องครักษ์ลับที่ถูกช่วยขึ้นมานอนคว่ำอยู่บนพื้น ร่างกายเปียกโชก สีหน้าซีดขาวไร้เลือดฝาดแม้ว่าชีวิตเขาจะไม่อันตราย แต่เพราะกลืนน้ำจากบ่อน้ำเข้าไปมาก ท้องจึงพองโตกลมใหญ่ เขาอยากอาเจียนแต่ก็อาเจียนไม่ออก ทรมานจนต้องกลิ้งเกลือกไปมาบนพื้นเจียงซุ่ยฮวนชำเลืองมองกล่องดำที่ก้นหลุม ไม่ทันได้พินิจดูอย่างละเอียด ก็รีบเดินไปยังข้างกายขององครักษ์ลับนางใช้มือกดท้องขององครักษ์ลับเบาๆ รู้สึกแข็งราวกับหินองครักษ์ลับร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด "โอ๊ย! เจ็บเหลือเกิน!""อดทนสักครู่ เดี๋ยวก็ดีขึ้น" นางสั่งให้ปาฟางและลิ่วลู่ช่วยพยุงองครักษ์ลับให้ลุกขึ้น จากนั้นวางฝ่ามือลงบนจุดชีพจรที่แผ่นหลังขององครักษ์ แล้วออกแรงดันขึ้นเบาๆองครักษ์ลับโค้งตัวลงในทันที เริ่มอาเจียนออกมาอย่างหนัก ขับน้ำทั้งหมดในท้องออกมาหลังจากที่เขาอาเจียนเสร็จ เจียงซุ่ยฮวนก็หยิบยาเม็ดหนึ่งและถุงน้ำออกมา แล้วกล่าวอย่างเคร่งขรึม "อ้าปากสิ"เขานั่งอยู่บนพื้นอย่างอ่อนแรง อ้าปากออกอย่างเชื่อฟัง "อ้า"เจียงซุ่ยฮวนยัดยาเข้าไปในปากของเขา แล้วป้อนน้ำให้ดื่มอีกอึกหนึ่ง "น้ำในสระนี้สกปรกมาก ถึงแม้จะอาเจียนออกมาแล้ว ก็ยังจะทำให้ท้องเสียอีกหลายวัน
เจียงซุ่ยฮวนส่ายหน้า "ข้าไม่หิว"เมื่อคนมากมายสูญเสียสติสัมปชัญญะไป ราวกับถูกแมลงเข้าสิง นางจะกินอาหารลงคอได้อย่างไรเมื่อนึกถึงแมลงเมื่อครู่ เจียงซุ่ยฮวนก็รู้สึกคลื่นไส้ขึ้นมาทันที บรรดาแมลงนับร้อยนับพันบินวนเวียนเหนือบ่อน้ำลึก หากไม่รู้คงจะคิดว่าพวกมันกำลังบดบังสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่...เดี๋ยว!เจียงซุ่ยฮวนเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว มองไปยังเพดานถ้ำเพดานถ้ำไม่เรียบเหมือนผนังหิน แต่มีก้อนหินแขวนอยู่มากมาย ดูขรุขระไปหมดบนเพดานถ้ำตรงเหนือบ่อน้ำลึก ดูเหมือนจะมีภาพวาดอยู่ แต่เนื่องจากมันมืดเกินไปจึงมองไม่ชัดเจียงซุ่ยฮวนเงยหน้าขึ้น ดึงแขนองครักษ์ลับที่เดินผ่านมาถามขึ้นว่า "เจ้าเอาตะขอกรงเล็บมาด้วยหรือไม่"“เอ่อ เอามาแล้วพ่ะย่ะค่ะ " องครักษ์ลับพยักหน้าเจียงซุ่ยฮวนชี้ไปยังลวดลายบนเพดานถ้ำ สั่งองครักษ์ลับว่า "เจ้าขึ้นไปดูสิว่าเป็นภาพอันใด"องครักษ์ลับเชื่อฟังคำสั่ง จากนั้นหยิบตะขอกรงเล็บออกมา อาศัยก้อนหินใหญ่บนเพดานถ้ำเป็นเป้า เมื่อตะขอกรงเล็บเกาะติดก้อนหินแน่นแล้ว เขาจึงปีนตามเชือกขึ้นไปเจียงซุ่ยฮวนถามเสียงดัง "เห็นชัดแล้วหรือไม่ เป็นลวดลายอะไรกัน""เห็นชัดแล้วพ่ะย่ะค่ะ เป็นใบหน้า
