“ผมกลัวว่าพี่เขาจะขึ้นเขามาเองแล้วเจอซอมบี้หรือสัตว์กลายพันธุ์ระหว่างทางต่างหากล่ะครับ”“งั้นไว้พี่ค่อยลงเขาพาน้องพลอยไปหาสัปดาห์ละวันก็แล้วกัน” เพราะไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดการฝึกเมื่อไหร่ ดีไม่ดีเฉินเฟิงกลับมาจากเมืองหลวงก็ใช่ว่าพวกเขาจะฝึกจบ“แบบนั้นก็ดีครับ” เจ้ากระต่ายพูดคุยอีกเล็กน้อยก็เดินลงเขาไปพร้อมกับนิโคลัสและหงส์ ระหว่างทางเขาก็ยังคงถูกต้นไทรร้อยปีดึงดูด“มีอะไร” นิโคลัสเห็นอีกฝ่ายนิ่งงันไปจึงเอ่ยปากถาม“ผมคิดว่าต้นไทรต้นนี้ต้องมีอะไรบางอย่าง” ครั้งแรกไม่เอะใจ แต่ครั้งที่สองค่อยเริ่มแน่ชัด เวลาที่ยืนอยู่ใต้ร่มเงาของมัน จิตใจที่เคยว้าวุ่นก็จะสงบลง“รู้สึกเหมือนได้รับการเติมเต็ม” แพทย์ทหารเองก็เริ่มเข้าใจว่าอะไรบางอย่างที่เฉินเฟิงพูดนั้นเป็นอย่างไร“เนอะ” เจ้ากระต่ายเงยหน้ามองกิ่งก้านของต้นไทรยักษ์ รากอากาศลู่ตามลม เป็นบรรยากาศที่ชวนให้อยากจะนั่งพิงลำต้นแล้วหลับสักงีบ“คงมีการกลายพันธุ์” ที่ไม่รู้ว่าดีหรือร้าย“ผมเคยมานั่งเล่นสมัยที่ยังไม่มีซอมบี้” เฉินเฟิงนึกย้อนไปถึงตนเองสมัยที่อยากมีบ้านหลังเล็ก ๆ บนภูเขาเหมือนพวกอินฟลูเอนเซอร์ต่างประเทศที่ชอบใช้ชีวิตอยู่ในป่าโดยการสร้างบ้านหรื
เฉินเฟิงมองออกไปด้านนอกอย่างสนใจ ตั้งแต่วันสิ้นโลกมาเยือน เขายังไม่เคยเห็นสภาพด้านนอกหมู่บ้านเลยสักครั้ง ถ้าเป็นช่วงปกติถึงจะเป็นชายขอบจังหวัดก็มักจะมีรถยนต์สวนกันไปมาสักคันสองคัน แต่ในเวลานี้กลับไม่มีเลย แถมยังมีรถที่คว่ำอยู่ข้างทางให้เห็นประปรายเจอซอมบี้เดินโซซัดโซเซอยู่ข้างถนน พอมันได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวก็จะเดินตามราวกับไม่รู้จักความเหน็ดเหนื่อย พอเสียงห่างไปไกลก็เดินไปยังทิศทางอื่นไม่ต่างจากหุ่นยนต์ที่ถูกตั้งโปรแกรมบ้านเรือนริมทางไร้ผู้อยู่อาศัยต่างก็รกครึ้มไปด้วยต้นไม้ที่กำลังรุกคืบเข้ามาแทนที่อย่างรวดเร็วหรือนี่จะเป็นการเอาคืนของธรรมชาติ เพราะแต่เดิมโรคระบาดที่แพร่กระจายอยู่ก่อนหน้านี้ก็มีแหล่งข่าวหลายแห่งออกมาสันนิษฐานว่ามาจากสัตว์ที่อาศัยอยู่ในถ้ำ ไม่นานก็แพร่กระจายมาสู่คนจากการนำมันมาปรุงอาหาร แต่บางแหล่งข่าวก็บอกว่าหลุดออกมาจากห้องวิจัยของมนุษย์เอง หลังจากนั้นก็เป็นมหกรรมโบ้ยกันไปมาของประเทศมหาอำนาจที่อยากจะโยนความผิดนี้ให้พ้นตัวเฉินเฟิงไม่ได้ตามข่าวนี้มากนัก แค่พยายามประคองตัวเองไม่ให้ตกงานก็เต็มกลืน แต่สุดท้ายก็ไม่รอดตกงานอยู่ดี…เส้นทางสายนอกส่วนใหญ่มีไว้สำหรับรถบร
