“‘เขาว่ากันว่าเพื่อนกันมันส์ดีนะ!’ “รู้มั้ยว่าฉันชอบลองอะไรใหม่ๆ?” “รู้! แล้ว…แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันไม่ทราบ” “ก็ฉันอยากลองกินเพื่อนไง โดยเฉพาะเพื่อนอย่างเธอ อยากรู้ว่ามันจะอร่อยแค่ไหน..”
ดูเพิ่มเติม“อ้ะ โร…มือนายมันโดนนมฉันไม่เห็นหรือไง” เสียงแว้ดของหญิงสาวร่างเพรียวเล็กที่อยู่ในสระน้ำด้วยชุดว่ายน้ำวาบหวิวดังขึ้นเมื่อเพื่อนหนุ่มของเธอที่ซ้อนตัวเธออยู่ด้านหลังนั้นเอามือมาแตะ ไม่ใช่แค่แตะสิ กอบกุมไปทั้งเต้านี่มันเรียกว่าจับมากกว่า
“เห็นสิ อยากจับมันใหญ่ดี” เขาพูดกรอกหูเธอเบาๆ โดยที่มืออีกข้างกอดเอวของเธอไว้แน่นจนเธอเสียววูบวาบม้วนท้องน้อยไปหมดแล้ว หากว่ายน้ำเป็นก็จะไม่ขอความช่วยเหลือจากเขาให้พามาเล่นน้ำหรอก แล้วไอ้คนที่ว่ายน้ำเป็นก็ยังมีหน้ามาใช้ห่วงยางเธอล่ะหมดคำจะพูด “สอนฉันว่ายน้ำหน่อยฉันไม่อยากพึ่งพานายไปตลอด” “ไม่สอน” “นี่ น่านะ..แค่สอนว่ายน้ำเอง” “สอนไปเธอก็ว่ายไม่เป็นไม่อยากเสียเวลา” น้ำเสียงที่ราบเรียบบอกก่อนจะขยับตัวจากที่ยืนกลางสระไปยืนข้างขอบสระ พรึ่บ! แล้วยกตัวของเพื่อนสาวตัวเล็กให้ขึ้นไปนั่งบนขอบสระโดยที่ตัวเขายืนอยู่ตรงหน้าของเธอ สายตาคมจับจ้องไปยังหน้าอกที่อวบใหญ่จนมันแทบจะทะลักออกมาจากบิกีนี่ตัวเล็กนั่นอยู่แล้ว “สายตานายหื่นมากเลยรู้มั้ยโร?” “รู้ แล้วเธอรู้ว่ามั้ยว่าตัวเองน่ากินมากเลย” “ยิ่งนับวันนายยิ่งจะทำตัวหื่นใหญ่แล้วนะ” กอดอกทำหน้ามุ่ยใส่คนตรงหน้า บลูเบลล์ คือชื่อของเธอ ไพเราะเพราะเสนาะหูมากเลยใช่มั้ยล่ะ เธอมีอายุยี่สิบห้าเป็นเจ้าของร้านดอกไม้กับร้านขายเครื่องเขียน ส่วนผู้ชายตรงหน้าของเธอมีชื่อว่า โรมัน เป็นเพื่อนสนิทของเธอที่คบกันมาตั้งแต่ประถมจนตอนนี้มีการมีงานทำกันแล้วก็ยังคบเป็นเพื่อนกันอยู่ “ถ้าตรงนี้ไม่มีใครมันอาจจะจับเธอกินแล้วก็ได้เบล” เสียงหวานของเพื่อนสาวอย่าง คุกกี้ ดังขึ้นจากทางด้านหลังโรมันขณะที่เจ้าตัวกำลังว่ายน้ำเล่นอยู่กับ ลูกหมี เพื่อนสาวของเธออีกคนที่เคยคบกับโรมันมาก่อนแต่คบได้แค่เดือนเดียวก็เลิกกัน ก็นะ เพื่อนกันน่ะเป็นเพื่อนก็ยังดีกว่าไหนๆ เพราะพอคบกันแล้วความรู้สึกอะไรหลายๆ อย่างมันเปลี่ยนไปเยอะบางทีก็เลยปรับตัวไปกันไม่ได้สุดท้ายก็ต้องลดสถานะกลับมาเป็นเพื่อนตามเดิมอยู่ดีนี่ยังดีที่ทั้งคู่กับมาเป็นเพื่อนกันได้เพราะบางคนนี่มองหน้ากันไม่ติดเลยก็มี “คนอย่างมันเนี่ยนะ เหอะ…ฉันไม่ใช่สเปกมันหรอกจริงมั้ยลูกหมี” “ก็ไม่แน่นา สเปกมันคนนมใหญ่ โหนกใหญ่ๆ” ลูกหมีว่ายน้ำเข้ามาเกาะขอบสระข้างบลูเบลล์แล้วเอ่ยแซวขึ้นเพราะนอกจากนมที่อวบใหญ่ของเพื่อนสาวแล้วเนินช่วงล่างยังอวบอูมจนเธอกับคุกกี้ยังต้องยอมให้กับความอวบอลังการเลย “มันก็ไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้นสักหน่อย” ตู้มม! พูดแล้วก็กระโดดลงน้ำแล้วใช้แขนกอดคอของโรมันไว้ ส่วนขาก็เกี่ยวเอวของเขาไว้ เช่นเดียวกับเขาที่ก็ใช้มือกอดรัดเอวของเธอไว้ เสียงลมหายใจของเขาค่อนข้างจะติดๆ ขัดๆ เมื่อก้อนเนื้ออวบๆ สองก้อนมาเสียดสีอยู่กับแผงอกแกร่งของเขา “มันใหญ่” โรมันกัดฟันพูดพร้อมกับส่งตัวของบลูเบลล์ไปให้ลูกหมีที่ก็รีบรับตัวเพื่อนสาวไว้อย่างกับว่าเจ้าตัวเล็กนี่เป็นเด็กน้อย ส่วนตัวโรมันเขาก็กระโดดขึ้นจากสระน้ำแล้วเดินไปนั่งบนเตียงผ้าใบมองสามสาวเล่นน้ำอยู่แบบนั้น “ทำไมไม่พาฉันว่ายน้ำก่อน?” “เงี่ยx” คำเดียวสั้นๆ จากโรมันที่มีสีหน้าเรียบนิ่ง เขานั่งจ้องบลูเบลล์อยู่แบบนั้นไม่ได้พูดอะไรต่อ ส่วนสามสาวที่ได้ยินก็ได้แต่เลิ่กลั่กมองหน้ากันแล้วต่างก็เล่นน้ำกันไปต่อโดยไม่มีใครพูดอะไร พวกเธอมาเที่ยวที่รีสอร์ทกันสี่คน ที่จริงตั้งใจมากันแค่สามคนแต่บลูเบลล์ไปชวนโรมันและเขาก็ตกลงมาด้วยเลยกลายเป็นว่าเขาเป็นผู้ชายคนเดียวท่ามกลางผู้หญิงสามคน ที่ตอนนี้ต่างก็ใส่บิกีนี่แสนจะวาบหวิวลงน้ำ แถมบลูเบลล์ยังเกาะเกี่ยวเขาแทบไม่ปล่อยก็คงไม่แปลกที่เขาจะมีอารมณ์แบบนั้น “ก็ใครใช้ให้นายมากับพวกเราล่ะ” คุกกี้ถามขึ้นเมื่อเห็นว่าโรมันยังนั่งแน่นิ่งเหมือนเขากำลังกลัดกลั้นอารมณ์ความต้องการในเรื่องอย่างว่าของตัวเองอยู่ “เบลไง” “ฉันแค่ชวน นายปฏิเสธก็ได้นี่นา” บลูเบลล์แย้งเสียงอ่อนแล้วขยับขึ้นไปนั่งขอบสระพร้อมกับดึงมือให้ลูกหมีขึ้นมานั่งข้างกันโดยหันหลังให้โรมันเพราะคิดว่าเขาคงอัดอั้นอารมณ์ของตัวเองไว้เต็มที่แหละถึงไม่ยอมไปเข้าห้องน้ำเพื่อปลดปล่อยมันน่ะ “กลับพรุ่งนี้เหรอ?” “อืม นายจะกลับก่อนก็ได้นะเดี๋ยวพวกฉันนั่งรถตู้กลับกันเองได้” คุกกี้บอกเพื่อนหนุ่มซึ่งเป็นคนขับรถพาพวกเธอมาที่นี่โดยเฉพาะ เพราะตอนแรกจะนั่งรถตู้มากันแต่พอบลูเบลล์ชวนและเขาตกลงที่จะมาก็เลยขับรถพามาด้วย และเพราะไม่ได้มีเพื่อนผู้ชายของเขามาเลยคิดว่าเขาคงจะเบื่อ “เบลมานี่หน่อย” โรมันหยัดกายลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ยเรียกบลูเบลล์ที่ก็หันหลังไปมองเขา