All Chapters of ลิขิตรักข้ามภพ ชายาพิษฝาแฝด: Chapter 1 - Chapter 10

55 Chapters

บทที่ 1

กลิ่นดินชื้นหลังฝนโปรยบางแตะปลายจมูก สายลมยามอรุณแทรกผ่านพงไม้ใหญ่ เย็นเฉียบแต่กลับหนักอึ้ง ราวสวรรค์กำลังบรรจุความลี้ลับน่าหวาดหวั่นไว้เต็มฟ้า ท่ามกลางความเงียบงัน เปลือกตาคู่หนึ่งค่อยๆ เปิดขึ้นอย่างอ่อนล้า แววตาเลื่อนลอย ยังเจือเงาแห่งความตายที่เพิ่งผ่านพ้น หลินซีขมวดคิ้วแน่น ก่อนกู่ร้องออกมาอย่างสุดกลั้น “อะไรกันเนี่ย!” เสียงสะท้อนก้องไปทั่วไพรพฤกษ์ บรรยากาศอันสงัดพลันไหวสะท้าน ราวโลกทั้งผืนเพิ่งถูกปลุกจากฝันประหลาด นางเคยจินตนาการถึงสารพัดวิธีตาย มาแล้วนับไม่ถ้วนไม่ว่าจะระเบิดตาย ตกหน้าผา พลาดภารกิจ หรือแม้แต่ถูกวางยา แต่ไม่เคยคิดเลยว่า… ตายแล้วจะได้เกิดใหม่เช่นนี้! แค่ข้ามภพก็นับว่าล้ำเส้นฟ้าอยู่แล้ว แต่สิ่งที่นางรู้สึกในยามนี้คือไฟร้อนแรงกำลังเผาไหม้ร่างจากภายใน! หลินซีไม่ใช่คนโง่ ผ่านประสบการณ์มานักต่อนัก นางย่อมเข้าใจดีว่าอาการนี้หมายถึงสิ่งใด… “เฮงซวย!” ไม่ใช่เพียงโชคร้ายธรรมดา แต่ราวกับนรกทั้งขุมกำลังลุกไหม้! ร่างบางทอดนอนแน่นิ่งบนพื้นดินเปียกแฉะ ใบไม้ร่วงเกาะตามเส้นผม เสื้อผ้าเลอะโคลนโชกเหงื่อเย็น แม้แต่จะลุกก็แทบไม่มีแรง ฟันขบแน่นด้วยความสิ้นหวังปนคั่งแค้น ไฟท
last updateLast Updated : 2025-10-13
Read more

บทที่ 2

ไร้ยางอาย! ยังมีหน้ากล้าเอ่ยถ้อยคำต่ำช้าเช่นนี้ต่อบุรุษแปลกหน้า! หากเป็นหญิงผู้ดีคงกัดลิ้นตายไปแล้ว! แต่หลินซีกลับยักไหล่ ริมฝีปากคลี่ยิ้มเยาะ “เจ้าคงอยากด่าว่าข้าไร้ยางอายสินะ… แต่ข้าไม่สน ตอนนี้ข้าอยากรอดชีวิตเท่านั้น! ดังนั้น อย่าห้ามข้าเลย!” “หยุดเดี๋ยวนี้! ไม่เช่นนั้น…” เสียงกู่ตะโกนต่ำสั่นสะท้านไปทั้งอก หลินซีเลิกคิ้ว ยิ้มมุมปากราวเย้ยหยัน “องค์ชายเจ้าขา… อย่าขู่เลย ข้าชินแล้วล่ะ ตั้งแต่ยังเด็ก ข้าถูกขู่จนไม่กลัวอะไรอีกแล้ว” และแล้ว…. หลินซีเลือกวิธีถอนพิษอย่างอุกอาจ โดยไม่สนศักดิ์ศรีหรือสายตาของผู้ใดทั้งสิ้น เมื่อเวลาล่วงถึงยามค่ำ จันทร์นวลลอยเด่นกลางฟากฟ้า เรือนกายที่เคยร้อนระอุของนาง บัดนี้สงบลงแล้ว นางล้มตัวนอนหอบหายใจ เหนื่อยล้าจนแขนขาแทบยกไม่ขึ้น “งานแบบนี้… ต้องมีสองคนจริงๆสินะ เล่นอยู่คนเดียว เหนื่อยแทบตาย!” บ่นพลางนั่งพับเพียบ ลุกขึ้นแต่งกายอย่างเก้ๆ กังๆ “…ให้ตายสิ” นางสบถแผ่วเบา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหนือความคาดหมายไปมากนัก ผู้อื่นข้ามภพยังได้ระบบ ได้อาวุธวิเศษ แต่ตนนี่สิ… แค่เปิดปากเอ่ยคำเดียว สวรรค์ก็โยนบุรุษมาให้ทันที! ทว่าพอเหลือบมองเสื้อผ้า ที่ขาดวิ่
last updateLast Updated : 2025-10-13
Read more

