LOGIN“พวกท่านออกไปได้แล้ว ข้าจะอยู่กับคนรักของข้า”
“เจ้าค่ะท่านอ๋อง / เจ้าค่ะนายท่าน” แม่นมตอบอย่างสำรวม อมยิ้มพึงพอใจขณะเดินออกไป
หญิงสาวตัวชาวูบตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า เมื่อตกอยู่ในอ้อมกอดของเขาสองต่อสองภายในอ่างที่คับแคบ
“ปล่อย ๆ ๆ ท่านอย่ามาทำรุ่มร่ามกับข้านะ ที่บ้านข้าน่ะถ้าไม่ใช่สามีภรรยากันทำแบบนี้ไม่ได้นะ ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้เลยนะ” เธอรีบปรามปากคอสั่นรัว
“อืม..เข้าท่าดีเหมือนกัน ข้ากำลังอยากได้เจ้าเป็นภรรยาอยู่พอดี” แล้วปลายจมูกโด่งก็ซุกไปที่ซอกคอระหง มือที่จับอยู่ที่เอวลูบสูงขึ้นไปสัมผัสเต้าเต่งตึงขนาดใหญ่ เพราะอยากรู้ขนาดของมัน.. ก่อนจะร้องอุทานในใจด้วยความเหลือเชื่อ เพราะมันซ่อนรูปกว่าที่ตาเห็นอีกมาก เต็มไม้เต็มมือจนเกือบล้น
ยิปซีทั้งตกใจทั้งซาบซ่านกับรสสัมผัสที่แปลกใหม่ เธอรู้สึกสยิวไปทั่วทั้งกาย โดยเฉพา
“กระหม่อมขอบอกความจริงกับพระองค์สักเรื่อง ตอนที่ได้ยินคำสารภาพของนาง กระหม่อมอยากหยิบดาบบั่นคอนางให้ขาดคามือด้วยซ้ำ แต่ก็ต้องอดกลั้นไว้ เพราะเห็นว่าเป็นคนของพระอัยยิกา กระหม่อมไว้หน้านาง แต่นางกลับเหยียดหยามกุ้ยถิงของกระหม่อมต่อหน้าทุกคน ไม่มีใครปกป้องกุ้ยถิงยกเว้นฝ่าบาท ไม่มีใครออกปากตำหนินางแม้แต่พระองค์ แล้วแบบนี้จะให้กระหม่อมเห็นใจพระองค์หรือ”พระอัยยิกาหลบสายตาที่มองมาอย่างดุดันคู่นั้น ไม่สามารถตอบคำถามของเขาได้ เพราะรู้ตัวดีว่าเอนเอียงไปทางเหวินเว่ยเพียงใด เขาไม่ฆ่าเด็กคนนั้นให้ตายคามือก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว พระองค์ยังต้องการให้เขารับนางเป็นชายารองอีก มันก็เหมือนเหยียบย่ำหยามใจเขาเกินไปจริงนั่นแหละ..........................กุ้ยหย่งหมิงมองสำรวจบ้านหลังกะทัดรัดที่อยู่ห่างจากวังหลวงไม่ไกลเท่าไหร่นัก แค่มองเผิน ๆ ก็รู้ได้ทันทีว่ามันถูกสร้างจากวัสดุชั้นเลิศ บ่งบอกถึงฐานะของเจ้าของได้อย่างดี แต่เขาก็ไม่อยากเข้าไปเหยียบอยู่ดี‘เห็นแก่คนแก่อย่างข้าสักครั้งเถิดนะ ช่วยไปคุยกับนางให้ที’ คิดถึงคำพูดของพระอัยยิกาแล้ว เขาก็ต้องจำใจก้าวข้ามธรณีประตูเข้าไปด้านในองค์หญิงเหวินเว่ยที่ถูกปลดจากตำ
“นี่!” กุ้ยถิงรีบกอดลำคอสามีไว้ด้วยความตกใจ เมื่อถูกเขาอุ้มขึ้นแบบไม่รู้ตัว “ท่านจะอุ้มยิปทำไม วางยิปลงเดี๋ยวนี้นะ”คนถูกถามมองชายาสายตาเป็นประกายพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ บ่งบอกให้นางรู้ในสิ่งที่ตนปรารถนาโดยไม่เอ่ยปาก ก้าวเท้าออกจากเรือนรับรองแขกแล้วลัดเลาะไปตามสวนดอกไม้เพื่อกลับไปที่เรือนหลังใหญ่“ออกไปให้หมด ห้ามใครมารบกวนเด็ดขาด!” เมื่อกลับมาถึงเรือนก็ส่งเสียงเคร่งขรึมก้องกังวาน ประหนึ่งกำลังโมโหคนในวงแขน ทำให้สาวใช้ทุกคนที่กำลังง่วนอยู่กับงานตัวเอง รีบทิ้งงานในมือแล้วลงไปจากเรือนอย่างรวดเร็ว“ท่านนี่นะ!” ยิปซีทั้งอายสาวใช้และโมโหสามีตัวดี แต่ถ้าพูดมากก็กลัวสาวใช้จะจับไต๋ได้ว่าทำไมท่านอ๋องถึงทำแบบนี้ จึงได้แต่แอบหยิกเขา“ทำข้าเจ็บแบบนี้ ข้าจะเอาคืนให้สาสม” ทำเสียงแข็งแต่สายตากลับเต็มไปด้วยแววเจ้าเล่ห์........................