อา… ยากจังเอาเป็นว่าเขาให้คุณลุงโจเซฟ 3 ผ่าน เดินเครื่องจีบแม่เขาได้เลย!เฉินเฟิงไม่คิดว่าสองคนนี้จะแอบกุ๊กกิ๊กกันโดยที่พวกเขาไม่รู้ไม่เห็น แสดงว่าเพิ่งจะเริ่มพัฒนาความสัมพันธ์ในตอนที่เพิ่งกลับมารอบนี้เห็นพี่สาวข้างบ้านยิ้มเอียงอายก็ลอบยินดี ในที่สุดก็ได้เจอคนดี ๆ ในชีวิตเสียที ทั้งที่แต่งงานไปแล้วแต่ก็มักจะกลับมานอนที่บ้านแม่เสมอถ้ารักกันกับสามีดีจะกลับบ้านทำไมทุกสัปดาห์มองจากนอกโลกยังรู้เลยว่าต้องมีปัญหาทุกคนคันปากอยากแซว แต่ก็ยั้งกันไว้ได้กลัวพูดมากจะทำให้เรื่องแย่ลง รอให้เปิดตัวคบหากันอย่างเป็นทางการแล้วค่อยแซวก็ยังไม่สายอาหารเย็นผ่านพ้นไปด้วยดี ตุ่นกับหงส์อาสาขอเก็บล้างโดยมีลูกมือเป็นเจ้าแสบจอมซน 3 คนร่วมด้วย เฉินเฟิงกับนิโคลัสจึงแยกไปอาบน้ำแล้วเตรียมตัวพักผ่อนที่บ้านตัวบ้านทุกหลังจะมีลักษณะภายในเหมือนกัน นั่นก็คือชั้นล่างจะถูกออกแบบให้เป็นห้องโถง มีบันไดพาขึ้นไปชั้นสองที่เป็นห้องนอน ซึ่งเฟอร์นิเจอร์เริ่มต้นที่ดาริณีทำให้ก็คือเตียงไม้ขนาด 9 ฟุตอย่างกับรู้ว่าในอนาคตเขาจะพาคนอื่นมานอนด้วยเฉินเฟิงนำเบาะรองนอนสำหรับตั้งแคมป์ออกมากาง นอกจากเตียงแล้วก็ไม่มีอย่างอื่นอีกฟูกที่นอน
“ก็ได้ยินมาว่าหน่วยงานเหล่านั้นไม่ได้เข้ามาดูจริงจัง เพราะอย่างไรบริเวณนั้นเดิมทีก็ติดกับป่า ถ้าช้างสามารถปรับตัวได้ มันคงเข้าไปหาอาหารเองโดยไม่ต้องพึ่งพามนุษย์อีก” ความจริงแล้วมีการทุจริตเกิดขึ้น เงินที่จะนำมาซื้ออาหารจึงอันตรธานหายไป พอมีคนขุดคุ้ยก็อ้างเหตุผลสวยหรูที่ฟังอย่างไรก็รู้สึกได้กลิ่นแปลก ๆ ลอยมาเต็มไปหมดคนเป็นหัวหน้าทหารรับจ้างกลอกตามองบนกลิ่นความโกงฉุนกึกเชียว“แสดงว่าที่นั่นในตอนนี้ก็คงจะเป็นพื้นที่รกร้างไปเรียบร้อยแล้วล่ะ” โจเซฟสรุป ลองไปอยู่ในหน่วยงานที่พูดว่าจะให้ช้างอยู่ตามธรรมชาติขึ้นมา“แล้วอย่างนี้จะมีรถให้เราไปหยิบยืมเหรอ” หงส์ตั้งขอสงสัย“มีครับ เวลามีกลุ่มอาสามาขอถ่ายภาพเพื่อทำโครงการรับบริจาคอาหารให้ พวกเขาจึงยังหลงเหลือสิ่งของอำนวยความสะดวกหลายอย่างไว้เพื่อให้ดูว่าที่นี่ยังคงมีคนเข้ามาดูแลอย่างสม่ำเสมอ” เรื่องนี้เขาได้ยินมาจากคนในตลาด บางคนก็บอกว่าพอได้รับการติดต่อมาก็เข้าไปทำความสะอาดสักทีหนึ่งพอดีกับช่วงก่อนซอมบี้ระบาด ที่นั่นเพิ่งจะได้รับการบูรณะครั้งใหญ่เพราะมีมหาเศรษฐีอยากทำความดีบริจาคอาหารสัตว์เป็นจำนวนมากพร้อมกับถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก พวกเจ้าหน
