หลังจากลูกหมีอาบน้ำเสร็จบลูเบลล์ก็เข้าไปอาบน้ำแต่งตัวเป็นเสื้อยืดสีดำกับกางเกงขาสั้นแล้วก็พากันมานั่งเล่นกลางบ้าน
“โรไปไหนเหรอ ตอนที่กูอาบน้ำเสียงมึงคุยกับมันใช่มั้ย?” ลูกหมีถามเมื่อไม่เห็นโรมันอยู่แถวนี้และตอนที่เธออาบน้ำก็ได้ยินเสียงของบลูเบลล์คุยกับใครสักคนและคนนั้นมันก็เป็นใครไม่ได้นอกจากโรมันเพราะก็เหลือพวกเธออยู่แค่สามคนไง “อืม มันบอกว่า…” “ไปหาซื้อไรมากินน่ะ รอกินคืนนี้ไม่ไหว” เสียงของโรมันดังแทรกเข้ามาพร้อมกับชูถุงขนมกับน้ำในมือขึ้นมาให้สองสาวดู เนื่องจากคืนนี้พวกเธอตั้งใจว่าจะทำหมูกระทะกินกันเพราะซื้อของสดมาตุนไว้เรียบร้อยแล้วเลยไม่อยากกินอะไรที่มันหนักท้องจึงดื่มแค่น้ำกับขนมนิดๆ หน่อยๆ “อ้อ ก็จริงนะฉันก็หิวๆ นี่เพิ่งห้าโมงครึ่งเอง” ลูกหมีว่าพลางยกมือขึ้นมาคลำท้องของตัวเองที่รู้สึกว่ามันว่างๆ ยังไงไม่รู้ โรมันจึงเดินไปนั่งข้างบลูเบลล์แล้วหยิบนมกล่องกับขนมปังยื่นไปให้ลูกหมี “ขอบใจจ้ะ มึงหิวมั้ยกินกับกูดิ” “ไม่เป็นไร มึงกินไปเถอะกูยังอิ่มอยู่เลย” บลูเบลล์ตอบด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ พยายามจะไม่หันไปสนใจกับคนข้างกายที่ขยับมานั่งแทบจะสิงตัวของเธออยู่แล้ว “ไปกินอะไรมาอิ่ม?” เป็นโรมันที่เอ่ยถามด้วยรอยยิ้มกรุ่มกริ่มเรียกสายตาค้อนควับจากหญิงสาวข้างกายได้อย่างทันที “กินน้ำไง น้ำเปล่ากินเยอะๆ มันก็จุกก็อิ่ม” “เหรอ?” “โร! เมื่อไหร่นายจะเลิกกวนประสาทฉันสักทีห้ะ!!” บลูเบลล์หันไปแว้ดใส่โรมันอีกครั้ง แต่คนหน้ามึนอย่างเขามีหรือจะกลัวหรือสนใจ เขาหยิบขนมปังจากในถุงที่เหลือขึ้นมาแกะ พรึ่บ! และยัดมันใส่ปากของเธอ! เออ!..ให้มันได้อย่างนี้สิ บลูเบลล์ก็ได้แต่หยิบขนมปังนั้นออกมาจากปากแล้วกัดกินมันดีๆ ไม่ได้ตอบอะไรเพื่อนหนุ่มกลับ “พวกมึงนี่กัดกันเก่งนะ” “ก็ดูมันมากวนประสาทกูดิ” “เพราะรักเลยกวน” คำตอบแบบนี้ไม่ต้องเดาก็น่าจะรู้ว่าใคร โรมันตอบมันออกมาด้วยสีหน้าที่เรียบนิ่ง มือหนาขยับมากุมมือเล็กของบลูเบลล์ไว้และก็ถูกเจ้าเพื่อนสาวปัดมันออกอย่างไม่ใยดี “ฮ่าๆ นายก็ชอบไปกวนมันนะโร” ลูกหมีหัวเราะออกมาทันทีเมื่อเห็นว่าเพื่อนของเธอเริ่มจะควันออกหูแล้ว ใครที่โดนกวนประสาทแบบนี้เธอคิดว่าก็น่าจะมีอาการเหมือนเจ้าบลูเบลล์นี่แหละ ส่วนโรมันเพียงแค่นหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วก็หยิบโทรศัพท์มานั่งเล่นแทนเพราะหากกวนเจ้าบลูเบลล์ต่อไปมีหวังโดนโกรธแหงๆ “เออเบล เทสโตมันทักมาหากูด้วยแต่กูยังไม่ได้อ่านไม่ได้ตอบเลย” เมื่อเห้นโรมันเล่นโทรศัพท์ลูกหมีก็นึกขึ้นมาได้ว่าก่อนหนานี้แฟนเก่าของบลูเบลล์อย่างเทสโตทักมาหาเธอ เจ้าตัวจึงเดินเข้าไปหยิบโทรศัพท์ในห้องมาเปิดแชทนั้นให้บลูเบลล์ดูซึ่งเจ้าตัวอ่านแค่ผ่านๆ ตาก็ยื่นโทรศัพท์คืนลูกหมี “ปัญญาอ่อน! แม่งเลิกกันแล้วจะมายุ่งกับกูทำไมอีก!” “มันอาจจะยังรักมึงอยู่หรือเปล่า?” “ลูกหมี มึงก็รู้พร้อมกูที่มันไปนอนเอากับผู้หญิงคนอื่น คนรักกันแม่งไม่ทำกันแบบนี้หรอกคบกับกูยังไม่ทันถึงเดือนเลย พูดแล้วก็โมโห!” หากคบกันเป็นปีสองปีหมดรักกันไปมีคนอื่นก็อาจจะฟังขึ้นนิดๆ แต่นี่ยังไม่ทันได้รักกันดีเลยมั้ง เจ้าเทสโตนั่นก็ไปเอากับผู้หญิงคนอื่น และที่รู้เพราะผู้หญิงคนนั้นเป็นรุ่นน้องของคุกกี้น่ะสิ “มันอาจจะมีเหตุผล..” “เหตุผลปัญญาอ่อนน่ะสิ!!” “เฮ้อ! ไม่ต้องพูดแล้ว…กี่โมงแล้วเนี่ย กูว่ากูไปนอนพักสายตาในห้องสักหน่อยดีกว่า” ลูกหมีหยัดกายลุกขึ้นยืนบิดตัวแล้วบอกกับบลูเบลล์ที่ก็พยักหน้ารับเธอจึงเดินกลับไปพักผ่อนที่ห้อนนอนรอเวลาดื่มสังสรรค์ในค่ำคืนนี้ ส่วนบลูเบลล์ก็หันมาจ้องหน้าคนข้างกายที่ก้มหน้าเล่นโทรศัพท์อยู่ “มองทำไม?” “อยากมอง” “แล้วพอฉันมองบ้างอย่ามาโวยวายนะ” เขาวางโทรศัพท์ลงบนหน้าตักแล้วจ้องหน้าเพื่อนสาว ใบหน้าเรียวหวานรูปไข่ ดวงตากลมโตภายใต้ขนตาที่งอนสวย จมูกโด่งได้รูป ริมฝีปากกระจับรับกับใบหน้าของเธอได้อย่างลงตัว อืม…ส่วนเรือนร่างอย่าให้ได้บรรยายเลยเดี๋ยวจะหาวาเขาหื่นอีก หึ! “ถึงนายจะเลิกกับลูกหมีแล้วแต่ก็อย่ามาทำแบบนี้กับฉันได้มั้ย” “แบบไหน? “ “แบบที่นายทำอยู่นี่ไง ฉันไม่อยากมีปัญหากับลูกหมี” ถึงทั้งคู่จะเลิกกันแล้วแต่พอโรมันมาอยู่ใกล้ๆ ทำตัวติดเธอแบบนี้บ่อยๆ เธอกลัวว่าลูกหมีจะคิดว่าเธอคิดจะคบต่อจากเพื่อนทั้งที่เธอไม่เคยคิด… “เธอกับฉันรู้จักกันมาก่อนที่เธอจะรู้จักลูกหมี คุกกี้หรือทุกคน ฉันจะทำตัวแบบนี้หรือแบบไหนกับเธอมันก็เป็นเรื่องระหว่างฉันกับเธอ” “แคร์ความรู้สึกคนอื่นบ้าง” “ฉันแคร์แค่เธอ…” ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง แววตาจับจ้องเข้าไปในดวงตากลมโตของคนตรงหน้าจนบลูเบลล์ต้องเป็นฝ่ายหลบสายตาของเขาแล้วพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ “เลิกมากวนประสาทฉันสักทีได้มั้ย?” “ไม่ได้” “หน้ามึนที่สุด ไม่อยากจะพูดด้วยแล้วนะ” น้ำเสียงที่ติดจะรำคาญของบลูเบลล์เอ่ยบอกกับเพื่อนหนุ่มเป็นล้านๆ ครั้ง ตั้งแต่โตมาด้วยกันไม่มีวันไหนที่คนอย่างโรมันจะเป็นผู้เป็นคนเป็นผู้ชายที่สุภาพบุรุษไม่สร้างความปวดหัวให้กับเธอน่ะ ทีกับคนอื่นนะนิ่งเงียบอย่างกับเป็นก้อนน้ำแข็งแต่พอกับเธอนะเป็นเหมือนก้อนน้ำแข็งผสมลิงอ่ะ มึนได้มึนดี! “ก็ไม่ต้องพูด” “โร! ถ้านายเงียบปากไม่ต้องเถียงฉันสักคำจะได้มั้ย?” “ไม่ได้!” “จะเกลียดแล้วนะ” จากสีหน้าที่นิ่งๆ ก็แปรเปลี่ยนเป็นสีหน้าที่แดงก่ำเริ่มจะโมโหกับความกวนโอ๊ยของโรมัน ต่างจากคนที่ก่อกวนซึ่งนั่งยกยิ้มมุมปากอย่างสบายอารมณ์ที่สามารถทำให้เพื่อนสาวสุดที่รักนี่โมโหได้ “เดี๋ยวแก่เร็วนะ” เขาพูดพลางใช้มือรั้งต้นคอของบลูเบลล์ให้ขยับเข้ามานั่งใกล้ตัวเขา คนตัวเล็กจึงพยายามจะดิ้นออกแต่เขากับล็อคไว้เสียแน่นมืออีกข้างก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเล่นไปเพลินๆ “ไอ้บ้า! ไอ้หื่น! ไอ้นิสัยไม่ดี!” เมื่อเขาไม่ยอมปล่องมันเลยทำให้เธอต้องขุดคำขึ้นมาด่าเขาสารพัดหวังจะให้เขาปล่อยเธอ แต่โรมันก็ทำเหมือนไม่ได้ยินปล่อยผ่านมันไปแล้วเล่นเฟสเลื่อนดูอะไรไปเรื่อยเปื่อย “คืนนี้นอนกับฉันนะ” หนำซ้ำยังมีหน้ามาขอให้เธอไปนอนด้วย โอ๊ย! จะประสาท! จะบ้าตายกับหมอนี่จริงๆ แล้วนะ! “ไม่! บอกหลายรอบแล้วนะ” “ทำไม?” “นายยังจะถามอีก แล้วเป็นอะไรกันทำฉันต้องไปนอนด้วย” บางทีก็รู้สึกเหนื่อยใจกับหมอนี่นะ อายุก็ไม่ใช่สิบห้าสิบหกแล้วยังมานั่งกวนโอ๊ยกันไม่เลิกจริงๆ จะให้ขุดคำมาด่าก็ไม่รู้ว่าจะด่าอะไรที่จะพอให้คนอย่างเจ้านี่เลิกยุ่งกับเธอ “เป็นเพื่อน อยากเลื่อนเป็นผัวด้วย” “เหอะ! เงียบปากไปเลย” ว่าแล้วก็สะบัดหน้าหนีโรมัน หากให้ต่อปากต่อคำไปกับหมอนี่เป็นวันมันก็ไม่ยอมแพ้หรอก พรึ่บ! และไม่เพียงแค่สะบัดหน้าหนีเธอยังดึงโทรศัพท์จากมือของเขามานั่งเล่นอย่างหน้าตาเฉยอีก โดยที่มือของเขาก็ยังคงล็อคคอเธอไว้อยู่แบบนั้น ครืดดด! แล้วโทรศัพท์ของเจ้าตัวเล็กที่วางอยู่บนโต๊ะด้านหน้าก็ดังขึ้น