“คุณย่าขา... หยา... หยาไม่ต้องการความรับผิดชอบจากคุณแม็ก... คุณย่าเลิกคำสั่งเถอะนะคะ”
ปั้นหยานั่งร้องไห้อยู่กับพื้น และซบหน้าลงกับตักของคุณย่าวารี น้ำตาไหลรินอาบแก้ม
“หยา... ฟังย่านะ” คุณย่าวารียกมือขึ้นลูบศีรษะของปั้นหยาอย่างแสนเวทนา “เรื่องที่เกิดขึ้นมันทำให้หยาเสื่อมเสียเกียรติ ยังไงคุณหมอแม็กซิมัสก็ต้องรับผิดชอบด้วยการแต่งงานกับหยา”
“แต่คุณแม็กกับน้องอันเป็นคนรักกันนะคะ หยาไม่อยากถูกตราหน้าว่าแย่งคนรักของน้อง...” หล่อนสะอื้นไห้อย่างน่าเวทนา หัวใจปวดร้าวทรมานเหลือเกิน
“แม่อันน่ะ หัวหกก้นขวิดมานักต่อนักแล้ว ไม่ใช่สาวบริสุทธิ์อย่างหยานะลูก”
“แต่เขาสองคนรักกัน หยาไม่...”
“คุณหมอแม็กซิมัสควรจะได้ผู้หญิงที่ดีกว่าแม่อัน และผู้หญิงคนนั้นก็คือหยาไงลูก”
คุณย่าวารีรู้ว่าตัวเองอาจจะลำเอียงรักหลานสองคนไม่เท่ากัน แต่อันนาเป็นคนไม่ดี และจิตใจโหดร้าย หล่อนเป็นห่วงปั้นหยา
“แต่คุณแม็กเกลียดหยา...”
“คุณหมอแม็กแค่เข้าใจในตัวของหยาผิด ถ้าได้อยู่ด้วยกัน เขาจะต้องได้เห็น และได้รู้ว่าหยาเป็นเด็กดีแค่ไหน และเขาก็จะรักหยาของย่าได้ไม่ยาก”
หล่อนเคยได้ยินมากับหู ตอนที่อันนาใส่ไฟปั้นหยาให้กับแม็กซิมัส แต่หล่อนก็ได้แต่เก็บเงียบเอาไว้ในใจ
“คุณแม็กไม่ทางรักหยาได้หรอกค่ะ”
เพราะเขาขยะแขยงเกลียดชังหล่อนยังกับกิ้งกือไส้เดือน
“เชื่อย่าเถอะนะหยา ย่าอาบน้ำร้อนมาก่อน ไม่มีทางมองพลาดหรอก”
“แต่หยา... ไม่อยากทำร้ายใคร” ปั้นหยาพูดคำเดิมออกมาด้วยน้ำเสียงเจือสะอื้น
“แค่ปีเดียวนะหยา หากครบหนึ่งปีแล้วคุณหมอแม็กซิมัสยังจะขอหย่ากับหยาของย่าอยู่ ย่าก็ยินดีที่จะให้หยากับคุณหมอแม็กซิมัสหย่าขาดจากกัน”
“มันนานเกินไปค่ะคุณย่า หยากลัว...”
