Share

บทที่ 2

Author: Mu lingxi
last update Last Updated: 2025-10-13 05:53:58

ไร้ยางอาย! ยังมีหน้ากล้าเอ่ยถ้อยคำต่ำช้าเช่นนี้ต่อบุรุษแปลกหน้า!

หากเป็นหญิงผู้ดีคงกัดลิ้นตายไปแล้ว! แต่หลินซีกลับยักไหล่ ริมฝีปากคลี่ยิ้มเยาะ

“เจ้าคงอยากด่าว่าข้าไร้ยางอายสินะ… แต่ข้าไม่สน ตอนนี้ข้าอยากรอดชีวิตเท่านั้น! ดังนั้น อย่าห้ามข้าเลย!”

“หยุดเดี๋ยวนี้! ไม่เช่นนั้น…” เสียงกู่ตะโกนต่ำสั่นสะท้านไปทั้งอก

หลินซีเลิกคิ้ว ยิ้มมุมปากราวเย้ยหยัน “องค์ชายเจ้าขา… อย่าขู่เลย ข้าชินแล้วล่ะ

ตั้งแต่ยังเด็ก ข้าถูกขู่จนไม่กลัวอะไรอีกแล้ว”

และแล้ว….

หลินซีเลือกวิธีถอนพิษอย่างอุกอาจ โดยไม่สนศักดิ์ศรีหรือสายตาของผู้ใดทั้งสิ้น

เมื่อเวลาล่วงถึงยามค่ำ จันทร์นวลลอยเด่นกลางฟากฟ้า เรือนกายที่เคยร้อนระอุของนาง บัดนี้สงบลงแล้ว

นางล้มตัวนอนหอบหายใจ เหนื่อยล้าจนแขนขาแทบยกไม่ขึ้น

“งานแบบนี้… ต้องมีสองคนจริงๆสินะ เล่นอยู่คนเดียว เหนื่อยแทบตาย!” บ่นพลางนั่งพับเพียบ ลุกขึ้นแต่งกายอย่างเก้ๆ กังๆ

“…ให้ตายสิ” นางสบถแผ่วเบา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหนือความคาดหมายไปมากนัก

ผู้อื่นข้ามภพยังได้ระบบ ได้อาวุธวิเศษ แต่ตนนี่สิ… แค่เปิดปากเอ่ยคำเดียว สวรรค์ก็โยนบุรุษมาให้ทันที!

ทว่าพอเหลือบมองเสื้อผ้า ที่ขาดวิ่นจนไม่อาจทนใส่ นางก็กวาดตามองชายหนุ่มที่หมดสติอยู่บนพื้นแทน สายตาไล่สำรวจเพียงครู่ ก่อนตัดสินใจแน่วแน่

นางช่วยเขาสวมเสื้อคลุมให้เรียบร้อย แต่ไม่ลืมล้วงหยกประจำตัวกับเงินในตัวไปด้วย

“ขอบคุณนะเจ้าขา~” เสียงหัวเราะเบาหวิวดังลอดริมฝีปาก

ทันใดนั้น

เสียงตะโกนดังมาจากป่าลึก “เร็ว! ค้นให้ทั่ว! ต้องอยู่แถวนี้แน่!!”

หลินซีชะงักทันที แววตาเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด เสียงฝีเท้าและใบไม้ถูกย่ำกรอบแกรบใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

“พวกมัน… มาตามหาข้า หรือมาตามหาหมอนี่กันแน่”ไม่ว่าเป้าหมายคือใคร สิ่งที่นางควรทำในตอนนี้มีเพียง หนี!

นางลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ว่าจะพาชายผู้นั้นไปด้วยหรือไม่ แต่สุดท้าย…

หลินซีก็ตัดใจ หันหลังจากไปโดยไม่เหลียวแล

“เจ้า…!”

เสียงแหบพร่าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ ชายผู้นั้นองค์ชายหวงจิ่วเยี่ย หญิงแพศยานี่ใช้เขาถอนพิษจนรอดตาย แล้วคิดจะทิ้งเขาให้ตายตรงนี้อย่างเลือดเย็น!

ใจดำสิ้นดี!

น่าชิงชัง!

นางควรตกนรกหมื่นชาติ!