“ปลิงทะเลแห้งครับ”“ปลิง…” สวนทางกับท่าทางเริงร่าของเจ้ากระต่าย นิโคลัสค่อย ๆ เลื่อนสายตาไปมองกล่องที่เขาเลือกเปิด ในนั้นยังมีปลิงทะเลแห้งถูกบรรจุอีกเป็นจำนวนมากเจ้าสิ่งนี้... กินได้จริงดิ?เฉินเฟิงมองสีหน้าปุเลี่ยนของคุณหมอแล้วก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ไม่แปลกที่คนต่างชาติจะไม่สันทัดอาหารหน้าตาแปลก ๆ แบบนี้ แต่อย่าดูถูกเห็นว่าหน้าตามันประหลาดเชียว ราคาถูกสุดของเจ้าสิ่งนี้มากกว่าอาหารทะเลทั่วไปเสียอีก ยิ่งถ้าเป็นปลิงทะเลที่มีระดับหน่อยอาจจะมีราคาค่าตัวหลักหมื่น ส่วนในกล่องพวกนี้ก็อยู่ในระดับปานกลางที่คนทั่วไปสามารถหยิบจับได้“ไว้จะทำให้กินนะครับ” วัตถุดิบเยอะขนาดนี้ก็ต้องลองให้อีกคนได้ลิ้มรสชาติอาหารบ้านเกิดของพ่อเขาสักหน่อย“เปิดได้ไหม” โจเซฟเดินมาดู“อาหารแห้งครับ เป็นอาหารแห้งของประเทศ C”“พอดีเลย” หัวหน้ากลุ่มทหารยิ้ม กำลังคิดอยู่เลยว่าต้องไปหาอาหารที่ไหนได้บ้าง“ครับ?” พอดี... พอดีอะไร“จะเข้าไปในค่ายได้ต้องมีการจ่ายค่าผ่านทาง ส่วนใหญ่ก็จะรับพวกอาหารและของใช้ที่ทางค่ายเห็นว่ามีประโยชน์ต่อส่วนรวม”“เอ๊ะ เก็บอาหารจากคนที่ออกไปข้างนอกเนี่ยนะครับ” ออกไปเสี่ยงแล้วยังต้องจ่ายด้วยเหรอ“เพ
“...” เกิดความเงียบขึ้นระหว่างเฉินเฟิงและหงส์ในทันทีเจ้ากระต่ายมองท่าทีเย็นชาของหญิงสาว แสร้งหรี่ตาจับผิด“หลอกผมไม่ได้นะครับ” ใช่แน่ ต้องแกล้งเขาแน่ ๆ รู้ทันหรอกน่า…“...” หงส์กดยิ้มมุมปากไม่พูดอะไร ใบหน้าสวยดูลึกลับยากจะตีความนัยถึงที่มาของรอยยิ้ม…ไม่จริงใช่ไหมเพราะถ้าใช่… ทีมนี้ไม่ควรเป็นทหารรับจ้างแล้วพวกเขาควรไปเป็นนักแสดงมากกว่า!“อะ หยอกเล่น” หงส์ยิ้มหัวเราะ เห็นคุณผู้ช่วยเชฟทำสีหน้าเหมือนกำลังกินของขมก็ทำใจแกล้งต่อไม่ลง ถ้าหูไม่ถูกเก็บไว้ใต้ฮู้ดเธออาจได้เห็นมันลู่ไปด้านหลังเพราะหวาดระแวงก็เป็นได้อืม… ไว้หาโอกาสแกล้งอีกดีกว่า~...กลับมาที่กลุ่มโจรนอกรถ คงต้องย้อนกลับไปเมื่อหลายชั่วโมงก่อน“ตื่นแล้วเหรอ” โจเซฟขับรถเลยจุดที่พวกเขาซ่อนรถบรรทุกมาเกือบ 2 ชั่วโมงแล้ว คนที่ตื่นขึ้นมาเป็นคนแรกกลับเป็นคุณหมอหมีผู้ใช้พลังไฟจนเหน็ดเหนื่อย“อืม” นิโคลัสสติยังไม่กลับมาดีนัก เขาตื่นมาเพราะรู้สึกหนักที่ไหล่ อีกทั้งกลิ่นที่กระทบจมูกก็เป็นกลิ่นที่เขาชอบมาก ๆกลิ่นป่าเขา…ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามีคนนอนซบไหล่อยู่“อีกนิดหน้าจะบานเท่าจานแล้ว” โจเซฟล้อ“หมายความว่ายังไง” แต่ดันลืมไปว่ามุกแบบนี้คน
