“มังคุดจะไปด้วยครับ” เฉินเฟิงหันมาบอกคนในกลุ่ม พร้อมกับได้รับการพยักหน้าอย่างเอาเป็นเอาตายจากสัตว์หน้าขนกำหนดจำนวนสมาชิกที่จะไปเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการศึกษาสถานที่ที่จะไปเพื่อวางกำลังคนให้เหมาะสม กว่าจะลงตัวก็ใช้เวลาพูดคุยอยู่ร่วมชั่วโมง จนตะวันเริ่มลาลับขอบฟ้าจึงหยิบอาหารกระป๋องขึ้นมากินก่อนจะเตรียมตัวพักผ่อนในลำดับต่อมา“ถ้าอย่างนั้นคืนนี้ก็นอนพักที่นี่ก่อน” โจเซฟมองสภาพอาคารพาณิชย์ที่เคยเป็นคลินิกรักษาสัตว์ ถึงจะมีคราบเลือดเกรอะกรังของอดีตเจ้าของตึก แต่รอบอาณาบริเวณนี้ไม่มีเสียงการเคลื่อนไหวของซอมบี้มากนัก เหมาะแก่การพักผ่อน อีกทั้งด้านหลังยังมีโรงเก็บรถที่สามารถนำรถยนต์ของนิโคลัสและรถบรรทุกขนาดเล็กเข้าไปจอดได้คืนนั้นนิโคลัสจับสลากได้คู่กับทีโอเฝ้าเวรในตอนกลางคืน คุณหมอหมีค่อนข้างอารมณ์เสีย ทำไมเขาต้องจับสลากด้วยไหน ๆ ก็ครบคู่อยู่แล้ว‘แค่เห็นว่าน่าสนุกดี’ หญิงสาวต้นคิดยักไหล่ และได้แรงสนับสนุนเพิ่มเติมจากโจเซฟ ตุ่น และทีโอ ทำให้คนที่เหลือแต่มองตาปริบ ๆกลายเป็นว่าหงส์ได้คู่กับโจเซฟ และตุ่นได้คู่กับเจ้ากระต่าย เหมือนยกหินทับเท้าเมื่อตุ่นเห็นว่าคนรักได้คู่กับอาหารตาของเจ้า
ในขณะที่รถทั้งสองคันมุ่งหน้าตรงไปยังอาคารที่อยู่ตรงกลางซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของภารกิจในครั้งนี้ เบื้องหลังของพวกเขาก็มีเพื่อนตัวยักษ์ที่รั้งอยู่กลางทางเพื่อไม่ให้ศัตรูสามารถติดตามไปได้กี๊ซ! (มาเลย เจ้าหน้าไม่มีขน!)มังคุดยืนด้วยขาหลัง มองวงน้ำกว้างที่เคยมีร่างของเจ้าสัตว์เลื้อยคลานถูกมันฟาดตกน้ำไป แม้จะไม่มีการเคลื่อนไหวแต่ก็ไม่ประมาท มือข้างหนึ่งคว้ากิ่งไม้ที่อยู่ใกล้มือ หักมันออกจนมีปลายแหลม เพราะถึงตัวใหญ่จะไม่โผล่ขึ้นมา แต่พวกตัวเล็กตัวน้อยต่างเริ่มทยอยเดินมาหามากขึ้นเรื่อย ๆ หรือนี่จะเป็นแผนส่งลูกสมุนมาก่อนจิ๊! (น่ารำคาญจริง!)มังคุดใช้ปลายแหลมต่างหอก คอยแทงพวกลูกกระจ๊อกจนตายตกไปหลายตัว ถ้าแค่แทงธรรมดาคงไม่น่าตกใจเท่าไรนัก ไม่ใช่กับมังคุดที่ซึมซับวิธีการทำอาหารมาจากเจ้านาย (?)หากเฉินเฟิงอยู่ตรงนี้คงได้เห็นมังคุดใช้ไม้แทงตัวเงินตัวทองเหมือนกำลังแทงปลา พอแทงได้ตัวหนึ่งก็รูดมันลงมากลางไม้ หันไปแทงอีกตัวก็รูดลงมาอีก จนความยาวของไม้มีไม่พอจึงได้เปลี่ยนไปหักกิ่งใหม่ ก่อนจะจ้วงแทงต่อไป ได้เป็นตัวเงินตัวทองเสียบไม้พร้อมย่างวางเรียงไว้เป็นกอง ๆยิ่งกองไม้เพิ่มขึ้นมากเท่าไร มังคุดก็ยิ่งส
