"ฉันขอคุยอะไรกับคุณหน่อยได้ไหมคะ"
ชายหนุ่มที่อยู่ในลิฟต์ด้วยกัน มองหน้าเธอโดยที่ไม่พูดอะไรสักคำ ..แต่มันก็ดีมากแล้วสำหรับเธอที่เขายังมองหน้าอยู่
"ฉันขอร้อง"
ชมจันทร์ยังไม่ทันได้พูดอะไรมากไปกว่านี้ ประตูลิฟต์ก็เปิดออกที่ชั้นผู้บริหาร
"คุณทัพไทคะ ฉันขอร้องนะคะ"
"จำชื่อฉันได้ด้วยเหรอ" ชายหนุ่มหันมามองเล็กน้อยก่อนที่จะเดินออกจากลิฟต์
"จำได้สิคะ" ชมจันทร์ทิ้งศักดิ์ศรีทั้งหมดแล้วเดินตามเขามาที่ห้องทำงาน
"เดี๋ยวก่อนค่ะคุณ" เลขาที่นั่งอยู่หน้าห้องรีบพูดหยุดเธอไว้ก่อน แต่ก็ไม่กล้าขวาง เพราะไม่แน่ใจว่าคุณทัพไทจะให้เธอตามเข้าไปด้วยไหม
ตำแหน่งประธานบริษัทยังคงเป็นของเทวินน้องเขยของเขาอยู่ ถึงแม้ทัพไทจะเป็นผู้บริหารระดับสูง แต่ตำแหน่งของเขายังไม่แน่ชัด
สโนไวท์ก็แปลกใจอยู่ว่าทำไมพี่ชายถึงยอมตกลงมาบริหารงานที่นี่ให้ ที่จริงโครงการขยายกิจการมีมาได้สองปีแล้ว แต่เธอกับสามียังไม่กล้าวางมือจากที่นี่ เพราะถึงอย่างไรบริษัทนี้ก็เป็นบริษัทที่คุณปู่ของเทวินสร้างขึ้นมา
แต่พอทัพไทไม่พูดอะไร ชุติมาเลขาหน้าห้องจำเป็นต้องปล่อยให้ชมจันทร์เข้าไป
พอเข้ามาในห้องทัพไทก็เดินไปยืนมองทอดสายตาออกไปนอกอาคารที่มีผนังเป็นกระจกรอบทุกทิศทาง
"ตอนนี้ฉันกำลังเดือดร้อน ฉันอยากจะขอความช่วยเหลือจากคุณ" มาถึงขั้นนี้แล้วไม่มีอะไรต้องอายอีก เพราะเวลาของเธอเหลือน้อยลงทุกที แต่เขาจะช่วยหรือไม่ช่วยมันก็สุดแท้แต่เขาอีกนั่นแหละ "เห็นแก่ที่เราเคย.."
ประโยคนี้ออกจากปากเธอ เขาถึงได้หันมามอง อยากรู้ว่าเธอจะบอกว่าเคยอะไร
"เห็นแก่ที่เราเคยรู้จักกันมาก่อน ช่วยฉันสักครั้งนะคะ"
"คุณทัพไทมาแล้วใช่ไหมคะ" เสียงนี้ดังมาจากนอกประตู และชมจันทร์ก็จำได้ดีว่ามันเป็นเสียงของใคร
"ใช่ค่ะคุณทัพไทอยู่ในห้อง แต่ว่า.." ชุติมายังพูดไม่จบ เพลงพิณก็เปิดประตูเข้าไปก่อน
"พี่คะ"
ทัพไทมองไปทางห้องน้ำเล็กน้อย แล้วก็หันมองมาที่เพลงพิณ "มีอะไรครับ"
"คะ? เอ่อ..เพลงจะเข้ามาคุยกับพี่เรื่องเอกสาร"
"ได้สิครับเชิญนั่งก่อน"
"?" ผีเข้าหรือไม่สบายเนี่ย พูดสะเพราะเลย
"ผมว่าเรามานั่งคุยกันตรงนี้ก่อนดีกว่า" ทีแรกว่าจะพาเพลงพิณไปนั่งตรงโต๊ะทำงาน แต่ตรงนั้นมันใกล้ห้องน้ำเขาก็เลยพามานั่งที่โต๊ะรับแขก
"เอกสารที่เพลงดู คิดว่ามันน่าจะเพิ่มอะไรได้.. พี่มีอะไรหรือเปล่าคะ ให้เพลงออกไปก่อนไหม" เพลงพิณดูท่าทางเหมือนทัพไทไม่ได้สนใจสิ่งที่เธอพูดเลย