เธอลุกขึ้นยืนแล้วมองโรมันด้วยสายตาปริบๆ “ไม่! ลูกหมีไปดิ” และเมื่อเห็นแววตาของเขาดูเจ้าเล่ห์เจ้าเหลี่ยมเธอจึงหันไปเรียกลูกหมีที่เป็นแฟนเก่าของเขาให้แทน “ไม่ได้จะทำอะไร มานี่!” “เออ พวกกูก็อยู่มันคงไม่เอาต่อหน้าพวกกูหรอกมั้ง” ลูกหมีที่นั่งอยู่นั้นใช้มือดันก้นบลูเบลล์จนเธอต้องยอมเดินไปหาโรมัน เขาจึงยืนโทรศัพท์ของเขามาให้เธอดูข้อความแชทที่เขาคุยกับใครสักคน มือบางก็รับมันมาอ่านพร้อมกับขมวดคิ้วเล็กน้อย “นายรู้จักกันด้วยเหรอ?” “คำพูดที่ฉันคุยกันมันดูเหมือนคนรู้จักหรือสนิทกันเหรอ?” “ไม่ แล้ว…แล้ว นายจะให้ฉันพูดว่าอะไร ฉันเลิกกับมันไปแล้วนี่” แชทที่โรมันคุยด้วยนั้นเป็นแชทของแฟนเก่าเธอที่คบได้แค่สองอาทิตย์เธอก็ถูกหมอนั่นนอกใจ และตอนนี้หมอนั่นก็ทักมาด่าโรมันเนื่องจากเขาน่าจะเอารูปที่ถ่ายกับเธอเมื่อตอนมาถึงที่นี่ลงสตอรี่ “ก็แค่อยากให้ดูว่าฉันไม่ได้เริ่มก่อน” “ทำไม นายคงจะไม่ได้ไปหาเรื่องมันหรอกใช่มั้ย?” “ถ้าเจอก็ไม่แน่” ดึงโทรศัพท์จากบลูเบลล์กลับมาแล้วเดินไปนั่งที่เดิม ส่วนบลูเบลล์ก็เดินไปนั่งข้างเขาแล้วใช้นิ้วสะกิดลงบนหัวไหล่กว้างเบาๆ “อย่าไปยุ่งกับมันเลย” “ทำไม ห่วงมันว่างั้น?” “ห่วงนายต่างหาก ไม่อยากให้มีเรื่อง” ถึงแม้โรมันจะดูเป็นผู้ชายนิ่งๆ พูดน้อยพูดเย็นชา แต่เขาก็เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ใจร้อนโคตรๆ แถมยังเป็นคนที่ไม่เคยยอมคนจนเมื่อก่อนช่วยมหาลัยฯ จึงมักจะมีเรื่องกับคนอื่นบ่อยๆ พอเริ่มโตเข้าวัยทำงานหรอกเขาจึงใจเย็นขึ้นมาบ้าง บ้างนิดหน่อยอ่านะ “หึ! ไปอาบน้ำกัน” จู่ๆ เขาก็ลุกขึ้นยืนแล้วดึงมือของบลูเบลล์ให้เดินตามเข้าไปยังในห้องพักโดยไม่ปล่อยให้เธอได้ตั้งตัวเลยสักนิด ตั้งตัวได้อีกทีก็ตอนเข้ามายืนอยู่ในห้องของเขาแล้วนี่แหละ“จะไปหาเองค่ะ คนปัจจุบันไม่ค่อยดี” เสียงหวานเอ่ยตอบแฟนหนุ่มที่ตอนนั่งเอาใบหน้าซบแผ่นหลังของเธออยู่ แต่พอได้ยินแฟนสาวพูดเช่นนั้นเขาจึงขยับมือมาโอบเอวของเธอไว้แล้วเปลี่ยนเป็นซบหัวไหล่ของเธอแทน“ฉันดีทุกอย่างนะ”“เหรอ ดีไม่ห่างเหินมากกว่ามั้ง”“อ่า อย่างชอบ ฮ่าๆ” เทสโตว่าพลางหัวเราะออกมาอย่างชอบใจกับคำพูดของบลูเบลล์ ต่างจากโรมันที่นั่งส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ คนอย่างหมอนี่ไม่โดนดีไม่ได้เลยมั้ง ปัก!! ไม่เพียงแต่คิดในใจโรมันยังคว้าขวดน้ำลิ้นจี่ที่วางอยูตรงหน้าของลูกหมีปาใส่เทสโต และมันก็โดนหัวหมอนั่นเต็มๆ“ไอ้โรมัน!!”“…เบลล์ครับดูหมอนั่นเรียกฉันสิ ไม่ให้เกียรติฉันเลย” น้ำเสียงอ่อนนุ่มของโรมันบอกแฟนสาวแล้วแลบลิ้นปริ้นตาใส่เทสโตที่หน้าแดงก่ำมีควันออกหูอยู่“แค่นี้ก็ต้องฟ้องเมีย!”“อังเปา! เธอหุบปากของเธอไปเลยนะแล้วนี่ทำไมต้องนั่งตัวติดกันขนาดนั้นกลัวคนอื่นไม่รู้ว่าอยู่ข้างเดียวกันหรือไง” ร่างสูงหันไปโวยวายใส่อังเปาทันทีที่โดนหล่อนว่าเช่นนั้น เขาไม่รู้ว่าฟ้าส่งสองคนนี้ให้มาคู่กันหรือไรนอกจากหน้าตาที่กวนบาทาแล้วก็คำพูดอีกเหมือนกันอย่างกับแกะ“ฉันเป็นผัวเขา”“ห้ะ! ผัว…เพิ่งเจอกันเมื่อคืนเองนะ อย่า
ตอนเช้าร่างบางขยับตัวพลิกไปมาด้วยความปวดเมื่อยแทบจะทุกส่วนในร่างกาย เธอหยัดกายลุกขึ้นนั่งบิดตัวเองเบาๆ แล้วก็หันไปมองคนข้างกายที่ลืมตาแป๋วจ้องมองเธออยู่ก่อนแล้ว และก็ดูเหมือนว่าเขาจะอาบน้ำจัดการตัวเองเรียบร้อยตอนนี้ถึงได้นอนอยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงขาสั้นสีดำและนอนเอาแขนเท้าขมับมองหน้าเธออยู่“เก้าโมงแล้วครับที่รัก วันนี้ตื่นสายนะ”“…”“ทำไมมองหน้าฉันแบบนี้ล่ะ เมื่อเช้าฉันไปที่บริษัทและกลับมารับเธอไปดูน้ำหอมกลิ่นบลูเบลล์ เพราะถ้าเธอชอบจะได้ผลิตออกมาถ้าไม่ชอบก็จะได้ให้เธอทดลองเองจนกว่าจะชอบ”“…” ไม่มีเสียงตอบรับจากคนตัวเล็ก เพียงแต่เปิดผ้าห่มออกจนเห็นเรือนร่างที่ขาวผ่องของตัวเองแถมยังมีรอยแดงเป็นจ้ำๆ ในบางจุด จากนั้นก็เคลื่อนสายตาไปมองคนทำที่นอนยิ้มกริ่มเหมือนกับว่าภาคภูมิในใจผลงานของตัวเอง“เธอเงียบทำไมครับ?”“พูดไปก็เมื่อยปาก” ตอบด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่าแล้วก็ลุกขึ้นยืน แต่ยืนไม่ถึงห้าวิก็ต้องนั่งลงบนที่นอนตามเดิมเมื่อส่วนกลางใจสาวของเธอนั้นปวดระบมมาก โรมันไม่รีรอเขารีบดีดตัวลุกขึ้นยืนแล้วเดินมาอุ้มคนตัวเล็กพาเข้าไปในห้องน้ำ“เมื่อเช้าเพื่อนเธอทักมาด้วยบอกว่าอยากชวนไปเม้ามอยเย็น
“นายจะรีบอะไรขนาดนั้นโร!” ร่างบางเอ่ยถามแฟนหนุ่มเมื่อมาถึงคอนโดโรมันก็อุ้มเธอพาขึ้นมาในห้องนอนด้วยความรวดเร็ว ร่างสูงไม่ตอบอะไรเพียงแต่ยืนกอดอกมองเธอด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม ดูจากรอยยิ้มก็คือไม่ต้องเดาว่าสมองของเขาตอนนี้กำลังคิดถึงเรื่องอะไรอ่ะ“รีบเอาเธอไง ฉันอยากแย่แล้ว”“เปลี่ยนเป็นวันพรุ่งนี้ได้มั้ย วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันเลย นอนกอดกันเฉยๆ ได้มั้ย” น้ำเสียงอ่อนๆ ของบลูเบลล์บอกพร้อมกับบขาเรียวก้าวเข้าไปยืนชิดร่างสูงที่ส่ายหน้าให้รัว“ไม่เอาอ่ะ”“โรคะ พักบ้างก็ได้มั้ย?”