ลูน่าเลื่อนอ่านข่าวอีกครั้ง ยิ่งเธออ่านมันเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งรู้สึกหายใจไม่ออกข่าวดังกล่าวไม่เพียงแต่ระบุชื่อของเกว็นเท่านั้น แต่ยังมีบันทึกเสียงของเธอแนบอยู่อีกด้วยเธอเล่นบันทึกเสียงนั้นด้วยมืออันสั่นเทาทันใดนั้นเสียงที่สงบและไร้อารมณ์ของเกว็นก็ดังไปทั่วห้อง “ถูกต้องค่ะ ฉันเป็นคนเปิดโปงพวกเขาเอง ฉันยินดีที่จะรับผิดชอบทางกฎหมายสำหรับรูปภาพพวกนี้ที่ฉันเผยแพร่ ส่วนลูน่าและโจชัวมีความสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสมหรือไม่ ฉันจะจัดงานแถลงข่าวพรุ่งนี้และอธิบายทุกอย่างให้ทุกคนฟังอย่างชัดเจน“พรุ่งนี้เก้าโมงเช้าที่หอประชุมเล็ก ๆ ใกล้กับโรงเรียนมัธยมโอเชียนเรย์ของเมืองซี ฉันจะจัดงานแถลงข่าวเล็ก ๆ ฉันยินดีต้อนรับเพื่อน ๆ ทุกคนที่กังวลว่าลูน่าได้เข้าไปแทรกกลางชีวิตสมรสของโจชัวให้มาเข้าร่วม ฉันจะตอบทุกคำถามของพวกคุณเอง”การบันทึกสิ้นสุดลงตรงนั้นลูน่าอ้าปากค้างขณะที่จับโทรศัพท์ไว้แน่นเกว็นเพิ่งกลับมาคืนดีกับเธอเมื่อคืนแท้ ๆ เธอรู้ว่าตอนนี้ลูน่าคือลูน่า กิบสันด้วย แล้วทำไม…อีกทั้งยังมีเรื่องหอประชุมเล็ก ๆ ใกล้โรงเรียนมัธยมโอเชียนเรย์นี่อีก โอเชียนเรย์เป็นสถานที่ที่เธอและเกว็นเข้าเรียนพร้อมกัน หอ
บางทีอาจเพราะเขารู้สึกได้ว่าบรรยากาศมันค่อนข้างไม่ปกติ ลูคัสจึงไม่ได้พูดอะไรสักคำ เขาวางอาหารเที่ยงไว้บนโต๊ะกาแฟแล้วรีบออกไปประตูถูกปิดลงอีกครั้งลูน่าเงยหน้าขึ้นแล้วกวาดตามองอาหารบนโต๊ะมันเป็นอาหารที่ปกติเธอจะชอบกิน แต่ในขณะนั้นเธอไม่มีอารมณ์จะกินแต่ทว่าเธอหิวมาก ตอนนี้เธออาจจะกำลังทุกข์ทรมานทางอารมณ์ แต่นั่นก็ไม่สามารถหยุดความหิวของเธอได้ลูน่าหายใจเข้าลึกแล้วลุกจากโซฟา เธอเดินไปที่โต๊ะกาแฟแล้วนั่งลงเพื่อหยิบอาหารออกมากลิ่นของอาหารกระตุ้นความอยากอาหารของลูน่า และเธอก็หยิบช้อนส้อมขึ้นมาและกินอย่างหิวโหยทันทีผ่านไปได้ครึ่งทาง ในที่สุดเธอก็ไม่รู้สึกหิวอีกต่อไปในขณะเดียวกัน เธอก็จำได้ว่าโจชัวที่อยู่ข้าง ๆ เธอยังไม่ได้กินอาหารอะไรเลยเช่นกันเธอเม้มริมฝีปากและหันหน้าไปโดยไม่รู้ตัวโจชัวเอนหลังบนโซฟาอย่างสง่างาม มือข้างหนึ่งตกอยู่ข้างตัวเขา ส่วนอีกมือหนึ่งอยู่บนโซฟาพลางมองดูลูน่าเรียบ ๆเมื่อเห็นว่าเธอมองเขา โจชัวก็ยิ้มเล็กน้อย แต่สายตาของเขากลับเรียบเฉย “เธอกินก่อนเลย”ลูน่าไม่ได้ตอบสนองทันที เธอขมวดคิ้วและมองดูเขา “คุณไม่ได้บอกว่ายังไม่ได้กินข้าวเช้าด้วยเหมือนกันเหรอคะ ค