“อย่าเพิ่งของขึ้น เดี๋ยวลงไปดูลาดเลาให้ก่อน” โจเซฟเห็นลูกทีมเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันอยากจะออกกำลังกายหลังตื่นนอกก็รีบห้าม กำลังคนพวกมันมากกว่า และบางคนก็เป็นมนุษย์กลายพันธุ์ ทั้งยังไม่รู้ว่ามีพลังพิเศษซุกซ่อนไว้หรือเปล่า “อยู่เฝ้ารถ ถ้าเห็นท่าไม่ดีก็ขับรถหนีไปเลย”“ก็รู้อยู่ว่าหงส์ขับไม่เป็น” หญิงสาวบ่นกระปอดกระแปด ไม่เชิงว่าขับไม่เป็นเสียทีเดียว แต่เธอเคยขับแค่สองครั้งตอนตุ่นสอนเท่านั้น และทั้งสองครั้งก็ทำกันชนหน้าบุบจนต้องเข้าศูนย์ ตั้งแต่นั้นมาสามีจึงไม่เคยให้เธอแตะต้องพวงมาลัยรถอีกเลย“เดี๋ยวผมลงไปด้วย” นิโคลัสบิดคอ ไล่ความเมื่อยขบ“ไหวเหรอ” เพิ่งใช้พลังจนหลับไปแท้ ๆ“ดีกว่าปล่อยให้คุณไปคนเดียวแล้วกัน” 10 รุม 1 นั่นออกจะมากเกินไป“ก็ได้ ๆ” โจเซฟยกมือยอมแพ้ ล้มเลิกความคิดจะออกไปฉายเดี่ยวเพื่อไล่เหน็บที่กินก้นเขาไปครึ่งซีก มีคนช่วยจะได้เสร็จเร็วปัง ๆแต่เหมือนคนด้านนอกจะร้อนใจ รอต่อไปไม่ไหว จากแค่เคาะก็เปลี่ยนเป็นทุบอย่างแรง เสียงนั้นดังมากจนทำให้เจ้ากระต่ายเริ่มขมวดคิ้วใกล้ตื่นเต็มที“ลงไปคุยกันก่อนเถอะ” นานกว่านี้เดี๋ยวเฉินเฟิงตื่น“โอเค คุยก่อนนะ” มุมปากหยักกดลึกเมื่อได้ยินเสียงคุณหม
นิโคลัสนิ่งฟังเสียงรอบด้านครู่หนึ่ง ไม่ได้ยินการเคลื่อนไหวใด ๆ เพิ่มเติมจึงมั่นใจว่าจะไม่มีการตลบหลังในระยะที่เขารับรู้ อีกอย่างหงส์เองก็ไม่ได้ออกมาเตือนด้วย คงมีแค่โจรสมัครเล่นพวกนี้เท่านั้น“ริอ่านเป็นโจรก็ต้องรับผลให้ได้” โจเซฟยืนกอดอกเปิดปากเทศนา“ครับ ๆ ขอโทษครับ พวกผมจะไม่ทำอีกแล้ว” หัวหน้าโจรที่มีสภาพสะบักสะบอมกว่าคนอื่นก้มหัวขอโทษ “ถ้าจะฆ่าก็ทำแค่ผมคนเดียวได้ไหมครับ เด็ก ๆ พวกนี้ผมเป็นคนโน้มน้าวให้เขาทำไม่ดีเอง” เห็นการต่อสู้เท่านี้ก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายถ้าไม่ใช่ทหารก็ต้องเป็นตำรวจดีไม่ดีในตัวอาจมีอาวุธที่ร้ายแรงกว่าปืนบีบีกันที่เขาพกอยู่ก็เป็นได้ ขืนดึงดันจะเล่นให้ถึงชีวิต คนที่สูญเสียหนักคงไม่พ้นพวกมันเอง“ขอโทษครับ เป็นเพราะแถวนี้อาหารถูกเอาไปหมดแล้ว พวกเรายังมีพี่น้องคนอื่นอีกเลยต้องออกมาดักปล้นเพื่อนำไปให้พวกเขา” ชายคนหนึ่งละล่ำละลักสารภาพ“คนอื่น?”“เป็นเด็ก ๆ จากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าครับ” เห็นว่ากลุ่มคนตรงหน้าให้ความสนใจ ชายคนที่พูดรีบอธิบายเพิ่มทันที“เหวอ!!” โจรมือสมัครเล่นสะดุ้งสุดตัวเมื่อถูกโจเซฟตรงมาที่ตนพร้อมกับจับไหล่แน่น“ที่ไหน! สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้านั่นอยู่ท
“แค่นี้ก็ไม่มีความสามารถ” ชายหนุ่มแค่นเสียง“...” ชายหนุ่มและหญิงสาว 10 กว่าคนเม้มปาก ใช่... พวกเขาไม่มีความสามารถจริง ๆ“เฮ้อ” หัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างถอนหายใจเสียงดัง หันไปมองทางนิโคลัสพลางอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง“สรุปก็คือคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มวัยรุ่นในละแวกนี้ มารวมกลุ่มกัน แล้วไปอาศัยอยู่ในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า?”