เข้าสู่ระบบ“คุณเป็นเจ้าของร้านจริง ๆ หรือเปล่า ทำไมคุณดูไม่ค่อยจะรู้เรื่องภายในร้านเลย แม้แต่กล้องวงจรปิดก็ดูไม่ได้ ยังต้องคอยให้พนักงานมาเปิดให้ดู”
นี่เขาชักจะวุ่นวายกับเธอมากเกินไปแล้ว ตาแก่นี่ พูดไม่รู้เรื่องคอยจับผิดเธออยู่ร่ำไป เมื่อไรพี่เฟิร์นจะกลับมาสักที แค่งานแรกเธอก็โดนเล่นแล้ว ถ้ามีเคสต่อ ๆ ไปเธอคงจะรีบชิ่งกลับบ้าน แค่ตาแก่คนนี้คนเดียวก็เพิ่มความปวดหัวให้เธอได้มากขนาดนี้
“ก็เป็นเจ้านายที่ต้องคอยมีลูกน้องรายล้อม เลยทำอะไรไม่เป็น” ฟลายด์พูดประชดประชันแบบขอไปที เผื่อเขาจะได้เลิกจับผิดเธอสักที
แบงค์เลิกคิ้ว เงียบไปสักครู่ ดวงตาชายหนุ่มจ้องเธออย่างสงสัย ถ้าเธอไม่ได้เป็นเจ้าของร้านนี้จริง ๆ เรื่องของขวัญที่เขาซื้อไป
ก็ต้องเป็นเธอที่หลอกขายของให้เขา แต่ดูแล้วเธอก็ไม่ได้เหมือนมิจฉาชีพเลยสักนิด“ผมหวังว่าคุณจะหาคำตอบที่ดีให้ผมได้ในวันพรุ่งนี้”
ฟลายด์กำลังจะตอบโต้ เสียงกระดิ่งหน้าประตูร้านก็ดัง กริ๊ง~ ขัดจังหวะ
ทั้งสองหันไปพร้อมกัน หญิงสาวรูปร่างสง่าสวมชุดเรียบหรูเดินเข้ามา พร้อมอุ้มเด็กหญิงตัวน้อยในอ้อมแขน เด็กน้อยแก้มป่อง ตากลมใส น่ารักน่าชังคนนั้นส่งเสียงเจื้อยแจ้วทันทีที่เห็นแบงค์
“แดดดี!”
แบงค์ชะงักหันขวับไปมองยังเสียงเจื้อยแจ้วที่ส่งเสียงเรียกแดดดีจากหน้าประตูด้วยความงุนงง เขาก็ไม่ได้มีลูกมีเต้ากับใครที่ไหน แล้วจะมีเด็กมาเรียกแดดดีอยู่ตรงนี้ได้ยังไง
ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้กับเด็กน้อยตาใสแป๋วที่กำลังส่งยิ้มให้เขาอยู่ มันอดีตแฟนเก่าเขากับลูกของเธอกับอดีตเพื่อนรัก ทำไมทั้งสองคนถึงมาโผล่ที่นี่ได้ ทั้ง ๆ ที่งานเลี้ยงก็เลิกไปตั้งนานแล้ว ทั้งสองคนควรจะถึงบ้านตั้งนานแล้ว และอีกอย่างเขาก็เห็นทั้งสองคนออกมาจากงานก่อนจะถึงเวลาเป่าเค้กอีก
“แบงค์! โบว์ขอคุยกับคุณสักครู่ได้ไหม”
“โบว์พูดตรงนี้ก็ได้”
“แต่…โบว์ไม่สะดวกจะให้คนอื่นฟังด้วย”
โบว์เน้นคำว่าคนอื่นอย่างจงใจ จนฟลายด์รับรู้ถึงความรู้สึกไม่ชอบหน้าได้ในทันที แล้วอีกอย่างโบว์ก็จำฟลายด์ได้ ถึงแม้ว่าตอนนั้นฟลายด์จะดูอวบเกือบถึงอ้วนกว่านี้และยังใส่แว่นอีก แต่โบว์ไม่มีทางลืมคนที่รู้เรื่องราวของเธอในอดีตได้แน่นอน
