Share

บทที่ 2

Author: Mu lingxi
last update Last Updated: 2025-10-13 05:53:58

ไร้ยางอาย! ยังมีหน้ากล้าเอ่ยถ้อยคำต่ำช้าเช่นนี้ต่อบุรุษแปลกหน้า!

หากเป็นหญิงผู้ดีคงกัดลิ้นตายไปแล้ว! แต่หลินซีกลับยักไหล่ ริมฝีปากคลี่ยิ้มเยาะ

“เจ้าคงอยากด่าว่าข้าไร้ยางอายสินะ… แต่ข้าไม่สน ตอนนี้ข้าอยากรอดชีวิตเท่านั้น! ดังนั้น อย่าห้ามข้าเลย!”

“หยุดเดี๋ยวนี้! ไม่เช่นนั้น…” เสียงกู่ตะโกนต่ำสั่นสะท้านไปทั้งอก

หลินซีเลิกคิ้ว ยิ้มมุมปากราวเย้ยหยัน “องค์ชายเจ้าขา… อย่าขู่เลย ข้าชินแล้วล่ะ

ตั้งแต่ยังเด็ก ข้าถูกขู่จนไม่กลัวอะไรอีกแล้ว”

และแล้ว….

หลินซีเลือกวิธีถอนพิษอย่างอุกอาจ โดยไม่สนศักดิ์ศรีหรือสายตาของผู้ใดทั้งสิ้น

เมื่อเวลาล่วงถึงยามค่ำ จันทร์นวลลอยเด่นกลางฟากฟ้า เรือนกายที่เคยร้อนระอุของนาง บัดนี้สงบลงแล้ว

นางล้มตัวนอนหอบหายใจ เหนื่อยล้าจนแขนขาแทบยกไม่ขึ้น

“งานแบบนี้… ต้องมีสองคนจริงๆสินะ เล่นอยู่คนเดียว เหนื่อยแทบตาย!” บ่นพลางนั่งพับเพียบ ลุกขึ้นแต่งกายอย่างเก้ๆ กังๆ

“…ให้ตายสิ” นางสบถแผ่วเบา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหนือความคาดหมายไปมากนัก

ผู้อื่นข้ามภพยังได้ระบบ ได้อาวุธวิเศษ แต่ตนนี่สิ… แค่เปิดปากเอ่ยคำเดียว สวรรค์ก็โยนบุรุษมาให้ทันที!

ทว่าพอเหลือบมองเสื้อผ้า ที่ขาดวิ่นจนไม่อาจทนใส่ นางก็กวาดตามองชายหนุ่มที่หมดสติอยู่บนพื้นแทน สายตาไล่สำรวจเพียงครู่ ก่อนตัดสินใจแน่วแน่

นางช่วยเขาสวมเสื้อคลุมให้เรียบร้อย แต่ไม่ลืมล้วงหยกประจำตัวกับเงินในตัวไปด้วย

“ขอบคุณนะเจ้าขา~” เสียงหัวเราะเบาหวิวดังลอดริมฝีปาก

ทันใดนั้น

เสียงตะโกนดังมาจากป่าลึก “เร็ว! ค้นให้ทั่ว! ต้องอยู่แถวนี้แน่!!”

หลินซีชะงักทันที แววตาเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด เสียงฝีเท้าและใบไม้ถูกย่ำกรอบแกรบใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

“พวกมัน… มาตามหาข้า หรือมาตามหาหมอนี่กันแน่”ไม่ว่าเป้าหมายคือใคร สิ่งที่นางควรทำในตอนนี้มีเพียง หนี!

นางลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ว่าจะพาชายผู้นั้นไปด้วยหรือไม่ แต่สุดท้าย…

หลินซีก็ตัดใจ หันหลังจากไปโดยไม่เหลียวแล

“เจ้า…!”

เสียงแหบพร่าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ ชายผู้นั้นองค์ชายหวงจิ่วเยี่ย หญิงแพศยานี่ใช้เขาถอนพิษจนรอดตาย แล้วคิดจะทิ้งเขาให้ตายตรงนี้อย่างเลือดเย็น!

ใจดำสิ้นดี!

น่าชิงชัง!

นางควรตกนรกหมื่นชาติ!

