"ถ้าช่วยเธอแล้วฉันจะได้อะไร" "คุณต้องการอะไรล่ะคะ" ในเมื่อเขาถามมาแบบนั้น แล้วเธอจะตอบยังไงล่ะ..นอกจาก ถามเขากลับว่าต้องการอะไรจากเธอ "ยังไม่ได้คิด" สายตาเขายังคงจ้องมองดูผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้า อยากให้เธอเป็นคนเสนอมาเอง "คุณจะทำเป็นสัญญาขึ้นมา ก็ได้นะคะ ฉันจะทยอยใช้เงินคืนให้คุณ" "ยืมไปเป็นก้อน แต่จะใช้ทีละบาทสองบาท?" "คุณก็พูดมาสิคะว่าคุณต้องการแบบไหน" ตอนนี้เธอมองไม่เห็นทางไหนแล้วจริงๆ เขาจะดูถูกเธอแค่ไหนก็คงต้องทนเอา สายตาคมมองตั้งแต่ใบหน้าต่ำลงไปจนถึงจุดกึ่งกลางลำตัวของผู้หญิง จนคนที่ถูกมองรู้สึกอายสายตานั้น แต่เธอก็ยืนให้เขามองสำรวจเรือนร่างของเธอโดยไม่หลบไปไหน "ถ้าฉันบอกว่าต้องการตัวเธอล่ะ"
View More"จริงเหรอ?"
"ได้ยินมาแว่วๆ แบบนั้น"
"ก็เห็นว่ากิจการไปได้สวย แล้วทำไมถึงมีผู้บริหารคนใหม่เข้ามารับตำแหน่งล่ะ"
"ก็เพราะไปได้สวยนั่นแหละ ตอนนี้ท่านประธานขยายกิจการ"
"อ๋อเป็นแบบนี้เองเหรอ หวังว่าผู้บริหารคนใหม่คงใจดีเหมือนคนเก่านะ"
"ใจดีหรือใจไม่ดีก็ยังไม่รู้หรอก แต่ความหล่อกินขาด"
"พูดเหมือนว่าเห็นหน้าท่านแล้วงั้นแหละ"
"ไม่เห็นก็รู้ น้องสาวสวยขนาดนั้นพี่ชายจะเหลือเหรอ"
"น้องสาว?"
"ก็พี่ชายของคุณสโนไวท์ไง"
"มัวแต่คุยกันอยู่นั่นแหละ แล้วงานจะส่งทันไหม ทำให้ต้องพูดทุกวัน" พอเสียงนี้ดังขึ้น คนที่กำลังคุยกันอยู่ต้องรีบแยกย้ายไปหางานของตัวเองอย่างไว
"ชมจันทร์"
"คะ"
"ไปเอางานมาแก้ใหม่"
"แก้ใหม่งั้นเหรอคะ"
"งานชุ่ยๆ แบบนั้นจะไปเสนอผู้บริหารได้ยังไง"
"ใช้คำว่าชุ่ยเลยเหรอ"
"บ่นอะไร"
"แก้ก็แก้ค่ะ" ชมจันทร์ทำงานที่นี่มาก็เข้าปีที่สองแล้ว ถ้าเธอเรียนมหาวิทยาลัยจบคงได้ทำงานตำแหน่งที่สูงกว่านี้ แต่นี่ก็ถือว่าดีมากแล้วที่บริษัทใหญ่ขนาดนี้รับเธอเข้าทำงาน
สองชั่วโมงผ่านไป..
"อะไรกัน ให้แก้งานแค่นี้ยังไม่เสร็จอีกเหรอ"
"แต่ชมคิดว่างานเก่าก็ดีแล้วนี่คะ" เธอนั่งมองงานโปรเจคที่ส่งหัวหน้าไป หาจุดที่ต้องแก้อยู่เป็นนานสองนาน แต่ชมจันทร์ก็ยังหาไม่เจอ เพราะคิดว่างานที่ส่งไปดีที่สุดแล้ว
"ถ้าดีพี่จะให้แก้ไหม"
"พี่บอกได้ไหมคะ ว่างานที่ชมให้ไปไม่ดีตรงไหนจะได้แก้ตามใจพี่ได้ถูก"
"เธอประชดฉันเหรอ!"