บลูเบลล์จึงยื่นโทรศัพท์ของโรมันคืนเขาแล้วก็หยิบโทรศัพท์ตัวเองมาดูชื่อปลายสาย ‘นายเทสโต’ ซึ่งเป็นชื่อของแฟนเก่าเธอ ใบหน้าเรียวชั่งใจอยู่สามสี่นาที (ฮัลโหลครับ…) แล้วโรมันก็กดรับสายและปลายสายก็เอ่ยขึ้นทันทีทำเอาบลูเบลล์ต้องหันไปมองค้อนเขา ดูเอามันมึนระดับไหนอ่ะ! “เอ่อ มีอะไรหรือเปล่า?” (ไปเที่ยวกับไอ้หมอนั่นทำไม ฉันทักไปทำไมไม่ตอบ) น้ำเสียงที่ห้วนแข็งของเทสโตถามผ่านโทรศัพท์ “ก็อยากมา นาย..ยุ่งอะไรด้วย” (เบลล์ ฉันขอโทษ..) “อืม” (ตอบแบบนี้หมายความว่าเธอยกโทษให้ฉันใช่มั้ย?) “ใช่ ฉันยกโทษให้นาย แต่ฉันไม่ได้อยากจะกลับไปคบกับนายและไม่มีวันที่จะกลับไป นายไม่ต้องถามหาเหตุผลนะ ตัวนายรู้ดีแก่ใจถ้าไม่มีธุระสำคัญอะไรก็ไม่ต้องโทรมาอีก” บลูเบลล์ร่ายยาวออกมาแล้วก็กดวางสายในทันที เธอพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ แล้วก็จับแขนของโรมันที่ยังล็อคคอเธอไว้ให้ออกซึ่งเขาก็ยอมปล่อยแขนออกแต่โดยดี “ใจแข็งจัง” “ฉันให้โอกาสกับคนรักได้ทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องนี้เรื่องเดียว” ร่างบางตอบด้วยน้ำเสียงที่ขึงขัง หากเทสโตแค่คุยเธอก็ยังพอที่จะให้โอกาสแต่นี่ถึงขั้นมีอะไรกันแล้วเธอทำใจไม่ได้หรอกที่จะต้องใช้ของร่วมกับคนอื่น ใช้ต่ออาจจะได้แต่ใช้ร่วมเธอไม่ยอมใช้แน่นอน“จะไปหาเองค่ะ คนปัจจุบันไม่ค่อยดี” เสียงหวานเอ่ยตอบแฟนหนุ่มที่ตอนนั่งเอาใบหน้าซบแผ่นหลังของเธออยู่ แต่พอได้ยินแฟนสาวพูดเช่นนั้นเขาจึงขยับมือมาโอบเอวของเธอไว้แล้วเปลี่ยนเป็นซบหัวไหล่ของเธอแทน“ฉันดีทุกอย่างนะ”“เหรอ ดีไม่ห่างเหินมากกว่ามั้ง”“อ่า อย่างชอบ ฮ่าๆ” เทสโตว่าพลางหัวเราะออกมาอย่างชอบใจกับคำพูดของบลูเบลล์ ต่างจากโรมันที่นั่งส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ คนอย่างหมอนี่ไม่โดนดีไม่ได้เลยมั้ง ปัก!! ไม่เพียงแต่คิดในใจโรมันยังคว้าขวดน้ำลิ้นจี่ที่วางอยูตรงหน้าของลูกหมีปาใส่เทสโต และมันก็โดนหัวหมอนั่นเต็มๆ“ไอ้โรมัน!!”“…เบลล์ครับดูหมอนั่นเรียกฉันสิ ไม่ให้เกียรติฉันเลย” น้ำเสียงอ่อนนุ่มของโรมันบอกแฟนสาวแล้วแลบลิ้นปริ้นตาใส่เทสโตที่หน้าแดงก่ำมีควันออกหูอยู่“แค่นี้ก็ต้องฟ้องเมีย!”“อังเปา! เธอหุบปากของเธอไปเลยนะแล้วนี่ทำไมต้องนั่งตัวติดกันขนาดนั้นกลัวคนอื่นไม่รู้ว่าอยู่ข้างเดียวกันหรือไง” ร่างสูงหันไปโวยวายใส่อังเปาทันทีที่โดนหล่อนว่าเช่นนั้น เขาไม่รู้ว่าฟ้าส่งสองคนนี้ให้มาคู่กันหรือไรนอกจากหน้าตาที่กวนบาทาแล้วก็คำพูดอีกเหมือนกันอย่างกับแกะ“ฉันเป็นผัวเขา”“ห้ะ! ผัว…เพิ่งเจอกันเมื่อคืนเองนะ อย่า