หลินซีปรายตามองกลับ ยิ้มบางๆ แสร้งโค้งตัวเล็กน้อย

“องค์ชายเจ้าขา… นอนพักให้สบายนะเจ้าคะ ข้าเป็นคนขี้ขลาด ขอลาล่ะ!”

นางหมุนกายเตรียมจะก้าวออกไป แต่ยังไม่ทันยกเท้าครบหนึ่งก้าว ขาของนางกลับถูกคว้ารั้งไว้ด้วยมือแข็งแรง!

หลินซีหรี่ตาลง มองมือนั้นนิ่งๆ ก่อนโน้มตัวลง ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ปลายนิ้วเรียวค่อยๆ แกะนิ้วของเขาออกทีละข้อ…

แต่

เขากลับกำไว้แน่นกว่าเดิม!

หลินซีขมวดคิ้ว เอ่ยเสียงเย็น “หืม… แค่แตะนิดหน่อยก็คิดลวนลามข้าแล้วหรือ ปล่อยมือ ไม่อย่างนั้นข้าจะไม่ออมแรงอีกแล้ว!”

เสียงแหบพร่าของเขาฝืนเปล่งออก “พาข้า… ไปด้วย…” เขากัดฟันแน่น ข่มความเจ็บปวดสุดกำลัง

หญิงผู้นี้หยาบคาย โหดเหี้ยม ไร้ยางอายเพิ่งใช้ร่างเขาถอนพิษโดยไม่ถามสักคำ ครู่เดียวกลับคิดจะทิ้งเขา ทั้งที่เขาใกล้ตายอยู่รอมร่อ!

“ไม่มีทาง!” หลินซีตอบเสียงต่ำ ก่อนยกเท้าเหยียบมือลงเต็มแรง!

“อึก…” เขาเจ็บแทบสิ้นสติ แต่กลับยังฝืนกำเอาไว้แน่น เพราะรู้ดี หากปล่อยตอนนี้ มีหวังสิ้นชื่อแน่นอน เขารู้สึกได้… หญิงผู้นี้มิใช่คนธรรมดา หากจะมีผู้ใดพาเขารอดไปจากที่นี่ได้ ก็ต้องเป็นนางเท่านั้น!

หลินซีเห็นเช่นนั้นก็ยิ่งขมวดคิ้ว ก่อนจะออกแรงเหยียบซ้ำหลายครั้ง สุดท้าย…เขาก็หมดแรงแน่นิ่ง มือคลายปล่อยในที่สุด

หลินซีถอนหายใจโล่งอก ทว่าเมื่อเงยหน้าขึ้นกลับชะงักงัน! พวกเขาถูกล้อมไว้เรียบร้อยแล้ว!

ชายชุดดำสวมหน้ากากนับสิบตั้งวงล้อม คบเพลิงลุกโชติสะท้อนคมดาบแวววาวรอบทิศ

หลินซีแค่นหัวเราะเบาๆ เอ่ยขึ้นลอยๆ “ดีเลย… ในเมื่อมากันครบ ข้าก็ไม่ไปไหนแล้ว” นางหมุนตัวอย่างใจเย็น สอดส่องศัตรูทีละคน ก่อนถามเสียงเรียบ

“ท่านทั้งหลาย… มาหาฆ่าข้า หรือฆ่าผู้บาดเจ็บตรงนี้กันแน่”

หัวหน้าคนชุดดำยกยิ้มเจ้าเล่ห์ “ต่างกันตรงไหนกันเล่า”

หลินซียกยิ้มหวาน ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “ต่างสิ… หากมาฆ่าข้า ข้าก็จะสู้เต็มที่ แต่หากมาฆ่าเขา… ข้าจะหนีให้ไกล ไม่คิดเอี่ยวแม้แต่น้อย”

หัวหน้าคนชุดดำหัวเราะต่ำ มองนางด้วยสายตาดูแคลน “แม่นางผู้นี้น่าสนใจไม่น้อย… แต่จำไว้เถิด ไม่ว่าข้าจะมาฆ่าใคร วันนี้ เจ้าก็ไม่มีทางรอด!”

