Share

4 โจรราคะ (2)

Author: I-KYEOM
last update Last Updated: 2025-07-14 18:06:46

เพล้ง!!

บุรุษตรงหน้ายังเอ่ยไม่ทันจบก็ล้มหงายหลังลงไปบนเตียงพอดีอย่างควบคุมตัวไม่ได้ มู่ชิงตานที่ถือแจกันกระเบื้องในมือมองอย่างเหลือเชื่อ แรงนางสู้เขาไม่ได้เห็นๆ แต่นี่เขาถึงกลับสลบง่ายดายถึงเพียงนี้

“นี่!” นางเขยิบเข้าไปใกล้สัมผัสตัวเขาเบาๆ แต่เมื่ออีกฝ่ายไม่มีท่าทีว่าจะโต้ตอบนางกลับ หญิงสาวจึงได้ถอนหายใจด้วยความ

โล่งอก

มู่ชิงตานไม่ทันระวัง เผลอแตะเข้ากับแผงอกหนาของเขา ของเหลวเหนอะหนะก็ติดมือนางออกมาด้วย “บาดเจ็บหรือนี่...”

“แม่นางชิงตาน อาหนิวเอาน้ำมาให้ท่านแล้ว”

ทันทีที่ฉูหนิวเปิดประตูเข้ามาก็แทบตกใจ นี่ถึงกับมีบุรุษนอนอยู่บนเตียงของนาง!

แม่นางชิงตานไม่รับแขกไม่ใช่หรือเหตุใด...

“อาหนิว อย่าเอ็ดไป” มู่ชิงตานปล่อยผ่านสีหน้าซีดเซียวของฉูหนิว จากนั้นเดินไปหลังม่านแต่งตัว สาวงามย่างออกมาอีกครั้งในสภาพบุรุษผู้หนึ่ง “ไปข้างนอกกันเถอะ”

“ดูท่าแม่นางชิงตานคงติดนิสัยคุณหนูเสวี่ยมากไปหน่อยนะเจ้าคะ แต่แม่นางยังดีกว่าคุณหนูเสวี่ยนัก”

ฉูหนิวพูดพลางขบคิดไปถึงเสวี่ยเหมยที่ยามนางปลอมเป็นบุรุษมักจะไม่เหมือนบุรุษเสียทีเดียว แต่มู่ชิงตานกลับให้ความรู้สึกต่างออกไป อาจเพราะใบหน้านางเกลี้ยงเกลาและไม่ได้ขาวล้ำเช่นคุณหนูเสวี่ย

ทั้งสองแบกบุรุษผู้หนึ่งเดินออกมาจากหอนางโลมอย่างเปิดเผย แม้คนจะเห็นฉูหนิวแต่ก็คิดเป็นทำนองเดียวกันว่าฉูหนิวเป็นเด็กรับใช้ นางก็คงเอาใจแขกเหรื่อช่วยบ่าวของคุณชายที่สลบไสลท่านนี้แบกเขาออกนอกหอโคมแดงก็เท่านั้น

ลึกเข้าไปในเมืองหมาน มีสามเงาร่างกำลังเดินเข้าไปในตรอกลึกที่ไร้ผู้คนเดินผ่าน หากจะบอกว่าเดินก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสียทีเดียว เพราะบุรุษตรงกลางไม่ได้ถึงกับเดินออกจะโดน ‘ลาก’ เสียมากกว่า

บ้านเรือนเรียงรายกันในตรอก แต่ยามนี้แต่ละบ้านกลับดับไฟเข้านอนกันหมดแล้ว มีเพียงบุรุษที่สลบไสลไม่ได้สติกับสตรีสองนางที่กำลังเดินเข้ามาลึกเรื่อยๆ ด้วยความเหนื่อยหอบ

“แม่นาง ใกล้ถึงแล้วเจ้าค่ะ”

“เหนื่อยหน่อยนะอาหนิว” นางทำได้เพียงขอบคุณผ่านคำพูดเท่านั้น ผู้ใดดีต่อนาง นางย่อมดีตอบ

“หากได้ทำเพื่อแม่นางชิงตาน อาหนิวไม่เหนื่อยเลยเจ้าค่ะ” ฉูหนิวพูดพร้อมกับยิ้มแก้มปริ

ทำเพื่อนางที่ว่า...ฉูหนิวคงไม่ได้คิดว่านางกับบุรุษผู้นี้มีความสัมพันธ์ลึกลับหรอกนะ