เช้าวันต่อมาเจ้ากระต่ายกับคุณหมอหมีจึงไปยืมรถคุณยายอีกครั้ง เขาบอกแค่ว่าจะไปสำรวจปางช้างเผื่อเจอของดีจะได้นำกลับมาที่หมู่บ้าน“ระวังตัวด้วยนะอาเฟิง” คุณยายร้านขายของชำวางกุญแจรถกระบะให้เฉินเฟิงหยิบยืมอีกครั้งอย่างไม่หวงแหน “ถ้าเจออันตรายต้องรีบกลับหมู่บ้านทันทีนะ รู้ไหม”“ครับ” เฉินเฟิงพยักหน้ารับคำหนักแน่น เขาให้ความเคารพนับถือคุณยายเสมอญาติผู้ใหญ่ในครอบครัวคนหนึ่ง นอกจากพ่อแม่แล้วก็มีแต่คุณยายนี่แหละที่เอ็นดูเขามาตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ เวลาแม่กลับมาเยี่ยมบ้าน เขาก็มักวิ่งเข้าวิ่งออกร้านขายของชำแห่งนี้เสมอ บางครั้งซื้อลูกอม 2 เม็ด 1 บาท คุณยายก็แถมมาให้อีก 1 เม็ด ใจดีสุด ๆ ไปเลยช่วงวิกฤตที่ผู้คนพากันกักตุนอาหาร ก็ยังใจดีแบ่งขายอาหารแห้งมาให้เขา ทั้งที่ตัวเองก็จำเป็นต้องกักตุนเช่นกันยังดีที่ท่านเป็นคนเด็ดขาดและมีคนนับหน้าถือตา วันสิ้นโลกแบบนี้จึงมีผู้คนให้การดูแลคุณยายเป็นอย่างดี เฉินเฟิงเลยสามารถกลับขึ้นบ้านบนเขาได้อย่างสบายใจ“ผมสัญญาว่าจะดูแลอาเฟิงอย่างดีครับ” นิโคลัสให้คำมั่น“จ้ะ ฝากด้วยนะพ่อหนุ่ม” คุณยายยิ้มยินดี เธอไม่ได้หัวโบราณจนดูไม่ออกว่าทั้งสองคนไม่ใช่แค่เพื่อนกัน ขอแค่เด็กทั
เฉินเฟิงกวาดตามองสิ่งมีชีวิตตรงหน้า แม้รูปลักษณ์ของมันจะเป็นต้นไม้ แต่กิ่งก้านสาขากลับมีลักษณะห้อยลงคล้ายกับว่าสิ่งนั้นคือมือของมัน และรากที่ควรฝังตัวอยู่ในดินก็โผล่ขึ้นมาเหนือพื้น สามารถเคลื่อนไหวพามันไปยังตำแหน่งอื่นได้ เปรียบเทียบให้เห็นภาพเลยก็เหมือนกับขาของคนนั่นเอง“อย่างกับต้นไม้กินคนในนิทานปรัมปราเลยนะ” นิโคลัสค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้คนรัก ในขณะที่สายตายังคงจดจ้องอยู่กับศัตรูตรงหน้าเล่นทำลายรถแบบนี้ คงไม่ได้บอกให้หยุดเพื่อเรียกมาจิบน้ำชายามบ่ายหรอก“ต้นไม้ก็กลายพันธุ์ไปในทิศทางนี้ได้ด้วยเหรอเนี่ย” เฉินเฟิงแปลกใจมาก อย่างกับหลุดมาจากนิทานอย่างที่คุณหมอว่าจริง ๆจริงอยู่ว่าต้นไม้ก็เป็นสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง สามารถเติบโตได้ กินอาหารได้ รวมถึงแพร่พันธุ์เพิ่มปริมาณประชากรของตนได้ นอกจากต้นกาบหอยแครงหรือหม้อข้าวหม้อแกงลิงที่รอจับเหยื่อแล้ว ไม่เห็นเคยได้ยินมาก่อนว่ามีต้นไม้ออกไล่ล่ามนุษย์ด้วยการฟาดกิ่งหรือวิ่งตามแบบนี้มาก่อนผู้ล่าและเหยื่อต่างก็จดจ้องกันไม่วางตา ต่างรอว่าใครจะเป็นผู้เปิดการโจมตีก่อนเป็นคนแรก นั่นจึงเป็นโอกาสอันดีให้มนุษย์สองคนได้วางแผนรับมือได้“ละแวกนี้มีแต่ป่าถ้าจุดไ