หลินซีทำตาโตพยักหน้า “อ้อ… เข้าใจแล้ว”

นางก้มลงพยุงหวงจิ่วเยี่ยขึ้นพลางถามเสียงเบา “เจ้ารู้จักคนพวกนี้หรือไม่”

“…พวกมัน… มาฆ่าข้า” เขาเอ่ยอย่างยากเย็น พยายามทำใจสงบนิ่งไม่ให้ศัตรูจับพิรุธได้

“ข้ารู้แล้ว” หลินซีพยักหน้าหนักแน่น สูดลมหายใจลึก เอ่ยด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด

“เช่นนั้น…ข้าจะลองดู หากข้ารอดได้ ข้าจะพาเจ้าไปด้วย แต่หากข้าตาย…ก็จบเพียงเท่านี้”

แววตาของนางฉายชัดถึงความแน่วแน่ ก่อนทิ้งท้าย

“และหากข้าช่วยเจ้าได้เรื่องระหว่างเราทั้งหมด ถือว่าหมดสิ้นกัน!”

คำพูดนั้น หมายถึงสิ่งที่นางใช้เขาถอนพิษไปก่อนหน้านี้!

หวงจิ่วเยี่ยกัดฟันแน่น แม้โกรธจนเลือดพลุ่งพล่าน แต่สุดท้ายก็ได้เพียงพยักหน้า ไม่เอื้อนเอ่ยคำใด

หลินซีเห็นดังนั้นก็ยิ้มบางอย่างพอใจ ถือว่าเขาตอบตกลงแล้ว

นางโบกมือเรียกหัวหน้าชุดดำด้วยท่าทีสบายๆ ราวกับกำลังชวนกันมานั่งจิบน้ำชา

“เจ้าเป็นหัวหน้าใช่หรือไม่ หน้าตาก็ดูพอมีฝีมือ เอาเถิด ขึ้นมาเถอะ ข้ารออยู่ตรงนี้เอง” น้ำเสียงของนางเรียบเฉย ราวกับกำลังท้าทายโดยไม่เกรงกลัวสิ่งใด

แม้ร่างกายเพิ่งผ่านทั้งพิษราคะและค่ำคืนที่โหมแรงจนปวดเมื่อยไปทั้งตัว

แต่กลับยังมั่นใจว่า

“ข้ายังสู้ไหว!”

ร่างใหม่นี้ฟื้นตัวได้เร็วจนน่าประหลาดใจ หากเป็นร่างเดิมที่อ่อนแอ ป่านนี้คงสิ้นใจไปแล้ว

จะอวดดีทั้งที ก็ต้องมีทุนให้พอ!

หัวหน้าชุดดำจ้องนางเขม็ง ดวงตาเต็มไปด้วยการประเมิน เขาพยายามตรวจสอบพลังปราณในกาย แต่สิ่งที่พบกลับเป็นความว่างเปล่า

รอบตัวไร้ซึ่งพลังลมหรือกลิ่นอายวรยุทธ์ใดๆ

หรือว่านางเป็นเพียงสตรีไร้พลัง แสร้งทำใจกล้าเพื่อยื้อเวลาเท่านั้น ความลังเลทำให้เขายังไม่กล้าเคลื่อนไหว

บางที อาจมีใครซ่อนอยู่เบื้องหลังนางก็เป็นได้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ลิขิตรักข้ามภพ ชายาพิษฝาแฝด   บทที่ 55

    “ต่อให้เทียนซานเสวี่ยเหลียนไม่ตกอยู่ในมือพวกเราตั้งแต่แรก หากเมื่อใดมันเผยโฉม เราก็ต้อง แย่งมาให้ได้…ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยสิ่งใดก็ตาม!” เสียงของนางราวสายลมหนาวในหุบเหว ฉูเหวินทรุดกายคุกเข่าทันที “ขอรับ!” ศึกหญิงงามชิงเด่น ข่าวลือเรื่องที่อ๋องผู้สำเร็จราชการจะจัดการคัดเลือกหญิงงาม เพียงแพร่สะพัดออกไป ก็สร้างความฮือฮาไปทั่วทั้งแผ่นดิน ขุนนางผู้ทรงอำนาจและตระกูลมั่งคั่งต่างรีบส่งบุตรีที่งดงามที่สุดของตนออกมาอวดโฉม บ้างว่าจ้างครูผู้ชำนาญมาสอนศิลปะสารพัดแขนง บ้างสั่งตัดชุดงามล้ำจากหอจิ่นซ่านเก๋อ ยิ่งใครปรารถนาผลลัพธ์มากเท่าไร ยิ่งทุ่มเทมากเท่านั้น โชคดีที่หอจิ่นซ่านเก๋อมีหญิงปักผ้าฝีมือเอกมากพอ แม้จะสั่งทำเฉพาะ ก็ยังสามารถส่งมอบได้ภายในสามวัน แน่นอนว่า สิ่งแรกที่ถูกนำมานับถือคือเงินทอง หากเจ้ามีเงิน เจ้าก็เป็นได้ถึงขั้นบงการ หากขัดสนแต่ยังอยากรักษาหน้า ก็เลือกซื้อเสื้อผ้าสำเร็จรูปแขวนอยู่ตรงนั้น จ่ายเงินแล้วนำกลับไปอวดอ้างก็ยังได้อยู่ดี เพราะเสื้อผ้าของหอจิ่นซ่านเก๋อขึ้นชื่อมาแต่เดิมว่า หรูหรา งดงาม และสูงศักดิ์ “คุณหนู ฮะฮะฮะ ช่วงนี้รายได้งามนัก” ฉูเหวินถือสมุดบัญชีเดินยิ้มเข้ามาใ