ลูน่าอดไม่ได้ที่จะชะงักไปกับคำพูดของเขาหลังจากนั้นครู่หนึ่ง เธอก็กลับมาได้สติรู้สึกตัวจากความทรงจำอันไม่พึงประสงค์เหล่านั้นลูน่าเงยหน้าขึ้นและมองโจชัว “เราอยู่ในเมืองซี ไม่ใช่เมืองบันยันนะคะ”โจชัวกินอาหารหนึ่งคำอย่างสง่างาม เขาเยาะเย้ย “ฉันยังมีหนทางของตัวเองอยู่ แม้ว่าเราจะอยู่ในเมืองซีก็ตาม” เขากล่าวราวกับว่ามันเป็นข้อเท็จจริงลูน่าส่ายหัว“ไม่ว่าคุณจะทำหรือไม่ทำ แล้วต่อไปล่ะคะ? ไม่ว่ายังไงเราก็ยังต้องออกจากเมืองซีไป”ลูน่าสูดหายใจเข้าลึก “ในขณะที่เรายังอยู่ในเมืองซี ฉันยังสามารถโต้ตอบกับสิ่งที่เธอพูดได้ แต่ถ้าเราจากไปแล้วและพวกเขาหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาพูดอีกครั้ง เราก็จะไม่สามารถทำอะไรได้เลย”โจชัวขมวดคิ้ว น้ำเสียงของเขาเย็นชาและใช้อำนาจในขณะที่เขากล่าวเย้ยหยัน “เธอคิดว่าฉันไม่สามารถจัดการกับตระกูลที่อ่อนแออย่างลาร์สันได้หรือไง?”ตราบใดที่ต้องการ โจชัวก็สามารถทำได้แม้ว่าพวกเขาจะออกจากเมืองซีไปแล้วก็ตามเขาจะทำให้เกว็นเก็บเรื่องนี้ให้เงียบไปตลอดกาลเองแน่นอนว่าลูน่าก็รับรู้ถึงความสามารถของเขาเช่นกันมันก็แค่...“ฉันไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณคุณมากเกินไป”เธอลดสายตาลงและมองดูอ
“คุณจะได้กลับไปหาลุงแอนดี้ค่ะ”จากนั้นเฮลีย์ก็เก็บโทรศัพท์ของตัวเองเข้ากระเป๋าแล้วจากไปและในทันทีที่เฮลีย์จากไป เกว็นก็ได้รับสายจากอลิซทันที“เกว็นนี่...” เสียงของอลิซที่ปลายสายดูเหมือนเธอกำลังร้องไห้ “ขอบคุณมากที่ช่วยฉันนะ! เธอเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดของฉันเลย!”เกว็นกัดริมฝีปากของเธอแน่นกว่าเดิม “ไม่เป็นไร…”อลิซคุยกับเกว็นอย่างตื่นเต้นอยู่พักหนึ่งก่อนจะวางสายไป“เกว็นนี่”เบ็นซึ่งนอนอยู่บนเตียงมองดูเกว็นอย่างจนปัญญา “คุณวางแผน…จะใส่ร้ายลูน่าในงานแถลงข่าวเช้าวันพรุ่งนี้จริง ๆ เหรอ?”เกว็นหลับตาลง “ฉันไม่มีทางเลือก”แม้ว่าลูน่าจะเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของเธอในโรงเรียนมัธยม แต่พวกเขาก็ไม่มีพลังมากพอที่จะต่อกรกับคนพวกนั้นอลิซได้รับการสนับสนุนจากเฮลีย์ ในขณะที่เฮลีย์ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลวอลเตอร์ซึ่งมีอำนาจมากพอที่จะควบคุมทั้งเมืองซีได้เธอไม่สามารถขัดขืนได้เลย…ลูน่านอนอยู่บนโซฟาและหลับไปโดยไม่รู้ตัวหลังจากนั้นโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นมันเป็นสายมาจากธีโอ“ลูน่า ตอนนี้คุณอยู่ไหน?” เสียงของเขาเต็มไปด้วยความวิตกกังวล “ผมเพิ่งออกมาจากสถานีตำรวจและได้ยินคนเริ่มพูดถึงคุณ ผมโท
