เดิมทีชายหนุ่มไม่ได้มีพลังพิเศษตั้งแต่แรก เขาเป็นมนุษย์กลายพันธุ์เพียงอย่างเดียว แต่ในขณะที่ไปทำภารกิจครั้งแรกเขาพลาดพลั้งถูกซอมบี้ข่วนเข้าที่หลังคอทำให้ถูกกักตัวอย่างแน่นหนาเมื่อตรวจพล และเมื่อเขาอดทนผ่านพ้นมาอย่างปลอดภัยก็สามารถปลุกพลังพิเศษธาตุไฟขึ้นมาได้และนั่นทำให้ค่ายพันธมิตรได้รับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการที่มนุษย์รับเชื้อซอมบี้เข้าไปในร่างกาย ว่าอาจจะไม่ใช่ทุกคนที่จะกลายเป็นพวกมัน แต่กลับเป็นกำลังสำคัญให้กับฝั่งมนุษย์แทนซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่าการรับเชื้อเป็นครั้งที่สองจะทำให้เกิดอะไรขึ้นดังนั้นเขาต้องรีบฆ่าซอมบี้มนุษย์แมวให้ได้ เพราะถ้าเขาเป็นอะไรไป คนที่จะลำบากก็คือเจ้ากระต่ายดื้อ ใครจะไปยอมให้เป็นอย่างนั้นกัน!นิโคลัสใช้มีดเฉือนเนื้อบริเวณที่โดนข่วนออก ระหว่างนั้นก็กระโดดหลบการโจมตีพร้อมกับหาโอกาสพันผ้าห้ามเลือดไปในตัว เมื่อเช็กว่าอาการไม่ได้ร้ายแรงก็เป็นฝ่ายเริ่มปาลูกบอลไฟที่มีพลังทำลายล้างไม่ได้สูงมากแต่เน้นปริมาณตอบโต้กลับไป ทางหนึ่งก็หวังผลให้มันบาดเจ็บ ส่วนอีกทางหนึ่งก็คอยวิเคราะห์รูปแบบการโจมตีและการป้องกันของมันไปในตัวจากการสังเกตมาสักพักมันจะกระโดดหลบมากกว่าหาทางปัดป
นิโคลัสต้องใช้เวลาพักใหญ่กว่าจะสามารถย่างซอมบี้ที่ติดอยู่ภายใต้กับดักตะไคร่น้ำของเจ้ากระต่ายได้หมด อันดับแรกต้องใช้ไฟเผาให้น้ำระเหยไปเสียก่อน จากนั้นค่อยควบคุมไฟไม่ให้ลุกลามไปติดยังบ้านเรือนใกล้เคียงซอมบี้มากกว่า 50 ตัวติดไฟดีนักล่ะ“คราวนี้จะบอกผมได้หรือยังครับ” เฉินเฟิงเท้าสะเอวมองคนบาดเจ็บที่นั่งหมดแรงอยู่บนพื้น ส่วนซอมบี้ในกองเพลิงก็กลายเป็นขี้เถ้าไปหมดแล้วหลังถูกปิ้งย่างมาเกือบ 1 ชั่วโมง ระหว่างถามก็ตรวจเช็กเถาฟักทองที่ถูกลูกหลงจากพลังไฟทำให้เฉาจนกลายเป็นเส้นแห้ง ๆ พาดอยู่บนรั้วลวดหนาม จะให้ปลูกอีกก็ไม่ไหวดินแถวนี้ถูกเขาใช้สารอาหารแห้งไปหมดแล้วสุดท้ายก็เลือกต้นไม้ริมฟุตบาทต้นหนึ่ง ใช้พลังบังคับให้มันโน้มกิ่งและลำต้นลงมานอนราบไปกับพื้นถนนแทนรั้วลวดหนามที่ชำรุดไปก่อนชั่วคราว ถึงอย่างไรรั้วก็ไม่ได้พังทั้งหมด เท่านี้ก็น่าจะป้องกันซอมบี้ได้สักพักหากพวกมันบุกมาอีกแน่นอนว่าต้องไม่ลืมนำซากซอมบี้ในบริเวณใกล้เคียงมาร่วมสุมไฟด้วย ป้องกันไม่ให้เกิดโรคระบาดซ้ำหากมีฝนตกอีก“โดนข่วนน่ะ ผมเลยเฉือนเนื้อออกไปบางส่วนแต่คิดว่าคงจะไม่พอ” พูดแค่นี้เจ้ากระต่ายก็เข้าใจแล้วตอนนี้คุณหมอกำลังต่อสู้กับเ
เฉินเฟิงก็ไม่ได้เซ้าซี้อีก ถือว่าเขาเสนอไปแล้วในเมื่ออีกฝ่ายไม่รับก็ได้แต่พยายามพยุงกันไปเรื่อย ๆ แบบนี้แหละงี้ด!มังคุดยืนปักหลักอยู่หน้าสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า ใบหูสามเหลี่ยมกลมมนของมันตั้งตรงอยู่ตลอดเวลา จะบอกว่าเวลานี้มันตื่นตัวถึงขีดสุดก็ไม่ผิดนัก“ดูเหมือนทีมอื่นจะยังไม่เรียบร้อย” ยังมีเสียงการต่อสู้ดังอยู่เป็นระยะไม่ขาด“หวังว่าจะไม่บาดเจ็บกันนะ” เฉินเฟิงค่อนข้างเป็นกังวลในเรื่องนี้ อาการบาดเจ็บเพราะซอมบี้ยังไม่สามารถรักษาได้มีแต่ต้องวัดดวงกันอย่างเดียว“มังคุดรออยู่นี่นะเดี๋ยวออกมาหา” หันไปกำชับแร็กคูนยักษ์ที่ทำท่าจะเดินตามเขามาด้วยเจ้ากระต่ายพาคุณหมอหมีเข้ามานอนในห้องของพวกเขา ตอนแรกจะพาไปนอนห้องพักแขกในบ้านครูเมตตา เพราะอย่างไรที่นั่นก็มีพลังป้องกันของครูกางไว้อยู่ เป็นคนเจ็บเองที่ส่ายหน้าปฏิเสธ บอกว่าหากกลายเป็นซอมบี้ขึ้นมาจะแย่เอาเลยต้องหิ้วปีกกันไปยังบ้านพักของพวกเขาเอง“นอนในห้องนะครับ” เฉินเฟิงช่วยชายหนุ่มถอดรองเท้าแล้วพาไปยังห้องนอนของพวกเขา หมอหนุ่มทิ้งตัวนั่งที่ปลายเตียงอย่างหมดแรง อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นเรื่อย ๆ“ช่วยมัดขาผมไว้หน่อย” นิโคลัสร้องขอเสียงอ่อนแรง“แต่
เฉินเฟิงนั่งเหม่อมองมือตนกับมือของนิโคลัสที่กุมกันไว้ จนกระทั่งได้ยินเสียงเกาประตูเบา ๆ จากทางหน้าบ้านอา...เขาจะมัวอยู่ที่นี่ไม่ได้ อาจมีอีกหลายคนที่ต้องการความช่วยเหลือจากเขา“คุณต้องกลับมานะ” ชายหนุ่มค่อย ๆ วางมือคุณหมอให้แนบอยู่ที่ลำตัว ใช้หลังมือตนปาดน้ำตาออกจากใบหน้า เขาจะร้องไห้ไม่ได้นิโคลัสกำลังพยายามอยู่ ดังนั้นเขาต้องห้ามอ่อนแอเด็ดขาดริมฝีปากบางอ้าหุบสองสามครั้ง คล้ายยังมีอีกหลายอย่างที่อยากจะพูด ก่อนจะเม้มปากขยับใบหน้าตนเข้าไปใกล้คนป่วยมากขึ้นจุ๊บประทับริมฝีปากตนลงบนหน้าผากกว้าง“รออยู่นะครับ…” แล้วค่อยเลื่อนไปที่ใบหู กระซิบถ้อยคำแสนหวาน “คุณว่าที่แฟน รีบตื่นมาเป็นแฟนผมเร็ว ๆ นะ” หวังว่าคนป่วยจะรับรู้และกลับมาหาเขาในเร็ววันเจ้ากระต่ายสังเกตอาการคุณหมออยู่ครู่หนึ่ง นำผ้าสะอาดไปชุบน้ำมาเช็ดตามกรอบหน้าที่มีเหงื่อเย็นไหลซึมออกมา แล้วค่อยนำผ้าไปชุบน้ำอีกที บิดหมาด ๆ พับเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าวางนาบไปกับหน้าผากคุณหมอจะรีบกลับมาเช็ดที่เหลือให้ ตอนนี้เวลาไม่คอยท่าเขาทำให้ได้เท่านี้ เมื่อทุกอย่างกลับสู่สภาวะปกติเมื่อไหร่จะรีบมาดูแลให้ดีกว่านี้งี้ด“มาแล้ว ๆ” เจ้ากระต่ายผละตัวออกอ
