Share

ตอนที่ 4

last update Terakhir Diperbarui: 2024-11-04 10:47:10

ปั้นหยาเดินเข้าไปคุกเข่าใกล้ๆ กับฝ่าเท้าของอันนา กำลังจะเปิดขวดน้ำยาทาเล็บอยู่แล้วเชียว แต่เสียงเครื่องยนต์คุ้นหูดังใกล้เข้ามาเสียก่อน

“เสียงรถพี่แม็กนี่”

รอยยิ้มพึงพอใจระบายเต็มใบหน้าของอันนา ก่อนที่หล่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา เมื่อคิดอะไรขึ้นมาได้

“แกขึ้นมานั่งบนเก้าอี้ เร็วเข้า”

“เอ่อ... ทำไมล่ะจ๊ะน้องอัน”

ปั้นหยาที่คุกเข่าอยู่กับพื้นเพื่อเตรียมทาเล็บเท้าให้กับอันนาช้อนตามองคนออกคำสั่งอย่างแปลกใจ

“แกไม่ต้องมาถามหรอก ทำตามที่ฉันสั่งก็พอ ขึ้นมานั่งบนเก้าอี้สิ เร็วเข้า!”

ปั้นหยาลุกขึ้นทำตามคำสั่งของอันนาทั้งๆ ที่สมองยังมึนงงไม่เปลี่ยนแปลง

“เอาขาขึ้นมาพาดไว้บนโต๊ะสิ เร็วเข้า”

“เอ่อ... พี่ใส่กระโปรงคงทำแบบนั้นไม่ได้หรอก”

ปั้นหยาไม่ได้ทำตามคำสั่งนี้ ทำให้อันนาต้องเป็นฝ่ายกระชากขาเรียวของปั้นหยาขึ้นมาด้วยตัวเอง

“น้องอัน... อุ๊ย!”

มือเล็กของปั้นหยาต้องรีบตะครุบชายกระโปรงที่ร่นขึ้นมาถึงขาอ่อนเอาไว้ทันที

“น้องอันจะทำอะไรเนี่ย ปล่อยเท้าพี่เถอะ”

“อยู่เฉยๆ เถอะน่า”

อันนาลงไปนั่งคุกเข่ากับพื้น และตั้งท่าจะทาเล็บเท้าให้กับปั้นหยา

“แต่พี่ไม่อยากทาเล็บนะน้องอัน ปล่อยขาพี่เถอะ”

สมองของปั้นหยาตามการกระทำของอันนาไม่ทัน ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ อันนาก็ทำแบบนี้ จนกระทั่งร่างสูงใหญ่เกือบร้อยเก้าสิบเซนติเมตรของแม็กซิมัสปรากฏขึ้นนั่นแหละ หล่อนถึงได้เข้าใจทุกอย่าง เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่อันนากระทำ

“พี่แม็กทำไมถึงมาเงียบๆ ล่ะคะ ไม่เห็นโทรหาอันก่อนเลย”

แม็กซิมัสมองคนรักของตัวเองที่กำลังคุกเข่าอยู่กับพื้น โดยมีฝ่าเท้าของปั้นหยาอยู่ตรงหน้าด้วยความไม่พอใจ

“อันทำอะไรครับนั่น”

“อ๋อ... พี่หยาอยากทาเล็บเท้าน่ะค่ะ อันก็เลยช่วยทาค่ะ”

“คือ...”

ปั้นหยาตั้งท่าจะอธิบาย แต่ดูเหมือนว่าแม็กซิมัสจะเชื่อคำพูดของอันนาไปแล้วทั้งหมด

“อันไม่ใช่คนใช้ของเธอ ไม่ใช่หรือปั้นหยา”

แม็กซิมัสจ้องมองหน้าไร้เครื่องสำอางของปั้นหยาเขม็ง กรามแกร่งขบกันแน่นจนเป็นสันนูนเป่ง

“เอ่อ... คือว่า...”