"ชมเปล่าประชดสักหน่อย แค่อยากจะถาม.. ค่ะ ชมจะแก้ให้" ถ้าพูดอะไรไปอีกก็คงหาว่าประชดหรือไม่ก็คงว่าเถียง
"ฉันว่าแกแก้ๆ ไปเถอะ เอาที่พี่เพ็ญแกชอบนั่นแหละ"
"เชื่อไหมถ้าฉันแก้พี่แกก็ไม่ชอบอีกอยู่ดี"
"เชื่อสิ..ฉันถามอะไรแกหน่อยได้ไหม"
"ถ้าแกจะถามว่าทำไมพี่เพ็ญถึงไม่ชอบหน้าฉัน ไม่ต้องถามหรอกเพราะฉันก็ไม่รู้" แต่ก่อนก็ไม่ถึงขนาดนี้ แต่เดี๋ยวนี้ทำอะไรก็ผิดหูผิดตาไปหมด
หลังประชุมงานเสร็จหัวหน้าทุกแผนกก็กลับมา..
"เธอจะแกล้งฉันเหรอ" เพ็ญพักตร์พูดพร้อมกับโยนแฟ้มเอกสารนั้นลงตรงหน้าของชมจันทร์
"แกล้งยังไงคะ"
"เธอเอางานอะไรไปให้ฉันพรีเซ้นในห้องประชุม"
"ชมก็บอกแล้วว่างานเดิมดีกว่าพี่ก็ยัง.."
"เธอเตรียมตัวเก็บของ แผนกนี้ไม่ต้อนรับเธอแล้ว"
"คะ? เดี๋ยวนะคะพี่เพ็ญ พี่เป็นคนให้ฉันแก้งานเอง"
"แก้งานหรือยำให้มันเละกว่าเดิม การแก้งานมันต้องดีขึ้นสิ แต่นี่เธอรู้ไหมว่าในห้องประชุมเขาหัวเราะฉัน"
"มันเป็นความต้องการของพี่อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ"
"หมายความว่ายังไง เธอว่าฉันแกล้งเธองั้นเหรอ!"
"ทำไมพี่รู้ว่าฉันคิดอะไรอยู่"
"หึ! ฉันคิดว่าเราคงอยู่ร่วมกันไม่ได้แล้วล่ะ ฉันให้เธอเลือกระหว่างย้ายแผนกหรือลาออก"
"มีอะไรกันครับ" ชาคริตเข้ามาเห็นว่าทั้งสองเหมือนกำลังมีเรื่อง และขณะที่ถามเขาก็ได้ยื่นถุงอาหารในมือส่งให้กับชมจันทร์ "ผมออกไปคุยงานข้างนอกก็เลยซื้อเข้ามาฝากคุณ"
"ขอบคุณค่ะ"
"แล้วนี่กำลังมีปัญหาอะไรกันอยู่หรือเปล่าครับ ให้ผมช่วยอะไรไหม"
"ฉันคิดว่าคุณกลับไปแผนกของคุณดีกว่าไหมคะ"
"ครับ?" เพ็ญพักตร์ไม่เคยทำกิริยาแบบนี้กับชาคริต แต่พอหลังๆ มา ตั้งแต่ชาคริตเริ่มมีของติดไม้ติดมือมาฝากชมจันทร์ และตั้งแต่นั้นมาเพ็ญพักตร์ก็เริ่มออกอาการไม่ชอบหน้าชมจันทร์เอาสะเลย
แต่ที่ทุกคนไม่เอะใจ นั่นเพราะเพ็ญพักตร์มีครอบครัวอยู่แล้ว
"คุณก็รู้กฎของบริษัทดี ว่าห้ามนำของมากินในเวลางาน"
"คุณชาคริตเอากลับไปเถอะค่ะ"
ส่วนมากที่ชาคริตซื้อของมาให้ ชมจันทร์ก็ไม่ค่อยกินอยู่แล้ว คล้อยหลังชาคริตเธอก็ให้เพื่อนร่วมงานแบ่งกันกิน
"ถ้างั้นผมไปนะครับ" ชาคริตคิดว่าตัวเองทำให้เธอถูกหัวหน้าต่อว่า ก็เลยนำถุงที่ซื้อออกไปด้วย
"ฉันว่ามันแปลกอยู่นะ"
"แปลกยังไง"
"แต่มันจะเป็นแบบที่ฉันคิดไว้ไหม เพราะพี่เพ็ญก็มีลูกมีผัวอยู่แล้ว"
"แกพูดอะไร เดี๋ยวพี่เพ็ญได้ยินงานก็เข้าอีกหรอก"
ชมจันทร์ที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ได้ยินเพื่อนกระซิบพูดกัน ก็ชักมีเค้ามาบ้างแล้ว เพราะชาคริตเป็นหนุ่มโสดหน้าตาดี แถมหน้าที่การงานเขาก็ดีด้วย
วันต่อมา..