การต่อสู้กับซอมบี้ วิทย์ไม่สามารถนำบีบีกันออกมาใช้ได้เลย พลังทำลายล้างของปืนสำกรับการกีฬาย่อมไม่เพียงพอที่จะฆ่ามันได้ในครั้งเดียว หรือต่อให้ยิ่งโดนดวงตามันก็ไม่รู้สึกรู้สาเพราะไม่มีความเจ็บปวดหลงเหลืออยู่แล้ว มีแต่ต้องใช้ปืนจริงยิงเจาะสมองมันให้ได้เท่านั้นเฉินเฟิงรีบเดินไปใกล้แนวป้องกันจากนั้นก็ใช้พลังควบคุมให้ต้นไม้ข้างทางโน้มลงมาปิดเส้นทางก่อนชั่วคราว อีกทางหนึ่งก็ใช้พลังเร่งโตให้เมล็ดแตงโม พามันไต่เลื้อยไปตามถนนจนถึงจุดที่คิวและซอมบี้วิวัฒนาการกำลังต่อสู้กันอยู่ความเร็วของมันเทียบเท่าได้กับซอมบี้ที่เฉินเฟิงเคยเจอในป่าอ้อย รวดเร็วแต่ก็ไม่มากพอสำหรับเขาที่ได้รับการฝึกฝนมาบ้างแล้วเถาแตงโมเลื้อยไปใกล้กับซอมบี้มากขึ้นและคิดว่าลูกทีมของวิทย์คนนี้เองก็เห็นมันแล้วเช่นกัน ชายหนุ่มจึงพยายามใช้พลังผลักดันให้มันไม่อาจออกห่างจากจุดที่กำลังต่อสู้อยู่ได้หมับ!ซอมบี้ที่กำลังหาทางโจมตีต่อเป็นต้องชะงักเมื่อมันไม่สามารถควบคุมขาทั้งสองของมันได้ดั่งใจ อีกทั้งพอมันพยายามดิ้นรนกลับกลายเป็นว่ามันเสียหลักล้มกลิ้งไปกับพื้น“จับได้แล้ว!” เจ้ากระต่ายร้องลั่นด้วยความดีใจ เถาแตงโมที่ดูบอบบางแต่ถ้ารัดพันหลาย
แม้จะเหนื่อยสายตัวแทบขาด แต่เฉินเฟิงรีบเข้าไปชำระร่างกายตัวเองจนสะอาด จากนั้นก็ถืออ่างน้ำเข้ามาในห้องนอนจัดการถอดเสื้อผ้านิโคลัสออก ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตามตัว ล้างทำความสะอาดทั้งตัวตามที่ตั้งใจไว้และทำแผลให้ใหม่คราวนี้เจ้ากระต่ายไม่ได้เขินอายเท่าไรนัก เพราะมีความเป็นห่วงมากกว่า ตอนถอดเสื้อผ้ารวมถึงกางเกงก็พยายามสำรวจดูอีกว่าคนป่วยมีบาดแผลตรงไหนเพิ่มหรือเปล่า นอกจากรอยเฉือนใหญ่ ๆ ตรงต้นแขนข้างซ้ายแล้ว จุดอื่นก็มีถลอกบ้างแต่ไม่ใช่ลักษณะอาการบาดเจ็บที่เกิดจากฟันหรือเล็บของซอมบี้คุณหมอหมีมีใบหน้าซีดขาว ลมหายใจร้อนผะผ่าวถูกพ่นออกมาอย่างต่อเนื่อง ปากบางซีดจนน่าใจหาย บางครั้งก็สั่นระริกเพราะอุณหภูมิร่างกายแปรปรวนเดี๋ยวร้อน... เดี๋ยวหนาวเฉินเฟิงมองสภาพของคุณหมอตัวโต ใจที่พยายามสร้างกำแพงเข้มแข็งก็พลันอ่อนยวบ“ผมกลับมาอย่างปลอดภัยแล้วนะ” ชายหนุ่มทิ้งตัวนั่งข้างเตียง ยกมือขึ้นเกลี่ยแก้มคนป่วย “แต่ทีมของคุณวิทย์มีคนบาดเจ็บพอสมควรเลยครับ” ในขณะที่พูดก็ล้มตัวลงนอนเคียงข้าง“ถ้าผมไปเร็วกว่านี้ก็คงจะดี” อาจจะมีคนบาดเจ็บน้อยลง“อึก” นิโคลัสครางออกมาจากลำคอด้วยความเจ็บปวดเจ้ากระต่ายจึงรีบผละตัวออก มอ
ตัวเขาเองก็เสียใจไม่ต่างกัน เป็นถึงหัวหน้าแต่ไม่สามารถปกป้องลูกน้องได้ แผนที่เคยคิดไว้ว่าดี มาตอนนี้กลับพังไม่เป็นท่า หากไม่ได้คุณนิโคลัสและคุณเฉินเฟิงช่วยไว้ ป่านนี้คงตายกันไปหมดแล้วโดยเฉพาะคุณหมอนิโคลัสที่สู้อย่างยากลำบากกับซอมบี้มนุษย์กลายพันธุ์ ยอมรับเลยว่าตอนเขาได้ยินเรื่องนี้ครั้งแรก หัวใจแทบหยุดเต้นซอมบี้ธรรมดาก็ว่าแย่แล้ว ถัดมาก็เป็นซอมบี้วิวัฒนาการที่แสนน่ากลัว แล้วนี่ยังจะมีซอมบี้ที่เป็นมนุษย์กลายพันธุ์อีก!