“ใช่”“แล้วที่นั่นมีเด็กจริงหรือเปล่า” คุณหมอหมีถามกลับ“...” เออว่ะ“พวกเราควรไปเห็นกับตาก่อน” แค่ที่ให้ผักของเฉินเฟิงนั่นก็เกินพอแล้ว ถ้าไปถึงแล้วไม่มีเด็กสักคน ไม่ใช่ว่าพวกเขาถูกหลอกเหรอ?“อะแฮ่ม” โจเซฟเบือนหน้าออกจากสายตาตำหนิของแพทย์ในทีม ที่ประมาทไม่ยอมตรวจสอบให้ดีเสียก่อน หันไปตีหน้าขรึมใส่กลุ่มโจรอีกครั้ง “ถ้าอย่างนั้นนำทางพวกเราไปที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าที่พวกนายว่า แล้วเราจะตัดสินใจอีกทีว่าจะให้ความช่วยเหลือหรือเปล่า”“!!!” เห็นสีหน้าตื่นตกใจของหลายคน โจเซฟก็ใจแป้วไปแล้วว่าตนนั้นคงถูกต้มเป็นที่เรียบร้อย“ทำไม! หรือว่าพวกแกโกหก”“ปละ เปล่าครับ! พวกเราไม่ได้โกหกนะ” คนที่คุกเข่าอยู่บนพื้นรีบปฏิเสธเสียงดัง “พวกเราแค่… ไม่คิดว่าคุณจะยอมช่วยเด็ก ๆ” ชายคนหนึ่งที่
“มาครับ เดี๋ยวผมจะพาพวกคุณไปพบคุณแม่” หัวหน้าโจรปลดเสื้อเกราะกันกระสุนของตน แม้จะเป็นเสื้อกันกระสุนบีบีกันแต่เขาก็รักและหวงแหนมันมากเพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่เขาหยิบติดมือมาด้วยในขณะที่กำลังวิ่งหนีตายอยู่ในสนามบีบีกัน“นายเรียกเธอว่าแม่ นายเคยอยู่ที่นี่เหรอ” ทำไมเขาไม่เคยเห็น“ครับ ผมเคยอยู่ที่นี่เมื่อ 3 ปีก่อน”“หมายความว่าตอนนี้นายอายุ 21 ปี?”“ครับ? ทำไมคุณถึงรู้ล่ะ”“...” โจเซฟพูดไม่ออก หมอนี่มีใบหน้าที่ไปไกลกว่าอายุมากเลยทีเดียว ทำเอาเขานึกว่าเป็นรุ่นเดียวกัน พอได้ยินว่าเพิ่งพ้น 20 หมาด ๆ ก็ยากที่จะเชื่อ‘หนวดโค้งขนาดนั้นเป็นใครก็นึกว่าอยู่มาครึ่งชีวิต’ชายหนุ่มไม่ตอบคำถามของหัวหน้าโจรหรืออดีตเด็กในบ้านครูเมตตา แต่เลือกที่จะเดินนำไปยังห้องผู้อำนวยการอย่างคุ้นเคย“คุณเคยมาที่นี่เหรอ” มาถึงตรงนี้หัวหน้าโจรเองก็เริ่มเอะใจ ชายหนุ่มสามารถเดินนำตนได้ราวกับว่าเคยมา “หรือว่าคุณก็เคยมามอบทุนให้เด็กที่นี่”“ก็เคย” หลังจากที่ทำงานได้ 3 ปี เขามีกลับมามอบทุนการศึกษาให้กับพี่น้องบ้าง แต่พอเลือกเป็นทหารรับจ้างและออกไปรับภารกิจต่างประเทศก็แทบไม่ได้กลับมาอีกเลย“โอ๊ะ เจอพอดีเลย คุณแม่!” ชายหนวดโค้ง
หนึ่งชั่วโมงต่อมาทุกคนก็ไปรวมกันที่มินิมาร์ตอีกครั้ง หงส์กลับมาพร้อมกับคริสตัลซอมบี้สีใสจำนวน 12 เม็ด พวกมันถูกล้างทำความสะอาดมาเป็นอย่างดีแล้ว“แถวนี้ไม่ค่อยมีคนผ่านมาเลยเหรอเนี่ย” การที่มีคริสตัลเกิดขึ้นในสมองของซอมบี้ได้นั้น หมายความว่าเจ้าพวกนี้ไม่ใช่ซอมบี้ที่เพิ่งเกิดในเร็ว ๆ นี้“คนน่าจะไปกระจุกตัวอยู่ในเมืองกันหมดแล้วล่ะค่ะ” หงส์ให้ความเห็นอาหารเย็นวันนี้เป็นปลากระป๋องกับแครกเกอร์ที่เฉินเฟิงใช้มันฝรั่งบดผสมรวมกับแป้งแล้วนำไปอบ ใช้เป็นอาหารฉุกเฉินยามออกเดินทางเพราะมีน้ำหนักน้อยและไม่ต้องยุ่งยากกับการประกอบอาหารนอกบ้านสำหรับทหารที่ผ่านความเป็นความตายมานับครั้งไม่ถ้วน พวกเขากินกันไปเรื่อย ๆ อย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ มีเพียงดาริณีและพิมพาที่ต้องพยายามกินให้มากหน่อย แม้รสชาติจะแปลกแปร่งเพราะไม่เคยกินแครกเกอร์กับปลากระป๋องมาก่อน ก็ต้องฝืนกินเข้าไปอีกหลายคำ วันนี้ใช้พลังไปเยอะต้องชดเชยสภาพความเป็นอยู่หลังออกจากเซฟโซนนั้นต้องรัดกุมทุกด้าน พวกเธอขอติดตามมาด้วยจะต้องอดทนและเรียนรู้ที่จะยอมรับและผ่านมันไปให้ได้ในสักวันหนึ่ง“กินน้ำให้พอดีนะคะ” หงส์แนะนำ “เกิดปวดห้องน้ำตอนกลางคืนจะลำบาก”“ถ้
“ใจร้อนอะไรครับเนี่ย” เฉินเฟิงตำหนิ“ใครใช้ให้เลียเจ้านี่ล่ะ” เขาไม่ของขึ้นจนลากคนรักไปทำกิจกรรมบนเตียงให้ถึงที่สุดก็นับว่าอดทนมากแล้ว มีอย่างที่ไหนยกมือข้างที่เลอะน้ำกามของเขาขึ้นดม หรี่ตาสีแดงลงคล้ายครุ่นคิดแล้วใช้ลิ้นสีแดงสดเลียเบา ๆ เป็นใครจะไปทนไหวเล่นเอาสติขาดผึงเลยทีเดียวซึ่งเจ้ากระต่ายน่าตีก้นก็ไม่ได้สำนึก ยกมือข้างที่ว่าขึ้นมาให้อยู่ในระดับสายตา เพราะเมื่อกี้เผลอใช้มือข้างนี้ผลักอกคนรัก จึงมีบางส่วนที่ถูกเช็ดออกไปแล้ว“ก็ผมสงสัยนี่…” เฉินเฟิงคิดถึงการกระทำของตนเองเมื่อครู่ก็หน้าร้อนผ่าว แค่จินตนาการก็รู้สึกว่ามันต้องอีโรติกมากแน่ แต่จะให้ถอยก็ดูไม่เป็นตัวเขาสักเท่าไร “เลยอยากลองชิมว่ารสชาติเป็นยังไง” ช้อนดวงตากลมโตสีทับทิมเป็นประกายออดอ้อนคุณหมอหมีตัวโตที่ยังคงคร่อมอยู่ด้านบน“...” นี่กำลังพยายามแก้ตัวหรือยั่วเขาอยู่กันแน่ หือ “ที่รักทำแบบนี้พี่ของขึ้นอีกแล้วเห็นไหม” นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนก้มมองกลางกายของตนที่กลับมาแข็งตัวอีกครั้ง“ไม่เห็นเป็นไรนี่ครับ เป็นปฏิกิริยาตามธรรมชาติอยู่แล้ว” เฉินเฟิงยิ้มตอบพร้อมกับกระถดตัวลงไปอยู่ในระดับเดียวกับอาวุธของคุณหมอ“...”“เดี๋ยวผมปลอบให้มั
เฉินเฟิงนอนโรงพยาบาลเป็นคืนที่ห้าแล้วหลังจากฟื้นขึ้นมา เขายังคงกินนอนอยู่ที่นี่เพราะต้องทำกายภาพบำบัดให้ร่างกายกลับมาใช้งานได้ดังเดิมเมื่อเห็นว่าเจ้ากระต่ายปลอดภัยหายห่วง คนอื่น ๆ จึงเริ่มออกไปทำภารกิจกันถี่ขึ้น แม้แต่ทีโอเองก็ไม่ได้มานอนเฝ้าที่ห้องอีกแล้ว ภายในห้องจึงเหลือแค่ชายหนุ่มผมขาวและคนรักผู้มีใบหูหมีสีน้ำตาล กับคุณสิงหาที่จะแวะเวียนมาตรวจอาการทุกเช้าวันนี้ก็เช่นกัน หลังจากทำกายภาพในตอนเช้าเสร็จ แพทย์เจ้าของคนไข้ดันบอกว่าตอนนี้สภาพร่างกายของเขาดีขึ้นมาแล้ว หากจะทำกิจกรรมเข้าจังหวะกับคนรักก็ไม่มีปัญหามีสิครับหมอ!!