“อืม...อย่าคิดมากเลยค่ะคุณถ้าหลานยังมีวาสนายังไงก็ได้กลับมาค่ะ”
แขไขอมยิ้มเล็กน้อยพร้อมตีหน้าเศร้าปลอบใจสามีของเธอ
“เฮ้อ....”
อิทธิวัฒน์กุมขมับเขาจนปัญญากับเรื่องนี้จริงๆเพราะที่นั่นค่อนข้างไม่เจริญถนนหนทางไม่มีไฟไม่มีกล้องผู้คนก็ยังไม่ค่อยผ่านด้วยซ้ำ
“เอาอย่างนี้สิคะ...คุณก็เร่งให้คุณเหนือมีครอบครัวไวๆสิคะจะได้มีหลานเร็วๆ...คือแขไม่ได้คิดในแง่ลบนะคะว่าหลานเราจะไม่กลับมาแต่นี่มันก็หลายวันแล้ว”
แขไขถือโอกาสพูดเรื่องที่ลูกสาวเธอขอร้องให้ช่วยทันทีพร้อมทั้งยังพูดในทำนองที่อยากจะให้สามีเธอตัดใจเรื่องหลานอีกด้วยเพราะเธอแน่ใจว่ายังไงก็ไม่มีวันกลับมา
“ก็จริงอย่างที่คุณพูดนะ...แต่การที่จะบังคับตาเหนือให้มีครอบครัวคงจะยากแล้วใครมันจะมาทนคนอย่างตาเหนือได้”
อิทธิวัฒน์นั้นเป็นคนที่ค่อนข้างจะเชื่อคำพูดของแขไขเป็นซะส่วนใหญ่เพราะคิดว่าหญิงสาวนั้นหวังดีกับเขามาตลอดแต่เขาเองก็ยังมองไม่เห็นภาพว่าเหนือเมฆลูกชายคนเล็กของเขานั้นจะมีครอบครัวเพราะคิดว่าคงจะมีผู้หญิงที่ทนกับนิสัยของเหนือเมฆได้ยาก
“คุณต้องลองพูดดูก่อนค่ะ...ส่วนคนที่ทนคุณเหนือได้แล้วก็ดูเหมาะสมกันแขดูไว้แล้วล่ะค่ะน้องเอมลูกสาวแขไงคะ”
แขไขยังยุยงให้อิทธิวัฒน์นั้นลองพูดกับลูกชายของเขาดูก่อนและยังเอ่ยปากเสนอให้จับคู่กับลุกสาวของเธออีกด้วย
“หนูเอมเนี่ยเเหรอ...นี่เราจะจับคู่พวกเค้าใช่ไหม”
“ไม่ดีเเหรอคะ...คนในครอบครัวทั้งนั้นจะได้สบายใจว่าคุณเหนือจะไม่ไปคว้าเอาคนไม่ดีมาไงคะ”
แขไขยังพยายามหว่านล้อมทุกวิถีทางให้สามีเธอเชื่อฟังเธอ
“อืมม...แล้วผมจะลองคุยกับตาเหนือดูก็แล้วกัน”
อิทธิวัฒน์เองก็เห็นดีเห็นงามกับเรื่องที่คนเป็นภรรยาของเขาพูดเขารับปากเธอว่าจะลองคุยกับเหนือเมฆให้เพราะเขาเองในใจลึกๆก็อยากให้ลูกชายคนเล็กของเขาเป็นฝั่งเป็นฝาเสียทีเพราะอายุก็เกือบจะ35แล้วเขาเองก็ป่วยอยู่บ่อยครั้งหากเขาเป็นอะไรจะได้ตายตาหลับ
“ค่ะ...นอนกันเถอะค่ะคุณนอนดึกสุขภาพจะไม่ดีเอานะคะ”
แขไขพอใจที่อิทธิวัฒน์นั้นเชื่อฟังเธอตลอด