ซอมบี้เพิ่งจะมีบนโลกไม่ถึงครึ่งปี พวกมันกลับพัฒนาเร็วจนน่ากลัวเร็วจนแม้แต่มนุษย์ก็แทบจะตามไม่ทัน…บรรยากาศในบ้านครูเมตตาที่เคยมีแต่เสียงหัวเราะของเด็กเล็กเงียบลงถนัดตา มีแต่ความเศร้าหมองลอยอบอวลเต็มไปหมดมังคุดที่ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรก็พลอยทำตัวสงบเสงี่ยมไปกับเขาด้วย ไม่เข้าไปใกล้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าให้ใครหลายคนตกใจเล่นอีก เอาแต่นอนหมอบอยู่หน้าบ้านเฝ้ารอให้เจ้านายอีกคนตื่นขึ้นมาพามันวิ่งรอบเมืองดั่งเช่นทุกเช้าก่อนหน้านี้คุณหมอเคยติงว่าเจ้ามังคุดอ้วนเกินไป หากปล่อยทิ้งไว้อาจมีภาวะไขมันอุดตันในเส้นเลือดได้ควรให้มันออกกำลังกายบ้างเฉินเฟิงนึกว่ามังคุดจะต่อต้านไม่ทำตาม
1 เดือนผ่านไป“คุณหมอเป็นยังไงบ้างครับ” วิทย์นำอาหารจากบ้านครูมาส่ง ทุกคนในบ้านจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันนำมาให้เสมอ และไม่ลืมถามไถ่อาการของคุณหมอที่สลบไปจนครบ 1 เดือนแล้ว“ยังไม่รู้สึกตัวเลยครับ วันนี้ก็พยายามป้อนน้ำผักให้ก็คายออกมามากกว่าลงกระเพาะ” เจ้ากระต่ายถอนหายใจเสียงดังอย่างไม่ปิดบังสลบไป 3 วัน เฉินเฟิงไม่ได้ร้อนใจนัก ดีใจเสียอีกที่อย่างน้อยคนคนนี้ก็ไม่ได้กลายเป็นซอมบี้ แต่พอผ่านมา 5 วันก็เริ่มกลัวว่าจะไม่มีสารอาหารในร่างกายจนตายไปทั้งแบบนี้แทนวิทย์กลับกลุ่มเพื่อนเลยอาสาออกไปหาคลินิกหรืออนามัยใกล้ ๆ ดูว่าพอจะหาน้ำเกลือหรืออาหารเสริมมาได้บ้างหรือเปล่าไป 2 วันกลับมาพร้อมกับน้ำเกลือ 10 ถุง ตอนแรกก็คิดว่าคงจะเพียงพอ แต่ใครจะไปคิดว่าคุณหมอจะหลับไปถึง 1 เดือนเพราะไม่มีใครรู้การแพทย์ วิธีการดูแลคนป่วยจึงเป็นไปอย่างยากลำบาก ถ้าคุณหมอฟื้นขึ้นมาคงต้องขอให้เปิดคอร์สติวสอนการแพทย์เบื้องต้นให้สักหน่อยแล้ว อย่างน้อยก็จะได้ไม่ต้องมานั่งลองผิดลองถูกคลำหาเส้นเลือดแบบนี้ ดีที่ครูเมตตาพอจะทำได้อยู่บ้างเพราะเคยเรียนปฐมพยาบาลมาในสมัยยังสาวและเคยขอความรู้เพิ่มเติมจากหมอในโรงพยาบาลเด็กมาก่อนไม่อ
“ดูเหมือนจะมีการแจกจ่ายงานด้วย” เด็กสาวยิ้มยินดี จะให้ล้างจานหรือกวาดถนนก็ทำได้ทั้งนั้น ขอแค่สามารถมีชีวิตต่อไปในแต่ละวันก็พอกลุ่มผู้รอดชีวิตบางคนก็มีชีวิตที่ดีขึ้นหลังได้ออกมาอยู่รวมกันในค่าย ไม่ต้องคอยหวาดระแวงในเวลากลางคืน ขอแค่ขยันอดทนก็ทำงานแลกข้าวกินได้ 3 มื้อ ไม่ต้องอดอยาก แต่บางคนที่หลงเข้าไปในค่ายที่มีการจัดการที่ค่อนข้างแย่ อีกทั้งยังผูกขาดอาหารและน้ำไว้ที่กลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง ใครที่เผลอหลงเข้าไปต่อให้อยากหนีก็มีแต่ต้องทิ้งชีวิตแล้วไปเกิดใหม่อย่างที่โจเซฟและกลุ่มจะได้เจอหลังจากนี้...