เพราะเขากับนิโคลัสไม่เคยเกินเลยถึงขั้นนั้น ที่ผ่านมาก็มีแค่กอดกับจูบ ส่วนเรื่องเมคเลิฟอะไรนั่นตัดไปได้เลย ถ้าไม่ใช่นิโคลัสนอนเป็นผัก ก็มีภารกิจโหดหินรออยู่ พอรอดตายมาได้ก็กลายเป็นเขาที่นอนติดเตียงต่อ จะเอาเวลาไหนไปจู๋จี๋กันถามหน่อยไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยคิด แต่สถานการณ์มันไม่เอื้ออำนวยให้คิดต่างหาก แม้จะไม่รู้ว่าระหว่างเขากับคนรักจะดำเนินขั้นสุดท้ายของการเมคเลิฟแล้วจะเป็นยังไง แต่ถ้าค่อยเป็นค่อยไปโดยเริ่มจากบทรักสุดเบสิกได้ละก็… บอกเลยเขาสู้ตาย‘พี่นิค’ เจ้ากระต่ายมองค
ขนาดที่ค่ายพันธมิตรยังมีคนที่มีหูสัตว์เกลื่อนกลาด เรียกได้ว่ามีประชากรที่เป็นทั้งมนุษย์ธรรมดาและมนุษย์กลายพันธุ์อย่างละครึ่งเลยล่ะ ส่วนผู้มีพลังพิเศษไม่ว่าที่ไหนก็ยังมีจำนวนน้อยนิดเหมือนกันหมด“งั้นผมขอไปกักตัวที่บ้านก่อนนะ” การกักตัวกลายเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดไปแล้ว เมื่อไหร่ที่ออกไปด้านนอกจะต้องกักตัวเป็นเวลา 3 วัน ป้องกันไม่ให้นำเชื้อที่ติดตัวมาไปแพร่ใส่คนอื่นทั้งทางตรงและทางอ้อม“ครับผม” กลุ่มหน้าประตูสองคนเดินไปส่งเฉินเฟิงและนิโคลัสที่บ้าน ถ้าเกิดชายหนุ่มกลายเป็นซอมบี้ระหว่างทางก่อนถึงบ้านขึ้นมาคงเป็นเรื่องใหญ่ปังหลังประตูรั้วบ้านและประตูหน้าบ้านถูกปิด เฉินเฟิงก็มองสภาพบ้านที่ยังคงสะอาดสะอ้านไม่มีร่องรอยของคราบฝุ่นเป็นไปได้ยังไง?หรือว่าในตอนที่พวกเขาไม่อยู่มีคนเข้ามาอาศัย?“อ้อ พวกผมลืมบอกไป กลุ่มแม่บ้านเขาช่วยกันผลัดเปลี่ยนมาทำความสะอาดบ้านให้นะครับ พวกป้า ๆ เขาอยากตอบแทนเรื่องเสบียงสำรองที่ให้มา” เป็นกรที่ตะโกนมาจากนอกบ้านช่วยไขข้อข้องใจให้เจ้ากระต่ายพอดิบพอดี เกือบได้ระเบิดโทสะแล้วไหมล่ะ“ฝากขอบคุณด้วยนะ” เฉินเฟิงตะโกนกลับไป“ครับผม!” และได้รับการตะโกน
ลงมาถึงตีนเขาเฉินเฟิงก็แยกกับกลุ่มของโจเซฟ ชายหนุ่มยืนมองแก๊งจักรยานพากันปั่นเรียงแถวออกไปยังถนนเส้นใหญ่ที่เชื่อมติดกับทางเข้าหมู่บ้าน ยังดีที่บริเวณนี้ไม่มีซอมบี้เพ่นพ่านเพราะถูกกำจัดไปเยอะ อีกทั้งยังอยู่ห่างจากตัวเมืองที่มีประชากรมากก็ได้แต่หวังว่าพวกเขาจะปลอดภัยกลับมาอย่างสวัสดิภาพไม่สิต้องกลับมาปลอดภัยอย่างแน่นอน!“เอาไปกี่กล่องดี” นิโคลัสยกกล่องยาสมุนไพรออกมาจากหลังรถ“เอาไปสัก 3 กล่องก่อนก็แล้วกันครับ” ถือไปเยอะเดี๋ยวจะเด่นสะดุดตาเกินไป“โอเค” คุณหมอหมีพยักหน้าเข้าใจ ถือติดมือไปน้อยก็ดูไม่สมกับค่าครู แต่ถ้าเอาไปไปเยอะก็อาจทำให้บางคนเกิดความคิดไม่ดีขึ้นมาได้สมุนไพรแห้งเหล่านี้พวกเขาขนกลับมารวมแล้วมีมากกว่า 10 กล่อง นำขึ้นไปเก็บไว้บนภูเขาแล้ว 10 กล่อง ที่อยู่ตรงนี้จึงเป็นส่วนที่กันเอาไว้แบ่งปันให้คนในหมู่บ้านด้านล่างตั้งแต่ต้น แต่จะทยอยให้ทีละไม่มากไม่ให้ผิดสังเกต“ไม่รู้กลับหมู่บ้านครั้งนี้จะได้เจอกับป้ากิ่งแก้วอีกหรือเปล่านะครับ” เฉินเฟิงเอ่ยกลั้วหัวเราะ พวกเขาเจอกันทีไรมีแต่เรื่องชวนปวดหัวทุกทีถ้าให้เขาพูดแบบเห็นแก่ตัวหน่อยเขาอยากจะบอกเหลือเกินว่าถ้าหมู่บ้านนี้ขาดกิ่งแก้ว