“พี่แม็กอย่าพูดเสียงดุกับพี่หยาสิคะ อันเต็มใจทำให้พี่หยาเองแหละค่ะ”

สายตาที่แม็กซิมัสใช้มองมาทำให้ปั้นหยาเจ็บหัวใจเหลือเกิน เพราะเขามองหล่อนด้วยความขยะแขยงและเกลียดชัง

“ขอ... ตัวค่ะ”

และหล่อนก็ไม่อาจจะทนนั่งให้เขาเข่นฆ่าทางสายตาได้อีก จำต้องรีบลุกขึ้น และเดินหนีไปอย่างรวดเร็ว

อันนาลอบยิ้มสะใจ ก่อนจะเดินมาเกาะแขนล่ำสันของแม็กซิมัสเอาไว้ พร้อมกับพูดจาประจบประแจง

“อันดีใจนะคะที่พี่แม็กรักและเป็นห่วงอันมาก แต่อันก็ไม่อยากให้พี่แม็กดุพี่หยาเลยค่ะ” หล่อนแสดงทำเป็นบีบน้ำตา เมื่อแม็กซิมัสเลื่อนสายตามามองสบตา

“ในเมื่อผู้หญิงคนนั้นทำไม่ถูก พี่ก็ต้องตักเตือนสิครับ และอีกอย่าง พี่ทนเห็นอันถูกโขกสับแบบนี้ไม่ได้”

“อันขอบคุณมากนะคะ แต่อันชินแล้วล่ะค่ะ ในเมื่ออันไม่ใช่หลานรักของคุณย่า อันก็ต้องก้มหน้ายอมรับชะตากรรมต่อไปเรื่อยๆ จนกว่า...”

“จนกว่าอะไรหรือครับ”

“จนกว่าอันจะย้ายออกไปจากที่นี่ไงล่ะคะ”

แม็กซิมัสเข้าใจความหมายของอันนาดีว่าหญิงสาวต้องการให้เขาทำอะไร ซึ่งเขาก็เต็มใจที่จะช่วยเหลือหล่อน ให้หลุดพ้นจากขุมนรกนี้เสียที

“พี่สัญญานะครับว่าปลายปีนี้จะให้ที่บ้านมาเจรจาสู่ขอน้องอัน”

“ปลายปีเลยเหรอคะ นี่เพิ่งมีนาเองนะคะ”

“พี่ก็อยากแต่งเสียวันนี้พรุ่งนี้ แต่ว่าพี่ต้องเคลียร์งานที่โรงพยาบาลให้เบาลงก่อน แล้วอีกอย่างคุณพ่อกับคุณแม่ของพี่ก็ยังไม่สะดวกเดินทางมาเมืองไทยตอนนี้ด้วย”

อันนาฝืนยิ้มให้กับแม็กซิมัส ก่อนจะซบหน้ากับแผงอกกว้างกำยำของเขา

‘บ้าจริง อันรอนานขนาดนั้นไม่ไหวหรอกนะพี่แม็ก’

เพราะหล่อนระแคะระคายมาว่ามีหมอสาวสวยที่เพิ่งย้ายมาจากลอนดอนมาตามติดแม็กซิมัส ซึ่งหล่อนเกรงว่าคนรักของตนเองจะหวั่นไหว

“อันตามใจพี่แม็กค่ะ”

“พี่ชอบที่อันว่านอนสอนง่ายแบบนี้จัง”

แม็กซิมัสยกมือขึ้นลูบหัวทุยของอันนาแผ่วเบา ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม

“ก็อันไม่อยากทำให้พี่แม็กไม่สบายใจนี่คะ” อันนาดันตัวออกห่างจากเขา และช้อนตาขึ้นมองด้วยแววตาหวานฉ่ำ

“อันรักพี่แม็กมาก อันอยากให้พี่แม็กมีความสุขที่สุดตอนที่อยู่กับอันค่ะ”

“พี่ก็รักอันครับ”

อันนากำลังจะเขย่งปลายเท้าขึ้นเพื่อจะจูบปากของแฟนหนุ่ม แต่เสียงของตกแตกดังลั่นขึ้นเสียก่อน และมันก็ทำให้อารมณ์โรแมนติกหายไปจนหมด

“ใครทำบ้าอะไรเนี่ย?!”

