“แล้วมันทุกเรื่องตรงไหน” ไม่ยอกย้อนก็คงไม่ใช่โรมัน เขาเอ่ยถามคนข้างกายที่นั่งกรอกตามองบนอย่างไม่มีคำใดจะพูด บลูเบลล์หยัดกายลุกขึ้นยืนบิดตัวแล้วก็เดินไปยังห้องครัวเพื่อเตรียมของสดจะกินหมูกระทะเย็นนี้ ส่วนโรมันแน่นอนว่าเขาก็เข้าไปป่วน เอ้ย! ไปช่วยเธอหันผักทำของ
“ขอหอมหน่อย” โรมันหันไปบอกบลูเบลล์ที่กำลังจัดของใส่จานเป็นชุดๆ เธอจึงหันมาเลิ่กคิ้วมองหน้าเขาที่อยู่ๆ ก็มาขอหอม ซึ่งไม่ได้ซื้อมาเนื่องจากมันไม่ได้ต้องใช้กินหมูกระทะไงเลยไม่ได้ซื้อมา “ไม่มีไม่ได้ซื้อมา” “ฉันหมายถึงขอหอมแก้มเธอหน่อย ฟอดดด!” ไม่พูดเปล่าเขายังเดินมาหอมแก้มนิ่มๆ ของบลูเบลล์อย่างหน้าตาเฉย จากนั้นก็รีบเดินออกจากห้องครัวไปเพราะกลัวว่ามีดข้างตัวของเจ้าเพื่อนสาวนั้นจะลอยมาปักหัวเอาได้ บลูเบลล์ก็ได้แต่ถอนหายใจเป็นรอบที่ล้านแปดของวันนี้แล้วก็หยิบจานมาปิดของสดไว้จากนั้นก็เดินไปด้านนอก “เทสโต?” ร่างบางหยุดชะงักอยู่ที่หน้าประตูครัวเมื่อเห็นโรมันกำลังยืนประชันหน้าอยู่กับเทสโต และไม่รอให้พวกเขาวางหมัดกันเธอรีบวิ่งไปยืนแทรกระหว่างกลางทันที “ฉันมาหาเธอ ไม่อยากให้มาอยู่กับหมอนี่สองต่อสอง” เทสโตชายหนุ่มร่างสูงราวร้อยแปดสิบสองเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเรียบๆ สายตาจ้องมองไปยังคนตรงหน้าอย่างไม่วางตา “ฉันไม่ได้อยู่กับโรแค่สองคนนี่ มีลูกหมีอยู่ด้วย” “ยังไงหมอนี่อยู่ฉันก็ไม่ไว้ใจมันอยู่ดี” “เลิกกับเบลล์แล้วนี่ มาใช้สิทธิ์อะไรในการหวงเบลล์” น้ำเสียงทุ้มต่ำของโรมันเอ่ยถาม สายตาของพวกเขายังคงประสานกันอย่างไม่มีใครยอมใครจนบลูเบลล์ต้องดึงมือโรมันให้ไปนั่งบนโซฟาส่วนตัวเธอก็เดินกลับมาหาเทสโตที่หันไปมองโรมัน “ใช้สิทธิ์ของความเป็นเพื่อนไง” แล้วก็ไม่ลืมที่จะเอ่ยตอบโรมันกลับไป “เบลล์นับมึงเป็นเพื่อนด้วยเหรอ?” “นับสิ ใช่มั้ย?” ตอบโรมันไปแล้วก็หันมาถามขอความเห็นจากบลูเบลล์ที่ก็ได้แต่ยืนทำท่าทางที่เลิ่กลั่ก อีกคนก็แฟนเก่าอีกคนก็เพื่อนสนิทตอนนี้พวกเขาคงไม่ได้กำลังจะแย่งเธอใช่มั้ย คิคิ! บลูเบลล์จึงพยักหน้าให้เทสโตแล้วเดินไปนั่งบนโซฟา