ทั้งสองคนออกไปคุยกันด้านนอกปล่อยให้ฟลายด์อยู่กับเด็กน้อยน่ารักน่าชังตรงหน้า เธอเพ่งมองใบหน้าของเด็กน้อยอย่างพินิจพิจารณา สาวน้อยแก้มป่องก็ไม่ได้มีส่วนคล้ายชายหนุ่ม แต่มีส่วนคล้ายแม่ของเธออยู่บ้าง เธอเก็บเอาความสงสัยในตัวเด็กน้อยเอาไว้
ในใจ พวกเขาก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอ จะไปยุ่งเรื่องของเขาทำไม“น้องเบลล์เรากลับบ้านกันเถอะค่ะ คุณแม่รออยู่ด้านนอก” ชายหนุ่มพูดกับสาวน้อยเสร็จ ก่อนจะหันมากำชับกับฟลายด์อีกรอบ “พรุ่งนี้ผมจะมาเอาคำตอบ”
“อุ้มน้องเบลล์หน่อยได้ไหมคะ”
ถึงแม้เขาจะเกลียดพ่อกับแม่ของสาวน้อย แต่ถ้าเขาปฏิบัติกับเด็กที่ไม่รู้อิโน่อิเหน่ไม่ดี เอาความเกลียดไปลงที่เด็ก เขาก็ไม่กล้าที่จะเป็นคนที่คนอื่นนับถือ และยิ่งเห็นแววตาใสซื่อของเด็กน้อยคนนี้ เขาก็ไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำขอของเธอได้ลงคอ
“ได้สิคะ ไปกัน” ชายหนุ่มย่อตัวลงส่งรอยยิ้มอ่อนโยนส่งยิ้มให้สาวน้อย ก่อนจะอุ้มเธอขึ้นมาอุ้มไว้ในอ้อมกอดด้วยแขนเพียงข้างเดียว รอยยิ้มสดใสบวกกับเสียงเจื้อยแจ้วที่พูดไม่หยุด
ช่างเป็นภาพครอบครัวที่อบอุ่น พ่อกล้ามโตกับคุณแม่คนสวยที่กำลังเดินเคียงข้างกันออกไป ทำให้ฟลายด์เผลอยิ้มออกมา น่าอิจฉาเขาเนอะ ถ้าเธอมีครอบครัว ครอบครัวเธอจะอบอุ่นแบบนี้บ้างไหมนะ
เมื่อประตูร้านปิดลง ความเงียบเหงาก็เข้ามาปกคลุมแทน ฟลายด์ทรุดตัวนั่งลงกับเก้าอี้อย่างเหนื่อยล้าจากงานวันนี้ทั้งวัน รู้สึกเหมือนเรี่ยวแรงหายไปหมด มีแต่เรื่องแต่ราวเข้ามาเรื่อย ๆ
“ทำไมโบว์ถึงพาน้องเบลล์มาอยู่ที่นี่ได้ แบงค์เห็นโบว์ออกมาตั้งนานแล้ว”
พอออกจากร้านได้ไม่เท่าไร บรรยากาศเต็มไปด้วยความอึดอัด แบงค์ก็เปิดปากถามเรื่องที่เขาคาใจออกมา ทางกลับบ้านของโบว์มันไม่ใช่ทางนี้ และไม่มีเหตุผลอะไรที่เธอจะต้องมาที่ร้านน้ำหอมในเวลานี้ด้วย
โบว์ถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจ “ที่จริงโบว์กับน้องเบลล์ก็ควรจะถึงบ้านกันตั้งนานแล้วล่ะ แต่น้องเบลล์อยากซื้อของ ก็เลยให้โปเต้จอดแวะซื้อของก่อนที่จะเข้าบ้านจะได้ไม่ต้องออกมาอีก พอโบว์กับน้องเบลล์เข้าไปซื้อของในมินิมาร์ท โปเต้ก็ขับรถออกไปไหนก็ไม่รู้ โบว์กับน้องเบลล์รอนานแล้ว เขาก็ยังไม่กลับมา อีกอย่างน้องเบลล์
