เข้าสู่ระบบบทที่55Good : say“อะไรนะ? แซนด์ตกบันไดเหรอ?”“ครับ ตอนนี้อยู่ที่ห้องพยาบาล”“แล้วตกได้ยังไง?” ผมถามไอ้ภีมออกไปอย่างร้อนใจ ทำไมอยู่ดีๆ แซนด์ถึงตกบันไดได้ ก่อนหน้านั้นยังนั่งอยู่ที่ด้านหลังของโรงละครอยู่เลย“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันพี่ แต่ก่อนหน้านั้นมีคนมาบอกกับมันว่า มีใครบางคนอยากคุยกับมันเป็นการส่วนตัว รออยู่ที่ตึกคณะ แล้วมันก็ออกไป มารู้อีกทีก็ตอนที่พี่ดีนโทรมาบอกว่าแซนด์มันตกบันได”“ไอ้ดีนเหรอ?”“ครับ พี่ดีนเป็นคนพาแซนด์ไปที่ห้องพยาบาล แล้วโทรศัพท์แซนด์มันก็แบตหมดด้วย มันก็เลยให้ผมมาบอกพี่ก่อน กลัวพี่จะเป็นห่วง”ถึงว่า ผมมองหาแซนด์ที่หน้าเวทีเท่าไหร่ก็ไม่เจอ ทีแรกผมคิดว่าน้องน่าจะยุ่งอยู่ด้านหลังเวที เลยไม่ได้ออกมาดูผมแสดง ที่แท้ก็เกิดเรื่องนี่เองดีนะที่ตอนนี้งานก็เลิกแล้ว ละครเวทีก็เพิ่งจะจบ ทีมงานกำลังนัดแนะที่จะพานักแสดงกับทีมงานเบื้องหลังไปเลี้ยงฉลองกันต่อ“มีอะไรหรือเปล่ากู๊ด” จีนที่เดินเข้ามาเอ่ยถาม“กูไม่ไปงานเลี้ยงด้วยนะ มีธุระน่ะ” ผมเอ่ยบอก เพราะไม่มีอารมณ์จะไปแล้วตอนนี้ ซึ่งความจริงก็ตั้งใจว่าจะไม่ไปอยู่แล้วนั่นแหละ พอมาเจอเหตุการณ์แบบนี้เลยตัดสินใจไม่ยาก“อ้าว ทำไมล่ะ แล้
บทที่54 “ครับ พี่มีอะไรหรือเปล่าครับ” ผมเอ่ยถามพี่สาวคนสวยออกไป ซึ่งผมจำได้ว่าผมไม่เคยเจอ และไม่รู้จักพี่เขามาก่อน “มีคนฝากพี่มาบอก ให้น้องไปหาที่ตึกนิเทศน่ะ เขารออยู่ที่โถงบันไดชั้นสาม แต่เขาให้น้องไปคนเดียวนะ” “อ้อ ครับ ขอบคุณมากครับ” พี่คนสวยเดินไปแล้ว ผมเลยได้แต่มองหน้าไอ้ภีมแบบงงๆ ว่าใครให้ผมไปหาที่คณะ เพราะตอนนี้พี่ๆ คนอื่นก็น่าจะอยู่ที่โรงละครกันหมดแล้ว แต่ก็ช่างเถอะ ไปถึงเดี๋ยวก็รู้เองนั่นแหละ ผมมาที่ตึกของคณะ แต่ทุกอย่างกลับเงียบเชียบ ไม่เห็นจะมีใครสักคน เพราะช่วงเวลานี้นักศึกษาส่วนใหญ่จะไปรวมตัวกันที่โรงละครกันหมด หรือไม่ก็ไปร่วมกิจกรรมอยู่ด้านนอก ผมเดินขึ้นบันไดมาที่โถงบันไดชั้นสามตามที่พี่คนสวยบอกเอาไว้ และผมก็เจอกับพี่แคลีนที่เวลานี้อยู่ในชุดที่พี่เขาจะต้องใส่แสดงละคร “พี่แคลีน?” “ใช่ ฉันเอง” “พี่มีธุระอะไรกับผมหรือเปล่าครับ” ผมเอ่ยถามออกไปอย่างสงสัย ที่อยู่ ๆ พี่เขาก็นัดให้ผมมาหาที่ตึก แทนที่จะคุยกันตั้งแต่ที่โรงละคร แถมเวลานี้ก็ใกล้ที่จะแสดงแล้วด้วย “ฉัน