“ไม่รู้มังคุดจะเป็นยังไงบ้างนะครับ” เฉินเฟิงเหลียวหลังไปมองเป็นครั้งที่ 10 เขากังวลว่าการต่อสู้กับเจ้าวรนุชวิวัฒนาการจะเกินกำลังของมังคุด อีกทั้งสถานที่แห่งนี้ยังเต็มไปด้วยต้นไม้ขึ้นรกรุงรังเต็มไปหมด นอกจากเสียงแล้วเขาก็มองไม่เห็นอะไรอีกอยากจะลงจากรถแล้ววิ่งย้อนกลับไปช่วยจริง ๆ“ไม่เป็นอะไรหรอก” นิโคลัสคอยฟังเสียงอยู่ตลอด และคิดว่าเฉินเฟิงเองก็ได้ยิน แม้เสียงการต่อสู้จะเงียบไป แต่ก็ยังได้ยินเสียงเหมือนบางอย่างถูกเสียบมาสักระยะหนึ่งแล้วคิดว่าต้องไม่เป็นอะไรหรอก ฝ่ายที่เป็นน่าจะพวกตัวเงินตัวทองกลุ่มนั้นมากกว่า“ถ้ามีเสียงฟาดกันตู้มต้ามผมคงคลายใจมากกว่า” นอกจากเสียงฉึก ๆ ที่ได้ยินอยู่ตลอดก็ไม่มีเสียงอื่นเพิ่มเติมอีก แม้แต่เจ้าวรนุชวิวัฒนาการเองก็หายต๋อมไปเลย“หัวหน้า!” นิโคลัสได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวบางอย่างรีบร้องเตือน เป็นจังหวะเดียวกับที่ศัตรูตัวที่สองเผยตัว“หาที่จับ!” โจเซฟตะโกนลั่นเมื่อด้านหน้ามีตัวเงินตัวทองกำลังเงื้อหางที่มีตุ้มหนามไม่ต่างจากตัวแรกเตรียมฟาดมาที่รถ‘ชิ ใช้พุ่มไม้ซ่อนตัวงั้นเหรอ!’“หลบไม่ทันแล้ว!” หัวหน้าทหารรับจ้างกัดฟันกรอด เป็นเขาที่ไม่ทันสังเกตความเคลื่อนไหวข
ฉัวะทหารรับจ้างหนุ่มตวัดแขนฟันไปที่ด้านหลัง วินาทีต่อมาก็มีซากตัวเงินตัวทองร่วงลงไปกองกับพื้น แม้จะถูกโจมตีทีเผลอแต่สายตายังไม่ละไปจากศัตรูตัวฉกาจอย่างวรนุชลูกครึ่งตรงหน้า ไม่นานก็มีตัวอื่นพุ่งเข้ามาโจมตีอีก แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่สามารถดึงความสนใจจากโจเซฟได้เลยฟากนั้นเองก็จดจ้องรอโอกาสให้เขาพลาดท่าอยู่ จะคลาดสายตาได้ยังไง คิดว่าใช้จำนวนเข้าว่าแล้วจะทำให้เขาไขว้เขวได้ละก็บอกเลย... ไม่ได้แดก!ถ้าตัวไม่ใหญ่เท่าหนูเวรที่อยู่นิคมอุตสาหกรรม กะอีแค่จระเข้ในน้ำตัวหนึ่งเขาก็เคยจับมาแล้ว นับอะไรกับการสู้บนบกคิดว่าทหารรับจ้างทำได้แค่ถือปืนไล่ยิงคนในสงคราม?ต้องบอกว่าจ้างให้ไปทำอะไรก็ได้ทั้งนั้นดีกว่า…เมื่อจัดการพวกตัวเล็กตัวน้อยไปหลายสิบตัว ก็ถึงคราวตัวใหญ่ลงมือ มันย่างกรายออกจากจุดเดิมหลังจากเฝ้าดูมนุษย์จัดการกับลูกหลานของมันอย่างง่ายดาย ความไม่พอใจแผ่พุ่งออกมากลั่นตัวเป็นไอสังหารเข้มข้นไม่ว่าอย่างไรมันก็ต้องกำจัดผู้บุกรุกผู้นี้ให้ได้!!“หึ มาเลย” โจเซฟกระดิกนิ้วเชิญชวน พวกตัวเล็กตัวน้อยแม้จะจัดการไม่ยาก แต่ถ้ามีมากกว่านี้ทางเขาเองก็จะแย่เหมือนกัน ดีที่ตัวใหญ่ออกโรงก่อนเขาหมดแรง...“ใกล
