Share

ตอนที่7. ลองขยับตัว

last update Last Updated: 2024-12-28 00:43:27

อะ...อะไรกันเนี่ย! สีฝุ่นคิด ทั้งหมดนี่ มันอะไรกัน เธอพยายามโยนทิ้ง สะบัดมือขวาเพิ่งสลัดหนังสือออกแต่มันก็ไม่ยอมหลุดออกจากมือ ซ้ำยังเหมือนมือของตัวเองกำลังละลายผสานหลอมรวมเข้ากับมันอีก

            ไอซ์ อี โค้ก ยาระยำอะไรสักอย่าง! ในแก้วเหล้านั่นแน่ๆที่ทำให้เธอเป็นแบบนั้น เธอกำลังประสาทหลอนเพราะยา ใครสักคนคงแกล้งเธออีกตามเคย สีฝุ่น นี่มันคือภาพหลอน มันไม่เคยเกิดขึ้นจริง ทั้งเรื่องจูบแรกในชีวิตที่ลานจอดรถนั่น เรื่องที่หล่นลงมาจนพี่ทศเป็นแบบนี้ แล้วก็หนังสือดูดมือนี่ด้วย

            สีฝุ่นหายใจหอบถี่ เหนื่อย สิ้นเรี่ยวแรง ยอมแพ้ นอนนิ่งๆ หลับตาลงปล่อยในทุกอย่างหมุนคว้าง วูบวับลับหายลงในเสียงดนตรีลึกลับที่ดังเหมือนใกล้เข้ามาทุกที เหมือนร่วงหล่นลงในเปลไกว โยกไกวอ่อนโยนชวนง่วงนอน หญิงสาวร่างอวบรู้สึกเหมือนหลับยาวมานานหลายชั่วโมง ตอนที่เริ่มได้กลิ่นคล้ายกลิ่นกำยานไม้หอม และกลิ่นดอกการเวก ผสมผสานกับกลิ่นน้ำอบน้ำปรุงโบราณที่เคยได้กลิ่นตอนไปร่วมงานมงคลของบางบ้าน

            หญิงสาวขยับพลิกตัวเบาๆ รู้สึกสบายใจเมื่อผิวเนื้อรับรู้ได้ถึงความเรียบลื่นนุ่มละมุนผิวของเนื้อผ้าที่ห่มคลุมกายไว้รวมถึงผ้าปูเตียงที่รองรับตัวเธออยู่ ก่อนที่จะเริ่มรู้สึกแปลกๆ

            นี่มันสบายตัวเกินไปแล้ว มันสบายมาก สบาย เหมือนไม่ได้ใส่อะไรเลย!

            คิดแล้วสีฝุ่นก็ลองขยับตัว ยกมือขึ้นลูบตัวไปมาเบาๆ เริ่มจากต้นแขน ไหล่ คอ และมาแตะที่หน้าอก ท้อง สะโพก ก้น เฮ้ยยยยยย! นี่เรานอนแก้ผ้านี่หว่า แม้จะมีผ้าห่มคลุมอยู่ก็เถอะ

            พอนึกได้อย่างนั้นก็สะดุ้งลืมตาขึ้น แล้วก็ต้องสะดุ้งหนักกว่าเดิม เมื่อพบว่า ตนกำลังนอนอยู่ในมุ้งเตียงสี่เสาแบบโบราณ ที่โต๊ะหัวเตียงทั้งสองฝั่งมีโคมตะเกียงดวงน้อยจุดเรียงไว้ข้างละคู่พอให้เห็นแสงสว่างเรือง แสงนี้เป็นแสงสีโทนเดียวกันกับแสงที่หญิงสาวเห็นสว่างออกมาจากหนังสือตอนนั้น กลิ่นหอมอ่อนๆโชยมา น่าจะเป็นกลิ่นตะเกียงน้ำมันหอมแบบที่ใช้ในสปา เสียงเพลงพิณบรรเลงพลิ้วแผ่วดังมาจากด้านหน้าประตูที่มีม่านผ่ากั้นอีกชั้น

            ว่าแต่ ที่นี่มันที่ไหนกัน พี่ทศ! โรงแรม! เวรละ หญิงสาวคิดทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นในใจอย่างรวดเร็วและเชื่อมโยงเรื่องอัตโนมัติในหัวทันทีตามประสาสาวนักอ่านนิยายสายมโน