พรึ่บ! “นี่โร! นายนี่มัน!!” เสียงหวานหันไปโวยวายใส่เพื่อนหนุ่มเมื่อเธอตั้งใจจะนั่งโซฟาอีกตัวแต่โรมันคนมึนกลับมาดึงแขนเธอให้ไปนั่งลงข้างเขาแทน ดูเอาเถอะ! ทุกคนดูความมึนของมันเอาเถอะว่ามันมึนขนาดไหนน่ะ “อย่าไปอยู่ใกล้หมอนั่นเยอะมันอันตราย” และยังมีหน้าที่จะไปว่าใส่ร้ายคนอื่น อยู่ใกล้ตัวเองนี่ปลอดดภัยมากมั้ง หญิงสาวตัวเล็กครุ่นคิดในใจแล้วก็ยกแขนขึ้นมากอดอกมองตรงไปด้านหน้า ส่วนเทสโตนั้นก็เดินมานั่งประกบข้างเธออีกฝั่งพร้อมกับเอ่ยตอบโรมันกลับไปอีกครั้ง “ทำเหมือนมึงปลอดภัยว่างั้นแหละ!” “ก็ปลอดภัยกว่ามึง!” “เหอะ! เบลล์ขยับออกห่างจากมันหน่อย” เทสโตไม่ยอมแพ้ใช้แขนรั้งเอวของบลูเบลล์ให้ขยับเข้ามานั่งใกล้ชิดตัวเขาแทน และทุกคนก็น่าจะรู้ว่าคนอย่างโรมันไม่เคยยอมใคร เขาก็ใช้แขนรั้งเอวของบลูเบลล์กลับไปหาเขา อึบ! และเมื่อเห็นว่าเทสโตจะดึงตัวเธอคืนกลับไปโรมันก็เลยยกตัวเธอให้ขึ้นไปนั่งบนตัก อืม… “โอเค ฉันจะมาเที่ยวแบบนี้เป็นครั้งสุดท้ายนะ” หญิงสาวร่างเล็กพูดแล้วก็ลุกออกจากตักของโรมันเดินเข้าไปปลุกเพื่อนสาวอย่างลูกหมีให้ออกมาช่วยคุมเหตุการณ์ด้วยกัน จากนั้นพวกเธอก็พากันไปจัดเตรียมสถานที่มานั่งกินหมูกระทะและแยกย้ายกันไปพักผ่อนในช่วงเวลากลางคืน สองวันต่อมา “หาวว~” เสียงหาวจากเจ้าของร้านดอกไม้อย่างบลูเบลล์ดังขึ้นพร้อมกับบิดตัวไปมาด้วยความเมื่อย เหนื่อยล้าไปหมด ดวงตากลมโตจ้องมองสวนดอกไม้ตรงหน้าอย่างเพลินเพลินตา เธอรู้สึกว่าร้านดอกไม้ของเธอให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลายกว่าการไปเที่ยวอีก เรื่องการไปเที่ยวเมื่อสองวันก่อนคือบอกได้เลยว่าเซ็งมาก ฉะนั้นเธอจะปล่อยให้มันเป็นครั้งสุดท้ายที่จะไปเที่ยวกันแค่นั้น หากต้องไปเที่ยวจริงๆ คงต้องขนกันไปเป็นกลุ่มเป็นก้อนแหละถึงจะดีที่สุด ส่วนตอนนี้เธอกำลังยืนรดน้ำดอกไม้อยู่ที่สวนดอกไม้หลังร้านดอกไม้ของตัวเอง เวลา ณ ตอนนี้คือสิบโมงเช้า ลูกค้าที่ร้านดอกไม้ก็ไม่ได้เยอะแต่ก็ไม่ได้น้อยจนร้านเงียบเหงา ลูกค้าจะทยอยเข้ามาซื้อหรือมาสั่งดอกไม้เรื่อยๆ “สวัสดีครับ มีคนอยู่มั้ย” สุ้มเสียงทุ้มดังขึ้นด้านหลังของบลูเบลล์ เธอจึงหันกลับไปมองก็เห็นว่าเป็นผู้ชายที่เธอพอจะรู้จักแต่ไม่ค่อยสนิทเพระเขาเป็นเพื่อนของโรมัน ถ้าจำไม่ผิดก็น่าจะชื่อ ‘ยอร์ช’ บลูเบลล์จึงเดินไปปิดก๊อกน้ำแล้วเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าเขาก่อนจะชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง “นายเห็นฉันเป็นตัวอะไรเหรอ?” “ฮ่าๆ แค่แกล้งเล่นน่า” “แล้วมาหาฉันมีอะไรหรือเปล่า?” “คิดถึง ไม่สิ..มีคนฝากความคิดถึงให้ฉันมาบอกเธอน่ะ” ยอร์ชเดินไปนั่งบนเก้าอี้ที่มีวางอยู่ในสวนซึ่งมีโต๊ะตัวเล็กวางอยู่ตรงหน้า “แล้วเจ้าตัวไปไหนล่ะ?” บลูเบลล์จึงเดินไปนั่งลงตามแล้วเอ่ยถามถึงคนที่ฝากความคิดถึงนั้นมาเพราะคงจะเป็นใครไม่ได้นอกจากโรมัน ที่ตั้งแต่กลับมาจากไปเที่ยวหมอนั่นก็หายหัวไปเลย “แบรนด์น้ำหอมของมันมีปัญหาน่ะ ถูกคู่แข่งกล่าวหาว่าลอกเลียนแบบแถมเอกสารส่วนผสมอะไรของมันนั่นอ่ะก็ทำหายเลยไม่มีหลักฐาน น้ำหอมกลิ่นนี้ของมันก็คงจะนำออกมาวางขายไม่ได้แล้วแหละ” “อ่อ…” “ไม่ไปให้กำลังใจมันบ้างอ่ะ” “ไม่ว่าง” คำเดียวสั้นๆ ต่างจากในใจที่เป็นห่วงหมอนั่นอย่างบอกไม่ถูก ถึงเรื่องปัญหางานเช่นนี้จะเกิดขึ้นบ่อยแต่มันก็รู้สึกเป็นห่วงกังวลเกี่ยวกับความรู้สึกของหมอนั่นอยู่ดี…ก็เขาเป็นเพื่อนรักเพื่อนสนิทนี่นา “อืม รู้มั้ยว่ามันชอบเธอ?” “มันอยากกินฉันมากกว่า” “…ก็เหมือนๆ กันนั่นแหละ โรมันชอบคนยากนะแต่ถ้าได้ชอบแล้วมันไม่ปล่อยไปหรอก” “มีอาชีพเสริมเป็นพ่อสื่อเหรอ?” “เธอก็นะ ฮ่าๆ ฉันว่างไม่มีไรทำไปหาไอ้โรมันก็เลยไล่ให้ฉันเอาความคิดถึงมาบอกเธอนี่แหละ แถมมันยังบอกมาว่าคืนนี้ห้องว่างด้วยนะ ถ้าเธออยากไปนอนด้วยก็ไปได้” ยอร์ชบอกด้วยน้ำเสียงติดตลก ถึงตัวเขาจะไม่ค่อยสนิทกับบลูเบลล์แต่เพื่อหนนุ่มของเขาก็มักจะเอาเรื่องของเจ้าตัวเล็กนี่ไปโม้ในกลุ่มเพื่อนเสียทุกครั้ง ‘กูกับเบลล์น่ะโตมาด้วยกันสำหรับกูแล้วนะมันเป็นผู้หญิงที่ทั้งสวยน่ารักแถมยังทำงานเก่งอีกแต่กูบอกไว้เลยนะว่าพวกมึงห้ามจีบคนนี้ของกู’ พอพูดถึงบลูเบลล์ทีไรประโยคนี้ก็มักจะถูกพูดออกมาซะทุกครั้งโดยเฉพาะกับประโยคสุดท้ายน่ะจนเพื่อนๆ ทุกคนต่างก็รับรู้แล้วว่าผู้หญิงที่ชื่อบลูเบลล์ เบญญาภา อายุ25ปี นี่ห้ามแตะต้อง “ไม่ไปหรอก” “อย่าให้รู้ว่าแอบไปก็แล้วกัน ไงฉันไปก่อนแค่แวะมาบอกตามคำสั่งของมันน่ะ” ยอร์ชว่าพลางหยัดกายลุกขึ้นยืน พอบลูเบลล์พยักหน้ารับเขาก็เดินออกไป ส่วนหญิงสาวตัวเล็กก็ได้แต่ยืนอยู่แบบนั้นจนในร้านมีลูกค้าเขามาสั่งดอกไม้จำนวนเยอะเธอจึงต้องเดินออกไปช่วยพนักงานจัดช่อดอกไม้ ทางด้านโรมันหลังจากเคลียร์เรื่องน้ำหอมที่ไม่ได้ถูกนำออกมาวางจำหน่ายแล้วเขาก็ขับรถตรงไปที่คอนโดด้วยความเหนื่อยล้า สองวันหลังจากกลับมาจากเที่ยวก็เกิดปัญหาที่บริษัทจนเขาแทบไม่ได้พักพยายามหาหลักฐานนู่นนี่นั่นมาสุดท้ายก็ถูกโกงไปอย่างต่อหน้าต่อตาจนน้ำหอมที่เขาครุ่นคิดส่วนผสมมาเกือบเดือนนั้นถูกคนอื่นได้ไปแบบไม่ต้องลงแรงอะไร อาจจะเป็นเพราะเหตุการณ์แบบนี้ไม่ค่อยได้เกิดขึ้นกับธุรกิจของเขาดังนั้นจึงหาวิธีรับมือไม่ทัน ทำห้เขาไม่ทันระวังตัวจนมีหนอนบ่อนไส้เขามาทำงานในบริษัทขโมยสูตรส่วนผสมน้ำหอมออกไปให้คู่แข่งจนเกิดเป็นเรื่องราวที่เขาแพ้ย่อยยับเช่นนี้ การจะผลิตน้ำหอมสักกลิ่นมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะน้ำหอมมีเป็นร้อยเป็นล้านกลิ่น ดังนั้นทุกกลิ่นในแบรนด์ของเขานั้นมักจะมีความหอมแปลกใหม่ไม่ซ้ำใครและมีเพียงไม่กี่กลิ่นดังนั้นมันจึงทำให้ยอดขายไปได้สูง แต่พอมาถูกขโมยสูตรไปแบบนี้เขาก็รู้สึกหมดแรงขึ้นมาทันที “เฮ้อออ” โรมันโยนเสื้อสูทใส่ตะกร้าผ้าแล้วเดินไปล้มตัวลงบนที่นอนพร้อมกับหลับตาลง “ยัยนั่นจะทำอะไรอยู่นะ” เมื่อหมดแรงแล้วก็ต้องหากำลังใจ มือหนาจึงหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงของตัวเองขึ้นมากดหาเบอร์ของเพื่อนสาวที่ไม่ถึงนาทีปลายสายก็รับ (ฮัลโหล มีอะไรยุงอยู่) “อืม งั้นไม่กวนนะ…” น้ำเสียงที่ดูจะตื่นเต้นนั้นไม่ได้ฟังดูเหมือนเจ้าตัวจะยุ่งเหมือนอย่างที่ปากว่าเลยสักนิด ฮึ! (เดี๋ยวสิ แล้วมีอะไรล่ะ?) “คิดถึง เหนื่อยอ่ะ…ทำไรอยู่มาหาหน่อย” (ไม่ว่าง ทำงาน…) “อืม…” (…แล้วอยู่ไหน?) “คอนโด มาหาหน่อยดิ อยากกอด อยากหอม อยากได้กำลังใจ” น้ำเสียงที่ออดอ้อนของเขานั้นทำให้อีกฝ่ายถึงกับใจเต้นแรงกว่าเดิม (….) “เบลล์ครับ มาหาได้มั้ย…หรือให้ไปรับ หรือว่ามาไม่ได้” (…เย็นๆ ได้มั้ยเดี๋ยวไปที่ร้านเครื่องเขียนก่อนวันนี้มีของมาลงใหม่) “ได้ครับ มาเองหรือให้ไปรับ” จากน้ำเสียงที่เศร้าสร้อยก่อนหน้านี้ก็สดใสขึ้นมาทันทีเมื่ออีกฝ่ายยอมที่จะมาหา (เดี๋ยวขับรถไปเอง แล้วกินไรยัง) “ยังเลย เพิ่งกลับมาจากบริษัท” (จะกินอะไรพิมพ์มาในแชทเดี๋ยวซื้อไปให้ ไงขับรถก่อนนะ) “ครับ มาด้วยนะ” (อืม..” แล้วปลายสายก็วางไป ส่วนคนที่นอนอยู่บนที่นอนก็เกลือกกลิ้งไปมาด้วยความอารมณ์ดี แค่ได้ยินเสียงหวานๆ ของเพื่อนรักมันก็ทำให้คนอย่างเขามีรอยยิ้มได้บ้างและหากได้เธอมานอนกอดคงมีกำลังใจในการทำงานอีกเยอะแน่นอนและหากได้มากกว่านอนกอดเขาคงจะมีกำลังใจในการทำงานอย่างล้นเหลือ ฮึ!“จะไปหาเองค่ะ คนปัจจุบันไม่ค่อยดี” เสียงหวานเอ่ยตอบแฟนหนุ่มที่ตอนนั่งเอาใบหน้าซบแผ่นหลังของเธออยู่ แต่พอได้ยินแฟนสาวพูดเช่นนั้นเขาจึงขยับมือมาโอบเอวของเธอไว้แล้วเปลี่ยนเป็นซบหัวไหล่ของเธอแทน“ฉันดีทุกอย่างนะ”“เหรอ ดีไม่ห่างเหินมากกว่ามั้ง”“อ่า อย่างชอบ ฮ่าๆ” เทสโตว่าพลางหัวเราะออกมาอย่างชอบใจกับคำพูดของบลูเบลล์ ต่างจากโรมันที่นั่งส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ คนอย่างหมอนี่ไม่โดนดีไม่ได้เลยมั้ง ปัก!! ไม่เพียงแต่คิดในใจโรมันยังคว้าขวดน้ำลิ้นจี่ที่วางอยูตรงหน้าของลูกหมีปาใส่เทสโต และมันก็โดนหัวหมอนั่นเต็มๆ“ไอ้โรมัน!!”“…เบลล์ครับดูหมอนั่นเรียกฉันสิ ไม่ให้เกียรติฉันเลย” น้ำเสียงอ่อนนุ่มของโรมันบอกแฟนสาวแล้วแลบลิ้นปริ้นตาใส่เทสโตที่หน้าแดงก่ำมีควันออกหูอยู่“แค่นี้ก็ต้องฟ้องเมีย!”“อังเปา! เธอหุบปากของเธอไปเลยนะแล้วนี่ทำไมต้องนั่งตัวติดกันขนาดนั้นกลัวคนอื่นไม่รู้ว่าอยู่ข้างเดียวกันหรือไง” ร่างสูงหันไปโวยวายใส่อังเปาทันทีที่โดนหล่อนว่าเช่นนั้น เขาไม่รู้ว่าฟ้าส่งสองคนนี้ให้มาคู่กันหรือไรนอกจากหน้าตาที่กวนบาทาแล้วก็คำพูดอีกเหมือนกันอย่างกับแกะ“ฉันเป็นผัวเขา”“ห้ะ! ผัว…เพิ่งเจอกันเมื่อคืนเองนะ อย่า
ตอนเช้าร่างบางขยับตัวพลิกไปมาด้วยความปวดเมื่อยแทบจะทุกส่วนในร่างกาย เธอหยัดกายลุกขึ้นนั่งบิดตัวเองเบาๆ แล้วก็หันไปมองคนข้างกายที่ลืมตาแป๋วจ้องมองเธออยู่ก่อนแล้ว และก็ดูเหมือนว่าเขาจะอาบน้ำจัดการตัวเองเรียบร้อยตอนนี้ถึงได้นอนอยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงขาสั้นสีดำและนอนเอาแขนเท้าขมับมองหน้าเธออยู่“เก้าโมงแล้วครับที่รัก วันนี้ตื่นสายนะ”“…”“ทำไมมองหน้าฉันแบบนี้ล่ะ เมื่อเช้าฉันไปที่บริษัทและกลับมารับเธอไปดูน้ำหอมกลิ่นบลูเบลล์ เพราะถ้าเธอชอบจะได้ผลิตออกมาถ้าไม่ชอบก็จะได้ให้เธอทดลองเองจนกว่าจะชอบ”“…” ไม่มีเสียงตอบรับจากคนตัวเล็ก เพียงแต่เปิดผ้าห่มออกจนเห็นเรือนร่างที่ขาวผ่องของตัวเองแถมยังมีรอยแดงเป็นจ้ำๆ ในบางจุด จากนั้นก็เคลื่อนสายตาไปมองคนทำที่นอนยิ้มกริ่มเหมือนกับว่าภาคภูมิในใจผลงานของตัวเอง“เธอเงียบทำไมครับ?”“พูดไปก็เมื่อยปาก” ตอบด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่าแล้วก็ลุกขึ้นยืน แต่ยืนไม่ถึงห้าวิก็ต้องนั่งลงบนที่นอนตามเดิมเมื่อส่วนกลางใจสาวของเธอนั้นปวดระบมมาก โรมันไม่รีรอเขารีบดีดตัวลุกขึ้นยืนแล้วเดินมาอุ้มคนตัวเล็กพาเข้าไปในห้องน้ำ“เมื่อเช้าเพื่อนเธอทักมาด้วยบอกว่าอยากชวนไปเม้ามอยเย็น
“นายจะรีบอะไรขนาดนั้นโร!” ร่างบางเอ่ยถามแฟนหนุ่มเมื่อมาถึงคอนโดโรมันก็อุ้มเธอพาขึ้นมาในห้องนอนด้วยความรวดเร็ว ร่างสูงไม่ตอบอะไรเพียงแต่ยืนกอดอกมองเธอด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม ดูจากรอยยิ้มก็คือไม่ต้องเดาว่าสมองของเขาตอนนี้กำลังคิดถึงเรื่องอะไรอ่ะ“รีบเอาเธอไง ฉันอยากแย่แล้ว”“เปลี่ยนเป็นวันพรุ่งนี้ได้มั้ย วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันเลย นอนกอดกันเฉยๆ ได้มั้ย” น้ำเสียงอ่อนๆ ของบลูเบลล์บอกพร้อมกับบขาเรียวก้าวเข้าไปยืนชิดร่างสูงที่ส่ายหน้าให้รัว“ไม่เอาอ่ะ”“โรคะ พักบ้างก็ได้มั้ย?”“เบลล์ครับ ของฉันมันก็หงอยดิ สักน้ำสองน้ำก็ยังดีนะ”“โรคะ เบลล์เหนื่อยเบลล์เมื่อยจริงๆ ไปอาบน้ำมานอนกอดกันก็พอนะคะ” จากที่แทนตัวเองว่าฉันก็เปลี่ยนเป็นแทนตัวเองด้วยชื่อเล่นกับน้ำเสียงหวานๆ พร้อมกับยกมือขึ้นไปกอดลำแขนแกร่งแล้วซบหน้าลงบนต้นแขนของเขา“ไม่ต้องมาอ้อน…”“เบลล์เหนื่อยจริงๆ เราไปอาบน้ำแล้วโรนอนกอดเบลล์ก็พอนะคะ”“ไม่พอ ไม่อยากได้แค่กอดเบลล์ครับ…”“โรไม่รักเบลล์แล้วเหรอคะ โรไม่อยากให้เบลล์พักหอยบ้างเลยเหรอ”“โอเค พักก็พัก..เลิกทำน้ำเสียงอ้อนแบบนี้สักที” น้ำเสียงและท่าทางที่มันดูน่ารักดูขี้อ้อนเหมือนเด็กๆ ทำให้คนอย่