“เบลล์ครับ ของฉันมันก็หงอยดิ สักน้ำสองน้ำก็ยังดีนะ”“โรคะ เบลล์เหนื่อยเบลล์เมื่อยจริงๆ ไปอาบน้ำมานอนกอดกันก็พอนะคะ” จากที่แทนตัวเองว่าฉันก็เปลี่ยนเป็นแทนตัวเองด้วยชื่อเล่นกับน้ำเสียงหวานๆ พร้อมกับยกมือขึ้นไปกอดลำแขนแกร่งแล้วซบหน้าลงบนต้นแขนของเขา“ไม่ต้องมาอ้อน…”“เบลล์เหนื่อยจริงๆ เราไปอาบน้ำแล้วโรนอนกอดเบลล์ก็พอนะคะ”“ไม่พอ ไม่อยากได้แค่กอดเบลล์ครับ…”“โรไม่รักเบลล์แล้วเหรอคะ โรไม่อยากให้เบลล์พักหอยบ้างเลยเหรอ”“โอเค พักก็พัก..เลิกทำน้ำเสียงอ้อนแบบนี้สักที” น้ำเสียงและท่าทางที่มันดูน่ารักดูขี้อ้อนเหมือนเด็กๆ ทำให้คนอย่
ทางด้านบลูเบลล์เมื่อเดินเข้ามาในบ้านของคุณออมสินเธอก็สอดส่ายสายตามองหาผู้เป็นแม่ก่อนจะไปเห็นคุณเบนนีกำลังยืนคุยอยู่กับคุณต้นอ้อ ร่างเพรียวจึงเดินตรงดิ่งเข้าไปหาทั้งคู่ไม่ลืมที่จะยกมือไหว้คุณต้นอ้อด้วย“สวัสดีค่ะคุณป้า”“สวัสดีจ้ะ เรานี่ก็ใช่ย่อยนะป้าถามว่าแฟนตาโรเป็นใครก็ไม่ยอมบอกที่แท้ก็เป็นเรานี่เอง” คุณต้ออ้อตีแขนของบลูเบลล์เบาๆ อย่างไม่จริงจังนัก แล้วเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงที่พึงพอใจหลังจากได้รู้ว่าแฟนสาวของลูกชายก็คือคนใกล้ตัวนี่เอง“แฮะๆ รอเซอร์ไพรส์ไงคะ…ไม่รู้ว่าเป็นหนูคุณป้าจะรับเป็นสะใภ้มั้ย?”“แหม จะไม่รับก็ยังไงอยู่มั้ยรู้จักตั้งแต่ตัวเท่าขวดน้ำ”“อืม แล้วแม่ให้คนไปเรียกหนูมีอะไรหรือเปล่าคะ?” หันไปถามคุณเบนนีที่กำลังยกโทรศัพท์ขึ้นมากดถ่ายรูปเธออยู่ แล้วจากนั้นก็คงจะไปโพสต์ลงเฟสบุ๊คพร้อมกับประโยคแสนจะน่ารักอย่าง ‘ลูกสาวใครนะ สวยจัง’ อีกตามเคยล่ะสิ“ก็ให้มาคุยกับแม่แฟนบ้างไง อีกอย่างแม่กับอ้อคุยกันแล้วว่าหากลูกคิดจะอยู่กินกันจริงๆ ทางอ้อก็จะจัดงานแต่งให้ เพราะลูกสองคนก็ไม่ใช่เด็กๆ แล้วไง”“ใช่ๆ และที่สำคัญนะ ป้าอยากมีหลานแต่งปุ๊ปต้องปั๊มหลานให้ป้าทันทีเลยนะ”“ไม่ต้องแต่งก็ปั๊มให้