            หรือว่า... เหล้าแก้วนั้น เป็นพี่ทศงั้นเหรอ? ที่แอบผสมยาบางอย่างลงไป ทำให้เราเกิดภาพหลอนและหมดสติ หลังจากนั้นก็หลอกพามาโรงแรม เราถึงมาอยู่ในสภาพนี้ โอ๊ย ไม่อยากเชื่อเลย คนนิสัยดีๆน่ารักอย่างพี่ทศไม่น่าจะเป็นคนแบบนี้นี่นา เห็นอย่างงี้ ก็ไม่ได้ใจง่ายนะ!

            ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก แต่เธอก็คิดว่าต้องรีบหาเสื้อผ้าใส่แล้วหนีออกไปจากที่นี่โดยเร็วที่สุด สีฝุ่นพรวดพราดลุกขึ้นนั่งแต่แล้วก็รู้สึกได้ว่ามีใครคนหนึ่งนั่งแนบข้างๆตัว แล้วจับต้นแขนทั้งสองข้างกดหญิงสาวที่ยังไม่ทันได้ระวังตัวให้เอนนอนลงบนที่นอนอ่อนนุ่มอีกครั้ง

            ในแสงสว่างวอมแวม ใบหน้าพี่ทศลอยมาในห้วงความคิด เธอกำลังนึกจะต่อว่าให้หนักและอาจจะชกหน้าแรงๆสักที แต่ก็ต้องสะดุ้งเฮือก เมื่อชายคนนั้นคว้าผ้าห่มที่คลุมตัวเธออยู่โยนไปกองที่ปลายเท้า เผยผิวกายเนียนขาวผุดผ่องสว่างไสวท่ามกลางแสงไฟสลัว

            รวดเร็วเกินกว่าจะตั้งตัว ชายผู้นั้นก็โถมร่างทับลงมาตัวบนเธอ และซุกใบหน้าเข้าที่ระหว่างอก กลิ่นยาสูบฉุนคลุ้งไปทั่ว หญิงสาวสะดุ้งเฮือกเมื่อรู้สึกถึงสากหนวดเคราลากไปมาพร้อมเสียงงึมงำละล่ำละลัก “โอ หอม หอมเหลือเกิน แม่กากีของข้า นานเหลือเกินแล้วหนา ที่ข้ารอเชย”

            เสียงนั่นคุ้นๆ คุ้นมาก แต่ไม่ใช่พี่ทศ!

            หญิงสาวผลักไสร่างนั้นให้ห่างออกแล้วดูหน้าชัดๆ จริงด้วย! หูไม่ได้ฝาด ชายวัยกลางคนตรงหน้า ผมสีดอกเลา ใส่ผ้าเตี่ยวผืนเดียวนี่มัน...

            “คุณเปี๊ยก! ไม่อยากจะเชื่อเลย นี่ฝุ่นก็หลงเคารพนับถือว่าเป็นผู้หลักผู้ใหญ่มีความคิด ทำไมทำแบบนี้คะ” ชายกลางคนยิ้มหวาน ดวงตาเคลิบเคลิ้ม “ข้าทำเจ้ากลัวหรือกากี ไม่ต้องกลัวนะ เดี๋ยวพี่จะประโลมเจ้าเอง”

            หญิงสาวโมโหจนควันออกหู และขยะแขยงจนขนลุกไปหมดทั้งตัว “ไอ้แก่ตัณหากลับ ไปให้พ้น! อย่ามาแตะต้องฉันนะ”

            เธอรวบรวมกำลังยกขาทั้งสองข้างขึ้นมาแล้วถีบขาคู่เข้าไปที่หน้าอกร่างนั้นสุดแรงเกิด

            ชายกลางคนกระเด็นหวือหลุดออกจากเตียงสี่เสา ม่านบางขาดแคว่กออก ได้ยินเสียงกระแทกพื้นดังอั๊ก! ก่อนที่ประตูจากผนังทั้งสี่ด้านจะเปิดออกพร้อมกัน

            หญิงสาวรีบคว้าผ้าที่ปลายเท้ามาพันกายไว้ทันพอดีตอนที่ชายในชุดทหารแบบโบราณจะเข้าประชิดเตียงสี่ด้าน แล้วยื่นปลายดาบขนาดใหญ่คมวาวชี้มาที่เธอพร้อมๆกัน!