“อาหนิว...” นางที่กำลังจะไขข้อเข้าใจผิดของฉูหนิวกลับถูกอีกฝ่ายขัดขึ้น

“ถึงแล้วเจ้าค่ะ อาหนิวไปเปิดประตูให้นะเจ้าคะ”

ฉูหนิวค่อยๆ ปล่อยชายหนุ่มให้มู่ชิงตานประคองก่อนครู่หนึ่ง แล้วนางจึงรีบไปไขกุญแจบ้านที่ถูกใส่กลไกไว้อย่างแน่นหนา

บ้านหลังนี้จะเรียกว่าเป็นบ้านของมู่ชิงตานก็ได้ นางซื้อไว้ยามที่นางอยากออกมาเที่ยวข้างนอกหอนางโลม แต่เรื่องนี้ย่อมไม่มีผู้ใดล่วงรู้นอกจากฉูหนิวเช่นเคย

เมื่อวางบุรุษตัวโตไว้บนเตียงแล้ว มู่ชิงตานเลยรีบให้ฉูหนิวไปเคาะประตูร้านหมอยาตรงทางเข้าตรอกเพื่อขอซื้อสมุนไพรรักษาบาดแผลอักเสบเป็นหนอง

ระหว่างที่รอสาวใช้ตัวน้อยมู่ชิงตานจึงหยิบกรรไกรเหล็กที่นางประมูลได้มาตัดเสื้อของเขาออก “ล่วงเกินท่านแล้ว”

ไม่รู้ว่าเขามีจุดประสงค์อะไร แต่มู่ชิงตานคิดไว้ว่าเขาน่าจะมาเพราะเรื่องดาบหลอมพิษจริงๆ นั่นแหละ ก็หน้าตาเขาไม่เหมือนกับคนในแคว้นนี้สักนิด...

ผิวกร้านแดดและกล้ามหน้าท้องที่เป็นลำ...

มู่ชิงตานส่ายหน้าเอาความคิดไม่ดีออกไป นางมองไปยังใบหน้าของบุรุษหนุ่มด้วยสายตาเลื่อนลอย หากไม่สนใจรอยแผลที่ถูกของมีคมบนหน้า เขาก็เป็นบุรุษรูปงามที่หาตัวจับยากผู้หนึ่ง

หลังจากพบว่าตัวเองเหม่อลอยมากเกิน นางจึงรีบดึงสติตัวเองกลับมา แล้วสำรวจดูบาดแผลบนหัวเขาที่ถูกนางทำร้ายเมื่อครู่

ท่ามกลางสายตาที่เลือนรางของชายหนุ่ม เขาเห็นใบหน้าของสาวงามกำลังลูบคลำบนหัวเขาอย่างแช่มช้า ฉับพลันลำคอของเขากลับแห้งผากไปด้วย

นี่น่ะหรือมู่ชิงตาน คณิกาอันดับหนึ่งของเมืองหมาน...

หลังจากนั้นเขาก็เข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้ง

“แม่นางชิงตาน” ฉูหนิวก้าวเข้ามาพร้อมกับยื่นถุงผ้าที่ห่อยาให้สาวงามตรงหน้า “อาหนิวนำยามาแล้วเจ้าค่ะ แต่ยาที่ได้มามีเพียงยารักษาแผลภายนอกเท่านั้น หากอยากได้ยาต้มรักษาภายในท่านหมอบอกว่าให้รอไปถึงพรุ่งนี้เจ้าค่ะ”

“ลำบากอาหนิวแล้ว เช่นนั้นไปยกน้ำสะอาดเข้ามาเถิด ต้องเช็ดแผลเขาเสียหน่อย”

“เจ้าค่ะ”

เมื่ออ่างน้ำเปล่าถูกยกเข้ามา นางจึงลงมือบิดผ้าที่ชุบน้ำแล้วบรรเลงเช็ดแผลเขาทันที มู่ชิงตานเพียงแค่แตะเบาๆ ชายหนุ่มกลับลืมตาเบิกกว้างข้อมือใหญ่ของเขาคว้าแขนของมู่ชิงตานเอาไว้แน่น ดวงตาฉายแววเหี้ยมเกรียมและเจ็บปวดพร้อมกัน