ทางด้านบลูเบลล์เมื่อเดินเข้ามาในบ้านของคุณออมสินเธอก็สอดส่ายสายตามองหาผู้เป็นแม่ก่อนจะไปเห็นคุณเบนนีกำลังยืนคุยอยู่กับคุณต้นอ้อ ร่างเพรียวจึงเดินตรงดิ่งเข้าไปหาทั้งคู่ไม่ลืมที่จะยกมือไหว้คุณต้นอ้อด้วย“สวัสดีค่ะคุณป้า”“สวัสดีจ้ะ เรานี่ก็ใช่ย่อยนะป้าถามว่าแฟนตาโรเป็นใครก็ไม่ยอมบอกที่แท้ก็เป็นเรานี่เอง” คุณต้ออ้อตีแขนของบลูเบลล์เบาๆ อย่างไม่จริงจังนัก แล้วเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงที่พึงพอใจหลังจากได้รู้ว่าแฟนสาวของลูกชายก็คือคนใกล้ตัวนี่เอง“แฮะๆ รอเซอร์ไพรส์ไงคะ…ไม่รู้ว่าเป็นหนูคุณป้าจะรับเป็นสะใภ้มั้ย?”“แหม จะไม่รับก็ยังไงอยู่มั้ยรู้จักตั้งแต่ตัวเท่าขวดน้ำ”“อืม แล้วแม่ให้คนไปเรียกหนูมีอะไรหรือเปล่าคะ?” หันไปถามคุณเบนนีที่กำลังยกโทรศัพท์ขึ้นมากดถ่ายรูปเธออยู่ แล้วจากนั้นก็คงจะไปโพสต์ลงเฟสบุ๊คพร้อมกับประโยคแสนจะน่ารักอย่าง ‘ลูกสาวใครนะ สวยจัง’ อีกตามเคยล่ะสิ“ก็ให้มาคุยกับแม่แฟนบ้างไง อีกอย่างแม่กับอ้อคุยกันแล้วว่าหากลูกคิดจะอยู่กินกันจริงๆ ทางอ้อก็จะจัดงานแต่งให้ เพราะลูกสองคนก็ไม่ใช่เด็กๆ แล้วไง”“ใช่ๆ และที่สำคัญนะ ป้าอยากมีหลานแต่งปุ๊ปต้องปั๊มหลานให้ป้าทันทีเลยนะ”“ไม่ต้องแต่งก็ปั๊มให้
“พี่เบลล์ทำงานอะไรอยู่เหรอคะ?” อังเปาเอ่ยถามหญิงสาวตรงหน้าด้วยแววตาเป็นประกาย ทั้งที่เติบโตมาในครอบครัวที่มีผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่ แถมยังได้เข้าเรียนในโรงเรียนหญิงล้วนแต่ทำไมเธอร้สึกว่าบลูเบลล์สวยดึงดูดเธอมากเลยไม่รู้“ตอนนี้พี่เปิดร้านดอกไม้กับร้านเครื่องเขียนน่ะ”“อ่อ เปิดนานหรือยังคะ?”“ก็ได้สองสามปีแล้ว เปาล่ะตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่”“อืม เป็นพนักงานในบริษัทคุณป้าค่ะ แล้วก็กำลังเรียนต่อปริญญาโทอยู่ค่ะ” อังเปาบอกด้วยรอยยิ้ม ดวงตากลมโตจ้องมองบลูเบลล์แทบไม่ลดละ จนคนที่ถูกมองถึงกับทำตัวไม่ถูกได้แต่ยิ้มแห้งๆ ให้“พี่เบลล์มีแฟนหรือยังคะ?”