ก็ง่วงนอนแล้ว โบว์เลยอุ้มน้องเบลล์เดินมาเรื่อยกำลังจะไปหาวิน มอเตอร์ไซค์ใกล้ ๆ แถวนี้ บังเอิญแบงค์ขับรถผ่านมาพอดี โบว์เรียกแต่แบงค์ไม่ได้ยิน โบว์เลยรีบตามมาเห็นรถแบงค์เข้ามาจอดที่ร้านนี้พอดี”“โปเต้ทำไมมันถึงกล้าทิ้งลูกกับเมียไว้แบบนี้ มันไม่รู้เหรอว่ากลางคืนมันอันตราย”
สาวน้อยซบใบหน้าลงกับบ่ากว้าง หลับตาพริ้มเสียงหายใจ
ดังสม่ำเสมอ บ่งบอกว่าเธอได้หลับลงบนอ้อมกอดอบอุ่นด้วยความอ่อนเพลีย แบงค์คอยลูบหลังให้สาวน้อยไม่วางพร้อมกับตบก้นเบา ๆ เป็นการกล่อม อีกมือก็เปิดประตูรถโบว์เม้มปากแน่น ดวงตาสั่นไหวชั่วครู่ ก่อนจะอุ้มเอาลูกมากอดเอาไว้แนบอกกระชับวงแขนแน่นขึ้น เข้าไปนั่งบนรถที่ชายหนุ่มเปิดรอเอาไว้แล้ว
“ตั้งแต่โบว์ท้องน้องเบลล์มา โปเต้เขาก็เริ่มเปลี่ยนไป และยังคั่วผู้หญิงไปทั่ว จนโบว์เริ่มจะทนไม่ไหวอีกแล้ว”
“มีอะไรก็หันหน้าเข้าคุยกันให้เข้าใจ สงสารน้องเบลล์ถ้าจะ ต้องมาเจอพ่อแม่แยกทางกัน อีกอย่างน้องเบลล์ก็ต้องการความรักจากคนเป็นพ่อเป็นแม่ แบงค์คงพูดได้แค่นี้ ที่เหลือโบว์ก็ตัดสินเอาเอง”
“ถ้าโบว์เลิกกับโปเต้ เรายังจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม”
“แบงค์คงกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้”
เขาไม่อยากให้โบว์มาหวังอะไรในตัวเอาอีก เพราะที่ผ่านมา กว่าเขาจะผ่านเรื่องเลวร้ายมาได้ มันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เขาจะทนกลับ ไปเจอเหตุการณ์ที่เขาเคยเจอ เขาทำไม่ได้หรอก แค่นั้นเขาก็แทบจะ
มูฟออนออกมาไม่ได้แล้วนานวันเข้าพ่อของฟลายด์ก็เริ่มเห็นถึงความผิดปกติของคนที่อ้างว่าเป็นรุ่นพี่ที่รู้จักกับลูกสาวของตน วันนี้นึกคิดยังไงไม่รู้อยากมาหาลูกสาวที่ห้อง อยากคุยเรื่องชายหนุ่มคนนั้น ด้วยความที่ผู้เป็นพ่อเดินมาเห็นพอดีจึงทำให้รีบเดินไปทางหน้าห้องลูกสาว ในตอนที่ชายหนุ่มกำลังกอดร่างบางอยู่เสียงประตูห้องก็ถูกเคาะขึ้นมาพอดี“ฟลายด์แกเปิดประตูให้พ่อเดี๋ยวนี้เลยนะ” ผู้เป็นพ่อเคาะประตูห้องลูกสาวด้วยความร้อนรนฟลายด์รีบออกไปเปิดประตูเมื่อแบงค์เข้าไปซ่อนตัวในตู้เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว“มีอะไรหรือเปล่าพ่อ” เธอพยายามซ่อนพิรุธเอาไว้ไม่อยากให้พ่อจับได้ ทว่าพ่อก็รีบเดินเข้ามาพร้อมกับค้นหาแบงค์ตามสิ่งที่เห็น“ไอ้ผู้ชายคนนั้นมันอยู่ไหน” ผู้เป็นพ่อตวาดลั่น