หลินซีปรายตามองกลับ ยิ้มบางๆ แสร้งโค้งตัวเล็กน้อย

“องค์ชายเจ้าขา… นอนพักให้สบายนะเจ้าคะ ข้าเป็นคนขี้ขลาด ขอลาล่ะ!”

นางหมุนกายเตรียมจะก้าวออกไป แต่ยังไม่ทันยกเท้าครบหนึ่งก้าว ขาของนางกลับถูกคว้ารั้งไว้ด้วยมือแข็งแรง!

หลินซีหรี่ตาลง มองมือนั้นนิ่งๆ ก่อนโน้มตัวลง ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ปลายนิ้วเรียวค่อยๆ แกะนิ้วของเขาออกทีละข้อ…

แต่

เขากลับกำไว้แน่นกว่าเดิม!

หลินซีขมวดคิ้ว เอ่ยเสียงเย็น “หืม… แค่แตะนิดหน่อยก็คิดลวนลามข้าแล้วหรือ ปล่อยมือ ไม่อย่างนั้นข้าจะไม่ออมแรงอีกแล้ว!”

เสียงแหบพร่าของเขาฝืนเปล่งออก “พาข้า… ไปด้วย…” เขากัดฟันแน่น ข่มความเจ็บปวดสุดกำลัง

หญิงผู้นี้หยาบคาย โหดเหี้ยม ไร้ยางอายเพิ่งใช้ร่างเขาถอนพิษโดยไม่ถามสักคำ ครู่เดียวกลับคิดจะทิ้งเขา ทั้งที่เขาใกล้ตายอยู่รอมร่อ!

“ไม่มีทาง!” หลินซีตอบเสียงต่ำ ก่อนยกเท้าเหยียบมือลงเต็มแรง!

“อึก…” เขาเจ็บแทบสิ้นสติ แต่กลับยังฝืนกำเอาไว้แน่น เพราะรู้ดี หากปล่อยตอนนี้ มีหวังสิ้นชื่อแน่นอน เขารู้สึกได้… หญิงผู้นี้มิใช่คนธรรมดา หากจะมีผู้ใดพาเขารอดไปจากที่นี่ได้ ก็ต้องเป็นนางเท่านั้น!

หลินซีเห็นเช่นนั้นก็ยิ่งขมวดคิ้ว ก่อนจะออกแรงเหยียบซ้ำหลายครั้ง สุดท้าย…เขาก็หมดแรงแน่นิ่ง มือคลายปล่อยในที่สุด

หลินซีถอนหายใจโล่งอก ทว่าเมื่อเงยหน้าขึ้นกลับชะงักงัน! พวกเขาถูกล้อมไว้เรียบร้อยแล้ว!

ชายชุดดำสวมหน้ากากนับสิบตั้งวงล้อม คบเพลิงลุกโชติสะท้อนคมดาบแวววาวรอบทิศ

หลินซีแค่นหัวเราะเบาๆ เอ่ยขึ้นลอยๆ “ดีเลย… ในเมื่อมากันครบ ข้าก็ไม่ไปไหนแล้ว” นางหมุนตัวอย่างใจเย็น สอดส่องศัตรูทีละคน ก่อนถามเสียงเรียบ

“ท่านทั้งหลาย… มาหาฆ่าข้า หรือฆ่าผู้บาดเจ็บตรงนี้กันแน่”

หัวหน้าคนชุดดำยกยิ้มเจ้าเล่ห์ “ต่างกันตรงไหนกันเล่า”

หลินซียกยิ้มหวาน ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “ต่างสิ… หากมาฆ่าข้า ข้าก็จะสู้เต็มที่ แต่หากมาฆ่าเขา… ข้าจะหนีให้ไกล ไม่คิดเอี่ยวแม้แต่น้อย”

หัวหน้าคนชุดดำหัวเราะต่ำ มองนางด้วยสายตาดูแคลน “แม่นางผู้นี้น่าสนใจไม่น้อย… แต่จำไว้เถิด ไม่ว่าข้าจะมาฆ่าใคร วันนี้ เจ้าก็ไม่มีทางรอด!”