“เห็นจะมีแต่คุณที่ห่วงผมลูกชายที่คอยดูแลผมก็จากไปแล้วส่วนอีกคนตอนนี้ก็ยังไม่เห็นหัว”
อิทธิวัฒน์เชื่อใจแขไขอย่างสนิทใจว่าเธอมีแต่ความหวังดีให้เขาคอยดูแลเขาอย่างไม่ขาดตกบกพร่องผิดกับลูกชายคนเล็กของเขาที่เวลานี้ก็ไม่เห็นหัว
วันต่อมา
“คุณพ่อเรียกผมมาที่บ้านมีธุระอะไรก็รีบพูดมาครับผมมีธุระต้องไปทำต่อ”
เหนือเมฆมาที่บ้านของเขาในตอนเช้าเพราะนภัสแจ้งว่าพ่อของเขามีเรื่องด่วนจะคุยด้วยเมื่อมาถึงเห็นทั้งพ่อเขาแม่เลี้ยงและเอมิกาอยู่พร้อมหน้ากันก็เสียอารมณ์ทันที
“หึ่...ฉันจะเรียกแกมาทั้งทีก็ต้องมีธุระสินะ...เอาล่ะฉันก็มีธุระจริงๆนั่นแหละฉันอยากจะให้แกแต่งงานมีครอบครัวเสียที”
คำถามของลูกชายคนเล็กของเขาอดทำให้อิทธิวัฒน์น้อยใจไม่ได้แต่เขาก็ทำใจไว้แล้วพร้อมทั้งรีบเปิดประเด็นเรื่องที่เรียกมาที่บ้านแต่เช้าทันที
“อะไรนะครับ”
เหนือเมฆไม่เข้าใจว่าพ่อของเขาจะมาอยากให้เขามีครอบครัวอะไรตอนนี้ทั้งที่เขาเองก็ยังไม่มีใครที่ถูกใจเลยสักคนและใช้ชีวิตแบบนี้เขาก็สบายดีอยู่แล้วไม่เห็นต้องมีคำว่าครอบครัวมาเป็นบ่วงผูกคอเลย
“แกเห็นใจฉันหน่อยเถอะนะฉันก็แก่แล้วหากฉันเป็นอะไรไปฉันจะได้ตายตาหลับพี่แกก็ไม่อยู่แล้วแกช่วยทำเพื่อฉันหน่อยเถอะนะ”
“มีครอบครัวเเหรอครับแต่ผมยังไม่ได้อยากแต่งงานกับใครนี่ครับ”
เหนือเมฆยังยืนยันว่าเขานั้นยังไม่อยากที่จะมีครอบครัว
“หนูเอมไงเธอเหมาะสมกับแกจะตายแต่งๆกันไปก็รักกันเอง”
อิทธิวัฒน์เปิดประเด็นความตั้งใจที่แท้จริงว่าเขาอยากจะให้ลูกชายของเขาแต่งงานกับใครตามที่ได้โดนคนเป็นภรรยายุยงมา
“นี่คงไม่ใช่ความคิดของคุณพ่อตั้งแต่แรกสินะครับ...ผมขอตัวผมมีธุระต้องไปทำต่อผมขอบอกไว้เลยนะครับผมจะแต่งกับใครก็ได้ถ้าไม่ใช่ยัยนี่”
เหนือเมฆพอจะรู้แล้วว่าเรื่องนี้คงไม่ใช่ความคิดของพ่อเขาเองเป็นแน่พร้อมทั้งประกาศก้องว่าเขาจะไม่ยอมแต่งงานกับเอมิกาเป็นแน่และเดินออกไปจากบ้านอย่างไม่สนใจใครและมุ่งหน้าไปที่ลำปางทันทีที่ขึ้นรถได้
วันต่อมา
ลำปาง
09.00 น.