            ด้วยความตกใจ หญิงสาวนั่งนิ่งตกตะลึงตัวแข็งทื่อ ชายฉกรรจ์ร่างใหญ่กำยำทั้งสี่สวมชุดทหาร โจงกระเบนสั้นแค่เข่า ผมตัดสั้นแสกกลางไว้หนวดยาวโง้ง ขลิบเล็มอย่างเรียบร้อย แววตาดวงหน้าจริงจังขึงขัง ท่าทางเอาเรื่อง แสงไฟจากตะเกียงส่องสะท้อนคมดาบแต่ละเล่มเป็นกระกายวาววับ บ่งบอกว่าอาวุธทุกชิ้นที่กำลังจี้จ่อที่คอเธออยู่นี้ล้วนและเป็นอาวุธจริง และเป็นอันตรายถึงชีวิต สีฝุ่นกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก มือสองข้างยังกำผ้าห่มแพรเนื้อลื่นเย็นเฉียบปิดคลุมทรวงอกและร่างเปลือยเปล่าเอาไว้แน่น

            “นะ... นี่มันเรื่องอะไรกัน” เธอครางปากคอสั่น สับสนไปหมด “ต้องเล่นใหญ่กันขนาดนี้เลยเหรอ”          

            เธอได้ยินเสียงผู้หญิงสองสามคนกระซิบกระซาบ “เป็นยังไงบ้างเพคะฝ่าบาท ลุกไหวไหมเพคะ”

            “นางช่างบังอาจนัก ไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ ทำแบบนี้ได้ยังไง”

            หลังจากนั้นเสียงกระแอมก็ดังขึ้น ชายวัยกลางคนที่เพิ่งหายมึนงงจากแรงถีบค่อยๆลุกขึ้นและเดินเข้ามาใกล้ ยกมือขึ้นทำท่าให้ทหารลดอาวุธลง “เอาละๆ เก็บดาบเถอะ ใจเย็นๆกันหน่อยเถิด มิมีเรื่องกระไรถึงขั้นคอขาดบาดตาย”

            ทหารองค์รักษ์ทั้งสี่นั่งลงคุกเข่ารอบพระแท่นบรรทมทั้งสี่ด้าน วางดาบลงข้างตัว รอรับฟังพระบัญชา

            “ดรุณีแรกสาวไม่เคยต้องมือชาย ถวายตัวขึ้นแท่นบรรทมครั้งแรกก็ตระหนกตกใจมากไปหน่อยเท่านั้นเอง เกิดขึ้นได้ ข้าเจอมาเยอะ เอาเถอะน่า พวกเจ้าก็เหมือนกัน นางกำนัลพี่เลี้ยง จะโมโหโทโสไปไย อย่างไรวันนี้ข้าก็แต่งตั้งให้นางอยู่ในความดูแลของพวกเจ้าแล้ว เมตตาเอ็นดูนางเป็นน้องเป็นนุ่งเถิด ข้าจะให้เวลาพวกเจ้าอบรมขัดเกลาเตรียมความพร้อม เรียนรู้เรื่องการถวายตัวครองเรือนเพิ่มอีกสักหน่อยก็แล้วกัน”

            แล้วชายกลางคนในชุดผ้าเตี่ยวขาวผืนเดียว ใบหน้า ท่าทาง น้ำเสียงเหมือนกับเจ้านายใหญ่ของสีฝุ่นเปี๊ยบก็เดินเข้ามาใกล้อีกครั้ง ยิ้มหวานจนตาหยีทั้งที่เดินกุมบั้นเอวขาเขยกๆ “แม่คุณ แม่เนื้ออุ่น แม่กากีคนงามของข้า เด็กสาวแรกรุ่นอย่างเจ้าคงกังวลหวาดกลัวบุรุษสินะ ข้าเองก็รุ่มร่ามใจเร็วด่วนได้ไปสักหน่อย เอาเถิด คืนนี้ข้าจะให้เจ้าได้พักผ่อนเสียก่อน เอ้า ตามพระสนมพี่เลี้ยงเข้ามาสิ”

