LOGIN
“ฟลายด์เอ๊ย! ฟลายด์! ลุกมานึ่งข้าวให้แม่หน่อยเร็ว แม่กับพ่อจะออกไปไร่ ไปดูคนงานสักหน่อย” สุพรรษาแม่ของ ฟลายด์ เป็นเจ้าของไร่อ้อยไร่มัน มีที่ดินเป็นร้อยไร่
ฟลายด์ สาวน้อยวัยยี่สิบต้น ๆ ดวงตากลมโตแต่ชอบใส่แว่นหนาเตอะทั้ง ๆ ที่สายตาก็ไม่ได้สั้นขนาดนั้น ชอบใส่เสื้อฟรีไซซ์ตัวใหญ่ ๆ ทั้งที่ตัวเองก็ตัวเล็ก ๆ ชอบทำหัวฟูทั้งวันก็เพราะความขี้เกียจหวีผม
“จ้า แม่ไปได้เลยจ้า เดี๋ยวลูกสาวคนสวยคนนี้จะจัดการ
ข้าวปลาอาหารไว้ให้เสร็จสรรพ เรียบร้อยก่อนที่พ่อกับแม่จะกลับมาแน่นอน”“ให้มันจริงอย่างที่พูดเถอะ ไม่ใช่ว่าพอพ่อกับแม่ออกไปแล้ว กลับเข้าไปนอนต่ออีกนะ”
“ไม่มี้ ใครเขาทำกัน”
พอพ่อกับแม่ออกไปไร่แล้ว ฟลายด์เดินหัวเราะคิก ๆ ไปเคาะประตูห้องพี่ชายให้ลุกขึ้นมาทำกับข้าว นึ่งข้าว เตรียมอาหารไว้ให้พ่อกับแม่แทนตัวเอง เหมือนประจำทุกวัน
ปึง ๆ ๆ
“พี่! พี่เฟลนด์! ลุกขึ้นมานึ่งข้าว ทำกับข้าวไว้รอแม่ด้วย”
“แล้วทำไมมึงไม่ทำเอง ชอบกวนกูตั้งแต่เช้าเนี่ย” เฟลนด์ลุกขึ้นมาเปิดประตูใส่แค่กางเกงบอกเซอร์ตัวเดียว ด้วยความงัวเงีย แล้วปิดประตูใส่หน้าเธอ
“ถ้าพี่ไม่ไปทำกับข้าว ฟลายด์จะฟ้องแม่ว่าพี่แอบพาลูกสาวบ้านอื่นไปทำมิดีมิร้าย จนเขาจะแจ้งตำรวจจับเอา” ฟลายด์ไม่ละความพยายาม หาข้อต่อรองที่พี่ชายของเธอจะไม่มีวันปฏิเสธได้แน่นอน
เฟลนด์ที่เพิ่งปิดประตูกำลังจะเอนกายลงนอนบนเตียงอย่างเดิม ถึงกับสะดุ้งตัวลุกขึ้นจากเตียงนอนอัตโนมัติ รีบวิ่งมาเปิดประตูด้วยความเร็วแสง
“หยุดเลยนะ จะพูดทำไม เออ จะให้ทำอะไร”
“แล้วแต่เลย อยากทำเมนูไหนก็ทำสิ” พูดจบฟลายกำลังจะเดินเชิดหน้ากลับห้อง แต่โดนฝ่ามือหนัก ๆ ป้าบเข้าที่หัว มีเหรอว่าเธอจะยอม
ร่างเล็ก ๆ พุ่งเข้าไปใส่แผ่นหลังกว้างของพี่ชาย แต่กลับโดนเขาล็อกคอ ฝ่ามือป้าบเข้าให้ที่หัวอีกสองป้าบไม่แรงนัก ทำเอาเธอหน้ามุ่ยไม่พอใจ
“โอ๊ย! ฟลายด์ฟ้องแม่แน่ ว่าพี่ชอบทำร้ายร่างกายน้อง”
“เชิญ!!” เฟลนด์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“เชอะ” ฟลายด์ลูบหัวตัวเองปรอย ๆ แล้วจัดทรงผมให้เรียบร้อย
“อีพี่บ้า คอยดูนะ ถ้าฉันสมองเสื่อมเพราะพี่ แล้วหาสามีไม่ได้ จะเกาะแข้งเกาะขาอยู่เป็นมารในชีวิตตลอดไป”
ไลน์ ไลน์
เสียงแจ้งเตือนเด้งรัว ๆ เมื่อฟลายด์เดินเข้ามาในห้องนอน ใครมันเป็นบ้าทักมาตั้งแต่เช้าตรู่ขนาดนี้ คิดได้ดังนั้น ฟลายด์คว้าโทรศัพท์มาเปิดอ่าน
ป้านิดหน่อย Tr คนสวย : ภาณิภัคอาทิตย์หน้ามาเที่ยวเชียงใหม่ไหม?
รูปภาพ
วงโปรดเลยนะ เห็นว่าอยากไปดูวงนี้ไม่ใช่เหรอ
เนี่ยแค่โทรจองโต๊ะวันนี้ มีโอกาสได้ใกล้ชิด ได้จับมือเลยนะ
ไปเปล่า? จะได้โทรจองโต๊ะไว้รอ
ส้ม มิน แนน ตุ๊กตา มดก็มานะครบแก๊งเลย
Flay : ไปดิ รออะไรอยู่
ว่าแต่…ไปแล้วจะนอนที่ไหน?
ป้าหน่อย Tr คนสวย : ก็ไปพักที่หอพักเดิมไง
Flay : คงจะไม่เจอเรื่องเหมือนตอนนั้นอีกนะ
: ยังจำเรื่องนั้นได้ขึ้นใจเลย โดนมองแรงมากกก มองงี้ตาแทบถลนออกมานอกเบ้า
ป้าหน่อย Tr คนสวย : คนเราถ้าดวงไม่สมพงศ์กัน ก็คงไม่ได้ มาเจอกันหรอกมั้ง คิดบวก
Flay : คิดบวกเชิงลบอะเหรอ
ป้าหน่อย Tr คนสวย : สติกเกอร์มองบน
ฟลายด์เหลือบตามองนาฬิกาบนหน้าจอมือถือ ดวงตาเบิกกว้าง รีบดีดตัวเองลุกจากที่นอน วิ่งออกไปช่วยพี่ชายทำอาหาร ใกล้ถึงเวลาที่พ่อกับแม่จะกลับมาจากไร่แล้ว คราวที่แล้วก็โดนสวดไปชุดใหญ่ สยองไม่หาย
อาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์เธอจะต้องทำตัวเป็นลูกสาวที่ว่านอนสอนง่าย เป็นกุลสตรี แม่ศรีเรือน จะได้ขอไปเที่ยวได้ง่าย ๆ หน่อย
ฟลายด์เห็นพี่เฟลนด์ทำกับข้าวอย่างขะมักเขม้นก็รีบเข้าไปคอยหยิบจับ เป็นลูกมือให้พี่ชายด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“เป็นอะไร? ผีเข้าหรือไงถึงได้ยิ้มเหมือนคนสติไม่ดี”
รอยยิ้มพิมพ์ใจที่กำลังสว่างไสวเมื่อครู่พลันหุบลงไปในทันที เหลือเพียงใบหน้ายับยู่ยี่มองพี่ชายตาขวาง
“น้องสาวอยากจะทำดีกับพี่ชาย อยากจะยิ้มอ่อนหวานให้เหมือนพี่น้องที่รักกันปานจะกลืนกินเนี่ย มันไม่ได้หรือยังไง”
“ให้ตายกูก็ไม่เชื่อน้องแบบมึง”
“พูดกับน้องกับนุ้งให้มันเพราะ ๆ เหมือนคุยกับสาว ๆ คนอื่นหน่อยสิ”
“ก็นี่มันน้องสาว ไม่ใช่สาว ๆ สวย ๆ ทำไมต้องแคร์”
“เกลียดมึง”
“เกลียดเหมือนกัน”
สุพรรษากลับมาจากไปดูคนงานในไร่มา ก็ได้ยินเสียงสองพี่น้องพูดคุยเหมือนจะรักกันดี แต่หารู้ไม่ว่าสิ่งที่ได้ยินมีแต่จะชวนทะเลาะกันมากกว่า คุยกันดี ๆ ได้ไม่ถึงห้าวินาที หลังจากนั้นก็ทะเลาะกันจนงอนกัน สุดท้ายพี่ชายก็ต้องมาง้ออยู่ดี
“สองพี่น้องนี่เป็นอะไรกัน คุยกันดี ๆ สักวันไม่ได้เลย กัดกันเหมือนไอ้ไมโลกับเมดี้ไปได้”
“แม่!!” สองพี่น้องตะโกนพร้อมกันเสียงดัง
“จ้า รู้แล้ว ว่าเป็นแม่ เรียกกันเบา ๆ ก็ได้”
ทั้งสองทำหน้ามุ่ย ยิงฟันให้กันทำท่าจะทะเลาะกันอีกแล้ว ก่อนฟลายด์จะเดินเข้าไปกอดแขนสุพรรษาอย่างออดอ้อน