บทที่ 3

ทว่า หลินซียังคงยืดอกเชิดหน้า แววตามั่นใจไม่ไหวเอนในใจมีเพียงความคิดเดียว “ต้องรีบหาทางหนี ก่อนเรื่องเมื่อคืนจะถูกเปิดเผย!” นางมิใช่หญิงที่ใส่ใจศักดิ์ศรีหรือคุณธรรมมากนัก แต่หากความลับเมื่อคืนแพร่งพรายออกไป… ก็นับว่าน่าอายยิ่งนัก! เมื่อเห็นชายชุดดำยังคงยืนนิ่ง นางก็อดไม่ได้ที่จะยั่วโทสะ “ว่าอย่างไรเล่า เจ้าหนุ่มหน้ากาก จะขึ้นมาหรือไม่” เขาเพิ่งจะอ้าปากตอบ แต่หลินซีก็รีบแทรกขึ้นเสียก่อน ไม่เปิดโอกาสให้เอ่ยแม้แต่คำเดียว “อ้อ…ช่างมันเถอะ” หลินซีแค่นหัวเราะ แววตาเย็นชา “ดูจากสภาพแล้ว เจ้าก็ใช่ว่าจะเป็นคนดีอะไร งั้นไม่ต้องพูดมากให้เสียเวลา” นางถอยเท้าเพียงก้าว ยกคางขึ้นอย่างท้าทาย “วันนี้…จะเป็นข้าตาย หรือเจ้าตาย แต่ต้องมีผู้หนึ่งสิ้นลม!” สายตาคมกริบวาบประกายเหยียดหยาม “เข้ามา! ข้าอยากเห็นเหมือนกันว่า ‘วรยุทธ์ของพวกเจ้าสมัยนี้’ จะสู้ข้าที่ข้ามภพมาได้หรือไม่!” ถ้อยคำนั้นโอหังจนหัวหน้าชุดดำเลือดขึ้นหน้าในทันที “เจ้าหนูน้อยไม่รู้จักตาย! เช่นนั้นวันนี้ข้าจะส่งเจ้าลงนรกไปพบยมบาลเสียเลย!” เสียงคำรามต่ำดังขึ้นพร้อมกับดาบที่พุ่งฟาดตรงมายังศีรษะหลินซี! ทว่า นางไม่แม้แต่จะขยับหลบ จนกระท
last updateLast Updated : 2025-10-13
Read more