“แม่นางชิงตาน!” ฉูหนิวเป็นห่วงนายหญิงของนางที่สุดจึงโพล่งออกมาเสียงดัง

“คุณชาย ข้าเพียงช่วยคุณชายรักษาบาดแผลมิได้มีเจตนาร้าย”

มู่ชิงตานพูดจบก็พิศมองดวงตาของชายหนุ่มซึ่งยามนี้ค่อยๆ อ่อนลงก่อนจะหลับตาลงเช่นเดิม มือใหญ่จึงคลายออกจากแขนของนางแต่กลับไม่ได้ปล่อยและยังจับไว้หลวมๆ อยู่เช่นนั้น

“อาจจะเจ็บไปบ้าง แต่บาดแผลของท่านมากมายเกินไปต้องอดทนเอาเองแล้ว”

นางมองไปยังรอยแผลเป็นเก่า และรอยแผลใหม่ที่ทาบทับกันก็หายใจติดขัดขึ้นมาทันที

เขาช่างมีศัตรูมากมายเสียจริง!

ผ้าเปื้อนโลหิตสีแดงถูกวางลงไปในอ่างน้ำเป็นครั้งสุดท้าย ในที่สุดมู่ชิงตานก็เช็ดบาดแผลให้เขาเสร็จจนหมด ทำให้เวลานางล่วงเลยมาหลายชั่วยาม

มือของนางเหลือเพียงแค่ข้างเดียวนี่นา บุรุษผู้นี้คงจะมีนิสัยดื้อด้านเป็นแน่ ทั้งที่ยังหลับแต่กลับจับแขนนางไว้ไม่ปล่อยเช่นนี้ เพียงนางสะบัดเขาก็เกาะกุมแน่นขึ้นไปอีก

“แม่นางชิงตาน เราสมควรจะกลับแล้วเจ้าค่ะ” ฉูหนิวสังเกตเห็นนานแล้วที่ชายหนุ่มผู้นี้พันธการนายหญิงของนางไว้ไม่ยอมปล่อย ยิ่งทำให้นางเข้าใจผิดยิ่งขึ้นไปอีก “ไว้เราค่อยมาใหม่ตอนฟ้าสว่างแล้วก็ได้นะเจ้าคะ”

“อาหนิว มาช่วยข้าแกะมือเขาออกเถิด”

ทั้งสองพยายามอยู่นานกว่าจะแกะมือเขาออก ยามที่พวกนางจะก้าวออกไปเขากลับเอ่ยออกมาแผ่วเบา

“นำดาบหลอมพิษมาให้ข้า...”

เพียงประโยคแผ่วเบานั้น กลับทำให้มู่ชิงตานขนลุกตั้งชันขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว ดาบเล่มนั้นนางลำบากกว่าจะหามาได้ หนำซ้ำสหายของนางก็อยากได้ เพราะฉะนั้นนางจะตัดใจยกให้ผู้อื่นได้อย่างไร!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ลิขิตรัก ภรรยาเคียงใจ   59 คู่เรียงเคียงหมอน (จบบริบูรณ์)

    เมื่อทั้งสองมาหยุดอยู่ที่หน้าเรือนของโม่จือตาน หญิงสาวก็ตรงดิ่งไปทางห้องนอนเล็กของเด็กน้อยทั้งสอง ก่อนจะได้ยินเสียงกระซิบลอดออกมาแทน“พี่อีเหริน พี่ว่าวันนี้ท่านพ่อกับท่านแม่จะกลับมาหรือยัง” เด็กชายถามผู้เป็นพี่สาวที่อยู่เตียงข้างๆ“พี่ไม่รู้เหมือนกัน แต่ท่านแม่สัญญาแล้วว่าจะพาท่านพ่อกลับมา เจ้าก็นอนได้แล้ว”โม่จือตานไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เด็กพวกนี้ยังไม่ได้หลับเลยนี่นา!“ยังไม่อยากนอนเลย เอ้อร์หลานกลัวว่าจะพลาดตอนที่ท่านแม่กับท่านพ่อกลับมาแล้ว แต่ตัวเอ้อร์หลานยังหลับอยู่บนที่นอน”หญิงสาวกุมขมับแน่น ก่อนจะส่งเสียงหัวเราะออกจากลำคอ “ถ้าพวกเจ้ายังไม่หลับ แม่จะออกไปเที่ยวกับพ่ออีกครั้งแล้วนะ”“ท่านแม่!!” เด็กน้อยสองคนวิ่งออกมาจากนอกห้อง จากนั้นก็พบร่างสูงอีกร่างที่เคียงคู่กัน “ท่านพ่อ!!”ร่างเล็กกระโดดขึ้นกอดซวี่รุ่ยเข่อแน่น น้ำตาของเด็กน้อยไหลออกมาพร้อมความทรงจำต่างๆ นาๆ ที่พรั่งพรูออกมายามเจอผู้เป็นบิดาครั้งแรก‘นายท่าน... ข้าน้อยและน้องชายยินดีรับใช้ท่าน ที่ซื้อตัวข้าทั้งสอง แต่ได้โปรดซื้อโลงศพให้บิดาข้าน้อยแล้วทำพิธีให้ด้วยเจ้าค่ะ’ เด็กสาวก้มหน้าแนบลงพื้นดินใกล้เท้าชายหนุ่มร่า