หล่อนตวาดลั่นอย่างลืมตัว แต่พอเห็นสายตาเคลือบแคลงที่แม็กซิมัสมองจ้องมา อันนาก็รีบปั้นยิ้ม และแก้ตัวไปข้างๆ คูๆ ซึ่งแม็กซิมัสก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร

“เอ่อ... ใครนะซุ่มซ่ามจังเลย เดี๋ยวอันขอตัวไปดูหน่อยนะคะ”

“พี่ไปด้วย”

“ค่ะ”

แม็กซิมัสก้าวตามร่างของอันนาที่เดินนำหน้าไปติดๆ ก่อนจะพบว่าเสียงดังกังวานเกิดขึ้นในห้องครัว และคนก่อให้เกิดเสียงนั้นก็คือปั้นหยานั่นเอง

เขาเห็นปั้นหยากำลังก้มหน้าก้มตาเก็บเศษแก้วบนพื้นด้วยความรีบร้อน และทันทีที่หล่อนเงยหน้าขึ้นมาเห็นเขากับอันนา นิ้วเรียวสีขาวสะอาดก็ถูกเศษแก้วบาดจนเลือดสีแดงสดไหลซึมออกมา

“แก... เอ่อ... พี่หยาทำแก้วตกแตกเหรอคะ”

“ใช่จ้ะ น้องอันพาคุณ... แม็กออกไปเถอะ เดี๋ยวจะถูกเศษแก้วบาดเอาได้”

อันนายิ้มหยันให้ ก่อนจะหันไปหาแม็กซิมัสที่ยืนอยู่ข้างๆ

“เราออกไปรอข้างนอกกันเถอะค่ะพี่แม็ก”

“อันออกไปรอพี่ที่ห้องโถงก่อนนะครับ เดี๋ยวพี่ตามไป”

“คะ?” อันนาแปลกใจมากที่แม็กซิมัสจะอยู่ต่อ

“พี่จะทำแผลให้กับปั้นหยาน่ะ นิ้วเธอถูกเศษแก้วบาด”

“ตะ... แต่มันไม่ใช่หน้าที่ของพี่แม็กเลยนะคะ แล้วอีกอย่างแผลก็นิดเดียวเอง อันว่า...”

“น้องอันไปรอพี่ข้างนอกนะครับ ไม่เกินห้านาทีพี่จะตามไป”

สีหน้าจริงจังไม่ต่างจากน้ำเสียงของแม็กซิมัส ทำให้อันนาไม่กล้าที่จะขัดใจเพราะเดี๋ยวเสียภาพพจน์ที่เพียรสร้างมาหลายปี

“ก็ได้ค่ะ พี่แม็กรีบออกมานะคะ”

“ครับ”

อันนาเดินออกไปแล้ว แม็กซิมัสก็ก้าวเข้ามาหยุดใกล้ๆ ร่างของปั้นหยา และรั้งให้หล่อนลุกขึ้นยืนด้วยการตะปบบ่าแบบบาง

“อ๊ะ...”

ร่างของปั้นหยาแทบจะปลิวติดมือของแม็กซิมัสขึ้นมาเลยทีเดียว

“ซุ่มซ่ามจริงๆ เลยนะ ปล่อยให้แก้วแตก แล้วยังไม่ระวังอีก”

ปั้นหยาดิ้นรนเพื่อให้บ่าของตัวเองหลุดพ้นจากพันธนาการของคนที่ตัวโตกว่ามาก แต่ก็ไม่เป็นผล

“ปล่อยหยาเถอะค่ะ หยาจะรีบเก็บเศษแก้ว”

“นิ้วเธอถูกบาดมองไม่เห็นหรือไง หรือว่าอยากตาย”

“แผลเล็กแค่นี้ คงไม่ทำให้หยาตายหรอกค่ะ ปล่อยหยาเถอะค่ะ”

เขาส่ายหน้าไปมา มองหล่อนด้วยแววตาสังเวช “เธอนี่มันทั้งดื้อทั้งรั้นเลยนะ ไม่เห็นเหมือนกับน้องอันเลยสักนิด”

คนที่ถูกนำไปเปรียบเทียบเต็มไปด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ และก็แทบซ่อนความรู้สึกนี้เอาไว้ในอกไม่มิด

“หยาขอโทษค่ะที่ทำตัวไม่ดีเหมือนน้องอัน ปล่อยหยาได้แล้วค่ะ”

“ไม่ จนกว่าเธอจะทำแผลเสร็จ”

เขาผลักหล่อนให้ลงนั่งบนเก้าอี้ที่อยู่ห่างจากบริเวณที่แก้วตกแตก ก่อนจะเอ่ยถามหากล่องปฐมพยาบาล