บทที่ 4

เสียงเด็กหญิงน้อยตอบอย่างนอบน้อม นางนั่งหลังตรง ใบหน้าจริงจังจนผู้พบเห็นยังอดยิ้มไม่ได้ ข้างกายมีเด็กชายอีกคนกำลังยกนิ้วนับถอยหลัง “ห้า สี่ สาม สอง หนึ่ง ฟุบ!” ไม่ทันขาดคำ อาจารย์ผู้เฒ่า ก็ฟุบหลับลงบนโต๊ะจริงๆ! “อืม หนิงหนิง เจ้านี่พัฒนาขึ้นไม่น้อยเลยนะ!” เด็กชายพูดยิ้มๆ “แหงสิ! ข้าหนิงหนิงผู้ยิ่งใหญ่ไงเล่า!” เด็กหญิงสะบัดหน้าภูมิใจ มือเล็กๆ ยกขึ้นลูบมวยผมทรง “หัวซาลาเปา” อย่างอวดดี แต่พอแขนเสื้อร่นลง กลับเผยรอยแดงประหลาดราวกับสัญลักษณ์บนข้อมือ! หนิงหนิงขมวดคิ้ว รีบดึงแขนเสื้อปิดแน่น “อย่าปิดเลย ข้าเห็นหมดแล้ว!” เป่าเป่าหัวเราะพลางยกแขนเสื้อตนเองขึ้นบ้าง “ดูสิ ข้าก็มีเหมือนกัน…แถมเข้มขึ้นทุกวันด้วย!” หนิงหนิงเบิกตากว้าง ก่อนจะฟาดน้องชายไปเพี้ยะหนึ่ง “พูดมากจริง! รีบลงมือได้แล้ว!” “โอ้ย~ ใจเย็นๆเถิดท่านพี่ อาจารย์หลับปุ๋ยขนาดนี้ จะหนีไปไหนได้อีกเล่า” แม้จะบ่น แต่เป่าเป่าก็รีบวิ่งไปคว้าพู่กัน จุ่มหมึกลงเต็มปลาย แล้ว… จัดการวาดลวดลายบนหน้าของ อาจารย์อย่างไรความปรานี “ฮ่าๆๆ! งามนัก! งดงามยิ่งนัก เสียจนท่านแม่เองก็ยังจำไม่ได้!” เมื่อแกล้งจนหนำใจแล้ว สองแฝดหัวเราะคิกคัก พลางจูงมือก
last updateLast Updated : 2025-10-13
Read more

บทที่ 5

ชายผู้นั้นก้มหน้า กล่าวเสียงสั่นเล็กน้อย “หนึ่งร้อยยี่สิบเจ็ดคนขอรับ ข้าน้อยได้จัดการดูแลร่างให้พวกเขาแล้ว…” เสียงยังไม่ทันจบ เพล้ง! เสียงแตกของถ้วยชา พู่กัน หมึก และกระดาษ! ทั้งหมด หล่นกระจาย เกลื่อนพื้น! เสียงนั้นดังลั่น เสียดแทงหูราวกับสายฟ้าฟาดกลางห้อง เป็นเสียงระเบิดของโทสะที่อัดแน่นจนแทบคลั่ง! แม้ไม่มีคำใดหลุดจากปากนาง แต่ทุกคนที่อยู่ ณ ที่นั้น ต่างรับรู้ได้ ว่าไฟในอกของหลินซี… กำลังลุกไหม้จนเผาผลาญแม้กระทั่งอากาศรอบตัว! หลังความเงียบที่ยาวนานชั่วหนึ่ง เสียงของหลินซีก็เอ่ยออกมา เสียงนั้นต่ำ เยือกเย็น ดั่งคำพิพากษาจากฟากฟ้า “ไปเตรียมตัวให้พร้อม…อีกห้าวัน ข้าจะเข้าวังหลวงด้วยตนเอง” “รับคำสั่งขอรับ!” ชายผู้นั้นรีบลุกขึ้นทันที ก้าวออกไปเพียงไม่กี่ก้าว แต่แล้วก็หยุดลง ลังเลเล็กน้อยก่อนจะหันกลับมาถามเสียงแผ่ว “คุณหนูแล้วคุณชายน้อยกับคุณหนูน้อย… จะให้พาไปด้วยหรือไม่ขอรับ” หลินซีกำลังจะเอ่ยคำตอบ… แต่ก่อนที่ถ้อยคำใดจะทันหลุดจากริมฝีปาก พ่อบ้านใหญ่ก็วิ่งกระหืดกระหอบพุ่งเข้ามาในห้อง! ไม่มีมารยาท ไม่มีการเคาะประตู ไม่มีการคุกเข่า เขาโยนทุกกฎพิธีทิ้งลงใต้ฝ่าเท้า! ถึงหน้าประ
last updateLast Updated : 2025-10-13
Read more