บทที่53Sand : Say วันนี้เป็นวันงานของทางมหาลัย ทางคณะของเราต่างก็วุ่นกับการจัดเตรียมงานเพื่อที่จะแสดงในวันนี้กันอย่างตื่นเต้น ผมมาสแตนบายกับพี่กู๊ดตั้งแต่เช้า เพราะเราต้องมาเตรียมความพร้อมกันที่นี่ ส่วนด้านนอกก็มีการจัดบูทงานต่างๆ มากมาย ให้นักศึกษาได้มีส่วนร่วมกับงานนี้กันอย่างเต็มที่ มีทั้งการจัดบูทขายของกิน พวกน้ำดื่ม ขนม แล้วก็อาหารต่างๆ มีเสื้อผ้าด้วย ซึ่งก็เป็นนักศึกษาของแต่ละคณะนี่แหละที่นำของมาขาย ผมกับไอ้ภีมออกมาเดินเล่นดูนั่นนี่ด้านนอก เพราะยังไม่ถึงเวลาที่ต้องแสดง อีกอย่างพี่กู๊ดเขาเห็นว่าถ้าผมช่วยพี่ๆ เตรียมงานกันตั้งแต่เช้ายังไม่มีอะไรตกถึงท้อง ก็เลยให้ผมออกมาหาอะไรกินด้านนอก “เป็นไงบ้างมึงเห็นวุ่นๆ อยู่หลังเวที ได้กินอะไรบ้างหรือยังเนี่ย” ไอ้ภีมเอ่ยถาม เมื่อเราทั้งคู่ออกมาเดินเล่นที่ด้านนอกโรงละคร“ก็วุ่นจริงแหละ พี่กู๊ดเลยให้ออกมาหาอะไรกินเนี่ย”ผมกับไอ้ภีมได้ของกินติดไม้ติดมือมาคนละสองอย่าง ก่อนที่จะมานั่งกินที่โต๊ะม้าใกล้ๆ “กูตื่นเต้นแทนพวกพี่ๆ เขาเลยว่ะแซนด์” ไอ้ภีมเอ่ยขึ้น อย่าว่าแต่มันเลยที่ตื่นเต้น ผมเอ
บทที่52“แล้วทำไมจะจูบไม่ได้ล่ะ?”“ก็ไม่ได้เป็นอะไรกันนี่ จะจูบได้ไงเล่า”“ถ้าอย่างนั้นเราก็มาเป็นอะไรกันเถอะนะ” ผมแกล้งทำท่าจะเข้าจู่โจม“พี่กู๊ดออกไปเลย” คนตัวเล็กเลยทั้งผลัก ทั้งดัน ทั้งถีบสารพัด จนตัวผมขยับไปอยู่อีกฝั่งของเตียงนอนเลย ตัวแค่เนี้ยเอาแรงมาจากไหนนักหนาก็ไม่รู้“พี่กู๊ดกลับห้องไปเลย แซนด์จะนอนคนเดียว”“ไม่กลับ ถ้ายังคุยกันไม่รู้เรื่องแบบนี้ก็อยู่มันแบบนี้แหละ ไม่ต้องนอนมันแล้ว” ให้มันรู้กันไปว่าจะปิดปากเงียบไม่ยอมบอกอะไรก็เอาเลย ผมไม่เดือดร้อนอยู่แล้ว เพราะยังไงเสียคืนนี้ผมก็ยึดห้องนี้อยู่ดี จะยึดทั้งห้อง ยึดทั้งเตียง แล้วก็ยึดเจ้าของห้องด้วย คอยดูละกันไอ้ตัวดื้อมันหนีไปนอนที่โซฟาอีกมุมของห้อง ปล่อยให้ผมครองเตียงนอนอยู่คนเดียว เรียกให้มานอนด้วยก็ทำเมิน แถมยังมาทำปากคว่ำใส่อีกเดี๋ยวจะโดนไม่ใช่น้อยนะแซนด์!“เตียงนุ่มจัง ท่าทางจะหลับสบายกว่าโซฟา” ผมแกล้งพูดลอยๆ แอบดูปฏิกิริยาของคนตัวเล็กที่ยังคงนอนขดตัวนิ่งอยู่ที่โซฟา แถมยังหันหลังให้กันอีก“ไปนอนที่โซฟา ระวังตื่นมาจะปวดหลังนะ” ยังคงนิ่งเหมือนเดิม“หลับแล้วจริงดิ?” เงียบ สงสัยจะหลับจริงๆ ถ้าปล่อยให้นอนอยู่อย่างนั้น มีหวั