“ทำเพื่อย่านะหยา... แต่งงานกับคุณหมอแม็กซิมัสเถอะ เพราะหยากับคุณหมอมีความสัมพันธ์กันแล้ว”
ปั้นหยาทำได้แค่ร้องไห้ออกมาเท่านั้น เพราะรู้ดีว่าคุณย่าวารีไม่มีทางเปลี่ยนใจอีกแล้ว
“เฮ้ย เหล้านะโว้ยไม่ใช่น้ำเปล่า เบาๆ”
เคลวินเตือนเพื่อนซี้เสียงดังลั่น เพราะตกใจที่เห็นแม็กซิมัสดื่มแอลกอฮอล์หนักอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
“เครียดโว้ย”
“เรื่องอะไรของนายวะ”
เคลวินมองหน้าที่เคร่งเครียดของแม็กซิมัสด้วยความแปลกประหลาดใจ
“หรือว่าทะเลาะกับน้องอันนาคนงามมาล่ะ”
คนที่เพิ่งเทเหล้าใส่ปากไปอึกใหญ่ หันขวับมาจ้องหน้าเคลวิน ก่อนจะตอบออกมาเสียงกระด้างน่ากลัว
“ปั้นหยา”
“ปั้นหยา?” เคลวินทวนคำพูดของเพื่อน “ใช่ ญาติผู้พี่ของน้องอันนาแฟนนายหรือเปล่าวะ ที่บอกว่าจ้องจะกินนายตลอดเวลาน่ะ”
“ถูกต้อง”
“เฮ้ย... อย่าบอกนะว่านายถูกแม่นี่กินตับไปแล้ว” เคลวินเดาได้ถูกเป๋งเลยทีเดียว และนั่นก็ยิ่งสร้างริ้วรอยความเดือดดาลบนใบหน้าหล่อลากไส้ของแม็กซิมัสยิ่งขึ้น
“แม่นั่นเอายาปลุกเซ็กซ์ให้ฉันกิน แล้วก็เข้ามาอ่อยฉัน จนเกิดเรื่องน่าขยะแขยงนี้ขึ้น”
“อ้าว... แล้วน้องอันนาของนายหายไปไหนล่ะ ทำไมปล่อยให้ปั้นหยามาอ่อยนาย แล้วเอานายขึ้นเตียงได้”
“อันนาถูกเพื่อนตามออกไปนอกบ้าน ซึ่งฉันมั่นใจว่ามันก็ต้องเป็นหนึ่งในแผนการของผู้หญิงแพศยาคนนั้น”
เคลวินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ “ไม่น่าเชื่อเลยว่าผู้หญิงคนนั้นจะวางแผนได้แยบยลขนาดนี้ แล้วนายทำไงต่อ เอาเงินฟาดหัวไปใช่ไหม”
ดวงตาสีเขียวจัดที่ตอนนี้ลุกเป็นไฟของแม็กซิมัสละจากแก้วเหล้าขึ้นไปมองสบตากับเคลวิน
“ถ้าเอาเงินฟาดหัวได้ ฉันคงไม่ต้องมานั่งเครียดแบบนี้หรอก”
“ทำไมล่ะ หรือว่าแม่นั่นต้องการให้นายฟาดหล่อนซ้ำอีก”
“คุณย่าของเธอมาเห็นเข้าพอดี และบังคับให้ฉันรับผิดชอบด้วยการแต่งงาน”
“พระเจ้า! แต่งงานเลยหรือ”
เหล้าในแก้วใสถูกกรอกใส่ปากของแม็กซิมัสจนหมด เขากระแทกแก้วกับโต๊ะแรงๆ เพื่อระบายโทสะ
“ใช่ ฉันปฏิเสธไปแล้ว แต่คุณย่าไม่ยอม แถมยังขู่อีกว่าถ้าฉันไม่รับผิดชอบปั้นหยาด้วยการแต่งงาน เธอจะไม่ยอมให้ฉันไปเหยียบที่บ้านนั้นอีก แต่นายก็รู้ใช่ไหมว่าฉันรักอันนา ฉันต้องไปหาอันนาที่นั่น”
“แล้วนี่นายจะทำยังไงไอ้แม็ก” เคลวินฟังแล้วก็เครียดแทนเลยทีเดียว
“ฉันตอบตกลงไปแล้ว”
น้ำเสียงของแม็กซิมัสกระด้างน่ากลัวมากจนเคลวินยังอดขนลุกไม่ได้เลย
“อ้าว แล้วอย่างนี้น้องอันนาของนายไม่อกแตกตายหรือ”
“ฉันคุยกับอันนาแล้ว แค่ปีเดียวเท่านั้น แล้วฉันก็จะหย่ากับปั้นหยา”
“แล้วน้องอันนายอมหรือ”
“แน่นอน อันนาต้องยอม เพราะถึงแม้ฉันจะแต่งงานกับผู้หญิงแพศยาคนนั้น แต่ความสัมพันธ์ของฉันกับอันนาก็จะเหมือนเดิม เราจะยังเป็นคนรักกันไม่เปลี่ยนแปลง”
“ถ้านายทำแบบนั้น เมียตามกฎหมายของนายไม่อกแตกตายหรือไอ้แม็ก”
แม็กซิมัสหัวเราะออกมาอย่างเลือดเย็น “นั่นแหละที่ฉันต้องการ”
“นี่นายหมายความว่า...”