  • ลิขิตรักข้ามภพ ชายาพิษฝาแฝด   บทที่ 54

    คืนนั้น… คงทำให้ตาเฒ่าชราผู้นั้น ตกใจไม่น้อยเลยกระมัง ไม่อย่างนั้น ตลอดหลายวันที่ผ่านมาผู้คนมากมายยังแวะเวียนมาดูอาการนาง ทว่าเพียงเขาผู้เดียวที่ไม่เคยปรากฏตัว“ตาเฒ่าเป็นอย่างไรบ้าง?” ซือหรงชะงักเล็กน้อย ก่อนตอบเสียงเรียบ “ท่านอาวุโสยังแข็งแรงดีเจ้าค่ะ!” หลินซีส่ายหน้าเบา ๆ แววตาเศร้าลึกจนยากจะเอ่ย “ข้าไม่ได้หมายถึงยามนี้ แต่หมายถึงคืนนั้น หลังจากเขาส่งข้ากลับมาแล้ว… เขาเป็นอย่างไรบ้าง?” ซือหรงเม้มปากแน่น หันมองรอบกายอย่างระวัง พอแน่ใจว่าไม่มีผู้ใดอยู่ใกล้ จึงโน้มตัวลงมากระซิบข้างหูอย่างแผ่วเบา “คืนนั้น หลังจากผู้อาวุโสอุ้มคุณหนูกลับถึงเรือน เขาก็หมดสติลงทันทีเจ้าค่ะ ” คำพูดแผ่วๆ เหล่านั้น กลับดังกึกก้องในห้วงจิตของหลินซี หัวใจพลันบีบรัดแน่น ราวถูกมือใครบีบไว้เต็มแรง “ข้าคิดว่า… เทียนซานเสวี่ยเหลียน หาได้ง่ายดายนัก เหมือนของที่หยิบออกมาจากกระเป๋า แต่เปล่าเลย…” เสียงนางสั่นเครือ มือเรียวค่อย ๆ ยกขึ้นปิดริมฝีปากแน่น กลั้นเสียงสะอื้นที่แทบจะทะลักออกมา สูดลมหายใจเข้าลึกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งหมด… คือความประมาทของนางเอง นางควรระลึกไว้ให้มั่น ว่า… หวงจิ่วเยี่ยคือผู้ใด เขาไม่ใช่ชายคนหน

