ログインPick a Bar
01.03 น.
“ฉันว่าผู้ชายคนนั้นเขามองแกอยู่นานแล้วนะยัยคริส”
“ช่างหัวมันสิ” คาริสาตอบอย่างไม่ใส่ใจ เพราะเธอรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าปัตถ์พงษ์นั่งเฝ้าเธออยู่
ครบสองสัปดาห์แล้วที่เธอตัดสินใจยกเลิกงานแต่งงาน ซึ่งค่าเสียหายทั้งหมดของงานในวันนั้นทางครอบครัวของปัตถ์พงษ์เป็นคนรับผิดชอบ
ค่าเสียหายที่ชดใช้ได้ด้วยเงิน ก็จ้องจ่ายด้วยเงิน แต่ค่าเสียหายทางความรู้สึกของเธอ ก็มีราคาที่ปัตถ์พงษ์ต้องจ่ายเหมือนกัน
“ฉันไม่ได้หมายถึงไอ้ปัตถ์โว้ย แกมองก่อนสิ” แก้มหอมเขย่าแขนไม่เลิก
คาริสาถอนหายใจพลางดึงนิ้วขึ้นจากแก้วเหล้าที่กำลังเขี่ยก้อนน้ำแข็งเล่นฆ่าเวลา มองตามสายตาของเพื่อนออกไป
“เขานั่งมองแกอยู่ตรงนั้นตั้งแต่มาถึง รู้จักเหรอวะ”
“ไม่” ปฏิเสธก่อนจะหันหน้ากลับมาทางเดิม นั่งเขี่ยน้ำแข็งในแก้วเหล้าต่อไปเงียบๆ
“คนอะไรวะ หล่อฉิบหาย”
“ชอบก็ไปจีบ มัวแต่นั่งบ่น เดี๋ยวหมาจะคาบไปแดก”
“เขามองแกตาเป็นมันอย่างนั้น ฉันว่าเขาไม่น่าจะชอบทรงอย่างฉันหรอก ขืนฉันเดินเข้าไปก็มีแต่ฉันนี่แหละที่หมา” แก้มหอมพูดไปถอนหายใจไป
“แล้วต้องแบบไหนถึงจะชอบทรงอย่างแกวะ”
“ไม่รู้สิ ของแบบนี้เดี๋ยวถึงเวลาก็รู้เอง”
“ทฤษฎีเก่ง ฉันจะบอกอะไรแกให้นะยัยแก้ม สมัยนี้แล้วถ้าแกมัวรอผู้ชายมาจีบก่อนก็โน่นเลย” คาริสาชี้นิ้วขึ้นไปบนหลังคาร้าน
“อะไร”
“อนาคตแก เตรียมหอบผ้าหอบผ่อนปีนขึ้นไปนอนบนคานเถอะ”
หัวเราะในลำคอแล้วกระดกเหล้าเข้าปากย้อมใจ
“ชิ ฉันกลัวเสียที่ไหน ไม่ได้อยู่คนเดียวสักหน่อย เห็นกันอยู่ว่าแกปีนตามฉันขึ้นมา”
ถูกย้อนเสียจนต้องหันไปจิปากใส่
ตื๊ด~
ไม่ทันได้เอาเรื่อง โทรศัพท์มือถือของเธอก็สั่นขึ้นมาเสียก่อน แก้มหอมยื่นหน้ามามองหน้าจอด้วยความอยากรู้ทั้งที่เจ้าของโทรศัพท์ไม่ได้อยากรู้หรือตื่นเต้นกับสายเรียกเข้าช่วงดึกเลยสักนิด
“ทำไมแกไม่บล็อกเบอร์มันไปเสียให้สิ้นเรื่องสิ้นราว”
เห็นชื่อของปัตถ์พงษ์ที่คาริสาบันทึกเอาไว้ว่า ‘ไอ้ชาติชั่ว’ แล้วแก้มหอมอดจะถามได้
“เห็นคนทุรนทุรายแล้วสบายใจดี”
“ไม่รำคาญบ้างหรือไง หรือว่าตัดบัวยังเหลือไย”
“ฉันรอเวลาขุดรากถอนโคนบัวต่างหาก” คาริสายืนยันอย่างมั่นใจ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ล่าสุดหย่อนลงในถังน้ำแข็ง