พอจุดหนึ่งเรียบร้อยก็เดินเลี่ยงไปโปรยเมล็ดไว้ที่จุดอื่นเพิ่มเติมด้วย ถ้าเป็นไปได้ก็อยากโปรยใส่บริเวณที่ตะโขงยืนอยู่ตอนนี้จังเลยน้า… จะได้บังคับให้เถาฟักทองรัดให้มันอยู่กับที่ไม่ไหว… มันคงฉีกกระชากขาดในทันทีในระหว่างที่เฉินเฟิงวางแผน ทางฝั่งนิโคลัสก็ไม่อยู่นิ่งเฉย ใช้ตนเองเป็นเหยื่อล่อให้ตะโขงสนใจแค่ตน ไม่รู้ว่าเจ้ากระต่ายมีแผนการอะไรอยู่ในใจ แต่เขาจะปล่อยให้มันทำอันตรายคนรักไม่ได้อันดับแรกก็มาดูกันว่าหนังจะหนาขนาดไหน“ฮึบ” นิโคลัสปาลูกบอลไฟที่มีความร้อนสูงถึง 100 องศาเซลเซียสใส่ตูม!ทว่าถูกปัดป้องด้วยหางที่ถูกซุกซ่อนอยู่ในน้ำจนกระเด็นตกลงไปในบ่อน้ำด้านหลัง ก่อเกิดแรงระเบิดใต้ผิวขนาดย่อมน้ำโอเค หนามหนาแล้วหนึ่ง มีดคู่ใจคงต้องเก็บเข้ากระเป๋าไปก่อน… ตัดไม่ขาดแน่เฉินเฟิงวิ่งไปรอบ ๆ โดยเว้นระยะห่างออกจากวงต่อสู้ของคุณหมอหมีและตะโขงยักษ์ มีบ้างที่พยายามหว่านเมล็ดให้อยู่ใกล้แหล่งน้ำถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะเร่งโตจนดูดน้ำในบ่อให้หมดเกลี้ยง อยากรู้นักว่ามันจะหลบซ่อนตัวยังไง หากถึงเวลาถูกต้อนจนมุมตะโขงตัวเขื่องค่อย ๆ เคลื่อนตัวเองขึ้นมาบนบก หางที่ใช้ปัดป้องการโจมตีเมื่อครู่มีความยาวมากกว่า 5
ชั้นใต้ดินห้องปฏิบัติการทางชีวภาพ“ที่นี่แหละ” เพราะผังอาคารไม่ได้ซับซ้อน พวกเขาใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็สามารถตามหาห้องที่มีซูเปอร์คอมพิวเตอร์ติดตั้งอยู่ แถมถัดไปอีก 2 ห้องก็เป็นห้องเก็บอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ที่พวกเขาต้องการอยู่ไม่ไกลกันก็ดี จะได้ไม่ต้องแยกกันไกลอีก“ทำไมชอบสร้างห้องแล็บไว้ใต้ดินก็ไม่รู้” หงส์บ่นกระปอดกระแปด ชั้นบนที่เดินวนกันมามีแต่ห้องสำนักงานหรือไม่ก็ห้องเก็บเอกสารของเจ้าหน้าที่ทั่วไป กว่าจะมาถึงห้องสำหรับทำการทดลอง น่องก็เกือบโป่งลิฟต์ก็ใช้การไม่ได้ เดินลงบันไดกันสนุกสนานเลยจ้าที่น่าแปลกอีกอย่างคือที่นี่ไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่เลย ไม่ว่าจะคน ซอมบี้ หรือแม้แต่ตัวเงินตัวทองที่ป้วนเปี้ยนเป็นร้อย ๆ ด้านนอก... แม้แต่ศพก็ไม่มี รอยเลือดแห้งกรังที่แสดงให้เห็นว่าที่นี่เคยมีซอมบี้อาละวาดก็ไม่มีราวกับพวกเขาไม่ได้มาทำงานในขณะที่มีซอมบี้ระบาดหรือไม่ก็… ซอมบี้อาจจะระบาดวันอาทิตย์ที่พวกคนในตึกนี้เขาหยุดงานกัน?จะเป็นไปได้เหรอ…?“ดูเหมือนลึกลงไปอีกจะเป็นห้องเซิร์ฟเวอร์” ทีโอมองผังอาคาร ชั่งใจว่าจะขนแค่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์สำหรับคำนวณไป หรือว่าจะลงไปดูเครื่องเซิร์ฟเวอร์ด้านล่างด้