ลูน่าขี้เกียจเกินกว่าจะมาพูดเรื่องไร้สาระกับอลิซต่อเธอมองไปยังผู้หญิงที่พยายามยั่วยุเธออย่างโจ่งแจ้ง “ถ้าเป็นอย่างนั้น คุณนายลินช์ คุณคงจะต้องจับตาดูเขาให้ดี ไม่อย่างนั้น…”ลูน่ายิ้มขณะที่เดินไปหาอลิซเพื่อกระซิบข้างหูเธอ “ไม่อย่างนั้น ถ้ามีผู้หญิงคนอื่นเข้ามาจับคุณลินช์ด้วย คำโกหกทั้งหมดของคุณก็จะสูญเปล่านะ”ลูน่าหันหลังและจากไป ปล่อยให้อลิซตกตะลึงและมีความโกรธเคืองปรากฏในดวงตาของเธออลิซยืนนิ่งอยู่ที่เดิมและมองดูลูน่าจากไปด้วยหมัดของเธอที่กำแน่นลูน่าจองหองมากกว่าเดิมอีก!…ที่ล็อบบี้ ลูน่านั่งลงบนโซฟาและรอให้ธีโอมาถึงเธอง่วงนอนเล็กน้อยจึงหลับตาพักผ่อนบนโซฟานิดหน่อย“วันนี้เจ้านายเราไปไหน?”“ฉันไม่รู้ ไม่ว่าเราจะติดต่อเขาอย่างไร ผู้ช่วยของเขาก็เป็นคนรับสาย แต่เราจะถือเอาคำพูดของผู้ช่วยมาเป็นคำสั่งจากเจ้านายไม่ได้น่ะสิ น่ารำคาญจริง ๆ เลย!”“เจ้านายมักจะมาตอนเที่ยงเพื่อตรวจดูทุกครั้งไม่ใช่เหรอ? วันนี้เขาไม่อยู่ที่นี่ มีอะไรเกิดขึ้นกับเขาหรือเปล่า?”เสียงของพนักงานโรงแรมดังก้องอยู่ในหูของลูน่าคิ้วของเธอขมวดเข้าหากันตามสัญชาตญาณ แอนดี้ ลาร์สัน หายตัวไปงั้นเหรอ?สัญชาตญาณข
เมื่อพวกเขาเข้าไปในห้องของเธอ ธีโอก็ล้างผลไม้และวางไว้ตรงหน้าลูน่า“คุณวางแผนจะทำยังไง? เมื่อกี้ระหว่างคุยโทรศัพท์ เบ็นยืนกรานว่าพวกเขาแค่พยายามเอาชีวิตรอด พวกเขาจะไม่ยกเลิกงานแถลงข่าวในวันพรุ่งนี้ และเกว็นก็กำลังดำเนินการตามแผนแล้วก็จะบอกเรื่องของคุณ”ลูน่าหันไปมองธีโอแล้วยิ้ม “คุณกำลังจะบอกว่าฉันจำเป็นต้องมีคำอธิบายตามไปด้วยเหรอ?”ธีโอหยุดนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้า“แต่ฉันไม่อยากทำแบบนั้น”ลูน่ายิ้มและกอดเข่าของเธอ เธอมองออกไปไกล ๆ “ธีโอ ช่วยอะไรฉันหน่อยสิ”…วันถัดมางานแถลงข่าวของเกว็นดำเนินไปตามแผนที่วางไว้ในหอประชุมขนาดเล็กใกล้กับโรงเรียนมัธยมโอเชียนเรย์หอประชุมเล็ก ๆ นั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยผู้คนจนเกือบล้นออกมาผู้สื่อข่าวคร่ำครวญถึงสถานที่ขนาดเล็กคับแคบนี้ขณะที่พวกเขาถ่ายรูปเกว็นที่อยู่บนเวทีตลอดเวลาเกว็นนั่งอยู่บนเวที เธอเอนหลังพิงเก้าอี้แล้วมองไปข้างหน้า โดยไม่รู้ว่าเธอกำลังมองอะไรอยู่ลูน่าแฝงตัวเข้าไปกับฝูงชนและนักข่าว ในมือของเธอคือบัตรผ่านที่ธีโอเอามาให้เธอเมื่อวันก่อนหน้านี้ลูน่าหามุมหนึ่งแล้วนั่งลงเธอสวมหูฟังไว้ที่หูซ้ายของตัวเอง เสียงของธีโอดังมาจากหูฟ