“แม่! พี่แกล้งหนู ชอบตบหัวหนู ถ้าหนูสมองเสื่อมขึ้นมาใครเขาจะเอาไปทำเมีย ถ้าหาผัวไม่ได้หนูไม่ต้องเกาะแม่ไปตลอดชีวิตเหรอ”
“เฟลนด์จะไปแกล้งน้องทำไม เป็นพี่ก็หัดดูแลทะนุถนอมน้องบ้างสิ”
“คร้าบบบ เป็นพี่นี่จำเป็นต้องยอมน้องตลอดเลยเหรอคร้าบบ”
“ถ้าได้ก็ดี อะไรยอมได้ก็ยอม ๆ ไปเถอะ”
ทันทีที่ฟลายด์เห็นบิดา ก็รีบวิ่งไปช่วยถือของอย่างกระตือรือร้น ผู้ที่รักเธอมากกว่าใครที่ไหน และหวงเธอยิ่งกว่าไข่ในหิน ทว่าก็ไม่วายว่าทุกเรื่องเกี่ยวกับลูกต้องถามภรรยาผู้เป็นที่รัก
“พ่อจ๋าาา หนูขอไปเที่ยวเชียงใหม่สักอาทิตย์หน่อยนะคะ”
“เรื่องนั้นถามเมียพ่อเลยลูกสาว”
“คุณสุพรรษา!! สามีคุณถามว่าจะให้ลูกสาวของคุณคนนี้ไปเที่ยวต่างจังหวัดสักสัปดาห์ได้ไหม”
“ไม่ให้ไป!” เฟลนด์ตะโกนแทรกเข้ามาเสียงเข้ม
“ไม่ได้ถามพี่”
“ถ้าไม่มีเหตุผลที่ดีพอ ภรรยาของคุณวิสิทธิ์ก็ไม่ให้ไปค่ะ”
สุพรรษาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง“พ่อ! คุยกับแม่ให้หน่อยสิคะ”
“จะไปไหน ไปทำอะไร กับใคร กลับเมื่อไร” สุพรรษารีบพูดแทรกขึ้น ก่อนที่สามีเธอจะเอ่ยขึ้นมาด้วยเหตุผลร้อยแปดประการ เพื่อช่วยลูกสาวสุดที่รัก
“คุณสุพรรษาลูกสาวของคุณคนนี้อยากไปเปิดหูเปิดตา หาแรงบันดาลใจในการทำงานเผื่อดังเปรี้ยงปร้างเป็นพลุแตก คุณสุพรรษาอาจจะเป็นคุณนายเลยก็ได้นะ”
“แค่นี้ฉันก็เป็นคุณนายของบ้านนี้อยู่แล้วย่ะ”
“เผื่อเป็นคุณแม่คนดังแบบนี้ไง”
“บอกเหตุผลดี ๆ มาสักข้อ ยกเว้นเป็นคนดัง ไม่ชอบตอบคำถามนักข่าว แค่ป้าข้างบ้านก็ตอบคำถามแทบไม่หวาดไม่ไหวแล้ว”
“แม่อยากได้ลูกเขยไม่ใช่เหรอ เนี่ยหนูกำลังจะไปหาลูกเขยมาฝากแม่ไง หนูอยู่ที่นี่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะมีคนมาขายขนมจีบเลยสักคน”
“เดี๋ยวแม่หาให้ก็ได้ เดี๋ยวจะไปหาใครมาเป็นลูกเขยไม่รู้หัวนอนปลายเท้า”
“แม่มันสมัยไหนแล้ว จะมาหาผัวให้ลูก จะมาจับคลุมถุงชนไม่ได้นะ”
“ถ้าหาลูกเขยมาไม่ถูกใจแม่จะทำยังไง”
“งั้นถ้าหนูเจอแล้วจะให้แม่สแกนเลย”
“ก็ได้ แค่อาทิตย์เดียวนะห้ามเกิน”
“ขอบคุณคุณแม่คนสวย”
นานวันเข้าพ่อของฟลายด์ก็เริ่มเห็นถึงความผิดปกติของคนที่อ้างว่าเป็นรุ่นพี่ที่รู้จักกับลูกสาวของตน วันนี้นึกคิดยังไงไม่รู้อยากมาหาลูกสาวที่ห้อง อยากคุยเรื่องชายหนุ่มคนนั้น ด้วยความที่ผู้เป็นพ่อเดินมาเห็นพอดีจึงทำให้รีบเดินไปทางหน้าห้องลูกสาว