            หญิงสาวผมยาวสยาย ผิวพรรณผุดผ่อง หน้าตาจิ้มลิ้มพริ้มเพราคนหนึ่ง พนมมือค้อมศีรษะรับพระบัญชา ก่อนคลานเข่าถอยหลังออกประตูไป สีฝุ่นมองหน้าคนนั้นคนนี้ในห้องไปมาด้วยความงุนงง

            “ฝัน หรือหลอนนะเนี่ย” นี่มัน... เหมือนเธอหลงหลุดเข้ามาในละครย้อนยุคไม่มีผิด เธอยกมือขวาขึ้นมาแบดู รู้สึกสมจริงเหมือนจริงทุกอย่าง จึงกางมือออกตบหน้าตัวเองอย่างแรงครั้งหนึ่งจนแก้มสั่น หน้าชา แสบยิบๆ “โอ่ย เจ็บจริงนี่หว่า”

            “ว้าย ตายแล้ว” เสียงหญิงคนหนึ่งที่นั่งร่วมในห้องนั้นดังขึ้น “พระสนมกากีทำร้ายตัวเองแล้ว”

            ชายกลางคนรีบผละจากคนรอบตัวนั่งหมอบแหนอยู่ โผเข้ามาหาหญิงสาวที่ยังนั่งงุนงง ข้อมือทั้งสองข้างถูกรวบไว้ ดึงไปกอดแนบอกเหี่ยวฟีบของชายในร่างคุณเปี๊ยก เจ้านายเก่า

            “โถๆๆ แม่คุณ โทษตัวเองไปไยเล่า คงเสียใจที่ดูแล ปรนนิบัติข้าได้ไม่ดีสินะ ไม่เอานะ อย่าลงโทษตัวเองไปเลย ผิวเนื้ออ่อนนุ่มบอบบางของเจ้า จะชอกช้ำเสียศรี สาวบริสุทธิ์ไม่เคยต้องมลทิน ซ้ำยังงามหยาดฟ้ามาดินอย่างเจ้า มีค่าควรเมือง ถนอมรักษาตัวเองไว้เถิดนะ ข้าเองก็ไม่ได้เจ็บกระไรนักหนา ดูสิ ขยับเคลื่อนไหวแข็งแรงดีเสียยิ่งกว่าเดิม อะ...โอยย แหะๆ ตรงบั้นเอวนี่เจ็บหน่อย มันกระแทกผนัง แต่ก็ช่างเถิด พรุ่งนี้ก็หาย เรี่ยวแรงกลับคืนเป็นปกติแล้วว่าแล้วก็ยกมือเธอขึ้นจูบหอมดังฟอด

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ลิขิตปรารถนากากีข้ามภพ   ตอนที่92 จบบริบูรณ์

    แม่ของเธอยิ้มกว้าง ดวงตาสดชื่น ความสุขแผ่เต็มใบหน้าแม้ร่างกายจะซูบผอมหลังจากต้องเฝ้าไข้เธอมายาวนาน เอ่ยตอบน้ำตาคลอ “ให้อ้วนเป็นช้างแม่ก็เลี้ยงไหว ขอแค่ลูกแม่ปลอดภัย อย่าเป็นอะไรไปอีกก็พอแล้ว” แตงกวาถลามาถึงโรงพยาบาลเพียงเพื่อจะพบว่า โรงพยาบาลห้ามเยี่ยมเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 เธอจึงต้องนั่งอยู่ที่ด้านล่างของโรงพยาบาล แล้ววิดีโอคอลคุยกับเพื่อนรัก “แก สรุปเรื่องตอนนั้นที่แกกลับมาในร่างนางแบบวิกตอเรียซีเคร็ท น่ะ เรื่องจริง ฉันไม่ได้ฝัน ไม่ได้บ้าใช่ไหม” แตงกวาถาม หลังจากเห็นเพื่อนสบายดีแล้ว และกำลังกินเอแคล์รที่เธอซื้อมาฝากผู้ช่วยพยาบาลไปเยี่ยม “อืม แกไม่ได้บ้า แต่เรื่องแบบนี้ เล่าให้ใครฟังก็คงไม่มีใครเชื่อเนอะ ลืมๆไปเหอะ” สีฝุ่นพูดขณะเคี้ยวขนมตุ้ยๆ อาการหลังผ่าตัดเธอดีขึ้นอย่างรวดเร็วหมออนุญาตให้กินอาหารได้ตามปกติ นั่นคือข่าวดีที่สุดของเธอ “จะว่าไป แกเสียดายบ้างไหมวะ ที่ไม่ได้อยู่ในร่างสวยเริ่ดเหมือนนางฟ้าแบบนั้นแล้ว” เพื่อนสาวถามตาเคลิ้มๆ “ฉันยังอยากได้เลยแก สิบล้านค่าหมอผ่าไม่รู้จะพอไหมให้ได้สักครึ่งนั่น” สีฝุ่นตอบแบบไม่ลัง