“ผู้หญิงคนนั้นจะได้ซาตานในตัวของฉัน หล่อนจะต้องตกนรกทั้งเป็นตลอดหนึ่งปีต่อจากนี้”
“พระเจ้า... นายคงไม่ตบตีเมียหรอกนะ” เคลวินถามย้ำเสียงตื่นตกใจ
“ไม่... ฉันไม่ใช่ผู้ชายชอบใช้กำลัง แต่ฉันมีวิธีที่ดีเยี่ยม ที่จะทำให้ผู้หญิงคนนั้นตายทั้งเป็น”
เหล้าในมือของแม็กซิมัสถูกเทหายเข้าไปในลำคอแกร่งอีกครั้งและอีกครั้ง จนเจ้าตัวหน้าแดงก่ำเพราะความเมามาย
“ฉันเห็นใจนายว่ะ ไอ้แม็ก”
“ขอบใจ แต่นายไม่ต้องมาเห็นใจฉันหรอก เพราะเกมนี้ คนที่น่าเห็นใจคือแม่นั่นต่างหาก” น้ำเสียงของแม็กซิมัสน่าสะพรึงกลัวเหลือเกิน “อ้อ แล้วนายช่วยกระจายข่าวบอกไอ้ชาร์ลกับไอ้อเล็กด้วยว่าฉันจะแต่งงาน”
“ได้ๆ เดี๋ยวฉันจัดการให้ ส่วนนายก็ทำใจร่มๆ เอาไว้นะ บางทีผู้หญิงคนนี้อาจจะเป็นคู่แท้ของนายก็ได้”
แม็กซิมัสไม่ได้โต้ตอบเพื่อนอีก นอกจากนั่งดื่มเหล้าเงียบๆ ดวงตาสีเขียวจัดเต็มไปด้วยไฟแห่งเคียดแค้นชิงชัง
คนที่กำลังนั่งร้องไห้อยู่บนเตียงนอนต้องรีบป้ายน้ำตาทิ้ง เมื่อเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือกรีดร้องขึ้น หล่อนเอื้อมมือไปหยิบเจ้าอุปกรณ์สื่อสารที่กำลังสั่นไหวขึ้นมามองหน้าจอ และก็พบว่าเป็นสายของไตรทศ รุ่นพี่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยนั่นเอง
ไตรทศเคยตามจีบหล่อน แต่หล่อนไม่ได้ตอบรับความรักของเขา เพราะตนเองแอบรักแม็กซิมัสจนหมดหัวใจ แต่กระนั้นไตรทศก็ไม่เคยที่จะละความพยายาม เขายังหมั่นที่จะโทรมาถามสารทุกข์สุกดิบของหล่อนสม่ำเสมอ
“สวัสดีค่ะพี่ไตร”
“น้องหยานอนหรือยังครับ พี่โทรมารบกวนหรือเปล่า”
น้ำเสียงของไตรทศเคร่งเครียดอย่างที่หล่อนไม่เคยได้ยินมาก่อนตั้งแต่รู้จักกับเขามา
“หยายังไม่ได้นอนค่ะ ว่าแต่พี่ไตรมีธุระสำคัญเหรอคะ”
“ครับ”
“เรื่องอะไรเอ่ย หรือว่าพี่ไตรกำลังจะแต่งงานคะ”
ปั้นหยาแซวออกไปเพราะต้องการจะปกปิดความทุกข์ของตนเองเอาไว้จากคู่สนทนา
“คนที่กำลังจะแต่งงานคือน้องหยาไม่ใช่หรือครับ”
“พี่ไตร?”