ชายหนุ่มรู้สึกหงุดหงิดงุ่นง่านใจ มองปิศาจต้นไม้สลับกับรถกระบะที่ตนเองนั่งมา ท่อนซุงยักษ์ยังคงทับตัวกระบะรถอยู่ เห็นแบบนั้นก็ยิ่งเดือดดาลขาข้างหนึ่งกระทืบเท้าลงบนพื้น ริมฝีปากเม้มแน่นส่งเสียงฮึดฮัดอยู่ในลำคอใบหูสีขาวตั้งชันกำลังโกรธเจ้ากระต่ายของคุณหมอหมีกำลังโกรธมาก ๆเมื่อต้นไม้ต้นแรกรุกเหวี่ยงแขนของมันมาทางด้านข้าง เฉินเฟิงจึงเกร็งกล้ามเนื้อที่ขา พาร่างกายของตนเองกระโดดลอยขึ้นเหนือพื้น กะด้วยสายตาก็คงสูงราว 2-3 เมตรเฉินเฟิงเคยประเมินสมรรถนะทางร่างกายของตน ปรากฏว่าเขาสามารถวิ่งได้เร็วขึ้น กระโดดสูงขึ้นและรับเสียงได้มากขึ้นสามสิ่งนี้คือพื้นฐานทั่วไปที่กระต่ายทั่วไปพึงมี เมื่อถูกนำมารวมในร่างมนุษย์ ก็ทำให้ขีดความสามารถที่คนคนนั้นมีอยู่เพิ่มสูงขึ้นอย่างในเวลานี้…พอปิศาจต้นไม้เห็นเฉินเฟิงอยู่กลางอากาศ พวกมันอีกหนึ่งต้นก็รีบฟาดกิ่งลงมา แม้จะไม่ได้รวดเร็วมากนักหากเปลี่ยนเป็นคนธรรมดาทั่วไปคงหลบไม่พ้นแต่ไม่ใช่กับเฉินเฟิง…เจ้ากระต่ายพลิกตัวแล้วใช้มือจับยึดเข้าที่กิ่งนั้นไว้แน่น ต้นไม้ต้นแรกเห็นว่าเหยื่อของมันหายไปก็รีบมองหา พอเห็นว่าอยู่กับเพื่อนร่วมวงศ์ตระกูลก็ฟาดเข้าใส่อย่างไม่ลังเล
“ทำไมหน้านิ่วคิ้วขมวดอย่างนั้นล่ะ” คุณหมอหันมาเห็นคนรักมองตนด้วยใบหน้าเครียดก็ฉุกคิดว่าอาจจะมีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้น[ก่อนที่ร่างต้นของมันจะรู้ตัว จงหนีไปเสีย]เสียงมาอีกแล้ว ร่างแยก… ต้นไม้พวกนี้น่ะเหรอ?แล้วร่างต้นที่ว่า…!!!!“พี่นิค พวกเรารีบออกไปจากที่นี่ก่อนดีกว่า” เจ้ากระต่ายไปช่วยหยิบสัมภาระออกมาจากรถพลางดึงรั้งคนรักให้ออกห่างจากแนวป่าให้มากที่สุด“เกิดอะไรขึ้น” นิโคลัสเห็นเจ้ากระต่ายมีสีหน้ารีบร้อนก็เร่งประสาทสัมผัส“เดี๋ยวค่อยคุยกัน”ครืน...!!“เหวอ” อยู่ ๆ แผ่นดินที่เคยสงบนิ่งก็สั่นอย่างรุนแรงอะไร! แผ่นดินไหว?ยังไม่ทันตั้งตัวได้ก็มีรากต้นไม้ขนาดใหญ่โผล่ขึ้นมาจากพื้น ขนาดของมันใหญ่ยิ่งกว่ามากจนทำให้พื้นถนนที่ถูกมันดันขึ้นมาเป็นรูกว้างนิโคลัสรีบพาตัวเองไปอยู่เบื้องหน้าคนรัก ไม่กี่วินาทีต่อมาก็เกิดแรงสั่นสะเทือนรุนแรงขึ้นอีกครั้งตูม!รากต้นไม้เส้นที่สอง สาม และสี่ ตามมาติด ๆ ยิ่งสามรากสุดท้ายที่โผล่ขึ้นมาด้านหลัง ปิดล้อมไม่ให้พวกเขาสามารถกลับไปยังเส้นทางเดิมได้[ไม่ทันการณ์แล้ว มนุษย์เอ๋ย จงรีบเร่งมาข้างหน้าโดยเร็ว]ข้างหน้า?“พี่นิค ไปที่ปางช้างกันเดี๋ยวนี้!!” เจ้ากระต่า
ฟุบ“หือ?” นิโคลัสเกือบเบรกจนตัวโก่งเมื่อสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างจากจุดที่เพิ่งวิ่งผ่านมาเหมือนวิ่งชนเยลลี่?