บทที่ 6

คำถามนั้น ราวกับมีเข็มพันเล่มทิ่มแทงเข้าหัวใจของนาง แต่ริมฝีปากของนางกลับยังคงมั่นคง “จะไม่ตาย!” เสียงของนางดุจคำสั่งสวรรค์ “มีแม่อยู่…เป่าเป่าจะไม่ตาย! พี่สาวของเจ้าก็จะไม่ตาย!แม่เคยสัญญาไว้แล้วว่า จะถอนพิษให้พวกเจ้าให้ได้! จากนั้นเราจะเดินทางไปด้วยกัน…ไปให้ทั่วใต้หล้า!” เด็กน้อยได้ยินดังนั้น ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยยิ้มอ่อนๆ ที่ฝืนเอาไว้ทั้งที่ไร้เรี่ยวแรง “ท่านแม่…เป่าเป่าไม่เจ็บเลย…ไม่เจ็บแม้แต่น้อย…” เสียงนั่นเบายิ่งกว่าเสียงลมในยามราตรี “ท่านไปกอดพี่สาวเถิด…พี่เป็นผู้หญิง…ผู้หญิง…กลัวเจ็บมากกว่าข้า…” จริงอยู่ เขาพูดว่า “ไม่เจ็บ” แต่ร่างเล็กนั้นกำลังปวดร้าวจนขยับแทบไม่ได้ เนื้อตัวบวมชาเหมือนถูกเข็มพันเล่มทิ่มแทง แม้แต่แขนขา…ก็เหมือนจะไม่ใช่ของตนเองแล้ว! โดยปกติ เป่าเป่าไม่เคยเรียกหนิงหนิงว่า “พี่สาว” เลยสักครั้งนอกจากช่วงเวลาที่พิษกำเริบเท่านั้น… และแม้แต่หัวใจที่แข็งดั่งเหล็กกล้าของหลินซีเอง ก็ยังต้องสั่นไหวในวินาทีนั้น… นางก้มลงกระซิบแผ่วเบา “แม่จะช่วยเจ้าเปลี่ยนเสื้อก่อน แล้วจะอุ้มเจ้าไปแช่ในโอ่งยา จากนั้นจะกลับมาดูแลพี่สาวของเจ้า…ดีหรือไม่” เสียงของเด็กน้อยค่อยๆ เล็ด
last updateLast Updated : 2025-10-13
Read more

บทที่ 7

เมืองหลวง จวนอ๋องผู้สำเร็จราชการ ภายในห้องหนังสือเงียบสงัดดุจสุสาน เสียงพู่กันเสียดสีกระดาษดังแผ่วเพียงเล็กน้อย คล้ายสายลมพัดผ่านกิ่งไม้ยามราตรี หวงจิ่วเยี่ยนั่งอยู่หลังโต๊ะใหญ่ ทอดสายตาเหนือฎีกาที่กองสูงเป็นภูผา พลันหัวใจกลับแล่นวาบด้วยความเจ็บปวดรุนแรง ราวถูกมือมารบีบรัดดวงวิญญาณให้สั่นสะท้าน มิใช่เพียงพิษร้ายที่กำเริบตามกำหนด ปีละสี่คราเท่านั้น หากแต่ยังเป็นความเจ็บปวดอันคลุมเครือ ลี้ลับ ราวมีเส้นด้ายแห่งโชคชะตาแผ่พัวพันกับใครบางคนในห้วงไกลโพ้น เขาจึงต้องเผชิญกับความทรมานนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาวางพู่กันลงแผ่วเบา เอนกายพิงพนักเก้าอี้ หลับตาแน่น คล้ายจักข่มเสียงเจ็บปวดที่แล่นลึกถึงกระดูกดำ ไม่นานนัก เสียงฝีเท้าแผ่วเบาก็ดังขึ้น หญิงสาวนางข้าหลวงในเรือน ก้าวเข้ามาพร้อมถาดชาในมือ ผิวมือขาวเรียวดั่งหยก นัยน์ตาเหลือบมองบุรุษเบื้องหน้า ผู้สวมอาภรณ์ดำปักลายมังกรทอง รัศมีอำนาจแผ่ซ่านดุจเทพสวรรค์เสด็จจุติ แม้เอนกายอย่างเกียจคร้าน แต่เพียงแววตาเย็นเยียบกลับบังคับให้ผู้คนไม่อาจขยับเขยื้อน หัวใจของนางสั่นระรัว ทุกก้าวที่ย่างเข้ามา คล้ายมีแรงลี้ลับบีบคั้นอกให้อึดอัดยากหายใจ สิบก้าว…เก้าก้าว…เ
last updateLast Updated : 2025-10-13
Read more