ผ่านไปสักพัก.. เสียงข้างนอกเงียบมาก ชมจันทร์พยายามเอาหูแนบกับประตูฟังเสียงแต่ก็ไม่ได้ยิน ถ้าเธอเปิดประตูออกไปแล้วจ๊ะเอ๋กับแฟนเขาจะทำยังไง
จนเธอรอไม่ไหวอีก เพราะเวลาของเธอมันเหลือน้อยมากแล้ว หญิงสาวก็เลยค่อยๆ แง้มประตูห้องน้ำออกมาดู
"เขาไปไหน?" ออกมาไม่เจอใครอยู่ข้างนอกเลย เขาไม่คิดจะบอกเธอเลยเหรอว่าจะออกไป..แล้วนี่เขาจะกลับมาอีกไหม
จนทัพไทคุยงานเสร็จก็กลับเข้ามาในห้อง และตอนนี้เวลาที่เหลือนับจากชั่วโมงเป็นนาทีแล้ว
ทีแรกเขาคิดว่าเธอคงไปแล้ว แต่พอเข้ามาก็เห็นว่าเธอนั่งรออยู่ในห้องนี้
"ฉันขอคุยต่อจากเมื่อสักครู่ได้ไหมคะ"
"ไม่เห็นหรือไงว่างานฉันยุ่ง"
"แต่ฉันไม่มีเวลาแล้ว หัวหน้าจะย้ายฉัน.."
ชายหนุ่มที่ก้มหน้ามองดูงานเมื่อสักครู่เงยขึ้นแบบอัตโนมัติ ..แต่พอคิดได้ว่าตัวเองออกอาการมากเกินไปก็เลยก้มลงดูงานต่อ
"หัวหน้าจะให้ฉันไปต่างจังหวัด เพื่อทำการตลาด" เธอหยุดพูดนิดหนึ่งรอให้เขาถาม แต่ก็ไม่ได้ยินคำถามจากผู้ชายตรงหน้าเลย "ตอนนี้ฉันไปไหนไม่ได้ คุณช่วยหยุดคำสั่งของหัวหน้าได้ไหมคะ"
"ทำไมฉันต้องทำแบบนั้นด้วย"
"ฉันบอกความจริงกับคุณก็ได้ ตอนนี้แม่ฉัน.."
"ป่วยหนัก?" เขาไม่รอฟังจนกว่าเธอพูดจบ ก็พูดแทรกขึ้นมา
"ใช่ค่ะแม่ฉันป่วย แต่ก็ไม่หนักมาก" เสียงเธอพูดเบาลง เพราะดูจากสายตาคนตรงหน้าแล้ว คงคิดว่าเธอกำลังเล่นละครเพื่อให้เขาสงสาร แต่ในเวลานี้ศักดิ์ศรีมันช่วยอะไรเธอไม่ได้ เธอต้องละทิ้งมันไปให้หมด "คุณช่วยฉันหน่อยได้ไหมคะ"
สายตาคนที่นั่งอยู่เหลือบมองสูงขึ้นมาจ้องไปที่ใบหน้าของหญิงสาว ซึ่งครั้งหนึ่งเขาเคยรักมาก..แต่นั่นมันก็แค่เคย
"และฉันยังมีเรื่องที่ต้องขอคุณอีกอย่าง" อย่างแรกเขายังไม่รับปากเลยว่าจะช่วย ยังจะหน้าด้านขอเขาอีกนะ
"หึ.." เสียงขำขึ้นจมูกเล็กน้อย เพราะเขาก็มีความคิดเดียวกับเธอ คำขอแรกเขายังไม่ตกลงยังจะมีคำขอที่สองอีก
"ฉันขอให้คุณช่วยค่ารักษาพยาบาลของแม่ก่อนได้ไหมคะ"
"เธอก็รู้ว่าตอนนี้ฉันเป็นนักธุรกิจ คงไม่ลงทุนอะไรที่มันไม่มีผลกำไร ถ้าช่วยเธอแล้วฉันจะได้อะไร"