  • ลิขิตรัก ภรรยาเคียงใจ   58 ชนเผ่าทะเลทราย (2)

    “ชิงเอ๋อร์ อย่าโกรธข้าเลยนะ ข้าทำเพื่ออยากตอบแทนบุญคุณให้ท่านพ่อตา แต่กลัวเจ้าจะเป็นห่วงเช่นนี้...เลยไม่ได้บอก” ชายหนุ่มอธิบายไปด้วยกอดเอวนางพร้อมกับซุกหน้าที่ซอกคอนางไปด้วย“แล้วเป็นเช่นไร สุดท้ายเสี่ยวชิงก็ต้องมาตามหาท่าน”“อืม...กลายเป็นว่าคนที่ข้าติดหนี้ชีวิต จะเป็นภรรยาตัวแสบของข้า” จากนั้นก็ก้มหน้าหอมนางหนึ่งฟอดโดยไม่อายผู้ใด“นี่! ไม่อายผู้อื่นเลย” โม่จือตานทั้งตวาดทั้งเขินอาย ตำหนิชายหนุ่มที่ส่งมอบความรักให้โดยไม่เลือกสถานที่ชนเผ่าทะเลทรายแสร้งทำเป็นไม่มองทำงานของตัวเองเดินผ่านพวกเขาทั้งคู่ไป...หลังจากทั้งคู่ทานอาหารที่ชนเผ่าสาวยกมาให้ เลยตั้งใจว่าจะพักอยู่ที่นี่อีกหนึ่งราตรีก่อนจะกลับสำนัก“เสี่ยวชิง...ที่นี่ก็ได้บรรยากาศดีนะ”ไม่ผิดจากที่ซวี่รุ่ยเข่อคาดไว้ ทันทีที่โม่จือตานได้ยินเขาพูดเช่นนี้ออกมา ก็ปรากฏดวงหน้าสีชมพูระเรื่อขึ้นมาเห็นแล้วราวกับผลไม้ที่กำลังสุกงอมได้ที่“เสี่ยวชิง คืนนี้นะ” จากนั้นหญิงสาวก็วิ่งหายออกไปไม่รอให้เขากล่าวคำพูดแทะโลมใดๆ อีกเมื่อยามโพล้เพล้มาถึง พระอาทิตย์ตกลงเส้นขอบของทะเลทราย เห็นเป็นภาพงดงามที่ยากจะลืมเลือน“สวยมากเลยนะเจ้าคะ” โม่จือตานที่ได้

  • ลิขิตรัก ภรรยาเคียงใจ   57 ชนเผ่าทะเลทราย (1)