“จักรยานมีทั้งหมด 5 คัน คนที่จะออกไปสำรวจก็คือ พี่ดา พี่พิม ตุ่น หงส์ และหัวหน้า ถูกต้องไหมคะ” หงส์ทวน พอดาริณียกมือขอไปด้วย โจเซฟก็ไม่รีรอรีบออกตัวว่าจะไปด้วยเช่นกันทันทีแหม… ไม่ค่อยออกนอกหน้าเลยนะหัวหน้า“อะไร… ก็แค่เห็นว่ายังมีจักรยานอยู่อีกหลายคัน” คนร้อนตัวรีบพูด“ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่คะ” หงส์หันไปหัวเราะคิกคัก ล้อเลียนคู่คนคุยที่หน้าแดงซ่านไปหมดแล้ว“แม่หน้าแดงมากเลย” ขนาดเด็กชายดลยังอดแซวแม่ตัวเองไม่ได้ตกลงเรื่องจำนวนคนกันเสร็จสรรพ ก็ออกไปจัดเตรียมแพ็กกระเป๋าบ้านใครบ้านมัน เฉินเฟิงเองก็เตรียมเก็บของเช่นกัน เพราะเขากับคนรักมีแพลนจะลงไปนอนที่บ้านของตนในหมู่บ้าน และถือโอกาสสอบถามหมอยาสมุนไพรว่าจะสามารถสอนความรู้ให้ตนได้หรือไม่หรือถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้นิโคลัสได้เรียนด้วย“เดี๋ยวนะครับ จะไปกันหมดวันนี้เลยเหรอ” ทีโอคิดว่าจะออกเดินทางในอีกวันหรือสองวันข้างหน้า ใครจะไปคิดว่าพอตัดสินใจเสร็จปุ๊บก็เก็บของปั๊บ“จะช้าอยู่ทำไมล่ะ ขืนมัวแต่โอ้เอ้คงมีคนอื่นตัดหน้าไปก่อน” หงส์“ตามใจ” ทีโอถอนหายใจ ดูท่าเย็นนี้คงต้องให้เด็ก ๆ กินปลากระป๋องแล้วล่ะ “ระวังตัวกันด้วยนะครับ”“คราวนี้ไม่ประมาทอีกแน่”
“ก็ดีนะ” นิโคลัสพยักหน้าเห็นด้วย“แต่น้ำมันรถที่มีจะไม่พอให้เราตะลอนหาของได้ตามใจชอบน่ะสิ” โจเซฟส่ายหน้าเห็นต่าง พวกเขาไม่มีถังน้ำมันสำรองกักตุนไว้ในปริมาณมาก ดังนั้นจึงค่อนข้างเป็นกังวลหากต้องนำรถออกไปตระเวนหาของอย่างไม่รู้ทิศทาง“ขี่จักรยานไปไง” หงส์เสนอ“ไหวหรือ?” โจเซฟไม่ได้มีเจตนาดูถูก แต่ขี่จักรยานไปในสถานการณ์ที่ไม่ปกติแบบนี้ค่อนข้างเสี่ยงเอาการ ไหนจะอากาศประเทศ T ที่ไม่ค่อยปกตินัก บางวันก็ร้อนจนอยากจะนั่งแช่น้ำทั้งวัน บางวันก็ฝนตกหวิดจะเกิดโรคระบาดจากน้ำอีกรอบ“ถ้ารู้เส้นทางเข้าเมืองก็ไม่น่าจะยากไม่ใช่เหรอคะ” อีกอย่างจักรยานที่เอามาก็เป็นจักรยานเสือภูเขา มีไว้สำหรับเร่งความเร็วอยู่แล้วถ้าเจอซอมบี้ก็แค่ใช้พลังสู้กับมัน“ถ้าไม่ออกไปหาของตอนนี้ อีกหน่อยก็ไม่เหลืออะไรให้หาแล้วล่ะค่ะ” พอมนุษย์ที่เคยเอาแต่หวาดกลัวเริ่มปรับตัวได้ พวกเขาจะสามารถเรียกความกล้าและออกไปผจญอันตรายเหมือนกับเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเธอเชื่อว่าอย่างนั้นไม่มีใครเอาแต่สั่นกลัวอยู่แต่ในบ้านได้หรอก“ถ้าอย่างนั้นพิมขอไปด้วยได้ไหมคะ” หญิงสาวยกมือ“แม่!” พลอยใสตกใจตาโต “ถ้าแม่ไปพลอยก็จะไปด้วย” เด็กสาวรีบยกมือตาม ก่อนจะ