พระอัยยิกาเรียกตัวหลานชายมาเข้าเฝ้าด้วยความไม่สบายพระทัย พระนางอยากพูดเรื่องนี้กับเขาให้รู้เรื่อง แต่ใครจะคิดว่าเขาไม่ได้มาเพียงลำพัง ยังพาพระชายาของเขามาด้วย“ถวายบังคมพระอัยยิกาเพคะ” กุ้ยถิงย่อกายคารวะงดงาม หลังจากที่สามีถวายการเคารพเสร็จแล้ว“พระอัยยิกาเรีย
“ไม่! ข้าไม่ยอมรับเด็ดขาด”“แล้วจะให้ตามนางกลับมาทำไม” เขายิ่งสงสัย“ก็ให้นางกลับมาเป็นชายาของท่าน ส่วนข้าก็จะขอหย่าจากท่าน แล้วไปหาสามีใหม่บ้าง” นางเชิดหน้าท้าทาย จ้องเขาตาไม่กะพริบกุ้ยอ๋องเริ่มมีอารมณ์หึงหวง เมื่อได้ยินคำประกาศก้องของนาง“จะให้ข้าหย่าแล้วไปหาสามีใหม่หรือ ฮา ๆ ๆ ฮา ๆ ๆ ช่างฝันเฟื่องจริง ๆ นะชายาที่รัก คนอย่างกุ้ยอ๋องกุ้ยหย่งหมิง จะไม่ยอมเสียเจ้าให้ผู้ชายหน้าไหนแน่ ๆ ต่อให้ต้องฆ่าเจ้าทิ้งข้าก็จะทำ” ให้นางไปเสพสุขกับชายอื่น เขาเลือกฆ่านางให้ตายด้วยน้ำมือตัวเองเสียดีกว่า“ฮึ! เป็นความรักที่มั่นคงดั่งหินผา หรือว่าเป็นหมาหวงก้างดีนะ” ใช้ถ้อยคำหยาบคายยอกย้อนใส่เขา ตอนนี้อารมณ์ต่าง ๆ ตีกันยุ่งเหยิงไปหมดโกรธ เกลียด รัก หึงหวง เสียใจ เจ็บใจ บรรยายไม่ถูก“พอเถิดพระชายาที่รัก ข้าไม่ล้อเล่นกับเจ้าแล้ว พูดไปพูดมาเดี๋ยวจะกลายเป็นทะเลาะกันใหญ่โต” เขานั่งลง กระตุกมือบางเบา ๆ จนนางเซลงมาบนตัก แล้วโอบเอวของนางไว้ ซุกปลายจมูกกับซอกคอที่ชื้นเหงื่อ นางคงโกรธเขามากสินะ ความร้อนในร่างกายถึงสูงได้ขนาดนี้“ปล่อยข้า อย่ามาจับเนื้อต้องตัวข้า น่าขยะแขยงสิ้นดี!” นางดีดดิ้นรุนแรง ยิ่งเขารัดก็ยิ
“เพราะท่านนั่นแหละ ข้าถึงได้มีโอกาสรู้จักท่านโจน” ถ้าหัวหน้าไม่ยืนอยู่ด้านหลังที่นางยืนอยู่ เขาก็คงไม่เดินมาทางนี้ และคงไม่เห็นนางถึงจะอยู่บนเรือลำเดียวกัน แต่มันก็ใหญ่โตกว้างขวางมาก โอกาสที่จะได้เจอกันแบบนี้คงหาได้ยากเต็มที“ในเมื่อท่านเมตตาก็ทำตัวให้ดี ขยันขันแข็งให้มาก ๆ จำเอาไว้” เขาเองก็รู้สึกถูกชะตากับหนุ่มน้อยคนนี้เหมือนกัน จึงตักเตือนด้วยความหวังดีเหมือนเห็นเป็นลูกหลานคนหนึ่ง........................คฤหาสน์สกุลกุ้ยสามวันแล้วที่การติดตามข่าวของหลินโม่วไม่มีอะไรคืบหน้า นางไม่ทิ้งร่องรอยไว้แม้แต่นิดเดียว บิดามารดาของนางจึงถอดใจไม่คิดจะตามหา เตรียมตัวเดินทางกลับหมู่บ้าน“เราสองคนปรึกษากันแล้ว มั่นใจว่าหลินโม่วต้องปลอมตัวเป็นผู้ชายเพื่อไม่ให้เป็นจุดเด่น นางพกยาไปหลายขนาน ทั้งยารักษาโรคและยาพิษ ข้าจึงยิ่งมั่นใจว่านางต้องปลอดภัย” นางเข้าไปค้นในห้องพักของลูกสาว พบว่าห่อยาที่ติดตัวมาในครั้งแรกหายไปด้วย ทำให้เบาใจลงมาก จึงคุยกับสามีและชวนกันเดินทางกลับ“แต่เรามีเรื่องอยากขอร้องท่านทั้งสอง”“พวกเรายินดีช่วยเหลือ ท่านหมอเกิงมีเรื่องอะไรหรือเจ้าคะ” กุ้ยถิงรีบตอบรับ ความพลัดพรากทำให้เสี