  • ลิขิตปรารถนากากีข้ามภพ   ตอนที่91 อวสานกากี

    ข้าจะรักษาเจ้าให้ได้กากี เจ้าอย่าเพิ่งหมดหวัง ข้าจะไม่ยอมแพ้ ข้ารักเจ้า ข้ารักลูกของเรา เจ้าห้ามตาย ข้าจะรักษาเจ้ากากี ได้ยินข้าไหม เจ้าต้องรอดให้ได้” กากีคลี่ยิ้ม คำรักนั้นอ่อนหวานนัก ช่างอบอุ่นและจริงใจยิ่ง เป็นความรู้สึกอิ่มเอิบเบิกบานคล้ายมีดอกไม้ทิพย์กลีบบอบบางกลิ่นหอมละมุนบานสะพรั่งอยู่ในอกตน นางคลี่ยิ้มก่อนเอ่ยประโยคสุดท้าย “ข้าก็รักเจ้า กาฬปักษี ข้ารักเจ้า” หลังจากนั้นร่างกายคล้ายถูกฉีกเป็นเสี่ยงๆ นางกระตุกเฮือก ไขว่คว้าเอามือหนานุ่มแสนอบอุ่นนั้นมาแนบที่ใบหน้าก่อนที่หยาดน้ำตาสุดท้ายจะไหลรินลงบนมือนั้น เป็นความอบอุ่นสุดท้ายก่อนชีพนางจะดับลง ฝ่ายนาฏกุเวร แบกดวงใจอันปวดร้าวเดินทางกลับพาราณสี ทุกข์โทมนัสด้วยความสิ้นหวัง กากี แม่งามเอ๋ย ยอดดวงใจพี่ นางในดวงใจที่เฝ้าถนอมรักไว้ใจดวงใจมาตั้งแต่ยังเล็ก ไม่ว่าจะทำอย่างไรนางก็ไม่ยอมรับรัก แม้หักหาญราญเอากายนางเป็นเมีย ปรนนิบัตินางด้วยกามวิเศษ แม้หมายจะเชิดชูให้นางเป็นถึงมเหสีเอก นางก็กลับไม่สนใจ ซ้ำรังเกียจอย่างที่ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนเคยรังเกียจ กล้ากระทั่งทำให้ตนเองพิการอัปลักษณ์เพื่อคนไร้

  • ลิขิตปรารถนากากีข้ามภพ   ตอนที่90 วิหคเทวะ บุตรนางสกุณี

    บรรดาเหล่าพลธนูทั้งนั้นที่มาด้วย เห็นกระจะตาแล้วว่ากากีกำลังท้องแก่จึงเกิดความเวทนา ต่างลังเลไม่กล้ายิง แต่เมื่อถูกสั่งซ้ำโดยหัวหน้านายกอง จึงได้แต่ฝืนยิงอย่างไม่เต็มใจนักกาฬปักษีด้วยความที่หูตาไว ได้ยินเสียงธนูแหวกอากาศก็รีบโอบกากีหลบซุกกับอกตน หันหลังรับลูกธนูแทนนางไปทุกดอก ธนูแต่ละดอกถูกยิงมาโดยไม่เต็มใจ จึงเข้าเป้าอย่างไม่แม่นยำนัก ถูกแขนขาเอาบ้าง ตกลงพื้นบ้าง ทว่าดอกหนึ่งปักทะลุเข้าที่แผ่นหลังตรงอกหมอกาฬปักษีจนเจ็บปลาบ จุกแน่นหายใจไม่เข้า ทรุดลงนั่งกับพื้นกากีกรีดร้อง ร่ำเรียกชื่อชายคนรักสะอึกสะอื้น พยายามคิดหาหนทางรักษากาฬปักษี แต่ก็คิดไม่ออก ได้แต่กอดร่างชายคนรักที่ใกล้จะหมดสติร้องไห้อยู่อย่างนั้น เคราะห์กรรมซ้ำซัด ครรภ์แก่นั้นถึงกำหนดคลอด พิษครรภ์ต่างสายพันธุ์ทำให้ธาตุไฟปั่นป่วนทั่วร่างกายของกากี แสบร้อนไปสิ้นทั้งภายในภายนอก ปวดหัวแทบจะระเบิดเป็นเสี่ยงๆ ลมหายใจร้อนผ่าว ดวงตาขาวเริ่มมีเส้นเลือดแตกหลายเป็นสีแดงฉาน หัวใจของนางอยู่ที่การช่วยคนรักเท่านั้น นางจึงฝืนร่างกาย วิ่งกลับขึ้นไปบนบ้าน คว้ามีดได้ ก็กลับลงมาใช้กำลังที่เหลือ ดันลูกธนูให้ทะลุออก แล้วตัด

  • ลิขิตปรารถนากากีข้ามภพ   ตอนที่89 นาฏกุเวรตามราวี

    ตอนนั้นเป็นเวลาเย็นย่ำ พระอาทิตย์กำลังทอแสงสุดท้าย พระเจ้านาฏกุเวรก็มาถึงอาศรมของหมอเทวดากาฬปักษี กำลังพลต่างโอบล้อมอยู่ห่างๆ ส่วนตัวคนธรรพ์ลงจากหลังม้าเดินเข้าไปคนเดียว กากีและกาฬปักษีได้ยินเสียงม้ามาแต่ไกล แต่ไม่ได้เอะใจว่าอาจเป็นผู้ที่นำอันตรายมาให้เข้าใจว่าเป็นผู้ทุกข์จะมาขอความช่วยเหลือรักษาโรค จึงไม่ได้หนีไปทางไหนได้แต่เตรียมหยูกยาอยู่ที่ชานหน้าบ้าน นาฏกุเวรเมื่อเห็นร่างตะคุ่มๆสวมชุดดำอยู่คู่กัน ร่างอรชรนั้น ต้องเป็นกากีไม่ผิดแน่ หัวใจแทบกระดอนออกมาจากอกด้วยความตื่นเต้น “กากี พี่มาแล้ว” นาฏกุเวรร้องเรียกเสียงสั่น กากีที่โพกผ้าคลุมหัวปิดใบหน้าอยู่ครึ่งหนึ่งเย็นวาบจากท้ายทอยไปถึงเท้า เพราะจำได้ดีว่านั่นคือเสียงใคร นางเงยหน้าขึ้นมองด้วยใจหวาดหวั่น กาฬปักษีเงยหน้าขึ้นดูด้วยดวงตาข้างที่ได้มาจากกากี เมื่อเห็นบุรุษรูปกายงามราวเทพบุตรลงมาจากสวรรค์ เสียงไพเราะอ่อนหวาน และเครื่องทรงทองอร่ามสว่างไสวไปหมดทั้งตัวก็นึกรู้ได้ทันที “พระเจ้านาฏกุเวรหรือนั่น” เขารำพึงพลางรีบดึงตัวกากีให้ถอยไปอยู่ด้านหลังตน พระเจ้านาฏกุเวรตวาด