จนคนในบ้านต่างตื่นขึ้นมาดูด้วยความตกใจทำให้แบงค์ต้องออกมายอมรับความผิดของตัวเอง ฟลายด์ถึงกับชะงักค้างไปด้วยรู้กับความผิดของตัวเองดี ก่อนที่ทุกคนจะไปรวมกันที่ลานบ้านเพื่อพูดคุยหาลือกัน“คุณ! นับจากวันนี้เป็นต้นไปให้คุณย้ายไปนอนที่บ้านพักคนงาน และทำงานในไร่กับคนงาน ไม่ต้องมาที่บ้านใหญ่ถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากผม”ผู้เป็นพ่อที่ได้รู้เรื่องทั้งหมดก็รู้สึกโกรธเป็นอย่างมา
ความวัวยังไม่ทันหายความควายก็เข้ามาแทรก เมื่อเธอได้ยินเสียงฝีเท้าหนัก ๆ ขึ้นหน้าห้อง ตึก…ตึก…ตึก…เงาสะท้อนผ่านใต้ช่องประตูหน้าห้อง เท้าที่เธอคุ้นเคยหยุดยืนพิงประตูอยู่หน้าห้อง กำลังแนบใบหูเข้ากับประตูหน้าห้องของเธอ ฟลายด์รีบหันขวับส่งสัญญาณให้แบงค์ ที่ยืนปักหลักอยู่กลางห้องเหมือนไม่คิดจะหลบอีกต่อไป “เงียบ!” เธอรีบกระซิบเสียงเบาก๊อก ก๊อก ก๊อก!“ไอ้ฟลายด์! หลับหรือยัง” เสียงเฟลนด์ดังขึ้นพร้อมกับแรงเคาะประตูหน้าห้องแทบพังฟลายด์รีบวิ่งไปดันชิดประตูเอาไว้ พยายามทำเสียงให้ปกติ “ยัง…มึงมีอะไรหรือเปล่า”“กูได้ยินเสียงเหมือนมีผู้ชายอยู่ในห้องมึง มึงคุยกับใคร” น้ำเสียงเฟลนด์เต็มไปด้วยความกังขา“กูไม่ได้คุยกับใคร แค่…ดูซีรีส์อยู่”ข้างนอกห้องเงียบไปครู่หนึ่ง เหมือนเฟลนด์กำลังชั่งใจว่าจะเชื่อหรือไม่ เธอยืนนิ่ง เหงื่อซึมออกมาตามฝ่ามือ ในหัวมีแต่จะหาที่ซ่อนตัวให้ชายหนุ่มไม่ให้ถูกจับได้ หากพี่ชายขอเข้ามาในห้อง ทุกอย่างจบเห่แน่!“เออ ล็อกประตูดี ๆ ด้วย เข้าใจไหม” สุดท้ายเฟลนด์ก็ทิ้งคำสั้น ๆ ไว้ ก่อนฝีเท้าหนัก ๆ จะค่อย ๆ เดินห่างออกไปทันทีที่เสียงนั้นเลือนหาย ฟลายด์ก็ทรุดตัวลงกับประตู หัวใจ เต้นแ
“ฟลายด์ขอสั่งห้ามพี่ไม่ให้บอกเรื่องนั้น” น้ำเสียงจริงจังเอ่ยบอกกลับไปและบังคับให้ชายหนุ่มทำตามที่เธอว่า “พี่กลับไปก่อนเถอะนะ เดี๋ยวฟลายด์จะหาวิธีบอกเรื่องนี้ให้พวกท่านรู้เอง ถ้าพวกท่านรู้ตอนนี้…พวกท่านเอาฟลายด์ตายแน่”“งั้นพี่จะอยู่ที่นี่แลกกับการไม่บอกใครเรื่องที่เรามีอะไรกันแล้ว” เขาพูดบอกอย่างเป็นต่อ สีหน้าไม่ยอมผ่อนปรน“ไม่ได้”แต่เขากลับก้าวเข้ามาใกล้ กระซิบข้างใบหูเธอ “ถ้าฟลายด์ไม่ให้พี่อยู่…พี่จะบอกพวกท่านเอง