บทที่ 8

ไป่หรงรีบทรุดกายต่ำลงกว่าเดิม ดวงตาหลุบต่ำ มิกล้าเงยขึ้นสู้สายตาท่านอ๋อง “ท่านอ๋อง…ศัตรูครานี้หาใช่กองทัพยิ่งใหญ่ หากแต่เป็นสตรีเพียงสองนาง กระหม่อมลองเข้าประมือแล้ว…กลับพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง หากมิใช่กำลังพลหนุนหลัง เกรงว่ากระหม่อมคงสิ้นชีพไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ!” หวงจิ่วเยี่ยหลับตาเพียงครู่ ก่อนเอื้อนสุรเสียงเบาแต่แฝงดุจอัสนี “หึ… ห้าปีผ่านไป แผ่นดินนี้ยังมิสูญสิ้นยอดคนเช่นนั้น…” เขาเอื้อมมือเด็ดกลีบบัวหิมะ สูดกลิ่นหอมกรุ่นเบาๆ ความเย็นในกลีบแทรกซึมสู่หัวใจ แววตาเขายิ่งลึกลับจนผู้คนไม่อาจหยั่งถึง บรรยากาศภายในห้องลับพลันเงียบงันถึงที่สุด จนแม้เข็มร่วงยังได้ยินแจ่มชัด ครู่ใหญ่นั้น หวงจิ่วเยี่ยหันไปยังบุรุษผู้หนึ่งในชุดม่วง ผู้ยืนเคียงข้างอย่างสงบ จิ่นอู่หมอเทวะผู้เป็นขุมปัญญา “จิ่นอู่…เจ้าว่า ดอกบัวหิมะนี้ เพียงกลีบเดียว จักเพียงพอถอนพิษในกายข้าหรือไม่” จิ่นอู่ขมวดคิ้วแน่น นัยน์ตาวูบไหวเล็กน้อย ก่อนเอื้อนสุรเสียงมั่นคงหนักแน่น “กลีบเดียวหาเพียงพอไม่ อย่างน้อยต้องสองกลีบจึงจะล้างพิษได้ หากข้าผสานเข้ากับตัวยาอื่น ปรุงเป็นโอสถยาวิเศษ มิใช่เพียงขจัดพิษ แต่ยังเพิ่มพูนพลังปราณของท่านได้อีกส
last updateLast Updated : 2025-10-13
Read more