ชมจันทร์ก็ยังคงมาทำงานปกติ เธอไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมต้องกลัวด้วย
"ดีใจด้วยนะเพ็ญพักตร์ ถ้าเธอส่งงานอันนี้แต่ทีแรก งานของเธอก็ถูกเลือกแล้ว"
"มีอะไรกัน" ชมจันทร์มาถึง ก็เห็นว่าหัวหน้าในหลายแผนก ต่างก็แสดงความยินดีกับหัวหน้าแผนกของเธอ
"งานของหัวหน้าเราถูกเลือก"
"ถูกเลือกงั้นเหรอ" ชมจันทร์มองดูเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะของเธอ มันก็ยังคงอยู่ที่เดิมนี่
"ถ้าโบนัสปีนี้ได้เยอะ อย่าลืมเลี้ยงพวกเราด้วยล่ะ"
"ฉันไม่ลืมแน่" ขณะที่พูดกับเพื่อน เพ็ญพักตร์เหลือบตามองมาที่ชมจันทร์เล็กน้อย
อย่าบอกนะว่า? ความรู้ความสามารถของเธอมีเยอะ ถ้ามีเงินเรียนต่อ เธออาจจะคว้าเกียรตินิยมมาครองได้ มีหลายครั้งที่ทำงานให้หัวหน้าแล้วหัวหน้านำไปพรีเซ้นผ่าน และนั่นมันก็คือความดีความชอบของเธอด้วย แต่ครั้งนี้..
"มีอะไรเหรอชม"
"ฉันถามอะไรเธอหน่อยสิอันนา งานที่หัวหน้าไปเสนอ ใครเป็นคนทำให้เหรอ"
"หัวหน้าบอกว่าคิดมาเอง"
"อะไรนะ?"
"นั่นเธอจะไปไหน" อันนาเห็นว่าชมจันทร์เดินตามหัวหน้าไปที่ห้องทำงานก็รีบตามไป กลัวว่าเพื่อนจะมีเรื่อง
"เธอไม่ต้องมา" ชมจันทร์ก็กลัวว่าเพื่อนจะติดร่างแหไปด้วยเช่นกัน
แกร็ก.. มาถึงหน้าห้องชมจันทร์ก็เปิดประตูเข้าไปเลย
"ไม่มีมือหรือไง"
แปะ แปะ แปะ พอทักว่าไม่มีมือชมจันทร์ก็เลยตบมือ ให้ได้ยิน
"เธอเป็นบ้าเหรอ"
"ได้ข่าวว่าหัวหน้า Present งานผ่านเหรอคะ"
"ใช่"
"ทั้งที่เมื่อวานนี้หัวหน้ายังพูดว่าในที่ประชุมขำอยู่เลยนี่"
"ก็เมื่อคืนฉันไปนอนคิดงานมา"
"คิดเองแน่นะคะ ฉันขอดู Project ที่นำเสนอหน่อยสิ"
"อย่าลืมสิเธอเป็นแค่ลูกน้อง"
"หวังว่าคงไม่เป็นแบบที่ฉันคิดไว้นะคะ" ยิ่งเพ็ญพักตร์ไม่ให้ดู มันก็ยิ่งทำให้เธอแน่ใจ
"ออกไป"
เที่ยงวันเดียวกัน..
