“ถ้าคุณถอดเสื้อ ฉันจะเปิดกล้องให้คุณเห็นหน้า”
แมทธิวกะพริบตาปริบๆ แล้วยิ้มก่อนจะก้มมองตัวเขาเอง
“อยากเช็กของหรือไง? ให้ผมเห็นหน้าก่อนสิ ถึงจะถอด”
“แล้วแต่นะ…งั้นฉันจะวางแล้ว”
“โอเค”
เขาถอดเสื้อ ทำให้เธอเห็นว่าเขามีกล้ามแขนและหน้าท้องซิกแพค ไอรดาผิวปาก พยักหน้าให้ตัวเองว่าเขาซ่อนรูปจริงแบบที่เธอคิด
“ขอผมเห็นหน้าคุณได้แล้ว อาย”
ไอรดาเอาโทรศัพท์ไปวางไว้ที่โต๊ะที่ใช้แต่งหน้า แล้วเธอไปนอนเล่นอยู่บนเตียง ทำเอาแมทธิวบ่นอุบที่เห็นเธอไม่ได้ถนัดนัก
“ฉันจะได้ทำอย่างอื่นไปด้วยเวลาคุย จะให้มานั่งเปิดกล้องอย่างเดียวจนไม่ทำอะไรได้ไง แล้วนี่มันดึกแล้วไม่ใช่เหรอที่นั่น?”
เขาไม่สนใจเรื่องเวลา แค่พอใจที่ได้คุยกับเธอ
“คุณใส่ชุดแบบไหนไปเดทกับหนุ่มคนนั้นกันนะ สวยกว่าตอนไปกินข้าวกับผมหรือเปล่า”
เธอลงจากเตียงมายืนให้เขาดู หมุนตัวไปมา “แน่นอน ต้องสวยสิ”
“น้อยกว่าไปกับผม”
ไอรดาส่ายหัวแต่ก็ยิ้มอย่างพอใจ จากนั้นทั้งคู่คุยกันเป็นชั่วโมง เรื่องทั่วไป เรื่องงาน งานอดิเรก ความสนใจต่างๆ จนโทรศัพท์ของเธอมีเสียงเตือนว่าแบตจะหมดแล้ว
“ตายละ แบตจะหมด ฉันหิวแล้วด้วย คุณเองก็นอนเถอะ”
“พรุ่งนี้ผมโทรหานะ”
เธอไม่ตอบแต่พยักหน้ายิ้มๆ แล้วกดวางสายไป....
แมทธิวปลื้มใจที่เขาได้เข้าใกล้เธออีกนิด ไอรดาเริ่มคุยนานขึ้นแถมไม่พอใจที่เขาเงียบ
ไปหลายวัน แค่นั้นก็พอแล้วสำหรับขั้นแรกในการจะเดินเข้าไปในใจเธอ
ยามสายของเช้าวันอาทิตย์ เธอสะดุ้งตื่นเพราะแมทธิววีดีโอคอลมา พอดูเวลาก็เก้าโมงครึ่ง
“อรุณสวัสดิ์คนสวย วันนี้อย่าพึ่งไปไหนนะ”
เธองัวเงียหลับตาพูดตอบเขา “ทำไมล่ะ..”
“เดี๋ยวจะมีคนไปหา ผมส่งอะไรบางอย่างให้คุณ”
ไอรดาลืมตัวว่าเธอใส่ชุดนอนไม่เรียบร้อย เวลาเธอขยับตัวแล้วไม่สนใจในกล้อง ทำให้แมทธิวเห็นเนินอกล้นๆเต่งตึงของเธอ ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยเห็นสรีระของผู้หญิง แต่ตอนนี้กลับตื่นเต้น
“นานมั้ย?…งั้นจะลงไปข้างล่างเผื่อเขามา จะไปแปรงฟันล้างหน้าก่อน”
“ตอนนี้คนส่งของกำลังไปหาคุณ น่าจะไม่เกิน 1 ชั่วโมง อย่าพึ่งวางได้มั้ย?”
“ถ้าอีกตั้งชั่วโมงนึง ฉันอาบน้ำดีกว่า จะดูฉันโป๊รึไง?”
แมทธิววางสายไปเพื่อให้เวลาส่วนตัวกับเธอ
หลังจากไอรดาอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ก็มีคนมากดกริ่ง นำดอกกุหลาบช่อโตมาให้ เธอถึงกับยิ้มไม่หุบแล้วโทรหาเขา
“ขอบคุณนะ ชอบมากแต่เสียดายพรุ่งนี้ฉันต้องกลับกรุงเทพ แต่ว่าเปลี่ยนใจดีกว่า อยู่อีกสักหน่อยรอให้มันแห้ง”
“ดีใจที่คุณชอบ แล้ว..คุณจะทำอะไรต่อวันนี้”
“ฉ้นจะนั่งทำงานแล้วเย็นๆจะไปนั่งชิลที่ไหนสักที่ ว่าแต่ นี่คุณคุยนานไปแล้ว”
“ผมนอนก่อน ไว้จะโทรมาใหม่”
ไอรดาอยู่เชียงใหม่ต่ออีกสามวัน จนกระทั่งกลับไปสู่ความวุ่นวายที่กรุงเทพตามเดิม แล้วทักในไลน์กลุ่มเพื่อนๆว่ากลับมาแล้ว ก่อนจะเปลี่ยนเสื้อผ้าไปหากลุ่มที่เต้นโคฟ
กัน ซึ่งการได้ปลดปล่อยพลังงานทำให้สดชื่นขึ้นมาก
ทางด้านแมทธิว การได้คุยกับไอรดาทุกวัน ทำให้เขามีความสุขมากขึ้น แม้ว่าเธอจะ
ไม่ชอบคุยนาน แต่การได้อัพเดทชีวิตเธออย่างต่อเนื่อง เขาจะได้รู้ว่ามีคนเข้าหาเธอ
มากน้อยแค่ไหน
ไม่นานนักก็มีข้อความจากภรรยาเก่าส่งมาว่าต้องการคุยด้วย เขาจึงโทรกลับหาเธอ
“หนูอยากคุยเรื่องลูกหน่อย พี่แมท”
“พูดได้เลย พอดีผมทำงานอาจจะคุยได้ไม่นานมาก”
“จะปรึกษาเรื่องย้ายโรงเรียน อยากให้วีวี่ไปอยู่อีกที่ เป็นโรงเรียนนานาชาติ ลูก
จะได้ไม่ลืมภาษาอังกฤษ”
“ที่เรียนอยู่ก็มีหลักสูตรนานาชาติไม่ใช่เหรอ ที่เราไปเลือกกัน”
“วีวี่บอกว่า เพื่อนในห้องพูดอังกฤษไม่เก่งกันเลย”
“ค่าเทอมประมาณเท่าไหร่?”