บทที่ 9

ค่ำคืนนั้น หลินซียืนอยู่หน้าประตูห้องของหนิงหนิงและเป่าเป่า แววตาเต็มไปด้วยความลังเล ก่อนจะกำมือแน่น ไม่…!! ลูกของนางจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป! ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยสิ่งใด นางก็จะหาทางนำเทียนซานเสวี่ยเหลียน กลับมาให้ได้ ขณะนั้นเอง เสียงแผ่วเบาดังขึ้น… ประตูห้องเปิดออกอย่างเงียบงัน ร่างเล็กของหนิงหนิงยืนอยู่ตรงหน้า นางสวมชุดเบาบาง แววตาใสแจ๋วมองนางอย่างไว้ใจ มือข้างหนึ่งจูงเป่าเป่าไว้แน่น “…ท่านแม่…” เสียงใสของเด็กน้อยเอ่ยเบาๆ หลินซียิ้มจางนางโน้มกายลง โอบกอดร่างเล็กทั้งสองเข้ามาแนบอก ก่อนจะพาทั้งสามคนกลับเข้าห้องไปเงียบๆ ร่างของเด็กทั้งสอง แม้ใบหน้าจะยังดูสดใสน่ารัก ทว่าใต้ผ้านั้น กลับเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำและแผลจากพิษ บาดแผลเหล่านั้น สำหรับเด็กอายุเพียงเท่านี้…ถือว่าเจ็บเกินทาน แต่ตั้งแต่ต้นจนจบ พวกเขาไม่เคยร้องไห้…ไม่เคยปริปากว่าเจ็บเลยสักคำ ทั้งสามแม่ลูกนอนแนบกันบนเตียง สองร่างเล็กซุกตัวแน่นในอ้อมแขนของหลินซี ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมา มีเพียงเสียงลมหายใจอุ่นๆ ที่พึ่งพิงกันเงียบงัน นางเอ่ยเสียงแผ่ว “หนิงหนิง…เป่าเป่า…อีกสี่วันข้างหน้า เราจะออกเดินทางไปเมืองหลวงกันนะลูก…” เด็กทั
last updateLast Updated : 2025-10-13
Read more

บทที่ 10

หากเจ้าก้อนขาวอยู่ใกล้ๆ เมื่อรู้สึกทนไม่ไหว ก็แค่ให้มัน “กัด” เบาๆ หนึ่งที ก็จะรู้สึกดีขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ หลินซีหันไปมองลูกทั้งสอง ก่อนจะเอ่ยถามด้วยเสียงอ่อนโยน “พรุ่งนี้เราจะออกเดินทางกันแล้ว… เป่าเป่า หนิงหนิง ข้าวของที่ต้องจัดเตรียม พวกเจ้าพร้อมหรือยัง” เด็กทั้งสองพยักหน้าพร้อมกัน “พร้อมแล้วเจ้าค่ะ!” มู่หลินซีมองดูลูกน้อยทั้งสองผู้เชื่อฟังว่าง่าย แววตาเปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยน นางยื่นแขนออกไป โอบกอดพวกเขาแน่นในอ้อมอกอันอบอุ่น “ระหว่างทางอาจเหน็ดเหนื่อยอยู่บ้าง… แต่แม่เชื่อ…ว่าพวกเจ้าจะอดทนไหวแน่” “พวกเราทนได้เจ้าค่ะ ท่านแม่!” เสียงเล็กๆ เอ่ยออกมาด้วยความมุ่งมั่น มู่หลินซีได้ยินแล้วก็หัวเราะเบาๆ ในลำคอ ข้าก็เชื่อเช่นนั้น… ตลอดเวลาที่ผ่านมา แม้พิษในกายจะกำเริบอย่างไม่หยุดยั้ง แม้ความเจ็บปวดจะกัดกินจนยากจะพรรณนา แต่หนิงหนิงกับเป่าเป่า กลับกัดฟันอดทนสู้มาโดยตลอด ความเข้มแข็งเช่นนั้น… แม้แต่นางยังต้องน้อมรับด้วยความเคารพ ทั้งที่พวกเขา… ก็ยังเป็นเพียงเด็กน้อยวัยเพียงห้าขวบเท่านั้น บนถนนหลวงนอกเมือง… ขบวนรถม้าค่อยๆ เคลื่อนผ่านไปบนถนนใหญ่ หากมองเพียงผิวเผินขบวนนี้ดูเรียบง่าย
last updateLast Updated : 2025-10-13
Read more
PREV
123456
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status