“อร่อย! อร่อยมาก!!” เขาไม่เคยกินอาหารรสชาติแบบนี้มาก่อนเลย“อร่อยก็ดีแล้วครับ ปะ พวกเรายกไปที่โต๊ะเลยดีกว่า” เห็นคนรักไม่บาดเจ็บในปากก็โล่งอก ยิ้มกว้างให้กับเมนูอาหารในวันนี้ ดีที่ตอนนั้นหลังจากได้ชิมต้มหมูชะมวงของเชฟในครัวเขาก็ไปค้นหาสูตรอาหารชนิดนี้ในอินเทอร์เน็ตต่อ ทำพลาดอยู่ 4-5 จานก็ได้รสชาติคล้ายคลึงที่สุดเท่าที่จะทำได้อืม… เขาก็เก่งเหมือนกันนะเนี่ย //ยืดหลังอาหารทยอยเสิร์ฟขึ้นโต๊ะ ภาพบรรยากาศแสนสุขก็กลับมาอีกครั้ง เด็ก ๆ ตักแกงกินกับข้าวคำโต ผู้ใหญ่พูดคุยกันเรื่องสัพเพเหระ นั่งปรึกษากันว่าพรุ่งนี้จะทำอะไร มีตรงไหนต้องปรับปรุง พอของคาวหมดก็ต่อด้วยเมนูผลไม้ล้างปาก เป็นส้มโอที่ถูกบิเนื้อออกเป็นเส้น ๆ แล้วนำไปคลุกเคล้ากับน้ำตาลและน้ำปลา ได้รสชาติหวานเค็มตัดกับความเปรี้ยวอมหวานของส้มโอเมื่อไม่เหลืออาหารให้จัดการอีก ตุ่น หงส์ และทีโอก็อาสานำภาชนะทุกชิ้นไปล้างโดยมีเด็กซน 3 คนออกตัวว่าอยากไปช่วยล้างด้วย ไม่รู้ว่าไปช่วยหรือไปป่วนกันแน่ฟากมังคุดก็นั่งเลียปากเลียมือ นอนตีพุงอย่างสุขใจ มันเพิ่งเคยกินอาหารที่ชายหนุ่มทำแบบเต็มที่ เครื่องแน่น ๆ เน้น ๆ แบบนี้เป็นครั้งแรกอร่อยมาก… อร่อยจนไ
อีกสาเหตุหนึ่งที่เฉินเฟิงเลือกเมนูนี้ขึ้นมาก็เพราะตอนอยู่ในค่ายเขาได้ไปแลกบางสิ่งบางอย่างมาจากตลาดนัดในค่ายพันธมิตร ราคาของมันเรียกได้ว่าแพงหูฉี่ กระปุกหนึ่งราคา 8 แต้ม กว่าจะต่อรองมาได้ก็เปลืองน้ำลายไปเยอะ แต่พอแม่ค้าเห็นว่าโจเซฟยืนอยู่ด้านหลังกลุ่มก็ลดราคาให้อย่างเร็วเหลือเพียง 6 แต้ม สมกับเป็นเทพเดินดินของคนในค่ายพันธมิตรจริง ๆซึ่งเจ้าสิ่งนั้นก็คือ… กะปิและน้ำมันพืชนั่นเอง!ผู้คนส่วนมากในค่ายไม่นิยมทำอาหารกินเองเพราะใช้แต้มคะแนนไปแลกอาหารที่โรงอาหารได้หลากหลายกว่าเฉินเฟิงแทบจะใช้แต้มคะแนนที่มีทั้งหมดแลกมันมาให้ได้มากที่สุด มีน้ำปลากับซีอิ๊วหวานอีกอย่างที่ขาดไม่ได้เลย พอเห็นว่าตรงไหนมีวางขายก็อยากจะซื้อมาให้หมดเชฟใหญ่ประจำบ้านตระเตรียมวัตถุดิบประกอบอาหาร มองข้าวของบนโต๊ะที่มีครบอย่างที่อาหารจานหนึ่งควรจะเป็นด้วยสีหน้าอิ่มเอิบอา… มีเครื่องปรุงพร้อมนี่มันสวรรค์ชัด ๆอิ่มเอมกับบรรยากาศเครื่องปรุงและวัตถุดิบรอบตัวเรียบร้อยแล้วก็เริ่มจากทำเครื่องแกงก่อนเป็นอันดับแรก โดยคนที่รับหน้าที่นี้คือเฉินเฟิง ส่วนสองสาวจะนั่งฉีกใบชะมวงและหั่นเนื้อตะโขงแดดเดียว ก่อนจะนำไปล้างน้ำเพื่อล้างความเค็ม