หลินซีทำตาโตพยักหน้า “อ้อ… เข้าใจแล้ว”

นางก้มลงพยุงหวงจิ่วเยี่ยขึ้นพลางถามเสียงเบา “เจ้ารู้จักคนพวกนี้หรือไม่”

“…พวกมัน… มาฆ่าข้า” เขาเอ่ยอย่างยากเย็น พยายามทำใจสงบนิ่งไม่ให้ศัตรูจับพิรุธได้

“ข้ารู้แล้ว” หลินซีพยักหน้าหนักแน่น สูดลมหายใจลึก เอ่ยด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด

“เช่นนั้น…ข้าจะลองดู หากข้ารอดได้ ข้าจะพาเจ้าไปด้วย แต่หากข้าตาย…ก็จบเพียงเท่านี้”

แววตาของนางฉายชัดถึงความแน่วแน่ ก่อนทิ้งท้าย

“และหากข้าช่วยเจ้าได้เรื่องระหว่างเราทั้งหมด ถือว่าหมดสิ้นกัน!”

คำพูดนั้น หมายถึงสิ่งที่นางใช้เขาถอนพิษไปก่อนหน้านี้!

หวงจิ่วเยี่ยกัดฟันแน่น แม้โกรธจนเลือดพลุ่งพล่าน แต่สุดท้ายก็ได้เพียงพยักหน้า ไม่เอื้อนเอ่ยคำใด

หลินซีเห็นดังนั้นก็ยิ้มบางอย่างพอใจ ถือว่าเขาตอบตกลงแล้ว

นางโบกมือเรียกหัวหน้าชุดดำด้วยท่าทีสบายๆ ราวกับกำลังชวนกันมานั่งจิบน้ำชา

“เจ้าเป็นหัวหน้าใช่หรือไม่ หน้าตาก็ดูพอมีฝีมือ เอาเถิด ขึ้นมาเถอะ ข้ารออยู่ตรงนี้เอง” น้ำเสียงของนางเรียบเฉย ราวกับกำลังท้าทายโดยไม่เกรงกลัวสิ่งใด

แม้ร่างกายเพิ่งผ่านทั้งพิษราคะและค่ำคืนที่โหมแรงจนปวดเมื่อยไปทั้งตัว

แต่กลับยังมั่นใจว่า

“ข้ายังสู้ไหว!”

ร่างใหม่นี้ฟื้นตัวได้เร็วจนน่าประหลาดใจ หากเป็นร่างเดิมที่อ่อนแอ ป่านนี้คงสิ้นใจไปแล้ว

จะอวดดีทั้งที ก็ต้องมีทุนให้พอ!

หัวหน้าชุดดำจ้องนางเขม็ง ดวงตาเต็มไปด้วยการประเมิน เขาพยายามตรวจสอบพลังปราณในกาย แต่สิ่งที่พบกลับเป็นความว่างเปล่า

รอบตัวไร้ซึ่งพลังลมหรือกลิ่นอายวรยุทธ์ใดๆ

หรือว่านางเป็นเพียงสตรีไร้พลัง แสร้งทำใจกล้าเพื่อยื้อเวลาเท่านั้น ความลังเลทำให้เขายังไม่กล้าเคลื่อนไหว

บางที อาจมีใครซ่อนอยู่เบื้องหลังนางก็เป็นได้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ลิขิตรักข้ามภพ ชายาพิษฝาแฝด   บทที่ 66

    หลินซีอดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกใจพวกคนสวมหน้ากากไม่ได้เอ่ยคำใดแม้แต่น้อยเพียงแค่หมายตาเป้าหมาย แล้วโถมเข้ามาโจมตีหวงจิ่วเยี่ยอย่างบ้าคลั่งหวงจิ่วเยี่ยออกมาโดยไม่ได้พกกระบี่หรืออาวุธใดๆนางลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะปลดกระบี่อ่อนที่พันอยู่ที่เอว ส่งให้เขาอย่างรวดเร็ว“ยืมไปใช้ก่อน!”หวงจิ่วเยี่ยชะงักนิดเดียว แต่เพียงพริบตาก็ยื่นมือรับกระบี่จากนางจากนั้นกลับควักกระบี่เล็กจากเอวตนออกมาเป็นกระบี่ขนาดเล็กเพียงนิ้วมือเดียว แล้วยื่นให้หลินซีแทน ไม่กล่าวคำใด พลันเหินร่างเข้าสู่สมรภูมิ “นี่มัน…” หลินซีอึ้งไปชั่วครู่ แล้วก็อดหัวเราะทั้งน้ำตาไม่ได้ นางนึกถึงเหตุการณ์ในจวน ขนม ของเล่น ของใช้ของสองพี่น้อง ที่มักจะสลับกันอยู่เสมอ ทั้งที่นางจัดวางไว้แยกชัดเจน ไม่แน่ว่า… นิสัยแบบนี้ คงถ่ายทอดมาจากเขา นางเงยหน้าขึ้น สายตามองไปยังร่างของหวงจิ่วเยี่ยในสนามรบ เขาใช้กระบี่ได้อย่างแม่นยำ รวดเร็วราวสายฟ้า กระบวนท่าลื่นไหลดั่งสายน้ำ แต่เฉียบขาดทุกดอกฟัน แต่ละท่วงท่า ไม่มีความลังเล ไม่มีคำว่าเมตตา ทุกครั้งที่ลงมือ มีเสียงโหยหวนติดตามมา ไม่ถึงขั้นตาย แต่ล้วนถูกฟันจนเส้นเอ็นขาด บางคนถูก