“จะเข้าไปที่ห้างเหรอ เสียใจด้วยนะ ถิ่นนี้พี่จอง” ก่อนถึงห้างสรรพสินค้า ตุ่นและหงส์รับรู้ได้ว่ามีคนจับจองที่แห่งนั้นเป็นฐานที่มั่นแล้ว เพราะมีทั้งเสียงผู้คนเดินขวักไขว่ไปมา และมีเสียงการฆ่าซอมบี้ด้วยเช่นกัน โจเซฟตัดสินใจจะแสดงเป็นกลุ่มผู้รอดชีวิตที่มาหาที่พึ่งเพื่อดูว่าค่ายขนาดเล็กนี้มีความเป็นอยู่อย่างไร ถ้าหากเจรจากันได้ก็จะลองพูดคุยดู แต่สีหน้าและท่าทางของหงส์ก็ทำให้เขาเปลี่ยนใจ“เปล่า พวกเราแค่ผ่านมา” โจเซฟมองชายที่สักลายไว้ทั่วตัว หมอนั่นถือขวานขนาดใหญ่ไว้ ตามร่างกายมีเกล็ดขึ้นประปราย คล้ายกั
กลุ่มค้นหาสิ่งของจำเป็นทำแบบนี้อยู่หลายวัน บางสถานที่ก็เก็บกวาดมาได้เยอะ และบางทีก็เรียกได้ว่ามาเสียเที่ยว จนกระทั่ง 2 สัปดาห์ต่อมาพวกเขาก็ได้พบกับกลุ่มผู้รอดชีวิตกลุ่มใหญ่ที่กำลังมุ่งหน้าเข้าตัวเมือง“พวกคุณก็จะเข้าตัวเมืองเหมือนกันเหรอ” ชายชราคนหนึ่งถาม เขาถูกลูกหลานคะยั้นคะยอให้ออกจากบ้านหลังเก่าที่ใช้ซุกหัวนอนมาหลายชั่วอายุคน เหตุผลเพราะละแวกที่อยู่อาศัยไม่สามารถหาอาหารได้อีกแล้ว ประจวบเหมาะกับมีคนออกมาทำภารกิจและบอกว่าในตัวเมืองมีค่ายพิเศษที่นักการเมืองในท้องถิ่นเป็นคนจัดตั้งขึ้น พวกเขาจึงหมายมั่นปั้นมือว่าจะไปเข้าร่วมด้วยเดิมทีพวกเขาเป็นครอบครัวใหญ่ที่อาศัยอยู่ในโฉนดที่ดินเดียวกัน เพราะเป็นญาติพี่น้องที่บรรพบุรุษแบ่งสันปันส่วนที่ทางให้แต่ละคนปลูกบ้านและทำมาหากินร่วมกัน เมื่อถึงเวลาฉุกเฉินจึงรวมตัวกันช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้อย่างรวดเร็ว พวกเขามีตั้งแต่คนแก่อายุ 60 ปีขึ้นไป และเด็กน้อยไม่ประสาลืมตาดูโลกไม่ถึงหนึ่งขวบปีดี เมื่อนับรวมกันแล้วก็มีมากกว่า 10 ชีวิตพวกเขาสามารถประคับประคองจนผ่านพ้นวิกฤตต่าง ๆ มาได้ แม้กระทั่งฝนตกและมีผู้ติดเชื้อจำนวนมหาศาลมาป้วนเปี้ยนหน้าบ้านก็ไม่หวั่
…ภายนอกอาคารนั้นเงียบสงัดไม่มีเสียงการเคลื่อนไหวเลย นั่นหมายความว่าสถานที่แห่งนี้ไม่มีใครอยู่อีกแล้ว มีเพียงตัวอาคารที่ถูกธรรมชาติค่อย ๆ คืบคลานเข้ามากลืนกินรอบนอกอาคารเต็มไปด้วยวัชพืชหลากหลายพันธุ์ พวกมันงอกแทรกขึ้นมาตามร่องอิฐตัวหนอนที่ถูกนำมาปูเป็นทางเดิน โชคดีที่ตอนนี้เป็นเวลากลางวัน หากเปลี่ยนเป็นตอนกลางคืนคงให้ความรู้สึกเหมือนกำลังออกไปล่าท้าสิ่งลี้ลับจนตุ่นขวัญผวาเกาะคนรักไม่ปล่อยแน่ ๆครืด…เสียงประตูฝืดเฝื่อนถูกเลื่อนออกด้วยสองมือของโจเซฟ ด้านบนมีกล่องเซนเซอร์ที่ในอดีตเคยจับการเคลื่อนไหวและเปิดประตูบานนี้อัตโนมัติ เพียงแต่ในเวลานี้ไม่มีกระแสไฟฟ้าที่เป็นแหล่งพลังงานให้มันอีกแล้ว ดังนั้นใครที่ต้องการเข้ามาภายในสำนักงานก็จำเป็นต้องลงแรงเปิดด้วยตัวเอง“สวมหน้ากากกันแก๊สไว้ก่อน” โจเซฟเห็นฝุ่นด้านในฟุ้งตลบก็ออกคำสั่งต่อทันทีดาริณีกับพิมพาได้รับหน้ากากนี้มาตั้งแต่วันที่ออกเดินทางวันแรก พวกเธอหยิบมันขึ้นมาสวมใส่อย่างว่าง่าย นอกจากฝุ่นที่ยังลอยเอื่อยอยู่ในอากาศ สภาพภายในอาคารก็บ่งบอกถึงการได้รับความเสียหายเช่นกัน ไม่ว่าจะโต๊ะ เก้าอี้ หรือชั้นวางเอกสารต่างถูกตั้งวางไว้ตามมุมหน้าต่าง
พอถึงระยะที่กำหนด ทุกคนก็ลงจากจักรยานแล้วใช้วิธีการเดินเท้าไปจนถึงจุดที่มีซอมบี้ระดับหนึ่งเดินโขยกเขยกอยู่กลางถนน พวกมันเดินจับกลุ่มกัน ลักษณะการแต่งกายคล้ายคลึงกับเจ้าหน้าที่รัฐจากสำนักงานที่ไหนสักแห่งเพราะอยู่ในชุดสีกรมท่าเหมือนกันทั้งหมด ตามตัวมีรอยแผลเหวอะหวะจากการกัดฉีก“ไม่มีซอมบี้วิวัฒนาการ” หงส์กะจากสายตาบวกกับลางสังหรณ์ของตน “มีแต่ระดับหนึ่งก็จริง แต่จะประมาทไม่ได้นะคะ” พร้อมกับเอ่ยเตือน“รับทราบค่ะ” พิมพามองซอมบี้ที่กำลังมุ่งหน้ามาทางตนก็กลืนน้ำลายลงคออึกหนึ่ง เรียกขวัญและกำลังใจให้ตนเองก่อนลงมือ“งั้นลุยเลยนะคะ” ดาริณีทุบกำปั้นปะทะฝ่ามือของตนเอง เกิดเสียงแน่นหนักชวนให้รู้สึกว่าต้องเจ็บตัวแน่หากโดนหญิงสาวเหวี่ยงหมัดใส่สักครั้ง“ลุยเลยครับ” สิ้นเสียงโจเซฟ พิมพาก็วิ่งขึ้นหน้า เหวี่ยงมีดยาวฟันเข้าที่แขนของซอมบี้ที่ตรงมายังเธอก่อนเป็นตัวแรก จากนั้นก็มุดลงต่ำ ให้ดาริณีที่วิ่งมาจากด้านหลังเหวี่ยงขวานใส่ลำคอของมันทันทีตุบการประสานงานของทั้งคู่เป็นไปอย่างไหลลื่น ความดีความชอบนี้ต้องยกให้กับครูฝึกสุดเข้มงวดอย่างโจเซฟที่พยายามให้หญิงสาวทั้งสองฝึกการต่อสู้มาก่อนจากบนภูเขา ทำให้ร่างกา
คำถามนี้วนเวียนอยู่ในหัวของเด็กน้อยทั้งสามจนกระทั่งผล็อยหลับไป ตอนเช้าหลังจากกินอาหารที่กักตุนในถ้ำเรียบร้อยก็ตรงดิ่งไปหาทีโอพร้อมกับคำถามที่ยังไม่ได้คำตอบ“ทำไมพี่หงส์ถึงมีเขาบนหัวล่ะครับ” เด็กชายดลถาม พวกเขาปรึกษากันก่อนออกจากฐานทัพลับแล้ว เนื่องจากดลอยู่กับกลุ่มทหารรับจ้างกลุ่มนี้มานานกว่าพลอยใสและปอนด์ เด็กชายจึงต้องรับหน้าที่ในการถามคำถามที่แสนละเอียดอ่อนนี้ ซึ่งดลเองก็ไม่ได้มองว่าเพื่อนโบ้ยงานมาให้ตนแต่อย่างใด เดินหน้าถามทันทีที่เห็นพี่ชายผู้ใช้พลังโลหะ“ไปอ่านเจอมาจากที่ไหนล่ะ” ชายหนุ่มยิ้มเอ็นดู“พวกเราเจอในหนังสือสารคดีครับ” ปอนด์หยิบหนังสือดังกล่าวออกมาโดยจงใจเปิดหน้าที่มีภาพประกอบของกวางเพศผู้และกวางเพศเมียที่อ่านเจอเมื่อคืนให้คนอายุมากกว่าดู“อ๋อ สารานุกรมสัตว์โลก” ทีโอพยักหน้าเข้าใจ เห็นเด็ก ๆ ตั้งใจอ่านหนังสือที่เต็มไปด้วยสาระความรู้ก็เผลอเปรียบเทียบกับตัวเองเมื่อสิบกว่าปีก่อนที่มักออกไปร้านเกมคาเฟ่หรือไม่ก็เล่นเกมการ์ดกับเพื่อน คิดไม่ออกเลยว่าอีกหลายสิบปีต่อจากนี้จะมีเด็กฉลาดอย่างสามคนนี้เกิดขึ้นมาอีกมากแค่ไหน…พอหมดซอมบี้ โลกต้องพัฒนาอย่างก้าวกระโดดแน่“หรือเพราะพี่หงส
หนึ่งชั่วโมงต่อมาทุกคนก็ไปรวมกันที่มินิมาร์ตอีกครั้ง หงส์กลับมาพร้อมกับคริสตัลซอมบี้สีใสจำนวน 12 เม็ด พวกมันถูกล้างทำความสะอาดมาเป็นอย่างดีแล้ว“แถวนี้ไม่ค่อยมีคนผ่านมาเลยเหรอเนี่ย” การที่มีคริสตัลเกิดขึ้นในสมองของซอมบี้ได้นั้น หมายความว่าเจ้าพวกนี้ไม่ใช่ซอมบี้ที่เพิ่งเกิดในเร็ว ๆ นี้“คนน่าจะไปกระจุกตัวอยู่ในเมืองกันหมดแล้วล่ะค่ะ” หงส์ให้ความเห็นอาหารเย็นวันนี้เป็นปลากระป๋องกับแครกเกอร์ที่เฉินเฟิงใช้มันฝรั่งบดผสมรวมกับแป้งแล้วนำไปอบ ใช้เป็นอาหารฉุกเฉินยามออกเดินทางเพราะมีน้ำหนักน้อยและไม่ต้องยุ่งยากกับการประกอบอาหารนอกบ้านสำหรับทหารที่ผ่านความเป็นความตายมานับครั้งไม่ถ้วน พวกเขากินกันไปเรื่อย ๆ อย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ มีเพียงดาริณีและพิมพาที่ต้องพยายามกินให้มากหน่อย แม้รสชาติจะแปลกแปร่งเพราะไม่เคยกินแครกเกอร์กับปลากระป๋องมาก่อน ก็ต้องฝืนกินเข้าไปอีกหลายคำ วันนี้ใช้พลังไปเยอะต้องชดเชยสภาพความเป็นอยู่หลังออกจากเซฟโซนนั้นต้องรัดกุมทุกด้าน พวกเธอขอติดตามมาด้วยจะต้องอดทนและเรียนรู้ที่จะยอมรับและผ่านมันไปให้ได้ในสักวันหนึ่ง“กินน้ำให้พอดีนะคะ” หงส์แนะนำ “เกิดปวดห้องน้ำตอนกลางคืนจะลำบาก”“ถ้
“ใจร้อนอะไรครับเนี่ย” เฉินเฟิงตำหนิ“ใครใช้ให้เลียเจ้านี่ล่ะ” เขาไม่ของขึ้นจนลากคนรักไปทำกิจกรรมบนเตียงให้ถึงที่สุดก็นับว่าอดทนมากแล้ว มีอย่างที่ไหนยกมือข้างที่เลอะน้ำกามของเขาขึ้นดม หรี่ตาสีแดงลงคล้ายครุ่นคิดแล้วใช้ลิ้นสีแดงสดเลียเบา ๆ เป็นใครจะไปทนไหวเล่นเอาสติขาดผึงเลยทีเดียวซึ่งเจ้ากระต่ายน่าตีก้นก็ไม่ได้สำนึก ยกมือข้างที่ว่าขึ้นมาให้อยู่ในระดับสายตา เพราะเมื่อกี้เผลอใช้มือข้างนี้ผลักอกคนรัก จึงมีบางส่วนที่ถูกเช็ดออกไปแล้ว“ก็ผมสงสัยนี่…” เฉินเฟิงคิดถึงการกระทำของตนเองเมื่อครู่ก็หน้าร้อนผ่าว แค่จินตนาการก็รู้สึกว่ามันต้องอีโรติกมากแน่ แต่จะให้ถอยก็ดูไม่เป็นตัวเขาสักเท่าไร “เลยอยากลองชิมว่ารสชาติเป็นยังไง” ช้อนดวงตากลมโตสีทับทิมเป็นประกายออดอ้อนคุณหมอหมีตัวโตที่ยังคงคร่อมอยู่ด้านบน“...” นี่กำลังพยายามแก้ตัวหรือยั่วเขาอยู่กันแน่ หือ “ที่รักทำแบบนี้พี่ของขึ้นอีกแล้วเห็นไหม” นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนก้มมองกลางกายของตนที่กลับมาแข็งตัวอีกครั้ง“ไม่เห็นเป็นไรนี่ครับ เป็นปฏิกิริยาตามธรรมชาติอยู่แล้ว” เฉินเฟิงยิ้มตอบพร้อมกับกระถดตัวลงไปอยู่ในระดับเดียวกับอาวุธของคุณหมอ“...”“เดี๋ยวผมปลอบให้มั