“พี่ขอโทษนะครับที่ต้องพูดออกไปตรงๆ แต่พี่... พี่เสียใจมากที่จู่ๆ น้องหยาก็จะแต่งงาน แถมน้องหยายังไม่คิดจะบอกพี่อีก”
น้ำเสียงตัดพ้อของไตรทศทำให้ปั้นหยาร้องไห้ออกมา หล่อนเดาไม่ได้ว่าใครเป็นคนบอกเรื่องนี้กับไตรทศ และก็ไม่ได้อยากรู้แม้แต่น้อย
“หยา... มีความจำเป็นค่ะพี่ไตร...”
“น้องหยาออกมาหาพี่ที่หน้ารั้วบ้านหน่อยได้ไหมครับ พี่... อยากเจอน้องหยาอีกสักครั้ง ก่อนที่น้องหยาจะมีเจ้าของ...”
“พี่ไตร... หยา...”
“ถ้าน้องหยาไม่สะดวก... ก็ไม่เป็นไรครับ งั้นพี่กลับก่อน”
“หยาสะดวกค่ะ พี่ไตรรอหยาสักครู่นะคะ”
น้ำเสียงของไตรทศเศร้าหมองมาก ทำให้ปั้นหยารู้สึกผิดเหลือเกิน
“ขอบคุณน้องหยามากนะครับ”
ปั้นหยาวางโทรศัพท์มือถือเอาไว้บนเตียง ก่อนจะรีบวิ่งออกจากห้องนอน และลงไปหาไตรทศที่หน้ารั้วบ้าน
คนตัวเล็กแก้มแดงระเรื่อ ขณะค่อยๆ กดสะโพกผายลงให้กลืนกินความเป็นชายที่ชูชันรอคอย“อ๊ะ... อ๊า... อา... อา...”“โอ้ววว... อืมมมม แน่นมาก อืม”ใบหน้าหล่อจัดของแม็กซิมัสบิดเบี้ยวด้วยความเสียวกระสัน เมื่อความเป็นชายถูกกลีบสาวอ่อนนุ่มโอบกระชับแน่นหนาเอาไว้ในทุกทิศทาง“หยา... ปั้นหยา... ยอดรัก... ได้โปรดขยับ... ได้โปรดเถอะ โอ้ววว พระเจ้า... โอ้ววว...”ปั้นหยาทำตามคำขอร้องหอบกระเส่าของแม็กซิมัสอย่างว่านอนสอนง่าย หล่อนบดบั้นท้ายกับความเป็นชายหนักๆ ด้วยจังหวะเร้าใจ ก่อนจะขยับขึ้นลงถี่ระรัว ตามความร้อนฉ่าของไฟสวาทที่ลุกโหมอยู่ภายในกาย“อ๊า... อา... อา...”“โอ้ว... เร็วอีก... ฉันจะทนไม่ไหวแล้ว โอ้ววว อืมมม...”มือใหญ่ทั้งสองข้างกุมสะโพกผายเอาไว้มั่น และช่วยให้หล่อนยกโยงตัวเองขึ้นสูง พร้อมกับดึงรั้งให้กลับลงมาหาหนักหน่วงแม็กซิมัสหน้าแดงก่ำ บิดเบี้ยวด้วยความเสียวกระสันร้อนแรง ยิ่งปั้นหยาซอยสะโพกลงมาหาด้วยจังหวะรัวระทึกเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกถึงสวรรค์ได้มากขึ้นเท่านั้น“อา... อา... คุณแม็กกก... หยา... หยาจะไม่... ไหวแล้ว อา... อ๊า...”ปั้นหยาเงยหน้าขึ้น กรีดร้องด้วยความเสียวกระสัน กายสาวสั่นเกร็ง แ