ไม่สนใจก็บ้าละไม่เคยได้ยินคำว่า ‘ยิ่งห้ามยิ่งยุ’ หรือ?ไอ้ป้ายแบบนี้กลับจะยิ่งทำให้คนอยากเปิดมากกว่าไม่ติดอะไรเลยเสียอีก“หรือจะมีความลับระดับชาติกันนะ” อดีตหนุ่มนักศึกษาอิเล็กทรอนิกส์ครุ่นคิด อาจเป็นผลการทดลองต้องห้าม หรือไม่ก็... การทดลองที่ผิดกฎหมาย จับมนุษย์เป็น ๆ มาทดลอง!หรือซอมบี้อาจจะเกิดจากที่นี่!!อู้ววววว ยิ่งน่าสนใจหนักขึ้นไปอีกจินตนาการร้อยแปดพันเก้าถูกขุดคุ้ยออกมาไม่หยุด บางครั้งเผลอคิดไปว่าอาจจะมีผีหรือจั๊มสแกร์โผล่มาให้ตกใจเล่น ทางเดินยิ่งมืด ๆ อยู่ ไม่แน่ว่าถ้าเขาหันขวับไปด้านหลังอาจจะมีใครห้อยหัวลงมาจากเพดาน ว่าแล้วก็สาดไฟฉายหันไปดูสักแวบ...ขวับฮั่นแน่… ไม่มีอะไรเลยทีโอนับว่าเป็นชายหนุ่มจิตแข็งคนหนึ่ง ถ้าเปลี่ยนเป็นตุ่นเดินมาที่ทางเดินทั้งมืดทั้งแคบและวังเวงแบบนี้ คงวิ่งกลับขึ้นไปหาภรรยาคนสวยตั้งแต่วินาทีแรกแล้วฝ่ามือหยาบกร้านจากการทำภารกิจและฆ่าซอมบี้จับที่ลูกบิดประตูค้างไว้ ตาชั่งในใจเอนเอียงไปมาระหว่างหน้าที่สำคัญกับการเผือกเรื่องที่อยากรู้เปิดไม่เปิดภารกิจที่ควรทำก็ใกล้จะเสร็จแล้ว เหลือแค่ของแถมติดไม้ติดมือที่ยังไม่ได้ไปเอามา การที่มาวุ่นวายกับห้องที่เขา
“ลองเข้าไปดูกันดีไหม” ชายหนุ่มผู้มีใบหูสุนัขเสนอ“พี่ตุ่นก็คิดว่ามันคือยิ่งห้ามยิ่งยุเหมือนผมใช่ไหมเนี่ย” ทีโอแกล้งกระเซ้า เพราะก่อนหน้านี้เขาเองก็เป็น ติดป้ายห้ามเข้าไว้เสียเด่นหรา ทำเอาคนขี้เผือกอยากลองเปิดประตูดูเลยว่าด้านในมีอะไรที่ห้ามนักห้ามหนา“เข้าไปกันเถอะ”“เอาจริงดิพี่” ทีโอพูดพลางหยิบลูกเหล็กขึ้นมาคลึงเล่นอย่างใช้ความคิด“มันน่าสนใจดีไม่ใช่เหรอ” ตุ่นเดินนำไปก่อนเป็นคนแรก เอื้อมมือไปจับลูกบิดประตู ไม่มีท่าทีคิดหนักอย่างทีโอก่อนหน้านี้เลยแม้แต่น้อย“ก็ใช่” ชายหนุ่มผู้ใช้พลังโลหะเห็นด้วย “แต่จะดีกว่านี้ถ้าคนที่ฉันพูดด้วยไม่ใช่แก”ฉึกฉับพลันลูกเหล็กกลมเกลี้ยงในมือก็แปรสภาพกลายเป็นแท่งเหล็กแหลมในพริบตา พุ่งเข้าไปเสียบกลางหน้าผากของคู่สนทนาอย่างรวดเร็ว ไม่ลังเลในการลงมือเลยสักนิดแม้จะเป็นใบหน้าของคนรู้จักก็ตามดวงตาของใครบางคนที่มีใบหน้าเหมือนตุ่นเบิกค้าง มองการกระทำของทีโออย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา ร่างกายสูงใหญ่ล้มลงไปพร้อมกับฝุ่นละอองบางอย่างที่ฟุ้งกระจายออกมา เผยให้เห็นซากศพของใครบางคนที่ไม่ใช่ตุ่นตั้งแต่แรก‘ว่าแล้วเชียว’ทีโอรีบดึงหน้ากากกันแก๊สในกระเป๋าออกมาสวม ฝุ่นละอองที
“ดูเหมือนจะมีการแจกจ่ายงานด้วย” เด็กสาวยิ้มยินดี จะให้ล้างจานหรือกวาดถนนก็ทำได้ทั้งนั้น ขอแค่สามารถมีชีวิตต่อไปในแต่ละวันก็พอกลุ่มผู้รอดชีวิตบางคนก็มีชีวิตที่ดีขึ้นหลังได้ออกมาอยู่รวมกันในค่าย ไม่ต้องคอยหวาดระแวงในเวลากลางคืน ขอแค่ขยันอดทนก็ทำงานแลกข้าวกินได้ 3 มื้อ ไม่ต้องอดอยาก แต่บางคนที่หลงเข้าไปในค่ายที่มีการจัดการที่ค่อนข้างแย่ อีกทั้งยังผูกขาดอาหารและน้ำไว้ที่กลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง ใครที่เผลอหลงเข้าไปต่อให้อยากหนีก็มีแต่ต้องทิ้งชีวิตแล้วไปเกิดใหม่อย่างที่โจเซฟและกลุ่มจะได้เจอหลังจากนี้...