“โอ้โห เป็นคนรวยนี่ทำอะไรก็ดูคูลไปหมด ถ้าเป็นฉันทำนะ แม่ด่าบ้านแตกเหมือนซื้อให้ ทั้งที่ฉันผ่อนเอง”
“ถ้าฉันซื้อเองฉันก็คงเสียดายเหมือนกัน”
“อ้าว แม่แกซื้อให้เหรอ”
“มัน”
คำเดียวสั้นๆ ทำแก้มหอมตบเข่าฉาด ดึงถังน้ำแข็งไปตรงหน้าแล้วจับโทรศัพท์วนในถังน้ำแข็งอย่างต้องการจะให้มันพังให้สิ้นเรื่องสิ้นราว
คาริสามองหางตาแล้วส่ายหัว ยกมุมปากยิ้มนิดๆ เพราะเธอเองก็รู้สึกสะใจ หากแก้มหอมไม่ทำ เธอก็กำลังจะทำอยู่พอดี
“ยัยคริส”
“อะไร” หันไปส่งยิ้มให้ ‘ต้นปาล์ม’ เพื่อนอีกคนที่มาด้วยกัน นอกจากแก้มหอมกับต้นปาล์มแล้ว ก็ยังมี ‘ข้าวปั้น’ กับ ‘กันตพงษ์’ ที่ตอนนี้ไปยืนดึงดาวกันอยู่หน้าเวทีโน่น
“ไอ้ผู้ชายคนนั้นมันจะกลืนแกเหรอวะ”
คำถามมาแนวเดียวกันกับแก้มหอม คาริสาถอนหายใจแล้วมองกลับไปที่มุมเดิมอีกครั้ง
ผู้ชายคนนั้นยังคงนั่งมองเธอไม่วางตา ยิ่งรู้ว่าเธอมองกลับไปเขาก็ยิ่งจ้อง ไม่แม้แต่จะหลบสายตา พอมองตากันได้สักพักเธอจึงเริ่มรู้สึกคุ้น
ใบหน้าหล่อคมเข้มเหมือนอย่างที่แก้มหอมพูดว่า ‘หล่อฉิบหาย’ คิ้วหนา ตาดุ จมูกโด่ง ปากแดง ครบสูตรความผัวในที่มืด แต่ไม่แน่ใจว่าหากเจอกันในที่สว่าง เขาจะยังดูดีแบบนี้ไหม คาริสาพยายามเค้นภาพจำในหัว แต่ก็เหมือนจะเลือนราง คลับคล้ายคลับคลาขึ้นมาว่า...
“เหี้ย”
“อะไรของแก”
“ปะ เปล่า ไม่มีอะไร”
ปฏิเสธพร้อมกับส่ายหัวอยู่หลายที ในอกร้อนวูบวาบ เม้มริมฝีปากไม่หยุดเมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าผู้ชายคนนั้นคือคนที่เธอเคยดึงเขามาจูบต่อหน้าปัตถ์พงษ์
เธอทำจริงหรือเปล่า มันเหมือนจริง แต่ก็เหมือนไม่จริง จะคิดว่าฝันแต่สายตาของเขาในภาพจำ ก็ดันเหมือนกับที่เห็นอยู่ตอนนี้ไม่มีผิด
โรงแรมอินทูทัชห้อง 1203คาริสากวาดสายตามองไปรอบห้องพักที่จองเอาไว้แล้วเหยียดยิ้ม ก้าวเท้าตรงเข้าไปด้านในเพราะตั้งใจนัดพบกับปัตถ์พงษ์ที่นี่โดยเฉพาะเธอตั้งใจเลือกห้องนี้เพราะมันเป็นที่วิวดีที่สุด และที่สำคัญมันห้องพักที่ครั้งหนึ่งเคยเกือบเป็นห้องหอของเธอกับมัน!