เหนือเมฆและนภัสมาถึงที่นี่ตั้งแต่เมื่อคืนแต่ภูผาเองก็ไม่ได้อยู่ที่บ้านเพราะทำงานค่อนข้างไม่เป็นเวลาเมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับป่าไม้ก็ต้องเข้าไปดูทันที
“เป็นไงมั่งหลับสบายไหม”
ภูผากลับมาที่บ้านในช่วงเช้าเห็นเพื่อนของเขานั่งอยู่กับนภัสที่หน้าบ้านก็รีบขึ้นมาทักทาย
“ก็ดี”
“โทษทีที่เมื่อคืนไม่ได้อยู่ต้อนรับ”
วันต่อมา“พี่ไปทำงานก่อนนะ”ได้เวลาที่ภูผาจะต้องไปทำงานแล้ววันนี้เขาไม่ยักจะเห็นหญิงสาวเดินมาส่งที่หน้าบ้านเขาจึงต้องเข้าไปบอกหญิงสาวเองว่าเขากำลังจะไปทำงานแล้ว“อืม...”พระพายตอบชายหนุ่มเพียงคำสั้นๆไม่มองเขาแม้แต่นิดเดียวเพราะกำลังให้นมลูกของเธออยู่“พ่อไปทำงานก่อนนะครับ”ภูผาไม่อยากจะหาเรื่องคุยกับหญิงสาวตอนนี้เขาไม่รู้ว่าเธอโกรธเรื่องอะไรถึงได้มีท่าทีเฉยชาแต่ขอเขากลับจากทำงานก่อนค่อยคุยกันจะดีกว่าเขาก้มลงไปจูบหน้าผากของลูกสาวของเขาแล้วออกไปทำงานทันที//รู้บ้างไหมว่าโกรธอยู่เนี่ย//พระพายยิ่งเห็นชายหนุ่มไม่ถามอะไรเธอบ้างว่าเธอเป็นแบบนี้เพราะอะไรก็ยิ่งหงุดหงิดแต่เมื่อมองหน้าลูกเธอก็ใจเย็นลงมากตอนนี้เธอขอสนใจแต่ลูกก่อนจะดีกว่ากลัวว่านึกถึงชายหนุ่มแล้วเธอจะพาลใจขุ่นมัวเย็นของวันภูผากลับบ้านมาได้พักใหญ่แล้วตอนนี้หญิงสาวก็เข้าครัวทำกับข้าวอยู่ส่วนลูกก็นอนเล่นอยู่ในเปลโดยมีเขาที่คอยอยู่ข้างๆชายหนุ่มนั่งคิดแล้วคิดอีกก็ยังคิดไม่ตกว่าหญิงสาวนั้นเป็นอะไรกลับมาคิดว่าอาการจะดีขึ้นกลับเหมือนจะยิ่งกว่าเดิม“อาหารเย็นเรียบร้อยแล้วค่ะ”พระพายทำกับข้าวสองสามอย่างวางที่โต๊ะอาหารให้ชายหนุ่ม“พายเป็น
โรงพยาบาลในระหว่างที่เหนือเมฆเดินทางกลับพาขวัญก็ถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลเพราะเธอรู้สึกปวดท้องอย่างมากเหนือเมฆเลยต้องเปลี่ยนเป้าหมายจากที่บ้านไปที่โรงพยาบาลอย่างร้อนใจ“ขวัญ...เป็นไงบ้าง”พยาบาลเข็นเตียงหญิงสาวเข้าห้องผ่าตัดเหนือเมฆอยากจะรู้ว่าอาการของภรรยาของเขาเป็นอย่างไรเพราะเขากลัวว่าเธอจะมีอันตรายส่วนเรื่องติดต่อกับเอมิกาเธอให้เดย์จัดการอยู่“ขวัญโอเคค่ะ...พาจันทร์เจ้ากลับมาให้ได้นะคะ”พาขวัญยิ้มให้คนเป็นสามีตัวเธอตอนนี้ถึงมือหมอแล้วเธอโอเคแต่เธอห่วงจันทร์เจ้ามากกว่า“พี่สัญญา”เหนือเมฆรู้สึกกังวลไปเสียทุกเรื่อถึงภรรยาของเขาจะบอกว่าโอเคแต่การผ่าตัดทำคลอดด่วนเขาก็รู้ว่ายังไงมันก็อยู่ในภาวะเสี่ยงอยู่ดีแต่เขาก็ยต้องชั่งใจไม่ให้กังวลคิดเสียว่าภรรยาของเขาอยู่ในมือหมอแล้วคงจะปลอดภัย“ได้ที่อยู่มาแล้วครับคุณเหนือ”นภัสติดต่อกับเอมิกาได้ก็รีบมาบอกคนเป็นนายอย่างรีบร้อน“งั้นเราไปกันเลย”เหนือเมฆไม่รอช้าเมื่อติดต่อเอมิกาได้เงินที่เธออยากได้เขาก็เตรียมพร้อมหมดแล้วขอแค่เขาได้จันทร์เจ้าคืนมาเงินเท่าไรเขาก็ยอมแลกวันต่อมาช่วงเย็นของวัน“อือ.อืมม...”“ฟื้นแล้วเหรอ”เหนือเมฆรีบเดินไปที่เตียงภรรย