“พี่นิคก็รู้สึกใช่ไหม” เฉินเฟิงเหันไปถาม เมื่อกี้ตอนวิ่งเข้ามาในเขตของปางช้าง จู่ ๆ ก็มีอะไรไม่รู้เย็น ๆ ปะทะเข้ากับร่างกาย“พวกมันหยุดแล้ว” นิโคลัสหันหลังกลับไปมอง รากไม้เหล่านั้นก็ทำเพียงส่ายไปมาอยู่ห่าง ๆ ไม่มีท่าทีไล่กวดเหมือนอย่างตอนแรก“หรือว่าพวกมันจะเข้ามาไม่ได้” เฉินเฟิงตั้งข้อสันนิษฐาน“เป็นไปได้ ไม่แน่ว่าสิ่งที่เราวิ่งชนอาจจะเป็นบาเรีย? หรืออะไรสักอย่าง ที่ส่งผลให้รากพวกนั้นเข้ามาไม่ได้” นิโคลัสวิเคราะห์ต่อ“รอดแล้ว…” เฉินเฟิงทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นอย่างหมดสภาพ แม้ระยะทางจากจุดที่อยู่ถึงปางช้างจะไม่ถึง 2 กิโลเมตร แต่การต้องวิ่งไปหลบไปก็ทำให้ระยะที่ควรใกล้กลับไกลมากขึ้นในความรู้สึก“อย่าเพิ่งลดการป้องกัน” นิโคลัสดุเสียงเข้ม แต่ก็ยอมเดินมายืนข้าง ๆ เลือกมุมที่แดดตกกระทบแล้วยืนบังไม่ให้คนรักร้อน ใบหูกลมเงี่ยหูฟังการเคลื่อนไหวรอบกายที่ยังคงนิ่งเงียบดีหน่อยที่บริเวณนี้มีเสียงนกและเสียงแมลงอยู่บ้าง พอให้คลายใจว่าคงไม่มีอันตรายเหมือนที่เจอก่อนหน้านี้แม้เจ้ากระต่ายจะนั่งพักอ
ไม่ปล่อยให้รอนานก็มีสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งเดินตรงมาที่พวกเขา มันชูงวงเล็กขึ้นโบกไปมาราวกับว่ากำลังทักทายแขกผู้มาเยือนแอ้ว!เสียงร้องแหลมสูงดังออกมาจากปากรูปทรงสามเหลี่ยมพร้อมกับงวงที่ยกขึ้นสูง“ลูกช้าง?” นิโคลัสมองช้างที่มีส่วนสูงเท่ากับหน้าอกของตน ปางช้างจะมีช้างก็คงไม่แปลก แต่ช้างที่ทำท่าเดินหน้าบ้าง ถอยหลังบ้าง ทั้งหางและงวงต่างก็สะบัดไปมาอย่างตื่นเต้นนี่คืออะไร…ไม่ใช่ว่าที่นี่ถูกทิ้งร้างจนช้างอยู่ร่วมกับป่าไปแล้วหรอกหรือ?มันไม่ควรเป็นมิตรกับคนสิแอ้ว... แอ้!“ดูเหมือนว่ามันอยากจะให้เราตามเข้าไปนะครับ” เป็นเฉินเฟิงที่ช่วยแปลให้ ท่าทางมันตื่นเต้นมากทั้งร้องเรียกและเดินไปเดินมาคล้ายอยากให้เดินตาม“ตามไปก่อนแล้วกัน” นิโคลัสชั่งใจครู่หนึ่งก่อนตัดสินใจเดินตามลูกช้างไปเป็นคนแรกแน่นอนว่าต้องไม่เดินตามไปอย่างเดียว ทั้งสองคนกวาดสายตามองไปรอบ ๆ เพื่อหาทางหนีทีไล่ เผื่อเกิตเหตุฉุกเฉินจนต้องหนีเอาชีวิตรอดอีกหนปางช้างที่เคยมีทั้งรีสอร์ตและจุดให้บริการกีฬาเอ็กซ์ตรีมเป็นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างก็ถูกป่าไม้กลืนกิน ดูไปก็คล้ายกับรีสอร์ตร้างในภาพยนตร์สยองขวัญ ยิ่งถ้าเป็นช่วงเวลากลางคืนคงมีขนหัวล
หนึ่งชั่วโมงต่อมาทุกคนก็ไปรวมกันที่มินิมาร์ตอีกครั้ง หงส์กลับมาพร้อมกับคริสตัลซอมบี้สีใสจำนวน 12 เม็ด พวกมันถูกล้างทำความสะอาดมาเป็นอย่างดีแล้ว“แถวนี้ไม่ค่อยมีคนผ่านมาเลยเหรอเนี่ย” การที่มีคริสตัลเกิดขึ้นในสมองของซอมบี้ได้นั้น หมายความว่าเจ้าพวกนี้ไม่ใช่ซอมบี้ที่เพิ่งเกิดในเร็ว ๆ นี้“คนน่าจะไปกระจุกตัวอยู่ในเมืองกันหมดแล้วล่ะค่ะ” หงส์ให้ความเห็นอาหารเย็นวันนี้เป็นปลากระป๋องกับแครกเกอร์ที่เฉินเฟิงใช้มันฝรั่งบดผสมรวมกับแป้งแล้วนำไปอบ ใช้เป็นอาหารฉุกเฉินยามออกเดินทางเพราะมีน้ำหนักน้อยและไม่ต้องยุ่งยากกับการประกอบอาหารนอกบ้านสำหรับทหารที่ผ่านความเป็นความตายมานับครั้งไม่ถ้วน พวกเขากินกันไปเรื่อย ๆ อย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ มีเพียงดาริณีและพิมพาที่ต้องพยายามกินให้มากหน่อย แม้รสชาติจะแปลกแปร่งเพราะไม่เคยกินแครกเกอร์กับปลากระป๋องมาก่อน ก็ต้องฝืนกินเข้าไปอีกหลายคำ วันนี้ใช้พลังไปเยอะต้องชดเชยสภาพความเป็นอยู่หลังออกจากเซฟโซนนั้นต้องรัดกุมทุกด้าน พวกเธอขอติดตามมาด้วยจะต้องอดทนและเรียนรู้ที่จะยอมรับและผ่านมันไปให้ได้ในสักวันหนึ่ง“กินน้ำให้พอดีนะคะ” หงส์แนะนำ “เกิดปวดห้องน้ำตอนกลางคืนจะลำบาก”“ถ้
“ใจร้อนอะไรครับเนี่ย” เฉินเฟิงตำหนิ“ใครใช้ให้เลียเจ้านี่ล่ะ” เขาไม่ของขึ้นจนลากคนรักไปทำกิจกรรมบนเตียงให้ถึงที่สุดก็นับว่าอดทนมากแล้ว มีอย่างที่ไหนยกมือข้างที่เลอะน้ำกามของเขาขึ้นดม หรี่ตาสีแดงลงคล้ายครุ่นคิดแล้วใช้ลิ้นสีแดงสดเลียเบา ๆ เป็นใครจะไปทนไหวเล่นเอาสติขาดผึงเลยทีเดียวซึ่งเจ้ากระต่ายน่าตีก้นก็ไม่ได้สำนึก ยกมือข้างที่ว่าขึ้นมาให้อยู่ในระดับสายตา เพราะเมื่อกี้เผลอใช้มือข้างนี้ผลักอกคนรัก จึงมีบางส่วนที่ถูกเช็ดออกไปแล้ว“ก็ผมสงสัยนี่…” เฉินเฟิงคิดถึงการกระทำของตนเองเมื่อครู่ก็หน้าร้อนผ่าว แค่จินตนาการก็รู้สึกว่ามันต้องอีโรติกมากแน่ แต่จะให้ถอยก็ดูไม่เป็นตัวเขาสักเท่าไร “เลยอยากลองชิมว่ารสชาติเป็นยังไง” ช้อนดวงตากลมโตสีทับทิมเป็นประกายออดอ้อนคุณหมอหมีตัวโตที่ยังคงคร่อมอยู่ด้านบน“...” นี่กำลังพยายามแก้ตัวหรือยั่วเขาอยู่กันแน่ หือ “ที่รักทำแบบนี้พี่ของขึ้นอีกแล้วเห็นไหม” นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนก้มมองกลางกายของตนที่กลับมาแข็งตัวอีกครั้ง“ไม่เห็นเป็นไรนี่ครับ เป็นปฏิกิริยาตามธรรมชาติอยู่แล้ว” เฉินเฟิงยิ้มตอบพร้อมกับกระถดตัวลงไปอยู่ในระดับเดียวกับอาวุธของคุณหมอ“...”“เดี๋ยวผมปลอบให้มั
เฉินเฟิงนอนโรงพยาบาลเป็นคืนที่ห้าแล้วหลังจากฟื้นขึ้นมา เขายังคงกินนอนอยู่ที่นี่เพราะต้องทำกายภาพบำบัดให้ร่างกายกลับมาใช้งานได้ดังเดิมเมื่อเห็นว่าเจ้ากระต่ายปลอดภัยหายห่วง คนอื่น ๆ จึงเริ่มออกไปทำภารกิจกันถี่ขึ้น แม้แต่ทีโอเองก็ไม่ได้มานอนเฝ้าที่ห้องอีกแล้ว ภายในห้องจึงเหลือแค่ชายหนุ่มผมขาวและคนรักผู้มีใบหูหมีสีน้ำตาล กับคุณสิงหาที่จะแวะเวียนมาตรวจอาการทุกเช้าวันนี้ก็เช่นกัน หลังจากทำกายภาพในตอนเช้าเสร็จ แพทย์เจ้าของคนไข้ดันบอกว่าตอนนี้สภาพร่างกายของเขาดีขึ้นมาแล้ว หากจะทำกิจกรรมเข้าจังหวะกับคนรักก็ไม่มีปัญหามีสิครับหมอ!!