เคลวินหัวเราะออกมา “ก็งานฉันมันยุ่งมาก ปลีกตัวได้สามสี่วันก็บุญแล้ว”“เออๆ เอาที่นายสะดวกก็แล้วกัน” แม็กซิมัสตอบรับอย่างอ่อนอกอ่อนใจ ขี้เกียจจะเซ้าซี้“สรุปนายรักคุณปั้นหยาแล้วจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย”“ถูกต้อง และไม่ใช่รักเฉยๆ นะ รักมากด้วย”เคลวินหัวเราะขบขัน “ไม่อยากจะเชื่อเลยว่านายจะรักผู้หญิงที่ตัวเองบอกว่าเกลียดนักเกลียดหนาเข้าไปได้”“ก็ตอนนั้นฉันเข้าใจผิด แถมอันนาก็ยังเป่าหูใส่ร้ายปั้นหยาให้ฉันฟังทุกวัน ฉันก็ต้องเชื่อดิ”“เออ ก็ขอให้นายมีความสุขมาก มีลูกเยอะๆ เอาแบบตั้งทีมฟุตบอลได้เลยก็จะยิ่งดี”“ถ้าจะให้มีเยอะขนาดทำทีมฟุตบอลคงไม่ไหวหรอก ปั้นหยาคงไม่เห็นด้วย แต่ถ้ามีสักสี่ห้าคน เอาไว้เล่นกับลูกของนาย แล้วก็ลูกของเจ้าชาร์ลกับลูกเจ้าอเล็กน่ะพอไว้”“รอลูกไอ้ชาร์ลกับไอ้อเล็กเถอะ ฉันไม่มีหรอก” เคลวินส่ายหน้าปฏิเสธ และทำหน้าสยดสยองเมื่อคิดถึงเด็ก“เด็กๆ น่ารักนะโว้ย เมื่อก่อนฉันก็ไม่ชอบเด็ก แต่พอปั้นหยาท้อง ฉันก็รักเด็กขึ้นมากะทันหันเลยว่ะ ในมือถือตอนนี้นอกจากรูปของฉันกับปั้นหยาแล้ว ก็มีแต่รูปเด็กน่ารักๆ เต็มเครื่องไปหมดเลย ดูไหม จะอวด”“ไม่ๆๆ ฉันไม่อยากดูหรอก” เคลวินส่ายหน้าดิก“สักวันนายจ
แม็กซิมัสรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลของตนเองมาครบหนึ่งอาทิตย์แล้ว โดยมีปั้นหยาคอยเฝ้าดูแลไม่ห่างไปไหน ซึ่งก็ทำให้เขามีความสุขเหลือเกิน“คุณแม็กขา... หยาขอออกไปซื้อของใช้ที่เซเว่นใต้โรงพยาบาลสักครู่นะคะ เดี๋ยวจะรีบมาค่ะ”แม็กซิมัสอมยิ้มกับน้ำเสียงหวานฉ่ำของหญิงสาว และก็กวักมือเรียกให้หล่อนเข้ามาหา ซึ่งปั้นหยาก็ยอมเดินเข้ามาหาเขาอย่างว่านอนสอนง่าย“เดินระวังนะรู้ไหม ตอนนี้เธอไม่ใช่คนตัวเปล่าแล้ว”ปั้นหยายิ้มหน้าแดงด้วยความเอียงอาย พร้อมกับยกมือขึ้นลูบหน้าท้องของตัวเองไปมาอย่างลืมตัว“หยาจะเดินให้ระวังที่สุดค่ะ คุณแม็กอยู่คนเดียวได้นะคะ”“อยู่ได้ครับ ไปเถอะไม่ต้องรีบร้อนล่ะ”หญิงสาวก้มหน้าลงมาจูบแก้มสากที่มีไรหนวดของคนตัวโตเบาๆ อย่างแสนรัก“หยารักคุณแม็กนะคะ”มือใหญ่ของแม็กซิมัสยกขึ้นประคองดวงหน้านวลของปั้นหยาเอาไว้ ก่อนจะพรมจูบไปจนทั่ว และมาอิ่งอ้อยอยู่กับกลีบปากอิ่มหวานฉ่ำนานที่สุด“ฉันก็รักเธอ... ฉันบอกเธอไปกี่ครั้งแล้วนะ” ชายหนุ่มอมยิ้ม ดวงตาเป็นประกายระยิบระยับปั้นหยาเสหลบสายตาสีเขียวสวยอย่างเอียงอาย แต่ก็อ้อมแอ้มตอบออกไปเสียงเบา“น่าจะเกือบห้าสิบครั้งแล้วล่ะค่ะ”“โอ้พระเจ้า... นี่ฉันบ
“น้องอัน... สัญญากับพี่ได้ไหมว่าจะไม่ทำอะไรคุณแม็ก หากพี่ตายไปแล้ว”“ไม่นะปั้นหยา ฉันไม่ยอมเด็ดขาด ไม่มีวันยอมให้เธอตาย เข้าใจไหมว่าเธอตายไม่ได้!”แม็กซิมัสตะโกนมาอีกฟากหนึ่งของกำแพง เขาอยากจะเข้าไปแย่งปืนจากมือของอันนานัก แต่ก็กลัวว่ามันจะผิดพลาด แล้วปั้นหยาจะไม่ปลอดภัย จึงจำต้องนั่งนิ่งและพยายามหาทางออกอื่นให้ได้เร็วที่สุด“แค่หยารู้ว่าคุณแม็กเป็นห่วงหยา... แค่นี้หยาก็ตายตาหลับแล้วล่ะค่ะ”“ผู้หญิงบ้า! ถ้าเธอไม่หยุดพูดบ้าๆ ฉันสาบานว่าจะหยุดรักเธอเดี๋ยวนี้แหละ!”“คุณแม็ก... รักหยาเหรอคะ”อย่างน้อยๆ ก่อนตาย หล่อนก็ยังได้รู้ว่าตัวเองได้รับความรักตอบจากบุรุษที่ตัวเองแอบรักมาเนิ่นนาน“ก็ใช่น่ะสิ ฉันรักเธอปั้นหยา รักมากด้วย ดังนั้นห้ามตายเด็ดขาด นี่เป็นคำสั่งของฉัน”“หยาดีใจ... ดีใจเหลือเกิน...”“เลิกพล่ามกันได้แล้ว แล้วพี่แม็กก็เตรียมเห็นนังหยามันไร้วิญญาณได้เลย”“อย่านะ... อันนา! อย่าทำอะไรปั้นหยานะ!”อันนาหันไปยิ้มเลือดเย็นให้กับแม็กซิมัส ก่อนจะสอดนิ้วเรียวเหนี่ยวไกปืนทันทีปัง! ปัง! ปัง!ลูกปืนทั้งสามนัดดังกังวาน และพุ่งเข้าใส่คนตรงหน้าอย่างแม่นยำ แต่ผิดคน“พี่แม็ก!!!”“คุณแม็ก! กรี๊ดด
ปั้นหยาถูกอันนาตบด้วยฝ่ามือ และกระบอกปืนหลายครั้งจนเลือดไหลออกมาจากศีรษะที่แตก หน้าตาปูดบวมช้ำ โดยเฉพาะที่ปากแตกจนมีเลือดไหลซึมออกมาจากมุมปาก“น้องอัน... ปล่อยพี่เถอะ พี่ไม่เคยคิดร้ายอะไรกับน้องอันเลยนะ พี่หวังดีกับน้องอันเสมอ โอ๊ยยย... พี่เจ็บ”อันนากระชากเส้นผมนุ่มของปั้นหยาแรงๆ ก่อนจะก้มหน้าที่บิดเบี้ยวเพราะเสียสติไปแล้วลงมาหัวเราะใส่“มึงแย่งผัวกู”“พี่ก็หย่ากับคุณแม็กให้แล้วนี่จ๊ะ”“มึงคืนให้มาแต่ตัว แต่หัวใจของพี่แม็ก มึงขโมยไปแล้วไม่ยอมคืน อีพี่สารเลว!”