“มานานแล้วเหรอ”เอ่ยถามคนที่นั่งรอเธออยู่ด้านในอย่างใจเย็นปัตถ์พงษ์ที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว หันกลับมามองเธอด้วยสายตาเคียดแค้น“ฝีมือเธอสินะ”“ใช่ ฝีมือฉันเอง ฉันตั้งใจจองห้องนี้ไว้เพื่อนายโดยเฉพาะ ต้องจองล่วงหน้าตั้งเกือบเดือนแน่ะ” เธอบอกยิ้มๆ พร้อมกับมองอีกฝ่ายกลับไปด้วยสายตาท้าทายปัตถ์พงษ์กำหมัดแน่นด้วยความโกรธก่อนจะเดินตรงเข้ามาหาเรื่องเธอทันที“อย่ามาไขสือกับฉันนะคริส”“อ้าว นายไม่ได้หมายถึงเรื่องห้องหรอกเหรอ” คาริสาแสร้งทำหน้าตาแปลกใจใส่“จะเอายังไง”“ถามฉันเหรอ”“ใช่ เลิกแล้วต่อกันไปไม่ได้หรือไง ฉันไม่ยุ่งกับเธอ เธอก็อย่ามายุ่งเรื่องของฉัน” คาริสาแทบระเบิดหัวเราะตอนได้ยิน ไม่อยากเชื่อหูตัวเองว่าปัตถ์พงษ์ที่ตามตื๊อจนน่ารำคาญจะพูดคำว่าเลิกแล้วต่อกันออกมาเต็มปาก“ฉันก็ไม่ได้ยุ่งเรื่องอะไรของนายสักหน่อยนี่”“อย่าคิดว่าฉันไม่ร
บริษัท ห้องประชุม 03 “ถ้าไม่มีอะไรแล้วรบกวนแก้ไขตามที่ผมแจ้ง แล้วส่งให้ผมตรวจสอบอีกทีก่อนวันศุกร์” ภากรสั่งทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกจากห้องประชุมทันทีสมุทรที่ยืนรออยู่หน้าห้องประชุมเร่งฝีเท้าเดินตามกลับมาติดๆ“มีอะไร”“คนของเราบอกว่าปัตถ์พงษ์ไม่ได้กลับคอนโดมาหลายวันแล้วครับ พบล่าสุดที่ร้านกาแฟใกล้กับโรงพยาบาล ก่อนวันที่คุณภากานต์จะกลับบ้าน หลังจากนั้นก็หาตัวไม่เจออีกเลยครับ”“เช็กให้แน่ใจว่าคนใกล้ตัวมันมีใครเคลื่อนไหวอะไรบ้าง บางทีช่วงนี้ดวงมันอาจใกล้จะถึงฆาตแล้วก็ได้” ภากรกำชับเสียงเข้ม“ตรวจสอบทั้งหมดแล้วครับ ทุกคนปกติดี ไม่มีความเคลื่อนไหว ผู้หญิงที่มันคบซ้อนกันอยู่ตอนนี้มี 3 คน ทุกคนเริ่มตีตัวออกหาก ช่วงหลังมันเริ่มหยิบยืมเงินเพื่อนฝูง แต่ส่วนมากจะถูกปฏิเสธเพราะทุกคนรู้ไส้รู้พุงมันหมดครับ” สมุทรรายงานอย่างละเอียดดวงตาของภากรหรี่แคบลงเมื่อครุ่นคิด “แล้วเรื่องที่มันจะได้เลื่อนตำแหน่งล่าสุดล่ะ”“ถูกชะลอเอาไว้ตั้งแต่ที่คุณคาริสายกเลิกงานแต่งงานครับ สืบจากคนระดับสูงในบริษัทพบว่าแม่ของคุณคาริสาเป็นเพื่อนสนิทกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ อ้อ อัปเดตล่าสุดจากคนของเราเมื่อช่วงบ่าย แม่ของปัตถ์พงษ์เข
“คะ คุณลบคลิปนั่นเหรอ”“ค่ะ สบายใจได้แล้วนะคะ ตอนนี้มันขู่อะไรคุณไม่ได้แล้ว เลิกเป็นบ้าก่อนที่พี่คุณจะเป็นบ้าตามคุณเถอะนะคะ ถือว่าฉันขอ ฉันอยากได้เวลาเดตกับเขาบ้าง แต่คุณอาละวาดทีไร พยาบาลโทรตามเขามาโรงพยาบาลทุกทีเลยค่ะ” คาริสาบอกยิ้มๆ ยกมือขึ้นกดหัวที่ถูกก้นแก้วกระแทกเมื่อครู่ รู้ได้ทันทีว่ามันบวมขึ้นมา“พะ พี่...”