ลวงรักแฟนเก่า บทที่ 108🔞 ตอนจบงานแต่งวันนี้พายุจัดได้ใหญ่โตมาก เทียบเท่ากับงานของทศนได้เลย เพราะเขาไม่อยากให้เธอน้อยหน้าใคร แถมเจ้าสาวไม่ต้องลงแรงทำอะไรเลยแค่รอรับการเซอร์ไพรส์จากเขาเท่านั้นพอ"ผมรักคุณ" ชายหนุ่มล้วงเอาแหวนเพชรที่เตรียมมาให้กับเธอออกมาเพื่อจะสวมใส่นิ้วนางข้างซ้ายคะน้ายื่นมือข้างซ้ายไปให้เขาได้สวมใส่"ถอดออกก่อนดีกว่าไหมครับ" ตรงนิ้วนางข้างซ้ายยังมีแหวนทองที่เขาขอหมั้นเธอ"ไม่ค่ะ สวมด้วยกันเลย" มันเป็นแหวนที่เขาให้คะน้าก็เลยไม่อยากจะถอดมันออกพายุก็เลยสวมแหวนเพชรเข้าไปนิ้วเดียวกับแหวนทอง วงที่ให้เธอก่อนหน้านั้นพอสวมแหวนเสร็จเสียงปรบมือก็ดังขึ้น "จูบเลย จูบเลย" กองเชียร์หลายคนต่างก็เชียร์ให้คู่บ่าวสาวแสดงความรักให้กับแขกได้เห็นมือหนาถูกยกขึ้นมาบังในขณะที่จูบปากเธออยู่ เพื่อไม่ให้มันเป็นภาพโจ่งแจ้งเกินไปสาวๆ ต่างก็กรี๊ดกันสนั่น เพราะมันเป็นฉากที่ฟินมาก ไม่เคยมีใครทำแบบนี้ เพราะนั่นหมายถึงเขาให้เกียรติเจ้าสาวมากพอพายุปล่อยจูบออกสายตาคนเป็นเจ้าสาวยังคงจับจ้องที่ใบหน้าเจ้าบ่าวของเธอ"คะน้าขอโทษด้วยนะคะ""คุณขอโทษผมทำไม""ขอโทษเรื่องที่พ่อกับแม่ไม่ได้มาร่วมงานนี้ด้วย"
"แน่ใจนะว่านี่ชุดกินเลี้ยง?" คะน้าแปลกใจตั้งแต่ที่มุกงามเลือกชุดให้ลองใส่ดูแล้ว"รับชุดนี้แหละค่ะสวยดี" มุกงามไม่ได้ตอบคะน้าหรอกแต่หันไปพูดกับเจ้าของร้าน"เดี๋ยวก่อนนะงาม..""ไม่เดี๋ยวแล้วเอาชุดนี้แหละ" มุกงามก็เลยยื่นบัตรเครดิตไปให้เจ้าของร้านรูด แต่บัตรที่มุกงามให้ไปไม่ใช่ของตัวเองหรอก เป็นของใครบางคนที่วานให้เธอทำงานนี้ให้"คะน้าจ่ายเองก็ได้" คะน้าพูดแบบเกรงใจก่อนที่จะรับชุดจากเจ้าของร้านมา"กลับกัน"คะน้าเดินตามมุกงามออกมา ทำไมวันนี้เพื่อนดูแปลกๆ ถามอย่างก็ตอบอย่าง[บ้านพักข้าราชการ]"พวกเขาไม่อยู่เหรอ" เข้ามาในบ้านก็ไม่เจอทั้งพายุและทศน ทั้งๆ ที่พวกเขายังอยู่ในช่วงลาพัก"คงออกไปธุระเราไม่ต้องรอหรอก" มุกงามเป็นคนตอบคะน้าขอตัวเอาของเข้าไปเก็บในห้อง และเธอก็อดโทรถามไม่ได้ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนทำไมโทรศัพท์ถึงไม่เปิด ..แต่โทรไปก็ไม่มีสัญญาณเลยค่ำมืดวันเดียวกัน.."อุ๊ย" ลงจากรถก็เห็นคะน้ายืนเท้าสะเอวอยู่หน้าประตู"ตัวใครตัวมันนะเว้ย" ทศนกระซิบพูดกับพายุก่อนที่จะเดินผ่านคะน้าเข้าไปในบ้าน"ผมไปทำธุระมาครับ""แล้วทำไมไม่รับโทรศัพท์ล่ะคะ""สงสัยว่าแบตผมจะหมดแน่เลย" พายุทำทีเป็นล้วงโทรศั