“สามแสนต่อปี…เป็นการซื้อสังคมให้ลูกนะ ก็ไม่ได้อะไรหรอก ถ้าไม่ได้ก็เรียนที่เดิม”
“ขอคิดดูก่อนนะ”
“แล้วพี่แมทมาไทยไม่มาหาลูกเลย ถ้ามารอบหน้ามาหาได้มั้ย? แกถามหา”
“ถ้าไปไทยอีกรอบจะไป แต่ยังไม่รับปากว่าตอนไหน”
“หนูกับวีวี่คิดถึงพี่แมทนะ”
แมทธิวได้ยินแบบนั้นก็เงียบ ไม่พูดอะไรต่อ
“เมื่อไหร่เราจะกลับมาเหมือนเดิม ไหนบอกว่าให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์”
“อย่าพึ่งพูดเรื่องนี้เลย สนใจแค่เรื่องลูกก่อน”
“ทุกวันนี้หนูยังไม่เข้าใจเลยว่าไม่ได้ไปมีอะไรกับใคร ทำไมต้องมาฟ้องหย่ากัน
แบบนี้”
“ตอนนี้ผมดีขึ้นแล้ว ไม่ได้คิดโกรธหรือเสียใจ..แค่นี้ก่อน ไว้คุยกันทีหลัง”
กานต์วิภา หรือ กานต์ ภรรยาเก่าของเขา พอได้ยินว่าเขาอยากตัดบท เลยจำเป็น
ต้องวางสายไป…
การหย่าร้างแล้วกลับมาไทย ทำให้เธอต้องปรับชีวิตใหม่ ตลอดเวลาที่คบหากับเขาจนแต่งงาน สามปีที่เธอไม่ต้องทำงานเพราะมีเขาคอยซัพพอร์ตเสมอมา ตอนนี้เธอต้องกลับมาทำงานอีกครั้ง โดยงานที่ขอนแก่นไม่ได้หาง่ายสำหรับเธอ เพราะเธอเรียนจบแค่ มัธยมปลายแล้วมีลูกเสียก่อน ทำให้ต้องกลับไปทำงาน MC พริตตี้แบบที่ถนัดอีกครั้ง เหมือนเมื่อเคยทำที่กรุงเทพ
โมเดลลิ่งที่ไอรดาสังกัดอยู่ติดต่อมาในวันหนึ่ง ขณะที่กำลังเดินอยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ต
“น้องอาย มีงานต่างประเทศสนใจไหม? ทำหกวัน แต่ไม่ได้งานนี้คนเดียวมีอีก
สองคนได้ไปด้วย เรทน่าสนใจอยู่ ของน้องอายเค้าให้สองพันต่อชั่วโมง ถ่ายวันละสี่ชั่วโมง มีสามแบรนด์ ชุดแฟชั่น มีเซ็กซี่บ้างแต่ไม่โป๊”
“อายขอรายละเอียดทีค่ะ พี่หงส์?”
“บิน Thai Air Asia ทำงานที่ไทเป ส่วนของโรงแรมที่พักนี่เค้า offer ให้แบบ
สามดาวนะ ห้องดีมีอ่างอาบน้ำไม่ต้องอยู่รวมกัน แยกคนละห้อง”
“ไปวันไหนคะพี่?”
“วันอังคารหน้า อีกสองคนพี่ถามก่อนเราแล้ว เค้าตกลงกันหมดละ”
“โอเคค่ะพี่หงส์”
ไอรดาคำนวนแล้วว่า พอได้ค่าขนมหลังหักภาษีและเปอร์เซ็นต์ให้ทางโมเดลลิ่งแล้ว แถมถือโอกาสไปเที่ยวเพราะทำงานแค่สี่ชั่วโมงบวกลบไม่น่าเกินหกชั่วโมงต่อวัน
ถึงคอนโด เธอจัดของที่ซื้อมาอยู่ที่ห้องครัว แมทธิววีดีโอคอลเข้ามาหาด้วยน้ำเสียงที่งัวเงีย
“กินอะไรหรือยัง อาย?”