“จะเข้าไปที่ห้างเหรอ เสียใจด้วยนะ ถิ่นนี้พี่จอง” ก่อนถึงห้างสรรพสินค้า ตุ่นและหงส์รับรู้ได้ว่ามีคนจับจองที่แห่งนั้นเป็นฐานที่มั่นแล้ว เพราะมีทั้งเสียงผู้คนเดินขวักไขว่ไปมา และมีเสียงการฆ่าซอมบี้ด้วยเช่นกัน โจเซฟตัดสินใจจะแสดงเป็นกลุ่มผู้รอดชีวิตที่มาหาที่พึ่งเพื่อดูว่าค่ายขนาดเล็กนี้มีความเป็นอยู่อย่างไร ถ้าหากเจรจากันได้ก็จะลองพูดคุยดู แต่สีหน้าและท่าทางของหงส์ก็ทำให้เขาเปลี่ยนใจ“เปล่า พวกเราแค่ผ่านมา” โจเซฟมองชายที่สักลายไว้ทั่วตัว หมอนั่นถือขวานขนาดใหญ่ไว้ ตามร่างกายมีเกล็ดขึ้นประปราย คล้ายกั
กลุ่มค้นหาสิ่งของจำเป็นทำแบบนี้อยู่หลายวัน บางสถานที่ก็เก็บกวาดมาได้เยอะ และบางทีก็เรียกได้ว่ามาเสียเที่ยว จนกระทั่ง 2 สัปดาห์ต่อมาพวกเขาก็ได้พบกับกลุ่มผู้รอดชีวิตกลุ่มใหญ่ที่กำลังมุ่งหน้าเข้าตัวเมือง“พวกคุณก็จะเข้าตัวเมืองเหมือนกันเหรอ” ชายชราคนหนึ่งถาม เขาถูกลูกหลานคะยั้นคะยอให้ออกจากบ้านหลังเก่าที่ใช้ซุกหัวนอนมาหลายชั่วอายุคน เหตุผลเพราะละแวกที่อยู่อาศัยไม่สามารถหาอาหารได้อีกแล้ว ประจวบเหมาะกับมีคนออกมาทำภารกิจและบอกว่าในตัวเมืองมีค่ายพิเศษที่นักการเมืองในท้องถิ่นเป็นคนจัดตั้งขึ้น พวกเขาจึงหมายมั่นปั้นมือว่าจะไปเข้าร่วมด้วยเดิมทีพวกเขาเป็นครอบครัวใหญ่ที่อาศัยอยู่ในโฉนดที่ดินเดียวกัน เพราะเป็นญาติพี่น้องที่บรรพบุรุษแบ่งสันปันส่วนที่ทางให้แต่ละคนปลูกบ้านและทำมาหากินร่วมกัน เมื่อถึงเวลาฉุกเฉินจึงรวมตัวกันช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้อย่างรวดเร็ว พวกเขามีตั้งแต่คนแก่อายุ 60 ปีขึ้นไป และเด็กน้อยไม่ประสาลืมตาดูโลกไม่ถึงหนึ่งขวบปีดี เมื่อนับรวมกันแล้วก็มีมากกว่า 10 ชีวิตพวกเขาสามารถประคับประคองจนผ่านพ้นวิกฤตต่าง ๆ มาได้ แม้กระทั่งฝนตกและมีผู้ติดเชื้อจำนวนมหาศาลมาป้วนเปี้ยนหน้าบ้านก็ไม่หวั่
…ภายนอกอาคารนั้นเงียบสงัดไม่มีเสียงการเคลื่อนไหวเลย นั่นหมายความว่าสถานที่แห่งนี้ไม่มีใครอยู่อีกแล้ว มีเพียงตัวอาคารที่ถูกธรรมชาติค่อย ๆ คืบคลานเข้ามากลืนกินรอบนอกอาคารเต็มไปด้วยวัชพืชหลากหลายพันธุ์ พวกมันงอกแทรกขึ้นมาตามร่องอิฐตัวหนอนที่ถูกนำมาปูเป็นทางเดิน โชคดีที่ตอนนี้เป็นเวลากลางวัน หากเปลี่ยนเป็นตอนกลางคืนคงให้ความรู้สึกเหมือนกำลังออกไปล่าท้าสิ่งลี้ลับจนตุ่นขวัญผวาเกาะคนรักไม่ปล่อยแน่ ๆครืด…เสียงประตูฝืดเฝื่อนถูกเลื่อนออกด้วยสองมือของโจเซฟ ด้านบนมีกล่องเซนเซอร์ที่ในอดีตเคยจับการเคลื่อนไหวและเปิดประตูบานนี้อัตโนมัติ เพียงแต่ในเวลานี้ไม่มีกระแสไฟฟ้าที่เป็นแหล่งพลังงานให้มันอีกแล้ว ดังนั้นใครที่ต้องการเข้ามาภายในสำนักงานก็จำเป็นต้องลงแรงเปิดด้วยตัวเอง“สวมหน้ากากกันแก๊สไว้ก่อน” โจเซฟเห็นฝุ่นด้านในฟุ้งตลบก็ออกคำสั่งต่อทันทีดาริณีกับพิมพาได้รับหน้ากากนี้มาตั้งแต่วันที่ออกเดินทางวันแรก พวกเธอหยิบมันขึ้นมาสวมใส่อย่างว่าง่าย นอกจากฝุ่นที่ยังลอยเอื่อยอยู่ในอากาศ สภาพภายในอาคารก็บ่งบอกถึงการได้รับความเสียหายเช่นกัน ไม่ว่าจะโต๊ะ เก้าอี้ หรือชั้นวางเอกสารต่างถูกตั้งวางไว้ตามมุมหน้าต่าง
พอถึงระยะที่กำหนด ทุกคนก็ลงจากจักรยานแล้วใช้วิธีการเดินเท้าไปจนถึงจุดที่มีซอมบี้ระดับหนึ่งเดินโขยกเขยกอยู่กลางถนน พวกมันเดินจับกลุ่มกัน ลักษณะการแต่งกายคล้ายคลึงกับเจ้าหน้าที่รัฐจากสำนักงานที่ไหนสักแห่งเพราะอยู่ในชุดสีกรมท่าเหมือนกันทั้งหมด ตามตัวมีรอยแผลเหวอะหวะจากการกัดฉีก“ไม่มีซอมบี้วิวัฒนาการ” หงส์กะจากสายตาบวกกับลางสังหรณ์ของตน “มีแต่ระดับหนึ่งก็จริง แต่จะประมาทไม่ได้นะคะ” พร้อมกับเอ่ยเตือน“รับทราบค่ะ” พิมพามองซอมบี้ที่กำลังมุ่งหน้ามาทางตนก็กลืนน้ำลายลงคออึกหนึ่ง เรียกขวัญและกำลังใจให้ตนเองก่อนลงมือ“งั้นลุยเลยนะคะ” ดาริณีทุบกำปั้นปะทะฝ่ามือของตนเอง เกิดเสียงแน่นหนักชวนให้รู้สึกว่าต้องเจ็บตัวแน่หากโดนหญิงสาวเหวี่ยงหมัดใส่สักครั้ง“ลุยเลยครับ” สิ้นเสียงโจเซฟ พิมพาก็วิ่งขึ้นหน้า เหวี่ยงมีดยาวฟันเข้าที่แขนของซอมบี้ที่ตรงมายังเธอก่อนเป็นตัวแรก จากนั้นก็มุดลงต่ำ ให้ดาริณีที่วิ่งมาจากด้านหลังเหวี่ยงขวานใส่ลำคอของมันทันทีตุบการประสานงานของทั้งคู่เป็นไปอย่างไหลลื่น ความดีความชอบนี้ต้องยกให้กับครูฝึกสุดเข้มงวดอย่างโจเซฟที่พยายามให้หญิงสาวทั้งสองฝึกการต่อสู้มาก่อนจากบนภูเขา ทำให้ร่างกา
คำถามนี้วนเวียนอยู่ในหัวของเด็กน้อยทั้งสามจนกระทั่งผล็อยหลับไป ตอนเช้าหลังจากกินอาหารที่กักตุนในถ้ำเรียบร้อยก็ตรงดิ่งไปหาทีโอพร้อมกับคำถามที่ยังไม่ได้คำตอบ“ทำไมพี่หงส์ถึงมีเขาบนหัวล่ะครับ” เด็กชายดลถาม พวกเขาปรึกษากันก่อนออกจากฐานทัพลับแล้ว เนื่องจากดลอยู่กับกลุ่มทหารรับจ้างกลุ่มนี้มานานกว่าพลอยใสและปอนด์ เด็กชายจึงต้องรับหน้าที่ในการถามคำถามที่แสนละเอียดอ่อนนี้ ซึ่งดลเองก็ไม่ได้มองว่าเพื่อนโบ้ยงานมาให้ตนแต่อย่างใด เดินหน้าถามทันทีที่เห็นพี่ชายผู้ใช้พลังโลหะ“ไปอ่านเจอมาจากที่ไหนล่ะ” ชายหนุ่มยิ้มเอ็นดู“พวกเราเจอในหนังสือสารคดีครับ” ปอนด์หยิบหนังสือดังกล่าวออกมาโดยจงใจเปิดหน้าที่มีภาพประกอบของกวางเพศผู้และกวางเพศเมียที่อ่านเจอเมื่อคืนให้คนอายุมากกว่าดู“อ๋อ สารานุกรมสัตว์โลก” ทีโอพยักหน้าเข้าใจ เห็นเด็ก ๆ ตั้งใจอ่านหนังสือที่เต็มไปด้วยสาระความรู้ก็เผลอเปรียบเทียบกับตัวเองเมื่อสิบกว่าปีก่อนที่มักออกไปร้านเกมคาเฟ่หรือไม่ก็เล่นเกมการ์ดกับเพื่อน คิดไม่ออกเลยว่าอีกหลายสิบปีต่อจากนี้จะมีเด็กฉลาดอย่างสามคนนี้เกิดขึ้นมาอีกมากแค่ไหน…พอหมดซอมบี้ โลกต้องพัฒนาอย่างก้าวกระโดดแน่“หรือเพราะพี่หงส