    15ร่างเพรียวบางของสตรีโฉบลงมาเหยียบระหว่างกึ่งกลางของพื้นดินและพื้นทราย ก่อนจะตัดสินใจสะบัดย่ามไปข้างหลังแล้วก้าวเข้าไปในเขตที่ร้อนระอุระหว่างทางก็ยังพบคนชนเผ่าสัญจรไปมาสม่ำเสมอ นางก็กล่าวทักทายไปตามมารยาทเช่นกัน โม่จือตานปาดเหงื่อบนหน้าผากออกเพราะความร้อน“แม่นางมีเรื่องอะไรต้องเดินทางมาถึงทะเลทราย หรือว่าหลงทางกัน” สตรีชนเผ่านางหนึ่งเอ่ยถามนางขึ้นขณะที่ยังยกโอ่งน้ำไว้บนหัวโม่จือตานราวกับได้เปิดหูเปิดตามองสตรีที่ขนน้ำเข้ามาในทะเลทรายด้วยสีหน้าตื่นเต้น “เปล่าหรอก ข้าแค่มาหาคน ว่าแต่...เจ้าไม่หนักหรือ” ว่าแล้วก็ชี้ขึ้นไปบนหัว“ไม่หรอก มันเป็นเรื่องปกติของเผ่าเรา ต้องเปลี่ยนกันไปหาน้ำ ล่าสัตว์เพื่อมาเลี้ยงคนในเผ่าน่ะ” นางอธิบายยาวเหยียด “ถ้าแม่นางไม่ได้หลง ข้าก็ขอตัวก่อน ขอให้ท่านโชคดีเจอคนที่กำลังตามหานะ”โม่จือตานยินดีรับคำอวยพรที่หญิงชนเผ่านางนั้นให้ ก่อนจะย่างเท้าเข้าไปลึกกว่าเดิมเวลาล่วงเลยมานานจนถึงเวลาค่ำ เสียงจันทร์กระจ่างส่องกระทบร่างเล็กที่ยังไม่หยุดพัก แม้เจ้าสำนักจะเคยบอกนางแล้วว่าทะเลทรายตอนราตรีนั้นน่ากลัวมาก ให้หยุดพักแล้วกางกระโจมก่อน แต่นางไม่รู้ว่ายามนี้ซวี่รุ่ยเข่

  • ลิขิตรัก ภรรยาเคียงใจ   56 พระจันทร์สีเลือด (2)

    โม่จือตาน และ ‘ซวี่รุ่ยเข่อ’ เดินมาทางโต๊ะอาหารพร้อมกัน นางเองก็ช่วยประคองร่างเขาอย่างดี โม่อู๋หลินที่เพิ่งมาถึงก็มองมาทั้งคู่ด้วยสายตาเหนื่อยล้า“ทำไมยังไม่กินกันล่ะเจ้าค่ะ เสี่ยวชิงว่าพี่เข่อกับท่านอาเล็กคงจะเหนื่อยน่าดู รีบยกอาหารมาให้ทั้งคู่เถอะเจ้าค่ะ” โม่จือตานให้เขานั่งลงใกล้นาง ก่อนจะรินน้ำให้เป็นอันดับแรก “พี่เข่อ...น้ำเจ้าค่ะ”“อืม...ขอบ... แค่ก!” ยังไม่ทันพูดอาการไอก็กำเริบขึ้นมาอีก“แค่ไปทำภารกิจแค่นี้ถึงขั้นไม่สบายกลับมาเชียวหรือเจ้าคะ พี่เข่อนี่เหตุใดไม่รักตัวเองเสียเลย” นางกล่าวเสร็จก็ช่วยทุบหลังให้เช่นเดิม“ท่านแม่ๆ ท่านพ่อเป็นอะไรไหมเจ้าคะ ไอจนหน้าแดงหมดแล้ว” ซวี่อีเหรินถามด้วยความสงสัย“ท่านพ่อของพวกเจ้าคนนี้น่ะ ไม่เป็นอะไร...” หยุดพูดครู่หนึ่ง ก็พูดต่อพพร้อมกับตบบนแผ่นหลังอย่างแรงพร้อมกัน “...หรอก!!”“โอ๊ย!!”โม่จือตานกล่าวเสร็จก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปโดยไม่หันไปมองผู้ใดอีก จากนั้นฝีเท้าเล็กๆ สองคู่ก็วิ่งตามออกไปเช่นกัน“ข้าบอกแล้ว ยังไงนางก็จำได้” เสียงบ่นลอดออกมาจากปากของ ‘ซวี่รุ่ยเข่อ’ ที่ใช้มือลูบหลังอันแสบร้อนแม้มันจะไปไม่ถึงทั่วทั้งแผ่นหลัง“เอาน่า ยังมีอีเหร

  • ลิขิตรัก ภรรยาเคียงใจ   55 พระจันทร์สีเลือด (1)