3 เดือนต่อมาบ้านเหนือเมฆ“จันทร์เจ้าขา...อย่าหนีคุณแม่สิคะ”ตอนนี้ท้องของพาขวัญก็แก่ใกล้คลอดเต็มทีหญิงสาวจึงเดินตามลูกสาวของเธอไม่ค่อยจะไหวหนูน้อยจันทร์เจ้าก็ได้ขวบครึ่งแล้วเด็กหญิงเดินแทบจะทั้งวันหยุดได้ก็เห็นจะเป็นเวลานอนเท่านั้นแหละ“.หม่ำๆ หนมหย่อย”หนูน้อยเดินกลับมาหาคนเป็นแม่พร้อมชี้ไปที่ขนมผักที่อยู่ในกล่องแน่นอนว่าหนูน้อยอยากจะกินมันอีกแล้ว“หิวอีกแล้วเหรอคะ...อะนี่ค่ะคุณแม่ให้”พาขวัญเห็นว่าช่วงนี้จันทร์เจ้าชอบกินแต่ขนมจนเธอต้องให้เหนือเมฆซื้อติดบ้านไว้อาทิตย์ละหลายๆกล่องใจก็กลัวว่าหนูน้อยจะไม่สบายท้องแต่ก็เห็นหน้าอันจิ้มลิ้มและสายตาที่อ้อนวอนเธอก็อดจะให้หนูน้อยกินตามใจปากไม่ได้“เอา...”จันทร์เจ้ารับขนมจากคนเป็นแม่ใส่ในมือข้างขวาแต่มือข้างซ้ายก็แบขอคนตรงหน้าอีก“กินในมือให้หมดก่อนค่ะ”ถึงพาขวัญจะตามใจเรื่องกินแต่เธอก็ต้องให้จันทร์เจ้านั้นรู้จักกินทีละอย่างไม่โลภมากถือสองไม้สองมือ“กลับมาแล้วเหรอคะ”“จะ”ฟอดดด“จันทร์เจ้าครับ”เหนือเมฆเข้ามากอดคนเป็นภรรยาพร้อมหอมหญิงสาวฟอดใหญ่และหันไปเล่นกับลูกสาวตัวกลมของเขาต่อ“คูนน.พ่อ...ดีจ้า”หนูน้อยจันทร์เจ้าเห็นคนเป็นพ่อกลับมาก็รีบเดิ
“หืมม...สังขยา”เมื่อถาดสังขยามาวางตรงหน้าหญิงสาวก็ไม่รีรอที่จะตักแบ่งใส่จานกินกับข้าวเหนียวมูนอย่างคำโต“ค่อยๆกินก็ได้ขวัญ...ไม่กลัวอ้วนเหรอ”เหนือเมฆไม่เคยเห็นพาขวัญทานเยอะขนาดนี้มาก่อนสงสัยนี่จะเป็นของโปรดจริงๆแต่ก็อดแซวไม่ได้ว่าภรรยาของเขาจะน้ำหนักขึ้น“ไม่ค่ะได้กินของโปรดทั้งที”พาขวัญไม่กลัวอะไรแล้วนานๆทีได้กินของโปรดฝีมือของมานีทั้งทีหญิงสาวจึงตักเข้าปากไม่หยุดและไม่มีท่าทีว่าจะอิ่มด้วยซ้ำจนคนอื่นๆรอบโต๊ะอาหารไม่มีใครกล้าตักแบ่งสังขยาในถาดเข้ามาในจานของตัวเองเลยเพราะกลัวว่าจะไปแย่งพาขวัญ“พายไม่กินเหรอ”ตอนนี้ทุกคนก็ต่างทานของหวานกันล้างปากมีอยู่คนเดียวที่ไม่กินเห็นจะเป็นพระพายพาขวัญจึงต้อถามขึ้นว่าเพื่อนเธอไม่หิวหรืออย่างไรหรือจะไดเอทไว้ใส่ชุดแต่งงานอันนี้เธอก็ไม่แน่ใจ“ไม่อ่ะ...ฉันมีไอ้นี่...กินด้วยกันไหม”พระพายรู้สึกไม่ค่อยอยากจะกินของหวานพวกนี้เท่าไรเพราะตอนนี้เธอมีมะม่วงน้ำปลาหวานที่ชวนน้ำลายสออยู่มือที่แม่ของเธอพึ่งจะยื่นให้เมื่อกี้นี้เอง“เอาสิ...”พาขวัญเห็นว่าอะไรอยู่ในมือเพื่อนของเธอก็ตาลุกวาวเธอรู้สึกเปรี้ยวปากขึ้นมาในทันที“ยังไม่อิ่มอีกเหรอขวัญ”เหนือเมฆถึงกับผงะจ