“ที่ทำแผลอยู่ไหน”

“เอ่อ... หยาทำเองได้ค่ะ ไม่รบกวนคุณแม็กดีกว่า”

“ตอบ... ที่ทำแผลอยู่ไหน”

น้ำเสียงของแม็กซิมัสดุดันมาก ทำให้ปั้นหยาไม่กล้าพอที่จะขัดคำสั่ง

“อยู่... ตรงนั้นค่ะ” หล่อนชี้ไปที่ลิ้นชักมุมห้องที่มีกล่องปฐมพยาบาลซ่อนอยู่ในนั้น

แม็กซิมัสมองหน้าหล่อนเล็กน้อยด้วยสายตาไม่เป็นมิตร ก่อนจะเดินไปหยิบสิ่งที่เขาต้องการ และเดินกลับมาในเสี้ยวนาทีต่อมา

“ฉันเป็นหมอ ดังนั้นสัญชาตญาณของฉันก็คือช่วยเหลือคนอื่น ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นใครก็ตาม หรือจะพูดให้ตรงประเด็น ต่อให้เป็นหมาเป็นแมวฉันก็ต้องช่วย”

นี่หล่อนควรจะยินดีใช่ไหมที่แม็กซิมัสช่วยเหลือทำแผลที่ปลายนิ้วให้อยู่

ทำไมนะ ผู้ชายคนนี้ถึงได้จงเกลียดจงชังหล่อนนัก หล่อนไปทำอะไรให้กัน

“เสร็จแล้ว และก็ไม่ต้องสร้างแผลเพิ่มนะ เพราะฉันไม่ว่างมากพอที่จะย้อนกลับมาทำแผลให้เธออีก”

เขาเลื่อนกล่องปฐมพยาบาลที่ภายในมียาสามัญประจำบ้านอยู่เต็มเอียดออกห่าง จากนั้นก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวที่นั่งอยู่ แต่สายตายังคงจ้องมองมา

“ระหว่างนี้ก็อย่าเพิ่งให้แผลโดนน้ำล่ะ แล้วก็หมั่นล้างแผลด้วย ถ้าไม่อยากให้แผลเน่า”

“ขอบ... คุณค่ะ”

“ไม่เป็นไร ก็อย่างที่บอกไง ต่อให้เป็นหมาเป็นแมวฉันก็ต้องยื่นมือเข้ามาช่วย เพราะฉันเป็นหมอ”

เขาพูดได้น่าฟังที่สุด

ปั้นหยาเจ็บปวดแต่ก็ยกมือไหว้เขาในที่สุด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ใส่ใจเลย เพราะหลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็เดินออกไปจากห้องครัวอย่างไม่ไยดี

หล่อนมองตามแผ่นหลังกว้างของเขาไปทั้งน้ำตา กลีบปากอวบอิ่มสั่นไหวด้วยความปวดร้าวทรมาน

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • วิวาห์ชัง   ตอนอวสาน

    คนตัวเล็กแก้มแดงระเรื่อ ขณะค่อยๆ กดสะโพกผายลงให้กลืนกินความเป็นชายที่ชูชันรอคอย“อ๊ะ... อ๊า... อา... อา...”“โอ้ววว... อืมมมม แน่นมาก อืม”ใบหน้าหล่อจัดของแม็กซิมัสบิดเบี้ยวด้วยความเสียวกระสัน เมื่อความเป็นชายถูกกลีบสาวอ่อนนุ่มโอบกระชับแน่นหนาเอาไว้ในทุกทิศทาง“หยา... ปั้นหยา... ยอดรัก... ได้โปรดขยับ... ได้โปรดเถอะ โอ้ววว พระเจ้า... โอ้ววว...”ปั้นหยาทำตามคำขอร้องหอบกระเส่าของแม็กซิมัสอย่างว่านอนสอนง่าย หล่อนบดบั้นท้ายกับความเป็นชายหนักๆ ด้วยจังหวะเร้าใจ ก่อนจะขยับขึ้นลงถี่ระรัว ตามความร้อนฉ่าของไฟสวาทที่ลุกโหมอยู่ภายในกาย“อ๊า... อา... อา...”“โอ้ว... เร็วอีก... ฉันจะทนไม่ไหวแล้ว โอ้ววว อืมมม...”มือใหญ่ทั้งสองข้างกุมสะโพกผายเอาไว้มั่น และช่วยให้หล่อนยกโยงตัวเองขึ้นสูง พร้อมกับดึงรั้งให้กลับลงมาหาหนักหน่วงแม็กซิมัสหน้าแดงก่ำ บิดเบี้ยวด้วยความเสียวกระสันร้อนแรง ยิ่งปั้นหยาซอยสะโพกลงมาหาด้วยจังหวะรัวระทึกเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกถึงสวรรค์ได้มากขึ้นเท่านั้น“อา... อา... คุณแม็กกก... หยา... หยาจะไม่... ไหวแล้ว อา... อ๊า...”ปั้นหยาเงยหน้าขึ้น กรีดร้องด้วยความเสียวกระสัน กายสาวสั่นเกร็ง แ