"ถึงยังไงงานนั้นเราก็ต้องให้หัวหน้าไปนำเสนออยู่แล้ว เธออย่าคิดมากนะ"
"ฉันไม่คิดมากหรอก" ชมจันทร์กัดฟันไว้ อย่าให้ถึงทีเธอแล้วกัน
"พวกเธอได้ยินอะไรหรือยัง" วิเวียร์ได้ยินข่าวก็รีบมาหาชมจันทร์และอันนา
"ได้ยินอะไรเหรอวิเวียร์"
"ชมจันทร์เป็นอะไรหรือเปล่า" ก่อนที่จะพูดหันมองไปดูหน้าเพื่อน เหมือนอารมณ์ไม่จอยเลย
"เดี๋ยวฉันจะเล่าให้ฟัง แต่เธอมีเรื่องอะไรมา"
"ก็ผู้บริหารคนใหม่น่ะสิ จะเข้ามาพรุ่งนี้แล้วนะ"
"จริงเหรอ"
ลวงรักแฟนเก่า บทที่ 108🔞 ตอนจบงานแต่งวันนี้พายุจัดได้ใหญ่โตมาก เทียบเท่ากับงานของทศนได้เลย เพราะเขาไม่อยากให้เธอน้อยหน้าใคร แถมเจ้าสาวไม่ต้องลงแรงทำอะไรเลยแค่รอรับการเซอร์ไพรส์จากเขาเท่านั้นพอ"ผมรักคุณ" ชายหนุ่มล้วงเอาแหวนเพชรที่เตรียมมาให้กับเธอออกมาเพื่อจะสวมใส่นิ้วนางข้างซ้ายคะน้ายื่นมือข้างซ้ายไปให้เขาได้สวมใส่"ถอดออกก่อนดีกว่าไหมครับ" ตรงนิ้วนางข้างซ้ายยังมีแหวนทองที่เขาขอหมั้นเธอ"ไม่ค่ะ สวมด้วยกันเลย" มันเป็นแหวนที่เขาให้คะน้าก็เลยไม่อยากจะถอดมันออกพายุก็เลยสวมแหวนเพชรเข้าไปนิ้วเดียวกับแหวนทอง วงที่ให้เธอก่อนหน้านั้นพอสวมแหวนเสร็จเสียงปรบมือก็ดังขึ้น "จูบเลย จูบเลย" กองเชียร์หลายคนต่างก็เชียร์ให้คู่บ่าวสาวแสดงความรักให้กับแขกได้เห็นมือหนาถูกยกขึ้นมาบังในขณะที่จูบปากเธออยู่ เพื่อไม่ให้มันเป็นภาพโจ่งแจ้งเกินไปสาวๆ ต่างก็กรี๊ดกันสนั่น เพราะมันเป็นฉากที่ฟินมาก ไม่เคยมีใครทำแบบนี้ เพราะนั่นหมายถึงเขาให้เกียรติเจ้าสาวมากพอพายุปล่อยจูบออกสายตาคนเป็นเจ้าสาวยังคงจับจ้องที่ใบหน้าเจ้าบ่าวของเธอ"คะน้าขอโทษด้วยนะคะ""คุณขอโทษผมทำไม""ขอโทษเรื่องที่พ่อกับแม่ไม่ได้มาร่วมงานนี้ด้วย"
"แน่ใจนะว่านี่ชุดกินเลี้ยง?" คะน้าแปลกใจตั้งแต่ที่มุกงามเลือกชุดให้ลองใส่ดูแล้ว"รับชุดนี้แหละค่ะสวยดี" มุกงามไม่ได้ตอบคะน้าหรอกแต่หันไปพูดกับเจ้าของร้าน"เดี๋ยวก่อนนะงาม..""ไม่เดี๋ยวแล้วเอาชุดนี้แหละ" มุกงามก็เลยยื่นบัตรเครดิตไปให้เจ้าของร้านรูด แต่บัตรที่มุกงามให้ไปไม่ใช่ของตัวเองหรอก เป็นของใครบางคนที่วานให้เธอทำงานนี้ให้"คะน้าจ่ายเองก็ได้" คะน้าพูดแบบเกรงใจก่อนที่จะรับชุดจากเจ้าของร้านมา"กลับกัน"คะน้าเดินตามมุกงามออกมา ทำไมวันนี้เพื่อนดูแปลกๆ ถามอย่างก็ตอบอย่าง[บ้านพักข้าราชการ]"พวกเขาไม่อยู่เหรอ" เข้ามาในบ้านก็ไม่เจอทั้งพายุและทศน ทั้งๆ ที่พวกเขายังอยู่ในช่วงลาพัก"คงออกไปธุระเราไม่ต้องรอหรอก" มุกงามเป็นคนตอบคะน้าขอตัวเอาของเข้าไปเก็บในห้อง และเธอก็อดโทรถามไม่ได้ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนทำไมโทรศัพท์ถึงไม่เปิด ..