ว่าพวกเราเป็นสามีภรรยากันใน ทางพฤตินัยแล้ว”“พี่นี่มัน! พูดอะไรออกมาไม่คิดหรือไง ถ้าพ่อแม่ฟลายด์ได้ยินเข้าละก็…”“งั้นก็ให้พี่ที่นี่สิ ง่ายที่สุดแล้ว” แบงค์ยกยิ้มมุมปาก แค่นั้นก็ทำให้หญิงสาวหวาดหวั่น“ถ้าคิดว่าทำได้ก็ตามใจ” เธอว่าจบก็เดินเข้าไปด้านในบ้านด้วยความขัดใจเล็กน้อยพี่ชายก็เดินตามมาดู สีหน้าหงุดหงิดไม่คลาย “ยังอยู่เหรอคุณ! ถ้าไม่ใช่เพราะน้องสาวผมยืนยัน ผมคงเรียกตำรวจมาลากคอคุณออก ไปแล้วนะ”“ผมได้ยินว่าคุณอยากพักอยู่ที่นี่ งั้นเอางี้ไหม ถ้าอยากจะอยู่จริง ๆ ก็ไปอยู่บ้านพักคนงานที่ไร่” เฟลนด์เอ่ยเสนอแนะเสียงเข้ม อีกทั้งยังไม่ไว้ใจชายหนุ่ม ถึงเสนอให้ไปอยู่กับคนงาน จ
แบงค์ที่ได้ข้อมูลมาจากหลาย ๆ คนและมีคนที่พามา ก็ทำให้เจอบ้านของฟลายด์จนได้ ทว่าคนที่เขาเจอกลับเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ออกมาเดินอยู่หน้าในจังหวะนี้พอดี ทั้งยังจูงมือมากับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ทำให้เขาเข้าใจว่าผู้ชายคนนั้นคือสามีของฟลายด์และลูกสาว ซึ่งมันเป็นเพียงแค่คำโกหกของหญิงสาวเพียงเท่านั้น แต่แบงค์กลับเชื่อสนิทใจเฟลนด์พาลูกสาวตัวน้อยออกมากำลังจะพาไปร้านค้าใกล้บ้าน พอเห็นชายแปลกหน้าร่างสูงยืนด้อม ๆ มอง ๆ อยู่ตรงหน้าบ้าน สายตาคมกริบจ้องมองมา เขาก็ชะงักทันที“คุณเป็นใคร มาหาใคร?” น้ำเสียงแข็งกร้าวถามขึ้นทันที“ผมมาหา…” แบงค์กำลังจะเอ่ยชื่อของฟลายด์ออกมา แต่ยังไม่ทันจบประโยค“คุณจะมาใครก็ช่างเถอะ ที่นี่ไม่มีคนที่คุณตามหาหรอก และก็อย่ามาแอบอ้างนะ! ว่ารู้จักคนในบ้าน”ลูกสาวตัวน้อยที่เล่นซ่อนอยู่ข้างหลังเกาะชายเสื้อพ่อเอาไว้แน่น โผล่มาแค่เพียงใบหน้าแอบมองชายที่ยืนอยู่หน้าบ้าน ดวงตากลมใสเต็มไปด้วยความงุนงงกระนั้นก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาหาผู้ชายกับเด็กคนนั้น “แม่” เด็กน้อยรีบวิ่งเข้าไปหาผู้หญิงคนนั้น“พี่! เกิดอะไรขึ้น!” หมวยเห็นสามียืนคุยกับใครก็ไม่รู้ตั้งนาน สีหน้าเคร่งขรึม เธอจะรีบวิ่ง