  • วิวาห์ชัง   ตอนที่ 54

    เคลวินหัวเราะออกมา “ก็งานฉันมันยุ่งมาก ปลีกตัวได้สามสี่วันก็บุญแล้ว”“เออๆ เอาที่นายสะดวกก็แล้วกัน” แม็กซิมัสตอบรับอย่างอ่อนอกอ่อนใจ ขี้เกียจจะเซ้าซี้“สรุปนายรักคุณปั้นหยาแล้วจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย”“ถูกต้อง และไม่ใช่รักเฉยๆ นะ รักมากด้วย”เคลวินหัวเราะขบขัน “ไม่อยากจะเชื่อเลยว่านายจะรักผู้หญิงที่ตัวเองบอกว่าเกลียดนักเกลียดหนาเข้าไปได้”“ก็ตอนนั้นฉันเข้าใจผิด แถมอันนาก็ยังเป่าหูใส่ร้ายปั้นหยาให้ฉันฟังทุกวัน ฉันก็ต้องเชื่อดิ”“เออ ก็ขอให้นายมีความสุขมาก มีลูกเยอะๆ เอาแบบตั้งทีมฟุตบอลได้เลยก็จะยิ่งดี”“ถ้าจะให้มีเยอะขนาดทำทีมฟุตบอลคงไม่ไหวหรอก ปั้นหยาคงไม่เห็นด้วย แต่ถ้ามีสักสี่ห้าคน เอาไว้เล่นกับลูกของนาย แล้วก็ลูกของเจ้าชาร์ลกับลูกเจ้าอเล็กน่ะพอไว้”“รอลูกไอ้ชาร์ลกับไอ้อเล็กเถอะ ฉันไม่มีหรอก” เคลวินส่ายหน้าปฏิเสธ และทำหน้าสยดสยองเมื่อคิดถึงเด็ก“เด็กๆ น่ารักนะโว้ย เมื่อก่อนฉันก็ไม่ชอบเด็ก แต่พอปั้นหยาท้อง ฉันก็รักเด็กขึ้นมากะทันหันเลยว่ะ ในมือถือตอนนี้นอกจากรูปของฉันกับปั้นหยาแล้ว ก็มีแต่รูปเด็กน่ารักๆ เต็มเครื่องไปหมดเลย ดูไหม จะอวด”“ไม่ๆๆ ฉันไม่อยากดูหรอก” เคลวินส่ายหน้าดิก“สักวันนายจ