แต่โทรไปก็ไม่มีสัญญาณเลยค่ำมืดวันเดียวกัน.."อุ๊ย" ลงจากรถก็เห็นคะน้ายืนเท้าสะเอวอยู่หน้าประตู"ตัวใครตัวมันนะเว้ย" ทศนกระซิบพูดกับพายุก่อนที่จะเดินผ่านคะน้าเข้าไปในบ้าน"ผมไปทำธุระมาครับ""แล้วทำไมไม่รับโทรศัพท์ล่ะคะ""สงสัยว่าแบตผมจะหมดแน่เลย" พายุทำทีเป็นล้วงโทรศั
พอได้ยินยอดเงินที่แม่ขอจากเขาแล้วมือเรียวก็เอื้อมไปขอโทรศัพท์คืนไม่อยากให้เขาคุยต่อแล้ว {"ถ้าไม่มีเงินสินสอดถึงหนึ่งล้านบาท ก็อย่ามาคุยกับลูกสาวของฉัน"} เสียงนี้ยังดังเล็ดลอดออกมา"แม่หยุดนะ" พายุไม่ยอมส่งโทรศัพท์คืนให้ เธอก็เลยต้องร้องบอกให้แม่หยุดพูดก่อน>>{"ได้ครับ ผมให้คุณสองล้านเลย ถ้าคุณสัญญาว่าจะไม่มายุ่งเกี่ยวกับคะน้าอีก"}"มันพูดเล่นหรือพูดจริงวะ" เสียงผู้ชายดังเข้ามาในสาย และคะน้าก็จำได้ว่ามันเป็นเสียงของพ่อ"ผู้พันคะ" คะน้าเรียกเขาให้หันกลับมามองเธอก่อน พอเขาหันกลับมาเธอก็ส่ายหน้าเล็กน้อยเป็นสัญญาณบอกว่าอย่าไปคุยเรื่องเงินกับพ่อกับแม่"เอามาเดี๋ยวกูพูดเอง" เสียงผู้ชายที่ดังมาตามสายยังคงพูดต่อ เหมือนว่ากำลังแย่งโทรศัพท์กันคุย"ไม่ต้องมายุ่งนะนี่ลูกสาวฉัน!""อ้าวอีนี่ลูกมึงก็ลูกกูเหมือนกัน">>{"ผมอยากให้พวกคุณตกลงกันให้รู้เรื่องก่อนค่อยโทรกลับมาแค่นี้นะครับ"} {"อย่าเพิ่งสิคุณ"} พอได้ยินว่าทางฝั่งนี้จะวางสายทางนั้นก็รีบเรียกเอาไว้ก่อน>>{"ถ้าจะตกลงอะไรก็ต้องคิดให้ดีก่อน เพราะพวกคุณกำลังคุยกับข้าราชการระดับสูง จะผิดคำพูดไม่ได้"} {"ได้ๆ แม่ตกลง ถ้าได้เงินสองล้านบาทจริงแม
ลวงรักแฟนเก่า บทที่ 105🔞"คิดถึงคุณจังเลย" พอเข้ามาในห้องนอนลับตาเพื่อนเท่านั้นแหละ พายุก็คว้าร่างของเธอเข้ามากอดไว้แน่น"คะน้าก็คิดถึงคุณค่ะ" ใบหน้างามแนบลงแผ่นอกของชายคนรักเบาๆแต่กอดกันอยู่เพียงไม่นานเขาก็โน้มลงมาขอจูบหญิงสาวยื่นริมฝีปากขึ้นไปรับจูบนั้นแบบรู้งานเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ค่อยๆ ถูกปลดกระดุมออกโดยการช่วยกันคนละไม้ละมือ"ซี๊ดด ขอก่อนนะแล้วค่อยออกไปอาบน้ำกัน""ค่ะ อืออ" เนินอวบถูกของแข็งที่เขา จับถูไถอยู่เมื่อสักครู่สอดใส่เข้ามา ไม่ใช่แค่เขาหรอกที่ต้องการสิ่งนี้..