  • ลิขิตรักข้ามภพ ชายาพิษฝาแฝด   บทที่ 65

    หนิงหนิงกับเป่าเป่ามีทางรอดแล้ว ไม่ต้องทรมานกับพิษร้ายที่กัดลึกถึงไขกระดูกอีกต่อไป “เทียนซานเสวี่ยเหลียน” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบชัด แววตาแน่วแน่ไม่เปลี่ยน หลินซีหัวเราะทั้งน้ำตา มือหนึ่งยกขึ้นปิดปากแต่น้ำตากลับไหลไม่หยุด ยิ่งเช็ดก็ยิ่งไหลไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงง่าย ๆ เขาไม่เคยชินกับการเห็นผู้หญิงร้องไห้และไม่รู้เลยว่าควรปลอบอย่างไร “อยู่ดี ๆ จะร้องไห้ไปไยกัน” เขาพึมพำเบา ๆ ล้วงหาผ้าเช็ดหน้าภายในชุดแต่สุดท้ายกลับพบว่า ไม่ได้พกมาเลย มือที่กำลังจะเอื้อมไปเช็ดน้ำตานางกลับถูกคว้าไว้แน่น “ของจริงหรือ?” เสียงของนางเบาแทบไม่ได้ยิน แต่ในแววตากลับสั่นไหว “ใช่ ของจริงแน่นอน” เขาตอบกลับโดยไม่ลังเล นางยิ้มทั้งน้ำตา ริมฝีปากสั่นเล็กน้อย “ของจริง… แล้วเจ้าจะให้ข้าจริงๆ หรือ?” เขาพยักหน้าแน่นหนัก “อืม ให้เจ้าแน่นอน” หลินซีไม่ลังเล มือเรียวกวาดกล่องผ้าไหมในมือเขามาแน่นหนา ปิดฝาลงแล้วกอดไว้แนบอกเหมือนสิ่งนี้คือชีวิตนาง น้ำหนักภายในใจที่แบกมาตลอดห้าปี ร่วงหล่นในพริบตา หญิงสาวที่เคยแข็งแกร่งไม่ยอมอ่อนข้อให้ใครกลับรู้สึกอ่อนแรงจนต้องพิงพาเขา โดยเฉพาะเมื่อนึกถึงความจริงว่า ชายตรงหน้าคือบิด