เพราะเขากับนิโคลัสไม่เคยเกินเลยถึงขั้นนั้น ที่ผ่านมาก็มีแค่กอดกับจูบ ส่วนเรื่องเมคเลิฟอะไรนั่นตัดไปได้เลย ถ้าไม่ใช่นิโคลัสนอนเป็นผัก ก็มีภารกิจโหดหินรออยู่ พอรอดตายมาได้ก็กลายเป็นเขาที่นอนติดเตียงต่อ จะเอาเวลาไหนไปจู๋จี๋กันถามหน่อยไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยคิด แต่สถานการณ์มันไม่เอื้ออำนวยให้คิดต่างหาก แม้จะไม่รู้ว่าระหว่างเขากับคนรักจะดำเนินขั้นสุดท้ายของการเมคเลิฟแล้วจะเป็นยังไง แต่ถ้าค่อยเป็นค่อยไปโดยเริ่มจากบทรักสุดเบสิกได้ละก็… บอกเลยเขาสู้ตาย‘พี่นิค’ เจ้ากระต่ายมองค
ขนาดที่ค่ายพันธมิตรยังมีคนที่มีหูสัตว์เกลื่อนกลาด เรียกได้ว่ามีประชากรที่เป็นทั้งมนุษย์ธรรมดาและมนุษย์กลายพันธุ์อย่างละครึ่งเลยล่ะ ส่วนผู้มีพลังพิเศษไม่ว่าที่ไหนก็ยังมีจำนวนน้อยนิดเหมือนกันหมด“งั้นผมขอไปกักตัวที่บ้านก่อนนะ” การกักตัวกลายเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดไปแล้ว เมื่อไหร่ที่ออกไปด้านนอกจะต้องกักตัวเป็นเวลา 3 วัน ป้องกันไม่ให้นำเชื้อที่ติดตัวมาไปแพร่ใส่คนอื่นทั้งทางตรงและทางอ้อม“ครับผม” กลุ่มหน้าประตูสองคนเดินไปส่งเฉินเฟิงและนิโคลัสที่บ้าน ถ้าเกิดชายหนุ่มกลายเป็นซอมบี้ระหว่างทางก่อนถึงบ้านขึ้นมาคงเป็นเรื่องใหญ่ปังหลังประตูรั้วบ้านและประตูหน้าบ้านถูกปิด เฉินเฟิงก็มองสภาพบ้านที่ยังคงสะอาดสะอ้านไม่มีร่องรอยของคราบฝุ่นเป็นไปได้ยังไง?หรือว่าในตอนที่พวกเขาไม่อยู่มีคนเข้ามาอาศัย?“อ้อ พวกผมลืมบอกไป กลุ่มแม่บ้านเขาช่วยกันผลัดเปลี่ยนมาทำความสะอาดบ้านให้นะครับ พวกป้า ๆ เขาอยากตอบแทนเรื่องเสบียงสำรองที่ให้มา” เป็นกรที่ตะโกนมาจากนอกบ้านช่วยไขข้อข้องใจให้เจ้ากระต่ายพอดิบพอดี เกือบได้ระเบิดโทสะแล้วไหมล่ะ“ฝากขอบคุณด้วยนะ” เฉินเฟิงตะโกนกลับไป“ครับผม!” และได้รับการตะโกน
ลงมาถึงตีนเขาเฉินเฟิงก็แยกกับกลุ่มของโจเซฟ ชายหนุ่มยืนมองแก๊งจักรยานพากันปั่นเรียงแถวออกไปยังถนนเส้นใหญ่ที่เชื่อมติดกับทางเข้าหมู่บ้าน ยังดีที่บริเวณนี้ไม่มีซอมบี้เพ่นพ่านเพราะถูกกำจัดไปเยอะ อีกทั้งยังอยู่ห่างจากตัวเมืองที่มีประชากรมากก็ได้แต่หวังว่าพวกเขาจะปลอดภัยกลับมาอย่างสวัสดิภาพไม่สิต้องกลับมาปลอดภัยอย่างแน่นอน!“เอาไปกี่กล่องดี” นิโคลัสยกกล่องยาสมุนไพรออกมาจากหลังรถ“เอาไปสัก 3 กล่องก่อนก็แล้วกันครับ” ถือไปเยอะเดี๋ยวจะเด่นสะดุดตาเกินไป“โอเค” คุณหมอหมีพยักหน้าเข้าใจ ถือติดมือไปน้อยก็ดูไม่สมกับค่าครู แต่ถ้าเอาไปไปเยอะก็อาจทำให้บางคนเกิดความคิดไม่ดีขึ้นมาได้สมุนไพรแห้งเหล่านี้พวกเขาขนกลับมารวมแล้วมีมากกว่า 10 กล่อง นำขึ้นไปเก็บไว้บนภูเขาแล้ว 10 กล่อง ที่อยู่ตรงนี้จึงเป็นส่วนที่กันเอาไว้แบ่งปันให้คนในหมู่บ้านด้านล่างตั้งแต่ต้น แต่จะทยอยให้ทีละไม่มากไม่ให้ผิดสังเกต“ไม่รู้กลับหมู่บ้านครั้งนี้จะได้เจอกับป้ากิ่งแก้วอีกหรือเปล่านะครับ” เฉินเฟิงเอ่ยกลั้วหัวเราะ พวกเขาเจอกันทีไรมีแต่เรื่องชวนปวดหัวทุกทีถ้าให้เขาพูดแบบเห็นแก่ตัวหน่อยเขาอยากจะบอกเหลือเกินว่าถ้าหมู่บ้านนี้ขาดกิ่งแก้ว