“คุณตื่นเพื่อมาถามว่าฉันกินข้าวหรือยังเนี่ยเหรอ? ที่นั่นตีสาม แทนที่จะนอน
พักยาวๆ โทรมาเวลาปกติของคุณก็ได้ เพราะสี่ห้าทุ่มฉันยังไม่นอน นี่พึ่งกลับมาจาก
ข้างนอก ว่าจะทำอะไรง่ายๆกินก็พอ”
“ไม่แต่งหน้า ดูเด็กไปเลย น่ารักมาก”
อยู่ๆเขาก็ชม ไอรดาที่กำลังจัดของถึงกับส่ายหน้ายิ้มๆ ทำนองว่าไม่เชื่อ
“อังคารหน้าฉันจะบินไปไทเป ไปทำงานนิดหน่อยประมาณหกวัน น่าตื่นเต้นดี
ไม่เคยไปมาก่อน ต้องเตรียมกระเป๋าซื้อของฝากเพื่อน”
ทำเอาแมทธิวลุกขึ้นมานั่งบนเตียง หน้าตาเขาดูดีใจอย่างเห็นได้ชัด ผิดกับไอรดาที่ยัง
จัดของต่อไป
“ผมจะไปเจอคุณ เพราะอากงอาม่าผมอยู่ที่ไทเปเหมือนกัน”
ไอรดาเอาโทรศัพท์เดินเข้าไปในห้องนอน เธอไปหยุดยืนที่หน้าต่างแพลนกล้องไปที่วิวกรุงเทพ พลางถามเขา
“วิวที่ไทเปเป็นแบบไหน คล้ายที่นี่มั้ย?”
“คุณพักที่ไหนล่ะ? ที่พักไม่แพงแต่เห็นวิวสวยๆก็มี ผมดูให้ได้”
“ทางคนจ้างให้ห้องพักสามดาว ถ้าห้องไม่ถูกใจอาจจะพักแค่สองสามวันแล้วคงปล่อยห้องไว้แบบนั้น แล้วค่อยเลือกโรงแรมเอง ฉันจ่ายเองได้ ค่าจ้างก็พอได้อยู่”
“ผู้ชายที่ไปเดทกับคุณก่อนนี้ เป็นไงบ้าง? ยังติดต่ออยู่มั้ย?”
เธอหันกล้องกลับมาให้เขาเห็นหน้าเธออีกครั้ง
“ก็ทักมาทุกวันแต่คุยกันไม่นาน เขาต้องนอนไว ตื่นเช้าช่วยกิจการครอบครัว”
แมทธิวฝืนยิ้มให้ก่อนจะพยักหน้า
เท่ากับว่าเธอคุยทั้งกับเขาและผู้ชายคนอื่นหรืออาจจะมากกว่านี้…
“ทำหน้าเศร้าเลยนะ” เธอยักคิ้วให้ พูดด้วยเสียงสดใส
“ฉันไม่คิดกับเขามากกว่าเพื่อน เขาติดพ่อแม่มากไป ชีวิตฉันมีตัวคนเดียวไม่ได้ต้องการแค่แฟน ฉันคาดหวังมากกว่านั้น ยังไงฉันก็ผู้หญิง จะเข้มแข็งยังไงก็ยังอยาก
ได้คนที่สามารถไว้ใจได้ในตอนที่อ่อนแอ”
จากนั้นเธอคุยกับเขาแค่พักเดียวก็ขอวางสายไป
ไว้เจอกันที่ไทเป...ไอรดา
แต่ตอนนี้เขาต้องจัดการจองตั๋วเครื่องบินไปไต้หวัน ต้องคิดเรื่องลูกเลี้ยงเกี่ยวกับค่าใช้จ่าย ถ้าต้องย้ายโรงเรียน
ภรรยาเก่าของแมทธิวทำไอจีลูกสาวซึ่งกดติดตามกันและกันกับเขาเอาไว้ เธอมักลง
รูปวีวี่ไว้เสมอๆและเขากดไลค์ให้ทุกครั้ง แต่จริงๆแล้วมันมีเหตุผลมากกว่านั้น…
กานต์วิภาใช้ไอจีของลูกสาวเข้าดูว่าเขาติดตามใครบ้าง เพราะเแมทธิวดูไม่ใจอ่อนลง
เลย จนกระทั่งเธอสงสัยคนที่เขาติดตามคนหนึ่ง อีกทั้งผู้หญิงคนนี้ก็ติดตามเขาด้วย
เธอไล่ดูทีละรูปของผู้หญิงคนนี้ เห็นว่ามีโพสต์ที่พึ่งฉลองอายุครบ 25 ปี ไปไม่นานนัก
แมทธิวกดไลค์เธอเกือบทุกรูป จนถึงรูปที่แมทธิวคอมเมนต์เอาไว้ เธอรู้ได้ทันทีว่าทั้งคู่
ไปดื่มด้วยกัน เพราะวันที่ใต้รูปนั้นคือตอนที่แมทธิวมาประเทศไทย
นี่สินะที่ทำให้พี่แมทไม่มาหาวีวี่กับฉัน…..