“พี่เบลล์ทำงานอะไรอยู่เหรอคะ?” อังเปาเอ่ยถามหญิงสาวตรงหน้าด้วยแววตาเป็นประกาย ทั้งที่เติบโตมาในครอบครัวที่มีผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่ แถมยังได้เข้าเรียนในโรงเรียนหญิงล้วนแต่ทำไมเธอร้สึกว่าบลูเบลล์สวยดึงดูดเธอมากเลยไม่รู้“ตอนนี้พี่เปิดร้านดอกไม้กับร้านเครื่องเขียนน่ะ”“อ่อ เปิดนานหรือยังคะ?”“ก็ได้สองสามปีแล้ว เปาล่ะตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่”“อืม เป็นพนักงานในบริษัทคุณป้าค่ะ แล้วก็กำลังเรียนต่อปริญญาโทอยู่ค่ะ” อังเปาบอกด้วยรอยยิ้ม ดวงตากลมโตจ้องมองบลูเบลล์แทบไม่ลดละ จนคนที่ถูกมองถึงกับทำตัวไม่ถูกได้แต่ยิ้มแห้งๆ ให้“พี่เบลล์มีแฟนหรือยังคะ?”“มีแล้วค่ะ เปาล่ะคะ?”“ไม่มีค่ะ พี่สวยแบบนี้แฟนพี่คงหล่อน่าดูนะคะ”“ก็…พอได้ ฮ่าๆ” บลูเบลล์เอ่ยติดตลก ส่วนอังเปาก็มีเพียงใบหน้าที่เรียบนิ่งแทบจะตลอดเวลา “กรี๊ดด!! แกใครอ่ะ หล่อจัง!” จนมีเสียงของผู้หญิงรุ่นราวคราวเดียวกับพวกเธอสงคนดังขึ้น สองสาวจึงหันไปมองทางหน้าบ้านที่มีสามหนุ่มเดินเข้ามาในงานด้วยชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงขายาวสีดำ รองเท้าหนังถูกขัดจนเงาวับ ผมถูกเซ็ทไว้อย่างลงตัว…“หล่อมากเลยมึง!”“จริง! โดยเฉพาะคนกลาง เขามีเมียยังวะมึง!” เสียงสาวๆ ยังคงดั
เวลา 18:39 น.“เบลล์ครับ…ทำอะไรอยู่เหรอ มืดแล้วนะ” เสียงทุ้มนุ่มดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงเดินเข้ามาในห้องทำงานของแฟนสาวที่นอนหมอบลงไปบนพื้นโต๊ะด้านหน้า เปลือกตาบางปิดสนิทพร้อมกับเสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอ“เบลล์ หลับเวลานี้เนี่ยนะ” เขาบ่นพึมพำกับตัวเองแล้วเดินไปหยิบเสื้อแขนยาวของเจ้าตัวซึ่งแขวนไว้ที่ราวตากผ้านั้นมาคลุมตัวให้เธอ จากนั้นก็เดินมาจัดเอกสารบนโต๊ะที่เกลื่อนกราดให้เข้าที่ก่อนจะหยิบเก้าอี้มานั่งข้างบลูเบลล์“ที่รักครับ กลับไปนอนที่ห้องดีกว่ามั้ย แบบนี้มันเมื่อยนะ” โรมันบอกด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนเมื่อเห็นแขนของเจ้าตัวเล็กเป็นรอยเส้นผมที่เจ้าตัวเอาศีรษะหนุนไว้ ฝ่ามือหนาจึงสอดเข้าไปจับประคองใบหน้าที่เรียวสวยไว้แล้วจ้องมองเธอที่ยังคงหลับไม่รู้สึกตัว“ขี้เซาจริงๆ ตื่นได้แล้วครับ” ขยับมือที่รองอยู่ใต้แก้มของของบลูเบลล์เบาๆ จนร่างเล็กขยับตัวพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมามองเขาแล้วยกมือขึ้นมาขยี้ตาตัวเอง“มาตั้งแต่เมื่อไหร่?”“สักพักแล้ว วันนี้ไปงานคุณออมสินไม่ใช่เหรอ”“อืม เพิ่งเลิกงานเหรอ” ถามพลางบิดตัวเล็กน้อย โรมันจึงพยักหน้ารับแล้วเอื้อมมือมาจับเส้นผมที่บังหน้าสวยๆ ของบลูเบลล์ไปทัดใบหูขาวไว้ ดว
ความคิดเห็น