พอได้ยินยอดเงินที่แม่ขอจากเขาแล้วมือเรียวก็เอื้อมไปขอโทรศัพท์คืนไม่อยากให้เขาคุยต่อแล้ว {"ถ้าไม่มีเงินสินสอดถึงหนึ่งล้านบาท ก็อย่ามาคุยกับลูกสาวของฉัน"} เสียงนี้ยังดังเล็ดลอดออกมา"แม่หยุดนะ" พายุไม่ยอมส่งโทรศัพท์คืนให้ เธอก็เลยต้องร้องบอกให้แม่หยุดพูดก่อน>>{"ได้ครับ ผมให้คุณสองล้านเลย ถ้าคุณสัญญาว่าจะไม่มายุ่งเกี่ยวกับคะน้าอีก"}"มันพูดเล่นหรือพูดจริงวะ" เสียงผู้ชายดังเข้ามาในสาย และคะน้าก็จำได้ว่ามันเป็นเสียงของพ่อ"ผู้พันคะ" คะน้าเรียกเขาให้หันกลับมามองเธอก่อน พอเขาหันกลับมาเธอก็ส่ายหน้าเล็กน้อยเป็นสัญญาณบอกว่าอย่าไปคุยเรื่องเงินกับพ่อกับแม่"เอามาเดี๋ยวกูพูดเอง" เสียงผู้ชายที่ดังมาตามสายยังคงพูดต่อ เหมือนว่ากำลังแย่งโทรศัพท์กันคุย"ไม่ต้องมายุ่งนะนี่ลูกสาวฉัน!""อ้าวอีนี่ลูกมึงก็ลูกกูเหมือนกัน">>{"ผมอยากให้พวกคุณตกลงกันให้รู้เรื่องก่อนค่อยโทรกลับมาแค่นี้นะครับ"} {"อย่าเพิ่งสิคุณ"} พอได้ยินว่าทางฝั่งนี้จะวางสายทางนั้นก็รีบเรียกเอาไว้ก่อน>>{"ถ้าจะตกลงอะไรก็ต้องคิดให้ดีก่อน เพราะพวกคุณกำลังคุยกับข้าราชการระดับสูง จะผิดคำพูดไม่ได้"} {"ได้ๆ แม่ตกลง ถ้าได้เงินสองล้านบาทจริงแม
ลวงรักแฟนเก่า บทที่ 105🔞"คิดถึงคุณจังเลย" พอเข้ามาในห้องนอนลับตาเพื่อนเท่านั้นแหละ พายุก็คว้าร่างของเธอเข้ามากอดไว้แน่น"คะน้าก็คิดถึงคุณค่ะ" ใบหน้างามแนบลงแผ่นอกของชายคนรักเบาๆแต่กอดกันอยู่เพียงไม่นานเขาก็โน้มลงมาขอจูบหญิงสาวยื่นริมฝีปากขึ้นไปรับจูบนั้นแบบรู้งานเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ค่อยๆ ถูกปลดกระดุมออกโดยการช่วยกันคนละไม้ละมือ"ซี๊ดด ขอก่อนนะแล้วค่อยออกไปอาบน้ำกัน""ค่ะ อืออ" เนินอวบถูกของแข็งที่เขา จับถูไถอยู่เมื่อสักครู่สอดใส่เข้ามา ไม่ใช่แค่เขาหรอกที่ต้องการสิ่งนี้..เธอก็ต้องการมันเหมือนกันขาเรียวค่อยๆ แยกออกจากกันเองแบบไม่ต้องให้เขาใช้แรง แต่พายุก็ช่วยจับเพราะเธอไม่มีที่ยึดเหนี่ยว"เบาๆ นะคะ""ครับ" ใบหน้าคลอเคลียร์ฝังจูบลงซอกคอของหญิงอันเป็นที่รักเบาๆ พร้อมกับค่อยๆ ขยับ ดันสะโพกนั้นเข้าไปช่องกลางระหว่างขาเรียว "ไปที่เตียงดีไหมครับ"คะน้าส่ายหน้าตอบไป เขาคงอยากได้ในท่ายืนแต่คงกลัวว่าเธอจะเมื่อยขา"ซี๊ดด น่ารักจัง" ริมฝีปากหนาพรมจูบและสูดดมกลิ่นกายอันหอมละมุนพร้อมกับดันสะโพกเข้ามา"อ่ะ อ่ะ อื้อ" คนตัวเล็กเกาะร่างแกร่งไว้แน่น เพียงไม่นานพายุก็พาเธอมานอนลงที่เตียง เพราะตอนกระ