  • ลิขิตปรารถนากากีข้ามภพ   ตอนที่88 ฟ้าฝนเป็นใจ2

    แม้แต่ตัวนางกากีเองก็พลอยตื่นเต้นไปด้วยดั่งว่านี่เป็นประสบการณ์ทางเพศครั้งแรกของตน ตื่นใจ อ่อนหวาน หวั่นไหว ยิ่งเมื่อทั้งสองเริ่มช่วยกันเคลื่อนกายไหวโยก ขยับส่ายสับสะโพก เสือกท่อนเอ็นขนาดเขื่องเคลื่อนเข้า ออกในกายนาง แต่ละครั้งที่ดึงออกแทบถ่ายถอน ก่อนเหวี่ยงสับกระชับ เผียะลงมา ทำเอานางผวาใจแทบหยุดเต้น ปากแนบปาก นมแนบนม ท้องแนบท้อง ในอาณาเขตถ้ำทอง เสียงผิวเนื้อเปียกแฉะด้วยน้ำหล่อลื่นกระทบกันดั่งคนปรบมือถี่กระชั้น สองมือหนานุ่มเกาะยึดสะโพกอรชรไว้แน่น โถมร่างเข้าไปในกายนางครั้งแล้วครั้งเล่า ปทุมถันขาวปลั่งสว่างไสวเคลื่อนไหวกระเพื่อมเป็นจังหวะยิ่งเร้ากำหนัดให้พุ่งสูง เหงื่อกาฬไหลพลั่งดั่งจะขาดใจ หยาดเหงื่อร้อนฉ่าไหลหยดลงบนท้องน้อยของนางแน่งน้อยกากีที่กำลังผวาเฮือกฮุบความสุข วินาทีถัดจากนั้น หมอหนุ่มกาฬปักษีก็พาตนไปถึงที่สุดแห่งกาม คำรามครางในลำคอเสียงแหบพร่า ปล่อยน้ำรักขุ่นข้นเหนียวลื่นพุ่งเท้าเต็มท้องน้อยแม่โฉมงามร่างอรชรที่นอนระทวยอยู่เบื้องล่างตน ด้วยสัญชาตญาณประหลาดของสตรี กากีรู้สึกว่า การร่วมเสพสังวาสกับหมอกาฬปักษี หนุ่มน่ารักใจดีคนนี้ เป็นมากกว่า

  • ลิขิตปรารถนากากีข้ามภพ   ตอนที่87 ฟ้าฝนเป็นใจ1

    นหนึ่งขณะฝนตกหนัก แม่งามกากีวิ่งออกไปเก็บกระจาดสมุนไพรที่ตากแห้งไว้ หมอหนุ่มกาฬปักษีก็แสร้งรีบตามออกไปบ้าง แสร้งลื่นล้มจนเสื้อผ้าเลอะเทอะดินโคลนและเปียกปอนน่าสงสาร กากีเห็นดังนั้นก็ตกใจ รีบวิ่งเข้าไปประคองขึ้น “จะวิ่งออกมาทำไมกัน สมุนไพรพวกนี้จะมีค่าเทียบเท่าเจ้าหรือก็หาไม่ มารีบเข้าอาศรมเถิด ข้าจะช่วยผลัดผ้าและเช็ดตัวให้” เป็นครั้งแรกตั้งแต่เข้ามาในหนังสือเล่มนี้ และเป็นครั้งแรกในชีวิตของสีฝุ่นเองด้วย ที่เป็นฝ่ายเปลื้องผ้าบุรุษ การที่ชายหนุ่มท่วงทีผึ่งผายสมส่วนยืนตระหง่านนิ่งอยู่ โดยที่เขาไม่อาจมองเห็นนางได้ กลับกลายเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น กากีค่อยๆเปลื้องผ้าโพกหัวและเสื้อสีดำสนิทดั่งขนนกกาออก ในแสงสว่างยามฝนตกพร่างพราวด้านนอก แสงตกกระทบนุ่มนวลมองเห็นรายละเอียดของผิวเนียนเรียบสวยสีน้ำผึ้ง ใต้เสื้อผ้าเหล่านี้ซ่อนปิดกล้ามเนื้อหน้าอกและต้นแขนเป็นลอนกล้ามกำยำชวนสัมผัส กลิ่นผิวเนื้อบุรุษโชยหอมคล้ายกลิ่นผ้าห่มตากแดดผสมกลิ่นไอน้ำ นางกายหอมพินิจดูอย่างพินิจพิจารณาโดยไม่ต้องกังวลสายตาของเขา ความรู้สึกอ่อนไหวทางกามารมณ์เริ่มบ่มขึ้น นางได้แต่กัดปากตนเองไว้ด้วยค

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status