“จักรยานมีทั้งหมด 5 คัน คนที่จะออกไปสำรวจก็คือ พี่ดา พี่พิม ตุ่น หงส์ และหัวหน้า ถูกต้องไหมคะ” หงส์ทวน พอดาริณียกมือขอไปด้วย โจเซฟก็ไม่รีรอรีบออกตัวว่าจะไปด้วยเช่นกันทันทีแหม… ไม่ค่อยออกนอกหน้าเลยนะหัวหน้า“อะไร… ก็แค่เห็นว่ายังมีจักรยานอยู่อีกหลายคัน” คนร้อนตัวรีบพูด“ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่คะ” หงส์หันไปหัวเราะคิกคัก ล้อเลียนคู่คนคุยที่หน้าแดงซ่านไปหมดแล้ว“แม่หน้าแดงมากเลย” ขนาดเด็กชายดลยังอดแซวแม่ตัวเองไม่ได้ตกลงเรื่องจำนวนคนกันเสร็จสรรพ ก็ออกไปจัดเตรียมแพ็กกระเป๋าบ้านใครบ้านมัน เฉินเฟิงเองก็เตรียมเก็บของเช่นกัน เพราะเขากับคนรักมีแพลนจะลงไปนอนที่บ้านของตนในหมู่บ้าน และถือโอกาสสอบถามหมอยาสมุนไพรว่าจะสามารถสอนความรู้ให้ตนได้หรือไม่หรือถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้นิโคลัสได้เรียนด้วย“เดี๋ยวนะครับ จะไปกันหมดวันนี้เลยเหรอ” ทีโอคิดว่าจะออกเดินทางในอีกวันหรือสองวันข้างหน้า ใครจะไปคิดว่าพอตัดสินใจเสร็จปุ๊บก็เก็บของปั๊บ“จะช้าอยู่ทำไมล่ะ ขืนมัวแต่โอ้เอ้คงมีคนอื่นตัดหน้าไปก่อน” หงส์“ตามใจ” ทีโอถอนหายใจ ดูท่าเย็นนี้คงต้องให้เด็ก ๆ กินปลากระป๋องแล้วล่ะ “ระวังตัวกันด้วยนะครับ”“คราวนี้ไม่ประมาทอีกแน่”
“ก็ดีนะ” นิโคลัสพยักหน้าเห็นด้วย“แต่น้ำมันรถที่มีจะไม่พอให้เราตะลอนหาของได้ตามใจชอบน่ะสิ” โจเซฟส่ายหน้าเห็นต่าง พวกเขาไม่มีถังน้ำมันสำรองกักตุนไว้ในปริมาณมาก ดังนั้นจึงค่อนข้างเป็นกังวลหากต้องนำรถออกไปตระเวนหาของอย่างไม่รู้ทิศทาง“ขี่จักรยานไปไง” หงส์เสนอ“ไหวหรือ?” โจเซฟไม่ได้มีเจตนาดูถูก แต่ขี่จักรยานไปในสถานการณ์ที่ไม่ปกติแบบนี้ค่อนข้างเสี่ยงเอาการ ไหนจะอากาศประเทศ T ที่ไม่ค่อยปกตินัก บางวันก็ร้อนจนอยากจะนั่งแช่น้ำทั้งวัน บางวันก็ฝนตกหวิดจะเกิดโรคระบาดจากน้ำอีกรอบ“ถ้ารู้เส้นทางเข้าเมืองก็ไม่น่าจะยากไม่ใช่เหรอคะ” อีกอย่างจักรยานที่เอามาก็เป็นจักรยานเสือภูเขา มีไว้สำหรับเร่งความเร็วอยู่แล้วถ้าเจอซอมบี้ก็แค่ใช้พลังสู้กับมัน“ถ้าไม่ออกไปหาของตอนนี้ อีกหน่อยก็ไม่เหลืออะไรให้หาแล้วล่ะค่ะ” พอมนุษย์ที่เคยเอาแต่หวาดกลัวเริ่มปรับตัวได้ พวกเขาจะสามารถเรียกความกล้าและออกไปผจญอันตรายเหมือนกับเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเธอเชื่อว่าอย่างนั้นไม่มีใครเอาแต่สั่นกลัวอยู่แต่ในบ้านได้หรอก“ถ้าอย่างนั้นพิมขอไปด้วยได้ไหมคะ” หญิงสาวยกมือ“แม่!” พลอยใสตกใจตาโต “ถ้าแม่ไปพลอยก็จะไปด้วย” เด็กสาวรีบยกมือตาม ก่อนจะ