ในตอนที่ชายหนุ่มกำลังกอดร่างบางอยู่เสียงประตูห้องก็ถูกเคาะขึ้นมาพอดี“ฟลายด์แกเปิดประตูให้พ่อเดี๋ยวนี้เลยนะ” ผู้เป็นพ่อเคาะประตูห้องลูกสาวด้วยความร้อนรนฟลายด์รีบออกไปเปิดประตูเมื่อแบงค์เข้าไปซ่อนตัวในตู้เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว“มีอะไรหรือเปล่าพ่อ” เธอพยายามซ่อนพิรุธเอาไว้ไม่อยากให้พ่อจับได้ ทว่าพ่อก็รีบเดินเข้ามาพร้อมกับค้นหาแบงค์ตามสิ่งที่เห็น“ไอ้ผู้ชายคนนั้นมันอยู่ไหน” ผู้เป็นพ่อตวาดลั่น จนคนในบ้านต่างตื่นขึ้นมาดูด้วยความตกใจทำให้แบงค์ต้องออกมายอมรับความผิดของตัวเอง ฟลายด์ถึงกับชะงักค้างไปด้วยรู้กับความผิดของตัวเองดี ก่อนที่ทุกคนจะไปรวมกันที่ลานบ้านเพื่อพูดคุยหาลือกัน“คุณ! นับจากวันนี้เป็นต้นไปให้คุณย้ายไปนอนที่บ้านพักคนงาน และทำงานในไร่กับคนงาน ไม่ต้องมาที่บ้านใหญ่ถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากผม”ผู้เป็นพ่อที่ได้รู้เรื่องทั้งหมดก็รู้สึกโกรธเป็นอย่างมา
ความวัวยังไม่ทันหายความควายก็เข้ามาแทรก เมื่อเธอได้ยินเสียงฝีเท้าหนัก ๆ ขึ้นหน้าห้อง ตึก…ตึก…ตึก…เงาสะท้อนผ่านใต้ช่องประตูหน้าห้อง เท้าที่เธอคุ้นเคยหยุดยืนพิงประตูอยู่หน้าห้อง กำลังแนบใบหูเข้ากับประตูหน้าห้องของเธอ ฟลายด์รีบหันขวับส่งสัญญาณให้แบงค์ ที่ยืนปักหลักอยู่กลางห้องเหมือนไม่คิดจะหลบอีกต่อไป “เงียบ!” เธอรีบกระซิบเสียงเบาก๊อก ก๊อก ก๊อก!“ไอ้ฟลายด์! หลับหรือยัง” เสียงเฟลนด์ดังขึ้นพร้อมกับแรงเคาะประตูหน้าห้องแทบพังฟลายด์รีบวิ่งไปดันชิดประตูเอาไว้ พยายามทำเสียงให้ปกติ “ยัง…มึงมีอะไรหรือเปล่า”“กูได้ยินเสียงเหมือนมีผู้ชายอยู่ในห้องมึง มึงคุยกับใคร” น้ำเสียงเฟลนด์เต็มไปด้วยความกังขา“กูไม่ได้คุยกับใคร แค่…ดูซีรีส์อยู่”ข้างนอกห้องเงียบไปครู่หนึ่ง เหมือนเฟลนด์กำลังชั่งใจว่าจะเชื่อหรือไม่ เธอยืนนิ่ง เหงื่อซึมออกมาตามฝ่ามือ ในหัวมีแต่จะหาที่ซ่อนตัวให้ชายหนุ่มไม่ให้ถูกจับได้ หากพี่ชายขอเข้ามาในห้อง ทุกอย่างจบเห่แน่!“เออ ล็อกประตูดี ๆ ด้วย เข้าใจไหม” สุดท้ายเฟลนด์ก็ทิ้งคำสั้น ๆ ไว้ ก่อนฝีเท้าหนัก ๆ จะค่อย ๆ เดินห่างออกไปทันทีที่เสียงนั้นเลือนหาย ฟลายด์ก็ทรุดตัวลงกับประตู หัวใจ เต้นแ