หนึ่งชั่วโมงต่อมาทุกคนก็ไปรวมกันที่มินิมาร์ตอีกครั้ง หงส์กลับมาพร้อมกับคริสตัลซอมบี้สีใสจำนวน 12 เม็ด พวกมันถูกล้างทำความสะอาดมาเป็นอย่างดีแล้ว“แถวนี้ไม่ค่อยมีคนผ่านมาเลยเหรอเนี่ย” การที่มีคริสตัลเกิดขึ้นในสมองของซอมบี้ได้นั้น หมายความว่าเจ้าพวกนี้ไม่ใช่ซอมบี้ที่เพิ่งเกิดในเร็ว ๆ นี้“คนน่าจะไปกระจุกตัวอยู่ในเมืองกันหมดแล้วล่ะค่ะ” หงส์ให้ความเห็นอาหารเย็นวันนี้เป็นปลากระป๋องกับแครกเกอร์ที่เฉินเฟิงใช้มันฝรั่งบดผสมรวมกับแป้งแล้วนำไปอบ ใช้เป็นอาหารฉุกเฉินยามออกเดินทางเพราะมีน้ำหนักน้อยและไม่ต้องยุ่งยากกับการประกอบอาหารนอกบ้านสำหรับทหารที่ผ่านความเป็นความตายมานับครั้งไม่ถ้วน พวกเขากินกันไปเรื่อย ๆ อย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ มีเพียงดาริณีและพิมพาที่ต้องพยายามกินให้มากหน่อย แม้รสชาติจะแปลกแปร่งเพราะไม่เคยกินแครกเกอร์กับปลากระป๋องมาก่อน ก็ต้องฝืนกินเข้าไปอีกหลายคำ วันนี้ใช้พลังไปเยอะต้องชดเชยสภาพความเป็นอยู่หลังออกจากเซฟโซนนั้นต้องรัดกุมทุกด้าน พวกเธอขอติดตามมาด้วยจะต้องอดทนและเรียนรู้ที่จะยอมรับและผ่านมันไปให้ได้ในสักวันหนึ่ง“กินน้ำให้พอดีนะคะ” หงส์แนะนำ “เกิดปวดห้องน้ำตอนกลางคืนจะลำบาก”“ถ้
“ใจร้อนอะไรครับเนี่ย” เฉินเฟิงตำหนิ“ใครใช้ให้เลียเจ้านี่ล่ะ” เขาไม่ของขึ้นจนลากคนรักไปทำกิจกรรมบนเตียงให้ถึงที่สุดก็นับว่าอดทนมากแล้ว มีอย่างที่ไหนยกมือข้างที่เลอะน้ำกามของเขาขึ้นดม หรี่ตาสีแดงลงคล้ายครุ่นคิดแล้วใช้ลิ้นสีแดงสดเลียเบา ๆ เป็นใครจะไปทนไหวเล่นเอาสติขาดผึงเลยทีเดียวซึ่งเจ้ากระต่ายน่าตีก้นก็ไม่ได้สำนึก ยกมือข้างที่ว่าขึ้นมาให้อยู่ในระดับสายตา เพราะเมื่อกี้เผลอใช้มือข้างนี้ผลักอกคนรัก จึงมีบางส่วนที่ถูกเช็ดออกไปแล้ว“ก็ผมสงสัยนี่…” เฉินเฟิงคิดถึงการกระทำของตนเองเมื่อครู่ก็หน้าร้อนผ่าว แค่จินตนาการก็รู้สึกว่ามันต้องอีโรติกมากแน่ แต่จะให้ถอยก็ดูไม่เป็นตัวเขาสักเท่าไร “เลยอยากลองชิมว่ารสชาติเป็นยังไง” ช้อนดวงตากลมโตสีทับทิมเป็นประกายออดอ้อนคุณหมอหมีตัวโตที่ยังคงคร่อมอยู่ด้านบน“...” นี่กำลังพยายามแก้ตัวหรือยั่วเขาอยู่กันแน่ หือ “ที่รักทำแบบนี้พี่ของขึ้นอีกแล้วเห็นไหม” นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนก้มมองกลางกายของตนที่กลับมาแข็งตัวอีกครั้ง“ไม่เห็นเป็นไรนี่ครับ เป็นปฏิกิริยาตามธรรมชาติอยู่แล้ว” เฉินเฟิงยิ้มตอบพร้อมกับกระถดตัวลงไปอยู่ในระดับเดียวกับอาวุธของคุณหมอ“...”“เดี๋ยวผมปลอบให้มั