  • ลิขิตรักข้ามภพ ชายาพิษฝาแฝด   บทที่ 53

    เด็กน้อยสองคน วัยเพียงห้าขวบเท่านั้น กลับกอดกันแน่นราวกับโลกทั้งใบพังทลาย และมีเพียงอ้อมกอดนี้เท่านั้น… ที่ยังหลงเหลือ หลายวันที่ผ่านมา พวกเขาไม่เคยร้อง ไม่เคยเอะอะ แม้กระทั่งคำพูดก็ยังต้องเอื้อนเอ่ยเบาที่สุด เพราะกลัวจะรบกวนผู้เป็นมารดาที่นอนหลับไม่รู้สึกตัว แม้จะยังเล็กนัก แต่กลับเข้าใจทุกอย่างเข้าใจมากเกินกว่าที่เด็กวัยนี้ควรจะเข้าใจ และเพราะเข้าใจ พวกเขาจึงเลือกที่จะเก็บซ่อนความรู้สึกทั้งหมดไว้ในใจ ในความเงียบที่กดทับ บนใบหน้าที่ฝืนแววกล้า ไม่มีใครรู้เลยว่าในใจของเด็กน้อยสองคนนี้ เต็มไปด้วยความกลัว ความว้าเหว่ และความหวังเพียงริบหรี่ที่เกาะกุมอยู่ ซือหรงยืนเงียบอยู่หน้าประตูห้อง สายตาแน่วนิ่งไปยังภาพบนเตียง เด็กน้อยสองคนกอดกันแน่นจนแทบเป็นเนื้อเดียว ริมฝีปากบางเม้มแน่น ดวงตาแดงก่ำ ก่อนจะหันหน้าหนีเงียบๆ น้ำตาหยดหนึ่งร่วงลงอาบแก้ม ไร้เสียงสะอื้น แต่กลับเต็มไปด้วยความเจ็บปวดจนแทบกลืนไม่ลง ในห้วงขณะนั้นเอง มือของหลินซีก็ขยับไหวเพียงเล็กน้อย เปลือกตาคู่งามค่อยๆ เปิดขึ้นช้าๆ อย่างยากเย็นและภาพแรกที่แลเข้ามาในสายตา คือภาพของเป่าเป่าและหนิงหนิง เด็กน้อยทั้งสองที่กอดกันแน่น เฝ้านา

  • ลิขิตรักข้ามภพ ชายาพิษฝาแฝด   บทที่ 52

    เพราะเขารู้ดี หวงจิ่วเยี่ยไม่เคยเป็นเช่นนี้ เขาไม่ใช่คนชอบดื่มสุรา และต่อให้ดื่ม… ก็ไม่เคยเมา แต่ยามนี้… เขากลับดื่มราวกับไม่ต้องการตื่นขึ้นมาอีกเลย เหมือนคนที่ไม่เหลืออะไรให้หวงแหนในโลกนี้อีกแล้ว “ท่านอ๋อง?” จิ่นอู่เอ่ยขึ้นเบา ๆ พักใหญ่ กว่าหวงจิ่วเยี่ยจะค่อย ๆ ลืมตา เขาหันมามองจิ่นอู่ตรง ๆ สายตานิ่งราวกับคนสิ้นใจ ก่อนจะเอ่ยเสียงแผ่ว “จิ่นอู่… เจ้ารู้ไหม ที่จริง ข้ามีความลับข้อหนึ่ง ไม่เคยบอกใครมาก่อนเลยจริงๆ” จิ่นอู่ขมวดคิ้วทันที “ความลับ? ท่านน่ะ มีมากเกินพอแล้ว ข้าไม่อยากรู้ ” แต่หวงจิ่วเยี่ยกลับจับไหล่เขาไว้แน่น มือที่ยังอุ่นด้วยสุรา แต่กลับสั่นอย่างรุนแรง “ไม่… เจ้าต้องฟัง! จิ่นอู่… ข้าขอแค่ครั้งเดียว เจ้าต้องฟังให้จบ!” จิ่นอู่เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจยาว “ก็ได้ ว่ามา ข้าฟังอยู่” เงียบไปชั่วอึดใจ แล้วเสียงนั้นก็ดังขึ้นเบาๆ “จริง ๆ แล้ว ข้า...”หวงจิ่วเยี่ยกระดกสุราลงคอหลายอึกติดกัน สุราร้อนลวกราวเปลวเพลิง ไหลผ่านลำคอจนแทบหายใจไม่ออก ในห้วงขณะหนึ่ง เขากลับรู้สึก อยากกลับไป… อยากกลับไปเสียเถอะ… เสียงไอแห้งๆ ดังขึ้นถี่รัว ก่อนที่ร่างสูงจะโซเซเดินออกจากลานอย่างเ