หลินโม่วหมอบนิ่งอยู่กับพื้นเรือ อึ้งไปชั่วขณะด้วยความผิดหวัง เขาจำนางไม่ได้ นางคิดไปเอง.. พลันนึกถึงเมื่อวานช่วงสาย ตอนที่เขาไปหาพระชายากุ้ยถิง เมื่อไปถึงและรู้ว่านางไม่ค่อยสบาย เขาก็รีบถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงเป็นใย และกำชับให้นางพักผ่อนมาก ๆ ตกเย็นยังกลับไปหานางอีกครั้ง เพื่อนำยาของบำรุงสุขภาพจากทางบ้านเกิดไปให้“ฮือ ๆ ๆ ฮือ ๆ ๆ” ความน้อยใจทำให้นางสะอื้นไห้เสียงดัง ไหล่สั่นสะท้านจอห์นมองหัวหน้าจั๊วแล้วส่งสายตาเป็นคำถาม เห็นอีกฝ่ายทำสีหน้าลำบากใจก่อนตีมือลงไปบนไหล่สั่น ๆ นั้นเต็มพอแรงเฮ้อ! บอบบางจริง ๆ “หยุดร้องได้แล้ว! ญาติฝ่ายไหนเจ้าตายหรือไง” หัวหน้าจั๊วตะคอกเสียงดัง แล้วนั่งลงกระซิบใกล้ ๆ “อยู่ต่อหน้าท่านโจนยังทำตัวอ่อนแอปานนี้ ถ้าเขาไล่เจ้ากลับฝั่ง จะมาโทษข้าไม่ได้นะ” และมันก็ได้ผลเพราะเสียงร้องหายไปทันที“ฮึก ๆ ขอโทษขอรับ ข้าจะไม่ร้องอีกแล้ว ฮึก ๆ” เสียงสะอื้นบาง ๆ ยังเล็ดลอดออกมากับคำพูดอยู่บ้าง“เงยหน้าขึ้นมา”หญิงสาวในคราบหนุ่มน้อยทำตามทันที เพราะอยากรู้ว่าถ้าเขาเห็นนางจัง ๆ แล้วจะจำได้ไหมจอห์นหรือท่านโจนมองเด็กหนุ่มอย่างครุ่นคิดสงสัย แววตาแบบนี้ทำไมรู้สึกคุ้นตาจังนะ เหมือน
หลินเกิงมือสั่นเทาขณะแกะจดหมายที่มีชื่อของเขาอยู่หน้าซอง นึกภาวนาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่าให้ทุกอย่างเป็นเหมือนครั้งที่ผ่านมา‘ท่านพ่อ ท่านแม่ ลูกขอโทษที่ทำให้พวกท่านต้องเสียใจอีกแล้ว แต่ที่ลูกต้องทำแบบนี้ท่านน่าจะรู้ว่าเพราะอะไร ลูกอกตัญญูต่อท่านพ่อ ท่านอาจตัดขาดความเป็นพ่อลูกกันตลอดชาติ แต่ต่อให้ท่านเกลียดลูกแค่ไหน ลูกก็ยังรักท่านเสมอการเดินทางไปท่องโลกกว้างครั้งนี้ ลูกจะอาศัยปัญญาอันน้อยนิดที่มีอยู่รักษาตัวให้อยู่รอดปลอดภัย เพื่อกลับมาหาท่านทั้งสองในสักวันหนึ่ง ถึงเวลานั้นถ้าลูกยังไม่พบรักแท้ ลูกจะยอมแต่งงานกับคนที่ท่านพ่อพอใจ นี่คือคำมั่นที่ออกมาจากใจจริงของลูกสาวท่านคนนี้ ฝากบอกท่านแม่ด้วยว่าไม่ต้องเป็นห่วงหลินโม่ว’อ่านจบแล้วจึงยื่นจดหมายให้ภรรยา แสร้งเงยหน้ามองเพดานไปทั่วแต่ความจริงกลัวน้ำตาจะไหลออกมา กะพริบตาถี่ยิบเพื่อขับไล่ให้มันหายเข้าไปทางเดิมหลินเซียงกลับดูเข้มแข็งกว่าสามีของนางมาก ไม่มีความผิดหวังในดวงตาคู่นั้น มีแต่ความเด็ดเดี่ยวมุ่งมั่น“ข้าขอโทษที่เลี้ยงลูกสาวได้ไม่ดี นางทำให้ท่านต้องเสียใจซ้ำสอง ข้าขอรับความผิดทั้งหมดไว้เอง เพราะที่ลูกเป็นแบบนี้ก็เพราะนางมีนิสัยเหม