"ใครนั่งฮ.มาลงที่นี่" จากที่กำลังจะเม้าท์เรื่องของผู้พันคะน้า ตอนนี้เปลี่ยนมาพูดถึงเฮลิคอปเตอร์ที่เพิ่งจะลงจอด"ใครจะรู้ล่ะ ถ้าไม่ใช่เรือกลางทะเลก็ต้องเป็นท่านๆ นั่นแหละ" เรือกลางทะเลหมายถึงทหารที่ออกทำภารกิจอยู่บนเรือ ถ้ามีเหตุด่วนฉุกเฉินสามารถขอกลับฝั่งได้โดยเฮลิคอปเตอร์ แต่นั่นต้องผ่านการเซ็นต์ยินยอมจากคนที่มีอำนาจถือว่าเฮลิคอปเตอร์มาช่วยชีวิตแล้วกัน คะน้าไม่ได้สนใจ เพราะคิดว่าคงไม่ใช่เรื่องของตัวเองอยู่แล้ว ดีไปที่ขาเม้าท์มีเรื่องอื่นพูดคุยกันหญิงสาวนั่งทำงานจนถึงช่วงเย็นของวันเดียวกัน เธอก็รีบเก็บของแล้วกลับลงมาเพราะรู้สึกวิงเวียนศีรษะหนักมาก"?!?" ขาเรียวเก้าลงมาถึงขั้นสุดท้ายของบันได สายตามองไปเห็นผู้ชายที่ถือช่อดอกไม้ยืนอยู่เบื้องหน้า นี่เราคิดถึงเขามากเลยเหรอมองเห็นแสงตะวันที่สาดส่องมาเป็นเขาได้ยังไงเพื่อนๆ หลายคนที่ทยอยลงมาจากชั้นบนต่างก็หยุดไปตามๆ กัน ถ้าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าไม่มีอะไรพิเศษก็คงทำให้คนอื่นหยุดมองไม่ได้ แต่นี่เขาถือช่อดอกไม้ช่อใหญ่มาก จนเป็นเป้าสายตาของทุกคนที่อยู่แถวนั้น"......" ชายหนุ่มที่ยืนหอบช่อดอกไม้ช่อใหญ่อยู่แปลกใจ ทำไมเธอถึงทำเหมือนว่าคนที่ยืนอยู่ตร
"ฉันมาขอพบคุณพ่อค่ะ" ไม่มีใครไม่รู้จักเธอในฐานะลูกสะใภ้ของท่านนายพลทศกัณฐ์"เชิญผู้พันได้เลยครับ" ทหารที่เฝ้าอยู่หน้าห้องเคาะส่งสัญญาณบอกท่านเล็กน้อย ก่อนที่จะเปิดประตูห้องให้"ว่าไงเรา" ทศกัณฐ์ลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วชวนให้ลูกสะใภ้มานั่งอีกมุมหนึ่งซึ่งเป็นมุมรับแขก"งามมีเรื่องจะมาขอร้องคุณพ่อค่ะ""มีเรื่องจะมาขอร้อง เรื่องอะไร""คือว่า..." มุกงามทนเห็นเพื่อนอุ้มท้องโดยไม่มีพ่อไม่ได้แล้ว เธอต้องรีบจัดการเรื่องทุกอย่างก่อนที่ท้องของคะน้าจะโตขึ้นมา ถึงแม้ทั้งสองจะไม่ได้พูดคุยเรื่องนี้กัน แต่ความคิดของมุกงามก็ไม่ได้ต่างจากคะน้าเลย ถ้าท้องของคะน้าโตขึ้นมาโดยที่ยังไม่แต่งงาน ยิ่งเธอเป็นข้าราชการด้วยแล้ว มันก็จะดูไม่ดีบางทีอาจจะถูกตรวจสอบเลยก็ได้[บนเรือ] เวลาผ่านไปเพียงไม่นานจากตอนที่มุกงามขอเข้าพบพ่อของสามี ก็ได้มีทหารที่ทำงานในห้องสื่อสารมาตามผู้พันพายุไปรับโทรศัพท์ถ้ามีคนโทรขึ้นมาบนเรือแบบนี้ทหารจะตกใจมาก เพราะถ้าไม่ใช่เรื่องด่วนและคนที่โทรเข้ามาไม่ใหญ่พอตัวก็ไม่สามารถที่จะทำแบบนี้ได้ ที่ตกใจส่วนมากคนที่ได้รับโทรศัพท์ มีแค่ไม่กี่เรื่องถ้าญาติไม่ป่วยหนักก็คือญาติเสีย"มันคงไม่มีอะไรหรอก ไ