ซึ่งสิ่งนี้กวนใจกานต์วิภามาก ไม่คิดว่าหย่าได้แค่ครึ่งปี เขาจะพบกับคนใหม่รวดเร็วนัก
คืนวันศุกร์ ไอรดาได้นัดแฮงค์เอ้าท์ชิลๆกับกลุ่มเพื่อนสาวที่บาร์ แล้วบอกทุกคนว่าจะไปไต้หวัน เผื่อใครจะฝากซื้อหรืออยากได้อะไร
“ใครอยากไปกับฉันก็ได้นะ”
“ช่วงนี้กรอบ มีให้ยืมก่อนมั้ยล่ะ?” เปิ้ลถามทีเล่นทีจริง
จูนได้ยินแบบนั้นก็รีบพูดขึ้นมาทันที
“โอ้ยย อายมันไม่ใช่เอทีเอ็มนะ ที่เที่ยวๆกันหลายครั้งเนี่ย แกคืนให้ครบก่อน นางก็ตัวคนเดียว แกเนี่ยเวลาไม่มี ยังขอพ่อขอแม่ได้”
ไอรดาจับแขนเพื่อน ส่ายหน้าให้รู้ว่าเธอไม่ได้คิดอะไรมาก
“ไม่เป็นไรหรอก มีค่อยคืน”
“ว่าแต่แกไปอาทิตย์นึงเลยเหรอ ไปคนเดียวไหวป่ะ ฉันไปเป็นเพื่อนได้นะ จ่าย
ให้ตัวเองได้ไม่ซีเรียส”
จูนเพื่อนสนิทที่สุดของเธอเอ่ยถามขึ้นเพราะเริ่มเป็นห่วง
ไม่ทันจะตอบ คนทางไกลก็วิดีโอคอลเข้ามา ไอรดาเปิดกล้องคุย ทำเอาทุกคนแซวกันยกใหญ่ เธอหันกล้องให้เขาเห็นเพื่อนทุกคน ซึ่งเขาจำเพื่อนทุกคนของเธอได้ แมทธิว
ชมทุกคนว่าสวย
“โดยเฉพาะอาย สวยที่สุด”
ทำเอาเธอหน้าแดงต่อหน้าเพื่อนๆ เลยปิดกล้องขอตัวออกไปคุยนอกร้าน
“แมทธิว คุยไม่นานนะ คุณควรทานมื้อเช้าแล้วทำงาน”
“ผมได้ตั๋วเครื่องบินแล้วจะไปล่วงหน้าหนึ่งวัน เวลาคุณมาถึงไทเปผมจะรอรับ”
“ฉันไปกับเพื่อนในโมเดลลิ่งอีกสองคนแล้วทางคนจ้างจะมีคนมารับ ไม่เป็นไร สบายมาก”
แมทธิวขับรถอยู่แต่หน้าเขาสลดลงเล็กน้อย “คุณคงอายเพื่อน ผมเข้าใจ”
เขาฝืนยิ้มให้เธอ
ไอรดาแปลกใจที่แมทธิวคิดแบบนั้น เลยอยากปลอบเขา
“ทำไมคิดแบบนั้นน่ะ อายเรื่องอะไร? ฉันออกมาคุยข้างนอกเพราะไม่อยากรบกวนเพื่อน แล้วที่ไม่ให้มารับเพราะมาทำงานไม่ได้มาเที่ยว งานต้องมาก่อน คน
จ้างจะมองยังไง จริงมั้ย?”
อย่างน้อยเธอก็ยังพยายามอธิบายให้เขาสบายใจ แม้ว่าจะยังไม่ได้ให้สถานะอะไร
“งั้นผมไม่รบกวนแล้ว คุณสนุกกับเพื่อนต่อเถอะนะ”
พอวางสายไอรดากลับรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา แต่เธอคิดว่าเขามีวุฒิภาวะพอ ไม่น่าจะ
มาน้อยใจอะไร
แมทธิวไม่ได้ติดต่อเธออีก จนกระทั่งวันอาทิตย์ที่เขาต้องบินไปไต้หวัน ถึงจะวีดีโอคอลกับเธอในช่วงเช้าที่ซานฟรานซิสโก จะได้ไม่รบกวนเวลาพักผ่อนและไม่ดึกเกินไปที่ไทย
“ผมต้องไปสนามบินตอนเที่ยง ตื่นเต้นมากที่จะได้เจอคุณ ง่วงหรือยัง?ทำอะไรอยู่?”
เธอมองเขาในกล้องแล้วยิ้มเล็กๆ “นั่งฟัง Podcast อะไรไปเรื่อยเปื่อยน่ะ”
“วันนี้คุณไปไหนมาบ้าง เมื่อวานผมจัดของทั้งวันกับออกกำลังกาย ช่วงนี้ได้กลับมาออกกำลังกายทุกวัน จำได้ว่าคุณชอบดูรูปร่างผม”
ไอรดามองค้อนเขาที่ยิ้มตาสระอิแบบนั้น “ไม่เคยพูดเลยนะว่าชอบดู แค่คิดแกล้ง
คุณเฉยๆ”
“คุณผิวปากด้วย ทำผมเขินแทบแย่”
“งานถ่ายแบบที่จะไปถ่าย ต้องใส่ชุดว่ายน้ำด้วย นี่ภาวนาขอชุดเซ็กซี่ๆ จะได้
สมกับที่เสียเงินดูแลผิวไปเยอะ”
ตอนนั้นเธอเริ่มลดชุดคลุมลงจนเห็นสายเสื้อชั้นใน ผิวหัวไหล่ดูนวลเนียน เขาใจเต้น
แรงทันที ในขณะเดียวกันก็ไม่ค่อยสบายใจนัก
“เขาให้ค่าจ้างคุณเท่าไหร่?”
“จะให้มากกว่าเหรอ? จะได้ใส่ให้คุณถ่ายรูปคนเดียวไปเลย”
ไอรดาทำหน้าเหมือนยั่วยุ มันทำให้เขาคิดจริงจัง
“ผมถึงอยากรู้ว่าเท่าไหร่? พอมีเงินเก็บอยู่บ้าง ถ้าจ่ายแล้วทำให้คุณไม่ต้องไปถ่ายแบบนั้น ผมยอม”
กลับมีเสียงหัวเราะของเธอที่ขำขันแทน แต่พอเธอเห็นแมทธิวที่ขมวดคิ้ว ก็เริ่มคิดได้
ว่าเขาคงซีเรียสจริง นั่นยิ่งทำให้เธอรู้สึกเร้าใจ
“ก่อนที่จะทำธุรกิจกัน ไม่อยากเช็กของก่อนจะจ่ายเงินเหรอ?”
“หมายความว่ายังไง?”
“สิทธิพิเศษแบบ Exclusive ไง…แมทธิว”
หรือนี่คืออีกด้านหนึ่งของไอรดา…ที่เธอเป็นโสด อาจเพราะมีรสนิยมแบบนี้?….