“ใครใช้ให้คุณไปบอกพวกเค้ากันล่ะ...ทำให้มันเงียบไปก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว”เธอคิดไว้แล้วว่าแม่เธอต้องมีอะไรบิดบังเธออยู่เป็นแน่แต่ก็ไม่ยักจะรู้ว่าแม่เธอกับชายหนุ่มหาเวลาไปคุยกันตอนไหนเธอคิดว่าถ้าปล่อยให้เรื่องเงียบไปโดยที่ชายหนุ่มไม่ต้องมาใส่ใจกับเธอแค่นี้ทุกอย่างก็จะเงียบและเธอก็จะทำใจกับเรื่องนี้ได้เอง“รักตัวองบ้างหรือเปล่า”ภูผาอยากจะรู้นักที่เขาทำตัวของเธอเสียหายขนาดนี้ยังอยากให้เขาเฉยกับมันได้อีก“รักสิถึงได้พยายามปกป้องความรู้สึกตัวเองอยู่นี่ไง”พระพายรักตัวเองอยู่แล้วที่เธอพยายามอยู่ห่างเขาไม่อยากเห็นอยากเจอเพราะเธอต้องการรักษาแผลใจของเธออยู่นั่นเอง“ไม่รู้ล่ะ...อีกสองวันเตรียมตัวรอได้เลยเราจะแต่งงานกัน”ภูผาชักเห็นว่าหญิงสาวจะไม่ยอมแต่โดยดีเขาก็จะต้องใช้วิธีบังคับเสียแล้ว“นี่ฟังที่ฉันพูดไม่รู้เรื่องใช่ไหม....อื้มมม”พระพายต้องชะงักเมื่อจู่ๆชาหนุ่มก็ฉวยโอกาสบดจูบมาที่ปากบางของเอย่างไม่ได้ตั้งตัวแถมยังหนีเขาไปไหนไม่ได้เพราะแรงกอดรัดของเขา“ถ้ายังดื้ออีกเจอมากกว่านี้แน่...ไปนอนได้แล้วดึกแล้ว”ภูผาไม่ได้แค่ขู่แต่เขาเอาจริงชายหนุ่มเอื้อมมือไปหยิบรีโมทปิดทีวีพร้อมพาหญิงสาวเข้าไปนอนในห
ลำปาง18.00 น.หลังจากเหตุการณ์ในคืนนั้นพระพายก็หนีกลับมาที่บ้านก่อนที่ภูผาจะกลับเธอปิดช่องทางการติดต่อจากชายหนุ่มทุกช่องทางและลาออกจากสำนักงานเธอใช้เงินที่พาขวัญทิ้งไว้ให้เจ็ดแสนมาเปิดร้านขายขนมไทยกับแม่เธอสองคนในตลาดที่อำเภอเป็นเดือนแล้วนานๆทีจะไปดูบ้านเธอกับพาขวัญสักครั้ง“แม่เหนื่อยไหม”ร้านขนมไทยของพระพายค่อนข้างขายดีเพราะฝีมือของมานีที่ลงมือทำเองทุกขั้นตอนโดยมีพระพายเป็นลูกมือ“ขายของเยอะเห็นเงินแบบนี้มันก็หายเหนื่อย”มานีไม่ได้รู้สึกเหนื่อยอะไรเลยเพราะเธอทำงานแล้วมันเห็นเงินความเหนื่อยก็หายไปปลิดทิ้ง“พรุ่งนี้แม่เตรียมทำสังขยารอเลยนะไอ้ขวัญน่าจะมาถึงตอนบ่ายๆ”พระพายตั้งหน้าตั้งตารอพาขวัญกลับมาเธอไม่ลืมที่จะเตือนแม่เธอให้ทำขนมของโปรดพาขวัญเอาไว้ให้เป็นเพราะเงินของเพื่อนเธอจึงทำให้เธอมีร้านจนทุกวันนี้“รู้แล้วล่ะน่า...”มานีเตรียมวัตถุดิบเอาไว้บางส่วนแล้วเธอไม่ลืมที่จะรอต้อนรับพาขวัญอยู่แล้ว“เออ...แม่ว่าแกไปดูบ้านให้หนูขวัญหน่อยก็ดีนะ”มานีเห็นว่าพาขวัญจะมาพรุ่งนี้แล้วเลยอยากให้ลูกสาวเธอไปดูบ้านให้เรียบร้อยเสียหน่อยเพราะไม่ได้ไปเป็นอาทิตย์แล้ว“พายก็ว่าจะไปพอดีจะแม่...เดี๋ยวนอนท