ตอนเช้าร่างบางขยับตัวพลิกไปมาด้วยความปวดเมื่อยแทบจะทุกส่วนในร่างกาย เธอหยัดกายลุกขึ้นนั่งบิดตัวเองเบาๆ แล้วก็หันไปมองคนข้างกายที่ลืมตาแป๋วจ้องมองเธออยู่ก่อนแล้ว และก็ดูเหมือนว่าเขาจะอาบน้ำจัดการตัวเองเรียบร้อยตอนนี้ถึงได้นอนอยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงขาสั้นสีดำและนอนเอาแขนเท้าขมับมองหน้าเธออยู่“เก้าโมงแล้วครับที่รัก วันนี้ตื่นสายนะ”“…”“ทำไมมองหน้าฉันแบบนี้ล่ะ เมื่อเช้าฉันไปที่บริษัทและกลับมารับเธอไปดูน้ำหอมกลิ่นบลูเบลล์ เพราะถ้าเธอชอบจะได้ผลิตออกมาถ้าไม่ชอบก็จะได้ให้เธอทดลองเองจนกว่าจะชอบ”“…” ไม่มีเสียงตอบรับจากคนตัวเล็ก เพียงแต่เปิดผ้าห่มออกจนเห็นเรือนร่างที่ขาวผ่องของตัวเองแถมยังมีรอยแดงเป็นจ้ำๆ ในบางจุด จากนั้นก็เคลื่อนสายตาไปมองคนทำที่นอนยิ้มกริ่มเหมือนกับว่าภาคภูมิในใจผลงานของตัวเอง“เธอเงียบทำไมครับ?”“พูดไปก็เมื่อยปาก” ตอบด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่าแล้วก็ลุกขึ้นยืน แต่ยืนไม่ถึงห้าวิก็ต้องนั่งลงบนที่นอนตามเดิมเมื่อส่วนกลางใจสาวของเธอนั้นปวดระบมมาก โรมันไม่รีรอเขารีบดีดตัวลุกขึ้นยืนแล้วเดินมาอุ้มคนตัวเล็กพาเข้าไปในห้องน้ำ“เมื่อเช้าเพื่อนเธอทักมาด้วยบอกว่าอยากชวนไปเม้ามอยเย็น
“นายจะรีบอะไรขนาดนั้นโร!” ร่างบางเอ่ยถามแฟนหนุ่มเมื่อมาถึงคอนโดโรมันก็อุ้มเธอพาขึ้นมาในห้องนอนด้วยความรวดเร็ว ร่างสูงไม่ตอบอะไรเพียงแต่ยืนกอดอกมองเธอด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม ดูจากรอยยิ้มก็คือไม่ต้องเดาว่าสมองของเขาตอนนี้กำลังคิดถึงเรื่องอะไรอ่ะ“รีบเอาเธอไง ฉันอยากแย่แล้ว”“เปลี่ยนเป็นวันพรุ่งนี้ได้มั้ย วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันเลย นอนกอดกันเฉยๆ ได้มั้ย” น้ำเสียงอ่อนๆ ของบลูเบลล์บอกพร้อมกับบขาเรียวก้าวเข้าไปยืนชิดร่างสูงที่ส่ายหน้าให้รัว“ไม่เอาอ่ะ”“โรคะ พักบ้างก็ได้มั้ย?”