“คุณยอมจ่ายมากกว่า ฉันก็จะเป็นนางแบบส่วนตัวให้ เรทต่อชั่วโมงต้องได้มากกว่าที่เคยได้ เพราะชุดพวกนั้นฉันซื้อมาแพง แบบว่ามันเป็นรสนิยมส่วนตัวน่ะ
โดยเฉพาะ Agent Provocateur ฉันมีหลายเซทเลย แต่มีข้อแม้ว่าห้ามนำไปเผย
แพร่ ฉันฟ้องคุณล้มละลายแน่”
“คุณเคยทำแบบนี้มาก่อนมั้ย? อาย”
“คิดว่าฉันสนใจที่เงินจริงๆเหรอ หัวอ่อนจัง”
ไอรดาใช้หางตามองกล้อง เริ่มมีสีหน้าที่ดื้อดึงขึ้นมา
“ผมไม่ได้ดูถูก อย่าพึ่งโกรธ ผมห่วงจริงๆ ถ้าคุณเคยทำ มันจะอันตรายกับตัวเอง อาจจะมีใครเอาภาพคุณไปทำอะไรไม่ดีได้”
เธอทำปากมุบมิบล้อเลียนเขา ก่อนจะยื่นหน้ามาใกล้กล้อง
“บ่นมากจังคนแก่ ไม่อยากคุยด้วยแล้ว Good night!”
วีดีโอคอลถูดกดปิด ทำเอาแมทธิวถอนหายใจ เธอไม่ใช่คนเอาแต่ใจแต่มีนิสัยขี้งอน
จากที่เขาคุยด้วยมาร่วมเดือน
เสียงวิดีโอคอลจากแมทธิวเข้ามาอีกครั้ง ไอรดาอยากจะกดทิ้ง สุดท้ายก็รับสาย
เพราะอยากให้เขาง้อ “จะบ่นอะไรอีกมั้ย?”
เธอพูดแค่นั้น แล้วทิ้งโทรศัพท์ตั้งไว้บนโต๊ะ ไฟในห้องนอนเธอปิดลงแล้ว เหลือแค่
แสงไฟสลัวที่หัวเตียง แมทธิวเห็นเธอยืนมองออกไปนอกหน้าต่างบานใหญ่
“ไหนว่าจะทำธุรกิจกันไง?” แมทธิวพูดถาม
ไอรดาหันมายืนพิงหน้าต่าง กอดอก ยืนพูดอยู่ไกลๆแบบนั้น
“ฉันไม่สามารถยกเลิกงานได้ ไม่งั้นโมเดลลิ่งจะต้องโดนปรับ ฉันเองก็จะโดนด้วย ต่อให้คุณอยากจ่ายให้ฉันไม่ไปถ่ายชุดว่ายน้ำก็เถอะ”
พอเธอพูดจบก็ค่อยๆถอดชุดคลุมออก แล้วหันหลังให้เขา มือที่สัมผัสกระจกหน้าต่าง รูปร่างในชุดชั้นในลูกไม้สีดำ ทำแมทธิวตกใจจนต้องยื่นหน้ามาจ้องโทรศัพท์อย่างใจ
จดใจจ่อ
“คุณไม่กลัวใครเห็นเหรอ? ปิดม่านเถอะ หน้าต่างห้องคุณมันกว้างมากจนเห็นไปทั้งห้องแล้ว อาย”
“ค่าตั๋วไปกรุงเทพที่ฉันต้องคืนให้ คุณไม่ส่งเลขบัญชีมาให้ฉัน”
เธอเดินช้าๆโชว์เรือนร่าง มานั่งไขว่ห้างปลายเตียง ทำเอาแมทธิวใจสั่น
“ไม่ต้องคืนหรอก” เสียงเขาเริ่มแตกพร่า
ไอรดายักคิ้วยิ้มๆ “งั้นก็ถือว่าหายกัน ฉันนอนล่ะ ราตรีสวัสดิ์”
โดยไม่ปิดวีดีโอคอล เธอลุกไปนอนทั้งที่คาสายไว้แบบนั้น ทำให้แมทธิวไม่ปิดวีดีโอคอลไปด้วย ถึงแม้ว่าเขาจะเห็นเธอไม่ถนัดนัก แต่บั้นท้ายลูกพีชที่กลมกลึงนั้น เพียงแค่นี้ก็ทำให้ข้างในเขาปั่นป่วนไปหมด
ก่อนจะขึ้นเครื่อง ภรรยาเก่าส่งข้อความมาหา เพื่อทวงคำตอบเรื่องย้ายโรงเรียนอีก
ซึ่งเขาได้ตอบกลับสั้นๆเพราะต้องขึ้นเครื่องไปไต้หวัน นั่นยิ่งทำให้กานต์สงสัย แต่เธอเลือกที่จะไม่ถามต่อ
ช่วงสายของวันจันทร์ ไอรดาเตรียมกระเป๋าเสร็จหมดตั้งแต่คืนวันอาทิตย์แล้ว เธอจึงพักผ่อนชิลๆที่คอนโดก่อนจะได้เวลาไปสนามบินสุวรรณภูมิ
“น้องอาย เตรียมตัวหรือยัง? ต้องไปก่อนสี่โมงครึ่งนะ เครื่องออก 17.40 ถึงนู่น
ก็สี่ทุ่มหน่อยๆ”
พี่หงส์ที่โมเดลลิ่งส่งข้อความมาย้ำเธอ
เท่ากับว่า แมทธิวจะถึงไทเปก่อนประมาณสองชั่วโมง
บ้าจัง…ฉันจะตื่นเต้นอะไรกับคนขี้บ่นแบบนั้น...