“มีแล้วค่ะ เปาล่ะคะ?”“ไม่มีค่ะ พี่สวยแบบนี้แฟนพี่คงหล่อน่าดูนะคะ”“ก็…พอได้ ฮ่าๆ” บลูเบลล์เอ่ยติดตลก ส่วนอังเปาก็มีเพียงใบหน้าที่เรียบนิ่งแทบจะตลอดเวลา “กรี๊ดด!! แกใครอ่ะ หล่อจัง!” จนมีเสียงของผู้หญิงรุ่นราวคราวเดียวกับพวกเธอสงคนดังขึ้น สองสาวจึงหันไปมองทางหน้าบ้านที่มีสามหนุ่มเดินเข้ามาในงานด้วยชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงขายาวสีดำ รองเท้าหนังถูกขัดจนเงาวับ ผมถูกเซ็ทไว้อย่างลงตัว…“หล่อมากเลยมึง!”“จริง! โดยเฉพาะคนกลาง เขามีเมียยังวะมึง!” เสียงสาวๆ ยังคงดั
เวลา 18:39 น.“เบลล์ครับ…ทำอะไรอยู่เหรอ มืดแล้วนะ” เสียงทุ้มนุ่มดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงเดินเข้ามาในห้องทำงานของแฟนสาวที่นอนหมอบลงไปบนพื้นโต๊ะด้านหน้า เปลือกตาบางปิดสนิทพร้อมกับเสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอ“เบลล์ หลับเวลานี้เนี่ยนะ” เขาบ่นพึมพำกับตัวเองแล้วเดินไปหยิบเสื้อแขนยาวของเจ้าตัวซึ่งแขวนไว้ที่ราวตากผ้านั้นมาคลุมตัวให้เธอ จากนั้นก็เดินมาจัดเอกสารบนโต๊ะที่เกลื่อนกราดให้เข้าที่ก่อนจะหยิบเก้าอี้มานั่งข้างบลูเบลล์“ที่รักครับ กลับไปนอนที่ห้องดีกว่ามั้ย แบบนี้มันเมื่อยนะ” โรมันบอกด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนเมื่อเห็นแขนของเจ้าตัวเล็กเป็นรอยเส้นผมที่เจ้าตัวเอาศีรษะหนุนไว้ ฝ่ามือหนาจึงสอดเข้าไปจับประคองใบหน้าที่เรียวสวยไว้แล้วจ้องมองเธอที่ยังคงหลับไม่รู้สึกตัว“ขี้เซาจริงๆ ตื่นได้แล้วครับ” ขยับมือที่รองอยู่ใต้แก้มของของบลูเบลล์เบาๆ จนร่างเล็กขยับตัวพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมามองเขาแล้วยกมือขึ้นมาขยี้ตาตัวเอง“มาตั้งแต่เมื่อไหร่?”“สักพักแล้ว วันนี้ไปงานคุณออมสินไม่ใช่เหรอ”“อืม เพิ่งเลิกงานเหรอ” ถามพลางบิดตัวเล็กน้อย โรมันจึงพยักหน้ารับแล้วเอื้อมมือมาจับเส้นผมที่บังหน้าสวยๆ ของบลูเบลล์ไปทัดใบหูขาวไว้ ดว