คนที่ถูกมัดหลายคนมองดูทรัพย์สมบัติที่ถูกเผาแล้ว ยืนงงอยู่กับที่ไม่ไหวติง ในดวงตาเต็มไปด้วยความงุนงงฉู่เฉินเป็นคนแรกที่ได้สติ ถามว่า "บรรดาลูกรักของข้าอยู่ไหน"เจียงซุ่ยฮวนชี้ไปที่เครื่องประดับทองคำและเงินที่กระจัดกระจายบนพื้น "นี่คือบรรดาลูกรักของท่าน""ไม่ใช่ ไม่ใช่!" ฉู่เฉินสั่นหัวแรง ๆ "นี่ไม่ใช่!""พวกมันคือลูกรักของท่าน เพียงแต่ถูกเผาไปรอบหนึ่ง"ฉู่เฉินนั่งทรุดลงกับพื้น ร้องไห้โวยวายว่า "ลูกรักของข้า! หายไปหมดแล้ว!""เจ้าเผาพวกมันตาย! เจ้าต้องชดใช้ข้า!"ขมับของเจียงซุ่ยฮวนเต้นแรงสองที ในที่สุดนางก็เข้าใจแล้ว ลูกรักที่ฉู่เฉินพูดถึงไม่ใช่ทรัพย์สมบัติพวกนั้น แต่กลับเป็นแมลง!แมลงที่ฟักออกมาจากอัญมณีสีน้ำเงิน!นางรู้สึกขนพองสยองเกล้า ไม่ต่อล้อต่อเถียงกับฉู่เฉินอีก หันเดินไปยังข้างบ่อน้ำลึกองครักษ์ลับตามมา คนในนั้นหลายคนเห็นบ่อน้ำลึกตรงหน้า ต่างก็พูดด้วยความประหลาดใจว่า "พวกกระหม่อมมาที่นี่แล้ว! คบเพลิงบนผนังถ้ำนี้ยังเป็นของที่เราวางไว้เลย""ข้ารู้" เจียงซุ่ยฮวนพยักหน้า นางชี้ไปที่บ่อน้ำลึกตรงหน้า "ข้าสงสัยว่าข้างในมีบางสิ่งบางอย่างที่ควบคุมอาจารย์และพวกคนอื่น ๆ "ลิ่วลู่
นางสั่นชุดป้องกันแรง ๆ เพื่อสะบัดแมลงให้หล่นลงมา แล้วใช้คบเพลิงเผาพวกมันให้ตายสั่นไปสั่นมา นางก็เข้าใจสิ่งหนึ่งขึ้นมาแมลงเหล่านี้กำลังคุ้มครองบ่อน้ำแห่งนี้ พวกมันไม่ยอมให้สิ่งใดเข้าไป แม้แต่ผ้าเพียงผืนเดียวในบ่อน้ำลึกมีอะไรกันแน่ในขณะที่เจียงซุ่ยฮวนกำลังคิดอยู่ ก็พลางใช้คบเพลิงเผาแมลงเหล่านี้จนหมดสิ้นนางไม่ได้หยุดพัก หันกลับไปที่กองทรัพย์สมบัติทันที แล้วรวบรวมทรัพย์สมบัติทั้งหมดเข้าไว้ด้วยกัน แล้วเอาผ้าจากห้องทดลองมาคลุม ราดแอลกอฮอล์ลงบนผ้าในที่สุด นางก็หยิบคบเพลิงมาจุดไฟให้กองสิ่งของเหล่านี้ทองแท้ไม่กลัวไฟ ไฟนี้อุณหภูมิไม่สูงพอ ไม่มีทางหลอมทองได้แต่สามารถเผาแมลงที่ยังไม่ฟักออกมาให้ตายได้อัญมณีสีน้ำเงินแตกกระจายในกองไฟ แมลงข้างในยังไม่ทันคลานออกมา ก็ละลายเป็นน้ำ ระเหยไปในไฟใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม แมลงในอัญมณีสีน้ำเงินทั้งหมดถูกเผาตาย เจียงซุ่ยฮวนรีบดับไฟ ไม่งั้นเผาต่อไปที่นี่จะขาดอากาศนางยังคงไว้ซึ่งความระมัดระวัง แล้วถือคบเพลิงค้นหาในถ้ำทั้งสองแห่งรอบหนึ่ง ดูว่ามีแมลงตัวไหนหลงเหลืออยู่หรือไม่เมื่อค้นหาไปหนึ่งรอบ ก็ไม่เห็นแมลงอีกสักตัว นางจึงวางใจลง ดูเหมือนแม