เธอก็ต้องการมันเหมือนกันขาเรียวค่อยๆ แยกออกจากกันเองแบบไม่ต้องให้เขาใช้แรง แต่พายุก็ช่วยจับเพราะเธอไม่มีที่ยึดเหนี่ยว"เบาๆ นะคะ""ครับ" ใบหน้าคลอเคลียร์ฝังจูบลงซอกคอของหญิงอันเป็นที่รักเบาๆ พร้อมกับค่อยๆ ขยับ ดันสะโพกนั้นเข้าไปช่องกลางระหว่างขาเรียว "ไปที่เตียงดีไหมครับ"คะน้าส่ายหน้าตอบไป เขาคงอยากได้ในท่ายืนแต่คงกลัวว่าเธอจะเมื่อยขา"ซี๊ดด น่ารักจัง" ริมฝีปากหนาพรมจูบและสูดดมกลิ่นกายอันหอมละมุนพร้อมกับดันสะโพกเข้ามา"อ่ะ อ่ะ อื้อ" คนตัวเล็กเกาะร่างแกร่งไว้แน่น เพียงไม่นานพายุก็พาเธอมานอนลงที่เตียง เพราะตอนกระ
"ใครนั่งฮ.มาลงที่นี่" จากที่กำลังจะเม้าท์เรื่องของผู้พันคะน้า ตอนนี้เปลี่ยนมาพูดถึงเฮลิคอปเตอร์ที่เพิ่งจะลงจอด"ใครจะรู้ล่ะ ถ้าไม่ใช่เรือกลางทะเลก็ต้องเป็นท่านๆ นั่นแหละ" เรือกลางทะเลหมายถึงทหารที่ออกทำภารกิจอยู่บนเรือ ถ้ามีเหตุด่วนฉุกเฉินสามารถขอกลับฝั่งได้โดยเฮลิคอปเตอร์ แต่นั่นต้องผ่านการเซ็นต์ยินยอมจากคนที่มีอำนาจถือว่าเฮลิคอปเตอร์มาช่วยชีวิตแล้วกัน คะน้าไม่ได้สนใจ เพราะคิดว่าคงไม่ใช่เรื่องของตัวเองอยู่แล้ว ดีไปที่ขาเม้าท์มีเรื่องอื่นพูดคุยกันหญิงสาวนั่งทำงานจนถึงช่วงเย็นของวันเดียวกัน เธอก็รีบเก็บของแล้วกลับลงมาเพราะรู้สึกวิงเวียนศีรษะหนักมาก"?!?" ขาเรียวเก้าลงมาถึงขั้นสุดท้ายของบันได สายตามองไปเห็นผู้ชายที่ถือช่อดอกไม้ยืนอยู่เบื้องหน้า นี่เราคิดถึงเขามากเลยเหรอมองเห็นแสงตะวันที่สาดส่องมาเป็นเขาได้ยังไงเพื่อนๆ หลายคนที่ทยอยลงมาจากชั้นบนต่างก็หยุดไปตามๆ กัน ถ้าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าไม่มีอะไรพิเศษก็คงทำให้คนอื่นหยุดมองไม่ได้ แต่นี่เขาถือช่อดอกไม้ช่อใหญ่มาก จนเป็นเป้าสายตาของทุกคนที่อยู่แถวนั้น"......" ชายหนุ่มที่ยืนหอบช่อดอกไม้ช่อใหญ่อยู่แปลกใจ ทำไมเธอถึงทำเหมือนว่าคนที่ยืนอยู่ตร