ภากรถอนหายใจก่อนจะรีบเดินไปกอดน้องสาวเอาไว้ทันที เห็นแบบนั้นคาริสาจึงทิ้งตัวนั่งลงอย่างหมดแรง ขนมผิงรีบเดินมาดูอาการ“เจ็บไหมคะ”“โอ้โห ต้องถามอีกเหรอคะพี่ผิง” เสียงกระซิบของเธอทำขนมผิงต้องกลั้นหัวเราะ เพราะแม้จะเจ็บแต่ก็ยังยิ้มอารมณ์ดี“ขอโทษที่ทำให้ตกใจนะคะ”“ชินแล้วค่ะ แต่ปกติพี่ก็ไม่เคยโดนอะไรปาหัวนะคะ”คาริสาเบะปากใส่ไปทีหนึ่ง“เดี๋ยวพี่ไปขอเจลพี่พยาบาลมาให้ค่ะ”“ขอบคุณค่ะ”กระซิบกระซาบพลางหัวเราะกันคิกคักๆ ในขณะที่ภากรกอดน้องสาวเอาไว้แนบอก เธอไม่พูดไม่จา เอาแต่ร้องไห้สะอึกสะอื้น แต่ก็ยอมกอดเขาเป็นครั้งแรกหลังจากที่ปั้นปึ่งและไม่ยอมให้เขาเข้าใกล้มาร่วมสองเดือนคาริสามองแล้วได้แต่ยิ้ม อย่างน้อยการที่เธอเจ็บตัวครั้งนี้ก็น่าจะคุ้ม“กานต์ขอโทษค่ะพี่กร”“ช่างมันเถอะ ต่อไปน
โรงพยาบาลก๊อกๆๆภากรเคาะประตูก่อนจะเปิดเข้าไปทันทีอย่างทุกทีคาริสารู้สึกประหม่าอยู่ไม่น้อย เพราะลึกๆ แล้วเธอก็ยังรู้สึกว่าเธอไม่ควรมา แต่หากเธอไม่มา เขาคงไม่สบายใจลำคอของคาริสาแห้งผากเมื่อเดินเข้าไปด้านในห้องพักแล้วพบกับขนมผิงนั่งอยู่ข้างเตียง เธอไม่ได้สวมชุดพยาบาล เหมือนว่าวันนี้จะรับหน้าที่มาดูแลภากานต์เป็นพิเศษ ไม่ได้ต้องทำหน้าที่พยาบาลของโรงพยาบาลพร้อมกันอย่างที่เจอกันครั้งก่อนสายตาของขนมผิงมองมาที่มือของเธอที่ภากรจับไว้ ในขณะที่เธอมองหน้าอีกฝ่าย สลับกับสายตาอิดโรยของคนที่นอนอยู่บนเตียง ห่มผ้ามิดชิดจนถึงหน้าอก“เราขอคุยกับผิงหน่อยสิ”“อืม ได้สิ”“ข้างนอกแล้วกัน” ภากรยิ้มให้อีกฝ่ายแล้วรอให้เธอนำออกไป ก่อนจะหันกลับมาส่งยิ้มให้คาริสา “คุณรอผมแป๊บหนึ่งนะ”“ค่ะ” คาริสายิ้มให้เขาสบายใจ รอจนเขาเดินออกไป เธอจึงหันไปส่งยิ้มให้กับน้องสาวของเขาที่มองมาพอดี“สวัสดีค่ะคุณกานต์”“คุณคบกับพี่กรเหรอ”“ฉัน...” จะตอบอย่างไรดีนะ “ค่ะ”ตอบไม่ถูกก็ต้องเลือกพูดความจริงสิ พอยืนยันออกไปแล้วกลับถูกอีกฝ่ายเมินใส่ หมายความว่าอย่างไรกัน“คุณไม่ชอบฉันตรงไหนเหรอคะ” คาริสาไม่ใช่คนที่จะเมินเฉยกับเรื่องอะไร