เจียงซุ่ยฮวนสงบสติอารมณ์ แล้วค่อย ๆ ก้าวเดินหนึ่งก้าว เข้าไปในถ้ำที่อยู่ตรงหน้าถ้ำนี้มีขนาดพอ ๆ กับถ้ำข้างหลัง แต่หนาวเหน็บและมืดมนกว่ามากรอบ ๆ ผนังถ้ำยังมีคบเพลิงที่องครักษ์ลับทิ้งไว้ นางหยิบคบเพลิงมาคบหนึ่ง แล้วเดินไปยังข้างบ่อน้ำลึกบ่อน้ำลึกตรงหน้ามีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณเจ็ดถึงแปดเมตร เนื่องจากแสงในถ้ำมืดมิด น้ำในบ่อจึงดำครึ้มเหมือนหมึกข้นทั้งยังเหมือนดวงตาที่ไม่มีขาวตา เมื่อจ้องมองนาน ๆ ดูเหมือนจะดูดดึงคนเข้าไปเจียงซุ่ยฮวนยืนอยู่ข้าง ๆ รู้สึกได้ถึงลมหนาวเย็นยะเยือกจากก้นบ่อพัดโชยขึ้นมา แม้นางจะสวมชุดป้องกันและถือคบเพลิงอยู่ ก็ยังหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะตัวสั่นด้วยความหนาวแมลงเล็ก ๆ ที่เกือบโปร่งใสพวกนั้นรวมตัวกันเป็นก้อนในอากาศ ผ่านไปข้าง ๆ นาง แล้วบินไปยังบ่อน้ำลึกแมลงเหล่านี้หยุดอยู่เหนือบ่อน้ำลึก เหมือนก้อนเมฆลอยขึ้นลอยลง ดูเหมือนกำลังคุ้มครองบ่อน้ำแห่งนี้เจียงซุ่ยฮวนหันกลับไปมองที่ถ้ำเมื่อครู่ กองทรัพย์สมบัติถูกนางคุ้ยจนเละเทะ อัญมณีสีน้ำเงินหลายก้อนแตกกระจายแมลงเกือบโปร่งใสคืบคลานออกมาจากไพลินอย่างไม่ขาดสาย เริ่มต้นด้วยการสั่นปีก แล้วโบยบินขึ้นไป รวมตัวเป็นก้อ
เจียงซุ่ยฮวนย่นคิ้วถามว่า "กระดูกอะไร""กระหม่อมลองดูแล้ว เป็นกระดูกสัตว์ป่าพ่ะย่ะค่ะ"นางพึมพำว่า "ไม่แปลกที่อุโมงค์นั้นจะมีแสงกระสือโผล่ออกมา"ต่อมา มีองครักษ์ลับอีกสามนายก้าวออกมา"พวกกระหม่อมเดินไปทางอุโมงค์สายที่สอง ปลายทางก็เป็นถ้ำเช่นกัน ข้างในมีบ่อน้ำลึก กระหม่อมลองใช้เชือกจุ่มดูแล้ว ลึกประมาณห้าเมตร""พวกกระหม่อมเดินไปยังอุโมงค์เส้นที่สี่ ปลายทางเชื่อมต่อกับถ้ำ ในถ้ำมีหีบใบหนึ่ง พวกกระหม่อมคิดวิธีหลายอย่างแล้ว แต่ก็เปิดหีบไม่ออก""พวกกระหม่อมไปยังอุโมงค์เส้นที่ห้า เดินเข้าไปในถ้ำแล้วพบว่าข้างในว่างเปล่า แต่ผนังถ้ำเต็มไปด้วยจิตรกรรมฝาผนัง"ฟังถึงตรงนี้ เจียงซุ่ยฮวนอดถามขึ้นไม่ได้ว่า "จิตรกรรมแบบใด""จิตรกรรมค่อนข้างเลือนลาง แลดูคล้าย ๆ เป็นหญิงสาวคนหนึ่ง แต่ว่าหญิงสาวนั้นกำลังทำอะไร กระหม่อมมองไม่ออกจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ"เจียงซุ่ยฮวนฟังแล้วครุ่นคิดอยู่นาน จึงกล่าวว่า "ข้าจะลงไปดูด้วยตนเอง"ปาฟางกล่าวห้ามว่า "พระชายา ข้างล่างนั้นอันตรายเกินไป คนที่ใช้มีดบินรูปผีเสื้อทำร้ายพี่น้องของเรา อาจยังซ่อนตัวอยู่ข้างล่างนั้นนะพ่ะยะค่ะ"เจียงซุ่ยฮวนกล่าวว่า "ข้าจะระวังให้ดี เจ้าทั้ง