“อร่อย! อร่อยมาก!!” เขาไม่เคยกินอาหารรสชาติแบบนี้มาก่อนเลย“อร่อยก็ดีแล้วครับ ปะ พวกเรายกไปที่โต๊ะเลยดีกว่า” เห็นคนรักไม่บาดเจ็บในปากก็โล่งอก ยิ้มกว้างให้กับเมนูอาหารในวันนี้ ดีที่ตอนนั้นหลังจากได้ชิมต้มหมูชะมวงของเชฟในครัวเขาก็ไปค้นหาสูตรอาหารชนิดนี้ในอินเทอร์เน็ตต่อ ทำพลาดอยู่ 4-5 จานก็ได้รสชาติคล้ายคลึงที่สุดเท่าที่จะทำได้อืม… เขาก็เก่งเหมือนกันนะเนี่ย //ยืดหลังอาหารทยอยเสิร์ฟขึ้นโต๊ะ ภาพบรรยากาศแสนสุขก็กลับมาอีกครั้ง เด็ก ๆ ตักแกงกินกับข้าวคำโต ผู้ใหญ่พูดคุยกันเรื่องสัพเพเหระ นั่งปรึกษากันว่าพรุ่งนี้จะทำอะไร มีตรงไหนต้องปรับปรุง พอของคาวหมดก็ต่อด้วยเมนูผลไม้ล้างปาก เป็นส้มโอที่ถูกบิเนื้อออกเป็นเส้น ๆ แล้วนำไปคลุกเคล้ากับน้ำตาลและน้ำปลา ได้รสชาติหวานเค็มตัดกับความเปรี้ยวอมหวานของส้มโอเมื่อไม่เหลืออาหารให้จัดการอีก ตุ่น หงส์ และทีโอก็อาสานำภาชนะทุกชิ้นไปล้างโดยมีเด็กซน 3 คนออกตัวว่าอยากไปช่วยล้างด้วย ไม่รู้ว่าไปช่วยหรือไปป่วนกันแน่ฟากมังคุดก็นั่งเลียปากเลียมือ นอนตีพุงอย่างสุขใจ มันเพิ่งเคยกินอาหารที่ชายหนุ่มทำแบบเต็มที่ เครื่องแน่น ๆ เน้น ๆ แบบนี้เป็นครั้งแรกอร่อยมาก… อร่อยจนไ
อีกสาเหตุหนึ่งที่เฉินเฟิงเลือกเมนูนี้ขึ้นมาก็เพราะตอนอยู่ในค่ายเขาได้ไปแลกบางสิ่งบางอย่างมาจากตลาดนัดในค่ายพันธมิตร ราคาของมันเรียกได้ว่าแพงหูฉี่ กระปุกหนึ่งราคา 8 แต้ม กว่าจะต่อรองมาได้ก็เปลืองน้ำลายไปเยอะ แต่พอแม่ค้าเห็นว่าโจเซฟยืนอยู่ด้านหลังกลุ่มก็ลดราคาให้อย่างเร็วเหลือเพียง 6 แต้ม สมกับเป็นเทพเดินดินของคนในค่ายพันธมิตรจริง ๆซึ่งเจ้าสิ่งนั้นก็คือ… กะปิและน้ำมันพืชนั่นเอง!ผู้คนส่วนมากในค่ายไม่นิยมทำอาหารกินเองเพราะใช้แต้มคะแนนไปแลกอาหารที่โรงอาหารได้หลากหลายกว่าเฉินเฟิงแทบจะใช้แต้มคะแนนที่มีทั้งหมดแลกมันมาให้ได้มากที่สุด มีน้ำปลากับซีอิ๊วหวานอีกอย่างที่ขาดไม่ได้เลย พอเห็นว่าตรงไหนมีวางขายก็อยากจะซื้อมาให้หมดเชฟใหญ่ประจำบ้านตระเตรียมวัตถุดิบประกอบอาหาร มองข้าวของบนโต๊ะที่มีครบอย่างที่อาหารจานหนึ่งควรจะเป็นด้วยสีหน้าอิ่มเอิบอา… มีเครื่องปรุงพร้อมนี่มันสวรรค์ชัด ๆอิ่มเอมกับบรรยากาศเครื่องปรุงและวัตถุดิบรอบตัวเรียบร้อยแล้วก็เริ่มจากทำเครื่องแกงก่อนเป็นอันดับแรก โดยคนที่รับหน้าที่นี้คือเฉินเฟิง ส่วนสองสาวจะนั่งฉีกใบชะมวงและหั่นเนื้อตะโขงแดดเดียว ก่อนจะนำไปล้างน้ำเพื่อล้างความเค็ม