  • ลิขิตรักข้ามภพ ชายาพิษฝาแฝด   บทที่ 64

    หลินซีแค่นเสียงเย็นชา ไม่แม้แต่จะชายตามอง หมุนกายหมายจะจากไป แต่ยังไม่ทันพ้นสองก้าว กลับรู้สึกถึงสิ่งใดบางอย่างผิดแผก จึงหยุดยืน หันกลับมามองเขาด้วยแววตาเรียบเย็น “ท่านอ๋องทรงว่างนักหรือ?” คำเรียกขานว่า ‘ท่านอ๋อง’ ทำให้คิ้วของหวงจิ่วเยี่ยขมวดเข้าหากันอย่างไม่อาจปิดบัง เขาเกลียดชื่อนี้ยิ่งกว่าสิ่งใด หากจะให้เลือก เขายอมให้นางเอ่ยนามเขาออกมาเต็มปากเสียยังดี ชื่อว่า หวงจิ่วเยี่ย เดิมทีสำหรับเขาก็เป็นเพียงชื่อหนึ่ง แต่เมื่อหลุดจากเรียวปากนาง กลับคล้ายกลายเป็นบทเพลงที่ไพเราะเกินบรรยาย เมื่อเห็นเขานิ่งเฉย นางจึงก้าวเข้าไปหา แววตาเปี่ยมระแวง เขาเห็นนางยิ่งใกล้ หัวใจในอกก็เต้นแรงขึ้นทุกที เผลอก้าวถอยหลังหนึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัว แต่แล้ว… แขนของเขากลับถูกรั้งไว้โดยนาง อีกมือนางล้วงอ้อมไปด้านหลังเขา ลูบคลำโดยไร้ซึ่งความเกรงใจ “เจ้าคิดทำสิ่งใด?” เขากัดฟันถามเสียงต่ำ “มิได้คิดสิ่งใด” นางตอบเรียบ “เพียงอยากดูว่า เจ้าซ่อนอะไรไว้กันแน่ ถึงต้องลอบเร้นนัก” ยามนั้น เป็นกลางคืน ลมแรง แสงจันทร์เจือจาง หญิงชายยืนใกล้ชิดแนบอกกันกลางเงามืด ท่วงท่าคล้ายบุรุษสตรีที่มีสัมพันธ์ลึกซึ้ง เ

  • ลิขิตรักข้ามภพ ชายาพิษฝาแฝด   บทที่ 63

    นางจากไปแล้ว เขาเพียงนั่งนิ่งอยู่เบื้องหน้ากระดานหมากล้อม แม้ผลแพ้ชนะจะตัดสินไปแล้ว แต่ในใจกลับยังว้าวุ่นไม่รู้จบ มือหนึ่งหยิบตำราพิชัยสงครามขึ้นมาแต่แม้จะเคยอ่านจนขึ้นใจ ทว่าครั้งนีไม่มีแม้แต่ตัวอักษรเดียว ที่จะผ่านเข้าสู่จิตใจได้เลย จนกระทั่ง สายตาเขาหยุดลงตรงถ้อยคำเพียงไม่กี่บรรทัด “เมื่อศัตรูยึดชัยภูมิไว้แล้ว จักต้องโยนหินล่อหยก ลอบย้ายเส้นทาง สร้างเรื่องลวง ฉกโอกาส พลิกแผนศัตรูและสุดท้าย เคี่ยวไฟใต้หม้อให้หมดทางเดือด!” ประโยคนั้น แม้รุนแรงเกินจำเป็น แต่กลับทำให้เขานึกถึงนางอย่างห้ามใจไม่ได้ หญิงสาวผู้หยิ่งทะนงในศักดิ์ศรีราวเพลิงที่ไม่มีวันดับ หากวันหนึ่ง เขาเผลอทำลายความหยิ่งในแววตาคู่นั้นลงจนหมดสิ้น บางทีนางก็คงไม่มีสิ่งใดหลงเหลืออีก ที่สามารถดึงดูดใจเขาได้ หรือไม่ ก็อาจถึงคราวต้องฆ่านางเสียด้วยซ้ำ ให้สมกับสิ่งที่นางเคยทำไว้กับเขา! แต่ในเมื่อถึงตอนนี้ เขากลับไม่ได้ฆ่านาง หากแต่เก็บนางไว้ในใจเสียแล้ว เขาเองก็ไม่รู้ว่ามันเริ่มต้นขึ้นเมื่อใด เพียงรู้ว่าอยากคว้าเอาความรู้สึกนั้นไว้ให้แน่น อยากให้มีนางอยู่ข้างกาย แล้วค่อยๆคิดหาคำตอบในภายหลัง ทว่