    โม่หวางเป้ยยืนเอามือไพล่หลังมองบนดวงจันทร์ด้วยสีหน้ากลัดกลุ้ม พระจันทร์ก็ขึ้นนานแล้วเหตุใดยังไม่เกิดสิ่งใดอีก“ท่านพี่กลุ้มใจเรื่องเสี่ยวเข่อหรือเจ้าคะ” จูซิงอีเดินมาประชิดข้างกายสามี ก่อนจะใช้ผ้าคลุมร่างให้เขา “คืนนี้อากาศหนาวเย็น ท่านอย่าฝืนตัวเองนักเลย”“อืม... เจ้าบุตรเขยของข้านั้นน่าเป็นห่วง ไม่รู้ว่ายามนี้จะเป็นเช่นไร ข้าส่งจดหมายไปให้เขาด้วยเหยี่ยวของสำนัก แต่ดูเหมือนว่าจะไปไม่ถึง”ที่เหยี่ยวบินเข้าไปไม่ถึง เป็นไปได้ว่าทะเลทรายที่ซวี่รุ่ยเข่อเดินทางเข้าไปคงลึกมากเป็นแน่“ท่านพี่ เดิมทีข้าก็คิดว่าเขาเก่งกาจและไม่น่าเป็นห่วง แต่เสี่ยวเข่อเล่นหายไปโดยไร้ร่องรอยตอบกลับเช่นนี้ข้าก็เป็นห่วงเขาขึ้นมาจริงๆ” ภรรยาของเจ้าสำนักถอนหายใจอยู่ด้านข้าง “ข้ารู้สึกผิดต่อเสี่ยวชิงเหลือเกิน”ยามที่ได้ยินภรรยาตัดพ้อเช่นนี้เขาก็ถูกกระแสบางอย่างเข้ามาในหัวจังๆ ราวกับว่าเขาเป็นคนผิดที่สั่งบุตรเขยไปสถานที่อันตรายเช่นนั้น “ข้าสิต้องรู้สึกผิดต่อลูก น้องหญิง...ไม่ใช่เจ้า เป็นข้าเอง ข้าส่งจดหมายไปหลายครั้งว่าถ้าเขาเหนื่อยก็ให้กลับมา แล้วหาวิธีอื่น แต่ยามนั้นข้าเป็นห่วงอาหลินจนลืมคิดวิธีสำรอง คิดว่าต้องหาพื

  • ลิขิตรัก ภรรยาเคียงใจ   54 เฝ้ารอเซียนบนทะเลทราย (2)

    หลังจากที่ทั้งสามแวะทักทายติงเจี่ยและสวี่เซวียเสร็จเรียบร้อยแล้วนั้น โม่จือตานก็พาเด็กทั้งคู่แวะไหว้พระที่นอกประตูสำนักพร้อมกับบอกลูกๆ ว่าให้ขอพรเพื่อซวี่รุ่ยเข่อจะได้ทำภารกิจสำเร็จจนปลอดภัยหลับมา“ท่านแม่ขอรับ ถ้าเอ้อร์หลานปักธูปไปในกระถาง ท่านเทพจะได้ยินคำอวยพรแล้วไปช่วยท่านพ่อใช่หรือไม่ขอรับ” เด็กชายขอพรเสร็จก็เข้ามาประจบโม่จือตานทันทีนางมองซวี่เอ้อร์หลานด้วยแววตาอ่อนโยน มือบางก็ยกขึ้นลูบหัวไปมา “อืม ลูกเก่งมาก ตัวแค่นี้ก็ปักธูปด้วยตัวเองได้แล้ว”ซวี่อีเหรินจึงรีบปักธูปลงไปบ้างก่อนจะกระโจนเข้าไปกอดนาง “ท่านแม่ อีเหรินก็ปักธูปให้ท่านเทพไปช่วยท่านพ่อแล้วเจ้าค่ะ”“อีเหรินตัวน้อยของแม่ก็เก่งมากเหมือนกัน” โม่จือตานหัวเราะให้กับนิสัยประจบประแจงของทั้งคู่ ถึงปากเล็กจะพร่ำบอกเช่นนั้นแต่มือของนางก็กอดเด็กสาวเข้ามาใกล้ชิดนางมากขึ้นเช่นกันอีกด้านหนึ่งนั้นซวี่รุ่ยเข่อตื่นขึ้นมากลางทะเลทรายในทิศตะวันตกเฉียงเหนือของแคว้นฝูหยวน เนื่องจากตัวเขามีวิชาตัวเบาที่ดีเลิศ การมาถึงที่นี่ในเวลาหนึ่งวันย่อมเป็นไปได้ แต่...นี่ก็จะปาเข้าอาทิตย์ที่สองแล้ว เขารอมาทุกราตรีกลับไม่มีทีท่าว่าดวงจันทร์จะเกิดปรากฏก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status