทำเหมือนที่เคยทำ ในขณะที่เธอยังอยู่ยังทักทาย ยังพูดจาเหมือนคนรู้จักทั่วไป เหมือนรุ่นน้องที่เข้ามาทักทายรุ่นพี่ แต่ไม่มีคำแซว ไม่มีเสียงหัวเราะ ไม่มีรอยยิ้มแสนหวานที่เขามักจะได้รับทุกครั้งที่เจอหน้ากัน ทุกอย่างมันแปลกไป เขารู้สึกได้อย่างนั้นมันเหมือนเธอกำลัง หายไปอย่างเงียบๆ โดยที่ไม่บอกไม่กล่าว ไม่อะไรกับเขาเลยสักอย่าง และเขาก็ไม่รู้ด้วยว่า มันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่จนเย็นวันหนึ่งหลังเลิกคลาสเรียนไทเธย์เดินไปเจอเธอพอดีที่หน้าตึกคณะ ดูเหมือนเธอกำลังจะเดินออกไป ทั้งที่ปกติเธอมักจะรอเขาลงมาก่อนด้วยซ้ำ ได้ทุกค
#เช้าวันถัดมาแสงแดดอ่อนๆ ส่องลอดผ่านผ้าม่านเข้ามาในห้องพักผู้ป่วย ช่วงเช้าๆ บรรยากาศค่อนข้างสงบ และมีเสียงจิ้งหรีดเรไรร้องระงมอยู่ห่างๆ คงเป็นเพราะเป็นโรงพยาบาลที่อยู่ติดกับป่าเขาไทเธย์นั่งพิงหัวเตียงอยู่เงียบๆ มองดูแม่บ้านที่กำลังทำความสะอาดภายในห้องพักของเขา เพราะตื่นมาก็ไม่เจอชะเอมแล้ว แม่บ้านบอกว่าเธอออกไปซื้อของ น่าจะออกไปซื้อของกินนั่นแหละแกร้ก ~เสียงประตูเปิดเข้ามาเบาๆ ตามด้วยร่างเล็กๆ ของชะเอมที่เดินเข้ามา เธอถือถุงเล็กๆ ที่ใส่ขนมและของกินมาด้วย มืออีกข้างถือกล่องข้าวที่เธอซื้อมาจากโรงอาหารของโรงพยาบาล สีหน้าเธอดูไม่สดใสเหมือนเคย ดวงตาคล้ำลงเล็กน้อยคงเพราะนอนน้อยติดกันหลายคืน และที่สำคัญเธอไม่ยิ้มเลย ทั้งที่ปกติเธอจะซ่าและยิ้มแย้มได้ตลอดเวลา"ไง ไปไหนมา ให้ฉันอยู่คนเดียว" ไทเธย์ทักก่อน"เห็นรุ่นพี่ยังไม่ตื่น ก็เลยไม่อยากปลุกค่ะ" ชะเอมพูดขึ้นเบาๆ ก่อนจะเดินเข้ามาวางของข้างเตียง แล้วทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆเธอเงียบไปพักหนึ่ง เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ แต่มันคงเป็นเรื่องที่ทำให้เธอคิดมากเลยล่ะ เพราะสีหน้าเธอดูไม่ดีเอาซะเลย"พี่ไทเธย์…" น้ำเสียงนั้นเศร้าๆ และการเรียกชื่อเขาของ