เพียะ! ผัวะ!!!ทั้งมือทั้งหมัดของอันนาประเคนเข้าใส่ใบหน้าและร่างกายของปั้นหยาอย่างไม่ปรานี จนปั้นหยาล้มตัวงอนอนลงกับพื้นเจียนจะหมดสติสัมปชัญญะ“พี่แม็กเอาเงินมาให้กูเมื่อไหร่ กูจะระเบิดหัวมึงทันที”“น้องอัน... ปล่อยพี่ไปเถอะ แล้วน้องอันก็กลับเนื้อกลับตัวซะ โทษหนักจะได้กลายเป็นเบา”“มึงอย่ามาสอนกู!”“พี่ไม่อยากเห็นน้องอันต้องตกนรกทั้งเป็นหรอกนะ เชื่อพี่เถอะ มอบตัวกับตำรวจซะเถอะ” ปั้นหยาพยายามเตือนสติของญาติผู้น้องด้วยความห่วงใย แต่อันนาไม่สนใจที่จะรับฟัง“กูไม่ยอมแก่ตายในคุกหรอก กูจะหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน จนกว่าคดีจะหมดอายุความ แล
แม็กซิมัสถอนใจออกมาอย่างโล่งอก เมื่อสุดท้ายแล้วพวงมาลัยดอกมะลิฝีมือของตนเองก็เสร็จสมบูรณ์เสียที และถึงแม้มันจะเบี้ยวๆ เอียงๆ ไม่ค่อยสวยนัก แต่เขาก็ทำมันด้วยความตั้งใจที่สุดในชีวิต แถมมันยังเป็นงานที่ทำให้เขาเสียเลือดมากที่สุดอีกต่างหากชายหนุ่มอมยิ้มมองพวงมาลัยดอกมะลิสีขาวด้วยความภาคภูมิใจ ก่อนจะยกมันขึ้นดอมดม กลิ่นของดอกไม้ชนิดนี้หอมละมุนมาก แต่ก็ยังหอมตราตรึงใจสู้กลิ่นสาบสาวของปั้นหยาไม่ได้“เธอจะต้องปลื้มใจแน่ๆ ถ้าเห็นพวงมาลัยนี้”“คุณแม็กคะ ปลาสเตอร์ยาค่ะ”“ขอบใจ” แม็กซิมัสยื่นมือไปรับปลาสเตอร์ยาจากมือของสาวใช้ มาพันบนนิ้วที่ถูกเข็มตำ“นี่แผ่นสุดท้ายแล้วนะคะคุณหมอแม็ก”คุณย่าวารีมองนิ้วมือที่เต็มไปด้วยปลาสเตอร์ยาของแม็กซิมัสด้วยความเห็นใจระคนขบขัน“เดี๋ยวผมเบิกที่โรงพยาบาลมาคืนให้ครับ”“ไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องเอามาคืนหรอกค่ะ ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณคุณหมอที่ช่วยใช้ปลาสเตอร์ยาก่อนที่มันจะหมดอายุใช้งานน่ะ”แม็กซิมัสยิ้มอายๆ “ผมคงเป็นนักเรียนที่แย่มากๆ เลยใช่ไหมครับเนี่ย”“ถ้าเอาความจริงก็ใช่ค่ะ เพราะคุณหมอแม็กสอนยากมาก”“แต่ตอนผมเรียนผ่าตัด อาจารย์หมอชมว่าผมหัวไว เรียนรู้เร็วกว่าเพื่อน