  • ลิขิตรักข้ามภพ ชายาพิษฝาแฝด   บทที่ 51

    แต่กลับ… ไม่อาจสลัดหลุดและในอ้อมแขนนั้น ร่างของหญิงสาวผู้แกร่งกล้า ค่อย ๆ เย็นเยียบลงทุกที เลือดสีเข้มไหลรินจากมุมปาก หยดลงบนอกเสื้อของเขาเป็นดวง ๆ “เจ้าหนู…?” เสียงเรียกนั้นเบาหวิว ราวตาเฒ่ากำลังร้องเรียกวิญญาณใกล้พราก หลินซีฝืนลืมตา ใบหน้าซีดขาวไร้สีเลือด “ข้าไม่เป็นไร… พาข้ากลับไป ข้า… ข้าจะไปหาหนิงหนิงกับเป่าเป่า ข้ายัง… ยังต้องไปหา…ลูก…ของข้า…” เสียงของนางแผ่วจนแทบไร้ลมหายใจ แต่ทุกคำกลับหนักแน่นดุจภูผา ชายชรากัดฟันแน่น น้ำเสียงพลันแปรเป็นเกรี้ยวกราด “ไม่! คนดีมักอายุสั้น แต่คนอย่างเจ้า ไม่ใช่แน่นอน! เจ้ายังต้องอยู่ต่อไป!” เขาแหงนหน้าสูดลมหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะหยุดวิ่ง หันกลับทันควัน แล้วพาร่างในอ้อมแขนพุ่งตรงไปยัง “สาขาหลักของสำนักกุ้ยเซี่ย” ที่ตั้งอยู่กลางเมือง! หากหวงจิ่วเยี่ยมันจะตาม ก็ให้มันตามมา! หากมันกล้าขวาง ข้าจะฆ่ามันเสียด้วยมือของข้าเอง!และหวงจิ่วเยี่ยก็ไล่ตามไม่ลดละ สีหน้าของเขาแข็งกร้าว ดวงตาแดงฉาน มือแน่นดั่งกรงเหล็ก เขาไม่ได้ไล่เพื่อฆ่า เขาแค่จะชิงตัวนางกลับคืนมา แต่แล้ว… เมื่อแสงจันทร์ทอดตัวลงกระทบใบหน้าหญิงสาวในอ้อมแขนของกู่เซี่ย เขาก็ต้องชะงัก ใบหน้าท

  • ลิขิตรักข้ามภพ ชายาพิษฝาแฝด   บทที่ 50

    เขาไม่เคยต้องการให้นางเจ็บ ไม่เคยเลย… เขาปล่อยกระบี่ลง ปล่อยให้นางแทงเข้ามาโดยไม่หลบเลี่ยง ขณะเดียวกัน หวงจิ่วเยี่ยรวบรวมพลังไว้ที่มือข้างหนึ่งก่อนปลายกระบี่ของหลินซีจะสัมผัสถึงอก เขากลับยื่นมือออกอย่างรวดเร็ว ใช้เคล็ด “ดูดพลัง” ดูดลมปราณทั้งหมดของนางกลับเข้าสู่ร่างตน! “เคล็ดดูดพลัง! เจ้าหนู ระวัง!” เสียงคำรามของชายชรากู่เซี่ยดังลั่นราวฟ้าผ่า เขากระโจนเข้าหานางทันที ทว่า มังกรหนึ่งกับองครักษ์เงาสองคน พุ่งมาขวางไว้ในพริบตา! เสียงกระบี่ปะทะดังแหลมสนั่นกลางอากาศ ประกายโลหิตกระเซ็นวาบ แต่กู่เซี่ยไม่มีทางฝ่าเข้าไปได้ หลินซีเบิกตาโพลง จ้องหน้าเขาด้วยความไม่อยากเชื่อขณะพลังภายในร่างไหลออกอย่างไม่อาจควบคุม มือเรียวไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะจับกระบี่ไว้ให้มั่น ร่างทั้งร่างอ่อนแรงลงเรื่อย ๆ สุดท้าย… กระบี่ร่วงหล่นจากมือ และร่างของนางก็ตกจากอากาศอย่างหมดเรี่ยวแรง แต่หลินซี… ยังไม่ยอมแพ้! ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไร นางจะตายไม่ได้! ภาพในใจแวบขึ้นมา เสียงหัวเราะใสๆของหนิงหนิงรอยยิ้มอบอุ่นของเป่าเป่า หัวใจที่แทบหยุดเต้นของนางกลับเต้นแรงอีกครั้ง นางยังมีลูก นางต้องอยู่ต่อ! ทันใดนั้น ร่างที่ใกล้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status