“ฟลายด์ขอสั่งห้ามพี่ไม่ให้บอกเรื่องนั้น” น้ำเสียงจริงจังเอ่ยบอกกลับไปและบังคับให้ชายหนุ่มทำตามที่เธอว่า “พี่กลับไปก่อนเถอะนะ เดี๋ยวฟลายด์จะหาวิธีบอกเรื่องนี้ให้พวกท่านรู้เอง ถ้าพวกท่านรู้ตอนนี้…พวกท่านเอาฟลายด์ตายแน่”“งั้นพี่จะอยู่ที่นี่แลกกับการไม่บอกใครเรื่องที่เรามีอะไรกันแล้ว” เขาพูดบอกอย่างเป็นต่อ สีหน้าไม่ยอมผ่อนปรน“ไม่ได้”แต่เขากลับก้าวเข้ามาใกล้ กระซิบข้างใบหูเธอ “ถ้าฟลายด์ไม่ให้พี่อยู่…พี่จะบอกพวกท่านเอง ว่าพวกเราเป็นสามีภรรยากันใน ทางพฤตินัยแล้ว”“พี่นี่มัน! พูดอะไรออกมาไม่คิดหรือไง ถ้าพ่อแม่ฟลายด์ได้ยินเข้าละก็…”“งั้นก็ให้พี่ที่นี่สิ ง่ายที่สุดแล้ว” แบงค์ยกยิ้มมุมปาก แค่นั้นก็ทำให้หญิงสาวหวาดหวั่น“ถ้าคิดว่าทำได้ก็ตามใจ” เธอว่าจบก็เดินเข้าไปด้านในบ้านด้วยความขัดใจเล็กน้อยพี่ชายก็เดินตามมาดู สีหน้าหงุดหงิดไม่คลาย “ยังอยู่เหรอคุณ! ถ้าไม่ใช่เพราะน้องสาวผมยืนยัน ผมคงเรียกตำรวจมาลากคอคุณออก ไปแล้วนะ”“ผมได้ยินว่าคุณอยากพักอยู่ที่นี่ งั้นเอางี้ไหม ถ้าอยากจะอยู่จริง ๆ ก็ไปอยู่บ้านพักคนงานที่ไร่” เฟลนด์เอ่ยเสนอแนะเสียงเข้ม อีกทั้งยังไม่ไว้ใจชายหนุ่ม ถึงเสนอให้ไปอยู่กับคนงาน จ
แบงค์ที่ได้ข้อมูลมาจากหลาย ๆ คนและมีคนที่พามา ก็ทำให้เจอบ้านของฟลายด์จนได้ ทว่าคนที่เขาเจอกลับเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ออกมาเดินอยู่หน้าในจังหวะนี้พอดี ทั้งยังจูงมือมากับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ทำให้เขาเข้าใจว่าผู้ชายคนนั้นคือสามีของฟลายด์และลูกสาว ซึ่งมันเป็นเพียงแค่คำโกหกของหญิงสาวเพียงเท่านั้น แต่แบงค์กลับเชื่อสนิทใจเฟลนด์พาลูกสาวตัวน้อยออกมากำลังจะพาไปร้านค้าใกล้บ้าน พอเห็นชายแปลกหน้าร่างสูงยืนด้อม ๆ มอง ๆ อยู่ตรงหน้าบ้าน สายตาคมกริบจ้องมองมา เขาก็ชะงักทันที“คุณเป็นใคร มาหาใคร?” น้ำเสียงแข็งกร้าวถามขึ้นทันที“ผมมาหา…” แบงค์กำลังจะเอ่ยชื่อของฟลายด์ออกมา แต่ยังไม่ทันจบประโยค“คุณจะมาใครก็ช่างเถอะ ที่นี่ไม่มีคนที่คุณตามหาหรอก และก็อย่ามาแอบอ้างนะ! ว่ารู้จักคนในบ้าน”ลูกสาวตัวน้อยที่เล่นซ่อนอยู่ข้างหลังเกาะชายเสื้อพ่อเอาไว้แน่น โผล่มาแค่เพียงใบหน้าแอบมองชายที่ยืนอยู่หน้าบ้าน ดวงตากลมใสเต็มไปด้วยความงุนงงกระนั้นก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาหาผู้ชายกับเด็กคนนั้น “แม่” เด็กน้อยรีบวิ่งเข้าไปหาผู้หญิงคนนั้น“พี่! เกิดอะไรขึ้น!” หมวยเห็นสามียืนคุยกับใครก็ไม่รู้ตั้งนาน สีหน้าเคร่งขรึม เธอจะรีบวิ่ง