“คลิปวิดีโอในไดร์ฟค่ะ ซื้อพื้นที่เก็บเพิ่มเติมจากปกติ ชื่อไฟล์เหมือนจะเป็นรหัสอะไรก็ไม่รู้ เปิดไฟล์ก็ต้องใช้รหัส” คาริสาชี้นิ้วไปที่หน้าจอ ที่แม้ว่าเธอจะเลือกดูเฉพาะไฟล์ที่เป็นคลิปวิดีโอแล้ว แต่ก็ยังมีเยอะมากจนตาลาย“แสดงว่าน่าจะทำมานานแล้ว แบบนี้จะรู้ได้ยังไงว่าคลิปไหนคืออะไร”“สำคัญเหรอคะ”“อ้าว ก็...”“ฟิ้ว” คาริสาผิวปากหลังจากกดเลือกทั้งหมดแล้วลบทันที “รหัสเดียวกันหมดเลยเหรอ”“ค่ะ แค่สลับจากตัวท้ายกลับขึ้นมา เดาถูกเฉย ฮ่าๆ” เธอหัวเราะด้วยความสะใจ ในขณะที่ภากรยืนอึ้งเพราะไม่คิดว่าเธอจะลบทั้งหมดไปต่อหน้าต่อตา“ถือโอกาสเคลียร์ไดร์ฟไปเลยแล้วกันนะ”“ข้อมูลนั่น...”“ช่างหัวมันเถอะค่ะ ฟิ้ว บ๊ายบาย” คาริสาโบกมือลาหน้าจอแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ด้วยความภูมิใจ ก่อนหน้านี้เธอไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลยเพราะไม่ได้ใส่ใจ มัวแต่หาข้อมูลจากภายนอกภากรถอนหายใจพลางยกมือขึ้นกุมขมับกับความแสบของเธอ“เรียบร้อยค่ะ ฉันคิดว่าไม่น่ามีที่สำรองคลิปเอาไว้ที่ไหนแล้วไหนแล้วเพราะคงไม่คิดหรอกว่าฉันจะเปิดดู”“ที่ผ่านมาคุณไม่เคยเข้าไปเช็กเลยเหรอ” ภากรอดจะถามไม่ได้“ไม่ค่ะ ผิดที่ฉันชะล่าใจมากไปเอง ไม่คิดว่ามันจะเก็บอะไรแบ
“สวัสดีค่ะพ่อ”ภากรอึ้งไปทันทีที่รู้ว่าเธอโทรหาพ่อ“คริสมีเรื่องรบกวนพ่อนิดหน่อยค่ะ คริสอยากได้ข้อมูลการเงินของปัตถ์ค่ะ”[ลูกจะเอาข้อมูลของเขาไปทำไม]“เขาติดการพนันค่ะ”[แต่เขาก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเราแล้วนี่ หรือเขายืมเงินของลูกไป]“ไม่ใช่เงินคริสหรอกค่ะ แต่เป็นน้องที่คริสรู้จักค่ะ พ่อช่วยคริสหน่อยนะคะ สัญญาว่าจะเป็นเด็กดี”[ไปสัญญาหลอกแม่เราเถอะ]“พ่ออะ ช่วยคริสหน่อยนะคะ ถ้าพ่อไม่ช่วย คริสจะฟ้องแม่ว่าพ่อซุกเงินไว้ที่หนังสือเล่มที่ห้า ชั้นที่สอง”[จะสั่งฤทธิ์ให้แล้วกัน]“เมื่อไรคะ”[สามวัน]“สามสิบนาทีค่ะ”[ยัยคริส]“รักค่ะ จุ๊บๆ” คาริสาบอกอย่างอารมณ์ดีแล้วกดวางสาย ก่อนจะวางโทรศัพท์ทิ้งไว้บนโต๊ะแล้วหันกลับมาสนใจหน้าจอที่เธอตั้งใจจะเข้าเช็กอีเมล“อีเมลคุณ?”“ปัตถ์พงษ์ค่ะ”“แล้วคุณรู้พาสเวิร์ด”“แหงสิคะ แต่ฉันไม่ได้ข่มขู่เอาของมันมาหรอกนะคะ มันเป็นคนบอกฉันเองทั้งหมด จะเฟสบุ้ค ทวิตเตอร์หรือไอจี ฉันก็เข้าได้ทั้งนั้น”“เหอะ”“ขำอะไรคะ” คาริสาช้อนตามมองเพราะรู้สึกไม่พอใจเสียงแค่นหัวเราะของเขาสักเท่าไรนัก“ขำที่คุณรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับมัน แต่ทำไมถึงไม่รู้ว่ามันนอกใจ” ภากรอดไม่ได้ที่จะตั้งคำถา