22.15 ตามเวลาประเทศไทย เท่ากับเวลา 23.15 ที่ไทเป
ไอรดาและเพื่อนนางแบบอีกสองคนไปถึงสนามบินเถาหยวน โดยมีสต้าฟของคนจ้างงานมารอรับเพื่อไปที่ RF Hotel
เปิดโทรศัพท์ดูก็เห็นข้อความของแมทธิวที่ส่งทิ้งไว้ ว่าเขาจะรออยู่ในสนามบิน
เมื่อเห็นแบบนั้นก็โทรหาเพื่อบอกว่าเธออยู่ที่ซื้อตั๋วรถไฟ
“พวกเธอไปกันก่อน พอดีเรานัดเจอเพื่อนน่ะ นี่ห้าทุ่มกว่าแล้วจะได้ไปพักผ่อนก่อน”
“งั้นเจอกันตอนเช้าที่ห้องอาหารนะอาย”
เพื่อนนางแบบคนหนึ่งจับแขนเธอเบาๆ แล้วผละไปกับทุกคน
ไอรดานั่งบนกระเป๋าเดินทาง เล่นโทรศัพท์สบายๆ แมทธิวที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งสะพายกระ
เป๋ามาด้วย ไม่ว่าคนจะขวักไขว่มากแค่ไหน สายตาของเขากลับเห็นแต่เธอที่อยู่ตรงนั้น
“อาย รอนานมั้ย? ง่วงหรือหิวหรือเปล่า?”
สีหน้าและสายตาเธอดูดีใจที่เห็นเขา แต่ก็พยายามเก็บอาการ
“อยากเอาของไปที่ห้องก่อนมากกว่า แล้วค่อยว่ากันอีกที คุณล่ะ มารอตั้งสองชั่วโมงกว่า แล้วพักที่ไหน?”
“คุณพักที่ไหน ผมก็อยู่ที่นั่น”
“จะบ้าเหรอ” ไอรดาหน้าแดงขึ้นมา
ไอรดานึกถึงที่ไปยั่วแบบนั้น แมทธิวอาจคิดจริงจังขึ้นมา....
“ผมไม่ได้จะพักห้องคุณ เดี๋ยวไปเปิดห้องใหม่”
แมทธิวจัดการจองตั๋วรถไฟสายสีม่วงไปลงที่สถานีใกล้โรงแรม ช่วยลากกระเป๋าให้
เธอออกจากสถานีใช้เวลาเดินไม่ถึงห้านาทีก็ถึงที่พักของไอรดา
เขาจัดการเปิดห้องได้ที่ชั้นสี่ ส่วนไอรดาที่ยื่นพาสปอร์ตเพื่อยืนยันการเข้าพักห้อง
ของเธออยู่ที่ชั้นสาม แมทธิวอาสาไปส่งเธอที่ห้อง ภายในห้องเล็กกว่าห้องนอนที่
คอนโดของเธอครึ่งหนึ่ง แต่ทุกอย่างถูกจัดอย่างดี
“ห้องเล็กไปหน่อย ผมหาให้ใหม่ได้นะ แล้วปล่อยที่นี่ไว้แบบนี้ก็ได้ ถ้าเกรงใจ
ไม่อยากบอกเขา”
“ไม่เป็นไร นี่ก็โอเคอยู่ ฉันไม่ใช่คนเรื่องมากขนาดนั้น”
เธอไปยืนดูที่หน้าต่าง มองเห็นวิวพอประมาณ แมทธิวเข้ามายืนข้างหลังใกล้ๆ เสียงเขาอยู่ข้างหูเธอ ทำเอาเธอไม่กล้าหันหน้าไปหา
“ในที่สุดก็ไม่ต้องเห็นคุณผ่านวิดีโอคอลเสียที”
มือสองข้างของเขายันหน้าต่างไว้ อกกว้างและวงแขนของเขาแนบแผ่นหลังของเธอ
ไอรดาที่ยืนตัวแข็งด้วยความคิดที่ว่า เธอกำลังหาเรื่องเข้าตัวเองเสียแล้ว.....
แมทธิวกลับมาพร้อมกับข่าวดีที่จะทำให้ภรรยาของเขาได้สบายใจ จากที่เธอกังวลมาตลอดเก้าเดือนเต็ม เขายื่นโทรศัพท์ให้ไอรดาเพื่อให้แจ้งข่าวนี้ไปถึงคนที่เขาเกลียดที่สุด“ผมดูแลลูกเอง คุณพักก่อนเถอะ แล้วบอกพวกเขาซะ จะได้ขาดกันเสียที”ไอรดารับโทรศัพท์มาพร้อมกับยิ้มอย่างโล่งอก พลางเดินออกไปหน้าบ้านเพื่อสูดอากาศที่สดชื่นเป็นพิเศษสายเข้าจากไอรดา ทำให้เจตสุวีย์ที่กำลังกินมื้อเย็นอย่างหดหู่กลับตื่นเต้นขึ้นมาจนต้องขอตัวจากโต๊ะอาหารขึ้นไปคุยที่ห้องส่วนตัวที่ชั้นสอง “พี่คิดถึงหนูมาก เฝ้ารอว่าหนูจะโทรกลับหรือส่งข้อความมาสักนิดก็ยังดี” “เปิดกล้องหน่อยดีมั้ยคะ เพราะมันอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราอาจจะได้คุยกัน” พื้นที่ใต้เท้าเขาเหมือนมันถล่มดูดกลืนร่างของเขาให้จมลงในธรณีนี่จะเป็นการคุยผ่านวีดีโอคอลครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของเขาแบบนั้นสินะ..“พี่ขอโทษทุกอย่างที่ทำลงไป..ใจพี่เป็นของหนูไปแล้วตั้งแต่แรกที่ได้เจอเด็กสาวคนนั้นที่บ้านที่เชียงใหม่ สุดท้าย..พี่พยายามทำทุกอย่างให้หนูเป็นของพี่ แต่จริงๆแล้วพี่ต่างหากที่เป็นของหนู”ไอรดาเห็นเขาที่ดูหน้าตอบลงอย่างเห็นได้ชัด แววตาเขาเศร้าหมองและใต้ตาคล้ำ ต่างกับหนุ่มเ