  • วิวาห์ชัง   ตอนที่ 53

    แม็กซิมัสรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลของตนเองมาครบหนึ่งอาทิตย์แล้ว โดยมีปั้นหยาคอยเฝ้าดูแลไม่ห่างไปไหน ซึ่งก็ทำให้เขามีความสุขเหลือเกิน“คุณแม็กขา... หยาขอออกไปซื้อของใช้ที่เซเว่นใต้โรงพยาบาลสักครู่นะคะ เดี๋ยวจะรีบมาค่ะ”แม็กซิมัสอมยิ้มกับน้ำเสียงหวานฉ่ำของหญิงสาว และก็กวักมือเรียกให้หล่อนเข้ามาหา ซึ่งปั้นหยาก็ยอมเดินเข้ามาหาเขาอย่างว่านอนสอนง่าย“เดินระวังนะรู้ไหม ตอนนี้เธอไม่ใช่คนตัวเปล่าแล้ว”ปั้นหยายิ้มหน้าแดงด้วยความเอียงอาย พร้อมกับยกมือขึ้นลูบหน้าท้องของตัวเองไปมาอย่างลืมตัว“หยาจะเดินให้ระวังที่สุดค่ะ คุณแม็กอยู่คนเดียวได้นะคะ”“อยู่ได้ครับ ไปเถอะไม่ต้องรีบร้อนล่ะ”หญิงสาวก้มหน้าลงมาจูบแก้มสากที่มีไรหนวดของคนตัวโตเบาๆ อย่างแสนรัก“หยารักคุณแม็กนะคะ”มือใหญ่ของแม็กซิมัสยกขึ้นประคองดวงหน้านวลของปั้นหยาเอาไว้ ก่อนจะพรมจูบไปจนทั่ว และมาอิ่งอ้อยอยู่กับกลีบปากอิ่มหวานฉ่ำนานที่สุด“ฉันก็รักเธอ... ฉันบอกเธอไปกี่ครั้งแล้วนะ” ชายหนุ่มอมยิ้ม ดวงตาเป็นประกายระยิบระยับปั้นหยาเสหลบสายตาสีเขียวสวยอย่างเอียงอาย แต่ก็อ้อมแอ้มตอบออกไปเสียงเบา“น่าจะเกือบห้าสิบครั้งแล้วล่ะค่ะ”“โอ้พระเจ้า... นี่ฉันบ

  • วิวาห์ชัง   ตอนที่ 52

    “น้องอัน... สัญญากับพี่ได้ไหมว่าจะไม่ทำอะไรคุณแม็ก หากพี่ตายไปแล้ว”“ไม่นะปั้นหยา ฉันไม่ยอมเด็ดขาด ไม่มีวันยอมให้เธอตาย เข้าใจไหมว่าเธอตายไม่ได้!”แม็กซิมัสตะโกนมาอีกฟากหนึ่งของกำแพง เขาอยากจะเข้าไปแย่งปืนจากมือของอันนานัก แต่ก็กลัวว่ามันจะผิดพลาด แล้วปั้นหยาจะไม่ปลอดภัย จึงจำต้องนั่งนิ่งและพยายามหาทางออกอื่นให้ได้เร็วที่สุด“แค่หยารู้ว่าคุณแม็กเป็นห่วงหยา... แค่นี้หยาก็ตายตาหลับแล้วล่ะค่ะ”“ผู้หญิงบ้า! ถ้าเธอไม่หยุดพูดบ้าๆ ฉันสาบานว่าจะหยุดรักเธอเดี๋ยวนี้แหละ!”“คุณแม็ก... รักหยาเหรอคะ”อย่างน้อยๆ ก่อนตาย หล่อนก็ยังได้รู้ว่าตัวเองได้รับความรักตอบจากบุรุษที่ตัวเองแอบรักมาเนิ่นนาน“ก็ใช่น่ะสิ ฉันรักเธอปั้นหยา รักมากด้วย ดังนั้นห้ามตายเด็ดขาด นี่เป็นคำสั่งของฉัน”“หยาดีใจ... ดีใจเหลือเกิน...”“เลิกพล่ามกันได้แล้ว แล้วพี่แม็กก็เตรียมเห็นนังหยามันไร้วิญญาณได้เลย”“อย่านะ... อันนา! อย่าทำอะไรปั้นหยานะ!”อันนาหันไปยิ้มเลือดเย็นให้กับแม็กซิมัส ก่อนจะสอดนิ้วเรียวเหนี่ยวไกปืนทันทีปัง! ปัง! ปัง!ลูกปืนทั้งสามนัดดังกังวาน และพุ่งเข้าใส่คนตรงหน้าอย่างแม่นยำ แต่ผิดคน“พี่แม็ก!!!”“คุณแม็ก! กรี๊ดด