เฉินเฟิงนอนโรงพยาบาลเป็นคืนที่ห้าแล้วหลังจากฟื้นขึ้นมา เขายังคงกินนอนอยู่ที่นี่เพราะต้องทำกายภาพบำบัดให้ร่างกายกลับมาใช้งานได้ดังเดิมเมื่อเห็นว่าเจ้ากระต่ายปลอดภัยหายห่วง คนอื่น ๆ จึงเริ่มออกไปทำภารกิจกันถี่ขึ้น แม้แต่ทีโอเองก็ไม่ได้มานอนเฝ้าที่ห้องอีกแล้ว ภายในห้องจึงเหลือแค่ชายหนุ่มผมขาวและคนรักผู้มีใบหูหมีสีน้ำตาล กับคุณสิงหาที่จะแวะเวียนมาตรวจอาการทุกเช้าวันนี้ก็เช่นกัน หลังจากทำกายภาพในตอนเช้าเสร็จ แพทย์เจ้าของคนไข้ดันบอกว่าตอนนี้สภาพร่างกายของเขาดีขึ้นมาแล้ว หากจะทำกิจกรรมเข้าจังหวะกับคนรักก็ไม่มีปัญหามีสิครับหมอ!!เพราะเขากับนิโคลัสไม่เคยเกินเลยถึงขั้นนั้น ที่ผ่านมาก็มีแค่กอดกับจูบ ส่วนเรื่องเมคเลิฟอะไรนั่นตัดไปได้เลย ถ้าไม่ใช่นิโคลัสนอนเป็นผัก ก็มีภารกิจโหดหินรออยู่ พอรอดตายมาได้ก็กลายเป็นเขาที่นอนติดเตียงต่อ จะเอาเวลาไหนไปจู๋จี๋กันถามหน่อยไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยคิด แต่สถานการณ์มันไม่เอื้ออำนวยให้คิดต่างหาก แม้จะไม่รู้ว่าระหว่างเขากับคนรักจะดำเนินขั้นสุดท้ายของการเมคเลิฟแล้วจะเป็นยังไง แต่ถ้าค่อยเป็นค่อยไปโดยเริ่มจากบทรักสุดเบสิกได้ละก็… บอกเลยเขาสู้ตาย‘พี่นิค’ เจ้ากระต่ายมองค
ขนาดที่ค่ายพันธมิตรยังมีคนที่มีหูสัตว์เกลื่อนกลาด เรียกได้ว่ามีประชากรที่เป็นทั้งมนุษย์ธรรมดาและมนุษย์กลายพันธุ์อย่างละครึ่งเลยล่ะ ส่วนผู้มีพลังพิเศษไม่ว่าที่ไหนก็ยังมีจำนวนน้อยนิดเหมือนกันหมด“งั้นผมขอไปกักตัวที่บ้านก่อนนะ” การกักตัวกลายเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดไปแล้ว เมื่อไหร่ที่ออกไปด้านนอกจะต้องกักตัวเป็นเวลา 3 วัน ป้องกันไม่ให้นำเชื้อที่ติดตัวมาไปแพร่ใส่คนอื่นทั้งทางตรงและทางอ้อม“ครับผม” กลุ่มหน้าประตูสองคนเดินไปส่งเฉินเฟิงและนิโคลัสที่บ้าน ถ้าเกิดชายหนุ่มกลายเป็นซอมบี้ระหว่างทางก่อนถึงบ้านขึ้นมาคงเป็นเรื่องใหญ่ปังหลังประตูรั้วบ้านและประตูหน้าบ้านถูกปิด เฉินเฟิงก็มองสภาพบ้านที่ยังคงสะอาดสะอ้านไม่มีร่องรอยของคราบฝุ่นเป็นไปได้ยังไง?หรือว่าในตอนที่พวกเขาไม่อยู่มีคนเข้ามาอาศัย?“อ้อ พวกผมลืมบอกไป กลุ่มแม่บ้านเขาช่วยกันผลัดเปลี่ยนมาทำความสะอาดบ้านให้นะครับ พวกป้า ๆ เขาอยากตอบแทนเรื่องเสบียงสำรองที่ให้มา” เป็นกรที่ตะโกนมาจากนอกบ้านช่วยไขข้อข้องใจให้เจ้ากระต่ายพอดิบพอดี เกือบได้ระเบิดโทสะแล้วไหมล่ะ“ฝากขอบคุณด้วยนะ” เฉินเฟิงตะโกนกลับไป“ครับผม!” และได้รับการตะโกน