"ฉันมาขอพบคุณพ่อค่ะ" ไม่มีใครไม่รู้จักเธอในฐานะลูกสะใภ้ของท่านนายพลทศกัณฐ์"เชิญผู้พันได้เลยครับ" ทหารที่เฝ้าอยู่หน้าห้องเคาะส่งสัญญาณบอกท่านเล็กน้อย ก่อนที่จะเปิดประตูห้องให้"ว่าไงเรา" ทศกัณฐ์ลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วชวนให้ลูกสะใภ้มานั่งอีกมุมหนึ่งซึ่งเป็นมุมรับแขก"งามมีเรื่องจะมาขอร้องคุณพ่อค่ะ""มีเรื่องจะมาขอร้อง เรื่องอะไร""คือว่า..." มุกงามทนเห็นเพื่อนอุ้มท้องโดยไม่มีพ่อไม่ได้แล้ว เธอต้องรีบจัดการเรื่องทุกอย่างก่อนที่ท้องของคะน้าจะโตขึ้นมา ถึงแม้ทั้งสองจะไม่ได้พูดคุยเรื่องนี้กัน แต่ความคิดของมุกงามก็ไม่ได้ต่างจากคะน้าเลย ถ้าท้องของคะน้าโตขึ้นมาโดยที่ยังไม่แต่งงาน ยิ่งเธอเป็นข้าราชการด้วยแล้ว มันก็จะดูไม่ดีบางทีอาจจะถูกตรวจสอบเลยก็ได้[บนเรือ] เวลาผ่านไปเพียงไม่นานจากตอนที่มุกงามขอเข้าพบพ่อของสามี ก็ได้มีทหารที่ทำงานในห้องสื่อสารมาตามผู้พันพายุไปรับโทรศัพท์ถ้ามีคนโทรขึ้นมาบนเรือแบบนี้ทหารจะตกใจมาก เพราะถ้าไม่ใช่เรื่องด่วนและคนที่โทรเข้ามาไม่ใหญ่พอตัวก็ไม่สามารถที่จะทำแบบนี้ได้ ที่ตกใจส่วนมากคนที่ได้รับโทรศัพท์ มีแค่ไม่กี่เรื่องถ้าญาติไม่ป่วยหนักก็คือญาติเสีย"มันคงไม่มีอะไรหรอก ไ
"งามว่าไปหาหมอดีกว่า" คะน้าไม่ได้มีอาการแค่ตอนทำกับข้าว ตอนทานข้าวคะน้าก็ทานไม่ค่อยลง"นอนให้เต็มอิ่มสักคืนพรุ่งนี้ตื่นมาคงหายดี""ถ้าไม่หายพรุ่งนี้ต้องไปหาหมอกับงามนะ" มุกงามรู้สึกคาใจกับอาการที่เพื่อนเป็นอยู่ แต่เพื่อนยังไม่แต่งงานคงไม่ปล่อยให้ตัวเองท้องก่อนแต่งหรอกมั้ง เธอก็เลยไม่กล้าพูดกล้าถามออกมา นอกเสียจากพาไปให้หมอเช็คให้แน่ใจคะน้าทานข้าวต้มที่มุกงามทำมาให้แล้วก็นอนพักผ่อน มุกงามสั่งไว้ว่าห้ามทานยาตัวไหนทั้งนั้น คะน้าก็เลยไม่ทานที่มุกงามสั่งไว้แบบนี้เพราะถ้าเป็นแบบที่คิดไว้จริง กลัวจะมีผลกระทบ...จนถึงเช้าวันต่อมา..เมื่อคืนนี้คะน้าพยายามนอนให้หลับ บังคับตัวเองไม่ให้คิดอะไร พอตื่นขึ้นมาก็อาการดีขึ้น"ดีขึ้นแล้วแน่นะ""ดีขึ้นแล้วไม่เวียนหัวเหมือนเมื่อวาน ขอบใจมากนะงาม""ถ้าไม่ไหวก็กลับมาพักผ่อนนะ""จ้ะ" ทั้งสองก็เลยออกมาทำงานพร้อมกันคะน้าทำงานปกติ และอาการแบบเมื่อวานก็ไม่ได้เกิดขึ้นอีกเลยจนมาถึงช่วงเย็น ทั้งสองกลับมาเจอกันที่บ้านอีกครั้ง"วันนี้เป็นยังไงบ้าง" มุกงามเป็นห่วงเพื่อนตอนเที่ยงก็ยังโทรไปถามอาการ ถึงตอนเย็นก็ยังถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ"ไม่เป็นอะไรแล้ว""อาการอาเ