เฉินเฟิงนอนโรงพยาบาลเป็นคืนที่ห้าแล้วหลังจากฟื้นขึ้นมา เขายังคงกินนอนอยู่ที่นี่เพราะต้องทำกายภาพบำบัดให้ร่างกายกลับมาใช้งานได้ดังเดิมเมื่อเห็นว่าเจ้ากระต่ายปลอดภัยหายห่วง คนอื่น ๆ จึงเริ่มออกไปทำภารกิจกันถี่ขึ้น แม้แต่ทีโอเองก็ไม่ได้มานอนเฝ้าที่ห้องอีกแล้ว ภายในห้องจึงเหลือแค่ชายหนุ่มผมขาวและคนรักผู้มีใบหูหมีสีน้ำตาล กับคุณสิงหาที่จะแวะเวียนมาตรวจอาการทุกเช้าวันนี้ก็เช่นกัน หลังจากทำกายภาพในตอนเช้าเสร็จ แพทย์เจ้าของคนไข้ดันบอกว่าตอนนี้สภาพร่างกายของเขาดีขึ้นมาแล้ว หากจะทำกิจกรรมเข้าจังหวะกับคนรักก็ไม่มีปัญหามีสิครับหมอ!!เพราะเขากับนิโคลัสไม่เคยเกินเลยถึงขั้นนั้น ที่ผ่านมาก็มีแค่กอดกับจูบ ส่วนเรื่องเมคเลิฟอะไรนั่นตัดไปได้เลย ถ้าไม่ใช่นิโคลัสนอนเป็นผัก ก็มีภารกิจโหดหินรออยู่ พอรอดตายมาได้ก็กลายเป็นเขาที่นอนติดเตียงต่อ จะเอาเวลาไหนไปจู๋จี๋กันถามหน่อยไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยคิด แต่สถานการณ์มันไม่เอื้ออำนวยให้คิดต่างหาก แม้จะไม่รู้ว่าระหว่างเขากับคนรักจะดำเนินขั้นสุดท้ายของการเมคเลิฟแล้วจะเป็นยังไง แต่ถ้าค่อยเป็นค่อยไปโดยเริ่มจากบทรักสุดเบสิกได้ละก็… บอกเลยเขาสู้ตาย‘พี่นิค’ เจ้ากระต่ายมองค
ขนาดที่ค่ายพันธมิตรยังมีคนที่มีหูสัตว์เกลื่อนกลาด เรียกได้ว่ามีประชากรที่เป็นทั้งมนุษย์ธรรมดาและมนุษย์กลายพันธุ์อย่างละครึ่งเลยล่ะ ส่วนผู้มีพลังพิเศษไม่ว่าที่ไหนก็ยังมีจำนวนน้อยนิดเหมือนกันหมด“งั้นผมขอไปกักตัวที่บ้านก่อนนะ” การกักตัวกลายเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดไปแล้ว เมื่อไหร่ที่ออกไปด้านนอกจะต้องกักตัวเป็นเวลา 3 วัน ป้องกันไม่ให้นำเชื้อที่ติดตัวมาไปแพร่ใส่คนอื่นทั้งทางตรงและทางอ้อม“ครับผม” กลุ่มหน้าประตูสองคนเดินไปส่งเฉินเฟิงและนิโคลัสที่บ้าน ถ้าเกิดชายหนุ่มกลายเป็นซอมบี้ระหว่างทางก่อนถึงบ้านขึ้นมาคงเป็นเรื่องใหญ่ปังหลังประตูรั้วบ้านและประตูหน้าบ้านถูกปิด เฉินเฟิงก็มองสภาพบ้านที่ยังคงสะอาดสะอ้านไม่มีร่องรอยของคราบฝุ่นเป็นไปได้ยังไง?หรือว่าในตอนที่พวกเขาไม่อยู่มีคนเข้ามาอาศัย?“อ้อ พวกผมลืมบอกไป กลุ่มแม่บ้านเขาช่วยกันผลัดเปลี่ยนมาทำความสะอาดบ้านให้นะครับ พวกป้า ๆ เขาอยากตอบแทนเรื่องเสบียงสำรองที่ให้มา” เป็นกรที่ตะโกนมาจากนอกบ้านช่วยไขข้อข้องใจให้เจ้ากระต่ายพอดิบพอดี เกือบได้ระเบิดโทสะแล้วไหมล่ะ“ฝากขอบคุณด้วยนะ” เฉินเฟิงตะโกนกลับไป“ครับผม!” และได้รับการตะโกน