“เบลล์ครับ ของฉันมันก็หงอยดิ สักน้ำสองน้ำก็ยังดีนะ”“โรคะ เบลล์เหนื่อยเบลล์เมื่อยจริงๆ ไปอาบน้ำมานอนกอดกันก็พอนะคะ” จากที่แทนตัวเองว่าฉันก็เปลี่ยนเป็นแทนตัวเองด้วยชื่อเล่นกับน้ำเสียงหวานๆ พร้อมกับยกมือขึ้นไปกอดลำแขนแกร่งแล้วซบหน้าลงบนต้นแขนของเขา“ไม่ต้องมาอ้อน…”“เบลล์เหนื่อยจริงๆ เราไปอาบน้ำแล้วโรนอนกอดเบลล์ก็พอนะคะ”“ไม่พอ ไม่อยากได้แค่กอดเบลล์ครับ…”“โรไม่รักเบลล์แล้วเหรอคะ โรไม่อยากให้เบลล์พักหอยบ้างเลยเหรอ”“โอเค พักก็พัก..เลิกทำน้ำเสียงอ้อนแบบนี้สักที” น้ำเสียงและท่าทางที่มันดูน่ารักดูขี้อ้อนเหมือนเด็กๆ ทำให้คนอย่
ทางด้านบลูเบลล์เมื่อเดินเข้ามาในบ้านของคุณออมสินเธอก็สอดส่ายสายตามองหาผู้เป็นแม่ก่อนจะไปเห็นคุณเบนนีกำลังยืนคุยอยู่กับคุณต้นอ้อ ร่างเพรียวจึงเดินตรงดิ่งเข้าไปหาทั้งคู่ไม่ลืมที่จะยกมือไหว้คุณต้นอ้อด้วย“สวัสดีค่ะคุณป้า”“สวัสดีจ้ะ เรานี่ก็ใช่ย่อยนะป้าถามว่าแฟนตาโรเป็นใครก็ไม่ยอมบอกที่แท้ก็เป็นเรานี่เอง” คุณต้ออ้อตีแขนของบลูเบลล์เบาๆ อย่างไม่จริงจังนัก แล้วเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงที่พึงพอใจหลังจากได้รู้ว่าแฟนสาวของลูกชายก็คือคนใกล้ตัวนี่เอง“แฮะๆ รอเซอร์ไพรส์ไงคะ…ไม่รู้ว่าเป็นหนูคุณป้าจะรับเป็นสะใภ้มั้ย?”“แหม จะไม่รับก็ยังไงอยู่มั้ยรู้จักตั้งแต่ตัวเท่าขวดน้ำ”“อืม แล้วแม่ให้คนไปเรียกหนูมีอะไรหรือเปล่าคะ?” หันไปถามคุณเบนนีที่กำลังยกโทรศัพท์ขึ้นมากดถ่ายรูปเธออยู่ แล้วจากนั้นก็คงจะไปโพสต์ลงเฟสบุ๊คพร้อมกับประโยคแสนจะน่ารักอย่าง ‘ลูกสาวใครนะ สวยจัง’ อีกตามเคยล่ะสิ“ก็ให้มาคุยกับแม่แฟนบ้างไง อีกอย่างแม่กับอ้อคุยกันแล้วว่าหากลูกคิดจะอยู่กินกันจริงๆ ทางอ้อก็จะจัดงานแต่งให้ เพราะลูกสองคนก็ไม่ใช่เด็กๆ แล้วไง”“ใช่ๆ และที่สำคัญนะ ป้าอยากมีหลานแต่งปุ๊ปต้องปั๊มหลานให้ป้าทันทีเลยนะ”“ไม่ต้องแต่งก็ปั๊มให้
“พี่เบลล์ทำงานอะไรอยู่เหรอคะ?” อังเปาเอ่ยถามหญิงสาวตรงหน้าด้วยแววตาเป็นประกาย ทั้งที่เติบโตมาในครอบครัวที่มีผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่ แถมยังได้เข้าเรียนในโรงเรียนหญิงล้วนแต่ทำไมเธอร้สึกว่าบลูเบลล์สวยดึงดูดเธอมากเลยไม่รู้“ตอนนี้พี่เปิดร้านดอกไม้กับร้านเครื่องเขียนน่ะ”“อ่อ เปิดนานหรือยังคะ?”