ฟลายด์ที่ตื่นขึ้นมาในตอนเช้าด้วยร่างกายปวดเมื่อยขบตามตัว ทว่าเธอยังคงหลับตาด้วยอาการมึนหัวจนต้องใช้มือจับที่ศีรษะของตัวเอง ก่อนจะค่อย ๆ ลืมตาขึ้นอย่างสะลึมสะลือพลางหันมองรอบด้านในห้องที่เธอรู้สึกไม่คุ้นเคยเอาเสียเลยเธอที่รู้สึกเหมือนว่าตัวเองไม่ได้สวมใส่อะไรก็ค่อยๆ ยกผ้าห่มขึ้นเปิดดูเพื่อความแน่ใจว่ามันเกิดกับเธอบ้าง ในใจของเธอมีแต่คำว่าฉิบหายแล้ว เพราะถ้าคนในครอบครัวรู้คงได้กลายเป็นเรื่องใหญ่แน่นอน“นี่ฉันอยู่ที่ไหนกันเนี่ย?”เธอพึมพำกับตัวเองเบา ๆ จากนั้นภาพความทรงจำในหัวก็แล่นเข้ามา ความทรงจำเมื่อคืนตัดขาดไปบางช่วง มีเพียงภาพเลือนรางของแก้วเครื่องดื่ม สายตาคมคู่นั้น และรอยยิ้มที่ทำให้หัวใจเธอแกว่งไปทั้งที่ไม่อยากยอมรับ เธอบดจูบเขาอย่างเร่าร้อน จนเธอถึงกับชะงักค้างไปเล็กน้อยก่อนจะหันหน้าไปมองด้านข้างที่จู่ ๆ ก็มีมือมาพลาดบริเวณช่วงหน้าท้องของตัวเอง ทว่าเธอก็ถึงกับชะงักข้างไปเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าคนที่นอนอยู่ข้างกันคือแบงค์ฟลายด์ถึงกับรีบตั้งสติพร้อมกับยกมือของอีกฝ่ายออกห่างจากตัวเบา ๆ ด้วยกลัวว่าอีกฝ่ายจะตื่นขึ้นมาเสียก่อน เธอผล็อยตัวลงจากเตียงพร้อมกับหอบหิ้วเสื้อผ้าหายเข้าไปในห้
เธอมองตาเขาปริบ ๆ ไม่รู้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้มันควรจะเป็นไปในทางไหน เธอไม่กล้าตอบรับหรือปฏิเสธเขาชายหนุ่มประคองใบหน้าหญิงสาวเมื่อเห็นว่าเธอไม่ได้ปฏิเสธหรือขัดขืนเขา ริมฝีปากของเขาแตะลงบนปากนุ่มอย่างนุ่มนวล ฟลายด์ร่างกายแข็งทื่อ ยืนหลับตาปี๋หัวใจเต้นระส่ำด้วยความตกใจ ริมฝีปากของเขาแนบสนิทอยู่กับกลีบปากนุ่ม ปลายลิ้นอันเร่าร้อนสอดผ่านริมฝีปากเธอเข้าไปพันเกี่ยวลิ้นเธออย่างช่ำชองด้วยสัญชาตญาณเธอแนบชิดตัวเขาอย่างไม่รู้ตัว ริมฝีปากร้อนผ่าวของแบงค์กำลังหลอมละลายปากนุ่มของเธอจนเปียกชุ่มภายใต้การควบคุมของเขา เธอแทบขาดอากาศหายใจ เมื่อแบงค์บดคลึงริมฝีปากของเธออย่างหนักหน่วงมากยิ่งขึ้น หัวใจของเธอหวาดหวั่น แต่ร่างกายกลับแอ่นบดเบียดเข้าหาอ้อมกอดอบอุ่นของชายหนุ่ม“พี่ขอมากกว่านี้ได้ไหม”ชายหนุ่มถอนริมฝีปากออกน้ำเสียงทุ้มที่ถามออกมาแฝงความเซ็กซี่ ราวกับกำลังโลมเลียเรือนกายของเธอแทนปลายนิ้ว จนฟลายด์ขนลุก ใบหน้าเนียนละเอียดถูกเชยให้เงยหน้าขึ้นสบตากับเขาเธอพยักหน้าตอบรับ สอดแขนโอบกอดรอบคอชายหนุ่ม จูบตอบกลับเขา นิ้วเรียวยาวแข็งแรงสอดแทรกเข้าไปประคองท้ายทอยเอาไว้แน่น บดคลึงริมฝีปากบางอย่างเร่าร้อน ก่อนจ