"พอดีเลยค่ะ" คะน้ายกมือขึ้นมามองแหวนวงที่เขาเพิ่งสวมให้ด้วยรอยยิ้มที่ยากจะบรรยายพายุเห็นรอยยิ้มเธอก็อดที่จะอมยิ้มไปด้วยไม่ได้ จะไม่ให้พอดีได้ยังไงเขาแอบวัดขนาดตอนที่เธอหลับอยู่"รอผมกลับมานะเราจะจัดงานแต่งกัน""ค่ะ" ใบหน้างามแนบลงกับอกแกร่งเบาๆเช้าวันต่อมา..เมื่อคืนนี้ไม่รู้เผลอหลับไปตอนไหน แต่พอตื่นขึ้นมาก็ไม่เห็นเขานอนอยู่ข้างๆ แล้ว"เขาไปแล้วเหรอ" หญิงสาวที่ร่างกายเปลือยเปล่าแต่ก็มีผ้าห่มคลุมร่างของเธออยู่ รีบลุกขึ้นแล้วคว้าผ้าเช็ดตัวพันรอบร่างกายไว้ ก่อนที่จะรีบออกมาจากห้อง"ทำไมออกมาแบบนี้" พายุออกจากห้องน้ำก็เห็นเธอมีแค่ผ้าเช็ดตัว"ฉันคิดว่าคุณออกไปแล้ว""ถ้าไปผมก็ต้องปลุกสิ ผมแค่มาอาบน้ำ"พอได้ยินเสียงปลดล็อกประตูห้องของทศน พายุก็รีบพาเธอเข้ามาในห้อง"คุณจะไปลงเรือตอนไหนคะ""คงสายๆ หน่อย""สายๆ เหรอ" เมื่อวานนี้เธอก็ลางานครึ่งวันแล้ว ถ้าลาวันนี้ไปส่งเขาอีกจะเป็นอะไรไหม"ส่งผมแค่นี้ก็ได้" เขาพอจะเดาได้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่"โทรมาหาฉันบ่อยๆ นะคะ""ครับ"[ที่ทำงานของคะน้า]"ผู้พันมองอะไรอยู่คะ" เพื่อนร่วมงานเห็นคะน้ามองไปทางท่าเรือก็เลยสงสัย"ป่านนี้เรือจะออกหรือยัง""เห็นว่าต
จากคนที่เคยพูดหยอกล้อ ตอนนี้นั่งเศร้าไม่ต่างกัน เพราะพรุ่งนี้มีคำสั่งขึ้นเรือแล้ว"เราขอย้ายดีไหมวะ""กว่าคำสั่งย้ายจะออกมา เป็นปีเลยนะ""ถ้ากูไม่อยู่แล้วเมียกูจะอยู่ยังไงล่ะ""เรียกเมียได้เต็มปากเลยนะ มึงขอเขาแต่งงานหรือยัง"เที่ยงวันเดียวกัน.."ทำไมคุณไม่โทรมาก่อนคะ" คะน้าลงมาก็เห็นเขายืนทำมาดเท่รออยู่หน้ารถแล้ว"ผมก็เพิ่งมาถึง" พายุพูดพร้อมกับเปิดประตูรถให้เธอขึ้น[ร้านอาหารนอกกอง]"ทำไมออกมาทานไกลจังคะ เดี๋ยวก็เข้างานไม่ทันหรอก""ผมอยากทำอะไรพิเศษๆ ให้กับคุณบ้าง""มีอะไรหรือเปล่าคะ" ทั้งสองคุยกันระหว่างรออาหารที่เพิ่งสั่งไป"พรุ่งนี้มีคำสั่งให้ขึ้นเรือแล้ว"ไม่มีคำพูดใดๆออกจากปากของผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงหน้า เพราะเธอพูดไม่ออก"ครั้งนี้ไม่รู้จะออกเรือกี่เดือน ถ้าทะเลสงบก็คงอยู่นานหน่อย""ค่ะ" เธอก็เป็นทหารเหมือนกันทำไมจะไม่รู้ แต่ถึงแม้เป็นทหารก็มีหัวใจ"ผมจะโทรมาหาคุณบ่อยๆ นะ" แต่ก่อนเคยเห็นแต่เพื่อนแย่งโทรขึ้นฝั่งกัน ครั้งนี้คงมีเขาร่วมด้วยอีกคนเพียงไม่นานอาหารก็ถูกยกมาบริการ ถ้าเขาบอกหลังทานข้าวก็คงจะดี แล้วตอนนี้ใครจะทานลงล่ะ"ทานนี่สิครับ" มือหนาตักอาหารวางใส่ชามข้าวให้คะน้าพ
Comments