“ก็ได้สองสามปีแล้ว เปาล่ะตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่”“อืม เป็นพนักงานในบริษัทคุณป้าค่ะ แล้วก็กำลังเรียนต่อปริญญาโทอยู่ค่ะ” อังเปาบอกด้วยรอยยิ้ม ดวงตากลมโตจ้องมองบลูเบลล์แทบไม่ลดละ จนคนที่ถูกมองถึงกับทำตัวไม่ถูกได้แต่ยิ้มแห้งๆ ให้“พี่เบลล์มีแฟนหรือยังคะ?”“มีแล้วค่ะ เปาล่ะคะ?”“ไม่มีค่ะ พี่สวยแบบนี้แฟนพี่คงหล่อน่าดูนะคะ”“ก็…พอได้ ฮ่าๆ” บลูเบลล์เอ่ยติดตลก ส่วนอังเปาก็มีเพียงใบหน้าที่เรียบนิ่งแทบจะตลอดเวลา “กรี๊ดด!! แกใครอ่ะ หล่อจัง!” จนมีเสียงของผู้หญิงรุ่นราวคราวเดียวกับพวกเธอสงคนดังขึ้น สองสาวจึงหันไปมองทางหน้าบ้านที่มีสามหนุ่มเดินเข้ามาในงานด้วยชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงขายาวสีดำ รองเท้าหนังถูกขัดจนเงาวับ ผมถูกเซ็ทไว้อย่างลงตัว…“หล่อมากเลยมึง!”“จริง! โดยเฉพาะคนกลาง เขามีเมียยังวะมึง!” เสียงสาวๆ ยังคงดั
เวลา 18:39 น.“เบลล์ครับ…ทำอะไรอยู่เหรอ มืดแล้วนะ” เสียงทุ้มนุ่มดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงเดินเข้ามาในห้องทำงานของแฟนสาวที่นอนหมอบลงไปบนพื้นโต๊ะด้านหน้า เปลือกตาบางปิดสนิทพร้อมกับเสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอ“เบลล์ หลับเวลานี้เนี่ยนะ” เขาบ่นพึมพำกับตัวเองแล้วเดินไปหยิบเสื้อแขนยาวของเจ้าตัวซึ่งแขวนไว้ที่ราวตากผ้านั้นมาคลุมตัวให้เธอ จากนั้นก็เดินมาจัดเอกสารบนโต๊ะที่เกลื่อนกราดให้เข้าที่ก่อนจะหยิบเก้าอี้มานั่งข้างบลูเบลล์“ที่รักครับ กลับไปนอนที่ห้องดีกว่ามั้ย แบบนี้มันเมื่อยนะ” โรมันบอกด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนเมื่อเห็นแขนของเจ้าตัวเล็กเป็นรอยเส้นผมที่เจ้าตัวเอาศีรษะหนุนไว้ ฝ่ามือหนาจึงสอดเข้าไปจับประคองใบหน้าที่เรียวสวยไว้แล้วจ้องมองเธอที่ยังคงหลับไม่รู้สึกตัว“ขี้เซาจริงๆ ตื่นได้แล้วครับ” ขยับมือที่รองอยู่ใต้แก้มของของบลูเบลล์เบาๆ จนร่างเล็กขยับตัวพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมามองเขาแล้วยกมือขึ้นมาขยี้ตาตัวเอง“มาตั้งแต่เมื่อไหร่?”“สักพักแล้ว วันนี้ไปงานคุณออมสินไม่ใช่เหรอ”“อืม เพิ่งเลิกงานเหรอ” ถามพลางบิดตัวเล็กน้อย โรมันจึงพยักหน้ารับแล้วเอื้อมมือมาจับเส้นผมที่บังหน้าสวยๆ ของบลูเบลล์ไปทัดใบหูขาวไว้ ดว