เจตสุวีย์อัพเดทเรื่องของไอรดาผ่านน้องสาวอยู่ตลอด ตอนนี้เธอตั้งครรภ์เข้าเดือนที่สอง แล้ว เขาเริ่มเข้าข้างโอกาสสุดท้ายของตัวเองว่าเด็กในท้องต้องเป็นลูกของเขา แต่ทว่าช่วงนี้ เขาเริ่มเจอปัญหาในโรงงานที่พึ่งจะก่อตั้งและลงทุนไปเยอะมาก เงินที่ขายหุ้นไปได้เป็นแค่ส่วนหนึ่งของที่ลงทุนไปเท่านั้น เจตสุวีย์ได้ยินเรื่องการดีลและซื้อขายวัตถุดิบที่เหมือนกับที่เขาใช้ในโรงงานไปเป็นจำนวนมากทั้งในประเทศและแถบอาเซียน มีการวิ่งเสนอราคาให้ลูกค้าทั้งต่อหน้าและตัดราคาลับหลัง โดยบริษัทหนึ่งที่เขาไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน ไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาสงสัยนั้นจะตรงกับที่เคยเห็นครอบครัวที่มากับไอรดาหรือไม่ เธอไปรู้จักคนพวกนั้นได้ยังไง? พวกเขาเป็นใครกันแน่? เขาสั่งให้เลขานุการไปหาข้อมูลจาก ชื่อและนามสกุลของหุ้นส่วนใหญ่คนใหม่ของไอรดา และแล้วเจตสุวีย์ก็ได้เห็นว่า สามีของผู้หญิงที่ชื่ออุษา คือ แพทริค แอรอน สมิธ ครอบครัวนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จและมั่งคั่งระดับ Billionaire เบอร์ต้นของแคลิฟอร์เนีย ธุรกิจในมือของแพทริคมีมากกว่า 20 แบรนด์อยู่ในมือ หลายหลายธุรกิจทั้งขาวและเทา กระจายอยู่ในยุโรปและอเมริกา บริษัท Startup ในซิลิค
จูนมองหน้าพี่ชายด้วยความผิดหวังอย่างที่สุด ก่อนจะมองตามหลังเพื่อนสนิทที่เดินออกไป“พี่โจใช้คนตามพวกเขาเหรอ? ที่มันเข้าข่ายคุกคามนะ แล้วเรื่องบริษัท จูนพึ่งรู้ว่าพี่จะทิ้งบริษัทไป แล้วเอาแต่เงินทุนออกเพื่อเอาตัวรอด ป๊ายกให้พี่โจตอนไหน? ทำไมจูนไม่รู้เรื่อง? แล้วป๊ากับม๊ารู้หรือยังว่าพี่โจถอนหุ้นทิ้งอายเอาไว้คนเดียว”เจตสุวีย์เหลือบตามองน้องสาวจอมดื้อของตัวเองที่ตั้งคำถามรัวไปหมด พลางถอนหายใจ“ก็ไม่ได้อยากทำหรอก พี่เสนอทางเลือกให้ก็ไม่เอา ยังจะไปกับไอ้นั่นอีก”“พี่โจ..ฟังนะ พวกเขาจดทะเบียนสมรสที่อเมริกาไปแล้ว พี่อยากเป็นชู้รึไง? บ้าจริง ปล่อยเพื่อนจูนไปเถอะ พอได้แล้ว”“จดหลังจากเป็นเมียพี่แล้ว ไม่ตลกไปหน่อยเหรอ อยากประชดพี่เรื่องเมียเก่าไอ้นั่นมั้ง”“พวกเขารักกันจริงๆไม่ได้ประชดพี่ เชื่อจูนสิ”“ว่าแต่เราเถอะ อย่าให้พี่เห็นหน้ามันอีกแล้วกัน ผู้ชายมีตั้งเยอะตั้งแยะ”“นั่นสิพี่โจ ผู้หญิงก็มีตั้งเยอะตั้งแยะเหมือนกัน”เจตสุวีย์เมินใส่น้องสาวที่พูดประชดประชัน เขาสั่งเช็คบิลแทน แล้วให้ลูกน้องพาไปที่บาร์ของเขาต่อ ส่วนจูนนั้นแยกไปหาแฟนหนุ่มแทนเพราะสงสารที่โดนพี่ชายเธอไล่วันต่อมาไอรดากับแมทธิวไปท
ทั้งสี่คนเมื่อถึงที่บ้านที่เชียงใหม่ ป้ารินที่รออยู่ก็ยิ้มแป้น โดยที่เด็กน้อยรีบโผเข้าไปกอด“หนูกลับมาแล้วววว คุณป้าขา”ทำเอาคุณย่าของเธอทำหน้าสลดลงนิดหน่อย ส่วนแมทธิวอาสาเอากระเป๋าของทุกคนไปเก็บ “แมทธิว ให้คุณย่านอนกับวีวี่นะ ให้พวกเขาได้คุ้นเคยกันอีกหน่อยเพราะเวลามีไม่มาก”ไอรดารีบเอ่ยปากชวนคุณย่าคุยต่อที่ห้องรับแขก ส่วนป้ารินออกไปข้างนอกกับวีวี่ที่จับจักรยานสีชมพูไปปั่นรอบๆบ้าน “ท่าทางคุณย่าเสียใจนะคะ แต่ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าได้คลุกคลีหรือพบเจอกันบ่อยๆ เธอคงคุ้นเคยไปเอง แกยังเด็กรับอะไรได้ง่ายกว่าถ้าโตแล้ว”“เด็กวัยรุ่นมันไม่รู้จักโตกัน พอท้องมาก็รับผิดชอบไม่ไหว แต่งงานมัดมือกันไปหม้อข้าวไม่ทันดำก็เลิก ทางนู้นไม่ให้มาเจอจะเอาแต่เงิน ทางนี้ส่งเงินให้ก็ไม่ได้มาก ทุกคนก็ช่วยๆกันเพราะลูกชายก็เรียนอยู่ตอนนั้น มารู้อีกทีแม่เด็กตัดขาดบอกไม่ต้องยุ่งเพราะแต่งงานมีผัวใหม่จะไปได้ดิบได้ดีที่ต่างประเทศ”“เอ่อ…แฟนหนู คือ สามีเก่าของเธอเอง แต่เขารักหลานของคุณย่าเหมือนลูกแท้ๆ หนูไม่รู้จะทำไง เขารักใครหนูก็รักด้วย”คุณย่าถึงกับมึนในความสัมพันธ์แปลกๆที่ยุ่งเยิงไปหมด “เลิกกันนานหรือยังก่อนมาเจอหนูน่ะ”
ขณะอยู่ในรถหลังจากมื้อเที่ยงเสร็จสิ้นลง และทั้งคู่กำลังไปโรงพยาบาลอยู่นั้น ก็มีโทรศัพท์เข้ามาหาไอรดา“ดี…คุณเป็นพ่อที่ดีมาก มันต้องแบบนี้สิ แล้ววันที่ไปน่ะ ซื้อของไปเยอะๆ เข้าใจมั้ย ให้ภรรยาเก่าประหลาดใจไปเลย เข้าใจหรือยัง? แล้วฉันจะไปรับที่บ้านคุณ ส่งโลเคชั่นทิ้งไว้ในไลน์ให้ฉันด้วยแล้วกัน”พอวางสาย ไอรดารีบโอนเงินไปห้าหมื่น แล้วส่งสลิปให้ปลายทางเพื่อยืนยันการโอน “พรุ่งนี้เราต้องบินแต่เช้านะ ไปขอนแก่น” แมทธิวที่ขับรถอยู่ถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก “เอ้า ไม่ต้องงง ขับรถดีๆ เดี๋ยวรถก็ชนหรอก”“ที่รัก แล้วคุณคุยกับใครเมื่อกี้? พอวางสายก็บอกไปขอนแก่น”“พ่อของยัยเด็กดื้อน่ะสิ ใช้เขาให้ไปเอาเด็กมา แกล้งบอกว่าบ้านนั้นอยากอยู่กับหลานบ้าง ตอนแรกภรรยาเก่าคุณก็อิดออด แต่ฉันวางแผนไว้แล้วว่า ให้เขาแกล้งเสนอจะเอาเงินให้กานต์วิภาไปสองหมื่น เธอเลยตกลงง่ายหน่อย ส่วนเขา..ฉันให้สามหมื่นไปใช้เล่นๆ” “เสียเงินอีกแล้วที่รัก ไม่ดีเลยแบบนี้”แมทธิวพูดเสียงอ่อยๆ เขาก็มีส่วนที่ทำให้เธอต้องเสียเงินติดสินบนคนพวกนี้“คุณจองตั๋วด้วยแล้วกัน เลิกพูดเรื่องนี้กันดีกว่า hubby”ไอรดาเอาศีรษะมาซบไหล่เขาอ้อนๆ แค่นี้เขาก็ลืมอะ
แมทธิวเฝ้าดูแลไอรดาให้กินยาจนหลับไป แล้วเอาโน้ตบุ๊คคู่ใจขึ้นมาทำงานบนเตียง เขาแอบปรึกษาพ่อแม่และอากงอาม่าถึงสิ่งที่ไอรดากำลังประสบปัญหาอยู่ในแชทกลุ่มครอบครัว ซึ่งทุกคนพร้อมจะเสี่ยงกับเขา แต่ไปๆมาๆ เขามองว่า มันต้องใช้เงินเยอะมากและทุกคนไม่มีความรู้เกี่ยวกับคาร์บอนเชิงกล กราไฟต์ หรือมอเตอร์อะไรต่างๆ จนกระทั่งเขาได้พิมพ์ชื่อโรงงานนี้ในกูเกิ้ล ได้เห็นความสำเร็จมากมาย มีลูกค้าชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ ก่อนจะเริ่มอ่านข้อมูลต่างๆอย่างละเอียด เขาเริ่มใช้ความรู้เกี่ยวกับการเป็น Developer ทำแผนงานขึ้นมาและสร้าง Presentation คร่าวๆ เพื่อเสนอให้ใครบางคนที่มีหัวธุรกิจ ร่ำรวยและกล้าได้กล้าเสียมากพอ เขากดส่งทั้งหมดพร้อมกับภาวนาให้คุณพ่อคุณแม่ของไอรดาได้ช่วยเขาอีกครั้ง เหมือนตอนที่เขาขอเพื่อจะได้รักเธอขอให้สำเร็จกับสิ่งที่ผมอยากกอบกู้มันขึ้นมาเพื่อช่วยเธอ..ได้โปรด..Kensington,London Englandแพทริคที่กำลังทานมื้อเย็นกับภรรยาและลูกสาว เห็นแจ้งเตือนมีเมลเข้ามาจากในโทรศัพท์ “ขนาดอยู่ไทย ดึกแล้วยังขยันทำงาน”อุษาที่กำลังอุ้มอลิชาเพื่อป้อนข้าวอยู่นั้น เธอแค่ฟังแต่ไม่ได้ถามอะไรต่อ แพทริคทำสีหน้าสนใจอะ