ธีโอไม่เจอแอนดี้เป็นไปได้มากว่าตระกูลวอลเตอร์คาดการณ์ไว้แล้วว่าจะมีใครบางคนพยายามพาตัวแอนดี้ ลาร์สันออกมา ดังนั้นพวกเขาจึงย้ายเขาไปที่อื่นล่วงหน้าในขณะนั้นไม่ว่าพวกเขาจะพยายามทำอะไร พวกเขาก็สายเกินไปแล้วลูน่าเงยหน้าขึ้นมองเกว็นบนเวทีด้วยใบหน้าว่างเปล่าไร้อารมณ์ดวงตาของลูน่าเต็มไปด้วยความสิ้นหวังเธอไม่มีสิทธิและไม่สามารถตำหนิเกว็นได้ท้ายที่สุดแล้ว สำหรับเกว็นแล้ว เธอเป็นเพียงเพื่อนสนิทในโรงเรียนมัธยมที่เธอไม่ได้พบมานานหลายปีเท่านั้นแต่คนที่ตระกูลวอลเตอร์จับไว้เป็นตัวประกันคือพ่อของเธอทุกคนต่างเห็นแก่ตัว เช่นเดียวกับลูน่า ทุกอย่างที่เธอทำก็เพียงเพื่อรักษาอาการเจ็บป่วยของไนเจลขณะที่ลูน่ากำลังเหม่อ เกว็นก็เริ่มพูดว่า “ฉันไม่พอใจลูน่ามาโดยตลอด”เกว็นจ้องมองกล้องของนักข่าวอย่างเย็นชา และน้ำเสียงของเธอก็มีพลังงานเช่นเดียวกับในดวงตาของเธอ“ตอนที่เธออยู่ในเมืองบันยัน มีข่าวฉาวและข่าวลือมากมายเกี่ยวกับการที่เธอพยายามยั่วยวนโจชัว ลินช์ ซึ่งโจชัวเป็นสามีของอลิซ กิบสัน เพื่อนข้างโต๊ะสมัยเรียนมัธยมปลายของฉันเอง ดังนั้นฉันจึงมีอคติต่อเธอตั้งแต่แรกเริ่ม”คำพูดของเกว็นทำให้บรรยากาศ
เกว็นยิ้มให้กล้องของนักข่าว “นี่คือความจริงค่ะ”นักข่าวบางคนยังไม่มั่นใจ “แต่คุณเกว็น รูปภาพที่คุณเผยแพร่ก่อนหน้านี้พยายามบอกเล่าเรื่องราวบางอย่างอย่างชัดเจน คุณยังบอกทุกคนด้วยว่าลูน่ากับโจชัวกำลังมีความสัมพันธ์กัน แล้วคุณจะอธิบายเรื่องนี้อย่างไร?”เกว็นสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วหัวเราะเบา ๆ “ฉันบอกได้แค่ว่าฉันกำลังถูกใครบางคนคุกคาม ส่วนเป็นใครฉันจะเปิดเผยทีหลัง ฉันยังบอกความจริงเบื้องหลังเหตุการณ์นี้กับทุกคนไม่ได้ เพราะมีหลายอย่างที่ฉันยังต้องทำให้แน่ใจ”จากนั้นเกว็นก็ยิ้มและลุกขึ้นยืน เธอโค้งคำนับให้กล้อง “ฉันต้องขอโทษสำหรับสิ่งที่ฉันพูดเมื่อวานนี้นะคะ ฉันขอโทษเพื่อนของฉันลูน่าด้วย ตั้งแต่แรกฉันก็เป็นคนเริ่มหาเรื่องเธอก่อน ฉันมุ่งเป้าไปที่เธอมาโดยตลอด แต่นอกจากเธอไม่ถือสาแล้ว เธอยังเต็มใจให้อภัยฉันและยอมกลายมาเป็นเพื่อนกับฉันด้วย ฉันมีความสุขจริง ๆ ค่ะ”เกว็นอยู่บนเวทีด้วยรอยยิ้มสดใสราวกับตอนพิธีบรรลุนิติภาวะในตอนนั้น“เหตุผลที่ฉันเลือกสถานที่นี้สำหรับงานแถลงข่าวก็เพราะว่าที่นี่คือที่ที่ฉันจัดเข้ารับพิธีบรรลุนิติภาวะ ก่อนหน้านี้ฉันกับเพื่อนรักเคยสาบานกันไว้ว่าเมื่อเราโตขึ้น เราควรมีค