  • ลิขิตรักข้ามภพ ชายาพิษฝาแฝด   บทที่ 62

    “ปุ๊!”“แค่ก แค่ก แค่ก!!”หลินซีสำลักชาทันทีที่ได้ยินถ้อยคำจากปากเขาน้ำชาที่เพิ่งจิบเข้าไปแทบพ่นกระจายออกมาทั้งคำ นางรีบหันหน้าหนีไปอีกทางอย่างลนลาน หน้าแดงจัดจนแทบเปลี่ยนสีนางไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ชายตรงหน้าผู้ซึ่งผู้คนร่ำลือกันว่าโหดเหี้ยมอำมหิต เย็นชาดั่งน้ำแข็งพันปี ฆ่าคนไม่กะพริบตา เป็นถึงผู้บัญชาการสูงสุดแห่งแคว้นเยี่ย จะเป็นบุรุษคนเดียวกันกับที่เพิ่งกล่าววาจาเช่นนั้นออกมาสุดท้าย…คำว่า “เล่าลือ” ก็เป็นเพียง “คำเล่า” เท่านั้นเองหวงจิ่วเยี่ยมองนางไอจนตัวโยน ไม่ได้กล่าวอะไรเพียงแค่ขยับมือวางหมากลงอย่างสงบนิ่งดวงตาคมทอดมองกระดานตรงหน้า เห็นผลแพ้ชนะที่สิ้นสุดไปแล้วอย่างเรียบง่ายแม้เขาจะเป็นฝ่ายพ่ายแต่ในแววตานั้นกลับไร้ซึ่งความโกรธหรือไม่พอใจตรงกันข้าม ยังรู้สึกยินดีที่ได้พบผู้ที่ทัดเทียมกับตนโดยเฉพาะเมื่อรู้ว่าคนผู้นั้นคือ “นาง”หลินซีวางหมากลงอีกเม็ด เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเย็น ตรงไปตรงมาไร้เยื่อใย“ท่านอ๋อง ท่านแพ้แล้ว ได้โปรดทำตามสัญญาเถิด”เขาพยักหน้าช้า ๆ รับคำอย่างสงบ“ข้ายอมรับว่าแพ้จริงแต่ถึงข้าจะบอกเจ้าว่า หิมะบัวเทียนซานอยู่ที่ใด…เจ้าก็ใช่ว่าจะได้มันไปง่าย ๆ ห

  • ลิขิตรักข้ามภพ ชายาพิษฝาแฝด   บทที่ 61

    เพราะหนิงหนิงกับเป่าเป่าเคยพูดไว้ว่า…‘พวกเราไม่กลัวตาย… แต่เรากลัวว่า ตอนที่ต้องตายท่านแม่จะไม่อยู่ด้วย…”ไม่… เป็นไปไม่ได้!หลินซีไม่มีวันยอมให้ลูกๆต้องตาย!นางไม่มีวันปล่อยให้ลูก ๆ ของนางจากไปอย่างเดียวดายในโลกที่โหดร้ายเช่นนี้ ไม่มีวัน!เด็กทั้งสองยังเล็กนัก เส้นทางชีวิตในวันหน้ายังอีกยาวไกลนางจะต้องหาวิธีไม่ว่าอย่างไรจะต้องให้พวกเขามีชีวิตรอดต่อไปให้ได้ ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิตของตนเอง นางก็ยินยอมหวงจิ่วเยี่ยเดินนำหน้า นางเดินตามอยู่เงียบ ๆเขาก้าวไปช้า นางก็ย่างตามช้า ๆ ทั้งสองมิได้เอ่ยสิ่งใดเขาไม่หันกลับมา นางก็ไม่ทัก ไม่เรียก ไม่ใส่ใจกระทั่งถึงทางแยก ระหว่างหอพักกับโถงหน้าเขาตั้งใจจะตรงไปยังห้องของตน แต่หลินซีกลับหยุดยืนอยู่ที่เดิมไม่กี่ก้าวถัดไป เขารู้สึกถึงความว่างเปล่าด้านหลังจึงชะงัก หันกลับมา สายตาเย็นเฉียบจับจ้องนาง “เหตุใดจึงไม่เดินต่อ?”หลินซียกคิ้ว ตอบเสียงเรียบ“ท่านอ๋อง ท่านเดินผิดทางแล้ว”จะพาไปห้องพักของเขารึ? จะให้ไปเล่นหมากในนั้น?เห็นทีจะไม่เหมาะมังหวงจิ่วเยี่ยนิ่งไปเล็กน้อย จากนั้นก็คล้ายเข้าใจบางสิ่งเขาส่ายหน้าเบา ๆ อย่างไร้อารมณ์ก่อนจะเปลี่ยนเส้นทาง เด

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status