ฟลายด์ที่ตื่นขึ้นมาในตอนเช้าด้วยร่างกายปวดเมื่อยขบตามตัว ทว่าเธอยังคงหลับตาด้วยอาการมึนหัวจนต้องใช้มือจับที่ศีรษะของตัวเอง ก่อนจะค่อย ๆ ลืมตาขึ้นอย่างสะลึมสะลือพลางหันมองรอบด้านในห้องที่เธอรู้สึกไม่คุ้นเคยเอาเสียเลยเธอที่รู้สึกเหมือนว่าตัวเองไม่ได้สวมใส่อะไรก็ค่อยๆ ยกผ้าห่มขึ้นเปิดดูเพื่อความแน่ใจว่ามันเกิดกับเธอบ้าง ในใจของเธอมีแต่คำว่าฉิบหายแล้ว เพราะถ้าคนในครอบครัวรู้คงได้กลายเป็นเรื่องใหญ่แน่นอน“นี่ฉันอยู่ที่ไหนกันเนี่ย?”เธอพึมพำกับตัวเองเบา ๆ จากนั้นภาพความทรงจำในหัวก็แล่นเข้ามา ความทรงจำเมื่อคืนตัดขาดไปบางช่วง มีเพียงภาพเลือนรางของแก้วเครื่องดื่ม สายตาคมคู่นั้น และรอยยิ้มที่ทำให้หัวใจเธอแกว่งไปทั้งที่ไม่อยากยอมรับ เธอบดจูบเขาอย่างเร่าร้อน จนเธอถึงกับชะงักค้างไปเล็กน้อยก่อนจะหันหน้าไปมองด้านข้างที่จู่ ๆ ก็มีมือมาพลาดบริเวณช่วงหน้าท้องของตัวเอง ทว่าเธอก็ถึงกับชะงักข้างไปเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าคนที่นอนอยู่ข้างกันคือแบงค์ฟลายด์ถึงกับรีบตั้งสติพร้อมกับยกมือของอีกฝ่ายออกห่างจากตัวเบา ๆ ด้วยกลัวว่าอีกฝ่ายจะตื่นขึ้นมาเสียก่อน เธอผล็อยตัวลงจากเตียงพร้อมกับหอบหิ้วเสื้อผ้าหายเข้าไปในห้
เธอมองตาเขาปริบ ๆ ไม่รู้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้มันควรจะเป็นไปในทางไหน เธอไม่กล้าตอบรับหรือปฏิเสธเขาชายหนุ่มประคองใบหน้าหญิงสาวเมื่อเห็นว่าเธอไม่ได้ปฏิเสธหรือขัดขืนเขา ริมฝีปากของเขาแตะลงบนปากนุ่มอย่างนุ่มนวล ฟลายด์ร่างกายแข็งทื่อ ยืนหลับตาปี๋หัวใจเต้นระส่ำด้วยความตกใจ ริมฝีปากของเขาแนบสนิทอยู่กับกลีบปากนุ่ม ปลายลิ้นอันเร่าร้อนสอดผ่านริมฝีปากเธอเข้าไปพันเกี่ยวลิ้นเธออย่างช่ำชองด้วยสัญชาตญาณเธอแนบชิดตัวเขาอย่างไม่รู้ตัว ริมฝีปากร้อนผ่าวของแบงค์กำลังหลอมละลายปากนุ่มของเธอจนเปียกชุ่มภายใต้การควบคุมของเขา เธอแทบขาดอากาศหายใจ เมื่อแบงค์บดคลึงริมฝีปากของเธออย่างหนักหน่วงมากยิ่งขึ้น หัวใจของเธอหวาดหวั่น แต่ร่างกายกลับแอ่นบดเบียดเข้าหาอ้อมกอดอบอุ่นของชายหนุ่ม“พี่ขอมากกว่านี้ได้ไหม”ชายหนุ่มถอนริมฝีปากออกน้ำเสียงทุ้มที่ถามออกมาแฝงความเซ็กซี่ ราวกับกำลังโลมเลียเรือนกายของเธอแทนปลายนิ้ว จนฟลายด์ขนลุก ใบหน้าเนียนละเอียดถูกเชยให้เงยหน้าขึ้นสบตากับเขาเธอพยักหน้าตอบรับ สอดแขนโอบกอดรอบคอชายหนุ่ม จูบตอบกลับเขา นิ้วเรียวยาวแข็งแรงสอดแทรกเข้าไปประคองท้ายทอยเอาไว้แน่น บดคลึงริมฝีปากบางอย่างเร่าร้อน ก่อนจ