บทที่51Good:Sayผมสอดตัวเข้าไปใต้ผ้าห่มที่เด็กดื้อนอนอยู่ แล้วก็รั้งคนตัวหอมเข้ามากอดจากทางด้านหลัง วันนี้น้องผิดปกติตั้งแต่อยู่ในรถแล้ว ไม่พูด ไม่เถียงซึ่งมันผิดวิสัยของแซนด์เอามากๆ พอกลับถึงห้องเจ้าตัวก็ยังมีอาการไม่พอใจแล้วเหมือนจะโกรธอะไรสักอย่างด้วย ถึงปากจะบอกว่าเหนื่อย อยากพักผ่อน แต่ผมก็ดูออกว่ามันไม่ใช่จนกระทั่งผมจัดการอาบน้ำเรียบร้อย หวังจะคุยกับไอ้ตัวดื้ออีกครั้ง แต่ปรากฏว่าน้องล็อคห้องใส่ผมเสียอย่างนั้น มันยิ่งเหมือนแซนด์ต้องการหลบหน้ากันชัดๆแต่ไอ้ตัวดื้อมันคงจะลืมนึกไปว่าผมมีกุญแจสำรอง การล็อคห้องเพื่อหลบหน้ากันเลยไม่ใช่ปัญหาสำหรับผม และวันนี้ผมก็ต้องรู้ให้ได้ว่าแซนด์โกรธอะไรผมกันแน่“อื้อ...อึดอัด” เสียงเด็กน้อยในอ้อมกอดพูดอู้อี้ เหมือนคนละเมอ ผมเลยกระชับอ้อมกอดคนตัวเล็กแน่นเข้าไปอีกก็รู้อยู่ว่าต้องนอนกอด ยังจะล็อคห้องไม่ยอมให้นอนด้วยอีก จะกอดให้หายใจไม่ออกเลยคอยดู“พี่กู๊ด อึดอัด” เหมือนเด็กจะรู้ตัวแล้ว เพราะเสียงดูใสกว่าตอนแรก“ตอบมาก่อนโกรธอะไรพี่” คนถูกปลุกหันหน้ามาเผชิญหน้ากับผม ท่ามกลางความมืดภายในห้อง แต่ผมกลับมองเห็นแววตาคู่นั้นชัดเจน อาจเป็นเพราะแสงจากหน้าต่
บทที่50“แซนด์ครับ เมื่อไหร่จะยอมสักที” เสียงก็อ้อน“ยอมอะไร?”“แซนด์ก็รู้ว่าพี่หมายถึงเรื่องอะไร” ใช่ผมรู้ แต่ก็แกล้งถามไปอย่างนั้นแหละ“เป็นแฟนกันนะ”“รอให้ผ่านช่วงงานละครไปก่อนได้มั้ย เดี๋ยวแซนด์จะให้คำตอบ” ซึ่งอีกอาทิตย์เดียวก็จะถึงงานแล้ว ถึงตอนนั้นผมน่าจะมั่นใจในตัวพี่กู๊ดมากกว่านี้แล้วละตอนนี้ก็ใช่ว่าผมจะปฏิเสธเสียเมื่อไหร่ ที่ยอมให้ทำอะไรๆ แบบที่เป็นอยู่นี่ก็ถือว่าผมให้ใจไปแล้วมากกว่าครึ่งด้วยซ้ำผมแค่อยากจะมั่นใจไงว่าคนที่เคยคบแต่ผู้หญิงมาตลอดแบบพี่กู๊ด จะจริงจังกับผมจริงๆ หรือแค่เล่นๆ เหมือนผู้หญิงพวกนั้นกันแน่พี่กู๊ดเงียบไปเลย หลังจากที่ฟังคำตอบจากผม“แซนด์ไม่มั่นใจในตัวพี่เหรอ” ถามทั้งที่หน้ายังคลอเคลียอยู่ที่ซอกคอของผมอยู่“แซนด์แค่อยากมั่นใจในตัวพี่กู๊ดแล้วก็ตัวแซนด์เองด้วย พี่กู๊ดรอได้มั้ย?”ไม่ตอบ แต่กลับขโมยหอมแก้มผมไปฟอดใหญ่ เรื่องเนียนไม่มีใครเกินเลยพ่อ“เลิกวอแวแซนด์ได้แล้วพี่กู๊ด อย่าลืมนะว่าตัวเองยังจีบแซนด์ไม่ติด”“ก็เผื่อจะใจอ่อนเร็วๆ ไง”“ฝันอยู่เหรอ? อาทิตย์หน้าค่อยมาว่ากันใหม่” ผมตอบกลับไป คนโดนปฏิเสธถึงกับทำหน้าคว่ำใส่“ตอนนี้ออกไปข้างนอกได้แล้ว ก่อนที่จะ







![ผมไม่ได้ยั่ว เสี่ยต่างหากที่ห้ามใจไม่ได้[Mpreg]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)