  • วิวาห์ชัง   ตอนที่ 51

    ปั้นหยาถูกอันนาตบด้วยฝ่ามือ และกระบอกปืนหลายครั้งจนเลือดไหลออกมาจากศีรษะที่แตก หน้าตาปูดบวมช้ำ โดยเฉพาะที่ปากแตกจนมีเลือดไหลซึมออกมาจากมุมปาก“น้องอัน... ปล่อยพี่เถอะ พี่ไม่เคยคิดร้ายอะไรกับน้องอันเลยนะ พี่หวังดีกับน้องอันเสมอ โอ๊ยยย... พี่เจ็บ”อันนากระชากเส้นผมนุ่มของปั้นหยาแรงๆ ก่อนจะก้มหน้าที่บิดเบี้ยวเพราะเสียสติไปแล้วลงมาหัวเราะใส่“มึงแย่งผัวกู”“พี่ก็หย่ากับคุณแม็กให้แล้วนี่จ๊ะ”“มึงคืนให้มาแต่ตัว แต่หัวใจของพี่แม็ก มึงขโมยไปแล้วไม่ยอมคืน อีพี่สารเลว!”เพียะ! ผัวะ!!!ทั้งมือทั้งหมัดของอันนาประเคนเข้าใส่ใบหน้าและร่างกายของปั้นหยาอย่างไม่ปรานี จนปั้นหยาล้มตัวงอนอนลงกับพื้นเจียนจะหมดสติสัมปชัญญะ“พี่แม็กเอาเงินมาให้กูเมื่อไหร่ กูจะระเบิดหัวมึงทันที”“น้องอัน... ปล่อยพี่ไปเถอะ แล้วน้องอันก็กลับเนื้อกลับตัวซะ โทษหนักจะได้กลายเป็นเบา”“มึงอย่ามาสอนกู!”“พี่ไม่อยากเห็นน้องอันต้องตกนรกทั้งเป็นหรอกนะ เชื่อพี่เถอะ มอบตัวกับตำรวจซะเถอะ” ปั้นหยาพยายามเตือนสติของญาติผู้น้องด้วยความห่วงใย แต่อันนาไม่สนใจที่จะรับฟัง“กูไม่ยอมแก่ตายในคุกหรอก กูจะหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน จนกว่าคดีจะหมดอายุความ แล

  • วิวาห์ชัง   ตอนที่ 50

    แม็กซิมัสถอนใจออกมาอย่างโล่งอก เมื่อสุดท้ายแล้วพวงมาลัยดอกมะลิฝีมือของตนเองก็เสร็จสมบูรณ์เสียที และถึงแม้มันจะเบี้ยวๆ เอียงๆ ไม่ค่อยสวยนัก แต่เขาก็ทำมันด้วยความตั้งใจที่สุดในชีวิต แถมมันยังเป็นงานที่ทำให้เขาเสียเลือดมากที่สุดอีกต่างหากชายหนุ่มอมยิ้มมองพวงมาลัยดอกมะลิสีขาวด้วยความภาคภูมิใจ ก่อนจะยกมันขึ้นดอมดม กลิ่นของดอกไม้ชนิดนี้หอมละมุนมาก แต่ก็ยังหอมตราตรึงใจสู้กลิ่นสาบสาวของปั้นหยาไม่ได้“เธอจะต้องปลื้มใจแน่ๆ ถ้าเห็นพวงมาลัยนี้”“คุณแม็กคะ ปลาสเตอร์ยาค่ะ”“ขอบใจ” แม็กซิมัสยื่นมือไปรับปลาสเตอร์ยาจากมือของสาวใช้ มาพันบนนิ้วที่ถูกเข็มตำ“นี่แผ่นสุดท้ายแล้วนะคะคุณหมอแม็ก”คุณย่าวารีมองนิ้วมือที่เต็มไปด้วยปลาสเตอร์ยาของแม็กซิมัสด้วยความเห็นใจระคนขบขัน“เดี๋ยวผมเบิกที่โรงพยาบาลมาคืนให้ครับ”“ไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องเอามาคืนหรอกค่ะ ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณคุณหมอที่ช่วยใช้ปลาสเตอร์ยาก่อนที่มันจะหมดอายุใช้งานน่ะ”แม็กซิมัสยิ้มอายๆ “ผมคงเป็นนักเรียนที่แย่มากๆ เลยใช่ไหมครับเนี่ย”“ถ้าเอาความจริงก็ใช่ค่ะ เพราะคุณหมอแม็กสอนยากมาก”“แต่ตอนผมเรียนผ่าตัด อาจารย์หมอชมว่าผมหัวไว เรียนรู้เร็วกว่าเพื่อน

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status